공유

บทที่ 445

작가: หูเทียนเสี่ยว
“แค๊ก” จั๋วซือหรานไอเบา ๆ ความจริงนางรู้สึกคำนี้ไม่เหมาะสมเช่นกัน จากนั้นนางคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางเปลี่ยนใช้คำใหม่ "เช่นนั้น...ดูดซับ ดูดซับ"

เมื่อเห็นท่าทางที่ค่อนข้างไม่มั่นใจของนาง ใบหน้าของ เฟิงเหยียน ซึ่งยังคงแข็งทื่อเล็กน้อย จึงค่อย ๆ ผ่อนคลายอีกครั้ง

เขาเหลือบมองจั๋วซือหราน "เพราะพลังศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลถูกผนึกบนร่างกายของข้า แต่นั่นไม่ใช่วิธีการทั่วไป ดังนั้นในความเป็นจริงแล้ว ข้าไม่สามารถควบคุมพลังเหล่านี้ได้อย่างสมบูรณ์ จึงมีพลังบางส่วนต้องไหลออกมาโดยเปล่า ๆ "

เมื่อได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน จั๋วซือหรานเข้าใจ "นี่คือส่วนที่ฉันได้รับใช่ไหม"

เฟิงเหยียนพยักหน้าเล็กน้อย

และฟังจากคำพูดของเฟิงเหยียน จั๋วซือหรานเดาออกว่า พลังศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลเฟิงที่ถูกผนึกไว้ในตัวเขานั้นเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่พลังที่ใช้หมดได้ แต่เหมือนเป็นแกนกลางแห่งพลังบางอย่าง

แม้ว่าจะพลังเหล่านั้นถูกใช้จนหมด ตราบใดที่ยังมีแกนกลางของพลังศักดิ์สิทธิ์นี้อยู่ ก็สามารถพลิตพลังใหม่อย่างต่อเนื่อง

แต่จั๋วซือหรานรู้สึก... มีบางอย่างผิดปกตินัก

ทันใดนั้นนางไม่ทันจับความรู้สึกผิดปกติในสมอง ดังนั้นนางจึงไม่พูดอะไรต่อ หล
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 446

    “ใช่แล้ว” เฟิงเหยียนพยักหน้าจั๋วซือหรานยังคงจ้องตาเขาอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ” ฉูนจวีน บอกว่า สำหรับการดำรงอยู่ของเจ้า ตระกูลเฟิงมีสองเสียงที่แตกต่างกัน และมีจุดยืนที่แต่ต่งกันสองฝ่าย ดังนั้นในการฝึกฝนของตระกูล เจ้าถูกคนทำลายและทำให้เจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัส จนกระทั่งขาของเจ้าเกือบสูญเสียไปแล้ว ผู้ก่อเรื่องเหล่านี้คือผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการดำรงชีวิตของเจ้าใช่หรือไม่ "“ใช่” เฟิงเหยียนยังคงตอบรับอย่างไร้ความรู้สึก“เป็นพวกเขาจริง ๆ หรือ” จั๋วซือหรานถาม “พวกเขาไม่อยากให้เจ้ามีชีวิตอยู่ พวกเขาหวังว่าตระกูลจะพัฒนาได้อย่างเป็นธรรมชาติ และพวกเขาหวังว่าสมาชิกในตระกูลมีแรงกดดันมากขึ้น เพื่อบุกทะลวงและตื่นตัว คนเหล่านั้นเหตุผลพอสมควรที่ต้องทำลายเจ้าจริง ๆ ”“แต่ผู้คนที่มีจุดยืนไม่เหมือนกันไม่อยากให้เจ้าแสดงทัดษณะกันเก่งในการฝึกฝนของตระกูล ไม่อยากให้ลัทธิเลือกเจ้า พวกเขาเล่นงานเจ้าในระหว่างการฝึกฝนก็ได้ และพวกเขามีเหตุผลที่จะทำลายเจ้าไม่ใช่หรือ”หลังจากได้ยินนางพูดเช่นนี้ เฟิงเหยียนมองนางและไม่พูดอะไรเลยเขาเงียบเช่นนี้ แสดงถึงทัศนคติของเขา เขาเห็นด้วยกับคำพูดของจั๋วซือหราน จั๋วซือหรานยิ่งมั่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 447

