Share

บทที่ 18

Auteur: ฉินอันอัน
ยัยเด็กบ้าคนนี้ เสแสร้งเก่งจริง ๆ ด้วย!

ชีอวิ๋นถิงเหมือนกับวัวกระทิงที่ถูกกระตู้น เมื่อครู่ตอนที่ชีหยวนดึงแขนของเขาทีหนึ่งนั้นก็ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจถึงขีดสุดแล้ว

เขาชี้ไปทางชีหยวนพร้อมเอ่ยกับชีเจิ้น “ท่านพ่อ! ท่านควรตรวจสอบนางให้ดี ๆ นะขอรับ นางอยู่ด้านนอกมาสิบกว่าปี ใครจะรู้ว่านิสัยของนางเป็นอย่างไร และเคยคลุกคลีกับผู้ใดอีกบ้าง?”

คำพูดนั้นฟังดูแย่มาก เหลือเพียงแค่ไม่ได้พูดออกมาว่าชีหยวนไปเกี่ยวข้องกับคนอื่นในทางที่ไม่ดี และสงสัยในสถานะของนาง

ชีจิ่นสูดจมูกเบา ๆ อยู่ด้านข้าง และรับผิดชอบเติมเชื้อเพลิงลงในกองไฟ “พี่หญิง ท่าน ท่านคงไม่ได้ต่อสู้เป็นหรอกใช่หรือไม่เจ้าคะ? เมื่อครู่ข้าเห็นแล้วว่าท่านดึงท่านพี่และผลักเขาล้มลงไป...”

นางหวังกวาดสายตาด้วยสีหน้าซับซ้อนและสงสัยไปทางชีหยวน ในใจก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยขึ้นมา

นี่ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ นางปลอบใจตนเอง อาจิ่นเป็นแก้วตาดวงใจที่นางเลี้ยงด้วยมือตนเอง ส่วนอวิ๋นถิงก็เป็นบุตรชายคนโตของนาง และเป็นบุตรชายแท้ ๆ ของนางด้วย

แม้ฝ่ามือและหลังมือจะเป็นเลือดเนื้อเหมือนกัน แต่เนื้อที่อยู่บนฝ่ามือและหลังมือก็ยังมีความหนาบางแตกต่างกัน

ชีหยวนมองดูพวกเขา และหันไปคุกเข่าลงตรงหน้าชีเจิ้น

หลังจากนั้นนางก็ยื่นแขนของตนเองให้ชีเจิ้นดู “ท่านพ่อ ข้าเติบโตที่บ้านนอกกับพ่อแม่บุญธรรมตั้งแต่เด็ก พวกผ่าฟืน ตวงน้ำ ดูแลพืชผลข้าล้วนต้องทำทุกอย่าง และช่วงวันส่งท้ายปียังต้องช่วยฆ่าหมูอีก ดังนั้นข้าจึงมีแรงมากกว่าคนปกติเสียเล็กน้อย มันก็สมเหตุสมผลแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ?”

ฝ่ามือของนางล้วนเป็นรอยด้าน และสองมือคู่นี้ก็แตกต่างจากชีจิ่นโดยสิ้นเชิง ตรงที่ได้รับการเลี้ยงดูมาด้วยความหรูหราและสะดวกสบาย จนมือไม่เคยสัมผัสกับงานหนักเลย

ชีเจิ้นเมื่อได้เห็นก็พูดอะไรไม่ออก

จริงด้วย นางทำงานหนักตั้งแต่เด็กจนโต ดังนั้นแรงย่อมไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับเด็กผู้หญิงทั่วไปอยู่แล้ว

แค่อาศัยแค่เรื่องนี้ กลับบอกว่านางต่อสู้เป็นและมีเจตนาแอบแฝงแล้ว มันก็ไม่ค่อยถูกเสียทีเดียว

ชีหยวนเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ดวงตาก็แดงก่ำ “ท่านพ่อ ในเมื่อท่านพี่ใหญ่ดูถูกข้า แถมน้องรองยังรังเกียจที่ข้ากลับมาแบบนี้อีก เช่นนั้นก็หาที่สักแห่งหนึ่งแล้วส่งข้าไปเถิดเจ้าค่ะ”

นางหวังคัดค้านอย่างตกใจ “จะได้อย่างไรกัน?”

ในเมื่อพากลับมาแล้ว ทั้งยังเคยผ่านสายตาของจิ้นอ๋องกับเสนาบดีหลูอีก หากส่งคนกลับไปตอนนี้ มันจะดูเป็นอย่างไร?

ชีอวิ๋นถิงหน้าอกกระเพื่อมขึ้นอย่างรุนแรง “เจ้าเสแสร้งให้มันน้อย ๆ หน่อย! ชีหยวน อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นคนเช่นไร? ทางที่ดีเจ้าควรหยุดแสร้งทำตัวน่าสงสารอยู่ตรงนั้นจะดีกว่า เพราะไม่ช้าก็เร็ว ข้าจะเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของเจ้าออกมาเอง!”

“ชีอวิ๋นถิง!” ชีเจิ้นผิดหวังกับบุตรชายคนนี้อย่างมาก “เจ้าโวยวายพอหรือยัง?! ไสหัวไป! และไปคุกเข่าที่ศาลบรรพบุรุษให้เสีย ถ้าไม่มีคำสั่งของข้า ก็ไม่อนุญาตให้เจ้าลุกขึ้นมา!”

อากาศหนาวแบบนี้ โดยเฉพาะในศาลบรรพบุรุษก็จะยิ่งหนาวเย็น

และช่วงเวลาที่ทั้งครอบครัวมารวมตัวกัน จะปล่อยให้อวิ๋นถิงคุกเข่าที่ศาลบรรพบุรุษอย่างโดดเดี่ยว นางหวังจะทนได้อย่างไร?

นางรีบดึงชีเจิ้นไว้ “แค่เด็กสองคนล้อเล่นกันเท่านั้นเอง แล้วอาหยวนก็เพิ่งกลับมา พวกเด็ก ๆ ยังไม่รู้จักนิสัยของกันและกันดี จะมีกระทบกระทั่งกันบ้างก็เป็นเรื่องปกตินะเจ้าคะ...”

นางหวังพยายามไกล่เกลี่ยโดยไม่แยกแยะถูกผิด และจ้องชีอวิ๋นถิงเล็กน้อย “เจ้ายังไม่รีบขอโทษท่านพ่อเจ้าอีก?”

ชีเจิ้นโมโหอย่างมาก “จะมาขอโทษอะไรข้า? ไปขอโทษน้องสาวเขาสิ!”

ชีหยวนกระตุกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย

คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าในครอบครัวนี้ ชีเจิ้นกลับดูเหมือนเป็นคนปกติ

พอชีอวิ๋นถิงได้ยินก็เหมือนกับกินรังแตน “ทำไมข้าต้องขอโทษนางด้วย? นางเป็นแค่ตัวซวย พอกลับมาก็ทำฉากกั้นกระจกของท่านแม่ล้มลงมาแตก แถมข้าเองยังถูกกระจกตำจนได้รับบาดเจ็บอีก...”

ยังต้องการให้เขาขอโทษชีหยวนอีก ฝันไปเสียเถิด!

ชีเจิ้นเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และเตะชีอวิ๋นถิงที่ไม่ทันได้ระวังตัวไปทีหนึ่ง

ชีอวิ๋นถิงถูกเตะจนยืนไม่อยู่ และเกือบจะพุ่งลงไปบนกระจกกองนั้นอีกครั้ง

นี่เป็นครั้งแรกที่ชีเจิ้นทำร้ายชีอวิ๋นถิงต่อหน้าทุกคน

ชีจิ่นที่เมื่อครู่ยังเติมเชื้อเพลิงลงกองไฟกลับยุติการโจมตี แอบลูบหน้าอกและก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว

ส่วนนางหวังก็รีบก้าวไปด้านหน้าแล้วโอบชีอวิ๋นถิงไว้ในอ้อมแขน พลางให้ท้ายลูกตนเองด้วยความร้อนรนและโมโห “ท่านโหว! แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเอง เหตุใดท่านจึงลงมือหนักขนาดนี้ได้เล่าเจ้าคะ?”

ครั้งนี้ชีเจิ้นไม่ได้ทำเรื่องใหญ่ให้กลายเป็นเรื่องเล็กอีก และเขาก็ชี้ไปที่ชีอวิ๋นถิง “ขอโทษน้องสาวเจ้าซะ อย่าให้ข้าต้องเอ่ยอีกเป็นครั้งที่สอง!”

ตอนที่เขาโมโหขึ้นมา ไม่มีใครในบ้านที่จะสามารถต่อต้านเขาได้

นางหวังยังรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย และกลัวด้วยว่าชีอวิ๋นถิงจะปะทะกับชีเจิ้นอีก จึงรีบผลักบุตรชาย “ยังไม่รีบขอโทษน้องสาวของเจ้าอีก! เร็วเข้า!”

ชีอวิ๋นถิงเจ็บปวดไปทั้งตัว และแม้ว่าจะไม่พอใจ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับอำนาจที่เด็ดขาดของชีเจิ้น ก็ทำได้เพียงยอมจำนนอย่างไม่เต็มใจเท่านั้น “ขอโทษ! ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง!”

นางหวังถอนหายใจ และถามชีหยวนอย่างเย็นชาเล็กน้อย “เป็นอย่างไรเล่า คราวนี้เจ้าจะใจเย็นลงได้แล้วกระมัง?”

ชีหยวนไม่ถ่อมตัวไม่หยิ่งผยอง และไม่ยอมปล่อยผ่านไปง่ายๆ เพียงเพราะคำพูดของชีอวิ๋นถิง นางเพียงแค่เอ่ยอย่างราบเรียบ “คำขอโทษคงไม่จำเป็นแล้ว แค่หวังว่าต่อไป ท่านพี่ใหญ่จะไม่เอะอะอะไรก็เอ่ยว่าข้าเป็นลูกนอกคอกจากบ้านนอก ถึงอย่างไร พี่ด่าข้าเช่นนี้ก็ไม่ใช่แค่ด่าข้าเพียงคนเดียว มิใช่หรือ?”

สามคำสุดท้ายนี้เอ่ยเบามาก แต่กลับแฝงไปด้วยความประชดประชัดที่ยากจะอธิบายเล็กน้อย

ชีเจิ้นที่ได้ยินก็ปะทุความโกรธขึ้นมาในใจ

เขาตะคอกใส่ชีอวิ๋นถิง “ยังไม่รีบไสหัวไปที่ศาลบรรพบุรุษอีกหรือ?! และหากไม่ได้รับการอนุญาตจากข้า ก็ห้ามลุกขึ้นมา!”

นางหวังกลัวว่าหากชีอวิ๋นถิงยังอยู่ที่นี่จะยิ่งสร้างปัญหามากขึ้น จึงใช้มือดันหลังของเขาพลางขยิบตาให้เขา “เชื่อฟังท่านพ่อของเจ้า! และทบทวนความผิดพลาดของตนเองอย่างเชื่อฟังเสีย...”

ชีจิ่นใช้โอกาสนี้ ตามชีอวิ๋นถิงไปอย่างระมัดระวัง “ข้า ข้าจะไปกับท่านพี่ด้วยเจ้าค่ะ! บนร่างกายเขายังมีบาดแผล ข้าไม่ค่อยวางใจ รอให้ข้าพันแผลให้เขาเสร็จแล้ว ข้าค่อยไปกินข้าว”

สุดท้ายการเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็กจนโต ก็ยังใกล้ชิดมากกว่าคนที่กลับมากลางคันอยู่ดี

นางหวังถอนหายใจอย่างโล่งอก และพยักหน้าต่อบุตรสาวอย่างปลื้มใจ

เมื่อตอนที่หันหน้ากลับมาอีกครั้ง สีหน้าก็เย็นชาลงในทันที “ยังไม่รีบเก็บกวาดห้องนี้ให้สะอาดอีกหรือ?”

ชีเจิ้นกวักมือไปทางชีหยวน สำรวจนางอย่างละเอียดอยู่ครู่หนึ่ง จึงเอ่ยขึ้น “อีกประเดี๋ยวครอบครัวลุงรองและลุงสามของเจ้าจะมา เจ้าก็อย่าเอ่ยถึงเรื่องที่เจ้าอยู่บ้านนอกขึ้นมาอีกเล่า เข้าใจหรือไม่?”

