ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น

ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น

last updateLast Updated : 2025-09-04
By:  มี่เยี่ยนUpdated just now
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
Not enough ratings
8Chapters
26views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

เขาเป็นอ๋องอ้วนอัปลักษณ์ ซ้ำยังว่างงาน ส่วนนางเป็นบุตรสาวที่ถูกฮูหยินใหม่ของบิดากลั้นแกล้งจนต้องหนีมาอยู่ชนบท เนื่องจากยศฐาและเงินทองที่มีไม่อาจเหนี่ยวรั้งคนรักไว้ได้ "โซ่วอ๋อง ฉู่ชิงเฟิง" หอบสารร่างอ้วนใหญ่หนีความช้ำใจจนพลัดตกน้ำ อเนจอนาถอย่างยิ่ง ทว่าเหมือนเขายังไม่หมดบุญ เขาได้ "หลินเสี่ยวหร่าน" บุตรสาวของขุนนางใหญ่ที่กำลังตกยากช่วยเหลือเอาไว้ นางดูแลเขาเป็นอย่างดีในฐานะของ "อาเปา" ชายหนุ่มร่างอ้วนความจำเสื่อม ทว่าเวลาผ่านไป หลินเสี่ยวหร่านกลับค้นพบความพิเศษที่ชายหนุ่มเก็บงำประกายเอาไว้ ทั้งความรู้ ความสามารถ ยังไม่นับรูปร่างหน้าตาที่เปลี่ยนไปราวคนละคนนั้นอีก "ให้ตายสิ นี่อาเปาดูดีแบบนี้ตั้งแต่เมื่อใดกันนะ"

View More

Chapter 1

ตอนที่1 คงไม่มีอะไรงดงามและหวานล้ำยิ่งกว่า

คงไม่มีอะไรงดงามและหวานล้ำยิ่งกว่า การได้ยืนกอบกุมมือหญิงงามท่ามกลางมวลดอกไม้ป่าภายใต้แสงสีเงินยวงของจันทราในคืนเพ็ญ แต่มิใช่กับ โซ่วอ๋อง ฉู่ชิงเฟิง ที่ลงความเห็นว่าภาพเบื้องหน้าช่างบาดตาบาดใจเหลือเกิน เพราะมือของสตรีในดวงใจ ที่เขาเพิ่งจะส่งแม่สื่อไปสู่ขอได้ไม่นานอย่าง หลินผู่ซิน บัดนี้กำลังถูกบุรุษน่าตายผู้หนึ่งกอบกุมเอาไว้

แม้ทางตระกูลหลินจะยังมิได้ให้คำตอบ แต่เขามีบรรดาศักดิ์เป็นถึงโซ่วอ๋อง ไหนเลยอัครเสนาบดีจะกล้าปฏิเสธ พอคิดว่าคู่หมายในอนาคตกำลังถูกชายอื่นล่วงเกินอยู่ เขาก็เกือบจะพุ่งเข้าไปจัดการกับไอ้คนไม่เจียมตัวพรรค์นั้นอยู่แล้ว ทว่าชายผู้นั้นกลับถามคำถามที่เขาเองก็อยากรู้อยู่พอดีขึ้นมาเสียก่อน

“เจ้าจะแต่งงานกับโซ่วอ๋องจริงรึ”

‘ถามโง่ๆ มันก็ต้องแน่อยู่แล้ว ใครจะปฏิเสธบุรุษเพียบพร้อมอย่างข้าได้’ ฉู่ชิงเฟิงตอบโต้บุรุษที่ยืนหันหลังอยู่ในใจ แต่ทันใดนั้นหลินผู่ซินก็หัวเราะออกมา

“จริงอยู่ที่โซ่วอ๋องส่งแม่สื่อมาที่จวน แต่ว่าบิดาข้าไม่มีทางตอบตกลงเป็นแน่เพคะ”

