Share

บทที่ 496

Penulis: หูเทียนเสี่ยว
เฟิงเหยียนเห็นนางลบสัญลักษณ์เหล่านั้น การกระทำและสีหน้าของนางทำให้เขามักรู้สึกว่า เรื่องนี้ทำได้ง่ายอย่างที่คนทั่วไปกินข้าวและตื่มน้ำ นางยังคงรู้สึกมหัศจรรย์อยู่เล็กน้อย

อันที่จริง เฟิงเหยียนก็เคยเห็นนางทำเช่นนี้มาก่อนแล้ว

ก่อนหน้านี้ เมื่อจั๋วเสียวจิ่วตระหนักว่าแผนของนางถูกทำลายโดยสายลับในค่ายป้องกันเมือง ซึ่งนางไม่ทันสังเกตสายลับผู้นั้น และสายลับผู้นี้ต้องไปรายงานคนเบื้องหลัง

สีหน้าของนาง...ราวกับว่านางโกรธอย่างมากหลังจากนางแพ้ในการเล่นพ่าย เห็นได้ชัดว่ามีสีหน้าเช่นนี้อยู่บนใบหน้าของนาง

เฟิงเหยียนไม่เคยเห็นสีหน้าเช่นนี้อยู่บนใบหน้าของนางเลย

เพราะที่ตลอดผ่านมา นางมักมีสีหน้าที่ดูสงบและเก็บตัวหรือเย่อหยิ่ง

นางไม่เคยมีสีหน้ามาก่อน แก้มของนางปูดด้วยความโกรธ และนางขมวดคิ้วให้แน่น

ราวกับว่าบนใบหน้าของนางได้เขียนว่า ข้าไม่สบายใจ ข้าไม่สบายใจ ข้าโกรธ ข้าโกรธ

เมื่อเห็นนางเป็นเช่นนี้ เฟิงเหยียนรู้สึก... อยากหัวเราะเล็กน้อยอย่างอธิบายไม่ถูก

จากนั้นนางก็นำหนอนทีละตัวด้วยออกมาด้วยความโกรธ นางไม่สนใจจะมีความเสี่ยงหรือไม่ และไม่สนใจนางจะถูกหนอนเหล่านั้นทำร้ายตัวเองหรือไม่

ราวกับว่านางไม่ส
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 497

    จั๋วซือหรานได้ยินคำพูดนี้ จากนั้นนางก็ยิ้มและพูดว่า "หากท่านอ๋องอยากชมข้า ท่านอ๋องพูดตรงได้เลยเจ้าค่ะ"เฟิงเหยียนมองเข้าไปในดวงตาที่มืดมนและเป็นประกายของนาง เขาเงียบสองสามวินาทีแล้วจึงเปิดริมฝีปากของเขาแล้วพูดว่า " จั๋วเสียวจิ่ว เจ้าเก่งเหลือเกิน"จั๋วซือหรานกระพริบตาใส่เขา " ท่านอ๋องอยากเห็นอะไรที่เก่งกว่านี้ไหมเจ้าคะ"เฟิงเหยียนยอมรับว่าเขาผ่านประสบการณ์มามากจนไม่สามารถแม้แต่จะไว้วางใจพ่อของเขา ซึ่งผู้มีความเกี่ยวข้องกับเขาทางสายเลือด และตระกูลที่เขาเติบโตมาด้วยเกียรติและความอับอาเช่นเดียวกันดังนั้นเขาจึงสงบสติอารมณ์ได้ดีมาก และดูเหมือนว่าหาได้น้อยมากที่มีอะไรที่สามารถทำให้เขามีอารมณ์ใด ๆดูเหมือนว่าเขาจะสูญเสียความอยากรู้อยากเห็นในทุกสิ่งไปแล้วหากผู้คนสูญเสียความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับโลกและทุกสิ่ง คนเช่นนี้จะน่าสงสารมากแต่หลังจากเขาพบกับจั๋วซือหราน ดูเหมือนทุกอย่างเปลี่ยนไป และเขาก็ไม่แน่ใจเขายังเป็นคนเช่นเดิมเพราะหญิงประหลาดคนนี้ดูเหมือนจะสามารถปลุกเร้าอารมณ์ของเขาได้อย่างง่ายดายเขาไม่สามารถสงบสติอารมณ์เหมือนเมื่อก่อนได้อีกต่อไป และเขาไม่เหมือนเมื่อก่อน ซึ่งไม่สนใจท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 498

