공유

บทที่ 288

작가: หูเทียนเสี่ยว
หลังจากเดินมาถึงเขตขุนนางทางตอนเหนือของเมือง ถนนก็กว้างขึ้นและวุ่นวายน้อยลง ฝูซูก็กังวลน้อยลง

เขาถามจั๋วซือหราน "คุณหนูขอรับ เราจะไปจวนเหยียนใช่ไหใขอรับ"

แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ไม่ละเอียด แต่เขาก็ไม่ได้โง่จริง ๆ เดินมาถึงเขตนี้แล้ว ไม่มีทางหรอกว่าเขาไม่ทราบที่นี่คือที่ไหน

แต่เขาไม่ได้รับคำตอบจากคุณหนู ฝูซู สึหันไปมองนาง และเขาก็เห็นคุณหนูของเขาดูฟุ้งซ่านเล็กน้อย

"คุณหนูขอรับ"

“ฮะ” จั๋วซือหรานกลับมามีสติอีกครั้ง

“เราจะไปจวนเหยียนด้วยกันใช่ไหมขอรับ”

“จ้ะ เจ้ารู้ตัวแล้วหรือ แสดงว่าฉลาดขึ้นล่ะสิ” จั๋วซือหรานยิ้ม

ฝูซูรู้สึกเขินอายเล็กน้อย เขารู้สึกตัวเองถูกคุณหนูปฏิบัติเหมือนเด็ก ๆ อยู่เสมอ

เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถาม “คุณหนูกังวลเพราะเหตุนี้หรือเปล่า ข้าเห็นคุณใจไม่อยู่กับตัวเลย”

เนื่องจากฝูซูไม่เหมือนฉวนคูน เขาไม่ทราบแผนการที่จั๋วซือหรานวางไว้ในก่อนหน้านี้ ดังนั้นในขณะนี้ เขาจึงคิดว่าจั๋วซือหราน กังวลเพราะนางต้องเป็นตัวแทนของตระกูลจั๋วและต้องเจรจากับตระกูลเหยียน

จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว "เรื่องนี้หรือ เรื่องนี้ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล ข้าแค่คิดเรื่องอื่น... "

“เรื่องอื่นหรือขอรับ” ฝูซูรู้
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

최신 챕터

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1379

    แต่เสียงของเขายังไม่ทันตะโกนจนจบ ก็ชะงักลงกะทันหันในลำคอกลายเป็นเสียงแตกพร่า ดังกลุกกลัก...ราวกับมีของเหลวทะลักพล่านยิ่งไปกว่านั้นยังมีเสียงลมรั่วด้วยเหล่าสหายข้างๆ เขา ถลึงตาโตอ้าปากค้างมองดูทหารคุ้มกันที่เป็นหัวหน้าคนนี้...หรือก็คือคนที่ถูกเจ้าเมืองบอกว่าเขาเป็นคนที่จะทำการใหญ่ได้สำเร็จคนนั้นตอนนี้ คอของเขา...คอของเขา...ก็ราวกับเป็นถังน้ำรั่วที่มีน้ำซึมออกมาจากตัวถังอย่างไรอย่างนั้นคอของเขาตอนนี้เป็นเช่นนั้น มีเลือดซึมออกมาด้านนอกเพียงแต่ความแรงของการไหล มากกว่าความแรงของน้ำที่ซึมจากถังหลายเท่า!หลั่งทะลักออกมา!และเสียงกลุกกลักเหล่านั้น ก็เป็นเพราะเลือดทะลักออกจากลำคอ เสียงที่มาจากในคอรวมไปถึงเสียงลมรั่วที่มาจากรูตรงคอ!คนที่ยืนอยู่ใกล้เขา ก็ถูกเลือดสาดเข้าบนหัวกับใบหน้าในลมหายใจล้วนเป็นกลิ่นคาวเลือด ต่อให้พวกเขาจะเป็นพวกคนเลวที่เคยฆ่าคนเคยเห็นเลือดมาแล้วพอเจอกับสถานการณ์นี้ รวมถึงการที่คนของตนเองถูกฆ่า พลังคุกคามที่แผ่เข้ามาจึงไม่ธรรมดาถ้าบอกว่าอะไรสามารถทำให้คนหวาดกลัวได้ สิ่งที่ติดอันดับต้นๆ ไม่เพียงแต่เป็นเสียงกรีดร้องของสหายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1378