“เจ้าแน่ใจได้อย่างไร บางทีบิดาเจ้าอาจจะยังใคร่ครวญอะไรบางอย่างไม่เสร็จก็ได้”

“ใคร่ครวญอย่างนั้นรึ อย่าว่าแต่ท่านพ่อเลย แม้แต่ข้ายังโมโหแทบตาย ไม่รู้ว่าคนอ้วนอัปลักษณ์อย่างฉู่ชิงเฟิงเอาความมั่นใจมากมายมาจากที่ใด ถึงได้กล้าส่งแม่สื่อมาสู่ขอข้า เขาจะรู้หรือไม่ว่า แค่นึกถึงใบหน้าอวบอ้วนกับกลิ่นกายเหม็นสาบของเขา ข้าก็แทบจะสำรอกออกมาแล้ว”

ชายผู้นั้นแกล้งดุกลบเกลื่อนน้ำเสียงกลั้วหัวเราะเยาะหยัน “ประเดี๋ยวเถอะ นี่เจ้ากำลังพูดถึงท่านอ๋องอยู่เชียวนะ ไม่กลัวถูกลงโทษบ้างหรือไร”

“เขาเป็นอ๋อง แล้วท่านมิใช่อ๋องหรือไร อย่าบอกนะว่าท่านจะลงโทษข้าแทนพี่ชายตัวเอง” หลินผู่ซินเอียงศีรษะ หัวเราะเสียงใสน่ารักราวกับกำลังพูดเรื่องน่ารื่นรมย์อยู่ ไม่ใช่กำลังวิพากษ์วิจารณ์เชื้อพระวงศ์ผู้หนึ่งอย่างไม่เกรงอาญา

ฉู่ชิงเฟิงกำหมัดแน่น ที่แท้ผู้ชายคนนั้นคือหนึ่งในน้องชายของเขานี่เอง มิน่าน้ำเสียงถึงได้ฟังดูคุ้นหูนัก

“เปล่าเสียหน่อย เปิ่นหวางแค่เป็นห่วงเจ้าก็เท่านั้น”

“ขอบคุณท่านอ๋องที่เป็นห่วง แต่ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย และคงไม่ได้มีเพียงผู่ซินที่คิดเช่นนี้ มีสตรีคนใดบ้างอยากตกนรกทั้งเป็น เพราะต้องอยู่กับบุรุษอัปลักษณ์ ไร้ความสามารถอย่างโซ่วอ๋องไปตลอดชีวิตบ้าง” กล่าวจบพลันได้ยินเสียงสะอื้นแผ่วแว่วมา ชวนให้คู่สนทนาหัวใจปวดหนึบยิ่ง

“โถ ผู่ซินของเปิ่นหวางช่างน่าสงสารจริงๆ”

“ถ้าท่านอ๋องสงสารข้าอย่างที่พูด ก็รีบจัดการเรื่องหมั้นหมายของเราให้เรียบร้อยเถิด พอถึงตอนนั้นโซ่วอ๋องคงเข้าใจได้เองว่า ข้ากับเขามิได้คู่ควรกัน”

“เปิ่นหวางสัญญาว่าจะรีบจัดการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด แต่ว่าก็ยังไม่อยากมีปัญหากับเขา เพราะอาจจะเสียการใหญ่ได้ ผู่ซิน เจ้าอดทนอีกนิดได้หรือไม่”

“เพื่อเป้าหมายของท่านอ๋อง ผู่ซินอดทนได้เพคะ”