    ส่วนหนอนพิษกู่ร้อยไหมที่นางจับได้จากนายพลฉีฮ่าว และนายพลยิงส้าว ขนมหยกขาวและขนมก้อนเมฆกลับไม่มีแสงสว่างเช่นนี้เฟิงเหยียนเงียบไปครู่หนึ่งอาจเป็นเพราะเขากำลังคิดถึงความเป็นไปได้ที่สถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นและดูเหมือนว่าเขาจะตอบสนองอย่างรวดเร็วเฟิงเหยียนกระซิบ “พวกเขาดูดซับพลังของเฟิงช่าน เฟิงจู๋ และอีกสองคน…”จั๋วซือหรานเอื้อมมือไปจิ้ม 'ขนมมะม่วง' เบา ๆ แล้วพูดเบา ๆ ว่า "ไม่ใช่แค่นี้"อาจเป็นเพราะระยะของสองคนนี้อยู่ใกล้กัน จนพวกเขาไม่ต้องพูดเสียงดัง แม้ว่าพวกเขากระซิบกัน ก็สามารถให้ฝ่ายหนึ่งได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายเพียงแต่เสียงกระซิบทำให้คนคันหูเท่านั้นจากนั้นก็มีมืออันอ่อนโยนจับมือเขาไว้จั๋วซือหรานจับมือของเฟิงเหยียนเบา ๆ นางบีบนิ้วของเขาแล้ววางลงบน 'ขนมมะม่วง'เนื่องจากนางปราบหนอนพิษกู่ร้อยไหมเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่ พวกมันจึงไม่เป็นศัตรูกับเขาเมื่อมีจั๋วซือหรานอยู่ข้าง ๆเฟิงเหยียนสัมผัสได้อย่างชัดเจนจากปลายนิ้วของเขา ซึ่งค่อนข้างนุ่มนวลทันใดนั้นเขาก็เข้าใจว่าทำไมจั๋วเสียวจิ่วถึงชอบหยิกพวกมัน ดูเหมือนนางชอบหยิกพวกมันมากจากนั้นเฟิงเหยียนก็รู้สึกถึงความร้อนที่ผิดปกติจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 499

    เพียงแต่ตอนนี้จั๋วซือหรานมีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องจัดการ“เอาล่ะ ไปตลาดมืดกันต่อเลย” จั๋วซือหรานกล่าวว่า “ขนมที่อยู่ที่ตลาดมืดนั้น พลาดไม่ได้นะ”บางทีอาจเป็นเพราะนางคิดว่ามีกล่องสุ่มกำลังรอนางที่ตลาดมืด จั๋วซือหรานจึงรอไม่ไหวตอนนี้เฟิงเหยียนเชื่ออย่างเต็มที่ว่านางไม่รู้สึกน้อยใจเลยสำหรับความไม่ยุติธรรมที่นางต้องทนมา นางจะชดเชยเองเมื่อเทียบกับเรื่องซุบซิบของคนนอก ดูเหมือนว่าหญิงสาวเจ้าเล่ห์คนนี้จะรู้สึกมาโดยตลอดว่าสิ่งที่นางถืออยู่ในมือนั้นสำคัญกว่าเมื่อพวกเขากำลังจะมาถึงตลาดมืด จู่ ๆ เงาสีดำก็ปรากฏขึ้นข้าง ๆ พวกเขาแม้ว่าคนที่มาจะแต่งกายด้วยชุดสีดำ แต่ดูจากรายละเอียด มองออกได้ง่ายเลยว่าเขาเป็นผู้พิทักษ์เงาของเฟิงเหยียน“ท่านขอรับ” ผู้พิทักษ์เงาเรียกด้วยเสียงทุ้ม“มีอะไรหรือ” เฟิงเหยียนเหลือบมองเขาผู้พิทักษ์เงามองจั๋วซือหราน เขาอยากรายงานแแต่เห็นจั๋วซือหรานอยู่นี่นี่ เขาจึงลังเลที่จะพูดต่อ จั๋วซือหรานรู้เรื่องดี นางพูดกับเฟิงเหยียน"ท่านอ๋อง เช่นนั้นข้าไปรอที่อื่นละกัน"แต่เฟิงเหยียนขมวดคิ้วและพูดว่า "ไม่เป็นไร" เขาบอกผู้พิทักษ์เงาว่า "บอกได้เลย""ขอรับ" ผู้พิทักษ์เงารับค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 500

