Share

บทที่ 19

Author: ฉินอันอัน
ในงานเลี้ยง ทุกคนต่างรอคอยการปรากฏตัวของชีเจิ้นและภรรยาอย่างอยากรู้อยากเห็น

ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ยินมาคร่าว ๆ ว่าเรือนใหญ่ส่งคนออกไปตามหาใครบางคน และบอกว่าเด็กถูกอุ้มสลับตัวแล้ว

แต่เรื่องราวจะเป็นอย่างไรกันแน่ กลับรู้ไม่แน่ชัดเท่าใดนัก

ตอนนี้บอกว่าพาเด็กกลับมาแล้ว แถมยังจัดงานเลี้ยงครอบครัวล่วงหน้าเพื่อให้ทุกคนได้รู้จักกัน และเมื่อถึงเวลาค่อยคืนสู่ตระกูล ความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขาจึงถูกกระตุ้นขึ้น

สีหน้าของนางหวังยังคงตึงเครียดเล็กน้อย

นางคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่านิสัยของบุตรสาวคนนี้จะเป็นเช่นนี้ได้

แม้จะไม่หยาบคาย แต่กลับดูเย็นชา

ทำให้คนอื่นยากจะผูกมิตร และก็ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี

แถมยังเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นอีก

ชีอวิ๋นถิงแค่หยอกล้อกับนางเล็กน้อย แต่นางกลับไม่ยอมอ่อนข้อ และจ้องมองชีอวิ๋นถิงได้รับโทษด้วยสายตาที่เย็นชา ราวกับนั่นไม่ใช่พี่ชายแท้ ๆ ของตนเองอีก

นางรู้สึกโกรธในใจ เมื่อเห็นฮูหยินรองและฮูหยินสาม สีหน้าจึงดูไม่เป็นธรรมชาติมากนัก

กลับเป็นฮูหยินรองและฮูหยินสามที่ดูอยากรู้อยากเห็น วิ่งเข้ามาต้อนรับนางด้วยรอยยิ้ม “พี่สะใภ้ใหญ่! นี่ก็คืออาหยวนใช่หรือไม่เจ้าคะ?”

เมื่อครู่ชีเจิ้นบอกเรื่องที่ชีหยวนเปลี่ยนชื่อไปแล้ว

ชีหยวนลดสายตาลง คารวะด้วยท่าทางที่สบาย ๆ และเป็นธรรมชาติ “น้าสะใภ้รอง น้าสะใภ้สาม”

พวกนางล้วนเป็นคนคุ้นเคยที่เคยเจอเมื่อชาติที่แล้ว จึงย่อมไม่รู้สึกแปลกใหม่อะไร

แต่คนอื่นกลับมองนางแตกต่างออกไป

เดิมมาพร้อมกับความคิดที่จะมาดูเรื่องสนุก คิดว่าบุตรสาวที่ชอบด้วยกฎหมายที่ก่อนหน้านี้เรือนใหญ่ทุ่มเทเลี้ยงดูมากมายขนาดนั้น สุดท้ายแล้วกลับเป็นตัวปลอม

กลับกันบุตรสาวที่แท้จริงเกรงว่าจะถูกเลี้ยงดูมาอย่างหยาบกระด้างจนรับไม่ได้เสียแล้ว

แต่คิดไม่ถึงเลยว่าชีหยวนจะได้รูปร่างหน้าตาที่รับข้อดีของชีเจิ้นกับนางหวังมา แถมกิริยามารยาทก็ดีมากอีกด้วย

ความคิดที่พวกนางจะมาดูเรื่องสนุกก็ลดลงไปบ้าง และมีเพียงรอยยิ้มกับคำชมเล็กน้อยเท่านั้น

ฮูหยินรองมอบของขวัญพบหน้า[footnoteRef:1]ก่อนคนอื่น “ต่อไปล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ว่าเมื่อก่อนจะเป็นอย่างไร ตอนนี้กลับมาบ้านแล้วก็เป็นคนกันเอง หากมีเรื่องอันใด เพียงแค่เอ่ยออกมาเป็นพอ” [1: คือธรรมเนียมการให้ของขวัญเมื่อพบหน้ากันครั้งแรก]

ฮูหยินสามเห็นดังนั้นย่อมไม่ยอมน้อยหน้า ถอดกำไลออกจากข้อมือเช่นกัน “ก่อนหน้านี้รีบร้อน จึงไม่ได้เตรียมอะไรมา กำไลข้อมือนี่ เจ้าเอาไว้ใส่เล่นเถอะนะ”