ทุกการกระทำ ทุกคำพูดของหลินผู่ซินกลายเป็นศรอาบยาพิษพุ่งตรงเข้ากลางใจฉู่ชิงเฟิง ตลอดเวลาที่ผ่านมา นางเป็นคนเดียวที่เวลาเจอเขาก็ส่งยิ้มงดงามให้ ไม่เคยแสดงท่าทีว่ารังเกียจเขาเหมือนกับคุณหนูคนอื่นๆ ด้วยเหตุนี้นางจึงเหมือนเทพธิดาในใจเขาเสมอมา ทว่าวันนี้เขาได้รู้ซึ้งแล้วว่าสิ่งที่เห็นทั้งหมดเป็นเพียงภาพลวงตา จริงๆ แล้วนางแค่อยากทำตัวเป็นสตรีจิตใจสูงส่งต่อหน้าผู้อื่นเท่านั้น แต่ที่แท้นางมองเขาเป็นเพียงชายอ้วนอัปลักษณ์ ทั้งยังรังเกียจเสียจนแทบจะอาเจียนออกมาเลยทีเดียว

ฉู่ชิงเฟิงเสียใจจนไม่อยากรู้อีกต่อไปแล้วว่า บุรุษที่อยู่กับหลินผู่ซินเป็นพี่น้องของเขาคนไหน รู้แต่เพียงว่าตอนนี้ตนอยากจะหนีไปให้ไกลจากตรงนี้ให้มากที่สุด

ร่างตุ้มตุ้ยพลันหันหลังกลับ แล้ววิ่งเตลิดไปในป่าอย่างไร้จุดหมาย พลางนึกโต้แย้งคำหยามเหยียดของหลินผู่ซินทั้งน้ำตาไปด้วย

‘ถึงข้าจะรูปร่างไม่ดีเท่าพี่น้อง แต่เรื่องความสามารถ มีสิ่งใดที่ข้าด้อยกว่าพวกเขา ทั้งโคลงกลอน เขียนอักษร หลักการบริหารบ้านเมือง ไหนจะผีมือยิงธนู อาจารย์ล้วนชมว่าข้านั้นเก่งกาจยิ่ง หลินผู่ซินเจ้าน่ะสบประมาทข้าเกินไปแล้ว’

ด้วยปกติฉู่ชิงเฟิงเป็นคนพิสมัยการกิน ทั้งยังชอบอ่านตำรา ฝึกเขียนพู่กันอยู่ในห้องหนังสือมากกว่าฝึกฝนร่างกาย เลยทำให้เขามีรูปร่างอ้วนท้วน ดังนั้นการที่ต้องวิ่งแบกน้ำหนักเกือบหนึ่งร้อยชั่ง[1] เป็นเรื่องยากลำบาก เขาวิ่งไปได้สักพักก็สะดุดขาตัวเองล้มลงข้างธารน้ำตก ชายหนุ่มที่บอบช้ำทั้งกายใจพยายามกลั้นเสียงร้อง แต่ยิ่งกลั้นก็ยิ่งสะอึกสะอื้น น้ำหูน้ำตาไหลย้อยปะปนกับน้ำมูกจนใบหน้าอ้วนกลมเลอะเทอะดูไม่ได้

“ฮือๆ เง็กเซียนฮ่องเต้ แม้แต่เทพธิดาผู่ซินที่ท่านส่งมาก็รังเกียจข้า ในเมื่อไม่มีใครรักและจริงใจ แล้วแบบนี้ข้าจะมีชีวิตต่อไปเพื่ออะไรกันเล่า” ฉู่ชิงเฟิงฟุบหน้าลงกับพื้นดิน พลางร่ำร้องตัดพ้อสวรรค์อยู่เป็นนาน และดูเหมือนเง็กเซียนฮ่องเต้อาจจะเห็นแก่คำขอของเขา เลยบันดาลให้เป็นไปตามคำพูด...

เนื่องจากตลิ่งตรงนี้ถูกน้ำกัดเซาะจนดินอ่อน ประกอบกับน้ำหนักมหาศาลของฉู่ชิงเฟิง ฉับพลันพื้นดินบริเวณที่ร่างอวบอ้วนฟุบอยู่ทรุดลงอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

ตูม!

