Share

บทที่ 499

Penulis: หูเทียนเสี่ยว
เพียงแต่ตอนนี้จั๋วซือหรานมีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องจัดการ

“เอาล่ะ ไปตลาดมืดกันต่อเลย” จั๋วซือหรานกล่าวว่า “ขนมที่อยู่ที่ตลาดมืดนั้น พลาดไม่ได้นะ”

บางทีอาจเป็นเพราะนางคิดว่ามีกล่องสุ่มกำลังรอนางที่ตลาดมืด จั๋วซือหรานจึงรอไม่ไหว

ตอนนี้เฟิงเหยียนเชื่ออย่างเต็มที่ว่านางไม่รู้สึกน้อยใจเลย

สำหรับความไม่ยุติธรรมที่นางต้องทนมา นางจะชดเชยเอง

เมื่อเทียบกับเรื่องซุบซิบของคนนอก ดูเหมือนว่าหญิงสาวเจ้าเล่ห์คนนี้จะรู้สึกมาโดยตลอดว่าสิ่งที่นางถืออยู่ในมือนั้นสำคัญกว่า

เมื่อพวกเขากำลังจะมาถึงตลาดมืด จู่ ๆ เงาสีดำก็ปรากฏขึ้นข้าง ๆ พวกเขา

แม้ว่าคนที่มาจะแต่งกายด้วยชุดสีดำ แต่ดูจากรายละเอียด มองออกได้ง่ายเลยว่าเขาเป็นผู้พิทักษ์เงาของเฟิงเหยียน

“ท่านขอรับ” ผู้พิทักษ์เงาเรียกด้วยเสียงทุ้ม

“มีอะไรหรือ” เฟิงเหยียนเหลือบมองเขา

ผู้พิทักษ์เงามองจั๋วซือหราน เขาอยากรายงานแแต่เห็นจั๋วซือหรานอยู่นี่นี่ เขาจึงลังเลที่จะพูดต่อ จั๋วซือหรานรู้เรื่องดี นางพูดกับเฟิงเหยียน"ท่านอ๋อง เช่นนั้นข้าไปรอที่อื่นละกัน"

แต่เฟิงเหยียนขมวดคิ้วและพูดว่า "ไม่เป็นไร" เขาบอกผู้พิทักษ์เงาว่า "บอกได้เลย"

"ขอรับ" ผู้พิทักษ์เงารับค
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1373

    พอเดินเข้ามาในโรงเตี๊ยม จั๋วซือหรานก็พบว่า ไม่ใช่แค่คนน้อยเท่านั้น โรงเตี๊ยมนี้นอกจากพวกเขาแล้ว ไม่มีแขกคนอื่นอยู่เลยประหยัดเรื่องที่นางคิดจะเช่าเหมาไปเลยเหลียนเจินเดินเข้ามา บอกกับนางว่า "ข้าน้อยเดิมทียังคิดว่า นี่จัดการให้เพราะเห็นแก่หน้าของนายท่านหรือเปล่า"ถ้าหากแม่ทัพเย่เจิง จัดการให้พวกเขาแบบนี้เพราะเห็นแก่หน้านาง มันก็ดูสมเหตุสมผลดีจั๋วซือหรานโบกมือเอ่ยขึ้น "ไม่หรอก ข้าเพิ่งจะไปยั่วโมโหเขามา...เขาไม่ชกข้าก็ถือว่าข่มใจได้มากแล้ว แล้วนี่ยังจะมาจัดแจงที่พักให้ข้าอีก...จะเป็นไปได้ยังไง"เหลียนเจินพอได้ยินคำนี้ของนายท่าน มุมปากก็กระตุก เหมือนอยากจะยิ้มแต่เพราะนิสัยที่ค่อนข้างจริงจัง ดังนั้นจึงไม่ได้ยิ้มออกมา"เช่นนั้นก็คงเพราะคนน้อยจริงๆ" เหลียนเจินเอ่ยขึ้น"คนน้อยมากจริงๆ " ปันอวิ๋นเดินเข้ามาจากประตู "ข้าเพิ่งไปเดินวนข้างนอกมา คนไม่ถือว่าเยอะมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้สึกว่า ประชาชนส่วนใหญ่จะเป็นคนพื้นที่ด้วย หรืออาจจะเป็นพวกครอบครัวของเหล่าทหารอะไรเทือกนั้น"จั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ ก็พยักหน้าว่าเข้าใจ "การโยกย้ายประชากรไม่เยอะ ดังนั้นโรงเตี๊ยมจึงเงียบเหงาสินะ""ก็ออกจะเงี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1372