ชีหยวนไม่ได้รับมาทันที แต่มองไปทางนางหวังเล็กน้อย

นางหวังตกใจ ชีหยวนรู้จักกาละเทศะเช่นนี้ นางกลับยิ่งรู้สึกแปลกประหลาดมากขึ้นไปอีก

หลังจากชะงักไปครู่หนึ่ง นางก็พยักหน้าเล็กน้อย เพื่อส่งสัญญาณว่าชีหยวนสามารถรับมันมาได้

ชีหยวนรับมาอย่างนอบน้อม เอ่ยขอบคุณและคารวะอย่างหาที่จับผิดมิได้

นางพูดน้อยแถมยังรู้จักกาละเทศะเช่นนี้อีก มันจึงทำให้ฮูหยินรองและฮูหยินสามรู้สึกว่าน่าสนใจเล็กน้อย

เพียงแต่งานเลี้ยงในครั้งนี้ จัดเพื่อปรึกษากันเรื่องของการคืนสู่ตระกูล ด้านฮูหยินใหญ่เรียกพวกนางแล้ว ฮูหยินรองและฮู หยินสามจึงส่งยิ้มไปให้ชีหยวน “เจ้าไปเล่นกับน้องชายน้องสาวของเจ้าที่อยู่ตรงโต๊ะด้านนั้นเถอะ”

ชีหยวนหมุนกายกลับไปแล้ว

ฮูหยินรองจึงมองไปทางนางหวัง “พี่สะใภ้ใหญ่ แสดงความยินดีด้วยจริง ๆ นะเจ้าคะ!”

นางหวังกังวลเรื่องชีอวิ๋นถิงกับชีจิ่น เลยใจลอยเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดนี้จึงถามขึ้น “แสดงความยินดีอะไรหรือ?”

“แม้เด็กจะพเนจรอยู่ด้านนอก แต่ข้ามองดูนางกลับไม่รู้สึกแตกต่างจากบุตรสาวตระกูลใหญ่ทั่วไปเลยแม้แต่น้อยเจ้าค่ะ”

ฮูหยินรองยิ้ม “นี่ยังไม่ควรค่าแก่การแสดงความยินดีอีกหรือเจ้าคะ?”

นางหวังบอกไม่ถูกว่าในใจรู้สึกอย่างไร

ความจริงแล้วนางไม่ค่อยดีใจเท่าใดนัก

เมื่อก่อนระหว่างนางกับลูก ๆ สนิทสนมกันมาก และไม่เคยมีช่องว่างอะไรกันเลย

แต่พอชีหยวนเข้ามา นางก็มักจะรู้สึกว่าความสมดุลถูกทำลายลงแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ชีหยวนไม่ได้ใกล้ชิดกับนางที่เป็นมารดาคนนี้มากนัก และยิ่งไม่สนใจชีอวิ๋นถิงกับชีจิ่นอีกด้วย

ไม่กังวลว่าจะขาดแคลน แต่กังวลว่าจะไม่เท่าเทียม เพราะถึงอย่างไรอาจิ่นก็เติบโตมาด้วยกันกับนาง ในจวนให้ทรัพยากรและการศึกษาที่ดีที่สุดแก่อาจิ่น และทำให้นางกลายเป็นไข่มุกของเมืองหลวง

อนาคตของอาจิ่นนับจากนี้จะต้องไร้ขีดจำกัด

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ชีหยวนจะต้องด้อยกว่ามากอย่างแน่นอน

เด็กคนนี้เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น จิตใจก็คับแคบอีก ไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีความโกรธแค้นหรือไม่

ขณะที่กำลังเหม่อลอยอยู่นั้น นางก็ได้ยินชีเจิ้นเอ่ยกับน้องชายทั้งสอง “น้องรอง น้องสาม พวกเจ้ากลับไปก็ร่างรายชื่อแขกของตระกูลภรรยาพวกเจ้าเสียหน่อย พอถึงเวลาข้าจะได้เชิญมาพร้อมกัน”

ข้อกำหนดนี้ ดูเหมือนจะเป็นข้อกำหนดในการยอมรับบุตรสาวอย่างเป็นทางการแล้ว

ชีซงกับชีป่ายมองหน้ากัน

น้องรองชีซงถามก่อน “พี่ใหญ่ เช่นนั้นอาจิ่น...”

