Share

บทที่ 1130

Author: หูเทียนเสี่ยว
ดังนั้นจึงไม่กล้าอวดดีแล้ว

จั๋วซือหรานนำคนสำนักเมฆาวารีไปที่โรงเตี๊ยม

หกคนนั้นของสำนักเมฆาวารีแบกผู้ดูแลชุยเหมือนคนดำแบกโลงศพอย่างไรอย่างนั้น...

ตอนที่ออกจากโรงเตี๊ยมไปที่ตระกูลเหอ ก็ดึงดูดความสนใจไปไม่น้อยแล้ว ตอนนี้จากจวนตระกูลเหอยังแบกคนที่เจ็บจนน่าเวทนากลับมาอีกคน จึงทำให้คนที่เห็นยิ่งรู้สึกอยากรู้อยากเห็นเข้าไปอีก

ยิ่งไปกว่านั้นยังมองออกอย่างรวดเร็วอีกว่าคนคนนั้น แม้บนตัวจะเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง แต่ก็มองออกไม่ยาก ว่าเป็นคนของสำนักเมฆาวารีเช่นกัน ยิ่งไปกว่นั้น เนื่องจากสื้อผ้าที่เหลืออยู่บางส่วนบนตัว พอมองก็รู้ว่าแตกต่างกับศิษย์ทั่วไปของสำนักเมฆาวารี

ดังนั้นจึงคาดเดาได้ไม่ยาก น่าจะเป็นคนที่มีฐานะหน่ยอในสำนักเมฆาวารี

ยังกลายมาเป็นสภาพนี้...

ถ้าบอกว่าแต่ก่อนสำนักเมฆาวารีมีชื่อเสียงมากในเมืองหยาง วันนี้ก็น่าจะถึงจุดต่ำสุดในประวัติศาสตร์แล้ว

จั๋วซือหรานไม่ได้สนใจสายตาคนรอบข้าง นางเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร

เพียงแต่ว่า ระหว่างทางที่กลับมานี้ ผู้ดูแลชุยก็ร้องอย่างน่าเวทนา ฟังแล้วทำเอารำคาญขึ้นมาเลย

พอมาถึงโรงเตี๊ยม ผู้จัดการโรงเตี๊ยมคางแทบจะห้อยลงมาแล้ว

พวกสำนักเมฆาวารีวางผู้ดูแลชุย
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
พร พระอาทิตย์
อยากรู้จะจบกี่ตอน ยาวไปเรื่อย
goodnovel comment avatar
Piyaradchanee
ไปไม่ถึงเลย ทำไม่ยืดเยื้อขนาดนี้ ตอนที่ 1 กว่าๆแล้ว เริ่มไม่สนุกล่ะ อุตสาห์ติดตามลงทุนเติมเงินลงทุนอ่านมาตั้งนาน บท พระ-นาง มีแค่ 3-4 บท จาก 1 พันกว่าตอน เซ็งเลย
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1411

    "ข้ารู้สึกว่า...น่าสนใจอยู่" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเฟิ่งหลานอารมณ์ยังดูกระวนกระวาย เดิมทีนางคิดว่าจะได้ยินคำปฏิเสธบ้างจากปากใต้เท้าคนนี้แต่จะอย่างไรก็คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้ยินคำวิจารณ์อย่าง 'น่าสนใจ' จากปากของนางนี่ทำให้อารมณ์ของนางเดิมทีที่กระวนกระวายอยู่แล้ว ยิ่งกระวนกระวายหนักขึ้นไปอีกแล้ว...มันหมายความว่าอย่างไร? ไม่มีการชี้นำอะไรเลยน่าสนใจนี่มันดีหรือไม่ดีกันแน่? ปฏิเสธหรือว่าตกลงกัน?เฟิ่งหลานชั่วขณะหนึ่งรู้สึกว่าหัวในเต้นขึ้นมาถึงคอหอยแล้วจากนั้นก็เห็นจั๋วซือหรานพยักหน้า "ได้ เช่นนั้นก็ตามมาแล้วกัน"ดวงตาของเฟิ่งหลานถลึงเบิกกว้าง ประกายในดวงตาทั้งหมดล้วนเป็นความตกตะลึงยินดี"ขอบคุณ! ขอบคุณใต้เท้า! ขอบคุณใต้เท้า!" เฟิ่งหลานรีบร้อนเอ่ยขึ้น "ข้าจะซื่อสัตย์ต่อใต้เท้าอย่างแน่นอน!"จั๋วซือหรานมองนาง "พ่อของเจ้าไม่ใช่ป่วยหนักหรือ?"เฟิ่งหลานตกตะลึง จากนั้นก็หยักหน้างึมงำ "...เจ้าค่ะ"เฟิ่งหลานเดิมทีคิดว่าจั๋วซือหรานที่เอ่ยถึงเรื่องนี้ คิดจะแสดงท่าทีว่าสนใจแค่นางนะ ไม่ได้สนใจพ่อของนางแต่พอคิดดูอีกที ก็เหมือนว่า...จะไม่ใช่อะไรแบบนั้นเพราะใต้เท้าก็ไม่ได้ปล่อยทิ้งพวกคนแก่อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1410

    ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้น "ข้าไม่ใช่ว่ารู้จัก ข้าแค่เคยได้ยินชื่อสกุลนี้ แค่คุ้นหูเท่านั้น"ปันอวิ๋นพูดต่อ มองไปทางเฟิ่งหลาน "เจ้าคือคนจากดินแดนทางใต้สินะ"เฟิ่งหลานพยักหน้าจั๋วซือหรานถามปันอวิ๋น ""นี่เป็นสกุลที่มีแค่ในดินแดนทางใต้ใช่ไหม?"ประมาณนั้น" ปันอวิ๋นพูดถึงตรงนี้ก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "ดินแดนทางใต้ไม่ใช่แค่จักรพรรดิที่มีอำนาจ มหาปุโรหิตเองก็มี ตระกูลของมหาปุโรหิตรับผิดชอบเรื่องพิธีกรรม ตำแหน่งฐานะสูงส่ง และตระกูลของมหาปุโรหิต ก็มีสกุลว่าเฟิ่ง"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็เลิกคิ้ว ว้าวคิดไม่ถึงเลย ว่าจะได้คนสำคัญแบบนี้มา"ดังนั้น เจ้าคือคนจากตระกูลของมหาปุโรหิตดินแดนทางใต้หรือ?" จั๋วซือหรานมองไปทางเฟิ่งหลานเฟิ่งหลานคิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มที่หน้าตาเย้ายวนนี่จะรู้เรื่องนี้ แต่ถึงยังไงนางก็ตั้งใจจะบอกกับจั๋วซือหรานอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีอะไรเฟิ่งหลานพยักหน้าตอบ "ใช่ ข้าคือคนจากตระกูลมหาปุโรหิต"และตอนนี้เอง ปันอวิ๋นก็พูดต่อว่า "นางไม่ใช่แค่คนของตระกูลมหาปุโรหิต แต่นางคือคนจากราชวงศ์มหาปุโรหิต"พอได้ยินคำนี้ เฟิงหลานก็ม่านตาหดลง เบิกตาโพลงมองไปทางปันอวิ๋นปันอวิ๋นยื่น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1409

