Share

บทที่ 304

Author: หูเทียนเสี่ยว
ด้วยรูปร่างผอมเพรียวของท่านพี่ ท่านพี่ต้องเผชิญหน้ากับคนของตระกูลที่ยืนอยู่ตรงนั้นซึ่งไม่เห็นด้วยกับพวกเขาสามคน

จั๋วหวายไม่เคยโกรธขนาดนี้มาก่อน เขาแค่รู้สึก... เหมือนเลือดทั่วร่างกายของเขากำลังไหม้ และเนื้อและเลือดทั้งหมดของเขากำลังจะถูกเลือดเผาให้แห้ง

จั๋วหยุนเฟิงยืนอยู่ที่นั่น เขามองท่านพี่ของเขาด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ราวกับว่าเขากำลังมองเหยื่อที่ไม่มีกำลังที่จะต่อสู้

“ทำสีหน้าดีอยู่นะ”จั๋วหยุนเฟิงงชมด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างสบาย ๆ “หลบได้ดีด้วย”

ขณะที่จั๋วหยุนเฟิงพูด สีหน้าหยอกล้อของเขาก็แข็งแกร่งขึ้น และดูเหมือนว่าเขากำลังเล่นกับเหยื่อที่ไร้เรี่ยวแรงที่จะสู้กลับ

จั๋วหยุนเฟิงโค้งมุมป่กขึ้น เขาหยุดชั่วคราวและเสียงของเขาก็เย็นชา "เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นพรสวรรค์ที่หายากจริง ๆ หรือ คิดว่าตระกูลจั๋วต้องการเจ้าขนาดนี้หรือ ในขณะที่ผู้อาวุโสไปฝึกฝนที่ลัทธิ เจ้าสร้างความวุ่นวายทั่วเมือง คิดเสียว่าตัวเองเก่งมากเลยหรือ"

" อยู่เฉย ๆ ไม่เป็นหรือ ในฐานะสมาชิกของตระกูล ทำไมมีอารมณ์ร้อนจัง เสียสละเพื่อตระกูลต้องทนทุกข์กับความอยุติธรรมเล็กน้อยเพื่อตระกูล หากทุกคนในตระกูลทำตัวเหมือนเจ้า ทนความคับข้องใจเล็
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 305

    การโจมตีของจั๋วหยุนเฟิงไม่ได้มุ่งเป้าไปที่จั๋วซือหรานเช่นกัน คราวนี้เขาไม่ได้มุ่งเป้าไปที่จั๋วหวายด้วยซ้ำ แต่มุ่งเป้าไปที่อวิ๋นเหนียง ผู้ที่คือท่านแม่ของจั๋วซือหรานเขาไม่สนใจว่าการกระทำเช่นนี้จะโปร่งใสหรือไม่ เขาเชื่อเสมอว่าผู้แข็งแกร่งจะได้รับความเคารพตราบใดที่เขาสามารถชนะได้ ใครจะไปสนใจว่าการกระทำนั้นจะโปร่งใสหรือไม่แต่สิ่งที่จั๋วหยุนเฟิงไม่คาดคิดก็คือการโจมตีของเขาไม่ได้กระทบไหล่อีกข้างของจั๋วซือหรานอย่างที่คาดไว้“อะไรนะ” จั๋วหยุนเฟิงตกใจอย่างมาก เขามองจั๋วซือหราน ซึ่งผู้ที่อยู่ไกล ๆนางปกป้องท่านแม่ของนางอย่างแน่นหนาในอ้อมแขนของนาง และนางไม่มีได้รับบาดเจ็บใหม่ไม่เพียงแต่จั๋วหยุนเฟิงเท่านั้นที่ตกตะลึงและสงสัย แต่ทุกคนก็ตกใจเช่นกัน จริง ๆ แล้วพวกเขาทุกคนต่างคิดว่าจั๋วหยุนเฟิงเป็นผู้ชนะอย่างแน่นอนพวกเขาล้วนรู้สึกว่า ไม่ว่าจั๋วซือหรานบ้าคลั่งเพียงใด แล้วนาจะทำอย่างไรได้ล่ะ เมื่อต้องอยู่ต่อหน้าพรสวรรค์ที่แท้จริงของตระกูลจั๋ว นางไม่เก่งเลย จั๋วหยุนเฟิงโจมตีนาง ไม่เช่นนั้น เขาคงไม่ทำให้นางต้องนองเลือดในการพบกันเพียงครั้งเดียวแต่ในขณะนี้... การกระทำของจั๋วซือหรานได้ล้มล้างสิ่ง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 306