    เขาขมวดคิ้ว รู้สึกร้อนขึ้นมาอย่างประหลาดยิ่งไปกว่านั้นความร้อนนี้ ไม่ใช่ความร้อนจัด...เพราะที่นี่คือชายแดนพรมแดนใต้ เดิมทีสภาพอากาศก็ค่อนข้างร้อนอยู่แล้วแต่ก็ไม่ใช่ความรู้สึกแบบนี้ ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนว่าในกระดูกมีความร้อนกำลังลามออกไปช้าๆ ทรมานมาก แต่กลับบอกไม่ถูกว่ามันมาจากตรงไหน...เพลิงตะวันหงส์แดงต่อให้เป็นแค่ประกายไฟเล็กๆ ก็ยังถือเป็นความทรมานแสนสาหัสของคนทั่วไปอยู่เขาต้องเจอดีแน่จั๋วซือหรานถามขึ้นอีกคำ "แล้วพวกเจ้าเข้าไปได้เพราะเป็นคนเลวด้วยรึ?""แน่นอน" ทหารคุ้มกันหลายคนดูท่าจะภาคภูมิใจขึ้นมาจั๋วซือหรานมุมปากยกขึ้นบางๆ พวกเขาเห็นแค่มุมปากน่ามองของนาง แต่ไม่เห็นความเย็นชาในดวงตานาง"ถ้างั้นพวกเจ้าทำเรื่องเลวๆ อะไรมาถึงเข้าเมืองซื่อหนานได้?"พวกเขาได้ยินมาว่าหญิงสาวคนนี้หน้าตางามระดับล่มเมือง กระทั่งเสียงก็ยังชวนหลงใหลในใจกระทั่งคิดว่าจะจัดการพวกผู้ชายที่มากับนาง น่าจะเป็งองครักษ์ของนางกระมัง? จัดการสังหารทิ้งเสียจากนั้นค่อยไปเสวยสุขกับหญิงสาวคนนี้ทหารคุ้มกันคนหนึ่งเอ่ยตอบ "ข้ารึ? ตอนนั้นข้าข่มเหงลูกสาวสามคนของบ้านหลังหนึ่ง ครอบครัวของนางเข้ามาขวาง ข้าก็เลยฆ่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1377

    ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่พูดอะไรมากแต่ก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา อยากจะดูว่านางคิดจะทำอย่างไรดังนั้น ทั้งสี่คนจึงตรงไปทางประตูเมืองช่วงค่ำของเมืองซื่อหนานก็สามารถเข้าเมืองได้ เพียงแต่จะยิ่งเข้มงวดขึ้นมาที่ประตูมีทหารคุ้มกันอยู่ไม่น้อย ทั้งในทั้งนอก รวมกันกว่ายี่สิบคนนี่ยังไม่นับร่วมที่เดินลาดตระเวนอยู่ด้านใน เอาแค่ที่จุดประตูเมืองก็มีอยู่ไม่น้อยแล้วปันอวิ๋นเอียงตามองจั๋วซือหรานผาดหนึ่ง "พอไปถึง ให้บุกเขาไปหรือทำยังไง?"จั๋วซือหรานยิ้มๆ ตอบว่า "ก็ต้องเข้าไปอย่างสง่าผ่าเผยสิ""เจ้านี่ดูไม่รีบร้อนเลยนะ" ปันอวิ๋นเอียงตามองไปทางเฟิงเหยียนเฟิงเหยียนสังเกตเห็นสายตาเขา เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า "ไม่มีอะไรต้องเร่งรีบนี่""เจ้ารุ้ไหมว่านางคิดจะทำอะไร" ปันอวิ๋นถามเขาพยักหน้า "พอจะเดาได้อยู่"ปันอวิ๋นจุ๊ปาก "ใจตรงกันเสียเหลือเกิน..."เฟิงเหยียนหัวเราะทุ้มต่ำ "นางยังจะมีวิธีอะไรได้อีก เข้าไปตรงๆ เลย เราตามไปก็พอแล้ว"พูดแบบนี้ ปันอวิ๋นเองก็ตระหนักได่ขึ้นมาตอนนี้เอง ประตูเมืองก็อยู่ตรงหน้าแล้วป้ายบนประตูเมือง มีคำว่าซื่อหนานตัวใหญ่อยู่สองตัว...กระทั่งยังใช้อักษรของแคว้นเหย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1376

