Share

บทที่ 1119

Author: หว่านชิงอิ๋น
ฟู่เฉินหวนมองไทเฮาด้วยสายตาคมกริบ “ไทเฮาทรงได้รับบาดเจ็บ ให้หมอหลวงมาตรวจดูเถิด”

ไทเฮาเหลียวมองเขาอย่างเย็นชาแล้วหันหลังเดินออกไป

จักรพรรดิจึงสั่งเลิกประชุมราชสำนัก ฟู่เฉินหวนก็เดินออกไปเช่นกัน

เมื่อมาถึงสวน ฟู่เฉินหวนก็พบกับไทเฮา

“ไทเฮาทรงแสร้งประชวรได้เหมือนจริง แม้เหยียนผิงเซียวและมหาราชาจารย์เหยียนจะตายก็ยังทำให้ท่านล้มมิได้”

ไทเฮาหัวเราะเย็นชา “ยังมิถึงตอนตัดสินเลย ตัวข้าจะล้มได้อย่างไร”

“แม้ทั้งตระกูลเหยียนจะเหลือเพียงตัวข้าผู้เดียว ข้าก็จะมิยอมแพ้”

“เพราะข้าคือไทเฮา!”

ไทเฮาพูดด้วยสายตาแน่วแน่ เปี่ยมล้นด้วยความทะเยอทะยาน

ฟู่เฉินหวนหรี่ตาลง “เช่นนั้นนี่ก็คือตอนตัดสิน ไทเฮาคิดว่าท่านจะชนะหรือ?”

ไทเฮาตรัสอย่างมั่นใจ “ข้ามิเคยแพ้!”

กล่าวจบก็สะบัดแขนเสื้อจากไป

ลั่วชิงยวนถูกคุมขัง ฟู่เฉินหวนก็รีบตามมา

“ชิงยวน!”

ฟู่เฉินหวนสั่งให้ผู้คุมออกไป

เมื่อไม่มีผู้ใดอยู่ด้วยแล้ว ฟู่เฉินหวนก็จับมือนาง “เจ้าคงลำบากใจที่ต้องอยู่ในคุกสองวัน ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง”

ลั่วชิงยวนส่ายหน้า “ท่านอย่าใจร้อนเลยเพคะ”

“แค่พยายามถ่วงเวลาไว้ หม่อมฉันกำลังรอข่าวอยู่”

ฟู่เฉินหวนตกใจเล็กน้อย

“ได้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
ros 111
ชักเริ่มเบื่อแหละ วนๆๆๆอยู่ที่เดิม ทำไมนางเอกไม่เอายาที่ให้หล่างซินกินให้ไทเฮากินบ้าง ทำไมพระเอกไม่สับต้นคอนังเมียน้อยให้สลบ แล้วไปทำงานต่อ เห้ออออ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1120

    ด้วยบัญชาของฟู่เฉินหวนจึงมิได้มีการทรมานหรือเบียดเบียนลั่วชิงยวนในคุกแต่อย่างใดนางกลับได้รับการดูแลอย่างดี มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์และยังได้รับอนุญาตให้ออกจากคุกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ครึ่งชั่วยามในยามเที่ยงทุกวันด้วย แต่ก็เป็นการปล่อยตัวออกไปอย่างเป็นความลับวันหนึ่งในยามเที่ยง ลั่วชิงยวนได้เห็นอาเสินกำลังบินวนอยู่บนท้องฟ้าเมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใดอยู่ใกล้ นางจึงยื่นแขนออกไปอาเสินจึงบินลงมาเกาะบนแขนของนาง พร้อมกับนำดอกชามาให้นางหนึ่งดอกลั่วชิงยวนดมกลิ่นดอกชานั้นแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าต้องการบอกข้าว่านางเดินทางมาแล้วใช่หรือไม่”อาเสินมิอาจพูดตอบได้จึงบินขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง บินวนเวียนอยู่สักพักก่อนจะบินจากไป ลั่วชิงยวนดมกลิ่นหอมของดอกชานั้นอีกครั้ง แล้วคำนวณตำแหน่งของซ่งเชียนฉู่ ปรากฏว่าอีกสามวันนางก็คงจะมาถึงเมืองหลวงแล้วแต่สิ่งที่ลั่วชิงยวนคาดมิถึงก็คือก่อนที่สามวันนั้นจะมาถึงไทเฮากลับเสด็จมา พร้อมกับพระราชโองการ“ลั่วชิงยวนเป็นนางปีศาจผู้ก่อความวุ่นวายให้แก่แผ่นดิน ให้ประหารชีวิตด้วยการตัดหัวในยามเที่ยงวันนี้!” “ให้รีบนำตัวไปยังลานประหารทันที”ลั่วชิง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1121