คนในครอบครัวเดียวกัน ก็ควรต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันด้วยกระมัง?

ชีเจิ้นเอ่ยด้วยเสียงที่เคร่งขรึม “ก็บอกไปว่าปีนั้นให้กำเนิดพี่น้องฝาแฝด เพียงแต่พี่สาวหายตัวไป”

ชีป่ายพยักหน้าเล็กน้อย “แล้วบิดามารดาของอาจิ่นที่อยู่ทางนั้น...”

“เสียชีวิตแล้ว” ชีเจิ้นสีหน้าเย็นชา “เรื่องนี้ก็ไม่ต้องเอ่ยขึ้นมาอีก”

ชีป่ายกับชีซงทั้งสองอดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันอีกครั้ง

ฮูหยินรองกับฮูหยินสามก็สีหน้าเปลี่ยนไปทั้งคู่

พวกเขายังคิดว่าชีเจิ้นฆ่าคนปิดปาก เพื่อเก็บชีหยวนไว้ในตระกูล

ชีเจิ้นไม่ได้สังเกตท่าทางของพวกเขา เพียงแค่มอบหมายกับชีซง “น้องรอง เจ้าแวะไปเมืองเป่าติ้ง และบอกท่านพ่อกับท่านแม่เสียหน่อย จากนั้นก็เชิญพวกเขากลับมาด้วย”

ท่านโหวผู้เฒ่าพาฮูหยินผู้เฒ่าไปบ้านนอกเพื่อรักษาอาการป่วยเมื่อไม่นานมานี้

เรื่องสำคัญอย่างคนในครอบครัวพาบุตรสาวคนโตที่ถือกำเนิดจากภรรยาเอกกลับมา แน่นอนว่าจะต้องเชิญพวกเขากลับมาด้วย

ชีซงส่งเสียงอ้อครั้งหนึ่ง “คืนสู่ตระกูลไวเช่นนี้ ไม่สั่งสอนเรื่องมารยาทก่อนหรือ? เมื่อถึงเวลาแขกมารวมตัวกัน แค่กลัวว่านางจะรับมือไม่ไหวเอานะขอรับ”

เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ ชีเจิ้นก็สั่งนางหวังอีกครั้ง “เจ้าให้เหล่าอาจารย์เขียนบัตรเชิญเพิ่มอีกหนึ่งใบ ข้าจะส่งไปให้จิ้นอ๋องด้วยตนเอง”

เซียวอวิ๋นถิง?

นางหวังไม่แน่ใจเล็กน้อย “ท่านโหว จิ้นอ๋องจะมาหรือเจ้าคะ?”

“ไม่ว่าจะมาได้หรือไม่ ในเมื่อเขาทราบเรื่องนี้แล้ว ก็ต้องส่งบัตรเชิญไป”

พอเอ่ยถึงจิ้นอ๋อง พี่น้องทั้งหลายก็มีหัวข้อที่พูดคุยกันไม่รู้จบแล้ว

ชีป่ายเริ่มเอ่ยปากก่อน “ท่านอ๋องได้รับคำสั่งให้กำกับดูแลการกวาดล้างเรื่องทุจริตขนส่งข้าว ช่วงนี้ก็สังหารคนไปไม่น้อย ท่านอ๋องผู้นี้ ตอนนี้ถือว่าใครเห็นต่างก็เกรงกลัวกันจริง ๆ ขอรับ”

คดีทุจริตการขนส่งข้าว เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่จำนวนมากในเมืองเจียงหนาน

ทุกคนต่างคิดว่าเซียวอวิ๋นถิงจัดการกับเรื่องนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน

รัชทายาทอ่อนแอ สามารถสวรรคตได้ทุกเมื่อ เหล่าขุนนางและอ๋องคนอื่น ๆ ต่างก็จ้องเขาตาเป็นมัน

เซียวอวิ๋นถิงจะมีอะไรได้? เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่อายุสิบกว่าปีคนหนึ่งเท่านั้น

จะเอาชนะผู้อาสุโสที่มีประสบการณ์โชกโชนเหล่านั้นได้อย่างไร?