ชีหยวนตอบรับด้วยการพยักหน้า

ช่วงที่ออกไป นางสังเกตเห็นแม่นมสวีที่อยู่ข้างกายนางหวังมีสีหน้าเย็นชา ยืนอยู่ด้านนอกผ้าม่านและจ้องมองตนเองด้วยใบหน้าที่เย็นยะเยือก

ราวกับตนเองทำเรื่องก่อกรรมทำชั่วจนแม้แต่สวรรค์และคนต่างก็พากันเคียดแค้นอย่างไรอย่างนั้น

แม่นมจางก็ก้มหน้าลงและแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นเท่านั้น

ชีหยวนไม่ได้สนใจเช่นเดียวกัน นางตามหลังชีเจิ้นออกไปยังโถงดอกไม้ที่จัดงานเลี้ยงด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

ศาลบรรพบุรุษมืดมนและทั้งหนาวเย็น น้ำตาของชีจิ่นก็ราวกับไข่มุกที่สายขาด กระทบลงบนมือของชีอวิ๋นถิงไม่หยุด “ท่านพี่ เหตุใดท่านพี่โง่เขลาเช่นนี้เล่าเ? เพราะข้าแล้ว ถึงกับต้องไปทะเลาะกับนางให้จงได้ ข้าคู่ควรหรือเจ้าคะ?”

เมื่อสาวงามหลั่งน้ำตา ใครเห็นก็อดสงสารไม่ได้ ชีอวิ๋นถิงตื่นตระหนกตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย “อาจิ่น เจ้าพูดอะไรน่ะ? เจ้าเป็นน้องสาวของข้า หรือว่าข้าจะมองดูนางรังแกเจ้าโดยไม่สนใจได้อย่างนั้นหรือ?”

ชีจิ่นร้องไห้หนักขึ้นอย่างควบคุมไม่อยู่ “ท่านพี่ ข้ากลัวว่าบ้านหลังนี้จะไม่มีที่สำหรับข้าอีกแล้วเจ้าค่ะ! นางน่ากลัวมากจริง ๆ ทุกคำพูดและทุกประโยคทิ่มแทงข้าจนไม่เหลือที่ยืน ท่านพ่อเองก็คงเกลียดข้าไปแล้วแน่ ๆ ...”

“เจ้าพูดจาเพ้อเจ้ออะไร?” สีหน้าของชีอวิ๋นถิงดำทะมึนลง “ตราบใดที่มีข้าอยู่ ก็จะคอยปกป้องเจ้าในบ้านหลังนี้ และใครก็อย่าคิดจะเปรียบเทียบ หรือคิดจะเบียดเจ้าออกไป! เจ้าคอยดูเอาเถิด ไม่ช้าก็เร็วข้าจะทำให้นางไสหัวออกไปด้วยความสิ้นหวังเอง!”
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Related chapter

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 19

    ในงานเลี้ยง ทุกคนต่างรอคอยการปรากฏตัวของชีเจิ้นและภรรยาอย่างอยากรู้อยากเห็นก่อนหน้านี้พวกเขาได้ยินมาคร่าว ๆ ว่าเรือนใหญ่ส่งคนออกไปตามหาใครบางคน และบอกว่าเด็กถูกอุ้มสลับตัวแล้วแต่เรื่องราวจะเป็นอย่างไรกันแน่ กลับรู้ไม่แน่ชัดเท่าใดนักตอนนี้บอกว่าพาเด็กกลับมาแล้ว แถมยังจัดงานเลี้ยงครอบครัวล่วงหน้าเพื่อให้ทุกคนได้รู้จักกัน และเมื่อถึงเวลาค่อยคืนสู่ตระกูล ความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขาจึงถูกกระตุ้นขึ้นสีหน้าของนางหวังยังคงตึงเครียดเล็กน้อยนางคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่านิสัยของบุตรสาวคนนี้จะเป็นเช่นนี้ได้แม้จะไม่หยาบคาย แต่กลับดูเย็นชาทำให้คนอื่นยากจะผูกมิตร และก็ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดีแถมยังเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นอีกชีอวิ๋นถิงแค่หยอกล้อกับนางเล็กน้อย แต่นางกลับไม่ยอมอ่อนข้อ และจ้องมองชีอวิ๋นถิงได้รับโทษด้วยสายตาที่เย็นชา ราวกับนั่นไม่ใช่พี่ชายแท้ ๆ ของตนเองอีกนางรู้สึกโกรธในใจ เมื่อเห็นฮูหยินรองและฮูหยินสาม สีหน้าจึงดูไม่เป็นธรรมชาติมากนักกลับเป็นฮูหยินรองและฮูหยินสามที่ดูอยากรู้อยากเห็น วิ่งเข้ามาต้อนรับนางด้วยรอยยิ้ม “พี่สะใภ้ใหญ่! นี่ก็คืออาหยวนใช่หรือไม่เจ้าคะ?”เมื่อครู

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 20

    ชีหยวนนั่งอยู่ด้านข้างเงียบ ๆ กำลังคิดว่าควรทำอย่างไรถึงจะเชื่อมความสัมพันธ์กับจิ้นอ๋องได้ ก็เห็นแม่นมสวีเดินเข้ามาจากด้านนอกด้วยสีหน้าที่รีบร้อนไปยังโต๊ะอาหารของนางหวัง และกระซิบอะไรบางอย่างอยู่ข้างหูนางหวังเดิมทีนางหวังกำลังพูดคุยกับน้องสะใภ้ทั้งสอง ว่าจะเชิญอุปรากรจีนคณะใดดีเมื่อฟังแม่นมสวีพูดจบ ก็ลุกขึ้นยืนจากตรงนั้น และถามด้วยความโกรธจัด “อะไรนะ?”เมื่อเห็นนางเป็นเช่นนี้ ฮูหยินรองกับฮูหยินสามก็ถามอย่างรีบร้อน “เป็นอะไรหรือเจ้าคะ พี่สะใภ้ใหญ่? มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นหรือถึงได้กังวลใจเช่นนี้?”สีหน้าของนางหวังเปลี่ยนแล้วก็เปลี่ยนอีก กัดริมฝีปากและมองไปทางชีเจิ้น “ท่านโหว อาจิ่นเป็นลมไปแล้วเจ้าค่ะ...”ศาลบรรพบุรุษหนาวเย็น และลมแรง เดิมร่างกายของชีจิ่นก็เปราะบางอยู่แล้วเวลานี้ความไม่พอใจต่อชีหยวนที่อยู่ในใจของนางหวังถึงจุดสูงสุดแล้ว และนางก็รู้สึกเบื่อหน่ายบุตรสาวที่พอกลับมาก็ทำให้บ้านวุ่นวายจนพลิกหน้ามือเป็นหลังมือคนนี้จริง ๆ ความสัมพันธ์ทางสายเลือดที่ไม่มีพื้นฐานทางด้านอารมณ์ บางครั้งก็เป็นเพียงภาระเท่านั้นชีเจิ้นสีหน้าเคร่งขรึมลงเล็กน้อยอย่างไรเสียก็ยังคงเป็นบุ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 21

