แม่หมอแห่งซูโจว

แม่หมอแห่งซูโจว

last update最終更新日 : 2025-06-24
作家:  หมอนบนโซฟาたった今更新されました
言語: Thai
goodnovel18goodnovel
評価が足りません
12チャプター
6ビュー
読む
本棚に追加

共有:  

報告
あらすじ
カタログ
コードをスキャンしてアプリで読む

概要

นางเอกเก่ง

พีเรียด

พระเอกเก่ง

คุณหนู

ยากจน

รวย

ความรักครั้งแรก

“ไม่ว่าหญิงหรือชาย หากมีวาสนาต่อกัน ข้าย่อมเห็นชะตาของเจ้า” “แล้วเจ้าเห็นสิ่งใดเล่า” อ่า~ จะตอบอย่างไรดีล่ะ ดันเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเสียได้ ฮื่อ! ............................................................................................... หลังจากบิดาตายจาก สองพี่น้องก็ใช้ชีวิตในสกุลชุนอย่างยากลำบาก แต่ทั้งสองก็ยังอดทนเรื่อยมา ทว่าเรื่องครานี้มันหนักหนาเกินทน ชุนลี่มี่ "ข้าขอตัดขาดกับพวกท่าน ต่อจากนี้พวกท่านมิต้องเลี้ยงดูข้า ข้ามิต้องแทนคุณท่าน อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกันอีก" . . "ท่านยาย ในนิมิตหลานเห็นเขากำลังควบขี่..." "ขี่ม้าหรือ" "มิใช่เจ้าค่ะ" "แล้วขี่สิ่งใดเล่า หรือจะเป็นกระบือ วัว ลา- " "เป็นข้าเจ้าค่ะ"

もっと見る

第1話

1. เหลือเพียงเราสอง

“ฮึก ฮื่อออ พี่มี่เอ๋อร์ เหตุใดพวกยุงๆ จึงเอาท่านพ่อกับท่านแม่ใส่ในหลุมเช่นนั้นเย่า น้องกลัวท่านพ่อ ท่านแม่จะหายใจไม่ออก” คำพูดของเด็กชายวัย 4 หนาวอย่างชุนลี่หมิง ทำเอาชุนลี่มี่ผู้เป็นพี่สาวถึงกับสะอึก มิรู้จะตอบน้องชายอย่างไร ว่าบิดามารดาได้ลาจากโลกนี้ไปแล้ว สองแขนกระชับกอดน้องชายให้แน่นขึ้น แม้เด็กสาวจะมิได้ร้องไห้สะอึกสะอื้น แต่กระนั้นหยาดน้ำสีใสก็ไหลออกจากตากลมโตไม่หยุด

“ท่านพ่อกับท่านแม่สิ้นลมแล้วอาหมิง อึก พวกท่านมิอาจมาอยู่ดูแลเราเช่นเก่าก่อนได้แล้ว ฮึก!…แต่ถึงอย่างนั้นพวกท่านก็จะคอยมองเราสองพี่น้องอยู่เสมอ” ลี่มี่ยกมือปาดน้ำตาออกจากใบหน้า พยายามอดกลั้นเสียงสะอื้น เพราะมิอยากอ่อนแอต่อหน้าน้องชาย ทั้งที่บัดนี้ ขาของนางแทบจะยืนไม่ไหวที่ต้องสูญเสียทั้งบิดาและมารดาในคราเดียวกันเช่นนี้

ครอบครัวตระกูลชุนของลี่มี่เป็นครอบครัวใหญ่ มีคนในสกุลถึง 9 คน เป็นท่านย่าใหญ่ชุนฉือ ท่านลุงชุนไห่ ป้าสะใภ้ชุนเจียงและลูกของท่านลุงอีกสามคนคือ ชุนเต๋ออายุ 20 หนาว ชุนซูเม่ยอายุ 14 หนาว ชุนเป่าอายุ 3 หนาว และท่านพ่อชุนหยวน ท่านแม่ชุนเจียวมี่ ชุนลี่หมิงน้องชาย และตัวนางชุนลี่มี่

“เช่นนั้น เยาจะอยู่กับผู้ใดหยือ” นัยน์ตาดำสนิทของเด็กน้อยสั่นระริก น้ำตารื้นขึ้นมาเอ่อล้นหน่วยตาเล็กอย่างน่าสงสาร เขามิเข้าใจว่าสิ้นลม หมายถึงสิ่งใด แต่เมื่อได้ยินพี่สาวเอ่ยว่าท่านแม่และท่านพ่อจะไม่อยู่ด้วยแล้ว เด็กชายตัวน้อยก็รู้สึกกลัวขึ้นมาทันใด

“เราก็อยู่ด้วยกันที่เรือนของเราอย่างไรเล่า” ลี่มี่เอ่ยบอกน้องชายไปเช่นนั้น ทั้งที่นางเองก็ไม่รู้ว่าเรือนที่นางกล่าวถึง จะเป็นที่พักพิงให้นางและน้องชายได้หรือไม่ ยามที่ไม่มีท่านพ่อกับท่านแม่ คนพวกนั้นจะใจดีกับนางและน้องชายหรือไม่