    จั๋วซือหรานฟังคำพูดของเฟิงเหยียน นางรู้สึกว่าคำพูดเหล่านั้นสมเหตุสมผลนางเอื้อมมือออกไปและเอามือของเฟิงเหยียนออกจากศีรษะของนาง แต่นางคิดออกเรื่องหนึ่ง...นางขมวดคิ้วเล็กน้อย ราวกับว่านางนึกถึงอะไรบางอย่าง และแม้แต่การเคลื่อนไหวเพื่อปล่อยมือของเฟิงเหยียนก็หยุดลง“แต่” จั๋วซือหรานพูดและขมวดคิ้วแน่นขึ้น “แล้ววันนี้ข้าทำผิดมากเลยไม่ใช่หรือ”จั๋วซือหรานคิดถึงภาพที่นางเดิมเต็มพลังต่อหน้าเหล่าผู้อาวุโส แม้ว่าเหล่าผู้อาวุโสไม่ทันตอบสนองเนื่องจากสถานการณ์ฉุกเฉินในขณะนั้นแต่หากพวกเขากลับไปคิดอีกที พวกเขาอาจจะสามารถเข้าใจเหตุผลได้“ไม่เป็นไร” ดูเหมือนเฟิงเหยียนไม่กังวลเรื่องนี้“จริงหรือ” จั๋วซือหรานมองเขาเมื่อเห็นชายผู้นี้ซึ่งไม่แยแสมาโดยตลอด ตอนนี้เขายิ้มเล็กน้อย “ใช่ ข้าบอกไปแล้วน่ะ ข้าไม่ได้เย็นชา”จั๋วซือหรานจำคำพูดของเขาในก่อนหน้านี้ได้ ดังนั้นนางจึงไม่ถามต่อนางรู้มาโดยตลอดว่า ท่านอ๋องนี้ไม่ใช่ธรรมดา ตราบใดที่เขาไม่เย็นชาจนไม่สนใจว่าจะถูกเอารัดเอาเปรียบ ก็ไม่ควรเป็นปัญหาใหญ่“เช่นนั้นก็ดี” จั๋วซือหรานพยักหน้าเฟิงเหยียนกล่าวว่า "ตอนนี้ดึกมาแล้ว ข้าจะให้คนพาเจ้าไปพักผ่อน ส่วนส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 448

    "จี๊ด--!"หนอนกู่ที่นอนอย่างอ่อนนุ่มเพื่อให้นางบีบเล่น จู่ ๆ ก็ยกกรงเล็บของมันขึ้นมาหนวดทุกอันบนร่างกายยืนตรงราวกับเข็มแหลมคมโปร่งแสงที่มีหนามแหลมบาง ๆ อยู่บนนั้นแถมยังอ้าปากค้างอีกด้วยเผยวงกลมฟันโปร่งแสงแต่แหลมคมคล้ายหนวดบนลำตัว“ฮะ” จั๋วซือหรานจับมันเข้าใกล้ นางมองที่ปากของมันและสังเกตอย่างละเอียด “เก่งสินะ มันมีฟันจริง ๆ หรือ ข้าไม่ได้สังเกตเลย…”และเห็นได้ชัดว่าเมื่อจั๋วซือหรานบีบตัวมันโดยตรงและยกมันขึ้นมาที่ดวงตาของนาง มันให้ความรู้สึกเหมือนแมวหรือสุนัขที่ถูกบังคับด้วยชีวิตมันดูอ่อนแอ น่าสงสาร และทำอะไรไม่ถูก ซึ่งแตกต่างจากตอนที่มันแสดงฟัน ยื่นหนวดขึ้น และส่งเสียงเตือนเมื่อเผชิญหน้ากับเฟิงเหยียน“ดังนั้นมันไม่ใช่อารมณ์ไม่ดี แม้ว่าข้าไม่รู้ว่าทำไม…” เฟิงเหยียนพูดและมองไปที่จั๋วซือหราน และดูเหมือนว่าจะมีอารมณ์ที่มีความหมายบางอย่างแวบขึ้นมาในดวงตาของเขาจากนั้นเขาพูดต่อ "มันแค่เชื่อฟังเจ้า"หลังจากจั๋วซือหรานได้ยินเขาพูดเช่นนี้ แม้ว่าการสีหน้าของนางไม่มีการเปลี่ยนแปลงด ๆ แต่นางมีความคิดแวบขึ้นมาในใจ เป็นเพราะมันชอบพื้นที่น้ำพุวิเศษหรือไม่ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันจึงเชื่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 449

