Share

บทที่ 752

Author: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วชิงยวนหยิบกล่องเล็ก ๆ สองกล่องขึ้นมาทันที เปิดออกแล้วดมกลิ่น มันคือสีผึ้ง!

“ท่านหยิบมาได้อย่างไร?” ลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจมาก

เมื่อเห็นว่านางมีความสุข ฟู่เฉินหวนก็อดมิได้ที่จะยกยิ้มและพูดเบา ๆ "ข้าเพียงหยิบติดมือมาก็เท่านั้น"

“ข้ายังหยิบชาดทาปากมาด้วย”

“ข้าแค่หยิบมาแบบสุ่ม ๆ หากมิชอบจะทิ้งไปก็ได้”

ลั่วชิงยวนเปิดกล่องชาด แตะมันเล็กน้อย ฟู่เฉินหวนอดมิได้ที่จะหันศีรษะไปมองเล็กน้อย

ลั่วชิงยวนแตะชาดทาปากบนหลังมือของเขาแล้วมองดู จากนั้นยกมุมริมฝีปากขึ้น “สีนี้ก็ใช้ได้”

“รับไว้แล้วกัน!”

ลั่วชิงยวนเก็บสีผึ้งสองกล่องเข้าไปใต้แขนเสื้อ

เมื่อเห็นสิ่งนี้ฟู่เฉินหวนก็ผ่อนคลายฝ่ามือที่ประหม่าเล็กน้อย และมุมริมฝีปากของเขาก็มิสามารถหยุดยกขึ้นได้

ทั้งสองถูกขังไว้จนถึงกลางคืน

เพื่อบรรเทาความหิว ลั่วชิงยวนจึงนอนพิงกำแพง และเมื่อนางหลับไป นางก็พิงไหล่ของฟู่เฉินหวน

แต่สุดท้ายก็ทนความหิวกลางดึกมิได้จึงตื่นขึ้นมา

นางลุกขึ้นนั่งอย่างทรมาน

ฟู่เฉินหวนตื่นขึ้นมาเห็นนางจับท้องด้วยความเจ็บปวด ก็รู้ทันทีว่านางหิวมาก

ฟู่เฉินหวนลุกขึ้นยืนที่ประตูห้องขังแล้วตะโกนทันที “มีใครอยู่หรือไม่!”

ไม่นานก็ม
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 753

    ลั่วชิงยวนสัมผัสท้องที่คำรามของตน ทนต่อกลิ่นมิได้อีกต่อไป ดังนั้นนางจึงฉีกเนื้อไก่ออกแล้วกินมันเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาจากข้างนอก ลั่วชิงยวนก็รีบยัดเนื้อเข้าไปในปากทันใดฟู่เฉินหวนหันหลังให้กับประตูห้องขัง บังสายตาผู้คนภายนอกเอาไว้“ข้าจะบังให้ เจ้ากินช้า ๆ เถอะ”ความรู้สึกหิวหายไปแล้ว และด้วยเหตุผลบางอย่าง แม้แต่หัวใจก็รู้สึกอบอุ่นลั่วชิงยวนกินไปครึ่งหนึ่งและเหลืออีกครึ่งให้ฟู่เฉินหวน“ท่านก็ควรเสวยอะไรสักหน่อย เผื่อเซียวชูหาเรามิเจอในเร็ววัน หากพวกเจ้าหน้าที่ชั่วพวกนี้มิให้อะไรเรากินอีก เราคงต้องหิ้วท้องไปอีกหลายวัน”“ข้ามิหิว”ลั่วชิงยวนลากเขาให้ไปนั่งลงตรงกำแพงแล้ว ก่อนยืนขึ้นเพื่อบังเขาเอาไว้ “ถึงมิหิวก็ต้องเสวยสักหน่อย”ฟู่เฉินหวนมองดูนาง ทำอะไรมิถูกเล็กน้อย แต่ก็ยังกินเข้าไปบ้าง......รุ่งสางใต้เท้าเฉามายังห้องขังยืนมองดูพวกเขาทั้งสองคนจากนอกประตู “หัวแข็งเสียจริง ไฉนต้องทำให้มากความด้วย”“หากมิจ่ายเงิน ก็ลงนามในสัญญาขายตัวเสีย เจ้าจะได้ออกไปทันที เจ้ายังสามารถไปที่สมาคมการค้าเฟิงตูเพื่อหางานดี ๆ ทำได้ ต่อจากนี้เจ้าจะมิต้องกังวลอะไรไปตลอดชีวิต!”เมื่อได้ย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 754