    "ไม่กินข้าวแค่มื้อเดียวก็หิวจนตายลายนะ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น ยิ้มๆ มองเย่เจิงเอ่ยอีกว่า "ท่านแม่ทัพก็ดูลังเลเสียจริง ดังนั้น คำตอบของท่านแม่ทัพคือ?"เย่เจิงไม่ได้พูดอะไรออกมาทันที หลังจากสูดลมหายใจลึก ก็เอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "ข้าเห็นด้วยแล้ว ถ้าหากท่านจัดการเจ้าเมืองซื่อหนานได้จริง ข้าจะนำทหารออกไป"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็พยักหน้า "เช่นนั้นก็ดี รอฟังข่าวจากข้าแล้วกัน"เย่เจิงถามขึ้นคำหนึ่ง "ใต้เท้าจะออกเดินทางตอนไหน?"จั๋วซือหรานคิดๆ "ในเมื่อท่านแม่ทัพก็รับปากมาแล้ว คืนนี้จะออกเดินทางเลย""อะไรนะ!" เย่เจิงตาถลึงโต "คืนนี้หรือ? การเคลื่อนไหวใหญ่ขนาดนี้ ใต้เท้าไม่ควรวางแผนเตรียมตัวเสียหน่อยหรือ?""ตามหลักการแล้วก็ควรจะเตรียมตัวเสียหน่อย แต่ข้ามีเหตุผลที่ต้องเร่งรีบ..." จั๋วซือหรานคิดในใจว่าถ้าไม่รีบไปล่ะก็ ถึงตอนนั้นเทพปีศาจจอมกระบี่อันดับหนึ่งแห่งใต้หล้ามาถึง ก็คงจะจัดการลำบากแล้วหลังอาหาร จั๋วซือหรานก็นำคำพูดนี้ไปบอกกับปันอวิ๋นเฟิงเหยียนและชิ่งหมิงเฟิงเหยียนฟังนางหมดชิ่งหมิงเองก็ไม่เคยจะออกความเห็นแต่ว่าปันอวิ๋นมีดวงตาที่มองออกทะลุปรุโปร่ง เขากระแอมหัวเราะขึ้นเบาๆ บอกว่า "น้อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1375

