Share

บทที่ 1179

Author: หว่านชิงอิ๋น
จักรพรรดิสูงสุดเคลื่อนไหวช้า การเดินหมากก็เชื่องช้า ลั่วชิงยวนก็รอด้วยความเบื่อหน่าย

ทันใดนั้นขันทีเฉินก็รีบร้อนเข้ามา “จักรพรรดิสูงสุด องค์ชายห้าทรงถามว่า ท่านจะเสด็จร่วมพิธีขึ้นครองราชย์หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินดังนั้น

พิธีขึ้นครองราชย์หรือ?

ฟู่อวิ๋นโจวจะขึ้นเป็นจักรพรรดิแล้ว!

จักรพรรดิสูงสุดตอบ “มิไปหรอก แขนขาของข้าเป็นเช่นนี้ เดินเหินมิไหวแล้ว”

“พ่ะย่ะค่ะ เช่นนั้นกระหม่อมจะไปแจ้งให้ทราบ”

ขันทีเฉินจากไปแล้ว จักรพรรดิสูงสุดก็เล่นหมากรุกต่อ แต่ลั่วชิงยวนกลับนิ่งเฉย

ฟู่เฉินหวนมิได้ขัดขวางการขึ้นครองราชย์ของฟู่อวิ๋นโจว เขาสังหารฟู่จิ่งหานแต่กลับมิได้รับโทษใด ๆ

แต่ยังทำให้ฟู่เฉินหวนหย่ากับนางแทน!

ฟู่อวิ๋นโจวใช้วิธีใดกันแน่!

นางมองจักรพรรดิสูงสุดด้วยสายตามิพอใจ “องค์จักรพรรดิสูงสุด ท่านทรงทราบทุกอย่างแล้วใช่หรือไม่เพคะ? การกระทำของฟู่อวิ๋นโจว ท่านจะทรงปล่อยไปเช่นนี้หรือเพคะ?”

“ฟู่จิ่งหานมิใช่โอรสของท่านแล้วหรือเพคะ?”

น้ำเสียงของลั่วชิงยวนแฝงไปด้วยความมิพอใจ

จักรพรรดิสูงสุดมิได้โกรธเคืองแต่กลับเผยรอยยิ้ม “เจ้าเก็บคำพูดนี้ไว้นานแล้วสินะ”

“อดทนมาจนถึ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Sam Sung
ชีวิตรักนอ.นี่ทรหดจริงๆ พอ.ก็สุนภาพแย่ไร้ความสามารถปกป้องนอ.ไม่ได้ ให้คนอื่นรังแกซะแทบตายสุดท้ายทำเรื่องหย่าอัก แก้ไขไรไม่ได้จริงๆ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1180

    “เพราะเหตุการณ์กลียุควังหลัง”“แต่เหตุการณ์กลียุควังหลัง พระชายาหลีก็ถูกใส่ร้าย ทั้งหมดเป็นฝีมือของไทเฮา! นางใส่ร้ายพระชายาหลีเพื่อกำจัดศัตรู ทำให้เกิดกลียุควังหลัง มีคนบริสุทธิ์ล้มตายนับมิถ้วน”“นางมีสายเลือดบริสุทธิ์ เป็นคนของแคว้นเทียนเชวีย ชาติตระกูลก็มิธรรมดา แต่สุดท้ายแล้ว นางทำให้บ้านเมืองสงบสุขได้หรือเพคะ?”“ท่านก็ยังต้องให้ฟู่เฉินหวนเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน เพื่อถ่วงดุลอำนาจของตระกูลเหยียนมิใช่หรือเพคะ?”เมื่อลั่วชิงยวนเอ่ยเช่นนี้ จักรพรรดิสูงสุดก็ชะงักรู้สึกตกใจมิรู้ว่าจะโต้แย้งอย่างไรไปครู่หนึ่งสิ่งที่ลั่วชิงยวนพูดล้วนถูกต้อง เขาเกือบจะถูกโน้มน้าวแล้วแต่เมื่อนึกถึงวันที่ฟู่เฉินหวนมาเข้าเฝ้า แล้วให้เขาดูบาดแผล บอกว่ามิรู้ว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานเท่าใดแคว้นเทียนเชวียมิสามารถมีจักรพรรดิที่อาจจะสิ้นพระชนม์ได้ทุกเมื่อได้ดังนั้น เขาจึงเป็นได้เพียงอ๋องผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน คอยช่วยเหลือฟู่อวิ๋นโจวให้ขึ้นครองราชย์ เพื่อให้แคว้นเทียนเชวียสงบสุขตลอดไปแต่สิ่งที่ปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวคือ มิอยากให้ลั่วชิงยวนต้องลำบากด้วยจักรพรรดิสูงสุดยึดมั่นในใจลั่วชิง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1181