    องครักษ์เงาทั้งหมดคุกเข่าลงพร้อมกันใต้เท้าเฉาตกใจมากจนถอยหลังไปหนึ่งก้าว “พวกเจ้า…”ใต้เท้าเฉาสงสัยว่าพวกเขาจำคนผิดหรือไม่แต่แล้วก็มีเสียงที่เย็นชาและทรงอำนาจดังขึ้นมาข้าง ๆ“ลุกขึ้นเถอะ”ใต้เท้าเฉาหันหน้าไปเห็นฟู่เฉินหวนปัดแขนเสื้อเซียวชูและคนอื่น ๆ จึงลุกขึ้นยืนใต้เท้าเฉาตกใจมากจนแข้งขาอ่อนแรงและล้มพับลงกับพื้น “ผู้สำเร็จราชการ? อ๋องผู้สำเร็จราชการงั้นหรือ?”เสียงของเขาสั่นเครือใต้เท้าเฉาเงยหน้าขึ้นมองชายที่สวมหน้ากากแต่ยังคงสง่างาม ในใจสั่นสะท้าน เหตุใดเขาถึงเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการไปได้?ทุกคนในคุกพากันคุกเข่าลง ไม่มีใครกล้าเงยหน้า“กระหม่อมมีตาหามีแววไม่ จึงมิรู้ว่าท่านอ๋องเสด็จมาเยือน ทำให้ต้องทรงขุ่นเคือง หวังว่าท่านอ๋องจะทรงยกโทษให้พ่ะย่ะค่ะ!” ใต้เท้าเฉาคุกเข่าลงทันทีและเอ่ยปากขอโทษ ร่างกายของเขาสั่นด้วยความกลัวลั่วชิงยวนเลิกคิ้ว “ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วรึ? เมื่อครู่ใครกันที่บอกว่ามิว่าเราจะเป็นใคร เมื่ออยู่ในซีหยางก็ต้องเชื่อฟังเจ้าทั้งนั้น?”“ตัวข้ากับท่านอ๋องจะต้องทรมานอย่างสาหัสมิใช่รึ! รีบพาเราไปที่ห้องทรมานสิ!”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของเซียวชูก็เปลี่ยนไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 755

    เสียงของฉางจิ่นเหวินดังขึ้นนางเดินเข้าไปในห้องขังด้วยท่าทางอวดดี แต่ก็ได้เห็นว่าใต้เท้าเฉากำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น“ใต้เท้าเฉา นี่ท่านกำลังทำอะไร?”เมื่อหันไปมองอีก นางจะได้เห็นว่าสองคนในห้องขังกำลังนั่งกินดื่มอยู่บนเก้าอี้“เหตุใดสองคนนี้ถึง...”ฉางจิ่นเหวินรู้สึกมิพอใจในทันทีครู่ต่อมา ใต้เท้าเฉาจึงดึงนางให้คุกเข่าลงกับพื้น “รีบขออภัยต่อท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการและพระชายาเสีย!”อย่าได้ก่อเรื่องอีกเลย เขาจะตายอยู่รอมร่อแล้ว!ฉางจิ่นเหวินถูกใต้เท้าเฉาดึงลงกับพื้น เมื่อนางได้ยินคำพูดของใต้เท้าเฉา ใบหน้าของฉางจิ่นเหวินก็เปลี่ยนสีทันทีนางเงยหน้าขึ้นด้วยความสับสน “ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการ? พระ… พระชายา?”ฉางจิ่นเหวินรู้สึกตื่นตระหนก สถานการณ์ดังกล่าวทำให้นางหวาดกลัวมิน้อย“เร็วเข้า! รีบขอประทานอภัยท่านอ๋องและพระชายาเสีย! เจ้านี่มันจริง ๆ เลย เหตุใดถึงได้จับคนมิเลือกหน้าเช่นนี้!”น้ำเสียงของใต้เท้าเฉาเต็มไปด้วยการตำหนิ หากฉางจิ่นเหวินมิจับกุมอ๋องผู้สำเร็จราชการ เขาคงมิต้องมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ใช่หรือไม่?ฉางจิ่นเหวินตกใจมาก สองคนนี้กลายเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการและพระชายาไปได้อย่า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 756