    ชีหยวนหมดความอดทน “ไม่จำเป็น! ข้าว่าเหลียนเฉียวก็เก่งไม่น้อย ในเมื่อพวกเจ้าไม่ได้เต็มใจที่จะอยู่ปรนนิบัติข้า ข้าก็ไม่ได้สนใจ พวกเจ้าอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ!”แม่นมจางอึ้งไปครู่หนึ่ง ใบหน้าของนางแฝงไปด้วยความลำบากใจ “คุณหนูใหญ่ นางเพียงเป็นสาวใช้จอมสะเพร่า แม้แต่จะเกล้าผมก็ยังทำไม่เป็น คุณหนูจะยกยอนางเช่นนี้ได้อย่างไร?”ในขณะนั้นเอง นางก็รู้ทันทีว่าชีหยวนต้องการมีคนเชื่อใจอยู่ข้างกาย จึงคิดที่จะดึงเหลียนเฉียวมาเป็นคนของตน นางอดที่จะหัวเราะเยาะอยู่ในใจไม่ได้ ชีหยวนช่างน่าขันนัก นางคิดว่ากลเม็ดของตนนั้นเหนือชั้นนักหรือ? ช่างน่าขันยิ่งนัก การที่นางยกยอเหลียนเฉียวเช่นนี้ มีแต่จะทำให้บ่าวคนอื่น ๆ ไม่พอใจเข้าไปใหญ่ และพวกเขายิ่งไม่มีทางจงรักภักดีต่อนางคนบ้านนอกยังไงก็เป็นคนบ้านนอกอยู่วันยันค่ำ แม้ภายนอกจะแลดูเหมือนว่าเก่งกาจ แต่แท้จริงแล้วด้านในกลับกลวงโบ๋ นางเป็นเพียงคนโง่เง่าคนหนึ่งเท่านั้น จะเทียบคุณหนูรองได้อย่างไร?คุณหนูรองแค่เป็นลมไปครั้งเดียว ฮูหยินก็ลืมบุตรีแท้ๆ ที่เพิ่งกลับมาคนนี้เสียสนิท จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้สั่งให้ผู้ใดมาดูแลยังจะต้องพูดว่าใครสำคัญกว่าใครอีกหรือเดิมทีท

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 22

    ผูเถาดีใจกระโดดตัวลอย แม่นมจางส่ายหน้ามองนางยิ้มๆ ก่อนจะเดินไปที่เรือนของชีอวิ๋นถิงตอนนั้นชีจิ่นเป็นลมหมดสติไป ชีอวิ๋นถิงจึงให้บ่าวรับใช้ช่วยกันพาตัวชีจิ่นกลับไป แน่นอนว่าเขาย่อมไม่สามารถคุกเข่าอยู่ที่ศาลบรรพบุรุษต่อได้ แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น หัวเข่าของเขายังคงเจ็บหนักเขารู้สึกเกลียดชีหยวนเข้าไส้ทำไมจวนเราต้องรับนางกลับมาด้วยนะ?!ถึงจะรู้ว่านางเป็นบุตรีแท้ ๆ แต่แค่หาจวนหลังเล็ก ๆ ให้นางอยู่ก็ได้ไม่ใช่หรือ?ถ้าไม่ได้จริง ๆ ก็ให้นางแต่งงานกับใครสักคน แล้วย้ายออกไปก็สิ้นเรื่อง เหตุใดต้องนำตัวผู้หญิงไม่มีสกุลคนนั้นกลับมาด้วย!เมื่อได้ยินว่าแม่นมจางมาถึงแล้ว เขาจึงโบกมือไล่บ่าวรับใช้ที่กำลังทายาให้เขาออกไปจากห้อง ก่อนจะถามแม่นมจาง “เป็นอย่างไร?”แม่นมจางรีบคุกเข่าลงพร้อมกับรายงาน “คุณชายใหญ่ เรือนของคุณหนูใหญ่สะอาดเรียบร้อยดี นอกจากของที่จวนเราส่งไปให้ก็ไม่มีอย่างอื่นแล้วเจ้าค่ะ”ชีอวิ๋นถิงหัวเราะเยาะ “เป็นแค่บุตรสาวของคนเชือดหมูจะมีอะไรได้ล่ะ? ทำมาเป็นพูดว่านางได้รับการสั่งสอนจากผู้สูงศักดิ์ ถุย!“ผู้สูงศักดิ์ที่ไหนจะว่างจนไม่มีอะไรทำ จึงได้มาทำดีต่อนางขนาดนี้ อีกทั

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 23

    จวนหย่งผิงโหวเริ่มเตรียมงานเลี้ยงอย่างครึกครื้น โดยแขกที่ต้องเชิญมาร่วมงานคนแรกก็คือครอบครัวของท่านเสนาบดีหลู ผู้บังคับบัญชาของชีเจิ้นเมื่อมีงานเลี้ยง ก็จำเป็นต้องจัดเตรียมเสื้อผ้าอาภรณ์ชุดใหม่คนจากตระกูลเกายกหีบผ้าไหมมายังห้องของนางหวัง พลางเปิดให้นางได้เชยชม “ฮูหยินเจ้าคะ ผ้าของปีนี้ช่างงดงามยิ่งนัก เนื้อผ้าละเอียดกว่าทุกปีที่ผ่านมาเลยนะเจ้าคะ”นางหวังเหลือบมอง ก่อนจะพยักหน้า “ผ้าสีเหลืองทองผืนนั้นเก็บไว้ทำชุดใหม่ให้แม่สามีข้า ส่วนที่เหลือนำไปให้คุณหนูใหญ่เถิด นางเพิ่งกลับมา เสื้อผ้าที่ใส่อยู่คงใช้ไม่ได้แล้ว”ที่จริงแล้ว ตอนแรกนางหวังไม่ได้คิดจะทำชุดใหม่ให้ชีหยวนเลย เป็นฮูหยินรองและฮูหยินสามต่างหากที่แอบเปรยเรื่องนี้ขึ้น แม้แต่ชีเจิ้นที่ปกติจะไม่ยุ่งเรื่องภายในจวน ยังเข้ามาพูดกับนางอย่างตรงไปตรงมา “หาเวลาทำชุดใหม่ให้อาหยวนสักสองสามชุดเถิด ชุดที่นางใส่ดูไม่งามเลย อย่าละเลยนางนักสิ”เมื่อนึกถึงคำพูดเหล่านั้น นางหวังก็ยังคงรู้สึกไม่สบายใจนักก่อนที่ชีหยวนจะกลับมา ชีเจิ้นเคยพูดแบบนี้กับนางที่ไหนกัน?พูดราวกับว่านางใจร้ายกับลูกแท้ ๆ ของตัวเองอย่างนั้นแหละจริง ๆ เลย...นา