    เขาทำได้ แต่เขาไม่ชอบผู้อื่นผู้อย่างกระจ่างใส เพราะจะทำให้เขาเสียหน้า“เจ้า...” จั๋วหยุนเฟิงเพิ่งอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่เขากลับถูกดึงดูดด้วยการกระทำของนาง และถึงขนาดลืมไปว่าเขาพูดอะไรใส่นางกลับ เขาแค่ถาม “เจ้ากำลังทำอะไรอยู่”เขาเห็นชิ้นส่วนที่มีรูปร่างแปลก ๆ ปรากฏบนมือของจั๋วซือหราน และพวกมันก็ถูกนิ้วอันคล่องของนางประกอบเข้าด้วยกันจั๋วหยุนเฟิงใช้ชีวิตในลัทธิเสวียนหมิงมาหลายปีแล้ว เขาได้ย้ายจากด้านนอกของลัทธิมาสู่ด้านในของลัทธิใน เขาถือว่าเป็นผู้ที่เคยเห็นของประปลาดหลาย ๆ อย่างแล้ว แต่เขามองไม่ออกของในมือของจั๋วซือหราน เขาไม่เคยเห็นของเหล่านี้ในมือของนางเลยสิ่งที่ทำให้เขากลัวที่สุดคือ ภายใต้ควมามคล่องแคล่วของนิ้วมือของนาง ชิ้นส่วนเหล่านี้เข้ากันได้อย่างลงตัว ต้องมีทักษะประเภทเพียงใด จึงทำเช่นนี้ได้ ซึ่งมหัศจรรย์มากหลายปีที่ผ่านมา จั๋วหยุนเฟิงได้ฝึกฝนความรู้สึกถึงวิกฤต แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เขาก็พอเดาออกได้ว่ามันจะต้องเป็นเครื่องมือลอบสังหารบางอย่างแต่ผู้หญิงคนนี้กลับประกอบอุปกรณ์ลอบสังหารต่อหน้าทุกคนผู้คนกล้าทำเช่นนี้ มีเพียงสองความเป็นไปได้เท่านั้นหนึ่งคือนา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 307

    จากนั้นทุกคนก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าแขนเสื้อครึ่งหนึ่งของจั๋วหยุนเฟิงถูกเจาะเป็นรูขนาดใหญ่เนื่องจากรูเสื้อนั้นใหญ่มาก ผู้คนเห็นอาการบาดเจ็บที่นองเลือดด้านในได้ชัดเจนในทันทีแม้ว่าก่อนหน้านี้ จั๋วซือหรานได้รับบาดเจ็บมาก่อน แต่อย่างไรก็ตาม อาการบาดเจ็บของจั๋วหยุนเฟิงในขณะนี้ดูเหมือนจะรุนแรงกว่าอาการบาดเจ็บที่จั๋วซือหรานเคยประสบมาก่อนอาการบาดเจ็บนั้นทำให้ผู้คนตกใจอย่างมาก เพราะ...“นั่น...นั่นคือ...กระดูกของเขาหรือ”“ดู ดูเหมือนใช่เลย ดูเหมือนใช่เลย จั๋วจิ่วทำให้กระดูกของเขาโผล่ออกมาในคราวเดียวเลยหรือ”จั๋วหยุนเฟิงยังคงตกตะลึงอย่างมากและไม่สามารถฟื้นตัวได้ เขาตกใจกับความแข็งแกร่งของจั๋วซือหรานแต่เขายิ่งตกใจอย่างมากกับอาวุธที่ไม่รู้จักในมือของจั๋วซือหรานจากนั้นเขาจึงค่อย ๆ เปลี่ยนความคิดเป็น...นี่มันอะไรกันเนี่ย อาวุธหรือ หรือเครื่องมือหรือ ลัทธิเสวียนหมิงไม่มีของละเอียดเช่นนี้... ไม่ เกรงว่าแม้แต่ลัทธิฝานเทียน ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการหลอมอาวุธก็ยังไม่มีของใด ๆ ที่ละเอียดเช่นนี้เป็นไปได้ไหมว่า... นี่มาจากทางเหนือหรือดวงตาของจั๋วหยุนเฟิงเต็มไปด้วยตกตะลึง และเขายังดึงสติกลับมาไม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 308