    เมื่อดูจากปฏิกิริยาของใต้เท้าเฉา ลั่วชิงยวนก็รู้ว่าเขาต้องรู้อะไรเกี่ยวกับลั่วหลางหลางเป็นแน่เรื่องของตระกูลฟ่านคงเป็นที่รู้กันทั่วในซีหยางส่วนลั่วหลางหลางก็ถูกใส่ร้ายและทำให้เสียชื่อเสียง นางต้องทนทุกข์ทรมานเพียงใดกัน!ลั่วชิงยวนยิ่งรู้สึกโกรธเมื่อคิดถึงเรื่องนี้นางเอ่ยปากเตือน “แม้ว่ามหาราชครูลั่วจะมิอยู่แล้ว แต่จวนมหาราชครูยังอยู่ และข้าลั่วชิงยวนเองก็ยังอยู่! หากใครกล้าใส่ร้ายลั่วหลางหลางอีกครั้ง ได้ยินเมื่อไหร่ข้าจะลงมือเดี๋ยวนั้น!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใต้เท้าเฉาละล่ำละลักพูดออกมา ”พระชายา หาอย่าได้กังวล!“ฉางจิ่นเหวินก็ก้มหน้าลงและรับปากว่าจะมิใส่ร้ายลั่วหลางหลางอีกฉางจิ่นเหวินแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก แปลว่านางมาที่นี่เพื่อลั่วหลางหลาง โชคดีที่อีกฝ่ายมิได้มาที่นี่เพราะสมาคมการค้าเฟิงตูลั่วชิงยวนและฟู่เฉินหวนออกจากที่ว่าการ ก่อนออกเดินทางฟู่เฉินหวนบอกใต้เท้าเฉาว่า "ข้ามิต้องการให้ใครล่วงรู้ถึงการมาที่ซีหยางของข้าเท่าไหร่นัก"“จงทำเหมือนมิเคยพบเห็นข้าก็แล้วกัน”ใต้เท้าเฉาพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีก “พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง โปรดวางพระทัย กระหม่อมเข้าใจความพ่ะย่ะค่ะ!”จากนั้นทั้ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 757