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 24

    ชีหยวนยังคงก้มหน้าอย่างเจียมตัว ไม่แสดงอาการว่าได้ยินหรือไม่นางหวังส่งสายตาจิกกัดใส่ชีอวิ๋นถิงแต่ชีอวิ๋นถิงกลับลุกพรวดขึ้นมา และกระแทกตัวชีหยวนอย่างโกรธเกรี้ยว “ถอยไปไกล ๆ ข้าหงุดหวิดที่เห็นหน้าเจ้า!”ลูกไม่รักดี!นางหวังรู้สึกเลือดลมเดือดพล่านภายในร่างกายทุกสิ่งที่นางพร่ำสอนตั้งมากมายกลับไร้ความหมาย!ชีเจิ้นตีเขาแท้ ๆ แต่เขากลับไม่หลาบจำเลยสักนิด!ทว่าเพราะนางไม่อยากจะดุด่าลูกชายต่อหน้าชีหยวน นางจึงทำได้เพียงแสร้งไม่ได้ยินจนกระทั่งชีอวิ๋นถิงเดินออกไปอย่างหงุดหงิด นางถึงได้หันมามองชีหยวนด้วยสีหน้าบึ้งตึง “เขายังเด็ก มักจะพูดจาโดยไม่ทันคิด เจ้าอย่าไปถือสาเขาเลย”ชีหยวนรู้สึกขำอยู่ในใจ นางเอ่ยถามเบา ๆ “เขาไม่ใช่พี่คนโตของจวนหรือเจ้าคะ”นางหวังถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้ยินเช่นนั้น ทำให้นางรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น ชีหยวนช่างดื้อรั้นเสียจริง!เป็นเด็กสาวต้องเรียนรู้ที่จะอ่อนน้อม ต้องรู้จักก้มหน้าโอนอ่อน จึงจะทำให้คนรู้สึกรักใคร่เอ็นดูแต่ชีหยวนน่ะหรือ? นางเป็นเหมือนก้อนหินในห้องส้วม ทั้งเหม็นและแข็งกระด้าง!นางหวังจึงจำเป็นต้องตำหนิชีหยวน “เจ้ารู้ว่าเขาเป็นพี่คนโตของจวน ก็ควรจะ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 25

    นางเกลียดชังชีหยวนมากกว่าสิ่งใดนางไม่เข้าใจว่าในหัวของเด็กคนนี้กำลังคิดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่ ถึงได้มีความคิดที่น่ากลัวเช่นนี้!คนปกติจะคิดแบบนี้ได้อย่างไร!เด็กที่นางเลี้ยงมากับมือ นางจะไม่รู้หรือว่าลูก ๆ ของนางเป็นคนเช่นไร?แต่ชีเจิ้นกลับมองนางด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “พวกเขาไม่ใช่พี่น้องกันแท้ ๆ ใช่หรือไม่?”คำถามสั้น ๆ ทำให้นางหวังถึงกับนิ่งงัน นางอ้าปากราวกับจะพูดอะไรบางอย่าง “แต่ว่า…..”“ไม่มีแต่!” ชีเจิ้นแสดงอำนาจของประมุขตระกูลออกมา “ยิ่งเป็นแบบนี้ก็ยิ่งต้องระมัดระวังเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง นี่เป็นเรื่องดี ไม่ใช่เรื่องเสียหาย!”ตระกูลของพวกเขาจะต้องไม่มีเรื่องอื้อฉาวระหว่างพี่น้องเกิดขึ้นเด็ดขาดแม้ว่าชีจิ่นจะไม่ใช่บุตรีแท้ ๆแต่ที่ผ่านมานางถูกเลี้ยงดูอยู่ในจวนหย่งผิงโหว และเติบโตขึ้นมาพร้อมกับชีอวิ๋นถิง หากวันหนึ่งนางกลายมาเป็นสะใภ้ของจวนหย่งผิงโหวแม้คนนอกจะรู้ว่าชีจิ่นไม่ใช่ลูกแท้ ๆ แต่ก็คงจะลือกันว่าจวนหย่งผิงโหวสกปรก และคงจะคิดว่าทั้งสองต้องสานสัมพันธ์กันมานานแล้วอย่างแน่นอนจวนหย่งผิงโหวรับเรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด!นางหวังรู้ดีว่านางไม่มีทางที่จะคัดค้านผู้

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 26

    วิทยายุทธ์ก็สอนไปทั้งหมดแล้วสุขภาพของซีอวิ๋นถิงนั้นดียิ่งนัก มีอาการปวดหัวและเป็นไข้น้อยมากเหตุใดถึงได้หมดสติไปกะทันหัน นางหวังตกใจจนอกสั่นขวัญหายชีเจิ้นก็รู้สึกตื่นตระหนกเช่นกัน แต่ว่ายังคงพยายามปลอบใจนาง “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรหรอก เจ้าวางใจเถิด พวกเราลองไปดูกันก่อน จะต้องไม่เป็นไรแน่”นางหวังร้องไห้สะอึกสะอื้น ตามชีเจิ้นไปที่เรือนของชีอวิ๋นถิงเมื่อพวกเขาไปถึง ชีจิ่นก็รีบเร่งมาถึงแล้วเช่นกันใบหน้าของชีจิ่นเต็มไปด้วยน้ำตา เสื้อคลุมอันงดงามที่มาจากผ้าไหมสูจิ่นเปรอะเปื้อนไปด้วยโคลนเมื่อพบนางหวัง ชีจิ่นก็เรียกมารดาอย่างสะอึกสะอื้นในทันที พลางคว้าแขนเสื้อของนางไว้ “ท่านแม่ข้าได้ยินว่าท่านพี่เป็นลมไป ข้าตกใจเหลือเกินเจ้าค่ะ……”ถึงอย่างไรก็เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เยาว์วัย ย่อมมีความมีผูกพันที่แตกต่างกันนางหวังคิดในใจ พลางแสดงสีหน้าอบอุ่น ปลอบโยนนางด้วยเสียงแผ่วเบา “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร บิดาของเจ้าให้คนไปเชิญหมอหลวงมาแล้ว จะต้องไม่เป็นไรแน่”สาวใช้ที่อยู่ข้างกายชีจิ่นรีบพูดขึ้นว่า “ใช่เจ้าค่ะ ดูตัวท่านเองสิเจ้าคะ พอได้ยินข่าวก็วิ่งมาที่นี่โดยไม่คำนึงอันใดเลย ทั้งยังล้มลงอีกด้วย เน