    ชิ่งหมิงเดิมก็คิดจะยืมแรงนาง เพื่อลุกขึ้นยืนแต่หลังจากมือของเขาออกแรงกุมมือจั๋วซือหรานแล้ว ก็ไม่ได้ยืมแรงลุกขึ้น แต่ไม่ขยับเขยื้อนแค่จับมือนางไว้แบบนั้น การเคลื่อนไหวหยุดอยู่เท่านี้นางยืนอยู่ เขานั่งยอง ยื่นมือกุมมือนางไว้...ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในรูปร่างเด็กหนุ่มแบบก่อนหน้าแล้วแท้ๆ แต่ที่จั๋วซือหรานมองเขา...ก็ยังรู้สึกเหมือนว่าตนเองเห็นเด็กหนุ่มก่อนหน้าคนนั้นอยู่ท่าทางที่ทำอะไรไม่ค่อยถูกนั่น"เป็นอะไรไป?" จั๋วซือหรานถามชิ่งหมิงกดเสียงต่ำ เอ่ยขึ้นว่า "ข้าจะไปเมืองซื่อหนานกับเจ้า"จั๋วซือหรานหรือไม่พูดอะไร ยังคงก้มลงมองเขาชิ่งหมิงเอ่ยต่อว่า "ที่นั่นเป็นเมืองที่ชั่วร้าย ถึงแม้เจ้าจะแข็งแกร่งมาก เจ้าหุบเขากับใต้เท้าซือเจิ้งเองก็แข็งแกร่งมาก แต่ข้าก็ยังอยากไปกับพวกเจ้า"จั๋วซือหรานไม่พูดอะไร ยังคงมองเขา รอให้เขาพูดสิ่งที่อยากพูดออกมาให้หมด"ข้าไม่อยากเป็นคนที่ช่วยอะไรก้ไม่ได้" ชิ่งหมิงพูดคำนี้ออกมา น้ำเสียงกดลงต่ำมากฟังออกไม่ยาก ว่าอารมณ์เองก็ดิ่งเหมือนกันจั๋วซือหรานฟังออกถึงความดิ่งของเขา และฟังออกถึงความหมายของเขาเรื่องของเวินป๋อยวน ทรมานเขามาโดยตลอด ความรู้สึกโทษตัวเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1371

    เย่เจิงรู้อยู่แล้ว ว่ากองพันพยัคฆ์ทมิฬของตนเองประจำการอยู่เมืองลั่วหม่า ก็เพื่อคอยคุ้มกันเส้นพรมแดนใต้ไว้ป้องกันเพื่อนบ้านเข้ามาโจมตี และคอยป้องกันความวิ่นวายในซื่อหนานด้วยเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรก เขาเข้าใจเรื่องนี้ดีแต่จากคำพูดของใต้เท้าโหวหญิงตรงหน้าคนนี้ถ้านางเอาเมืองซื่อหนานมาได้ แล้วเขาไม่ได้รับคุณความดีใดๆ จากการช่วยเหลือล่ะก็ตอนนั้นทหารประจำการเมืองซื่อหนาน ก็จะต้องจัดสรรมาจากกองทัพสยบแดนใต้แน่นอนและตอนนั้นกองทหารประจำการเมืองซื่อหนาน ก็จะกลายเป็นเส้นแนวหน้าของพรมแดนใต้!เมืองลั่วหม่าเนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์ที่ป้องกันง่ายยากจะโจมตี ดังนั้นจึงกลายเป็นเมืองหน้าด่านไปตราบใดที่เมืองซื่อหนานยังป้องกันเอาไว้ได้ ตำแหน่งของเมืองลั่วหม่าอันที่จริงก็จะไม่มีแรงกดดันมากนักว่ายังไงดีล่ะ...มันจะกลายเป็นอะไรที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเอาน่ะสิตรงหน้าของเจ้ามีทหารประจำการตรึงแนวหน้าไว้แล้ว แล้วเจ้าจะยังเรียกตัวเองว่าเมืองหน้าด่านได้อีกหรือ?"ใต้เท้า ท่าน...!" เย่เจิงไม่เข้าใจคำพูดนี้ของจั๋วซือหรานที่ไหน ว่ามีการคุกคาม หยอกล่ออยู่จั๋วซือหรานยิ้มๆ มองเขา เหมือนไม่กลัวว่าเขาจะรู้สึกว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1370

    "ข้าไม่ได้มองเรื่องให้มันง่ายนะ ข้าก็แค่ค่อนข้างมีวิธีรับมือกับคนก็เท่านั้น"ดวงตาจั๋วซือหรานหรี่ลงเล็กน้อย หัวเราะเอ่ยขึ้นว่า "ขอแค่ยังเป็นมนุษย์ ก็จะต้องมีจุดอ่อน และมีสิ่งที่อยากได้อยู่ เขาอยากได้อะไร ข้าก็ให้สิ่งนั้นกับเขา กระทั่งให้มากขึ้นไปอีก รวมถึงสิ่งที่เขาไม่กล้าที่จะคิด ก็ส่งให้กับเขาด้วย เขาต้องติดกับแน่นอน"เย่เจิงถนัดเรื่องเดินทัพจัดกระบวนทัพ เรื่องพวกจู่โจมฉับพลัน แต่ไม่ใช่เรื่องการวางแผนต่อสู้ด้วยเล่ห์เหลี่ยมฟังถึงตรงนี้ เขาก็ไม่ค่อยเข้าใจขึ้นมา "ท่านหมายถึงอะไรหรือ...?"จั๋วซือหราน "เจ้าเมืองเนี่ยคนนั้น สิ่งที่ต้องการไม่ใช่ซื่อหนานหรือ? ที่ทำมาทั้งหมดก็เพื่อไม่หวังให้ใครมาสั่นคลอนการควบคุมเมืองซื่อหนานของเขา"เย่เจิงพอได้ยิน ก็พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดนี้และก็ได้ยินนางพูดต่อว่า "เช่นนั้น ข้าไม่เพียงแต่จะให้ซื่อหนานเขา แต่จะให้อำนาจที่ใหญ่กว่าในหลวนหนานกับเขาด้วย"ให้สิ่งที่เขาต้องการ แล้วค่อยให้สิ่งที่เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิด...พอเป็นเช่นนี้ การจะรับความเชื่อใจจากอีกฝ่าย ก็ง่ายขึ้นเยอะแล้วพอถึงตอนนัน เขื่อนยาวนับพันลี้ก็ยังต้องพังทลายเพราะรังมด พังลงมาจากภายใน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1369