    ......แม้ว่าตระกูลฟ่านจะไม่ใหญ่โต แต่ก็ดูหรูหรา ทิวทัศน์ในบ้านก็งดงามมากเช่นกันลั่วชิงยวนและลั่วหลางหลางเดินไปที่ทะเลสาบ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ ๆ ลั่วชิงยวนจึงเอ่ยถามขึ้นว่า “หลางหลาง ข้าไปซื้อสีผึ้งที่ขายในร้านเครื่องประทินโฉมตระกูลฟ่านเมื่อสองวันก่อน"นางหยิบกล่องสีผึ้งออกมาแล้วเปิดให้ลั่วหลางหลางดมลั่วหลางหลางตกใจเล็กน้อยลั่วชิงยวนถามว่า “กลิ่นนี้เหมือนกับถุงหอมที่เจ้าให้ข้ามาก่อนหน้านี้เลย! เจ้าเป็นคนทำสีขี้ผึ้งนี้ใช่หรือไม่?”ใบหน้าของลั่วหลางหลางเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นเนางก็ยิ้ม “ใช่แล้ว นี่เป็นฝีมือข้าเอง”“แล้วเหตุใด…”ก่อนที่ลั่วชิงยวนจะพูดจบ นางก็ถูกลั่วหลางหลางขัดจังหวะ“ในตอนนั้นตระกูลฟ่านเพิ่งย้ายมาที่ซีหยาง แม้ตระกูลเสวี่ยจะเป็นครอบครัวใหญ่อีกทั้งยังมีกิจการที่ดี แต่ก็เป็นเพียงตระกูลของฮูหยินผู้เฒ่าเท่านั้น บุตรหลานรุ่นหลังกับเรานับว่าห่างเหินกันเป็นอย่างมาก พวกเขาจะช่วยเหลือพวกเราอย่างจริงใจได้อย่างไร"“เพราะเขาพูดจาดี ช่วยเราเปิดร้านและทำการค้า และช่วยให้เราเข้าร่วมสมาคมการค้าเฟิงตูได้ก็จริง แต่จริง ๆ แล้ว เขาต้องการทำลายการค้าของเรา เพื่อจะรีดไถเง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 758

    ดวงตาของลั่วหลางหลางมืดมน นางขมวดคิ้วมุ่นและก้มหน้าลง น้ำเสียงดูทำอะไรมิถูกเล็กน้อย “ตอนที่ตระกูลเสวี่ยเย้ยหยันว่าข้าไร้ประโยชน์ ฟ่านลิ่งเสวียนก็บังเอิญมาเยี่ยมเยียนพวกเราที่ซีหยาง ดังนั้นเขาจึงออกปากแทนข้าสองสามคำและโต้เถียงกับตระกูลเสวี่ย”“ต่อมา ตอนที่เขาคิดจะกลับเข้ากองทัพ ทว่าคืนก่อนเขาพบว่ารองเท้าของเขาชำรุด ข้าจะช่วยซ่อมแซมให้เขาบ้าง ฟ่านซานเหอเองก็รู้เรื่องนี้ดี”“แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อออกไปสู่ภายนอกแล้วกลับเปลี่ยนไปสิ้นเชิง”หลังจากฟังแล้ว ลั่วชิงยวนก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด แน่นอนว่าทั้งหมดเป็นเพียงข่าวลือ!“นั่นหมายความว่า ต้องเป็นตระกูลเสวี่ยที่กุข่าวลือขึ้นแน่!”“แล้วสินเดิมของเจ้าเล่า ยังจะโลภสินสอดของเจ้าอีกรึ!“เติมทีนางคิดว่าชีวิตในซีหยางคงสงบสุข แต่มิคิดเลยว่านี่จะเป็นรังหมาป่าเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ถามอย่างสงสัย “ตระกูลฟ่านน่าจะมีเงินเก็บมิน้อย! ไหนจะสินเดิมของเจ้าอีก! เหตุใดเจ้ายังอยากทำการค้าอยู่?”“แน่นอนว่าตระกูลฟ่านมิต้องทำการค้าก็มีกินมีใช้”ลั่วหลางหลางตอบด้วยน้ำตาคลอ “ฟ่านซานเหอมิอยากมีชีวิตธรรมดา ๆ เช่นนั้น”“เขาบอกแก่ข้าว่าเขาอยากให้ข