ภาพสองพี่น้องกอดกันร้องไห้หน้าหลุมศพของบิดามารดา ทำให้แขกเหรื่อที่มาร่วมพิธีศพของชุนหยวนและชุนเจียวมี่ อดที่จะน้ำตาซึมไปด้วยมิได้

“น่าเวทนาเสียจริง บิดามารดาตายจากไปพร้อมกันเช่นนี้ สองพี่น้องคงจะลำบากไม่น้อย”

“เจ้าเอ่ยสิ่งใดกัน เพียงแค่หลานสองคน ครอบครัวตระกูลชุนจะมิเลี้ยงดูเลยหรือ ยามมีชีวิตอยู่สองผัวเมียก็หาเงินจุนเจือครอบครัวไม่น้อย ตระกูลชุนก็คงมิคิดทิ้งขว้างหลานได้ลงคอกระมัง”

“เรื่องนี้มิแน่นอน ยายเฒ่าชุนฉือนั่น ใช่ว่าจะรักใคร่บุตรชายเมียรองอย่างชุนหยวน ทั้งชุนเจียวมี่เองก็มิยอมโอนอ่อนให้แม่สามี จนทะเลาะกันอยู่ร่ำไป”

“แน่สิ ก็สะใภ้ใหญ่อย่างชุนเจียงไม่แม้แต่จะขัดใจแม่สามี พูดจาออดอ้อน อ่อนหวาน จึงได้มีข้อเปรียบเทียบอย่างไรเล่า”

“หึ! แต่ข้าชอบแบบเจียวมี่มากกว่านะ นางซื่อตรง แม้จะพูดจาขวานผ่าซากไปบ้าง แต่ก็มีจิตใจดี ต่างจากชุนเจียงที่คอยยุแยงผู้อื่นให้แตกคอกัน ต่อหน้าพูดจาดี แต่ลับหลังกลับจ้องจะใส่ร้ายผู้อื่น” เสียงสนทนาของเหล่าแม่เรือน มิได้ทำให้ลี่มี่เด็กสาววัย 14 หนาวรู้สึกโกรธเคืองแม้แต่น้อย เพราะสิ่งที่พวกนางพูดนั้นล้วนถูกต้อง ท่านย่าใหญ่มิได้เป็นย่าทางสายเลือดกับนาง

ท่านพ่อของนางเกิดจากภรรยารองของท่านปู่ ซึ่งทั้งท่านปู่และท่านย่าเล็กก็สิ้นลมไปนานแล้ว เดิมทีหลังจากแต่งท่านแม่เข้ามา ท่านพ่อคิดจะย้ายออกไปอยู่ที่อื่น แต่ท่านย่าใหญ่กลับเอ่ยทวงบุญคุณที่เลี้ยงดูท่านพ่อมา ท่านพ่อจึงได้แต่ก้มหน้าทำงานหาเงินมาจุนเจือบ้านใหญ่ ยังดีที่ท่านแม่มิใช่พวกยอมคน จึงได้มีเงินทองเก็บซ่อนไว้อยู่บ้าง ทั้งยังช่วยให้พวกเราสองพี่น้องไม่ถูกรังแก แต่ความไม่ยอมคนของท่านแม่นั้น ก็ยิ่งทำให้ท่านย่าใหญ่มิชอบใจ มิเพียงแค่ท่านพ่อท่านแม่เท่านั้น แม้กระทั่งพวกเขาสองพี่น้องท่านย่าก็มิได้รักใคร่ ขนม ของเล่นทุกชิ้นในบ้านล้วนเป็นของซูเม่ยและชุนเป่า ยังดีที่พี่ชุนเต๋อยังเมตตาพวกเขาอยู่บ้าง

“มี่เอ๋อร์ เจ้าพาอาหมิงกลับเรือนเถิด พิธีกรรมทางนี้เสร็จสิ้นแล้ว” ชุนเต๋อสงสารลูกพี่ลูกน้องทั้งสองของเขาจับใจ เดิมทีท่านย่าก็มิใคร่จะชอบใจครอบครัวของท่านอาชุนหยวนอยู่แล้ว เพียงแค่ซูเม่ยร้องไห้มาหา ท่านย่าก็ดุด่าลี่มี่ โดยมิไถ่ถามสักคำ ทั้งเขาและท่านพ่อก็มิอาจเอ่ยห้ามได้ คงจะมีเพียงอาสะใภ้ที่พอจะต่อปากกับท่านย่าได้ แต่บัดนี้มี่เอ๋อร์และอาหมิงกลับสูญเสียทั้งบิดาและมารดา

“เจ้าค่ะ ข้าจะพาอาหมิงกลับเรือนก่อน อย่างไรเรื่องทางนี้ฝากพี่ชุนเต๋อจัดการด้วย”