    ได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน ใบหน้าเย่เจิงที่ดูเคร่งขรึมแน่วแน่มาตลอด กลับยิ้มบางๆ ออกมาไม่ใช่รอยยิ้มประชดประชัน แต่คล้ายกับได้ยินเรื่องอะไรที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนอย่างไรอย่างนั้นเย่เจิงเอ่ยขึ้น "ข้าประจำการในเมืองลั่วหม่ามาห้าปี ถ้านับรวมกับเวลาที่อยู่ในกองทัพสยบแดนใต้ด้วย ก็แปดปีได้แล้ว"นับตั้งแต่อายุสิบแปดจนถึงยี่สิบหก แปดปีเต็มแปดปีนี้ ข้าล้วนประจำการอยู่ที่ชายแดนพรมแดนใต้ ร่วมรบกับกองทัพสยบแดนใต้ เคยทั้งแพ้และชนะมาแล้วเรื่องเกี่ยวกับ พรมแดนใต้ ก็เคยเห็นมามาก"ข้าเคยเห็นคนที่เคยสาบานว่าจะจัดการกับหลวนหนาน พวกเขามีทั้งที่ย้ายกลับเมืองหลวงไปแล้ว และมีที่เกษียณกลับบ้านเกิดด้วย" ตอนที่เย่เจิงพูดถึงตรงนี้ ก็หยุดพูดไปจากนั้น เส้นเสียงของเขาก็เหมือนเย็นวาบลงมากะทันหัน "แต่คนที่สาบานว่าจะจัดการซื่อหนาน ถ้าไม่ตาย ก็คือหายสาบสูญ"จั๋วซือหรานฟังออกถึงความเย็นชาในเสียงเขา แต่ไม่ใช่ความเย็นชาเพื่อเตือนนางแต่กลับเป็นอีกแบบ...เหมือนรู้สกว่านางไม่ควรพูดถึงเรื่องนี้แบบส่งเดชไม่จริงจังเพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ว่าจะข้ามไปได้ง่ายๆ เรื่องนี้ อาจจะมีอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียวดังนั้นจั๋วซือหรานจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1368

    จั๋วซือหรานพอได้ยินคำนี้ก็หัวเราะขึ้นอย่างจนใจ นางเคยได้ยินคำชมต่อหน้าตาของนางมาไม่น้อยแต่วิธีพูดเป็นเอกลักษณ์แบบนี้ของเย่เจิง ก็เพิ่งจะเคยได้ยินเป็นครั้งแรก"แม่ทัพเย่พูดแบบนี้ดูจะไม่ค่อยเป็นธรรมเท่าไรนะ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "ข้าเป็นแบบนี้ไม่เหมือนคนสร้างวีรกรรมใหญ่ได้ แล้วต้องแบบไหนถึงจะสร้างวีรกรรมใหญ่ได้กัน?"เย่เจิงอ้าปากพะงาบ แต่ยังไม่ทันจะได้พูดเขาก็เห็นว่าหญิงสาวตรงหน้า มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม เอ่ยขึ้นว่า "ถ้าเด็ดหัวท่านได้ในสามกระบวน แบบนี้ดูใกล้เคียงไหม?"พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน เย่เจิงก็ตกตะลึง ปฏิกิริยาแรกก็คอื...หญิงสาวคนนี้ช่างโอหังนัก!และวินาทีต่อมา ร่างของจั๋วซือหรานก็หายไปจากจุดเดิมที่อยู่และตอนที่นางปรากฏตัวอีกครั้ง ระยะห่างของทั้งสองคนก็หายไปอย่างรวดเร็วพลังที่น่าเกรงขาม แทบจะพุ่งกดดันมาถึงตรงหน้า!เย่เจิงยกมือขึ้นปัดป้องกับตอบโต้ตามสัญชาตญาณ แต่นางลงมือได้แพรวพราว ทุกกระบวนท่ารู้สึกเหมือนปิดทางหนีของกระบวนท่าก่อนหน้าไปจนหมดตอนถึงกระบวนที่สาม นิ้วของนางก็กดอยู่ที่คอของเย่เจิงแล้วถ้าหากตอนนี้นิ้วของนางเป็นคมดาบล่ะก็ คงจะเด็ดหัวเขาไปได้จริงๆเย่เ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status