    ลั่วชิงยวนใจหายวาบ “ช่างน่ารังเกียจ!”“สงสารแล้วรึ? หากสงสารก็เอาเข็มทิศมาให้ข้าสิ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้ากับฟู่เฉินหวน”“เพียงแค่พวกเจ้าออกจากเมืองหลวง มิยุ่งเกี่ยวกับราชสำนักอีก ไปอยู่ที่ใดก็ได้ ข้ารับรองว่าจะมิตามล่า”ลั่วชิงยวนกล่าวเสียงเย็นชา “ข้ามิเชื่อเจ้าหรอก นอกจากเจ้าจะช่วยข้าก่อน ข้าจึงจะพิจารณาเรื่องเข็มทิศ”“ก่อนที่ข้ากับฟู่เฉินหวนจะปลอดภัย เจ้าอย่าหวังจะรู้ว่าเข็มทิศอยู่ที่ใด”ลั่วฉิงหมดความอดทนนางมิกล้าปล่อยลั่วชิงยวนง่าย ๆ เพราะหากปล่อยนางไป ถ้านางหนีรอดแต่มิยอมให้เข็มทิศ เช่นนั้นจะทำเช่นไรเล่า“ลั่วชิงยวน เจ้าช่างฉลาดแกมโกงนัก หากมิใช่ศัตรูกัน ข้าอยากคบเจ้าเป็นสหายเสียจริง” ลั่วฉิงเอ่ยชมลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก “เราต่างก็เป็นปีศาจจิ้งจอกพันปีกันทั้งนั้น ใครจะเจ้าเล่ห์กว่ากัน?”“คิดจะหลอกเอาของของข้า เลิกคิดเสียเถิด”ลั่วฉิงมองนางด้วยสายตาอาฆาต “เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้ามิให้โอกาส”กล่าวจบนางก็หรี่ตามองดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า แล้วเอ่ยว่า “ใกล้เที่ยงแล้ว เจ้าเตรียมตัวหรือยัง”“ใต้หล้านี้ ไม่มีสิ่งใดที่เจ้าห่วงใยแล้วหรือ?”ลั่วชิงยวนมิตอบมินานก็ถึงเวลาเที่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1122

    ม่านรอบรถม้าถูกม้วนขึ้นเผยให้เห็นจักรพรรดิสูงสุดที่ประทับอยู่ภายในพร้อมด้วยจักรพรรดิและอ๋องผู้สำเร็จราชการฟู่เฉินหวนเมื่อมาถึงลานประหาร ฟู่เฉินหวนก็กระโดดลงมายืนขวางหน้าลั่วชิงยวนไทเฮาจ้องเขาด้วยสายตาอาฆาต “เจ้าคิดจะทำอะไร! จักรพรรดิสูงสุดประชวรหนัก เจ้ากล้าพาพระองค์ออกจากวัง! อ๋องผู้สำเร็จราชการ คิดก่อกบฏหรือ!”ใกล้จะประหารลั่วชิงยวนต่อหน้าต่อตานางแล้ว!กลับมีเรื่องวุ่นวาย!แม้แต่จักรพรรดิสูงสุดก็ถูกพวกเขาเชิญมาได้ฝ่ายจักรพรรดิพยุงจักรพรรดิสูงสุดเข้ามา แม้จะเดินอย่างเชื่องช้า แต่ภาพนั้นก็เพียงพอจะทำให้ทุกคนตกตะลึงเมื่อมาถึงแล้ว จักรพรรดิก็มองไทเฮาด้วยสายตาผิดหวัง “เสด็จแม่ ลูกมิคิดเลยว่าท่านจะทำเรื่องอุกอาจเช่นนี้”ไทเฮาทรงหน้าซีด จ้องมองจักรพรรดิสูงสุดฝ่ามือเย็นเฉียบมีเหงื่อไหลสิ่งที่ทำให้ผู้คนตกตะลึงยิ่งกว่าการที่จักรพรรดิสูงสุดเดินได้ คือการที่เขาพูดได้แม้จะพูดตะกุกตะกักด้วยเสียงแหบพร่า แต่ก็ยังทรงอำนาจ“ไทเฮาวางยาพิษข้า ใช้อำนาจในทางมิชอบ คิดก่อกบฏ บัดนี้ปลดไทเฮา แล้วคุมขังไว้ในพระตำหนักโช่วสี่ตลอดชีวิต”เขาพูดแต่ละคำออกมาอย่างเชื่องช้าแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1123