“อืม ไปพักเถิด เรื่องอื่นมิต้องคิดมาก อย่างไรพวกเราสกุลชุนย่อมมิทิ้งขว้างกันเป็นแน่” มือหนายกขึ้นลูบศีรษะน้อยของลี่หมิงที่อยู่ในอ้อมกอดลี่มี่ ชุนเต๋อมองตามหลังน้องสาวและน้องชายไปจนลับสายตา แล้วจึงกลับเข้าไปช่วยบิดาของตนขอบพระคุณแขกเหรื่อที่มาร่วมพิธีศพ

“นอนเถิดอาหมิง นอนแต่หัวค่ำ พรุ่งนี้ตื่นมาจะได้สดชื่น” ลี่มี่นอนตะแคงกอดกล่อมน้องชายให้หลับ มือบางตบลงบนหน้าท้องของลี่หมิงเป็นจังหวะอย่างเบามือ

“ตื่นมาจะพบท่านพ่อกับท่านแม่หยือไม่”

“…มิพบ แต่พรุ่งนี้ตื่นมาเจ้าจะเจอพี่เป็นคนแรก ดีหรือไม่” ลี่มี่มิอยากโป้ปดน้องชาย นางเลือกที่เอ่ยบอกความจริง มิอยากให้น้องชายเฝ้ารอ ทั้งที่ในชีวิตนี้มิอาจได้พบท่านพ่อและท่านแม่อีก

“ดีขอยับ” ร่างเล็กพลิกกายเข้าซุกในอ้อมกอดของพี่สาว แล้วเข้าสู่ห่วงนิทราไป

เมื่อน้องชายหลับไปแล้ว ลี่มี่ก็มิอาจกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป ร่างบางสะอึกสะอื้น เนื้อตัวสั่นเทิ้มไปด้วยความเสียใจ การสูญเสียครานี้มันกะทันหันสำหรับนางมากเกินไป

ทั้งที่ท่านพ่อท่านแม่เพียงไปหาของป่าดังที่เคยทำ แต่ทั้งสองกลับพลัดตกหน้าผา ท่านพ่อของนางสิ้นลมทันที มีเพียงท่านแม่ที่ยังมีสติพูดคุยได้ แม้จะมิอาจขยับร่างกายได้ แต่ท่านแม่ก็ได้สั่งเสียให้นางใช้เงินทองที่มีดูแลตนเองและน้องชายให้ดี จากนั้นไม่กี่ชั่วยามท่านแม่ก็สิ้นลมไป

เด็กสาวคลายอ้อมกอดจากน้องชาย ขยับลุกขึ้นมาหาถุงเก็บเงินที่ท่านแม่แอบเก็บซ่อนเอาไว้ หากจำไม่ผิด ท่านแม่เอ่ยว่าถุงเงินถูกเก็บไว้ใต้กองเสื้อผ้าในหีบ มือบางจึงเริ่มนำเสื้อผ้าของท่านแม่ออกมากองไว้ด้านนอกจนหมด จึงพบเข้ากับกล่องไม้ขนาดเท่าฝ่ามือวางอยู่ก้นหีบ และเมื่อเปิดดูก็พบว่ามีเงินอยู่หลายตำลึงเงิน

“หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า…ห้าตำลึงเงิน กับอีกสามสิบอีแปะ” ตากลมเบิกกว้างขึ้น นางมิคิดว่าท่านพ่อและท่านแม่จะเก็บเงินไว้ได้มากถึงเพียงนี้ เพราะยามที่ท่านพ่อล่าสัตว์ได้ก็มักจะนำไปขายและนำเงินมาแบ่งให้ท่านย่าใหญ่ไว้ใช้ตลอด

“เงินจำนวนเท่านี้ คงจะอยู่ได้นานกว่าหนึ่งหนาวเลยทีเดียว” ข้าวสาร 1 จิน ต้องจ่าย 20 อีแปะ เงินกว่าห้าตำลึงเงิน ครอบครัวชาวบ้านเช่นพวกนางย่อมเหลือกินเหลือใช้ หากว่ามิได้ฟุ่มเฟือย ซื้อเสื้อผ้าอาภรณ์หรูหรา ย่อมอยู่ได้นานกว่าหนึ่งหนาว

ลี่มี่เก็บเงินใส่ไว้ในกล่องแล้วซ่อนไว้ใต้หีบเสื้อผ้าของท่านแม่เช่นเดิม เงินเหล่านี้นางจะเก็บไว้ใช้ยามจำเป็น นางมิคิดจะเอ่ยบอกเรื่องนี้กับผู้ใด กระทั่งท่านย่าใหญ่และท่านลุง เพราะไม่แน่ว่าเมื่อไม่มีท่านพ่อท่านแม่เช่นนี้ พวกเขาอาจจะขับไล่นางและน้องชายไปอยู่ที่อื่น อย่างว่า…ผู้ใดจะอยากรับภาระเลี้ยงดูหลานที่มิได้มีสายเลือดของตนได้

