Share

บทที่ 769

Author: หูเทียนเสี่ยว
ซางถิงตอบ "ไม่มีใครมีข้อมูลเลย แค่พูดกันว่าเหมือนมีรถม้าหลายคนจอดอยู่ตรงนั้น ต่อมาก็มีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามา ขับรถม้าพวกนั้นออกไปแล้ว"

"เฟิงเหยียนล่ะ" จั๋วซือหรานถามขึ้น

ซางถิงส่ายหัว "ไม่ได้ยินว่ากลับไปที่บ้านเลย"

"แล้วคนที่ขับรถพวกนั้นออกไปคือใครกัน? มีเบาะแสบ้างมั๊ย" จั๋วซือหรานถาม

"ไม่มีเลย" ซางถิงคิดๆ เอ่ยต่อมาว่า "พอข้าคิดๆ ก็เลยไปหาข่าวที่ประตูเมืองมา รู้แค่ว่า มีรถม้าของตระกูลเฟิงออกไปแล้ว"

"ได้ ข้ารู้แล้ว ขอบคุณเจ้ามาก" จั๋วซือหรานพอฟังถึงจุดนี้ ก็ร้องเชอะหัวเราะขึ้นเสียงเย็นชา

นางสะบัดชายเสื้อ หมุนตัวเข้าไปในห้อง

ฉุนจวินกำลังเขียนหนังสือ บนหน้าผากมีเหงื่อผุดซึม

จั๋วซือหรานเดินเข้าไปพลางถามขึ้นว่า "คนที่จับนายท่านเจ้าไป คือคนของตระกูลเฟิงใช่ไหม?"

ฉุนจวินพอได้ยินคำนี้ ก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว จากนั้นก็พยักหน้าตอบเบาๆ

เขาก้มหน้า สีหน้ารู้สึกผิดมาก เขารีบเขียนกระดาษอย่างรวดเร็ว ยื่นส่งไปให้จั๋วซือหราน

จั๋วซือหรานกวาดมองผาดหนึ่ง ก็เห็นเนื้อหาที่เขียนว่า "คุณหนูจิ่ว ผิดที่ข้าเอง เพราะข้าบาดเจ็บ นายท่านเพื่อช่วยชีวิตข้า จึงเอาพลังวิญญาณที่ท่านให้ไปทั้งหมดส่งมาให้ข้า จากนั้นเขาก็
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1413

    คนหนุ่มเหล่านี้เองก็ตระหนักได้ ว่าคำตอบนี้สำคัญมากใต้เท้าคนนี้ แตกต่างกับพวกขุนนางพุงพลุ้ยไม่เห็นหัวใครแบบที่พวกเขาเคยเจอมาหลังจากพวกเขานิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ก็พยักหน้า"ได้ขอรับ""พวกเราทำได้ขอรับ"จั๋วซือหรานพอได้ยิน ก็เลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ในสีหน้ามีความสุขอยู่หน่อยๆสีหน้าแบบนี้แม้จะไม่ชัดเจนนัก แต่ความผ่อนคลายในสีหน้าก็เห็นได้อย่างชัดเจนสิ่งนี้ทำให้พวกเขารุ้สึก่วา ตนเองน่าจะตอบถูกแล้วครู่ต่อมา ก็เห็นใต้เท้าคนนี้ ส่งยาลูกกลอนหลายเม็ดมาตรงหน้าพวกเขา"เอ้า กินซะ จากนั้นอาการบาดเจ็บของพวกเจ้าก็จะบรรเทาลง" จั๋วซือหรานเชิดคางไปทางพวกคนใช้จวนเจ้าเมืองเอ่ยต่อว่า "จากนั้นพวกเจ้าก็ไปซัดคนพวกนั้นซะ วางใจได้ มีข้าอยู่ตรงนี้ พวกเขาไม่กล้าแตะต้องพวกคนแก่คนอ่อนแอของพวกเจ้าทางนี้หรอก"คนพวกนี้งงเป็นไก่ตาแตกจริงๆ ไม่ใช่แค่พวกเขา แต่คนทั้งหมดที่นี่ นอกจากพวกเฟิงเหยียนชิ่งหมิงที่เข้าใจนิสัยของจั๋วซือหรานแล้วคนอื่นทั้งหมดล้วนงงกันหมดยาลูกกลอน...ส่งให้พวกเขาแบบนี้เลยหรือ?ในมือพวกเขาล้วนสั่นระริกขึ้นมา หยิบยาลูกกลอนออกมาจากฝ่ามือของนางไม่ค่อยเข้าใจความหมายของนาง และยังจ้องมองนางเขม็ง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1412