    ปัง--!เสียงอันดังโตสั่นสะเทือนท้องฟ้า และแม้ว่าทุกคนเคยได้ยินเสียงนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่พวกเขาก็ยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่เล็กน้อย"ฟึ่บ--!"ทันใดนั้นจั๋วหยุนเฟิงก็พ่นเลือดออกมาเต็มปาก และดูเหมือนเขาจะอยู่ในสภาพที่แย่มากไม่มีแม้แต่รอยเลือดบนใบหน้าของเขาดอกไม้ที่ย้อมด้วยเลือดค่อย ๆ กระจายไปบนเสื้อผ้าบนหน้าอกของเขา เขายกมือขึ้นและจับหน้าอกของเขาไว้ เขามองบาดแผลนั้นอย่างตกตระลึง“สรุปเจ้า...” จั๋วหยุนเฟิงพูดสามคำด้วยเสียงแหบแห้ง และแม้แต่ร่างกายของเขาก็ไม่สามารถทรงตัวได้อีกต่อไป เขาก็เซถอยหลังไปสองก้าวแล้วล้มลงกับพื้นเลือดเหนียว ๆ เริ่มไหลออกมาจากปากของเขา และดวงตาของเขาก็แดงก่ำ เขาจ้องมองจั๋วซือหรานในเหตุกาณ์นั้น ไม่มีใครพูด หลังจากนั้นไม่นาน เหล่าผู้อาวุโสจึงรู้ตัว“หยุนเฟิง หยุนเฟิง”“รีบเรียกหมอประจำจวน เร็วเข้า”ผู้อาวุโสสามจ้องไปที่จั๋วซือหราน เขาพูดอย่างโกรธ "เจ้าเด็กร้าย หากหยุนเฟิงเป็นอะไรไป ตระกูลจั๋วจะไม่มีวันปล่อยเจ้าแน่ ๆ แม้ว่าเจ้าจะฟ้องเรื่องนี้กับกรมสอบสวนคดีอาญาหรือหน่วยสืบสวนพิเศษก็ตาม ข้าก็จะไม่ยอมปล่อยเจ้าแน่นนอน"เดิมทีผู้อาวุโสสามคิดว่าเขาพูดเช่นนี้ จะทำ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 309

    จั๋วซือหรานรู้สึกอัญมณีบนผ้าคาดเอวของจั๋วหยุนเฟิงอาจเป็นของเช่นเดียวกันกับแหวนเสวียนเหยียนของนางเองนั่นก็คือแหวนเสวียนเหยียนสามารถช่วยระดมพลัง ในความเป็นจริง เป็นไปได้ที่ว่ามีความสามารถเช่นนี้ ตัวอย่างเช่น ลูกหลานของตระกูลเฟิงต่างใช้ดาบประจำตระกูลช่วยระดมพลังอัญมณีบนผ้าคาดเอวของจั๋วหยุนเฟิงคงมีความหมายคล้ายกันในขณะที่อัญมณีถูกบดขยี้ พลังรอบตัวของจั๋วหยุนเฟิงเริ่มค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ทั้งสีผิวและอำนาจของเขา และแม้แต่อาการบาดเจ็บบนร่างกายของเขาก็รักษาได้อย่างรวดเร็วมันเหมือนความสามารถในการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งอย่างมากของตระกูลจั๋วได้รับการเร่งตัวขึ้นหลังจากพลังในอัญมณีถูกปล่อยออกมาดวงตาของจั๋วหยุนเฟิงยังคงเป็นสีแดง เขาจ้องมองจั๋วซือหราน "วันนี้ ข้าจะช่วยตระกูลกำจัดเจ้า"จั๋วซือหรานขมวดคิ้วและไม่กล้าที่จะละเลย เพราะหลังจากที่อัญมณีแตกออก พลังที่ถูกเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันของ จั๋วหยุนเฟิงดูไม่ธรรมดาด้วยซ้ำ นางยิ่งเกิดความรู้สึกว่า พลังบนตัวของเขาไม่ใช่ของตัวเขาเองเหมือนเขายืมพลังอื่นเช่นนั้นหรือ ดังนั้นพลังรอบตัวของเขาจึงดูรุนแรงเป็นพิเศษจั๋วซือหรานต้องระมัดระวัง นางไม่ห่วงความปลอด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 310