    หลังจากเฟิงเหยียนได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน เขาเลิกคิ้วขึ้นและมองหนอนพิษกู่ในมือของเขาเห็นได้ชัดว่ามันเป็นเพียงหนอนพิษกู่ตัวหนึ่ง แต่ทำไมเขาถึงมองอะไรในดวงตาพวกนั้นล่ะแต่มันน่าทึ่งมาก แม้แต่เฟิงเหยียนก็ยังมองเห็นความสมเพชเล็กน้อยในดวงตาของมันอย่างอธิบายไม่ถูกดูเหมือนมันกำลังขอความช่วยเหลือจากจั๋วซือหรานจริง ๆ“เป็นไปได้” เฟิงเหยียนกล่าวจั๋วซือหรานยื่นมือไปหาขนมชาม อย่างที่นางคิดไว้จริง ๆ ทันทีที่นางยื่นมือไปหาขนมชาม ทันใดนั้นขนมชามก็เริ่มบิดตัวและต่อสู้อย่างรุนแรงในมือของเฟิงเหยียนพลังนั้นแข็งแกร่งมากจนเฟิงเหยียนแทบจะจับมันไม่ไหวเฟิงเหยียนไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายมัน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้บีบมันแรง ๆ ดังนั้นมันจึงหลุดออกจากนิ้วของเฟิงเหยียน อย่างรวดเร็วหลังจากหลุดออกมา ในกลางอากาศ หนวดโปร่งใสบนร่างกายของมันก็พองขึ้นทันทีแต่มันไม่ได้กลายเป็นหนามแหลมคมเหมือนที่มันเคยเตือนเฟิงเหยียนมาก่อนแต่มันกลับกลายเป็นหนวดที่อ่อนนุ่ม และทันใดนั้นก็เกี่ยวมือของจั๋วซือหรานจากนั้นมันก็สั้นลงอย่างรวดเร็ว ปิดระยะห่างระหว่างตัวมันกับจั๋วซือหรานอย่างรวดเร็วหนวดเหล่านั้นนิ่มมาก และไม่เพียงแต่นา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 450