    "เกิดเรื่องแล้ว?" จั๋วซือหรานยังงัวเงียอยู่ พอได้ยินเสียงนี้ จู่ๆ ก็ตื่นขึ้นมา "เกิดอะไรขึ้น?"จั๋วซือหรานลุกขึ้นมา กดบ่าเฟิงเหยียนไว้ "ท่านรออยู่ในห้อง ข้าไปดูก็พอ ไม่อะไรหรอก"แต่เฟิงเหยียนไม่วางใจ เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วตามออกไปพร้อมจั๋วซือหรานชิ่งหมิงบอกว่าคนของตลาดมืดทางนั้นมาแล้ว จากนั้นก็มีเรื่องกับคนของจวนเจ้าเมืองเข้าพูดแบบนี้ จั๋วซือหรานก็พอจะเดาได้แล้วว่าเรื่องอะไรมุมปากนางยกขึ้น "ไปดูกันเถอะ"พอมาถึงเรือนหน้าของจวนเจ้าเมือง ก็เห็นคนใช้ของจวนเจ้าเมืองเข้าแถวหน้ากระดาน ขวางไว้ด้านหน้าและด้านหน้าของพวกเขา ก็คือกลุ่มคนแก่เจ็บป่วยกลุ่มหนึ่ง...ก็ไม่เชิงขนาดนั้น ถึงยังไงก็เป็นเหล่าทาสอาชญากรที่จั๋วซือหรานซื้อไว้จากตลาดมืดเมื่อคืนนั่นล่ะพวกเขาถูกพวกค้าทาสในตลาดมืดส่งมาตั้งแต่เช้าตรู่พวกค้าทาสพวกนั้นเดิมทีคิดจะรอให้จั๋วซือหรานออกมาแล้วค่อยส่งให้นางเหมือนกันแต่พวกคนใช้จวนเจ้าเมืองแต่ละคนก็ดุกันอย่างกับผีร้ายพ่อค้าทาสเองก็ขี้เกียจจะเป็นคนชั่ว หลังจากปล่อยทาสอาชญากรพวกนี้แล้วก็ออกไปเลยตอนที่จั๋วซือหรานมาถึง ก็มองเห็นฉากเช่นนี้ครั้นจะบอกว่าสองฝ่ายคุมเชิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1411