    ร่างกายของจั๋วซือหรานถูกจั๋วหยุนเฟิงโจมตีอย่างหนักนางรู้สึกดวงตาของนางมืดลงชั่วขณะหนึ่ง"......หราน หราน""ท่านพี่......"จั๋วซือหรานเพียงรู้สึกในขณะนี้ พยางค์ที่อยู่ข้างหูของนางดูเหมือนถูกลากไปเป็นพยางค์ที่ยาวมาก นางแทบจะไม่ได้ยินเสียงเรียกนั้นความมืดที่อยู่ตรงหน้าของนางชัดเจนอย่างมาก ในขอบบริเวณเริ่มมีจุดดำ ๆไม่ ข้าล้มไม่ได้จั๋วซือหรานกัดปลายลิ้นของนางอย่างแรง อยากให้ตัวเองตั้งสติไว้นางคายเลือดออกมาเต็มปาก เลือดนั้นไหลบนแหวนเสวียนเหยียน นางวางฝ่ามือลงบนพื้น เพื่อทรงตัวไว้ และเลือดก็ย้อมสีแสีแหวนเสวียนเหยียนให้เป็นสีแดงเข้ม ซึ่งน่าขนลุกยิ่งขึ้นยิ่งไปกว่านั้น เลือดยังไหลตามแหวนเสวียนเหยียน และหยดลงในลวดลายเรียบง่ายของพื้นหินที่ถูกแกะสลักและมีเวลายาวนานเลือดซึมเข้าลอยทีละนิดทีละน้อยรัศมีสีแดงเข้มของแหวนเสวียนเหยียนเริ่มสว่างขึ้นเรื่อย ๆ แต่ดูเหมือนว่าคนอื่นจะมองไม่เห็นในขณะนี้ จั๋วซือหรานไม่ได้สังเกตแสงนั้นนางไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของแหวนเสวียนเหยียน แถมนางยังบิดแหวนเสวียนเหยียนอีกหนึ่งในสาม จนกระทั่งแหวนเสวียนเหยียนเปิดออกจนสุดแล้วแต่สิ่งที่จั๋วซือหรานไม่ค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 311