แต่ใครจะรู้ ทันทีที่เซียวอวิ๋นถิงไปถึงเมืองเจียงหนาน ก็จับกุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้จำนวนมาก และประหารชีวิตเจ้าหน้าที่ระดับสูงถึงเจ็ดสิบคนติดต่อกันอย่างไม่เกรงกลัว

ระหว่างที่ข่าวถูกส่งกลับมายังราชสำนัก ก็ได้สร้างความตกตะลึงทั้งในราชสำนักและในหมู่ราษฎรแล้ว

ชีเจิ้นส่งเสียงจิ๊ครั้งหนึ่ง “ใครเห็นก็ต้องกลัวหรือ? แล้วอย่างไรเล่า? ครั้งนี้เขาทำผลงานใหญ่ได้ และเขาจะต้องได้รับความนิยมอย่างมากทันทีที่กลับมาถึง!”

ชีหยวนยืนฟังที่โต๊ะด้านข้างอยู่เงียบ ๆ

พวกลูกพี่ลูกน้องล้วนไม่สนิทกับนาง และนางก็ไม่คิดจะสร้างความสัมพันธ์กับพวกเขาด้วย

เพียงแค่แอบคิดขึ้นมาก็เท่านั้น ว่าหลังคดีขนส่งข้าวเสร็จสิ้น องค์รัชทายาทก็คงสวรรคตแล้ว

ทันทีที่องค์รัชทายาทสวรรคต บรรดาลุงพวกนั้นของเขาก็คงกรูกันเข้ามา ใช้สารพัดวิธีของตนเอง และไม่นานเขาก็ถูกเบียดจนไม่มีที่ยืน

ดังนั้นภายหลังเซียวอวิ๋นถิงถึงได้ฝึกฝนหน่วยกล้าตายจำนวนมาก เพื่อเสริมสร้างอำนาจของตนเองมากมายขนาดนั้น

ต่อมาชีจิ่นได้แต่งงานกับฉีอ๋อง นั่นก็คือองค์รัชทายาทและฮ่องเต้ในอนาคต

หากอยากจะขัดขวางเส้นทางปีนบันใดสู่สวรรค์ของชีจิ่น นางก็ควรต้องคิดหาวิธีร่วมมือกับเซียวอวิ๋นถิงอีกครั้งหรือไม่นะ?

เพราะถึงอย่างไร ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร มิใช่หรือ?
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 20

    ชีหยวนนั่งอยู่ด้านข้างเงียบ ๆ กำลังคิดว่าควรทำอย่างไรถึงจะเชื่อมความสัมพันธ์กับจิ้นอ๋องได้ ก็เห็นแม่นมสวีเดินเข้ามาจากด้านนอกด้วยสีหน้าที่รีบร้อนไปยังโต๊ะอาหารของนางหวัง และกระซิบอะไรบางอย่างอยู่ข้างหูนางหวังเดิมทีนางหวังกำลังพูดคุยกับน้องสะใภ้ทั้งสอง ว่าจะเชิญอุปรากรจีนคณะใดดีเมื่อฟังแม่นมสวีพูดจบ ก็ลุกขึ้นยืนจากตรงนั้น และถามด้วยความโกรธจัด “อะไรนะ?”เมื่อเห็นนางเป็นเช่นนี้ ฮูหยินรองกับฮูหยินสามก็ถามอย่างรีบร้อน “เป็นอะไรหรือเจ้าคะ พี่สะใภ้ใหญ่? มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นหรือถึงได้กังวลใจเช่นนี้?”สีหน้าของนางหวังเปลี่ยนแล้วก็เปลี่ยนอีก กัดริมฝีปากและมองไปทางชีเจิ้น “ท่านโหว อาจิ่นเป็นลมไปแล้วเจ้าค่ะ...”ศาลบรรพบุรุษหนาวเย็น และลมแรง เดิมร่างกายของชีจิ่นก็เปราะบางอยู่แล้วเวลานี้ความไม่พอใจต่อชีหยวนที่อยู่ในใจของนางหวังถึงจุดสูงสุดแล้ว และนางก็รู้สึกเบื่อหน่ายบุตรสาวที่พอกลับมาก็ทำให้บ้านวุ่นวายจนพลิกหน้ามือเป็นหลังมือคนนี้จริง ๆ ความสัมพันธ์ทางสายเลือดที่ไม่มีพื้นฐานทางด้านอารมณ์ บางครั้งก็เป็นเพียงภาระเท่านั้นชีเจิ้นสีหน้าเคร่งขรึมลงเล็กน้อยอย่างไรเสียก็ยังคงเป็นบุ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 21