    “ฮะ” จั๋วซือหรานได้ยินเสียงของเขา นางจึงเงยหน้าขึ้นและมองเขา จากนั้นนางส่ายหัวเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร ข้าแค่รู้สึกว่าในใต้หล้านี้มีสิ่งมหัศจรรย์ทุกประเภท หนอนพิษกู่ที่ดุเช่นนี้กลับชอบข้ามากจริง ๆ บางทีข้าอาจจะสามารถประสบความสำเร็จในทักษะการเล่นพิษกู่ได้นะ”เฟิงเหยียนมองไปที่จั๋วซือหราน "หากเจ้าประสบความสำเร็จในทักษะการเล่นพิษกู่ แล้วเจ้าจะทำอย่างไรต่อ"“แน่นอนว่าข้าต้องล้างแค้นด้วยวิธีที่อีกฝ่ายใช้สิ ใครกล้าใช้หนอนพิษกู่มาใส่ร้ายข้า ข้าก็จะไม่ยอมให้มันใส่ร้ายข้าแน่นอน แต่...หากข้าได้ใช้เรื่องที่นางถนัดมาตบหน้านาง ข้าต้องสะใจแน่ ๆ”จั๋วซือหรานยิ้ม "เพราะนี่คือสิ่งที่ข้าทำมตลอด"นางไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อ เพราะนางเข้าใจได้ว่า เฟิงเหยียน ซึ่งเป็นซื่อจื่อของตระกูลเฟิง ตระกูลของเขาประสบเรื่องเช่นนี้ แม้ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างการเอาผลประโยชน์ของผู้อื่นหรือการที่ถูกผู้อื่นเอาผลประโยชน์ก็ตามแต่เขาไม่เหมือนจั๋วซือหราน เขาไม่ได้เลิกกับตระกูลโดยสิ้นเชิงดังนั้นเขากับตระกูลยังคงต้องประสบความรุ่งเรืองด้วยกันและความสูญเสียพร้อมกัน ดังนั้นในฐานะที่เป็นซื่อจื่อของตระกูล ตอนนี้เฟิงเหยียน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 451

    จากนั้นจั๋วซือหรานออกจากจวนตระกูลเฟิงเดิมทีนางอยากเดินออกจากประตูใหญ่ แต่เฟิงเหยียนให้เดินผ่านประตูลับที่สวนของเขา“จะได้ไม่ก่อเรื่องอื่น” เฟิงเหยียนกล่าวจั๋วซือหรานเข้าใจความหวังดีและการพิจารณาของเฟิงเหยียนเพราะแม้ว่านางช่วยตระกูลเฟิงพ้นจากความเสี่ยง แต่ก็เป็นความจริงอย่างที่... จั๋วซือหรานพูดเอง หากผู้ร้ายตัวจริงไม่ปรากฏตัวหนึ่งวันความผิดคงยังต้องตกอยู่ที่นาง จั๋วซือหรานแม้ว่าเหล่าผู้อาวุโสไม่ได้หาเรื่องนาง แถมพวกเขายังให้ปฏิบัติความเคารพและพูดสุภาพกับนางอย่างมาก แต่พวกเขาอาจอยากให้นางในจวนเฟิงและอยู่ใต้จมูกของพวกเขาได้หากจั๋วซือหรานต้องการออกจากจวนเฟิง เหล่าผู้อาวุโสคงไม่ดีใจหรอกนะแม้ว่าเหล่าผู้อาวุโสที่นางช่วยไว้ไม่พูดอะไรก็จริง แต่ในตระกูลใหญ่อย่างตระกูลเฟิงมีผู้อาวุโสหลาย ๆ คนดังนั้นจั๋วซือหรานจึงต้องเดินออกจากประตูลับในลานบ้านของเฟิงเหยียนนางจากไปอย่างไม่ลังเล และมุ่งหน้าไปยังทิศทางของ หน่วยสืบสวนพิเศษโดยตรงถนนและซอยที่หน่วยสืบสวนพิเศษตั้งอยู่มักจะไม่ค่อยมีคนเดินผ่านในตอนกลางวัน ตอนกลางคืนยิ่งไม่มีผู้คนเดินผ่านแถวนี้จั๋วซือหรานเดินบนถนนที่ 'ไม่มีคนอยู่' เส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 452