    “ฮะ” จั๋วซือหรานเงยหน้าขึ้นและสบตากับดวงตาอันลึกซึ้งของเฟิงเหยียน“สำหรับเจ้า เรื่องนี้ไร้สาระและไม่ยุติธรรม เจ้าทนได้ แต่ให้ข้าอยู่เฉย ๆ โดยไม่ทำอะไร ข้าทนไม่ได้ ตอนนี้ข้ากลับจวนเฟิงเดี๋ยวนี้ พวกเขาจะได้ไม่มีการกระทำมากกว่านี้”เฟิงเหยียนกล่าวจั๋วซือหรานคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นนางพยักหน้า "ก็ได้"นางคิดถึงตำแหน่งของของเฟิงเหยียน และพูดกับเฟิงเหยียนว่า "แต่... หากเรื่องนี้ต้องทำให้ท่านอ๋องลำบากใจ และทำอะไรไม่ได้ ไม่เป็นไรหรอก"ไม่ใช่เพราะว่านางเป็นนักบุญ จั๋วซือหรานยิ้ม “ข้าไม่ใช่คนไร้ความสามารถเสียหน่อย และฉันก็ไม่ใช่คนที่จะถูกคนรังแกได้ง่าย หากใครอยากรังแกข้า พวกเขาจะต้องชดใช้อย่างแน่นอน ดังนั้นไม่ต้องกังวลนะ ท่านอ๋อง”“สิ่งที่ตระกูลเฟิงทำได้และต้องการทำในตอนนี้คือพวกเขาอยากยกเลิกการหมั้นหมายของเรา”จั๋วซือหรานกล่าวกับเฟิงเหยียน "สัญญาการแต่งงานระหว่างข้ากับท่านอ๋องเดิมเป็นข้อตกลงระหว่างเจ้าและข้า ข้ารักษาอาการป่วยเรื้อรังของท่านอ๋อง และท่านอ๋องก็ทำสัญญาการหมั้นกับข้า ข้าจะได้พ้นตัวจากการควบคุมของตระกูลจั๋ว ”“ตอนนี้ ข้าและตระกูลจั๋วได้แยกทางกันแล้ว สัญญาการหมั้นนี้จะมีหรือไม่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 501