Latest chapter

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 504

    ฮ่องเต้หย่งชางกวาดพระเนตรมองโดยรอบ ตวาดเสียงเกรี้ยว “อ่างน้ำมงคลเล่า? ไยถึงได้มาช่วยดับไฟกันช้านัก?!”แล้วก็รีบร้อนหันไปถามไล่เฉิงหลง ซึ่งรับหน้าที่เฝ้าตำหนักเฟิ่งเจ่าในวันนี้ “ร่างของกุ้ยเฟยเล่า?”ไล่เฉิงหลงเหงื่อไหลท่วมทั้งร่าง คุกเข่าลงแล้วคารวะ “กระหม่อมกับนายพันลู่ช่วยกันหามร่างของกุ้ยเฟยออกมาได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่...”พวกเขาก็รู้ดีว่าเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยมีตำแหน่งเช่นไรในพระทัยของฮ่องเต้หย่งชาง ไหนเลยจะกล้าปล่อยให้ร่างของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยถูกเผาจนมอดไหม้?หากปล่อยให้เป็นเช่นนั้นจริง เกรงว่าพวกตนก็คงต้องลงไปอยู่กับบรรพบุรุษแล้วแต่ถึงจะช่วยออกมาได้ ทว่าร่างของกุ้ยเฟยก็ยังคงดูเวทนานักอย่างน้อยเส้นผมของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยก็ถูกไฟไหม้ไปแล้วครึ่งหนึ่งใบหน้าก็ถูกควันรมจนดำไปหมดฮ่องเต้หย่งชางปิดดวงเนตรลง เอื้อมพระหัตถ์ไปลูบไล้ใบหน้าของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟย สั่งการด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ไล่เฉิงหลง ลู่อี้เฟิง ดูแลไม่ดีจนตำหนักเฟิ่งเจ่าเกิดเพลิงไหม้ ให้ไปรับการลงโทษโบยสามสิบไม้ที่กรมวัง!”จากนั้นก็นิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วถามต่อ “เหตุใดอ่างน้ำมงคลถึงกลายเป็นน้ำแข็ง?”ในวังหลวง ตามถนนสาย

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 503

    ฮ่องเต้หย่งชางเหนื่อยล้าอย่างถึงที่สุดหลายวันมานี้ ทุกค่ำคืนเขามักจะฝันถึงเรื่องราวในอดีตตัวเขากับพระชายาหลิ่วสมัยยังอยู่ในดินแดนศักดินาในช่วงนั้น ยามใดที่คลื่นลมในทะเลพัดแรง ไม่รู้ว่าหลังคาบ้านของราษฎรกี่หลังจะปลิวว่อนทุก ๆ ปีล้วนมีคนต้องสังเวยชีวิตเพราะเหตุนี้ไม่น้อยแค่นั้นยังพอทนได้ แต่ภูมิอากาศก็ยังเย็นชื้น ทำให้ข้อกระดูกของเขาเจ็บเรื้อรังพระชายาหลิ่วจึงมักช่วยทำการรมยาเฉพาะจุดให้เขา อยู่เคียงข้างช่วยเหลือราษฎร คิดหาหนทาง ร่วมมือกับขุนนางท้องถิ่น แบ่งเขตพื้นที่ แล้วสอนชาวบ้านสร้างบ้านจากหินที่แข็งแรงมั่นคงในบริเวณที่ปลอดภัยกว่ายังได้ขอร้องอดีตฮ่องเต้ให้ส่งช่างจากกรมโยธามาช่วยสอนการเปิดเตาเผาและเผาอิฐพวกเขาค่อย ๆ แก้ไข นำพาเมืองจางโจวจากดินแดนยากไร้กลายเป็นเมืองมั่งคั่ง แม้แต่เมืองใกล้เคียงอย่างเฉวียนโจวก็ยังได้สร้างท่าเรือบางคราก็ฝันถึงเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยแรกเริ่มเดิมที เขาก็ไม่ได้คิดจะให้เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยเข้าวังเลยด้วยซ้ำเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยอายุน้อยกว่าเขามากเกินไป ห่างกันถึงสิบสองปีเขามองนางเหมือนน้องสาวคนหนึ่งมาตลอดแต่เมื่อเวลาค่อย ๆ ผ่านไป เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 502

    ปิดไม่มิดแล้วเขาไม่มีทางบ้าเลือดถึงขั้นลากผู่อู๋ย่งลงไปด้วยหรอก อย่างน้อยแบบนี้ผู่อู๋ย่งก็ยังอาจเห็นแก่ที่เขาเชื่อฟัง แล้วช่วยดูแลคนในตระกูลของเขาบ้างมิเช่นนั้น เกรงว่าตระกูลสวีคงไม่เหลือแม้แต่คนเดียวเซี่ยกงกงเชิญไล่เฉิงหลงเข้ามา ไล่เฉิงหลงก็นำเอกสารคำรับสารภาพพร้อมลายนิ้วมือของคนเหล่านั้นมาขึ้นถวายฮ่องเต้หย่งชางเพียงแค่เหลือบตามอง ก่อนจะเหวี่ยงเอกสารลงตรงหน้าสวีฮว่าน “เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีก? คดีลักลอบค้าของเมื่อปลายปีก่อนก็เริ่มสอบตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เจ้าคงคิดหาแพะรับบาปไว้ตั้งแต่นั้นกระมัง? ถึงได้ยุยงปลุกปั่นพวกครัวเรือนทหารที่มีเอี่ยว ให้เชื่อว่าตระกูลชีหักหลังพวกเขา ให้พวกเขารับผิดแทน!”สวีฮว่านฟุบหน้าลงกับพื้น สั่นเทาไปทั้งร่าง เอ่ยปากวิงวอนไม่หยุด “ฝ่าบาทโปรดเมตตา ฝ่าบาทโปรดไว้ชีวิตเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้หย่งชางแค่นเสียงเย็น แล้วกวาดดวงเนตรมองเหล่าขุนนางบุ๋นบู๊ “เมื่อครู่พวกเจ้าล้วนโกรธแค้นลุกฮือกันขึ้นมา กล่าวว่านี่คือการสมคบคิดศัตรู ขายชาติ ทรยศหักหลัง เป็นความผิดฐานคิดกบฏ พวกเจ้าพูดถูกแล้ว”สิ้นคำ ก็เรียกผู้บัญชาการศาลต้าหลี่เติ้งเหรินกู้ “คดีนี้ให้ศาลต้าหลี่เป็นผู้สื