    “โห--!” คนคนหนึ่งส่งเสียงการหายใจไม่คล่องจากลำคอ ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความตกใจ เหมือนเขาไม่คาดคิดว่าจั๋วซือหรานจะทำเช่นนี้ส่วนอีกคนหนึ่งถูกบีบจนหายใจไม่คล่อง บัดนี้ใบหน้าของเขาแดงก่ำและคอเริ่มหนาการกระทำของคนทั้งสองคือการเอื้อมมือไปแงะมือของ จั๋วซือหรานออกจากคอของพวกเขา เพื่อให้นางไม่บีบคอพวกเขาเช่นนี้ต่อแต่พวกเขาไม่สามารถหลุดพ้นจากความแข็งแกร่งของ จั๋วซือหรานเลยและพวกเขารู้สึกว่าเมื่อเล็บของพวกเขากำลังเจาะเข้าไปในมือของจั๋วซือหราน มันเหมือนกับว่าพวกเขากำลังขุดเข้าไปในหยกหรือเครื่องลายครามบางชนิด เรียบและแข็งพวกเขาไม่สามารถทำให้มือของนางรับบาดเจ็บใด ๆจั๋วซือหรานกดคนสองคนเข้ากับกำแพง จากนั้นนางเอียงหัวและมองดูคนสองคนที่อยู่ข้างหน้านางแม้ว่าพวกเขาสวมเสื้อผ้าของแคว้นชาง แต่รูปร่างหน้าตาของพวกเขาก็มีลักษระต่างแดนอย่างเห็นได้ชัดจั๋วซือหรานเลิกคิ้ว "พวกเจ้าเอง"พวกเขาทั้งสองตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เหมือนพวกเขากำลังสับสนอย่างสิ้นเชิง พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่า จั๋วซือหราน จะพูดเช่นนี้ ฟังดูเหมือน...นางรู้จักพวกเขาเช่นนั้นหรือ“เจ้า... รู้จักเราหรือ” หนึ่งในนั้นอาจจะสับสนเล็กน้อย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 453

    ดวงตาของพวกเขาหดลง พวกเขาไม่กล้ามองเข้าไปในดวงตาของจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานดูดวงตาที่หดตัวของพวกเขา นางยิ้มจาง ๆ ไม่มีความอบอุ่นในรอยยิ้มของนางร้อยยิ้มนี้ทำให้พวกเขาทั้งสองรู้สึกพวกเขากำลังตกเป็นเป้าหมายของนักล่าที่กระหายเลือดมันน่าทึ่งมาก เด็กผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขาดูอ่อนโยนและไม่เป็นอันตรายเหมือนกับสัตว์กินพืชตัวเล็ก ๆแต่รัศมีที่เล็ดลอดออกมาจากร่างกายของนางทำให้ผู้คนรู้สึกดุร้ายและน่ากลัวยิ่งกว่าสัตว์ร้ายจั๋วซือหรานมองไปที่พวกเขาครู่หนึ่ง นางไม่รอคำตอบของพวกเขา นางพยักหน้าและพูดว่า "หากพวกเจ้าไม่ปฏิเสธ ข้าก็ถือว่าพวกเจ้ายอมแล้ว"ทันทีที่นางพูดเช่นนี้ หนึ่งในนั้นก็มีปฏิกิริยาและรู้ทันที บางทีพวกเขาปฏิเสธก็ได้เขารีบถาม “แล้วหากข้าปฏิเสธล่ะ”จั๋วซือหรานยกริมฝีปากขึ้นและยิ้ม เห็นได้ชัดว่านั่นเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เล็กน้อย เหมือน... นางจงใจล้อเลียนพวกเขานางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และพูดว่า "ข้าจะทำตัวเหมือนไม่ได้ยินคำปฏิเสธของเจ้า"ดวงตาของชายคนนี้ก็นูนขึ้นทันที อาจเป็นเพราะเขาไม่คิดว่าจะมีคนไร้เหตุผลขนาดนี้จั๋วซือหรานปล่อยคนคนหนึ่ง จากนั้นบุคคลนั้นก็กลอกตา เขาอาจคิดจะหนี