    "ข้ารู้สึกว่า...น่าสนใจอยู่" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเฟิ่งหลานอารมณ์ยังดูกระวนกระวาย เดิมทีนางคิดว่าจะได้ยินคำปฏิเสธบ้างจากปากใต้เท้าคนนี้แต่จะอย่างไรก็คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้ยินคำวิจารณ์อย่าง 'น่าสนใจ' จากปากของนางนี่ทำให้อารมณ์ของนางเดิมทีที่กระวนกระวายอยู่แล้ว ยิ่งกระวนกระวายหนักขึ้นไปอีกแล้ว...มันหมายความว่าอย่างไร? ไม่มีการชี้นำอะไรเลยน่าสนใจนี่มันดีหรือไม่ดีกันแน่? ปฏิเสธหรือว่าตกลงกัน?เฟิ่งหลานชั่วขณะหนึ่งรู้สึกว่าหัวในเต้นขึ้นมาถึงคอหอยแล้วจากนั้นก็เห็นจั๋วซือหรานพยักหน้า "ได้ เช่นนั้นก็ตามมาแล้วกัน"ดวงตาของเฟิ่งหลานถลึงเบิกกว้าง ประกายในดวงตาทั้งหมดล้วนเป็นความตกตะลึงยินดี"ขอบคุณ! ขอบคุณใต้เท้า! ขอบคุณใต้เท้า!" เฟิ่งหลานรีบร้อนเอ่ยขึ้น "ข้าจะซื่อสัตย์ต่อใต้เท้าอย่างแน่นอน!"จั๋วซือหรานมองนาง "พ่อของเจ้าไม่ใช่ป่วยหนักหรือ?"เฟิ่งหลานตกตะลึง จากนั้นก็หยักหน้างึมงำ "...เจ้าค่ะ"เฟิ่งหลานเดิมทีคิดว่าจั๋วซือหรานที่เอ่ยถึงเรื่องนี้ คิดจะแสดงท่าทีว่าสนใจแค่นางนะ ไม่ได้สนใจพ่อของนางแต่พอคิดดูอีกที ก็เหมือนว่า...จะไม่ใช่อะไรแบบนั้นเพราะใต้เท้าก็ไม่ได้ปล่อยทิ้งพวกคนแก่อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1410

    ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้น "ข้าไม่ใช่ว่ารู้จัก ข้าแค่เคยได้ยินชื่อสกุลนี้ แค่คุ้นหูเท่านั้น"ปันอวิ๋นพูดต่อ มองไปทางเฟิ่งหลาน "เจ้าคือคนจากดินแดนทางใต้สินะ"เฟิ่งหลานพยักหน้าจั๋วซือหรานถามปันอวิ๋น ""นี่เป็นสกุลที่มีแค่ในดินแดนทางใต้ใช่ไหม?"ประมาณนั้น" ปันอวิ๋นพูดถึงตรงนี้ก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "ดินแดนทางใต้ไม่ใช่แค่จักรพรรดิที่มีอำนาจ มหาปุโรหิตเองก็มี ตระกูลของมหาปุโรหิตรับผิดชอบเรื่องพิธีกรรม ตำแหน่งฐานะสูงส่ง และตระกูลของมหาปุโรหิต ก็มีสกุลว่าเฟิ่ง"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็เลิกคิ้ว ว้าวคิดไม่ถึงเลย ว่าจะได้คนสำคัญแบบนี้มา"ดังนั้น เจ้าคือคนจากตระกูลของมหาปุโรหิตดินแดนทางใต้หรือ?" จั๋วซือหรานมองไปทางเฟิ่งหลานเฟิ่งหลานคิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มที่หน้าตาเย้ายวนนี่จะรู้เรื่องนี้ แต่ถึงยังไงนางก็ตั้งใจจะบอกกับจั๋วซือหรานอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีอะไรเฟิ่งหลานพยักหน้าตอบ "ใช่ ข้าคือคนจากตระกูลมหาปุโรหิต"และตอนนี้เอง ปันอวิ๋นก็พูดต่อว่า "นางไม่ใช่แค่คนของตระกูลมหาปุโรหิต แต่นางคือคนจากราชวงศ์มหาปุโรหิต"พอได้ยินคำนี้ เฟิงหลานก็ม่านตาหดลง เบิกตาโพลงมองไปทางปันอวิ๋นปันอวิ๋นยื่น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1409