แม้เสียงดินและคนตัวหนักกว่าร้อยชั่งตกลงไปในน้ำดังสนั่นปานใด ทว่าสุดท้ายกลับเลือนหายไปพร้อมกับเงาร่างของโซ่วอ๋องโดยไม่มีผู้ใดสังเกตหรือได้ยิน

[1] หนึ่งชั่ง มีค่าเท่ากับ 1.2 กิโลกรัม ดังนั้น 100 ชั่ง จึงมีค่าเท่ากับ 120 กิโลกรัม

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
8 Chapters
ตอนที่1 คงไม่มีอะไรงดงามและหวานล้ำยิ่งกว่า
คงไม่มีอะไรงดงามและหวานล้ำยิ่งกว่า การได้ยืนกอบกุมมือหญิงงามท่ามกลางมวลดอกไม้ป่าภายใต้แสงสีเงินยวงของจันทราในคืนเพ็ญ แต่มิใช่กับ โซ่วอ๋อง ฉู่ชิงเฟิง ที่ลงความเห็นว่าภาพเบื้องหน้าช่างบาดตาบาดใจเหลือเกิน เพราะมือของสตรีในดวงใจ ที่เขาเพิ่งจะส่งแม่สื่อไปสู่ขอได้ไม่นานอย่าง หลินผู่ซิน บัดนี้กำลังถูกบุรุษน่าตายผู้หนึ่งกอบกุมเอาไว้แม้ทางตระกูลหลินจะยังมิได้ให้คำตอบ แต่เขามีบรรดาศักดิ์เป็นถึงโซ่วอ๋อง ไหนเลยอัครเสนาบดีจะกล้าปฏิเสธ พอคิดว่าคู่หมายในอนาคตกำลังถูกชายอื่นล่วงเกินอยู่ เขาก็เกือบจะพุ่งเข้าไปจัดการกับไอ้คนไม่เจียมตัวพรรค์นั้นอยู่แล้ว ทว่าชายผู้นั้นกลับถามคำถามที่เขาเองก็อยากรู้อยู่พอดีขึ้นมาเสียก่อน“เจ้าจะแต่งงานกับโซ่วอ๋องจริงรึ”‘ถามโง่ๆ มันก็ต้องแน่อยู่แล้ว ใครจะปฏิเสธบุรุษเพียบพร้อมอย่างข้าได้’ ฉู่ชิงเฟิงตอบโต้บุรุษที่ยืนหันหลังอยู่ในใจ แต่ทันใดนั้นหลินผู่ซินก็หัวเราะออกมา“จริงอยู่ที่โซ่วอ๋องส่งแม่สื่อมาที่จวน แต่ว่าบิดาข้าไม่มีทางตอบตกลงเป็นแน่เพคะ”“เจ้าแน่ใจได้อย่างไร บางทีบิดาเจ้าอาจจะยังใคร่ครวญอะไรบางอย่างไม่เสร็จก็ได้”“ใคร่ครวญอย่างนั้นรึ อย่าว่าแต่ท่านพ่อเลย แม้แต่ข้า
last updateLast Updated : 2025-08-31
Read more
ตอนที่2 ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้น
ครั้นรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของแสงแดดที่กระทบใบหน้า ฉู่ชิงเฟิงจึงค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้น เขามองขื่อคานไล่ลงมาจนถึงผนังห้อง พยายามตั้งสติ ไล่เรียงความจำว่าเกิดอะไรขึ้น และตอนนี้เขาอยู่ที่ใดกันแน่‘จริงสิ ข้าพลัดตกน้ำไป’ฉู่ชิงเฟิงยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้ราวกับมันเพิ่งเกิดขึ้น เพราะพอถึงคราวที่ต้องตกอยู่ในอันตรายเข้าจริงๆ เขาถึงได้ตระหนักว่าตนเองรักชีวิตมากเพียงใด