최신 챕터

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1277

    ขณะที่ตระหนักถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็ตระหนักได้ถึงอีกจุดหนึ่งถ้าบอกว่า ตนเองหลังจากนี้อยู่ห่างเขาไม่ได้ แต่หลังจากนี้ยังต้องการแสงแดดล่ะก็เช่นนั้นก็เท่ากับว่า...นางมองชายหนุ่มที่โผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม เห็นอักขระคำสาปประหลาดบนหน้าตาคนสมองทื่อนี้ ปรากฏขึ้นมาต่อเนื่อง หายไป แล้วก็โผล่ออกมารักษาแผลไฟไหม้...จั๋วซือหรานจึงเดินเข้าไปสองก้าวอย่างอดไม่อยู่ พอมาถึงตรงหน้าเขา ก็ยกมือขึ้นมาเบาๆเขาไม่ขยับ จ้องมองนางนิ่งจั๋วซือหรานแตะลงไปบนหน้าเขาเบาๆ ราวกับว่าแค่สัมผัสเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนางขมวดคิ้วแน่นเขามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานนิ่งงันไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "พลังวิญญาณของข้า ช่วยอะไรท่านไม่ได้แล้วหรือ"น่าจะเพราะตนเองตั้งท้องจนงงๆ ไปแล้วจริงๆ หรืออาจเป็นเพราะไม่พอใจเจ้าคนสมองมีปัญหาตรงหน้านี้ ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจอะไรมากกระทั่งถึงตอนนี้ จั๋วซือหรานจึงเพิ่งรู้สึกตัวพลังของตนเองก่อนหน้านี้ ทั้งๆ ที่สามารถบรรเทาอาการทำร้ายตนเองของเฟิงเหยียนได้แท้ๆ แล้วยังทำให้เขาต้านทานแสงแดดได้ระดับหนึ่งอีกด้วยแต่ตอนนี้ทำไมเหมือน...มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ?ทว่าเฟิงเหยียน ดูเหมือนจะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1276

    ขณะที่จั๋วซือหรานขมวดคิ้วคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงมุดเข้ามาด้วยกัน...กับเขาในผ้าห่มที่มืดสนิทนี้ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มๆ ดังขึ้นเสียงหัวเราะทุ้มต่ำ ในผ้าห่มมืดๆ ภายใต้ระยะใกล้ชิดที่แทบจะเบียดกันของคนทั้งสองนี้ จึงยิ่งชัดเจนเป็นพิเศษ...กระทั่งความหยาบกร้านแหบพร่าเล็กๆ ในน้ำเสียง ก็ยังชัดเจน ชัดเจนเอามากๆ!ยิ่งไปกว่านั้น เพราะความใกล้ชิดมากๆ ยังมีกระแสลมแผ่วๆ ที่เหมือนจะพัดผ่านข้างหูนางไปเหมือนกับแม้กระทั่งตอนที่เขาหัวเราะเสียงทุ้ม การสั่นสะเทือนของทรวงอก ตนเองก็ยังสัมผัสได้อย่างชัดเจนด้วย!จั๋วซือหรานกัดริมฝีปากเบาๆจึงได้ยินเสียงของตาคนสมองทื่อ ยังคงเป็นเส้นเสียงหยาบๆ ที่ชวนหลงใหลนั่นอยู่บอกกับนางว่า "นี่เจ้ากำลัง...เชื้อเชิญข้าหรือ?"จั๋วซือหรานเพิ่งตื่นขึ้นจากความฝันที่อยู่กับคนรัก ถือว่าถูกกวนให้ตื่นก็ได้ มีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่บ้างก็เรื่องปกติดังนั้นนางจึงไม่มีเวลามาปรับอารมณ์กับตาคนสมองทื่อนี่จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า "ข้าควรจะมองท่านถูกเผาตายทั้งเป็นไปซะ"ตาสมองทื่อนี่ก็ไม่รู้ทำไมผ่านไปคืนนึงนิสัยก็เปลี่ยนไป จู่ๆ อารมณ์ก็ดีขึ้นมาเสียอย่างนั้นบางทีคงเพร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1275