    ผู้พิทักษ์เงาคิดอยู่ครู่หนึ่งและกระซิบปลอบใจเจ้านาย "ท่านขอรับ ท่านไม่ต้องกังวลมากเกินไป เมื่อครู่นี้แม่นางจิ่วบอกว่า แม้ว่ายกเลิกการหมั้นหมายแล้ว แต่แม่นางก็ยังคงรักษาท่าน"ผู้พิทักษ์เงาเป็นคนไร้เตียงสามาก เขาคิดแค่ว่าเจ้านายของเขาอาจกังวลว่าหากเจ้านายถอนการหมั้นกับแม่นางจิ่ว หรือหากตระกูลเฟิงทำให้แม่นางจิ่วขุ่นเคือง แม่นางจิ่ว จะไม่รักษาอาการบาดเจ็บของเขาอีกหรือเพราะพวกเขาล้วนเป็นผู้พิทักษ์เงาที่ภักดีต่อเฟิงเหยียน และพวกเขารู้ดีว่าเจ้านายของพวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานมากเพียงใดจากอาการบาดเจ็บที่ทำร้ายตัวเองดังนั้นเขาจึงคิดอยู่ครู่หนึ่งและปลอบใจเฟิงเหยียน ว่า "ข้าน้้อยรู้สึกว่าแม่นางจิ่วเป็นคนที่ทำตามคำพูดของตัวเอง ในเมื่อแม่นางบอกว่าแม่นางฃยังคงรักษาท่านต่อ ข้าน้อยเชื่อว่าแม่นางจะรักษาท่านต่ออย่างแน่นอน"เฟิงเหยียนไม่ได้พูดอะไรเมื่อได้ยินคำพูดของผู้พิทักษ์เงา เขาเพียงมองผู้พิทักษ์เงาอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาคมราวกับมีดผู้พิทักษ์เงาหดคอของเขา โดยไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรผิดไปชั่วขณะหนึ่งเราพูดอะไรผิดนะผู้พิทักษ์เงาคิดในใจว่าอย่าบอกนะ เจ้านายอยากแต่งงานกับแม่นางจิ่วจริง ๆ นะ......จั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 502

    ดังนั้นนางจึงไปสึกษาสถานการณ์ของสนามแข่งมาโดยตลอด นางเคยได้ยินชื่อของเฮยหลิงเขาเป็นผู้นำสนามประลองสนามแข่งสถานที่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาโดยตลอดเนื่องจากความกดดันของการแข่งขันสูงมาก ตามความเข้าใจของจั๋วซือหราน เพื่อให้นักพนันคว้าเงินในกระเป๋าออกมามากขึ้น สนามฝึกซ้อมจะสร้างจุดดึงดูดการแข่งขันมีลูกเล่นมากขึ้นตัวอย่างเช่น ผู้แข่งคนหนึ่งเสร็จสนามหนึ่งแล้ว และเขาชนะด้วย จากนั้นหากผู้ชมต้องการเดิมแต้มเยอะขึ้น พวกเขาจะให้ผู้แข่งคนนั้นไปแข่งกับคู่ต่อสู้คนถัดไปต่อประมาณว่าให้ผู้แข่งคนนั้นดวลเรื่อย ๆแต่พลังของมนุษย์มีจำกัด หากผู้แข่งสามารถชนะสนามหนึ่งได้ เขาอาจไม่สามารถชนะสนามต่อไปได้และแม้ว่าเขาจะชนะสนามถัดไป แล้วสนามถัดไปอีกล่ะจะมีบางครั้งที่ต้องเล่นใหญ่เลย และหากผู้แข่งบางคนเดือดร้อนเงินจริง ๆ บางครั้งก็จะตกลงที่จะยอมแข่งดวลเรื่อย ๆยิ่งมีผลประโยชน์มากเท่าไร ก็ยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้นเท่านั้นมักมีคนต่อสู้ไปหลายสนาม เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและกลายเป็นคนพิการ จากนั้นเขาก็ถอนตัวออกจากสนามแข่งด้วยตัวเองนี่ยังถือว่าเป็นจุดจบที่ดี อย่างน้อยผู้แข่งคนนี้ยังสามารถใช้ชีวิตที่เหลือไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 503