    “ระวัง!”ทุกคนต่างพากันปิดปากปิดจมูกฟู่เฉินหวนรีบปกป้องลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนโบกมือพัดด้วยความระแวดระวัง แต่ก็ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นทันใดนั้นนางก็รู้สึกใจหาย “แย่แล้ว ลั่วฉิง!”นางรีบวิ่งไปทางลั่วฉิงและแล้วก็พบเพียงรอยเลือดบนพื้นลั่วฉิงหายตัวไปแล้วซ่งเชียนฉู่ตกใจ “หนีไปแล้ว!”ลั่วชิงยวนมองไปรอบ ๆ ผู้คนพลุกพล่าน หาตัวคนร้ายมิเจอ“นางหนีไปเร็วถึงเพียงนั้นเองมิได้ ต้องมีคนช่วยไว้”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว “นางมีผู้สมรู้ร่วมคิดด้วยหรือ?”ลั่วชิงยวนครุ่นคิด ลั่วฉิงมักจะอยู่คนเดียวมาตลอด ไม่มีพวกพ้องแต่เมื่อนึกถึงความลับที่ลั่วเยวี่ยอิงรู้ ก็มีคนคนหนึ่งที่เชื่อมโยงพวกนางเข้าด้วยกัน“เหยียนหน่ายซิน!”ฟู่เฉินหวนสั่งการทันที “ใครก็ได้ ไปตรวจค้นตระกูลเหยียน จับคนทั้งหมด ห้ามปล่อยให้รอดแม้แต่คนเดียว!”“พ่ะย่ะค่ะ!”ฟู่เฉินหวนมิวางใจ นำกำลังออกตามล่าด้วยตัวเองมิอาจปล่อยให้ลั่วฉิงหนีไปได้ส่วนลั่วชิงยวนก็พาซ่งเชียนฉู่กับเฉินเซี่ยวหานกลับไปก่อนเมื่อเปิดเผยตัวตนแล้ว ลั่วชิงยวนก็มิต้องปลอมตัวอีก นางพาพวกเขากลับเรือน“เชียนฉู่ การเดินทางราบรื่นหรือไม่?” ลั่วชิงยวนเห็นเฉินเซี่ยวหานดูสด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1124