    ตอนนี้เอง จวงอี๋ไห่สามพ่อลูกก็เตรียมข้าวเย็นเสร็จแล้ว จัดวางไว้สองสามโต๊ะที่โถงใหญ่จั๋วซือหรานกับเฟิงเหยียน ปันอวิ๋น รวมถึงท่านแม่ จั๋วหวาย จวงชิ่งหมิง นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันได้ยินเสียงฝีเท้าม้าแว่วเข้ามาแต่ไกล"เหมือนว่าจะมาแล้ว" จั๋วซือหรานดื่มน้ำแกงลงไปคำหนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยขึ้นมาเสียงเรียบเฟิงเหยียนนึกขึ้นได้ถึงคำพูดที่นางพูดไว้ที่ห้องก่อนหน้านี้นางบอกว่ารอให้แม่ทัพเย่คิดจนเข้าใจ พวกเขาก็สามารถออกเดินทางได้แล้วเขาถามว่าแล้วเมื่อไรแม่ทัพเย่คนนั้นจะคิดจนเข้าใจ?นางบอกว่า...วันนี้ตอนนี้ เฟิงเหยียนก้ได้ยินเสียงฝีเท้าม้าแว่วเข้ามาแต่ไกลแล้ว พอคิดถึงความเป็นไปได้นั้น ก็พูดไม่ออกขึ้นมาไปชั่วขณะไม่นานนัก เสียงฝีเท้าม้าก็หยุดลงที่ประตูโรงเตี๊ยมผ่านไปครู่หนึ่ง ชายหนุ่มร่างสูงใส่ในชุดเกราะอ่อนคนหนึ่ง ก็ค่อยๆ เดินเข้ามาพลังบนตัวปล่อยจิตสังหารที่เด็ดขาดและเฉียบคมออกมาสายตาเองก็คมกริบทำให้คนอดรู้สึกไม่ได้ว่า คนผู้นี้...จะต้องเคยฆ่าคนมาแล้วแน่นอนหลังจากเย่เจิงเดินเข้ามา สายตาก็กวาดไปรอบๆ จากนั้นก็เล็งไปยังจั๋วซือหรานที่นั่งอยู่ที่โต๊ะส่วนคนอื่น...อย่างเช่นโต๊ะของเหลียนเจิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1374

    จั๋วซือหรานหัวเราะเสียงทุ้มเสียงของชายหนุ่มยิ่งน่าดึงดูดขึ้นท่ามกลางความมืด มีอาการแหบพร่าเล็กน้อย "หัวเราะอะไร?""ไม่มีอะไร" จั๋วซือหรานลูบใบหน้าเขาเบาๆเฟิงเหยียนเหมือนจะรู้สึกได้ว่า บางทีนางคงกำลังหัวเราะเขา...ที่ใจร้อนเสียขนาดนี้เขาไม่ส่งเสียงไปพักหนึ่งจั๋วซือหรานก็มองเขาเอ่ยขึ้นว่า "รู้ไหม พ่อครัวของโรงเตี๊ยม ยังไปทำงานดูแลม้าด้วยนะ...""...นั่นก็ยังดีที่เจ้าพาพ่อครัวมาด้วย" เฟิงเหยียนโอบนางมานั่งลงที่เก้าอี้จากนั้นจึงถามขึ้นว่า "ก่อนหน้านี้ไปจวนแม่ทัพมา เป็นยังไงบ้าง?"จั๋วซือหรานคิดๆ "ก็พอไหวอยู่ แม่ทัพคนนี้กระดูกแข็งน่าดู"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ หลังจากชะงักไปครู่หนึ่งก็พูดแค่ว่า "ถ้างั้นเขาก็ลำบากแล้วสิ""อื๋อ?" จั๋วซือหรานไม่เข้าใจคำนี้ หัวเราะขึ้นมา "ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะ?"เฟิงเหยียนตอบ "พวกกระดูกแข็งที่ถูกเจ้าจัดการไปแล้วมีน้อยซะที่ไหนกัน"พวกกระดูกไม่แข็งนางยังไปท้าทายอยู่เลยด้วยซ้ำ"ใช่ซะที่ไหนกันเล่า..." จั๋วซือหรานพูดพลางใช้นิ้ววงๆ เบาๆ ที่หน้าอกเขา "ข้าก็แค่อยากบรรลุเป้าหมายของข้าอย่างเป็นเหตุเป็นผลเฉยๆ เอง"ความหมายของคำพูดง่ายมาก ถ้ามีคนที่ไม่ยอมให้

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status