เลยพยายามตะเกียกตะกายขึ้นมาหายใจเหนือน้ำ แต่สายธารไหลเชี่ยว ทั้งยังมีแก่งหินสลับซับซ้อน ยามนั้นร่างเขากระแทกกับโขดหินจนเจ็บร้าวไปหมด และสุดท้ายผ้าไหมที่อุ้มน้ำกับน้ำหนักตัวมหาศาลก็ทำให้แรงฮึดเฮือกสุดท้ายนั้นไร้ประโยชน์ขณะที่กำลังจมดิ่งลงใต้พื้นน้ำอันหนาวเหน็บ เขาจึงอ้อนวอนต่อสวรรค์เป็นครั้งสุดท้าย‘ตั้งแต่เกิดมา หากไม่นับเรื่องที่ตัดพ้อสวรรค์เมื่อครู่ ข้าฉู่ชิงเฟิงไม่เคยอ้อนวอนขอสิ่งใดจากทวยเทพมาก่อน หากสวรรค์เห็นแก่คุณงามความดีที่ข้าเคยทำต่อราษฎร ก็ขอให้ชาติหน้าข้าไม่อ้วนอัปลักษณ์ ได้พบกับสตรีที่ทั้งงดงาม ทั้งจริงใจ ไม่เสแสร้งแกล้งทำดี แต่แท้ที่จริงเห็นข้าเป็นเพียงคนโง่งมคนหนึ่งด้วยเถิด”เขาคิดถึงคำขอสุดท้ายของตัวเอง แล้วพยายามป
last updateLast Updated : 2025-08-31
Read more
ตอนที่3 ไม่คิดถือสา
หลินเสี่ยวหรานเห็นใบหน้าอ้วนกลมเต็มไปด้วยความสับสนว้าวุ่น คล้ายไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นใคร นางก็เกิดสงสารเขาขึ้นมาอีก จึงไม่คิดถือสาหาความเรื่องเมื่อครู่“ข้าพบเจ้านอนหมดสติอยู่ที่ริมลำธาร ข้าไม่อาจทนเห็นคนตายไปต่อหน้าต่อตาได้ จึงให้ความช่วยเหลือ พาเจ้ามาพักฟื้นที่นี่”“ที่แท้ข้าก็ยังไม่ตาย” ฉู่ชิงเฟิงพึมพำกับตัวเอง ใจหนึ่งก็ดีใจ แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกเสียดายที่เรื่องตายแล้วเกิดใหม่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง แสดงว่าตอนนี้เขายังคงเป็นอ๋องอ้วนอัปลักษณ์ที่ถูกผู้คนดูแคลนรูปร่างหน้าตาอยู่เช่นเดิม “เจ้านอนอยู่อย่างนั้นหลายวันคงจะหิวแย่ รีบกินเถอะ” หลินเสี่ยวหรานนั่งลงอีกครั้ง แล้วทำท่าจะป้อนโจ๊กเขาต่อ“ใจคอเจ้าจะยังจะเอาโจ๊กรสชาติห่วยแตกชามนั้นมาให้ข้ากินอีกหรือ”“ข้าไม่ได้จะกลั่นแกล้งคนตกทุกข์ได้ยากดอกนะ แต่ท่านหมอสั่งเอาไว้ว่า หากเจ้าฟื้นขึ้นมาเมื่อไร ให้เอาแค่โจ๊กธรรมดาไม่ปรุงรสใดๆ มาให้ก่อน ไม่อย่างนั้นร่างกายที่ไม่ได้กินอาหารมาแล้วหลายวันจะรับไม่ไหว”“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เองหรอกรึ” ฉู่ชิงเฟิงพึมพำหลินเสี่ยวหรานได้ยินก็พยักหน้า ก่อนตักโจ๊กมาเป่าแล้วยื่นไปที่ปากของเขาใหม่เมื่อทราบเหตุผลที่แท
last updateLast Updated : 2025-08-31
Read more