ร่างบางเก็บข้าวของให้เข้าที่ แล้วจึงลงมาล้มตัวนอนข้างน้องชายที่หลับสนิทไปแล้ว

“มิต้องกังวลนะอาหมิง พี่จะดูแลเจ้าแทนท่านพ่อและท่านแม่เอง” ริมฝีปากบางก้มลงจุมพิตหน้าผากมนของน้องชาย ใจตั้งมั่นว่าจะเป็นทั้งบิดา มารดา และพี่สาวที่ดีให้น้องชาย

もっと見る
次へ
ダウンロード

最新チャプター

続きを読む

コメント

コメントはありません
12 チャプター
1. เหลือเพียงเราสอง
“ฮึก ฮื่อออ พี่มี่เอ๋อร์ เหตุใดพวกยุงๆ จึงเอาท่านพ่อกับท่านแม่ใส่ในหลุมเช่นนั้นเย่า น้องกลัวท่านพ่อ ท่านแม่จะหายใจไม่ออก” คำพูดของเด็กชายวัย 4 หนาวอย่างชุนลี่หมิง ทำเอาชุนลี่มี่ผู้เป็นพี่สาวถึงกับสะอึก มิรู้จะตอบน้องชายอย่างไร ว่าบิดามารดาได้ลาจากโลกนี้ไปแล้ว สองแขนกระชับกอดน้องชายให้แน่นขึ้น แม้เด็กสาวจะมิได้ร้องไห้สะอึกสะอื้น แต่กระนั้นหยาดน้ำสีใสก็ไหลออกจากตากลมโตไม่หยุด“ท่านพ่อกับท่านแม่สิ้นลมแล้วอาหมิง อึก พวกท่านมิอาจมาอยู่ดูแลเราเช่นเก่าก่อนได้แล้ว ฮึก!…แต่ถึงอย่างนั้นพวกท่านก็จะคอยมองเราสองพี่น้องอยู่เสมอ” ลี่มี่ยกมือปาดน้ำตาออกจากใบหน้า พยายามอดกลั้นเสียงสะอื้น เพราะมิอยากอ่อนแอต่อหน้าน้องชาย ทั้งที่บัดนี้ ขาของนางแทบจะยืนไม่ไหวที่ต้องสูญเสียทั้งบิดาและมารดาในคราเดียวกันเช่นนี้ครอบครัวตระกูลชุนของลี่มี่เป็นครอบครัวใหญ่ มีคนในสกุลถึง 9 คน เป็นท่านย่าใหญ่ชุนฉือ ท่านลุงชุนไห่ ป้าสะใภ้ชุนเจียงและลูกของท่านลุงอีกสามคนคือ ชุนเต๋ออายุ 20 หนาว ชุนซูเม่ยอายุ 14 หนาว ชุนเป่าอายุ 3 หนาว และท่านพ่อชุนหยวน ท่านแม่ชุนเจียวมี่ ชุนลี่หมิงน้องชาย และตัวนางชุนลี่มี่“เช่นนั้น เยาจะอยู่กับผู้
last update最終更新日 : 2025-06-22
続きを読む
2. อดทนเอาไว้… (1)
“ท่านย่าทานเนื้อเจ้าค่ะ เม่ยเอ๋อร์คีบให้ท่าน” ซูเม่ยคีบเนื้อหมูป่าตุ๋นให้ชุนฉือผู้เป็นย่า เด็กสาวยิ้มแย้ม พูดคุยอย่างอารมณ์ดี ต่างจากลี่มี่และลี่หมิงที่บัดนี้นั่งทานข้าวเงียบๆ ยิ่งเห็นครอบครัวของท่านลุงอยู่กันพร้อมหน้าเช่นนี้ นางยิ่งอดที่จะคิดถึงท่านพ่อท่านแม่มิได้“ขอบใจเจ้ามาก หลานรักของย่า”“มี่เอ๋อร์กับอาหมิงก็รีบทานเข้าเถิด หากมิยอมทานข้าวทานปลาเช่นนี้ บิดามารดาของพวกเจ้าจะหมดห่วงได้อย่างไร” ชุนไห่คีบอาหารใส่ชามข้าวให้หลานทั้งสอง เขามิรู้ว่าต้องทำอย่างไรให้ทั้งคู่หายเศร้าโศก เดิมทีหลานสาวของเขาน่ารักสดใส ช่างพูดช่างจา แต่บัดนี้กลับนิ่งเงียบ คงต้องอาศัยเพียงเวลาเท่านั้นที่จะช่วยเยียวยาบาดแผลในใจของหลานชายและหลานสาวได้“ขอบพระคุณเจ้าค่ะ” / “ขอบพระคุณขอยับท่านยุง”“มี่เอ๋อร์ทานให้มากหน่อย มิมีบิดามารดาหาเงินมาเลี้ยงดู เจ้าคงต้องทำหน้าที่หาเงินเข้าตระกูลแทน ใช่หรือไม่เจ้าคะท่านแม่” รอยยิ้มอ่อนโยนของป้าสะใภ้ มิได้ทำให้ลี่มี่ซึ้งใจแม้แต่น้อย นางคิดไว้อยู่แล้วว่าชีวิตหลังจากที่มิมีท่านพ่อท่านแม่ นางจะต้องสู้รบตบมือกับคนเหล่านี้อีกมาก ทั้งยังเตรียมใจมาพบกับความลำบากมาเป็นอย่างดีแล้วสิ่ง
