Share

บทที่ 508

Author: หว่านชิงอิ๋น
ทันใดนั้น หัวใจของลั่วชิงยวนก็กระตุกวูบทันที และเต็มไปด้วยความโกรธทันที

นางหันกลับมาและจ้องมองเขาอย่างเดือดดาล “ออกไป!”

แม่เล้าเฉินเดินผ่านมา นางได้ยินเสียงโกลาหลจากด้านในห้อง จึงเดินไปที่ประตูแล้วถามว่า “แม่นาง เกิดกระไรขึ้น?”

“มีคนบุกเข้ามาในห้องของข้าโดยมิได้รับอนุญาต ส่งเขาออกไป!” เสียงของลั่วชิงยวนสั่น นางพยายามระงับความโกรธ เมื่อแม่เล้าเฉินได้ยินเช่นนั้น นางจึงรีบวิ่งเข้าไปในห้องทันที ขณะนี้ที่นางกำลังพาบุรุษผู้นั้นออกไป นางก็พบว่าบุรุษผู้นั้นคืออ๋องผู้สำเร็จราชการ

นางสะดุ้งเฮือก

“ท่านอ๋อง นี่คือห้องของแม่นางฝูเสวี่ย แขกมิได้รับอนุญาตให้เข้ามาในนี้ ท่านควรรอข้างนอกเพคะ” นางกล่าวพร้อมเชิญชวนบุคคลนั้นออกไปอย่างสุภาพ

ฟู่เฉินหวนระงับความโกรธของตน และเดินจากไป

ทันทีที่ฟู่เฉินหวนจากไป ลั่วชิงยวนก็ทุบโต๊ะทันที

ทันใดนั้น ในลำคอของนางก็เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด

ดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นสีแดง นางพยายามระงับอาการเหล่านั้นลง

ลิ่นฝูเสวี่ยพูดอย่างลำบากใจ “เจ้าเด็กน้อย ถูกเขาเข้าใจผิดอีกแล้ว”

“ท่านมิได้อธิบายให้เขาฟังอย่างชัดเจนเช่นนั้นหรือ?”

ลั่วชิงยวนพูดอย่างเย็นชา “มีอะไรต้องอธิบายอี
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 509

    “หากเช่นนั้น ข้าจักไปหาลี่เซียงแล้วถามให้ชัดเจน!”ดวงตาของลั่วชิงยวนเย็นชาเล็กน้อย นางเอ่ยอย่างแผ่วเบา “หาอย่าได้กังวลไป หากนางอับจนหนทางจริง แค่รอให้นางมาหาข้าก็เท่านั้น”วันรุ่งขึ้นก็มีคนส่งจดหมายลับมาไม่รู้ว่าผู้ใดส่งมา แต่มันถูกเขียนไว้ว่า ‘แม่นางฝูเสวี่ย’ลั่วชิงยวนเปิดจดหมายข้อความบอกว่า: เจ้าอยากรู้หรือไม่ว่าในตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นที่หอสมุทรมรกต คืนนี้ เจอกันที่หอร่ำเมลัย เวลาสามทุ่มครึ่ง ลั่วชิงยวนเลิกคิ้ว คืนนี้อย่างนั้นหรือ?นางไม่ได้พาลิ่นฝูเสวี่ยไปด้วย เพราะกลัวว่านางจะควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่ได้และแผนการของนางจะทลายลงเช่นนั้นนางจึงไปที่หอร่ำเมลัย เพียงลำพังนางรับใช้พานางเข้าไปในห้อง ท่านอาฉินกำลังนั่งรออยู่ก่อนแล้ว“หลังจากรอคอยมานาน ในที่สุดเจ้าก็มาถึงเสียที” ท่านอาฉินพูดพร้อมกับรินสุราสองจอก นางยกสุราจอกหนึ่งดื่มทันทีลั่วชิงยวนก้าวไปข้างหน้า นางนั่งลงแล้วพูดอย่างเย็นชา “อย่ามาเล่นลิ้น บอกความจริงกับข้ามา”ท่านอาฉินเหลือบมองจองสุราตรงหน้านาง “เจ้ามิอยากดื่มรึ?”“ท้ายที่สุดแล้ว วันนี้ข้ามิได้มาที่นี่เพื่อทะเลาะหรือต่อสู้กับเจ้า”ลั่วชิงยวนเหลือบมองจองสุร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 510