ตอนที่4 อึ้งไปเลยสินะ
“ว่ายังไงล่ะ อึ้งไปเลยสินะ ทีนี้ยังคิดอยู่อีกหรือไม่ว่าพวกข้าจะขโมยของของเจ้า” หลินอ้ายยืดอกกล่าวอย่างสาแก่ใจที่เห็นคนอึ้งจนพูดไม่ออก“ขออภัยคุณหนูหลินด้วยที่ข้าเสียมารยาท” ฉู่ชิงเฟิงยอมอ่อนข้อให้หลินอ้าย เพราะหากเขาต้องการหายตัวไปสักพัก การซ่อนตัวอยู่กับหลินเสี่ยวหรานน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด เพราะหากเขาต้องการกลับคืนสู่ฐานะ ก็สามารถแสดงตัวเพื่อแจ้งข่าวกับทางการได้โดยง่าย ทั้งยังไม่ต้องไปเสี่ยงอันตรายข้างนอก“ไม่เป็นไร ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้ตั้งใจจะหมายความเยี่ยงนั้นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว” หลินเสี่ยวหรานยิ้มตอบ ท่าท่างเข้าอกเข้าใจของนางทำให้ฉู่ชิงเฟิงนึกอยากรู้จักบุตรสาวคนนี้ของอัครเสนาบดีขึ้นอีกหลายเท่า“ข้าได้รับรู้ถึงจิตใจอันกว้างขวางของคุณหนูหลินแล้ว รับรองว่าบุญคุณครั้งนี้ข้าจะไม่ลืมเลย และจะตอบแทนคุณหนูอย่างดีแน่นอน” ฉู่ชิงเฟิงพูดจากใจจริง“เรื่องตอบแทนบุญคุณอะไรนั่น ไว้เจ้ารักษาตัวจนหายดีแล้วค่อยว่ากัน แต่ตอนนี้เจ้าต้องพักผ่อนก่อน”“ได้ ข้าจะพักผ่อนเยอะๆ จะได้หายไวๆ” พูดจบฉู่ชิงเฟิงก็หลับตาลงอย่างว่าง่ายหลินเสี่ยวหรานยื่นชามโจ๊กที่ว่างเปล่าให้หลินอ้าย เสร็จแล้วนางก็ลุกขึ้นเดินออกจาก
last updateLast Updated : 2025-08-31
Read more
ตอนที่5 หลายวันต่อมา
หลายวันต่อมาแม้ไม่ต้องการให้คนเห็นว่าตนเองอยู่ที่นี่มากแค่ไหน แต่ฉู่ชิงเฟิงเริ่มเบื่อหน่ายที่จะต้องอยู่เพียงในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ จึงตัดสินใจออกไปข้างนอกเป็นครั้งแรก แล้วเขาก็ต้องแปลกใจที่จวนนอกเมืองของอัครเสนาบดีหลินนั้นเล็กเกินกว่าจะเรียกว่าคฤหาสน์ เพราะมันเป็นเพียงเรือนสี่ประสาน ซึ่งจัดสวนแบบธรรมดาไว้ตรงกลางเท่านั้นหากว่ากันด้วยฐานะแล้ว จวนของใต้เท้าหลินควรจะใหญ่โตและสวยงามกว่านี้อีกสักหน่อย แบบนี้มันใช่สถานที่ที่ควรส่งลูกสาวที่บอบบางและงดงามขนาดนั้นมารักษาตัวหรือ“หยุดนะ! เจ้ามาทำอะไรอยู่ตรงนี้” เสียงของหลินอ้ายดังมาทางด้านหลัง ฉู่ชิงเฟิงได้ยินก็หันกลับไปมอง“ข้าไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”“โกหก