    “หราน… หรานหราน … หรานหรานลูกแม่”มือของอวิ๋นเหนียงสั่นอย่างแรง นางสังเกตแม้ลูกสาวของนางยังคงยืนอยู่ตรงหน้านาง แต่อาการของลูกสาวก็แตกต่างไปจากเมื่อครู่นี้อย่างเห็นได้ชัดนางยื่นมือออกและสัมผัสลูกสาวของตัวเอง นางก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อยแล้วเห็น... ดวงตาของลูกสาวนางปิดลงแล้ว ทั้ง ๆ ลูกสาวหมดสิตแล้ว ยังคงยืนอยู่ตรงหน้านางกับเสี่ยวหวายชั่วขณะหนึ่ง อวิ๋นเหนียงรู้สึกเหมือนมีดแทงหัวใจของนาง และเสียงของนางก็เหมือนกับนกกาเหว่าที่ร้องไห้เป็นเลือด เศร้าและคร่ำครวญ " หรานหราน ลูกสาวของข้า"ดวงตาของจั๋วหวายแดงเหมือนเลือด เขาจ้องมองคนรอบข้าง จ้องพวกคนที่มีนามสกุลเดียวกับเขานี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเกลียดชัง และความรังเกียจนั้นหาที่เปรียบมิได้ ความรังเกียจและความเกลียดชังนี้รุนแรงมากจนเมื่อเขาจำได้เขามีสายเลือดเดียวกันกับพวกเขา ซึ่งทำให้เขาเกลียดเลือดส่วนนี้ของเขาเองเหมือนเขาคืนสติไม่ได้แล้วแต่จั๋วหวายคืนสติได้อย่างรวดเร็ว เพราะเขาทราบว่า พี่สาวของเขาพยายามอย่างหนักเพื่อปกป้องพวกเขา และตอนนี้...ถึงเวลาที่เขาต้องดูแลท่านแม่ของเขาแล้วจั๋วหวายบีบข้อมือท่านพี่อย่างระมัดระวัง และในที่สุดก็ถอน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 312

    ดาบยาวที่ปิดกั้นอาวุธของจั๋วหยุนเฟิงนั้นมีลักษณะที่เรียบง่ายและไม่ได้ออกจากฝักด้วยซ้ำแต่อาวุธของจั๋วหยุนเฟิงถูกบล็อกได้อย่างง่ายดาย“เจ้า” จั๋วหยุนเฟิงมองไปที่แขกที่ไม่ได้รับเชิญอีกฝ่ายสวมเสื้อคลุมยาวและหมวกผ้ากอซ ดูลึกลับและแปลกมากพูดตามตรง ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แต่ยังมีผู้คนจำนวนมากที่มาชมการต่อสู้ด้วย พวกเขาต่างไม่ทราบว่าแขกที่ไม่ได้รับเชิญผู้นี้ปรากฏตัวอย่างไรและเมื่อใด“ผู้แข็งแกร่งรังแกผู้ไร้เรี่ยวแรง หลายคนรังแกผู้คนที่มีจำนวนที่น้อยกว่า ตระกูลจั๋วใช้วิธีนี้คล่องดีจัง” เสียงทุ้มลึกของชายคนนั้นเต็มไปด้วยความเยือกเย็นและการเยาะเย้ยร่างกายของชายคนนี้ถูกเครื่องแต่งกายปกปิดไว้อย่างสนิท แม้ว่ามองจากเครื่องแต่งกาย จั๋วหยุนเฟิงจะมองไม่ออกว่าชายผู้นี้เป็นใคร แต่เมื่อเขามองดาบประจำตระกูลของเขาออก นั่นคือดาบประจำตระกูลของตระกูลเฟิงนอกจากนี้เขายังเห็นอักษรที่ถูกสลักไว้บนดาบของตระกูลอย่างชัดเจน - เหยียน“เจ้าคือ... เฟิงเหยียนหรือ”จั๋วหยุนเฟิงเป็นผู้ที่มีความภาคภูมิใจและหยิ่งผยองมาโดยตลอด ในอดีตเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับอัจฉริยะในเมืองหลวงอย่างจริงจัง แต่เขาก็เคยได้ยินชื่อของเฟิ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1279