last update最終更新日 : 2025-06-22
続きを読む
3. อดทนเอาไว้… (2)
ตั้งแต่บิดาและมารดาจากไปร่วมเดือน สองพี่น้องมิได้อยู่ในเรือนอย่างสงบสุขสักวัน ไม่เพียงแต่ทำงานหาเงิน แต่งานในบ้าน ลี่มี่และลี่หมิงก็เป็นผู้ที่ช่วยกันทำทั้งหมด เด็กน้อยวัยเพียงสี่หนาวมิเคยได้ออกไปเที่ยวเล่น ต้องมาทำงาน เช็ดถูพื้นเรือนทั้งเรือน ส่วนลี่มี่เองก็ต้องทำความสะอาด ตวงน้ำใส่ถัง ทั้งยังต้องเข้าครัวช่วยป้าสะใภ้ ทั้งที่งานบางอย่างเป็นหน้าที่ของซูเม่ยด้วยเช่นกัน แต่นางกลับมิยอมทำ ลี่มี่เคยนำเรื่องนี้ไปเอ่ยกับท่านย่าแล้ว แต่ท่านย่ากลับกล่าวว่านางและน้องชายถือเป็นผู้อาศัย สมควรที่จะตอบแทนบุตรสาวเจ้าของเรือน หลังจากนั้นเมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอีก ลี่มี่ที่มิอยากมีปัญหายุ่งยากใจ จึงได้แต่อดทนอดกลั้น ทั้งที่ภายในใจอยากจะตะโกนด่าทั้งหัวหงอกหัวดำ“พี่มี่เอ๋อร์ นี่คือสิ่งใดหยือ”“เรียกว่าเข็ม” มือก็ปักผ้าไป ปากบางก็เอื้อนเอ่ยตอบน้องชายไป“ใช้ทำสิ่งใดหยือ”“เข็มใช้เย็บปัก เช่นที่พี่ทำนี่อย่างไร งดงามใช่หรือไม่เล่า”“โอ้! งดงาม งดงาม” น้องชายตัวน้อยยื่นหน้าเข้ามาดูลวดลายบนผ้าที่ลี่มี่กำลังปักอยู่“อ่า~ มิขนาดนั้นหรอกๆ” ลี่มี่โบกมือปฏิเสธไปมา ทั้งที่สีหน้ามีความภูมิใจเต็มสิบส่วน หลังจากบิด
last update最終更新日 : 2025-06-22
続きを読む
4. ผู้ใดจะทนไหว (1)
“เจ้าจะตามข้ามาด้วยเหตุใด” ลี่มี่หันกลับไปมองลูกพี่ลูกน้องอย่างซูเม่ย ที่สวมใส่อาภรณ์งดงาม ทั้งยังผัดหน้าเสียแดงก่ำวิปลาสไปแล้วหรือ…“ก็…มาเก็บปลาเป็นเพื่อนเจ้าอย่างไรเล่า” เด็กสาวแก้มแดงลอยหน้าลอยตา เดินนำไปโดยมิสนใจสีหน้าอันงงงวยของลี่มี่แม้แต่น้อย“แต่งเนื้อแต่งตัวเพื่อมาเก็บปลา อืม…ดียิ่ง” ลี่มี่ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา มือเล็กกระชับสายตะกร้าสะพายหลัง แล้วจึงเดินตามซูเม่ยไปเมื่อเด็กสาวทั้งสองมาถึงริมตลิ่ง ลี่มี่ก็ไม่รอช้า เดินลงน้ำไปดูตาข่ายดักปลาที่ท่านลุงได้วางไว้ แต่ลูกพี่ลูกน้องที่เอ่ยว่าจะมาช่วย กลับมิยอมลงมาช่วยนางเก็บปลาสักตัวเดียว มือเล็กรีบนำปลาที่ติดในตาข่ายดักปลา ออกมาใส่กระชังปลาที่เตรียมไว้แม่น้ำในแถบนี้มิได้ลึกมาก ทั้งน้ำมิไหลเชี่ยว จึงมีปลาและสัตว์น้ำอื่นๆ อาศัยอยู่ ชาวบ้านในละแวกนี้ จึงมักจะมาวางตาข่ายดักปลาเอาไว้ เพื่อนำปลาไปปรุงอาหาร ไม่เว้นแม้แต่ครอบครัวผู้ใหญ่บ้านอย่างสกุลกวน“อ๊ะ ท่านพี่อู๋ท่งก็มาเก็บปลาหรือเจ้าคะ น้องเองก็มาเก็บปลาเช่นกัน” ซูเม่ยดึงยื้อกระชังปลาในมือลี่มี่มาถือไว้เอง ทั้งยังทำท่าทางบิดๆ เขินๆ จนเกินงาม“ใช่ พี่เองก็มาเก็บปลา พวกเจ้าเก็บปลากั