    “ค้นทั่วเมืองหลวงแล้วก็ยังมิพบร่องรอยของลั่วฉิง”“ยึดทรัพย์ตระกูลเหยียนแล้ว แต่มิพบตัวเหยียนหน่ายซิน ถามบ่าวไพร่ในจวน พวกเขากล่าวว่าหลังจากมหาราชาจารย์เหยียนลาออกจากราชสำนักกลับเมืองฉิน เหยียนหน่ายซินก็หายไป มิเคยกลับมาที่จวนอีกเลย”“ไม่มีใครรู้ว่านางไปอยู่ที่ใด”ลั่วชิงยวนใจหาย “ดูเหมือนเหยียนหน่ายซินจะติดต่อลั่วฉิงไว้ก่อนแล้ว มิเช่นนั้นคงมิเสี่ยงมาช่วยนาง”“แม้ตระกูลเหยียนจะล่มสลาย แต่ในเมืองหลวงต้องมีคนที่ยังจงรักภักดีต่อเหยียนหน่ายซิน พวกนางคงหนีออกจากเมืองไปแล้ว”ฟู่เฉินหวนพยักหน้า แล้วลูบไล้แก้มนาง “ข้าจะเข้าวัง เจ้าพักผ่อนเถิด”“เพคะ”จากนั้นฟู่เฉินหวนก็รีบออกไปลั่วชิงยวนกลับห้องมาคำนวณวันมงคลสำหรับซ่งเชียนฉู่กับเฉินเซี่ยวหานแต่เมื่อคำนวณแล้ว นางก็หน้าซีดเผือดชะตาเข้ากัน เพลิงเผาผลาญภัยพิบัติจะเกิดขึ้นในอีกมิกี่เดือนข้างหน้าภัยที่เห็นได้ชัดที่สุดคือเพลิงเผาผลาญจากทิศตะวันตกทิศตะวันตกที่เกี่ยวข้องกับซ่งเชียนฉู่ก็คือสำนักหุบเขาซีหลิงจี้เยวี่ยหรือว่าครอบครัวของซ่งเชียนฉู่จะมีภัย?......กลางดึกในคืนเดือนมืด ลั่วฉิงนั่งอยู่บนเตียงไม้แข็งดวงตาขวาปวดระบม มองมิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1125

    ลั่วชิงยวนเข้าไปถวายการรักษาด้วยการฝังเข็มและถวายยาให้จักรพรรดิสูงสุดอาการประชวรของจักรพรรดิสูงสุดเริ่มดีขึ้น แต่ยังพูดและเดินมิคล่องฟู่จิ่งหานและฟู่เฉินหวนต่างก็คอยพยุงจักรพรรดิสูงสุดเดินเล่นในสวน“เหนื่อยแล้ว” จักรพรรดิสูงสุดหยุดพักฟู่จิ่งหานประคอง “หากทรงเหนื่อยก็กลับไปพักผ่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”แต่จักรพรรดิสูงสุดมิยอมกลับ “ไม่”ฟู่จิ่งหานคุกเข่าลง “เช่นนั้นให้ลูกแบกเสด็จพ่อกลับดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”จักรพรรดิสูงสุดส่ายหน้า แล้วเงยหน้ามองดวงอาทิตย์ “แดด”ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “จักรพรรดิสูงสุดประสงค์จะอาบแดดที่นี่ ให้คนไปนำเก้าอี้มาเถิดเพคะ”จักรพรรดิสูงสุดพยักหน้าอย่างพึงพอใจเมื่อเอนกายลงบนเก้าอี้ มินานจักรพรรดิสูงสุดก็หลับไปฟู่จิ่งหานนำผ้าห่มมาห่มให้ แล้วคอยเฝ้าอยู่มิห่างฟู่เฉินหวนจูงมือลั่วชิงยวนเดินเล่นในสวน พลางเอ่ยขึ้นว่า “ชิงยวน ขอบคุณนะ”“ขอบคุณเรื่องอันใดเพคะ?”“ขอบคุณที่รักษาเสด็จพ่อ ข้ามิเคยคิดว่าเสด็จพ่อจะกลับมาพูดได้อีกครั้ง”ลั่วชิงยวนยิ้ม “ขอบคุณแค่วาจาหรือเพคะ?”ฟู่เฉินหวนยิ้ม ก่อนจะประคองหน้านางมาจุมพิต“เจ้าต้องการสิ่งใด?”“นอกจากใต้หล้าใบนี้ ข