    ชีหยวนหมดความอดทน “ไม่จำเป็น! ข้าว่าเหลียนเฉียวก็เก่งไม่น้อย ในเมื่อพวกเจ้าไม่ได้เต็มใจที่จะอยู่ปรนนิบัติข้า ข้าก็ไม่ได้สนใจ พวกเจ้าอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ!”แม่นมจางอึ้งไปครู่หนึ่ง ใบหน้าของนางแฝงไปด้วยความลำบากใจ “คุณหนูใหญ่ นางเพียงเป็นสาวใช้จอมสะเพร่า แม้แต่จะเกล้าผมก็ยังทำไม่เป็น คุณหนูจะยกยอนางเช่นนี้ได้อย่างไร?”ในขณะนั้นเอง นางก็รู้ทันทีว่าชีหยวนต้องการมีคนเชื่อใจอยู่ข้างกาย จึงคิดที่จะดึงเหลียนเฉียวมาเป็นคนของตน นางอดที่จะหัวเราะเยาะอยู่ในใจไม่ได้ ชีหยวนช่างน่าขันนัก นางคิดว่ากลเม็ดของตนนั้นเหนือชั้นนักหรือ? ช่างน่าขันยิ่งนัก การที่นางยกยอเหลียนเฉียวเช่นนี้ มีแต่จะทำให้บ่าวคนอื่น ๆ ไม่พอใจเข้าไปใหญ่ และพวกเขายิ่งไม่มีทางจงรักภักดีต่อนางคนบ้านนอกยังไงก็เป็นคนบ้านนอกอยู่วันยันค่ำ แม้ภายนอกจะแลดูเหมือนว่าเก่งกาจ แต่แท้จริงแล้วด้านในกลับกลวงโบ๋ นางเป็นเพียงคนโง่เง่าคนหนึ่งเท่านั้น จะเทียบคุณหนูรองได้อย่างไร?คุณหนูรองแค่เป็นลมไปครั้งเดียว ฮูหยินก็ลืมบุตรีแท้ๆ ที่เพิ่งกลับมาคนนี้เสียสนิท จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้สั่งให้ผู้ใดมาดูแลยังจะต้องพูดว่าใครสำคัญกว่าใครอีกหรือเดิมทีท

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 22

    ผูเถาดีใจกระโดดตัวลอย แม่นมจางส่ายหน้ามองนางยิ้มๆ ก่อนจะเดินไปที่เรือนของชีอวิ๋นถิงตอนนั้นชีจิ่นเป็นลมหมดสติไป ชีอวิ๋นถิงจึงให้บ่าวรับใช้ช่วยกันพาตัวชีจิ่นกลับไป แน่นอนว่าเขาย่อมไม่สามารถคุกเข่าอยู่ที่ศาลบรรพบุรุษต่อได้ แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น หัวเข่าของเขายังคงเจ็บหนักเขารู้สึกเกลียดชีหยวนเข้าไส้ทำไมจวนเราต้องรับนางกลับมาด้วยนะ?!ถึงจะรู้ว่านางเป็นบุตรีแท้ ๆ แต่แค่หาจวนหลังเล็ก ๆ ให้นางอยู่ก็ได้ไม่ใช่หรือ?ถ้าไม่ได้จริง ๆ ก็ให้นางแต่งงานกับใครสักคน แล้วย้ายออกไปก็สิ้นเรื่อง เหตุใดต้องนำตัวผู้หญิงไม่มีสกุลคนนั้นกลับมาด้วย!เมื่อได้ยินว่าแม่นมจางมาถึงแล้ว เขาจึงโบกมือไล่บ่าวรับใช้ที่กำลังทายาให้เขาออกไปจากห้อง ก่อนจะถามแม่นมจาง “เป็นอย่างไร?”แม่นมจางรีบคุกเข่าลงพร้อมกับรายงาน “คุณชายใหญ่ เรือนของคุณหนูใหญ่สะอาดเรียบร้อยดี นอกจากของที่จวนเราส่งไปให้ก็ไม่มีอย่างอื่นแล้วเจ้าค่ะ”ชีอวิ๋นถิงหัวเราะเยาะ “เป็นแค่บุตรสาวของคนเชือดหมูจะมีอะไรได้ล่ะ? ทำมาเป็นพูดว่านางได้รับการสั่งสอนจากผู้สูงศักดิ์ ถุย!“ผู้สูงศักดิ์ที่ไหนจะว่างจนไม่มีอะไรทำ จึงได้มาทำดีต่อนางขนาดนี้ อีกทั