last update最終更新日 : 2025-06-22
続きを読む
5. ผู้ใดจะทนไหว (2)
ลี่มี่ทิ้งตะกร้าไว้หน้าเรือนอย่างมิไยดี ขาเรียวรีบสาวเท้าเข้าเรือน เดินตามเสียงไปจนพบเข้ากับ ภาพที่นางแทบมิอาจทนมองได้บัดนี้ท่านป้าชุนเจียง กำลังใช้ไม้เรียวฟาดเข้าที่สะโพกน้อยของลี่หมิงอย่างแรง แม้ว่าเด็กชายจะร้องขอ อ้อนวอนอย่างไร ชุนเจียงก็มิยั้งแรงไว้แม้แต่น้อย“น้องขออภัยท่านป้า ฮึก อย่าทำน้องเยย อาเป่าล้มเอง โอ๊ยยยย” น้ำสีใสไหลอาบแก้มกลมอย่างน่าสงสาร สองมือเล็กประสานคำนับอ้อนวอนต่อผู้เป็นป้า แต่นางกลับมิยอมหยุดการกระทำ“หยุดนะ!!! ปล่อยอาหมิงเดี๋ยวนี้” ลี่มี่ตะโกนออกมาสุดเสียง รีบเข้าไปดึงตัวน้องชายมาหาตน แต่ชุนเจียงกลับมิยอมปล่อยมือจากแขนเล็กของเด็กชาย“น้องเจ้าทำอาเป่าร้องไห้ ต้องถูกลงโทษ!”“เจ้าตีเขาไปแล้ว ปล่อยน้องข้า!” ลี่มี่ฉุนขาด จนมิอาจเอ่ยเรียกขานนังปีศาจตรงหน้าว่าท่านป้าได้อีกต่อไปแม้ลี่มี่จะเอ่ยอย่างไร ชุนเจียงก็มิยอมปล่อยลี่หมิง มิเพียงเท่านั้นนางยังพลั้งมือผลักร่างเล็กของเด็กชายจนล้มลงไปกองกับพื้น…ไม่ทน ไม่ทนอีกต่อไปแล้ว!ตุ๊บ!“โอ๊ย! เอวข้า”ลี่มี่ยกเท้าขึ้นถีบไปที่หน้าท้องของชุนเจียงเต็มแรง จนผู้เป็นป้าสะใภ้เซไปชนเข้ากับขอบโต๊ะ ดูเหมือนว่าชุนเจียงจะเจ็บไม่น้อย เพร
last update最終更新日 : 2025-06-22
続きを読む
6. ผู้ใดจะทนไหว (3)
ลี่มี่เก็บข้าวของจำเป็นของตนเองและน้องจนครบ พับเก็บใส่ห่อผ้าอย่างรวดเร็ว โดยมิลืมหยิบเงินที่ท่านแม่ทิ้งไว้ให้ ใส่สาบเสื้อของตนเอาไว้ นางคิดแล้วคิดอีกว่าจะนำของต่างๆ ของท่านพ่อและท่านแม่ไปด้วยดีหรือไม่ แต่ด้วยสัมภาระของนางและอาหมิงก็มีมากมายแล้ว นางจึงเลือกเสื้อผ้าที่ท่านพ่อและท่านแม่ชอบสวมใส่ ติดตัวไปด้วย“พี่มี่เอ๋อร์ ฮึก! เราจะไปที่ใดกันหยือ”“พี่ยังมิรู้ แต่เราต้องออกจากที่นี่ก่อน เจ้าเจ็บมากหรือไม่…มาเถิด พี่จะอุ้มเจ้าเอง” ลี่มี่ปาดน้ำตาบนใบหน้าของน้องชาย พลางโอบอุ้มเด็กชายตัวน้อยเข้าอก“มี่เอ๋อร์ เจ้าคงมิคิดจะออกจากสกุลของเราจริงๆ ใช่หรือไม่” ชุนเต๋อเอ่ยรั้งน้องสาว เมื่อเห็นว่าลี่มี่หอบหิ้วสัมภาระมากมายออกมาจากห้อง ท่านพ่อสั่งให้เขามาปลอบใจลูกพี่ลูกน้องทั้งสอง เพราะกลัวว่าทั้งคู่จะเสียใจและคิดทำสิ่งที่มิสมควร แต่ยังไม่ทันที่ชุนเต๋อจะเคาะประตูเรียก ลี่มี่และลี่หมิงกลับหอบหิ้วสัมภาระมากมายออกมา“เป็นเช่นนั้นพี่ชุนเต๋อ ข้ากับน้องขอตัดขาดกับพวกท่านทั้งหมด จากนี้ข้ามิขอยุ่งเกี่ยวกับสกุลชุนอีกต่อไป” ลี่มี่เดินออกจากเรือนไปอย่างแน่วแน่ มิหันกลับมามองด้านหลังแม้แต่น้อย“ท่านพ่อ ท่านพ่อขอ
last update最終更新日 : 2025-06-22
続きを読む
7. เด็กอกตัญญู (1)