    พอได้ยินคำนี้ เฟิงเหยียนก็หันมามองนาง สายตายากจะอธิบายปันอวิ๋นกับชิ่งหมิงเองก็มองนาง เหมือนเดาได้ถึงคำตอบแล้ว"คงไม่ใช่คำตอบที่ข้าคิดหรอกกระมัง?" ปันอวิ๋นถามขึ้นมาคำหนึ่งจั๋วซือหรานยิ้มพลางเดินไปด้านหน้า "ทำอะไรน่ะพวกเจ้า พวกชายหนุ่มไม่ใช่ว่าชอบไปกันหรือ? พวกเจ้านี่แปลกจริง! แล้วก็นะ กับข้าวที่นั่นมันไม่อร่อยรึไงกัน?"เฟิ่งหลานเดิมทียังไม่รู้ว่าใต้เท้าจะพานางไปที่ไหนจนกระทั่ง มองเห็นทางเข้าถนนบุปผา ได้กลิ่นหอมประทินลอยเข้ามาในอากาศนางจึงเพิ่งเข้าใจว่าเพราะอะไรสีหน้าของสามคนนี้ก่อนหน้าถึงยากจะอธิบายนักถึงยังไง...มีหญิงสาวพาชายหนุ่มมาเที่ยวในถนนบุปผาโรงคณิกาเสียที่ไหนกัน...จั๋วซือหรานเดินพาพวกเขาเข้าไปอย่างคุ้นที่คุ้นทางแม่เล้าพอเห็นนางเข้ามา ก็เหมือนเห็นตัวกาลกีณีขึ้นมาให้ตายเถอะ! ทำไมถึงได้มาอีกแล้วล่ะ!พอออกไปก็ถูกตั๋วทองโบกเข้าใส่หน้าสีหน้าที่ดูทุกข์ระทมแต่เดิมบนหน้าแม่เล้า ก็เปลี่ยนเป็นความกระตือรือร้นยินดีขึ้นมาทันที"ใต้เท้ามาอีกแล้วหรือ! ยินดีต้อนรับจริงๆ!"จั๋วซือหรานโบกมือเอ่ยขึ้น "ห้องหรูที่เงียบๆ สุราอาหารเลิศรส ส่วนที่เหลือเป็นรางวัลของเจ้า"แม่เล้าพอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1408

    เหล่าทาสอาชญากรที่ถูกล่ามด้วยโซ่เหล็กและขังอยู่ในกรงเหล็กเหล่านั้นเดิมทีก็รู้สึกสิ้นหวังมากแล้ว แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกด้านชากระทั่งยังคิดว่าคงต้องตายแน่แล้วตอนที่ได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน พวกเขาก็อดมองขึ้นมาด้วยดวงตาเป็นประกายไม่ได้ แต่ก็เป็นแค่ชั่วระยะสั้นนิดเดียวเท่านั้น และจางหายไปอย่างรวดเร็วจั๋วซือหรานกำชับเหล่านี้เสร็จ ก็จ่ายเงินแล้วออกไปคนหาข่าวคนนั้นตามอยู่ด้านหลังนาง แต่ก็เงียบมาตลอด ราวกับว่าตั้งแต่เมื่อครู่นี้ นางก็คอยสังเกตพฤติกรรมของจั๋วซือหรานอยู่ตลอดเดินห่างออกมาระยะหนึ่ง คนหาข่าวจึงถามจั๋วซือหรานขึ้นเสียงต่ำคำหนึ่ง "ทำไมท่านต้องเอาคนแก่อ่อนแอพวกนั้นไปด้วยหรือ?""อื๋อ?" จั๋วซือหรานมองนาง "เจ้าถามข้าหรือ? เจ้าคิดว่าข้าเทำไปเพราะอะไรล่ะ?"คนหาข่าวคนนี้อันที่จริงก็ไม่ค่อยแน่ใจ นางแค่รู้สึกว่า...ใต้เท้าคนนี้ แม้จะเก่งกาจ แต่ก็เหมือนว่าจะไม่ใช่คนเลวดังนั้นนางจึงตอบว่า "ข้ารู้สึกว่าใต้เท้าสงสารพวกเขา ดังนั้นจึงจะพาไปด้วยกัน"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็หัวเราะ "คิดไม่ถึงเลย ว่าภาพลักษณ์ของข้าในใจเจ้าจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้?"คนหาข่าวรู้สึกเขินหน่อยๆ ไม่พูดอะไรจั๋วซ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status