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 501

    แน่นอนว่าผู่อู๋ย่งไม่มีพ่อ พ่อของเขาตายไปนานแล้ว มิเช่นนั้นจะเข้ามาเป็นขันทีในวังได้อย่างไรกันเล่า?!แต่ตอนนี้ ความรู้สึกในใจเขามันไม่ต่างอะไรกับพ่อเพิ่งตายไปจริง ๆ เลยบัดซบเอ๊ย!เหลวไหลสิ้นดี!ที่ไหนมีขันที ที่นั่นก็ต้องมีคนของเขาแฝงอยู่รัชทายาทวังบูรพาโง่เง่าอย่างกับหมู ทั้งยังอ่อนแอขี้โรค ร่างกายก็เจ็บออด ๆ แอด ๆ ไปทั้งตัวต่อให้เซียวอวิ๋นถิงฉลาดหลักแหลมแค่ไหน ก็ใช่ว่าจะรอดพ้นสายตาเขาไปได้ทุกอย่าง ไม่ว่าอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นแค่คน ไม่ใช่เทพเซียน!เขาเตรียมตัวไว้แล้วว่าส่งขันทีไปขัดขวางเซียวอวิ๋นถิง แล้วก็ให้องครักษ์เสื้อแพรไปทำเลยหลักฐานทั้ง ๆ ที่เขาวางแผนทุกอย่างเอาไว้อย่างไม่มีที่ติแต่สุดท้ายเซียวอวิ๋นถิงกลับวางแผนเหนือกว่า ส่งของไปถึงฮ่องเต้หย่งชางก่อนเสียได้แล้วจะไม่ให้เขาโมโหได้อย่างไร?!ไอ้บ้าสองตัวนั่น!คนหนึ่งเจ้าเล่ห์ อีกคนเหี้ยมโหด ราวกับสุนัขจิ้งจอกกับอสรพิษรวมหัวกัน ใครหน้าไหนเข้าใกล้ก็ต้องถูกพวกเขากัดเข้าให้สักแผลเขาสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วรีบสงบสติอารมณ์ลงอย่างรวดเร็วเขาเบือนหน้าหนีอย่างเย็นชา ไม่มองทางสวีฮว่านอีกเขาไม่เคยกังวลเลยว่าเรื่องนี้จะพัวพัน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 500  

    ก็ใช่ว่าจะเคราะห์ร้ายเสียทีเดียว ถึงอย่างไรก็ไม่มีคนมาสนใจเขานัก ล้วนแต่ยุ่งกับการจัดการจวนฉู่กั๋วกงกันทั้งนั้น ต่อมาเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยก็ตายไปอีก เรื่องราวเยอะเกินไป ไม่มีใครจะนึกถึงเขาหรอก ทว่าเขาเองก็กลัวมาก! น้องหญิงคนนั้นของเขา มิใช่คนที่จะสะสางหนี้แค้นด้วยคุณธรรมมาตั้งแต่ตอนเยาว์วัยแล้ว หลังจากนี้จะต้องหาโอกาสมาจัดการเขาแน่! พูดให้ถึงที่สุด เรื่องทั้งหมดนี้ต้องโทษสกุลชีอย่างเดียว หากว่าสกุลชีไม่พาตัวพระชายาหลิ่วกลับมา เรื่องราวทั้งหมดนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ดังนั้นแล้วในตอนนี้อุตส่าห์หาโอกาสได้แล้วทั้งที เข้าย่อมต้องเหยียบย่ำสกุลชีให้เต็มที่แน่นอน ผู่อู๋ย่งยิ่งรู้สึกขบขันเต็มที พอเห็นว่าสวีฮว่านเหลือบสายตามองตนเองด้วยความเคร่งเครียดแล้ว ก็เบนสายตาออกเชิงว่าตักเตือนทันที สวีฮว่านรีบก้มศีรษะลง บัดนี้ลำคอของเขายังเจ็บแปลบ ๆ อยู่เลย ไหนจะตรงช่วงท้องอีก ดูเอาเถิดว่านางเด็กชีหยวนคนนี้ดุร้ายโหดเหี้ยมมากขนาดไหน หัวใจของเขาเต้นระส่ำว้าวุ่นไม่เป็นสุข จนถึงตอนนี้ ทั่วท้องพระโรงทั้งฝ่ายบู๊ฝ่ายบุ๋นล้วนพุ่งเป้าโจมตีจุดอ่อนของสกุลชี ทว่าเซียวอวิ๋นถิงกลับยังคงไม่ปรากฏตัว

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 499  

    สกุลชีถูกโจรบุกปล้นในวันที่สามของปีใหม่ ที่พำนักของคุณหนูใหญ่สกุลชีถูกไฟเผาวอดไปครึ่งหนึ่ง หากมิใช่เพราะคุณหนูใหญ่สกุลชีบังเอิญไปอยู่ที่ห้องของฮูหยินผู้เฒ่า และกำลังคัดเลือกถั่วปากอ้ากับฮูหยินผู้เฒ่าพอดี เกรงว่าคุณหนูใหญ่สกุลชีคงจะไม่รอดแล้ว เรื่องนี้ปิดบังไม่อยู่ ไม่นาน ก็แพร่สะพัดลือเล่ากันไปไกลแล้ว จะไม่ให้แพร่สะพัดไปไกลก็คงไม่ได้ สกุลชีเพิ่งถูกกล่าวหาว่าสมคบกับข้าศึกขายดินแดนให้อริราชศัตรู โหวผู้เฒ่าชีและชีเจิ้นก็ถูกจับเข้าคุกหลวงไปแล้ว เห็นสกุลชีสภาพน่าเวทนาถึงเพียงนี้ แต่ใครจะรู้ว่ายังมีคนจ้องจะซ้ำเติมสกุลชีไม่ปล่อย หวังให้สกุลชีตายราบคาบ เฮอะ ๆ พวกชาวบ้านก็ยังมีแอบวิพากษ์วิจารณ์กันบ้าง “ไม่รู้ว่าใช่ฝีมือของครอบครัวทหารจากจี้โจวหรือไม่?” “จริงด้วย หากว่าเป็นอย่างที่พวกครอบครัวทหารเหล่านั้นว่ากันจริง เงินถูกสกุลชิงเอาไปแล้ว แต่กลับโยนความผิดให้พวกเขารับไว้แบบนั้น พวกเขาจะไปยอมได้อย่างไร?” “หากเป็นข้านะ ข้าก็คงทุ่มสุดตัวเหมือนกัน!” ดูเหมือนว่าคนที่คิดเห็นเช่นเดียวกันนี้จะมิได้มีเพียงแค่พวกชาวบ้าน เทศกาลปีใหม่ปีนี้ถูกลิขิตไว้ไม่ให้เงียบสงบ ในวันที่เจ็ดของปีใหม่ ศ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 498  