    พอได้ยินคำนี้ของจั๋วหวาย สีหน้าจั๋วซือหรานก็ชะงักไปพอนึกถึงจั๋วเฮ่ออิงที่สีหน้าเปลี่ยนแล้วรีบร้อนออกไปวันนั้นนางรู้สึกว่าการคาดเดาของเสี่ยวหวาย...ดูสมเหตุสมผลดียังไม่ต้องพูดถึงว่าจั๋วเฮ่ออิงไปหาเซี่ยอวิ๋นซี แล้วจะมีผลลัพธ์อย่างไรจั๋วซือหรานแม้จะไม่ใช่เจ้าของร่างเดิม แต่ก็มีความรู้สึกรักอย่างจริงใจต่อเซี่ยอวิ๋นซีด้วยความเข้าใจต่อตัวเซี่ยอวิ๋นซีของนาง จั๋วซือหรานรู้สึกว่า เซี่ยอวิ๋นซีเป็นคนที่อ่อนนอกแข็งในการที่นางสามารถเลี้ยงลูกสองคนจนโตได้เพียงลำพังก็มองออกได้ไม่ยากคนแบบนี้ ในสถานการณ์ปกติขีดจำกัดจะชัดเจนมากนางจะอ่อนโยนกับคนของตนเอง แต่มีนิสัยที่แข็งกร้าวในสายตาไม่อาจทนเห็นสิ่งไม่ดีได้ ยอมหักแต่ไม่ยอมงอตอนที่นางรักจั๋วเฮ่ออิงก็คือรักจริงๆ ถ้าหากไม่มีลูกน้อยสองคนคอยรั้งนางไว้ นางคงฆ่าตัวตายตามจั๋วเฮ่ออิงไปตั้งแต่ตอนรู้ว่าเขาตายแล้วแต่พอมีตัวตนอย่างสุ่ยจิ้งหลาน เซี่ยอวิ๋นซีก็ไม่แน่ว่าจะอดทนต่อจั๋วเฮ่ออิงได้อีกตอนที่ไม่รัก ก็อาจจะไม่รักได้จริงๆแต่แล้วทำไมล่ะ แค่จั๋วเฮ่ออิงไปบอกเรื่องของนาง ด้วยนิสัยของเซี่ยอวิ๋นซี ต่อให้ฟ้าถล่มก็คงจะรีบมาหาอยู่ดีจั๋วซือหรานถอนห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1278

    ตอนนี้ จั๋วซือหรานเห็นหน้าตนเองในน้ำได้เห็นสภาพของตนเองชัดๆ ดีขึ้นมากแล้วจริงๆแต่นางยังรู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าสภาพของตนเองก็กำลังแย่ลงอย่างรวดเร็วดังนั้น ตนเองตอนนี้...อยู่ห่างจากชายคนนั้นไม่ได้จริงๆถ้าแค่ห่างจากชายคนนั้น ตนเองก็อาจจะทนต่อไปไม่ไหว แล้วกลับไปอยู่ในสภาพก่อนหน้านี้อีก นั่นมันอันตรายเอามากๆส่วนตนเองถ้าหากยังตามชายคนนี้อยู่ตลอดล่ะก็...จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว ในใจก็อดคิดไม่ได้ ตอนนี้ตนเองอย่างน้อยยังพอทนไหว ไม่ต้องตัวติดกับเขาตลอดเวลาก็ได้แต่...นี่มันเพิ่งจะเริ่มต้นนะจั๋วซือหรานเป็นคนที่เตรียมพร้อมล่วงหน้าอยู่เสมอ นางยกมือขึ้นลูบท้องน้อยเบาๆในใจยังคิดขึ้นอย่างกังวล ถ้าหากอายุครรภ์มากขึ้น สถานการณ์แบบนี้ก็น่าจะยิ่งรุนแรงขึ้นด้วยถึงตอนนั้นหากตนเองต้องอยู่กับเขาตลอดเวลาถึงจะรักษาสภาพให้คงที่ได้ล่ะ?ถ้าตนเองเป็นอย่างที่เขาบอกล่ะ ที่ว่าต้องการแสงแดดแล้วในเวลากลางวันแบบนั้น...คนนึงต้องการแสงแดด แต่อีกคนกลับถูกแสงแดดทำร้ายสถานการณ์แบบนี้ มันเป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆนางผ่อนคลายลงหน่อย แต่เขากลับทรมานขึ้นมาถ้าพอนางทรมาน เขาถึงจะผ่อนคลายลงมาได