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 759

    เซียวชูตกตะลึงและกอดดาบไว้ในอ้อมแขนทันใด “ท่านอ๋อง! มิได้หนาพ่ะย่ะค่ะ!"น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนเย็นชาเล็กน้อย “หากมิได้ เช่นนั้นก็รีบหาทางเสียสิ? เรื่องแค่นี้ยังต้องถาม เช่นนั้นเจ้าจะมีประโยชน์อันใด”เซียวชูเกาหัว นี่มิใช่หน้าที่ของเขา รู้อย่างนี้เขาพาซูโหยวมาที่นี่ด้วยดีกว่าฟ่านซานเหอรีบพูด “ท่านอ๋อง กระหม่อมมี กระหม่อมจะจ่ายให้พ่ะย่ะค่ะ”ฟ่านซานเหอพูดแล้วหยิบถุงเงินของเขาออกมาทันทีแต่ฟู่เฉินหวนยกมือขึ้นเพื่อปรามและพูดด้วยน้ำเสียงมิแยแส "พระชายาของข้าต้องการซื้อของเพียงมิกี่อย่าง มิต้องให้คนอื่นจ่ายให้หรอก""ข้าจ่ายเองได้"ฟ่านซานเหอพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและเก็บถุงเงินกลับอย่างเชื่องช้าลั่วชิงยวนยังคงจับจ่ายกับลั่วหลางหลางต่อไป ออกจากร้านหนึ่งก็เข้าอีกร้านและยังได้ไปที่ร้านของตระกูลฟ่านอีกด้วยนางซื้ออาภรณ์และเครื่องประดับให้ลั่วหลางหลางหลังจากเลือกสร้อยข้อมือมูลค่าสามร้อยตำลึง ลั่วหลางหลางเกิดปฏิเสธ “หากเจ้าต้องการซื้อก็เก็บไว้เองเถิด ข้ามิต้องการสิ่งเหล่านี้"“ดูสิว่าเจ้าแต่งตัวเรียบง่ายขนาดไหน เจ้ามิสวมอะไรเลย ดูสิว่าใส่แล้วเจ้างามเพียงใด” ลั่วชิงยวนบังคับให้ลั่วหลางหลา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 760

    ลั่วชิงยวนขึ้นไปชั้นบนแล้วเห็นว่าฟู่เฉินหวนมิได้พูดอะไรเขากำลังชงชานั่งอยู่ตรงข้ามนาง ท่าทางของเขาสงบและสง่างามลั่วชิงยวนใช้มือช้อนคางแล้วมองเขา “หม่อมฉันใช้เงินท่านไปมากมายขนาดนั้น ท่านมิเสียดายหรือ?”ฟู่เฉินหวนจิบชาช้า ๆ และมิตอบคำถามลั่วชิงยวนกล่าวเสริม “วันนี้หม่อมฉันได้คุยกับลั่วหลางหลางและพบว่าตระกูลเสวี่ยอาจเป็นคนกุข่าวลือ และกิจการของตระกูลฟ่านก็ถูกตระกูลเสวี่ยวางหมาก จุดประสงค์ของตระกูลเสวี่ยคือเพื่อรีดไถทรัพย์สินของตระกูลฟ่านและยังหมายปองสินเดิมของลั่วหลางหลางด้วย!”“วันนี้หม่อมฉันจึงใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย มิเพียงแต่เพื่อสนับสนุนลั่วหลางหลางเท่านั้น แต่ยังเพื่อให้ตระกูลเสวี่ยที่ซ่อนอยู่ในเงามืด เห็นว่าหม่อมฉันสุรุ่ยสุร่ายและโง่เขลา”“ตระกูลเสวี่ยก็มาจากสมาคมการค้าเฟิงตูเช่นกัน หากพวกเขาติดกับเรา เช่นนั้นเราจะได้หาโอกาสสืบสวน”ลั่วชิงยวนอธิบายเหตุผลแน่นอนว่ายังเหตุผลเล็ก ๆ เพราะอยากแก้แค้นฟู่เฉินหวนด้วยนางมิอาจเป็นฝ่ายเสียเปรียบได้ทุกครั้งยิ่งไปกว่านั้น การสืบสวนคดีใหญ่ขนาดนี้ จะมีการเสียสละทางการเงินบ้างก็หาใช่เรื่องใหญ่อันใดไม่หลังจากได้ยินสิ่งนี้ ฟู่เฉินหวน

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status