    ท่านอาฉินยิ้มอย่างมีแต้มต่อ ทันใดนั้นก็คว้าคอของนางแล้วกดนางลงบนโต๊ะอย่างแน่นหนา“เจ้าคิดว่าตัวเองมีอำนาจมากแค่ไหนกันเชียว? เพียงเพราะองค์ชายเจ็ดและอ๋องผู้สำเร็จราชการช่วยเจ้าเอาไว้ ไม่เช่นนั้น เจ้าจักยังนั่งอยู่ตรงหน้าข้าอย่างมีชีวิตเช่นตอนนี้ได้อย่างไร?!”ลั่วชิงยวนขัดชืนอย่างอ่อนแอ กำลังเพียงหยิบมือนั้นก็มิได้เป็นภัยคุกคามต่อท่านอาฉินเลย“เมื่อรู้ว่ามีทั้งองค์ชายเจ็ดและอ๋องผู้สำเร็จราชการ เจ้ายังกล้าวางยาข้าอีกรึ?” ลั่วชิงยวนกัดฟันดิ้นรนท่านอาฉินยิ้มอย่างเย็นชา “ยามฟ้าสางพรุ่งนี้ จะไม่มี ‘ฝูเสวี่ย’ ในใต้หล้านี้อีกต่อไป”“ข้ามิสนใจว่าเจ้าเป็นใผู้ใด กับลิ่นฝูเสวี่ย ข้ายังสามารถทำให้นางตายไปอย่างเงียบ ๆ ได้ กับเจ้า ข้าก็จะทำให้หายไปอย่างเงียบ ๆ เช่นกัน!”“พอเจ้าตาย สายลับที่ข้าส่งไปยังหอฝูเสวี่ยจะพบสมุดบัญชีและโฉนดที่ดินของเจ้าด้วย จากนั้นเราจะเก็บกระเป๋าไปยังหอฝูเสวี่ยทันที”“ขอบคุณที่ดำเนินกิจการและมอบมันใหัข้า!”ท่านอาฉินกล่าวและดึงกริชออกมาทันทีดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา นางกัดฟันและกระทืบเท้าเหยียบลงบนหลังเท้าของท่านอาฉินอย่างแรง ทำให้นางกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 511

    ลั่วชิงยวนคิดจะจุดตะเกียง แต่กลับมือสั่นและไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ฝูจ้าวจึงเดินเข้ามาจัดการให้ “ข้าจะจุดให้เอง” “ขอบคุณเจ้าค่ะ คุณชายฝู” ลั่วชิงยวนแสดงความขอบคุณ จากนั้นนางก็รีบเดินไปที่มุมห้องแล้วเปิดตู้ลิ้นชักพลางรีบหยิบกล่องใบหนึ่งออกมาแล้วใช้กุญแจไขเพื่อเปิดดู ฝูจ้าวเหลือบมองแล้วหรี่ตาเล็กน้อย เมื่อลั่วชิงยวนเปิดกล่องดูแล้วเห็นว่าของยังอยู่ นางก็ถอนหายใจแรง ๆ ด้วยความโล่งอก ยามที่หันกลับไป นางก็เห็นฝูจ้าวกำลังมองนางอยู่ ฝูจ้าวสะดุ้งตกใจไปชั่วขณะแล้วรีบหันหลังกลับไป “ขอโทษที หากเจ้ามิอยากให้ข้าเห็น ข้าจักออกไปก่อน” หลังจากเขาพูดจบก็เตรียมจะเดินออกไป ลั่วชิงยวนจึงห้ามเขาไว้ “คุณชายฝูเจ้าคะ” นางร้องเรียก คุณชายฝูชะงักฝีเท้า “ท่านมิเห็นสิ่งใดทั้งนั้น วันนี้ขอบคุณที่คุณชายฝูช่วยชีวิตข้าไว้นะเจ้าคะ ยิ่งไปกว่านั้น ข้าอยากขอร้องคุณชายฝูอีกสักเรื่องหนึ่ง” “เรื่องใดหรือ?” ฝูจ้าวเอ่ยถาม ลั่วชิงยวนตอบว่า "ข้าหวังว่าคุณชายฝูจักสามารถคุ้มกันข้าอยู่ในห้องตลอดทั้งคืนเจ้าค่ะ" เมื่อฝูจ้าวได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกประหลาดใจ เดิมทีเขาวางแผนจะช่วยชีวิตฝูเสวี่ยแล้วตามนางไป เพื่อจะได้ร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 512

    เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้เข้า นางก็ตื่นเต็มตาทันที “หายไปรึ?” “หายไปแล้วเจ้าค่ะ!” แม่เล้าเฉินร้อนใจสุดขีด “ทำไมถึงหายไปได้เล่า? เมื่อคืนมีหัวขโมยรึ?” ลั่วชิงยวนเอ่ยถาม แม่เล้าเฉินผงกศีรษะ “ใช่เจ้าค่ะ แล้วเขาหนีก็ไปได้ พวกเรายังจับตัวเขาไม่ได้เลย โชคดีที่ในที่สุดท่านก็ฟื้นสักที! ขอเพียงท่านมิเป็นอันใดก็พอ!” เมื่อนางพูดจบ อวิ๋นถังรีบวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทีร้อนใจ “เกิดเรื่องแล้ว! ท่านอาฉินจากหอเจาเซียงมาเจ้าค่ะ” “นางมาก็แล้วไปสิ ไยเจ้าต้องตื่นตระหนกด้วยเล่า?” ลั่วชิงยวนสวมรองเท้าด้วยท่าทีไม่รีบร้อน “แม่นาง ได้โปรดออกไปดูเองเถิดเจ้าค่ะ!” อวิ๋นถังหน้าตาเคร่งเครียด …… แขกเหรื่อในหอต่างถูกต้อนออกไปจนหมด ข้างหลังท่านอาฉินคือหลีเถาและบรรดาแม่นางจากหอเจาเซียง ตลอดจนผู้ที่บุกเข้ามาในหอฝูเสวี่ยเมื่อสองสามวันก่อน "หอนางโลมใหญ่โตอย่างหอเจาเซียงทำตัวเป็นอันธพาลเช่นนั้นได้เยี่ยงกัน? หากพวกเจ้ามิยอมไป เช่นนั้นก็อย่าโทษที่ข้าใช้กำลังก็แล้วกัน!" ซิ่งอวี่ด่าทออีกฝ่ายอย่างรุนแรง หลีเถาเดินเข้ามาสองก้าวแล้วยกมือขึ้นตบหน้านางอย่างแรง เพียะ— พลังตบรุนแรงจนทำเอาซิ่งอวี่เกือบล้มลงก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 513