    สวีฮว่านเหงื่อเย็นไหลพลั่ก ตอนที่ได้ยินชีหยวนนับหนึ่ง สอง สาม ท้ายที่สุดเขาก็ทนไม่ไหว ร้องเสียงดังออกไป “ข้าให้เจ้าก็ได้! ข้าให้เจ้าก็ได้! สาส์นลับอยู่ใน…อยู่ในชั้นวางลับหลังโต๊ะหนังสือในห้องหนังสือของข้า!” ชีหยวนเปล่งเสียงอุทานออกมาหนึ่งคำ ก่อนจะเก็บกริชและปิ่นทองคำกลับมา แล้วใช้มือข้างหนึ่งคว้าคอเสื้อด้านหลังของเขาฉุดเขาขึ้นมา และผลักให้เขาเดินไปที่ชั้นหนังสือ พร้อมเอ่ยเสียงเข้มว่า “เปิดมัน” สวีฮว่านลังเลเล็กน้อย ทันใดนั้นชีหยวนก็เตะข้อพับขาของเขาอย่างแรงไปหนึ่งที “เปิดออก!” สวีฮว่านดึงจี้หยกที่ห้อยอยู่ข้างเอวของตนเองออกมาด้วยมือที่สั่นเทา ก่อนจะฝังมันเข้าไปในตำแหน่งที่เป็นช่องเว้าบนชั้นวางหนังสือ และหมุนมันหนึ่งรอบ ทันใดนั้นชั้นหนังสือก็เปิดออกอย่างช้า ๆ ทว่าเสี้ยวพริบตาเดียวนี้ สวีฮว่านรีบสะบัดตัวออกจากชีหยวนหวังว่าจะหลบหนี เขารู้ดี โดยปกติคนเราเมื่อตกอยู่ในเสี้ยวขณะที่ได้รับสิ่งของที่ตนเองต้องการมากเป็นอย่างยิ่ง ก็จะเผลอไผลไปได้ง่ายดายที่สุด เขาเฝ้ารอจังหวะนี้มาโดยตลอด ทว่าน่าเสียดาย เขาเพิ่งจะกลิ้งตัวไปกับพื้น กลับเห็นชีหยวนใช้มือปัดลูกธนูที่พุ่งออกมาจากชั้นวางลับ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 497  

    สวีฮว่านรู้สึกอึดอัดกับแรงกดของกริชเล่มนั้น และไม่รู้ว่าเป็นเพราะผลกระทบทางจิตใจหรือไม่ เขารู้สึกอยู่ตลอดว่ารอยแผลที่ชีหยวนกรีดไปนั้นยังคงมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด สิ่งนี้ทำให้เขาหวาดกลัวถึงขีดสุดจริง ๆ คนย่อมมีจุดอ่อน ชื่อเสียงและความรู้สึกหวงแหนชีวิตก็คือจุดอ่อนของสวีฮว่าน เขาเอ่ยด้วยความร้อนรน “ข้าช่วยเจ้าได้! ข้าช่วยล้างมลทินให้ตระกูลของเจ้าได้ ตราบใดที่พวกเจ้ายอมให้ความร่วมมือ ความผิดนี้ ข้าสามารถโยนให้คนอื่นรับไว้ได้!” ใบหน้าของชีหยวนไร้ซึ่งความรู้สึก ทว่าความเยือกเย็นในดวงตากลับยิ่งลุ่มลึกขึ้นมา ปลายกริชที่นางกดเอาไว้บนลำคอของเขาขยับเล็กน้อย เพียงเสี้ยวพริบตาก็สร้างรอยแผลเลือดซิบเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งรอยให้เขาได้เรียบร้อย ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เข้มข้นขึ้น “จะผลักความผิดให้แม่ทัพขุนศึกท่านอื่นที่บัดนี้ยังคงสู้รบในสมรภูมิอย่างซื่อสัตย์ภักดี พร้อมยอมพลีชีพเพื่อชาติได้อย่างนั้นหรือ? หรือคิดจะโยนความผิดให้บรรดาบุตรชายของครอบครัวทหารที่ต้องเข้าสู่สมรภูมิรบตั้งแต่วัยเพียงสิบสองสิบสามเหล่านั้นกัน พวกเขายังไม่ทันได้เติบโตด้วยซ้ำ ก็ต้องมาตายภายใต้อุบายชั่วช้าสามานย์ของพวกเจ้า”

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 496  

    หากว่ามี เช่นนั้นก็ต้องเลี้ยงดูให้ดี หากว่าไม่มี เช่นนั้นก็ต้องคิดหาหนทางเลือกเด็กสักคนในตระกูลมาเป็นบุตรบุญธรรมของเขา เพื่อจะได้เป็นทายาทสืบทอดวงศ์ตระกูล ขณะที่กำลังคิดสะระตะ เขาพลันได้ยินเสียงลมหายใจระลอกหนึ่งพัดผ่านข้างใบหู เสียงลมหายใจ! ทว่าในห้องมีเขาอยู่เพียงคนเดียว! เสี้ยวพริบตาเดียวสวีฮว่านพลันรู้สึกเส้นขนลุกชันไปทั่วทั้งตัว สติหลุดออกจากร่าง และทันใดนั้นก็คิดจะหมุนศีรษะกลับไปโดยสัญชาตญาณ ทว่าจังหวะที่เขากำลังคิดจะผินศีรษะกลับไป กริชเล่มหนึ่งก็ปักลงบนลำคอของเขาอย่างเงียบเชียบไร้เสียง หลังจากนั้นเขาได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ เสียงนี้ชัดเจนว่าเป็นเสียงของดรุณีน้อยงามเพริศพริ้งสดใส เหมือนกับเสียงของบุตรสาวของเขาที่เข้ามาออดอ้อนเขาในยามปกติ ทว่าในเสี้ยวขณะนี้เวลานี้ เขากลับไม่รู้สึกว่าเสียงนั่นกำลังออดอ้อนสักนิด! เพื่อแสดงออกถึงความซื่อสัตย์สุจริตของตนเองแล้ว เรือนของเขายังต้องเช่าอาศัย และในเมื่อเรือนยังต้องเช่าอาศัย ดังนั้นในเรือนย่อมไม่สามารถมีบ่าวรับใช้ที่มากเกินไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่สามารถมียามเฝ้าเรือนได้ด้วย ดังนั้นองครักษ์เหล่านั้นของเขา ล้วนแต่ถูกเลี

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status