    เหยียนหน่ายซินแย้มยิ้ม “มิเคยมีสิ่งใดที่ข้าต้องการแล้วมิได้”“ที่ได้ทุกสิ่งทุกอย่างมาครองในวันนี้ ก็ต้องขอบคุณเจ้าที่ปฏิเสธข้าครั้งแล้วครั้งเล่า”ลั่วชิงยวนยกยิ้มจาง “มิเป็นอะไร”“เพียงแต่ตำแหน่งฮองเฮานั้นมิใช่ตำแหน่งที่จะครองได้ง่าย ๆ เช่นกัน”เหยียนหน่ายซินหัวเราะอย่างมั่นใจ “ข้าไร้ซึ่งความรัก ไร้ซึ่งความผูกพัน ย่อมมิถูกเรื่องเหล่านั้นรบกวน ตำแหน่งฮองเฮานั้นไม่มีสิ่งใดที่ควบคุมมิได้”“ข้ามิเหมือนเจ้าที่จมปลักอยู่กับความรัก”ลั่วชิงยวนมิใส่ใจ เพียงแค่หัวเราะเบา ๆ “ความปรารถนาของมนุษย์นั้นไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อเจ้าได้ตำแหน่งฮองเฮาแล้วก็จะอยากได้มากขึ้นไปอีก”“ข้ายอมรับในความโหดเหี้ยมและเล่ห์เหลี่ยมของเจ้า หวังว่าเจ้าจะทำตามที่พูดและเป็นฮองเฮาที่ดีได้”“ฟู่เฉินหวนมิได้มีใจคิดอยากได้บัลลังก์ ขอให้เจ้าเมตตาปล่อยเขาไปเถิด”เหยียนหน่ายซินยกยิ้ม “ถึงตอนนี้ เจ้าก็ยังคงคิดถึงเขา”“ฟู่อวิ๋นโจวเพิ่งขึ้นครองราชย์ เขายังไม่มีฐานอำนาจในราชสำนัก แคว้นเทียนเชวียเพิ่งผ่านความวุ่นวาย ยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องทำ”“ตอนนี้แคว้นเทียนเชวียยังขาดฟู่เฉินหวนมิได้ พวกข้าจะมิทำอะไรเขา”“วันนี้ที่ข้ามาก็