    “นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทุกคนในหอจะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของข้า รวมทั้งตัวเจ้าด้วย!” ท่านอาฉินรู้สึกพอใจยิ่งนัก นางกำลังรอคอยที่จะได้เห็นสีหน้าประหลาดใจและหวาดกลัวของฝูเสวี่ย บัดนี้ทุกอย่างตกอยู่ในมือของนางแล้ว ฝูเสวี่ยน่าจะรู้ว่าตนคงไม่มีจุดจบที่ดีเป็นแน่ ทันทีที่ตื่นจากหลับลึก ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป อีกฝ่ายคงจะรู้สึกประหลาดใจมากทีเดียว แต่ท่านอาฉินกลับรอไม่ถึงฉากที่นางอยากจะเห็น ลั่วชิงยวนเหลือบมองกระดาษสองแผ่นแล้วเดาะลิ้น “เมื่อคืนบังเอิญมีหัวขโมยเข้ามาในหอ ข้าจึงสั่งให้คนไปแจ้งทางการเอาไว้แล้ว” “ข้ามิคาดคิดเลยว่าเจ้าจักมาสารภาพความผิดถึงที่เร็วเสียขนาดนั้น” เมื่อท่านอาฉินได้ยินเช่นนี้เข้า นางก็ยิ้มเยาะขึ้นมา “ตอนนี้ถกเถียงกันไปจะมีประโยชน์อันใดเล่า? เจ้าลงนามสัญญาหยินหยางฉบับนี้และขายหอฝูเสวี่ยแห่งนี้ไปแล้ว” “บรรดาแม่นางในหอฝูเสวี่ยที่อยู่ข้างหลังข้าล้วนเป็นพยานได้” ดูเหมือนว่าท่านอาฉินจะเตรียมการมาเป็นอย่างดี ลั่วชิงยวนเหลือบมองผู้คนที่อยู่ข้างหลังท่านอาฉินด้วยที่เสียดายพลางกล่าวว่า “ช่างน่าเสียใจจริง ๆ ข้าคิดจักมอบชีวิตที่ดีให้แก่พวกเจ้า แต่พวกเจ้ากลับมิต้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 514

    “ดูสิ เจ้ายังปลอมได้มิแนบเนียนเลยนะ ยังต้องรอบคอบอีกสักหน่อย” “ข้าเกรงว่าเจ้าคงใช้หัวไชเท้ามาแกะสลักตราประทับกระมัง เจ้าคิดเอาของพรรค์นี้มาหลอกเอาหอฝูเสวี่ยของข้าไปกระนั้นรึ?” “เจ้าคิดว่าข้าหลอกง่ายถึงเพียงนั้นเชียวรึ?” ในยามนั้นเอง ท่านอาฉินพลันมีสีหน้าตกตะลึง มีแววตื่นตระหนกวูบผ่านเข้ามาในใจของนางวูบหนึ่ง แต่แล้วนางก็ตระหนักได้ว่าฝูเสวี่ยน่าจะตั้งใจทำทีสงบนิ่ง ด้วยหวังที่จะบีบให้นางล่าถอย คุณชายเป็นคนเอาของกลับมาด้วยตัวเอง จะเป็นของปลอมไปได้อย่างไรกันเล่า? “นี่คือสัญญาที่พวกเราลงนามกันเมื่อคืนนี้ ตราประทับย่อมต้องเปียกชื้นเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าก็ตั้งใจที่จะเช็ดมันออกด้วย” “อาศัยแค่เรื่องนี้ เจ้าก็ปฏิเสธมิออกแล้ว” ท่านอาฉินยังคงเชิดคาง ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ลั่วชิงยวนหัวเราะแล้วมองมาที่ใต้เท้าเหอ “ท่านได้ยินท่านอาฉินชัดเจนแล้วหรือไม่?” ใต้เท้าเหอมีสีหน้าสับสน แต่ก็พยักหน้า “ข้าได้ยินชัดเจนแล้ว เช่นนั้นอย่างไรเล่า?” ลั่วชิงยวนค่อย ๆ เชิดคาง น้ำเสียงใสกระจ่างของนางเปี่ยมไปด้วยอำนาจ… “เช่นนั้นขอใต้เท้าเหอได้โปรดเป็นพยาน มาดูกันว่าหอเจาเซียงลักขโมยแล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 515