    พอได้ยินคำนี้ เฟิงเหยียนก็หันมามองนาง สายตายากจะอธิบายปันอวิ๋นกับชิ่งหมิงเองก็มองนาง เหมือนเดาได้ถึงคำตอบแล้ว"คงไม่ใช่คำตอบที่ข้าคิดหรอกกระมัง?" ปันอวิ๋นถามขึ้นมาคำหนึ่งจั๋วซือหรานยิ้มพลางเดินไปด้านหน้า "ทำอะไรน่ะพวกเจ้า พวกชายหนุ่มไม่ใช่ว่าชอบไปกันหรือ? พวกเจ้านี่แปลกจริง! แล้วก็นะ กับข้าวที่นั่นมันไม่อร่อยรึไงกัน?"เฟิ่งหลานเดิมทียังไม่รู้ว่าใต้เท้าจะพานางไปที่ไหนจนกระทั่ง มองเห็นทางเข้าถนนบุปผา ได้กลิ่นหอมประทินลอยเข้ามาในอากาศนางจึงเพิ่งเข้าใจว่าเพราะอะไรสีหน้าของสามคนนี้ก่อนหน้าถึงยากจะอธิบายนักถึงยังไง...มีหญิงสาวพาชายหนุ่มมาเที่ยวในถนนบุปผาโรงคณิกาเสียที่ไหนกัน...จั๋วซือหรานเดินพาพวกเขาเข้าไปอย่างคุ้นที่คุ้นทางแม่เล้าพอเห็นนางเข้ามา ก็เหมือนเห็นตัวกาลกีณีขึ้นมาให้ตายเถอะ! ทำไมถึงได้มาอีกแล้วล่ะ!พอออกไปก็ถูกตั๋วทองโบกเข้าใส่หน้าสีหน้าที่ดูทุกข์ระทมแต่เดิมบนหน้าแม่เล้า ก็เปลี่ยนเป็นความกระตือรือร้นยินดีขึ้นมาทันที"ใต้เท้ามาอีกแล้วหรือ! ยินดีต้อนรับจริงๆ!"จั๋วซือหรานโบกมือเอ่ยขึ้น "ห้องหรูที่เงียบๆ สุราอาหารเลิศรส ส่วนที่เหลือเป็นรางวัลของเจ้า"แม่เล้าพอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1408

    เหล่าทาสอาชญากรที่ถูกล่ามด้วยโซ่เหล็กและขังอยู่ในกรงเหล็กเหล่านั้นเดิมทีก็รู้สึกสิ้นหวังมากแล้ว แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกด้านชากระทั่งยังคิดว่าคงต้องตายแน่แล้วตอนที่ได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน พวกเขาก็อดมองขึ้นมาด้วยดวงตาเป็นประกายไม่ได้ แต่ก็เป็นแค่ชั่วระยะสั้นนิดเดียวเท่านั้น และจางหายไปอย่างรวดเร็วจั๋วซือหรานกำชับเหล่านี้เสร็จ ก็จ่ายเงินแล้วออกไปคนหาข่าวคนนั้นตามอยู่ด้านหลังนาง แต่ก็เงียบมาตลอด ราวกับว่าตั้งแต่เมื่อครู่นี้ นางก็คอยสังเกตพฤติกรรมของจั๋วซือหรานอยู่ตลอดเดินห่างออกมาระยะหนึ่ง คนหาข่าวจึงถามจั๋วซือหรานขึ้นเสียงต่ำคำหนึ่ง "ทำไมท่านต้องเอาคนแก่อ่อนแอพวกนั้นไปด้วยหรือ?""อื๋อ?" จั๋วซือหรานมองนาง "เจ้าถามข้าหรือ? เจ้าคิดว่าข้าเทำไปเพราะอะไรล่ะ?"คนหาข่าวคนนี้อันที่จริงก็ไม่ค่อยแน่ใจ นางแค่รู้สึกว่า...ใต้เท้าคนนี้ แม้จะเก่งกาจ แต่ก็เหมือนว่าจะไม่ใช่คนเลวดังนั้นนางจึงตอบว่า "ข้ารู้สึกว่าใต้เท้าสงสารพวกเขา ดังนั้นจึงจะพาไปด้วยกัน"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็หัวเราะ "คิดไม่ถึงเลย ว่าภาพลักษณ์ของข้าในใจเจ้าจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้?"คนหาข่าวรู้สึกเขินหน่อยๆ ไม่พูดอะไรจั๋วซ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1407