    ส่วนอีกด้านหนึ่ง เจาหมิ่นกลับมาที่วังแล้ว“องค์หญิง...” สาวใช้ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนั้นสำเร็จแล้ว เมื่อเห็นเจาหมิ่นกลับมา นางก็รีบเข้ามาต้อนรับทันทีแต่เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเจาหมิ่น นางทราบเลยว่าสถานการณ์อาจไม่ดีอย่างที่นางคาดไว้"องค์หญิงเป็นอะไรพ่ะย่ะค่ะ"“ไม่เป็นไร” เสียงของเจาหมิ่นทุ้มลึก “หย่าซู่ ข้าอเข้าไปในห้องลับของห้องใต้ดิน เจ้าเก็บสัมภาระที่จำเป็นให้ข้า”สาวใช้ส่วนตัวที่ชื่อหย่าซู่ตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มอย่างรวดเร็ว “รับทราบพ่ะย่ะค่ะ”เจาหมิ่นเดินไปที่เตียงกล่องในห้องส่วนตัวของนาง และเปิดประตูลับที่นำไปสู่ห้องลับของห้องใต้ดินห้องลับนั้นมีกลิ่นเหม็นอับสีเข้มเจาหมิ่นเดินลงบันไดจากทางเข้าประตูลับ และแสงเทียนสลัว ๆ ส่องสว่างในห้องใต้ดินแสงสลัว ๆ ส่องสว่างในห้องลับของห้องใต้ดินมีชั้นวางของบนผนังโดยมีกล่องกู่ต่าง ๆ อยู่บนนั้นแต่บนพื้นดินมีหลุมขนาดใหญ่ที่มีฝาปิดไว้ ใต้ฝามีหลุมฆ่า(หลุมฆ่าเป็นวิธีการลงโทษคนในสมัยราชวงศ์ซางของโบราณจีน โดยให้ผู้ที่กระทำผิดแก้ผ้า และลงในหลุมที่เต็มไปด้วยงู แมงป่องและสัตว์ต่าง ๆ ที่มีพิษ ปล่อนให้พวกเขาค่อย ๆ ตายไป)บนพื้นดินอีกด้านหนึ่ง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 504

    “ไม่เป็นไร ในเมื่อแผนนี้ไม่สำเร็จ แสดงว่าแคว้นชางไม่ปลอดภัยอีกต่อไปเป็นชั่วคราว เจ้าถอนตัวออกไปได้” เสียงจากอีกด้านพูดเช่นนี้สีหน้าของเจาหมิ่นเต็มไปด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย "ท่านจะไม่... ลงโทษหมิ่นหมิ่นหรือเจ้าคะ"“สำหรับการลงโทษเจ้า รอเจ้ากลับมาก่อน ค่อยลงโทษเจ้า นั่นก็ไม่สายหรอก ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าเจ้าล้มเหลวในคราวนี้ แต่เจ้ายังได้นำข่าวที่เป็นประโยชน์กลับมาอีกด้วย”“ศัตรูเจ้าเล่ห์ที่เจ้าพบในครวนี้...แม่กู่ที่เจ้าได้มากจากมือของบันหยูนของหุบเขาหมื่นพิษยังเอาชนะคู่ต่อสู้รายนี้ไม่ได้ แสดงว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ที่ฉลาดและน่าสนใจ”“เมื่อมีนางอยู่ที่นี่ มันอาจไม่ง่ายเลยที่จะเข้าไปถึงพลังศักดิ์สิทธิ์ของหงส์แดง ดังนั้นเจ้าถอนตัวออกไปก่อน”เจาหมิ่นกัดริมฝีปากของนางด้วยสายตาที่ไม่เต็มใจ นางทุ่มเทอย่างมาก นางแทบไม่ได้ยินคำชมเชยจากเจ้านายของนางเลยแต่จั๋วซือหรานคนนั้น...เจาหมิ่นแอบโกรธแค้นจั๋วซือหราน แต่นางไม่ได้แสดงความเกลียดชังนี้บนใบหน้า นางพูดด้วยน้ำเสียงที่สุภาพและเคารพว่า "หมิ่นหมิ่นรับคำสั่งเจ้าค่ะ"ค่ายกลที่ส่องแสงแวววาวอยู่บนพื้นนั้นค่อย ๆ ดับลงราวกับว่าตรงนี้ไม่เคยมีแสงสว่างม

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1277

    ขณะที่ตระหนักถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็ตระหนักได้ถึงอีกจุดหนึ่งถ้าบอกว่า ตนเองหลังจากนี้อยู่ห่างเขาไม่ได้ แต่หลังจากนี้ยังต้องการแสงแดดล่ะก็เช่นนั้นก็เท่ากับว่า...นางมองชายหนุ่มที่โผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม เห็นอักขระคำสาปประหลาดบนหน้าตาคนสมองทื่อนี้ ปรากฏขึ้นมาต่อเนื่อง หายไป แล้วก็โผล่ออกมารักษาแผลไฟไหม้...จั๋วซือหรานจึงเดินเข้าไปสองก้าวอย่างอดไม่อยู่ พอมาถึงตรงหน้าเขา ก็ยกมือขึ้นมาเบาๆเขาไม่ขยับ จ้องมองนางนิ่งจั๋วซือหรานแตะลงไปบนหน้าเขาเบาๆ ราวกับว่าแค่สัมผัสเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนางขมวดคิ้วแน่นเขามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานนิ่งงันไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "พลังวิญญาณของข้า ช่วยอะไรท่านไม่ได้แล้วหรือ"น่าจะเพราะตนเองตั้งท้องจนงงๆ ไปแล้วจริงๆ หรืออาจเป็นเพราะไม่พอใจเจ้าคนสมองมีปัญหาตรงหน้านี้ ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจอะไรมากกระทั่งถึงตอนนี้ จั๋วซือหรานจึงเพิ่งรู้สึกตัวพลังของตนเองก่อนหน้านี้ ทั้งๆ ที่สามารถบรรเทาอาการทำร้ายตนเองของเฟิงเหยียนได้แท้ๆ แล้วยังทำให้เขาต้านทานแสงแดดได้ระดับหนึ่งอีกด้วยแต่ตอนนี้ทำไมเหมือน...มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ?ทว่าเฟิงเหยียน ดูเหมือนจะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1276

    ขณะที่จั๋วซือหรานขมวดคิ้วคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงมุดเข้ามาด้วยกัน...กับเขาในผ้าห่มที่มืดสนิทนี้ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มๆ ดังขึ้นเสียงหัวเราะทุ้มต่ำ ในผ้าห่มมืดๆ ภายใต้ระยะใกล้ชิดที่แทบจะเบียดกันของคนทั้งสองนี้ จึงยิ่งชัดเจนเป็นพิเศษ...กระทั่งความหยาบกร้านแหบพร่าเล็กๆ ในน้ำเสียง ก็ยังชัดเจน ชัดเจนเอามากๆ!ยิ่งไปกว่านั้น เพราะความใกล้ชิดมากๆ ยังมีกระแสลมแผ่วๆ ที่เหมือนจะพัดผ่านข้างหูนางไปเหมือนกับแม้กระทั่งตอนที่เขาหัวเราะเสียงทุ้ม การสั่นสะเทือนของทรวงอก ตนเองก็ยังสัมผัสได้อย่างชัดเจนด้วย!จั๋วซือหรานกัดริมฝีปากเบาๆจึงได้ยินเสียงของตาคนสมองทื่อ ยังคงเป็นเส้นเสียงหยาบๆ ที่ชวนหลงใหลนั่นอยู่บอกกับนางว่า "นี่เจ้ากำลัง...เชื้อเชิญข้าหรือ?"จั๋วซือหรานเพิ่งตื่นขึ้นจากความฝันที่อยู่กับคนรัก ถือว่าถูกกวนให้ตื่นก็ได้ มีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่บ้างก็เรื่องปกติดังนั้นนางจึงไม่มีเวลามาปรับอารมณ์กับตาคนสมองทื่อนี่จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า "ข้าควรจะมองท่านถูกเผาตายทั้งเป็นไปซะ"ตาสมองทื่อนี่ก็ไม่รู้ทำไมผ่านไปคืนนึงนิสัยก็เปลี่ยนไป จู่ๆ อารมณ์ก็ดีขึ้นมาเสียอย่างนั้นบางทีคงเพร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1275