    เมื่อท่านอาฉินได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของนางก็ฉายแววตื่นตระหนกและมีเม็ดเหงื่อผุดซึมเต็มหน้าผาก ใต้เท้าเหอเหลือบมองท่านอาฉินด้วยท่าทีจนใจ เมื่อมีองค์ชายเจ็ดอยู่ที่นี่ เขาก็ทำอันใดมิได้นัก “มา! จับตัวท่านอาฉินเข้าคุก! รอจนกว่าคดีจะกระจ่างแล้วค่อยจัดการตามกฎหมาย” คนของทางการเข้ามาจับกุมตัวท่านอาฉินเอาไว้ทันที จากนั้นก็พาตัวนางไป บรรดาแม่นางที่ติดตามท่านอาฉินต่างรู้สึกตื่นตระหนก พวกนางพูดไม่ออกไปสักพัก หลีเถายิ่งรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นเรื่อย ๆ “ท่านอาฉิน! ท่านอาฉิน!” ทว่านางร้องตะโกนไปก็เปล่าประโยชน์ ใต้เท้าเหอเหลือบมองหลีเถาที่ถูกลั่วชิงยวนตตรึงเอาไว้ “แม่นางฝูเสวี่ย” ลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก “ข้าขอจัดการเรื่องนี้เองเจ้าค่ะ” ใต้เท้าเหอเข้าใจสิ่งที่นางต้องการจะสื่อแล้วเอ่ยเตือนขึ้นมาว่า “อย่าถึงขนาดให้เลือดตกยางออกเล่า” หลังจากเขาพูดจบก็เดินจากไป คนของทางการทุกคนเองก็จากไปด้วย เมื่อเห็นว่าผู้คนที่อยู่นอกประตูยังคงชมดูเรื่องสนุก ลั่วชิงยวนก็ขยิบตาแล้วสั่งให้พวกเขาปิดประตู “แม่นางฝูเสวี่ย เจ้าคิดทำอันใดรึ?” ฟู่จิ่งหลีเหลือบมองหลีเถาด้วยท่าทีฉงนสงสัย “ฉากนองเลือดเพคะ เชิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 516

    “เงินรึ? ข้ามีเยอะแล้ว” “หากพวกเจ้าอยากให้ข้าไว้ชีวิต หาใช่เพียงแค่เงินไม่ มอบสัญญาขายตัวของพวกเจ้าเพื่อแสดงความจริงใจเป็นอย่างไรเล่า?” เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนี้ก็ตกตะลึงแล้วมองหน้ากัน ฝูเสวี่ยรู้ว่าพวกนางมีสัญญาขายตัวของตนได้อย่างไรกัน? หลังจากลังเลอยู่สักพัก พวกนางต่างก็หยิบสัญญาขายตัวของตนออกมาจากแขนเสื้อแล้วยื่นให้ ซิ่งอวี่ก้าวเข้ามารับสัญญาขายตัวเอาไว้ ฟู่จิ่งหลีที่อยู่บนชั้นสองพิงราวบันไดพร้อมด้วยท่าทีสงสัยเป็นอันมากแล้วถามว่า “สัญญาขายตัวพวกนี้มิน่าเป็นของหอเจาเซียงกระมัง?” แม่เล้าเฉินครุ่นคิดอยู่สักครู่พลางกล่าวว่า “หม่อมฉันทุ่มเงินมหาศาลเพื่อล่อแม่นางพวกนี้ออกมา ยามนั้นพวกนางคงได้สัญญาขายตัวมาและเป็นอิสระแล้วเพคะ” “แต่หม่อมฉันคิดว่าแม่นางคงมิเก็บพวกนางไว้ แต่มิคาดคิดว่าแม่นางจักยอมปล่อยพวกนางไป” ยามนี้หอเจาเซียงล่มสลายไปแล้ว หอฝูเสวี่ยจึงมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในเมืองหลวง ณ เวลานี้ หากแม่นางเหล่านี้มิได้อยู่ที่หอฝูเสวี่ย พวกนางย่อมต้องไปที่อื่น ในยามนี้เอง ลั่วชิงยวนมองดูสัญญาขายตัวแล้วเอ่ยด้วยท่าทีมิรีบร้อนว่า “ข้าให้พวกเจ้าอยู่ที่หอฝูเสวี่ยก็ได้ แต่พวกเจ้า

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status