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1277

    ขณะที่ตระหนักถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็ตระหนักได้ถึงอีกจุดหนึ่งถ้าบอกว่า ตนเองหลังจากนี้อยู่ห่างเขาไม่ได้ แต่หลังจากนี้ยังต้องการแสงแดดล่ะก็เช่นนั้นก็เท่ากับว่า...นางมองชายหนุ่มที่โผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม เห็นอักขระคำสาปประหลาดบนหน้าตาคนสมองทื่อนี้ ปรากฏขึ้นมาต่อเนื่อง หายไป แล้วก็โผล่ออกมารักษาแผลไฟไหม้...จั๋วซือหรานจึงเดินเข้าไปสองก้าวอย่างอดไม่อยู่ พอมาถึงตรงหน้าเขา ก็ยกมือขึ้นมาเบาๆเขาไม่ขยับ จ้องมองนางนิ่งจั๋วซือหรานแตะลงไปบนหน้าเขาเบาๆ ราวกับว่าแค่สัมผัสเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนางขมวดคิ้วแน่นเขามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานนิ่งงันไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "พลังวิญญาณของข้า ช่วยอะไรท่านไม่ได้แล้วหรือ"น่าจะเพราะตนเองตั้งท้องจนงงๆ ไปแล้วจริงๆ หรืออาจเป็นเพราะไม่พอใจเจ้าคนสมองมีปัญหาตรงหน้านี้ ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจอะไรมากกระทั่งถึงตอนนี้ จั๋วซือหรานจึงเพิ่งรู้สึกตัวพลังของตนเองก่อนหน้านี้ ทั้งๆ ที่สามารถบรรเทาอาการทำร้ายตนเองของเฟิงเหยียนได้แท้ๆ แล้วยังทำให้เขาต้านทานแสงแดดได้ระดับหนึ่งอีกด้วยแต่ตอนนี้ทำไมเหมือน...มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ?ทว่าเฟิงเหยียน ดูเหมือนจะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1276

    ขณะที่จั๋วซือหรานขมวดคิ้วคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงมุดเข้ามาด้วยกัน...กับเขาในผ้าห่มที่มืดสนิทนี้ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มๆ ดังขึ้นเสียงหัวเราะทุ้มต่ำ ในผ้าห่มมืดๆ ภายใต้ระยะใกล้ชิดที่แทบจะเบียดกันของคนทั้งสองนี้ จึงยิ่งชัดเจนเป็นพิเศษ...กระทั่งความหยาบกร้านแหบพร่าเล็กๆ ในน้ำเสียง ก็ยังชัดเจน ชัดเจนเอามากๆ!ยิ่งไปกว่านั้น เพราะความใกล้ชิดมากๆ ยังมีกระแสลมแผ่วๆ ที่เหมือนจะพัดผ่านข้างหูนางไปเหมือนกับแม้กระทั่งตอนที่เขาหัวเราะเสียงทุ้ม การสั่นสะเทือนของทรวงอก ตนเองก็ยังสัมผัสได้อย่างชัดเจนด้วย!จั๋วซือหรานกัดริมฝีปากเบาๆจึงได้ยินเสียงของตาคนสมองทื่อ ยังคงเป็นเส้นเสียงหยาบๆ ที่ชวนหลงใหลนั่นอยู่บอกกับนางว่า "นี่เจ้ากำลัง...เชื้อเชิญข้าหรือ?"จั๋วซือหรานเพิ่งตื่นขึ้นจากความฝันที่อยู่กับคนรัก ถือว่าถูกกวนให้ตื่นก็ได้ มีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่บ้างก็เรื่องปกติดังนั้นนางจึงไม่มีเวลามาปรับอารมณ์กับตาคนสมองทื่อนี่จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า "ข้าควรจะมองท่านถูกเผาตายทั้งเป็นไปซะ"ตาสมองทื่อนี่ก็ไม่รู้ทำไมผ่านไปคืนนึงนิสัยก็เปลี่ยนไป จู่ๆ อารมณ์ก็ดีขึ้นมาเสียอย่างนั้นบางทีคงเพร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1275