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1182

    ฟู่อวิ๋นโจวมิยอมแพ้แม้แต่น้อยจักรพรรดิสูงสุดก็ตกใจมาก ฟู่อวิ๋นโจวเหมาะสมที่จะเป็นจักรพรรดิมากกว่าฟู่จิ่งหานจริง ๆ เขามีบารมีและความกล้าหาญต่อหน้าตัวเขาเองก็ยังกล้าที่จะยืนหยัดในสิ่งที่ตนเองคิด มิยอมแพ้เพียงแต่เรื่องของลั่วชิงยวนนั้นมิอาจตามใจเขาได้ก่อนที่จักรพรรดิสูงสุดจะกล่าว ลั่วชิงยวนก็ลุกขึ้นด้วยความมิพอใจ “แม้ท่านจะต้องการ หม่อมฉันก็จะมิแต่งงานกับท่าน”“หากท่านยังยืนยันที่จะออกพระราชโองการนี้ สิ่งที่ท่านจะได้ก็มีเพียงแค่ศพของหม่อมฉันเท่านั้น”ลั่วชิงยวนเห็นว่าแม้แต่จักรพรรดิสูงสุดก็ห้ามฟู่อวิ๋นโจวมิได้ จึงกล่าวคำรุนแรงออกมาฟู่อวิ๋นโจวตกใจ มีสีหน้าโกรธเคือง “เหตุใดจึงมิยอมให้โอกาสข้าอีกสักครั้ง? เจ้ายังให้โอกาสฟู่เฉินหวนตั้งหลายครั้ง”“เหตุใดข้าทำผิดเพียงครั้งเดียวก็ไม่มีโอกาสแก้ตัวอีกแล้ว ลั่วชิงยวน เหตุใดเจ้าจึงมิยุติธรรมกับข้าบ้าง?”ดวงตาของฟู่อวิ๋นโจวแดงก่ำ เล็บจิกเข้าไปในฝ่ามือแน่นลั่วชิงยวนชะงักแล้วมองเขาอย่างจริงจัง “เรื่องนี้มิเกี่ยวกับว่าทำผิดหรือไม่ ตั้งแต่ต้นจนจบ หม่อมฉันถือว่าท่านเป็นเพียงสหาย”“แม้ว่าพวกเราจะยังมีความสัมพันธ์กันเหมือนเดิม หากท่านจะรั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1183

    วิธีนี้ทำร้ายลั่วฉิงมิได้ในระยะสั้นยังไม่มีวิธีแก้ปัญหานี้ เขาจึงได้แต่ให้ลั่วชิงยวนอยู่ห่างจากเขาเพื่อความปลอดภัยลั่วชิงยวนก็ตามเขามาจนถึงหน้าประตูตำหนักอ๋องแต่ฟู่เฉินหวนกลับเดินเข้าประตูไป แล้วปิดประตูใส่หน้านางโดยมิหันกลับมามองลั่วชิงยวนมีสีหน้าอิดโรยซีดเซียว เมื่อมองภาพนั้น หัวใจเขาก็เจ็บปวดจนเกือบจะร้องไห้ออกมาเขารู้ว่านางตามมาตลอดนางมิยอมแพ้ ยังคงเข้าตำหนักทางประตูหลังแล้วตรงไปที่ห้องตำรานางรับใช้และทหารองครักษ์ที่พบเห็นต่างตกใจ แต่ก็ไม่มีใครขัดขวางเมื่อมาถึงหน้าห้องตำรา ลั่วชิงยวนก็เอ่ยขึ้น “ฟู่เฉินหวน อย่าหลบหน้าหม่อมฉัน มีเรื่องอะไร พวกเรามาพูดกันให้ชัดเจน!”ฟู่เฉินหวนตกใจ เดินไปเปิดประตูแล้วมองนางด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าตามเข้ามาในตำหนักได้อย่างไร”“ลั่วชิงยวน ข้าพูดชัดเจนแล้ว ข้าหย่ากับเจ้าแล้ว มิอยากเจอเจ้าอีก!”กล่าวจบ เขาก็ตะโกนเสียงดัง “ใครก็ได้!”“ไล่ลั่วชิงยวนออกไป! เอาข้าวของของนางไปทิ้งให้หมด!”“หากผู้ใดกล้าให้นางเข้าตำหนักอีก ข้าจะมิละเว้น!”จากนั้นองครักษ์ก็เข้ามา ทำท่าทางเชิญ “เชิญเถิดขอรับ”ลั่วชิงยวนมองฟู่เฉินหวนด้วยความเสียใจ “ท่านจะผลัก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1184