    จั๋วซือหรานเห็นท่าทางนางเป็นแบบนี้ กลับหัวเราะขึ้นมาไม่มีความคิดจะทำอะไรนางทั้งนั้นพอหันหน้าไปก็บอกกับเฟิงเหยียนกับปันอวิ๋นว่า "ดังนั้นที่เขาอยู่ในซื่อหนาน คงไม่ใช่เพราะพวกเขามีสถานการณ์เดียวกับพวกเจ้าหรอกนะ?"เพราะถูกสภาผู้อาวุโสตามล่าหรือ?จั๋วซือหรานคาดเดาแบบนี้แต่ปันอวิ๋นกับเฟิงเหยียนกลับเผย...สีหน้าหนึ่งออกมาจั๋วซือหรานเองก็บอกไม่ถูกว่าสีหน้าแบบนี้ควรพรรณาว่าอะไรดี ถ้าพูดขึ้นมาก็น่าจะเป็นค่อนข้างดูถูกคนคนนั้นกระมังไม่สิ บางทีถ้าเทียบกับบอกว่าดูถูกคนนั้น สู้บอกว่าดูถูกตัวตนเต่าหลังวารี...ที่คนคนนั้นแบกรับอยู่ดีกว่า?จั๋วซือหรานฟังออกถึงความหมายแฝงที่อยู่ด้านใน เอ่ยขึ้นอย่างจนใจ "เจ้าสองคนคิดว่าหงส์แดงกับกู่วิญญาณเป็นของดีนักหรือไรกัน!"ถ้าเป็นของที่ดีจริง พวกเขาสองคนคงไม่ถูกจำกัดแบบตอนนี้หรอกในสภาพที่ไม่ค่อยต่างกัน ยังจะดูถูกว่ากุญแจของคนอื่นระดับสูงไม่พออีกรึ?จั๋วซือหรานเกือบจะหัวเราะออกมาเพราะโมโหสองคนนี้แล้วปันอวิ๋นหันสายตาไปทางอื่นเฟิงเหยียนกระแอมออกมาเบาๆ พูดเลี่ยงไปเรื่องอื่นว่า "เขารู้ว่าเราอยู่ที่นี่ ถ้าไม่หนี ก็คงจะมาหาพวกเราเอง บางทีอาจจะแอบสังเกตอยู

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1406

    จั๋วซือหรานยื่นมือไปทางเฟิงเหยียนเฟิงเหยียนก็วางกระบี่ประจำตระกูลเข้ามาในมือนางอย่างรู้กันกระบี่รูปร่างโบราณถูกนางกุมไว้ในมือ นางหันด้ามกระบี่ไปยังคนผู้นี้คนผู้นี้ขมวดคิ้ว ไม่ขยับตัวไปพักหนึ่งครู่หนึ่งจึงยื่นมือออกมา วางลงไปบนด้ามกระบี่เล่มนี้ชักไม่ออกเลย เขาออกแรงจริงเล็กน้อย!ซี๊ด...ฝ่ามือมีความเจ็บปวดจากการแผดเผาอย่างรุนแรงเขาค่อยๆ ลดมือลงเงียบๆ พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า "ดึงไม่ออก ข้ายอมแพ้ ขอตัวก่อน"เขาหมุนตัวจะเดินไปพวกจั๋วซือหรานเองก็ไม่คิดจะไล่ตามจวงชิ่งหมิงเอ่ยขึ้นคำหนึ่ง "กระบี่เล่มนั้นของเขา น่าสนใจอยู่นะ"จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "กระบี่ประจำตระกูลเล่มหนึ่งน่ะ ต้องน่าสนใจอยู่แล้ว" มุมปากนางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มอันที่จริงก่อนหน้านี้นางมองไกลๆ ก็รู้สึกว่ากระบี่เล่มนั้นไม่ธรรมดาเลยแต่เฟิงเหยียนปันอวิ๋นกับชิ่งหมิงเหมือนไม่สังเกตเห็นอะไรเลย นางจึงรู้สึกแค่ว่าตนเองเข้าใจผิดไปจึงอยากจะเข้ามาดูเสียหน่อยจากนั้นตอนที่ชักกระบี่ นางดึงมันออกมา กลิ่นอายที่ทะลักออกมาจากในฝักกระบี่นั่น พวกเขาต้องสังเกตเห็นแล้วแน่ๆกระบี่เล่มนั้นกับกระบี่ประจำตระกูลของเฟิงเหยียนน่าจะเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status