    จั๋วซือหรานได้ยินอารมณ์เจ็บปวดจากในน้ำเสียงเขา และได้ยินถึงอารมณ์เสียใจด้วยอันที่จริงสำหรับสำหรับอาการข้าหึงตัวข้าเองที่แปลกใหม่นี้ จั๋วซือหรานก็รู้สึกจนใจอยู่หน่อยๆ แล้วยังดูน่าขำอีกด้วยผลลัพธ์คือพอแหงนตามอง สีหน้ารอยยิ้มบนหน้าจั๋วซือหรานเหล่านั้น ก็แข็งทื่อไปทันทีอารมณ์ที่เรียกว่าความกังวล ก่อตัวขึ้นมาในดวงตามิน่าในน้ำเสียงเขาถึงมีความเจ็บปวดอยู่ตอนนี้ อักขระคำสาปปรากฏขึ้นบนตัวเขาแล้ว แสดงรูปลักษณ์ที่ประหลาดออกมา"นี่คือ..." จั๋วซือหรานยกมือมากำข้อมือเขาแต่นี่ไม่ใช่ความจริง เป็นแค่เขตแดนจิตใต้สำนึกบางอย่าง เป็นแค่ในความฝันเท่านั้น แน่นอนว่าจับชีพจรเขาไม่ได้"ไม่เป็นไร" บนสีหน้าชายหนุ่มแม้จะเต็มไปด้วยอักขระคำสาปประหลาด สายตาที่ก้มลงมามองนางกลับดูอบอุ่น "ไม่เป็นไร"เหมือนกลัวว่านางจะกังวล เขาจึงบอกว่าไม่เป็นไรขึ้นมาอีกครั้งจั๋วซือหรานตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง ขมวดคิ้วขึ้นมานิ้วโป้งของชายหนุ่มกดลงเบาๆ ที่หว่างคิ้วนาง นวดๆ เหมือนติดจะนวดคลายสีหน้าอารมณ์ที่ยุ่งเหยิงเหล่านั้นออก"พักผ่อนให้ดี กินข้าวให้ดีด้วย" เขาเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเบ้ปากเบาๆ เหลือบมองเขา "ถ้าหากเจ้าส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1274

    จั๋วซือหรานไม่ส่งเสียง ครู่เดียว จึงถอนใจเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า "อันที่จริง ข้าเองก็ไม่ได้ยืนหยัดขนาดนั้น แค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาจนตรอกจริงๆ ข้าก็ยังไม่อยากละทิ้งทั้งที่ยังไม่ได้ลอง"เฟิงเหยียนกอดนาง ในสีหน้ามีความเจ็บปวดเสียงยิ่งแหบพร่า เอ่ยขึ้นว่า "ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องมาเหยียบซ้ำรอยมารดาของข้า และข้าก็ไม่อยากให้ลูกของเราเติบโตมาเป็นเหมือนข้าด้วย หากเรื่องนี้ ไม่มีวิธีอื่นแก้ไขได้นอกจากปล่อยให้มีฝันร้ายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ...ข้าก็หวังให้ฝันร้ายนี้หยุดลงที่ตัวข้าพอ"เสียงของชายหนุ่มแหบพร่ามาก ในน้ำเสียง...ก็มีความสิ้นหวังที่ปิดไว้ไม่มิดอยู่ ทิ่มแทงเข้ามาที่ใจของจั๋วซือหรานต้องเป็นแบบไหนกันนะ...ถึงบีบคั้นให้คนดีๆ ที่หยิ่งทะนงและยอดเยี่ยมคนหนึ่งตกอยู่ในสภาพนี้...ราวกับสัตว์ที่ถูกกักขังไว้จั๋วซือหรานมองเขา ครู่ต่อมา ก็ถอนหายใจเบาๆเอ่ยขึ้นว่า "จริงๆ แล้ว...เดิมทีข้าเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ การวางแผนและความคิดของข้าจึงไม่ได้เล่าใด้คนอื่นฟัง"เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แค่แหงนตามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานยิ้มๆ "ข้ารู้สึกจริงๆ ว่าไม่แน่ข้าอาจมีวิธี แม้ตอนนี้ข้ายังพูดถึงเหตุผลออกมาให้ชัดเจนไม่ได้ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status