    จั๋วซือหรานได้ยินอารมณ์เจ็บปวดจากในน้ำเสียงเขา และได้ยินถึงอารมณ์เสียใจด้วยอันที่จริงสำหรับสำหรับอาการข้าหึงตัวข้าเองที่แปลกใหม่นี้ จั๋วซือหรานก็รู้สึกจนใจอยู่หน่อยๆ แล้วยังดูน่าขำอีกด้วยผลลัพธ์คือพอแหงนตามอง สีหน้ารอยยิ้มบนหน้าจั๋วซือหรานเหล่านั้น ก็แข็งทื่อไปทันทีอารมณ์ที่เรียกว่าความกังวล ก่อตัวขึ้นมาในดวงตามิน่าในน้ำเสียงเขาถึงมีความเจ็บปวดอยู่ตอนนี้ อักขระคำสาปปรากฏขึ้นบนตัวเขาแล้ว แสดงรูปลักษณ์ที่ประหลาดออกมา"นี่คือ..." จั๋วซือหรานยกมือมากำข้อมือเขาแต่นี่ไม่ใช่ความจริง เป็นแค่เขตแดนจิตใต้สำนึกบางอย่าง เป็นแค่ในความฝันเท่านั้น แน่นอนว่าจับชีพจรเขาไม่ได้"ไม่เป็นไร" บนสีหน้าชายหนุ่มแม้จะเต็มไปด้วยอักขระคำสาปประหลาด สายตาที่ก้มลงมามองนางกลับดูอบอุ่น "ไม่เป็นไร"เหมือนกลัวว่านางจะกังวล เขาจึงบอกว่าไม่เป็นไรขึ้นมาอีกครั้งจั๋วซือหรานตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง ขมวดคิ้วขึ้นมานิ้วโป้งของชายหนุ่มกดลงเบาๆ ที่หว่างคิ้วนาง นวดๆ เหมือนติดจะนวดคลายสีหน้าอารมณ์ที่ยุ่งเหยิงเหล่านั้นออก"พักผ่อนให้ดี กินข้าวให้ดีด้วย" เขาเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเบ้ปากเบาๆ เหลือบมองเขา "ถ้าหากเจ้าส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1274

    จั๋วซือหรานไม่ส่งเสียง ครู่เดียว จึงถอนใจเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า "อันที่จริง ข้าเองก็ไม่ได้ยืนหยัดขนาดนั้น แค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาจนตรอกจริงๆ ข้าก็ยังไม่อยากละทิ้งทั้งที่ยังไม่ได้ลอง"เฟิงเหยียนกอดนาง ในสีหน้ามีความเจ็บปวดเสียงยิ่งแหบพร่า เอ่ยขึ้นว่า "ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องมาเหยียบซ้ำรอยมารดาของข้า และข้าก็ไม่อยากให้ลูกของเราเติบโตมาเป็นเหมือนข้าด้วย หากเรื่องนี้ ไม่มีวิธีอื่นแก้ไขได้นอกจากปล่อยให้มีฝันร้ายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ...ข้าก็หวังให้ฝันร้ายนี้หยุดลงที่ตัวข้าพอ"เสียงของชายหนุ่มแหบพร่ามาก ในน้ำเสียง...ก็มีความสิ้นหวังที่ปิดไว้ไม่มิดอยู่ ทิ่มแทงเข้ามาที่ใจของจั๋วซือหรานต้องเป็นแบบไหนกันนะ...ถึงบีบคั้นให้คนดีๆ ที่หยิ่งทะนงและยอดเยี่ยมคนหนึ่งตกอยู่ในสภาพนี้...ราวกับสัตว์ที่ถูกกักขังไว้จั๋วซือหรานมองเขา ครู่ต่อมา ก็ถอนหายใจเบาๆเอ่ยขึ้นว่า "จริงๆ แล้ว...เดิมทีข้าเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ การวางแผนและความคิดของข้าจึงไม่ได้เล่าใด้คนอื่นฟัง"เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แค่แหงนตามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานยิ้มๆ "ข้ารู้สึกจริงๆ ว่าไม่แน่ข้าอาจมีวิธี แม้ตอนนี้ข้ายังพูดถึงเหตุผลออกมาให้ชัดเจนไม่ได้ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status