เห็นอยู่ว่าเจ้ากำลังจะเข้าไปในเรือนของคุณหนู”“ข้าแค่ออกมาเดินยืดเส้นยืดสาย และก็ไม่ได้อยากจะเข้าไปในเรือนผู้อื่นสักหน่อย” ฉู่ชิงเฟิงปฏิเสธ เรือนเล็กออกปานนี้ เดินไม่เท่าไรก็ทั่วแล้ว และเขาก็มีมารยาทพอที่จะไม่เข้าเรือนหลังอื่นที่ไม่ใช่ที่พักของตนเองสุ่มสี่สุ่มห้า“ปากแข็ง หากข้ามาช้ากว่านี้อีกก้าวเดียว เจ้าคงเดินเข้าไปแล้ว”“นั่นเป็นเพียงการคาดเดาของเจ้าผู้เดียว ข้าจะหาเรื่องถูกไล่ออกจากที่นี่
last updateLast Updated : 2025-08-31
Read more
ตอนที่6 ข้าก็ยินดีจะตั้งให้
หลินเสี่ยวหรานให้ฉู่ชิงเฟิงตามนางไปที่โต๊ะหินใต้ต้นอิงฮวา แล้วเชิญให้เขานั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม จากนั้นไม่นานอาโต๋วก็ไปตามลุงชุนมาสมทบ ครั้นทุกคนภายในบ้านอยู่รวมกันครบแล้ว หลินเสี่ยวหรานถึงได้เริ่มบทสนทนา“ก่อนหน้าเป็นเพราะเจ้าป่วยอยู่ ข้าจึงมิได้พูดคุยอะไรด้วยแบบเป็นเรื่องเป็นราว แต่บัดนี้ร่างกายของเจ้าแข็งแรงสมบูรณ์ดีแล้ว ข้าเห็นว่าสมควรแก่เวลาที่เราจะต้องพูดคุยกันเสียที ถึงแม้เจ้าจะยังจำอะไรไม่ได้ก็ตาม”“คุณหนูหลินมีเรื่องอันใดก็บอกกล่าวมาได้เลย” ใบหน้าอ้วนกลมของฉู่ชิงเฟิงดูจริงจังขึ้นสามส่วน“แต่ก่อนที่จะคุยอะไรกัน ข้าคิดว่าเจ้าควรหาชื่อให้ตนเองก่อน จะได้เรียกขานกันได้ถูก”“นั่นสินะ” ฉู่ชิงเฟิงไม่ได้คิดเรื่องนี้มาก่อน พอถูกถามก็นึกไม่ทันอยู่บ้าง เพราะในหัวมีคำมงคลมากมายลอยวนอยู่ในนั้น แต่ก็ยังหาชื่อที่ความหมายดี และถูกใจตนเองไม่ได้ทว่าคนที่รอฟังคำตอบมิได้มีใจอยากคอยเขาประดิษฐ์คำสักเท่าใด“หากเจ้ายังนึกไม่ออก ข้าก็ยินดีจะตั้งให้” หลินเสี่ยวหรานยิ้มกล่าว ท่าทางเต็มอกเต็มใจฉู่ชิงเฟิงหันไปสบตาของหลินเสี่ยวหรานที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ กอปรกับเขายังคิดไม่ออกเหมือนกันว่าควรใช้ช
last updateLast Updated : 2025-09-04
Read more
ตอนที่7 ถ้าเป็นเรื่องนั้น
ปัง ปัง ปัง!ฉู่ชิงเฟิงกระเด้งตัวขึ้นจากที่นอน เพราะตกใจเสียงเคาะประตู ครั้นหันมองไปรอบกาย ก็พบว่าตอนนี้ฟ้ายังไม่สาง แต่อาโต๋วกลับมาเรียกคน ถึงจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายช่างเสียมารยาทยิ่ง แต่เขาก็รีบลุกจากที่นอน เดินแบกพุงพลุ้ยๆ ของตนเองไปเปิดประตูในที่สุด“เจ้ามาเคาะประตูเรียกข้าด้วยเหตุอันใด” ฉู่ชิงเฟิงถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติมากที่สุด“นี่อาการเจ้าหนักมาก กระทั่งเมื่อวานคุยอะไรไว้กับคุณหนูก็ลืมไปหมดแล้ว?” อาโต๋วไม่ได้ตอบ แต่เลือกที่จะถามเขากลับ“ถ้าเป็นเรื่องนั้น ข้าย่อมจำได้”“ถ้าเจ้าจำได้ทำไมถึงมัวแต่นอนอยู่เล่า ปล่อยให้ข้าเคาะประตูเรียกเสียนาน”ฉู่ชิงเฟิงย่นคิ้ว พลางหันไปมองท้องฟ้าที่มืดอยู่ “ข้ามิได้ตื่นสายเสียหน่อย ฟ้ายังไม่ทันสางเลย”“แล้วเจ้าจะรอให้ตะวันโผล่พ้นยอดไผ่ก่อนหรือไงถึงค่อยทำงาน”“มันก็ควรเป็นเช่นนั้นไม่ใช่หรือ”อาโต๋วส่ายหัวไปมา เขารู้สึกว่าคุณหนูของตนไม่ได้หาคนมาช่วยงาน แต่จะเพิ่มภาระให้เขามากกว่า “คุณหนูหนอคุณหนู ดูก็รู้ว่าเจ้าคงทำอะไรไม่เป็นยังจะยื่นข้อเสนอแบบนั้นอีก ไล่ๆ ไปเสียก็หมดเรื่องแล้ว”ฉู่ชิงเฟิงได้ยินดังนั้นก็ร้อนใจขึ้นมา ขืนอาโต๋วไปบอกว่าเขาไม่ยอมทำงาน ตนเ
last updateLast Updated : 2025-09-04
Read more
ตอนที่7 ไม่อยากเชื่อ
ฉู่ชิงเฟิงมองอาหารของตนเองสลับกับของอาโต๋วอย่างไม่อยากเชื่อ“ให้ตายสิ ทำไมของเจ้ามีเนื้อด้วย แต่ทำไมของข้า...ของข้ามีแค่ผักเล่า” เขาใช้ตะเกียบเขี่ยข้าวฟ่างหุงสุกกับผักในชามไปมา หวังว่าจะพบเนื้อหมูสักชิ้น ทว่าความจริงยังคงโหดร้ายเช่นเดิม“มีให้กินก็ดีแล้ว เจ้าก็อย่าเรื่องมากนักเลย” หลินอ้ายกล่าว“เจ้าโกรธเกลียดอะไรข้านักหรือ ถึงได้ทำเรื่องโหดร้ายเยี่ยงนี้” ฉู่ชิงเฟิงหันไปถามหลินอ้ายด้วยดวงตาแดงก่ำ ท่าทีทุกข์ระทมน่าสงสารอย่างยิ่ง เขาทำงานหนักขนาดนี้ตั้งแต่เช้า นางกลับมอบให้เพียงข้าวฟ่างชามหนึ่งกับผัดผักวิญญาณหมู แล้วแบบนี้เขาจะไปมีแรงทำงานในช่วงบ่ายได้อย่างไร“อย่ามาพูดจาเหมือนข้ากลั่นแกล้งเจ้านะ” หลินอ้ายตะหวาดแหว“ถ้าเจ้าไม่ได้กลั่นแกล้งข้า แล้วทำไมถึงมีแต่อาโต๋วที่ได้กินหมูเล่า”“เรื่องนั้นข้าจะไปรู้เหรอ บางทีอาจมีคนเห็นเจ้าเป็นตัวบัดซบกินล้างผลาญ เลยไม่อยากเจียดเนื้อให้เจ้ากินกระมัง” หลินอ้ายยกมือทั้งสองขึ้นพลางไหวไหล่“ต่อให้เจ้าไม่ชอบหน้าข้าอย่างไร อยากไล่ข้าไปให้พ้นๆ แต่การกลั่นแกล้งคนที่ทำงานหนักมาตลอดเช้าเยี่ยงนี้ เจ้าไม่นึกละอายใจหน่อยเหรอ”“ละอายใจ? คนที่ควรละอายคือเจ้าต่างหา
last updateLast Updated : 2025-09-04
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status