“เป็นอย่างไร รสดีหรือไม่” เหมาไป่เอ่ยถามหลานสาวและหลายชาย หลังจากตักอาหารให้ทั้งสองได้ลองทาน เช้าวันนี้เหมาไป่เข้าครัวทำอาหารให้หลานๆ ใบหน้าเหี่ยวย่นมองไปที่หลานทั้งสองด้วยสายตาที่คาดหวัง“ดีขอยับ ดีที่สุด”“รสดีมากเจ้าค่ะท่านยาย” ลี่มี่ยกยิ้มขึ้นมาเต็มใบหน้า ไม่ต่างจากลี่หมิงที่บัดนี้ตักข้าวเข้าปากอย่างสุขใจ อาหารที่ท่านยายทำมิได้เลิศรสราวกับนั่งกินในเหลาอาหาร แต่ทว่ากลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความใส่ใจและรักใคร่“เช่นนั้นก็กินให้มาก ประเดี๋ยวยายจะออกไปหาของป่าบนเขา วันนี้พวกเจ้าทั้งสองก็พักอยู่ที่เรือนเถิด” แม้เหมาไป่จะมีอายุมากแล้ว แต่นางมิมีบุตรคอยเลี้ยงดู ทั้งร่างกายยังแข็งแรงพอจะขึ้นเขาได้ นางจึงอาศัยการเก็บของป่ามาเลี้ยงปากท้อง“ท่านยายมิต้องเข้าป่าแล้วเจ้าค่ะ ท่านอายุมากแล้ว ข้ากลัวว่าท่านจะเป็นลมล้มพับไป”“ยายพอมีกำลัง เจ้าอย่าได้เป็นห่วงเลย”“มิห่วงมิได้เจ้าค่ะ พวกเรามีท่านยายเพียงคนเดียวนะเจ้าคะ ต่อจากนี้มี่เอ๋อร์ผู้นี้จะเป็นคนหาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวเองเจ้าค่ะ ท่านยายอย่าได้กังวลไป”“แต่-” เหมาไป่เข้าใจความห่วงใยของหลานสาว แต่จะให้นางปล่อยหลานสาวหาเงินทอง เพื่อเลี้ยงปากท้องของคน
last update最終更新日 : 2025-06-23
続きを読む
8. เด็กอกตัญญู (2)
“ขออภัยเจ้าค่ะ ที่ท่านเอ่ยมานั้น หมายถึงข้าใช่หรือไม่” ลี่มี่หน้าตึง เดินตรงไปหากลุ่มคนที่นินทานางอยู่ ลี่มี่ตั้งใจจะไปเอ่ยเล่าความจริงที่เกิดขึ้นให้สตรีเหล่านั้นได้ฟัง แล้วให้พวกนางพิจารณากันเอง แต่หญิงเหล่านั้นกลับเอ่ยวาจาก่อกวน“ข้าได้เอ่ยนามเจ้าหรือ” สีหน้ายียวนจากคนเหล่านั้น ทำให้ลี่มี่อดไม่ได้ที่จะตอบกลับไป นางมิได้ขอข้าวผู้ใดกินอีกต่อไปแล้ว จากนี้นางมิจำเป็นต้องยอมอ่อนให้ผู้ใด ดีมาย่อมดีตอบ แต่หากว่ามาร้ายก็เตรียมใจเอาไว้ได้เลย ว่าลี่มี่ผู้นี้จะมิอยู่เฉย“หึ! กล้านินทาผู้อื่น แต่มิกล้ารับผิด ทำตนเช่นคนขลาดเขลา หวาดกลัวกระทั่งเด็ก น่าสมเพชเสียจริง”“นี่เจ้ากล้าเอ่ยว่าผู้ใหญ่เช่นนี้ได้อย่างไร!” กลุ่มสตรีที่ยืนพูดคุยกันอยู่ถึงกลับตกใจที่ตนเองถูกเด็กสาวว่ากล่าวต่อหน้าต่อตา“ข้าได้เอ่ยนามพวกท่านหรือ…เช่นนั้นจะร้อนรนไปไย” ลี่มี่เอ่ยถามตาใส เมื่อเห็นว่าสตรีเหล่านั้นตกใจ หน้าเสียจนหลงลืมแม้กระทั่งวิธีพูด ร่างบางจึงมิใส่ใจ เดินตรงไปที่เรือนผู้ใหญ่บ้านทันที โดยที่มิรู้เลยว่าการกระทำของตนนั้น ยิ่งทำให้ข่าวลือความอกตัญญูของลี่มี่ถูกเล่าลือยิ่งขึ้นไปอีก ว่านอกจากจะอกตัญญูทำร้ายคนในครอบครัวแ
last update最終更新日 : 2025-06-23
続きを読む
9. เด็กอกตัญญู (3)