    จั๋วซือหรานได้ยินอารมณ์เจ็บปวดจากในน้ำเสียงเขา และได้ยินถึงอารมณ์เสียใจด้วยอันที่จริงสำหรับสำหรับอาการข้าหึงตัวข้าเองที่แปลกใหม่นี้ จั๋วซือหรานก็รู้สึกจนใจอยู่หน่อยๆ แล้วยังดูน่าขำอีกด้วยผลลัพธ์คือพอแหงนตามอง สีหน้ารอยยิ้มบนหน้าจั๋วซือหรานเหล่านั้น ก็แข็งทื่อไปทันทีอารมณ์ที่เรียกว่าความกังวล ก่อตัวขึ้นมาในดวงตามิน่าในน้ำเสียงเขาถึงมีความเจ็บปวดอยู่ตอนนี้ อักขระคำสาปปรากฏขึ้นบนตัวเขาแล้ว แสดงรูปลักษณ์ที่ประหลาดออกมา"นี่คือ..." จั๋วซือหรานยกมือมากำข้อมือเขาแต่นี่ไม่ใช่ความจริง เป็นแค่เขตแดนจิตใต้สำนึกบางอย่าง เป็นแค่ในความฝันเท่านั้น แน่นอนว่าจับชีพจรเขาไม่ได้"ไม่เป็นไร" บนสีหน้าชายหนุ่มแม้จะเต็มไปด้วยอักขระคำสาปประหลาด สายตาที่ก้มลงมามองนางกลับดูอบอุ่น "ไม่เป็นไร"เหมือนกลัวว่านางจะกังวล เขาจึงบอกว่าไม่เป็นไรขึ้นมาอีกครั้งจั๋วซือหรานตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง ขมวดคิ้วขึ้นมานิ้วโป้งของชายหนุ่มกดลงเบาๆ ที่หว่างคิ้วนาง นวดๆ เหมือนติดจะนวดคลายสีหน้าอารมณ์ที่ยุ่งเหยิงเหล่านั้นออก"พักผ่อนให้ดี กินข้าวให้ดีด้วย" เขาเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเบ้ปากเบาๆ เหลือบมองเขา "ถ้าหากเจ้าส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1274

    จั๋วซือหรานไม่ส่งเสียง ครู่เดียว จึงถอนใจเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า "อันที่จริง ข้าเองก็ไม่ได้ยืนหยัดขนาดนั้น แค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาจนตรอกจริงๆ ข้าก็ยังไม่อยากละทิ้งทั้งที่ยังไม่ได้ลอง"เฟิงเหยียนกอดนาง ในสีหน้ามีความเจ็บปวดเสียงยิ่งแหบพร่า เอ่ยขึ้นว่า "ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องมาเหยียบซ้ำรอยมารดาของข้า และข้าก็ไม่อยากให้ลูกของเราเติบโตมาเป็นเหมือนข้าด้วย หากเรื่องนี้ ไม่มีวิธีอื่นแก้ไขได้นอกจากปล่อยให้มีฝันร้ายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ...ข้าก็หวังให้ฝันร้ายนี้หยุดลงที่ตัวข้าพอ"เสียงของชายหนุ่มแหบพร่ามาก ในน้ำเสียง...ก็มีความสิ้นหวังที่ปิดไว้ไม่มิดอยู่ ทิ่มแทงเข้ามาที่ใจของจั๋วซือหรานต้องเป็นแบบไหนกันนะ...ถึงบีบคั้นให้คนดีๆ ที่หยิ่งทะนงและยอดเยี่ยมคนหนึ่งตกอยู่ในสภาพนี้...ราวกับสัตว์ที่ถูกกักขังไว้จั๋วซือหรานมองเขา ครู่ต่อมา ก็ถอนหายใจเบาๆเอ่ยขึ้นว่า "จริงๆ แล้ว...เดิมทีข้าเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ การวางแผนและความคิดของข้าจึงไม่ได้เล่าใด้คนอื่นฟัง"เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แค่แหงนตามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานยิ้มๆ "ข้ารู้สึกจริงๆ ว่าไม่แน่ข้าอาจมีวิธี แม้ตอนนี้ข้ายังพูดถึงเหตุผลออกมาให้ชัดเจนไม่ได้ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status