    ในยามที่สติเลือนราง ลั่วชิงยวนเห็นเงาร่างหนึ่งทรุดกายลงอุ้มนางขึ้น“ฟู่เฉินหวน… ในที่สุดท่านก็ยอมมาพบหม่อมฉัน...”ทว่าเสียงที่ดังขึ้นในวินาทีต่อมากลับทำให้นางรู้สึกสิ้นหวังอีกครั้ง“ข้าเอง ฟู่จิ่งหลี!”ฟู่จิ่งหลีมีสีหน้าเคร่งเครียด รีบอุ้มลั่วชิงยวนขึ้นรถม้าลั่วชิงยวนที่นอนอยู่บนรถม้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง “ท่านมาทำอะไรที่นี่”“หากข้ามิมา เจ้าคงแข็งตายอยู่หน้าประตูตำหนักแล้ว” ฟู่จิ่งหลีกล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรนแล้วสั่งสารถี “เข้าวัง เร็วเข้า!”ลั่วชิงยวนดิ้นรนจะลงจากรถม้า “เรื่องของหม่อมฉัน ท่านอย่ามายุ่ง! หม่อมฉันมิเชื่อว่าเขาจะทนดูหม่อมฉันแข็งตายอยู่หน้าประตูตำหนักได้!”“หม่อมฉันเพียงต้องการคำอธิบาย!”ฟู่จิ่งหลีดึงนางกลับมา“ในเมื่อเขาตัดสินใจหย่ากับเจ้าแล้วก็จะมิเหลียวแล เขามักจะเด็ดขาดเช่นนี้มาโดยตลอด เจ้าจะดิ้นรนไปเพื่ออะไร”“ใช้ชีวิตอยู่ในวังมิดีหรือ”ฟู่จิ่งหลีก็รู้สึกอึดอัดใจลั่วชิงยวนรู้สึกหนักใจ นางมิรู้ว่าควรทำเช่นไรแล้วแต่นางรู้ว่าฟู่เฉินหวนมิใช่คนเช่นนั้นเพียงแต่นางมิรู้ว่าจะทำอย่างไร เขาจึงจะเปลี่ยนใจรถม้าแล่นเข้าวังลั่วชิงยวนถูกพากลับไปที่ตำหนักขอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1185

    “องค์หญิง กระหม่อมชื่อจินเจา เชี่ยวชาญทั้งหมากรุก การขว้างลูกดอก การขี่ม้าและการยิงธนู หากองค์หญิงอยากจะออกไปเล่นสนุก กระหม่อมก็สามารถร่วมเล่นด้วยได้พ่ะย่ะค่ะ!”ชายหนุ่มทั้งสามมีบุคลิกลักษณะแตกต่างกัน แต่ล้วนมีรูปโฉมหล่อเหลายิ่งนักหลี่ว์โม่มีท่าทางสุภาพอ่อนโยน รอยยิ้มอบอุ่น มีกลิ่นอายของผู้แก่เรียนหลีฉีมีท่าทางรักอิสรเสรี ใบหน้าค่อนข้างเย็นชา แต่ดูแล้วก็รู้ว่ามีวรยุทธ์สูงส่งส่วนจินเจาเป็นชายหนุ่มที่ดูหยิ่งทะนง มิยึดติดในกฎเกณฑ์ลั่วชิงยวนพิจารณาดู แล้วเอ่ยด้วยความตกใจ “องค์จักรพรรดิสูงสุดทรงพาพวกเจ้ามาใช่หรือไม่?”ที่นี่คือวังหลวง หากมิใช่ขุนนาง คนภายนอกย่อมมิอาจเข้ามาได้ยิ่งเป็นการปรากฏตัวในห้องของนางด้วยหากมิได้รับอนุญาตจากจักรพรรดิสูงสุด ชายหนุ่มทั้งสามย่อมไม่มีทางที่จะทำเช่นนี้ได้“องค์หญิงทรงคาดเดาถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ องค์จักรพรรดิสูงสุดทรงส่งพวกเรามาปรนนิบัติองค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ”“เพียงแต่องค์จักรพรรดิสูงสุดทรงกำชับว่า ให้พวกเราแต่งกายเป็นองครักษ์เวลาเข้าออกวังพ่ะย่ะค่ะ”“ต่อไปพวกเราจะเป็นทหารองครักษ์ส่วนตัวขององค์หญิงเองพ่ะย่ะค่ะ”ลั่วชิงยวนตกใจ รีบโบกมือปฏิเสธ “ไม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1186