“แล้วข้าต้องแสดงออกเช่นนางหรือเจ้าคะ”“มิต้องทำเช่นนั้น เพียงแต่ยายอยากให้เจ้ารู้ว่าเวลาใดควรอ่อน เวลาใดควรแข็ง เวลาใดควรแสร้ง เวลาใดควรซื่อตรง หากเจอผู้ที่จริงใจ เราย่อมต้องจริงใจต่อเขา แต่หากว่าเขาไม่ เราก็ไม่ เท่านั้นเอง” เหมาไป่พบเจอผู้คนมาหลายรูปแบบ วิธีรับมือคือตัวเราเองต้องปรับตัวให้ทัน อย่างเจียวมี่มารดาของลี่มี่ นางเป็นคนแข็ง พูดตรง ผู้คนจึงมักมองว่านางปากร้าย มิน่าคบ ต่างกับชุนเจียงที่ทั้งพูดจาไพเราะ อ่อนโยน“ข้าจะพยายามเจ้าค่ะท่านยาย”“หลานยายต้องทำได้แน่ สำคัญอย่าได้ละเลยตัวตนของตนเองเล่า อีกอย่าง ยายรู้ว่าการสูญเสียนั้นเจ็บปวดเพียงใด ยามนี้เจ้าคงอยากเข้มแข็งเป็นที่พึ่งของยายและน้อง แต่ยายยังอยากเห็นมี่เอ๋อร์ที่สดใส ช่างพูดช่างถาม อย่าได้ทำตัวเป็นผู้ใหญ่เกินไปเลย ผ่อนคลายเสียบ้าง”“เอ่อ…ท่านยายมิได้ว่าข้าพูดมากใช่หรือไม่เจ้าคะ” ปากเล็กเบะยื่นออกมาอย่างน่าเอ็นดู“ฮ่าๆ มิได้ว่า” ท่าทีเช่นนี้แหละที่เหมาไป่อยากเห็นเวลาผ่านไปกว่าหนึ่งสัปดาห์ ข่าวลือของลี่มี่ก็เบาบางลง ยังมีบางคนที่มองมาทางนางด้วยสายตาไม่ชอบใจ แต่ก็มีหลายคนที่เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดและพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือน
last update最終更新日 : 2025-06-23
続きを読む
10. นิมิต (1)
ดอกบัวสีขาวเพียงดอกเดียวเบ่งบานกลางสระน้ำ ทั้งที่บริเวณโดยรอบมิได้มีสิ่งใดอยู่เลย สองขาเรียวก้าวเข้าไปยืนที่ขอบสระ ยื่นคอดูภายในสระจนทั่ว เพื่อสำรวจหาปลาหากว่าได้ปลากลับไปให้ท่านยายและอาหมิงคงจะดีไม่น้อยเพียงแค่คิดเช่นนั้น ก็มีฝูงปลาหลายสิบตัวแหวกว่ายในสระสีมรกต! ทั้งที่ก่อนหน้านี้ลี่มี่มองไม่เห็นปลาแม้แต่ตัวเดียว ฝูงปลามากมายปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้เด็กสาวตกใจจนพลาดพลั้งเหยียบไปบนโขดหิน ที่เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำ“ว๊าย!” ร่างบางซวนเซ ร่วงลงในสระน้ำจนเปียกปอนไปหมดทั้งตัวตุ้ม!!!“ฮื่อ ลี่มี่นะลี่มี่ มิระวังเอาเสียเลย” ปากเล็กบ่นให้กับความมิระมัดระวังของตนเอง ยังดีที่ของในตะกร้าสานนั้นเปียกน้ำได้ มิเสียหาย มิเช่นนั้นนางคงต้องทุบศีรษะตนเองสักทีสองทีลี่มี่นำตะกร้าออกจากหลังและยกไปไว้ริมสระน้ำ แต่ยังไม่ทันที่นางจะขึ้นจากสระ ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าอย่างไรนางก็เปียกไปทั้งตัวแล้ว ขอไปดูดอกบัวกลางสระให้หายแคลงใจเสียหน่อย ด้วยสงสัยว่าเหตุใดจึงมีดอกบัวเพียงดอกเดียวที่ขึ้นกลางน้ำ ทั้งยังมิเห็นกอบัวเลยสักกอเดียวร่างระหงที่แต่งกายและรวบผมราวกับชายหนุ่ม กำลังแหวกว่ายไปบริเวณกลางสระ ชะโงกหน้าเข้าไป
last update最終更新日 : 2025-06-24
続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status