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1126

    “เมืองฉินสามารถรวบรวมกองกำลังกบฏได้สามหมื่นนาย โดยไม่มีวี่แววมาก่อน แสดงว่าทหารสามหมื่นนายนี้ก็คือชาวเมืองเมืองฉิน ตระกูลเหยียนเปลี่ยนเมืองฉินเป็นฐานที่มั่นของกองทัพแล้ว”“ดังนั้นที่นั่นย่อมแข็งแกร่งที่สุด แม้แม่ทัพใหญ่จะมิอยู่ เมืองฉินก็ยังยากจะโจมตี”“ควรให้ท่านอ๋องนำทัพไปปราบด้วยพระองค์เอง”“ส่วนเป่ยตี้นั้นผู้คนกระจัดกระจายกันไปในแต่ละพื้นที่ ดูจากภูมิแคว้นแล้ว ที่นั่นน่าจะมีทหารฝีมือดีประจำการ และรอบ ๆ ล้วนเป็นที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน เหมาะกับแม่ทัพใหญ่ที่มีไหวพริบ เชี่ยวชาญการซุ่มโจมตีแบบมิให้ตั้งตัว”“และปกป้องชาวบ้านให้มากที่สุด”“องค์ชายห้าเหมาะสมที่สุด”“...”ลั่วชิงยวนวิเคราะห์และจัดการทุกอย่างขุนนางทั้งหลายต่างตกตะลึงพวกเขามิคิดว่า สตรีคนหนึ่งจะมีความสามารถในการวางแผนการรบ มิแพ้แม่ทัพใหญ่ผู้มากประสบการณ์เลยฟู่เฉินหวนยืนกอดอกมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาลึกซึ้งมุมปากเผยรอยยิ้มจางเหล่าขุนนางต่างมองลั่วชิงยวนด้วยความชื่นชมเมื่อนางกล่าวจบ ก็มีขุนนางถามด้วยความสงสัย “แล้วซีหลิงเล่าขอรับ?”“หากเป็นเช่นนี้ แม่ทัพใหญ่ก็ออกไปหมด ไม่มีใครไปซีหลิงเลยหรือขอรับ? คงจะมิส่งทหารอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1127

    ในคืนวันที่สาม ขณะเดินทางผ่านเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งก็พบว่าชาวเมืองต่างสวมผ้าปิดหน้า เสียงไอดังระงม มีคนนอนอยู่ตามมุมต่าง ๆลั่วชิงยวนเห็นแล้วก็รู้ทันทีว่าน่าจะมีโรคระบาดจึงสั่งเซียวชู “ส่งคำสั่งลงไป ให้กองทัพถอยไปสามลี้ อ้อมไปทางอื่น หากพบเมืองลักษณะเดียวกันให้ถอยอีก ห้ามผ่านเด็ดขาด”เซียวชูรับคำ “ขอรับ!”กองทัพจึงถอยทัพ อ้อมไปทางอื่นมุ่งหน้าสู่ซีหลิงเซียวชูสั่งการแล้วก็กลับมา “พระชายา แล้วท่านเล่าขอรับ?”“ข้าจะเข้าไปดู” ลั่วชิงยวนลงจากม้า“ระวังด้วยนะขอรับ” เซียวชูรีบลงจากม้าตามลั่วชิงยวนเข้าเมืองเสียงไอจากรอบด้านทำให้เมืองนี้ดูหดหู่ เซียวชูยกมือปิดปากปิดจมูกลั่วชิงยวนเดินสำรวจ ดูแล้วก็เป็นโรคระบาดจริง ๆ“ชิงยวน!”จู่ ๆ ก็มีเสียงเรียกดังมาจากมิไกลลั่วชิงยวนหันไปมองจึงเห็นซ่งเชียนฉู่กับเฉินเซี่ยวหานซ่งเชียนฉู่ส่งชามยาให้เฉินเซี่ยวหาน แล้ววิ่งเข้ามาหาลั่วชิงยวนตกใจ “เชียนฉู่ เหตุใดเจ้าจึงอยู่ที่นี่?”ซ่งเชียนฉู่มองชาวบ้านที่นอนอยู่ แล้วกล่าวว่า “พวกเราเดินทางผ่านมา พบว่าที่นี่มีโรคระบาด มีคนตายไปมากแล้ว หากมิควบคุมจะลุกลามไปทั่ว”“จึงหยุดพัก ทำให้เสียเวลาไปบ้าง มิค

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status