    แต่การกระทำของเหยียนหน่ายซินครั้งนี้นับว่าชาญฉลาด นางตรงมาแจ้งให้จักรพรรดิสูงสุดทราบเองมิต้องพูดถึงว่า เหยียนหน่ายซินมิได้ต้องการให้ตระกูลเหยียนฟื้นคืนกลับมา ต่อให้นางต้องการก็ต้องคิดถึงตัวเอง อย่าให้ตำแหน่งฮองเฮาที่เพิ่งได้มาต้องหลุดมือไป“ตัวข้าทราบแล้ว เจ้ากลับไปเถิด”จักรพรรดิสูงสุดกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยหลังจากเหยียนหน่ายซินจากไป จักรพรรดิสูงสุดก็มีรับสั่ง “ไปเชิญอ๋องผู้สำเร็จราชการเข้าวัง ข้าต้องการพบเขา”ลั่วชิงยวนมิรู้ว่าจักรพรรดิสูงสุดจะทำอะไร แต่ก็เห็นแววตาแห่งความเหี้ยมโหดซ่อนเร้นอยู่เมื่อฟู่เฉินหวนมาถึง ลั่วชิงยวนก็ออกจากห้องไปรออยู่ที่ลานตำหนักหิมะโปรยปรายจากท้องฟ้า ทันใดนั้น หลี่ว์โม่ที่กำลังกางร่มก็มายืนอยู่ข้างหลังนาง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “องค์หญิง โปรดรักษาสุขภาพด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ลั่วชิงยวนหันไปมองเขามิรู้ว่าจักรพรรดิสูงสุดทรงหาคนพวกนี้มาจากที่ใด ดูท่าว่าจะติดตามนางจริง ๆ“พวกเจ้ามิต้องตามข้ามาหรอก ข้าจะกราบทูลองค์จักรพรรดิสูงสุดเอง ดูแล้วพวกเจ้าก็มิใช่คนธรรมดา หากออกไปแล้วย่อมมีหนทางของตัวเอง”“วันนี้ก็เก็บของออกจากวังกันเถิด”แต่หลี่ว์โม่กลับพูด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1187

    ไทเฮาหรี่ตาลง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ถึงตอนนี้แล้วข้าจะทำสิ่งใดได้อีก ก็คงมีเพียงแต่หาทางออกให้กับชาติภพหน้าเท่านั้น”“เหยียนหน่ายซินมารายงานข้าอย่างเด็ดขาดเช่นนี้ ข้ายังหวังสิ่งใดได้อีก”น้ำเสียงของไทเฮาแฝงไปด้วยความสิ้นหวังฟู่เฉินหวนครุ่นคิด แล้วตอบว่า “ก็ได้”“มอบของให้กระหม่อม แล้วกระหม่อมจะให้ลั่วชิงยวนมาพบท่าน”ไทเฮาพยุงร่างตัวเองลงจากเตียงแล้วเดินไปยังมุมห้องเพื่อเปิดห้องลับฟู่เฉินหวนก้าวตามเข้าไป คบเพลิงในห้องลับถูกจุดขึ้น และส่องสว่างไปทั่วภายในห้องลับมีทรัพย์สมบัติมากมายไทเฮากล่าว “สิ่งเหล่านี้ เจ้าเอาไปได้ทั้งหมด”“อย่างไรเสีย ข้าก็ไม่มีบุญได้ใช้แล้ว”ไทเฮาพาฟู่เฉินหวนไปยังมุมห้องแล้วเปิดหีบใบใหญ่ ภายในมีสิ่งของสีดำมากมายทุกชิ้นล้วนมีร่องรอยของการถูกไฟไหม้สิ่งของเหล่านั้นล้วนเป็นข้าวของในวังหลัง“สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งเดียวที่มิได้ถูกไฟไหม้ สิ่งใดที่ขนย้ายได้ก็ขนย้ายมาทั้งหมด”ฟู่เฉินหวนมองร่องรอยการถูกไฟไหม้ ภาพเหตุการณ์อันน่าสยดสยองปรากฏขึ้นในมโนสำนึกเปลวไฟแผดเผาผู้คนมากมาย เต็มไปด้วยเสียงร้องโหยหวนและเสียงกรีดร้องนับมิถ้วนแต่พวกนางกลับหนีออกม

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status