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 23

    จวนหย่งผิงโหวเริ่มเตรียมงานเลี้ยงอย่างครึกครื้น โดยแขกที่ต้องเชิญมาร่วมงานคนแรกก็คือครอบครัวของท่านเสนาบดีหลู ผู้บังคับบัญชาของชีเจิ้นเมื่อมีงานเลี้ยง ก็จำเป็นต้องจัดเตรียมเสื้อผ้าอาภรณ์ชุดใหม่คนจากตระกูลเกายกหีบผ้าไหมมายังห้องของนางหวัง พลางเปิดให้นางได้เชยชม “ฮูหยินเจ้าคะ ผ้าของปีนี้ช่างงดงามยิ่งนัก เนื้อผ้าละเอียดกว่าทุกปีที่ผ่านมาเลยนะเจ้าคะ”นางหวังเหลือบมอง ก่อนจะพยักหน้า “ผ้าสีเหลืองทองผืนนั้นเก็บไว้ทำชุดใหม่ให้แม่สามีข้า ส่วนที่เหลือนำไปให้คุณหนูใหญ่เถิด นางเพิ่งกลับมา เสื้อผ้าที่ใส่อยู่คงใช้ไม่ได้แล้ว”ที่จริงแล้ว ตอนแรกนางหวังไม่ได้คิดจะทำชุดใหม่ให้ชีหยวนเลย เป็นฮูหยินรองและฮูหยินสามต่างหากที่แอบเปรยเรื่องนี้ขึ้น แม้แต่ชีเจิ้นที่ปกติจะไม่ยุ่งเรื่องภายในจวน ยังเข้ามาพูดกับนางอย่างตรงไปตรงมา “หาเวลาทำชุดใหม่ให้อาหยวนสักสองสามชุดเถิด ชุดที่นางใส่ดูไม่งามเลย อย่าละเลยนางนักสิ”เมื่อนึกถึงคำพูดเหล่านั้น นางหวังก็ยังคงรู้สึกไม่สบายใจนักก่อนที่ชีหยวนจะกลับมา ชีเจิ้นเคยพูดแบบนี้กับนางที่ไหนกัน?พูดราวกับว่านางใจร้ายกับลูกแท้ ๆ ของตัวเองอย่างนั้นแหละจริง ๆ เลย...นา

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 24

    ชีหยวนยังคงก้มหน้าอย่างเจียมตัว ไม่แสดงอาการว่าได้ยินหรือไม่นางหวังส่งสายตาจิกกัดใส่ชีอวิ๋นถิงแต่ชีอวิ๋นถิงกลับลุกพรวดขึ้นมา และกระแทกตัวชีหยวนอย่างโกรธเกรี้ยว “ถอยไปไกล ๆ ข้าหงุดหวิดที่เห็นหน้าเจ้า!”ลูกไม่รักดี!นางหวังรู้สึกเลือดลมเดือดพล่านภายในร่างกายทุกสิ่งที่นางพร่ำสอนตั้งมากมายกลับไร้ความหมาย!ชีเจิ้นตีเขาแท้ ๆ แต่เขากลับไม่หลาบจำเลยสักนิด!ทว่าเพราะนางไม่อยากจะดุด่าลูกชายต่อหน้าชีหยวน นางจึงทำได้เพียงแสร้งไม่ได้ยินจนกระทั่งชีอวิ๋นถิงเดินออกไปอย่างหงุดหงิด นางถึงได้หันมามองชีหยวนด้วยสีหน้าบึ้งตึง “เขายังเด็ก มักจะพูดจาโดยไม่ทันคิด เจ้าอย่าไปถือสาเขาเลย”ชีหยวนรู้สึกขำอยู่ในใจ นางเอ่ยถามเบา ๆ “เขาไม่ใช่พี่คนโตของจวนหรือเจ้าคะ”นางหวังถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้ยินเช่นนั้น ทำให้นางรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น ชีหยวนช่างดื้อรั้นเสียจริง!เป็นเด็กสาวต้องเรียนรู้ที่จะอ่อนน้อม ต้องรู้จักก้มหน้าโอนอ่อน จึงจะทำให้คนรู้สึกรักใคร่เอ็นดูแต่ชีหยวนน่ะหรือ? นางเป็นเหมือนก้อนหินในห้องส้วม ทั้งเหม็นและแข็งกระด้าง!นางหวังจึงจำเป็นต้องตำหนิชีหยวน “เจ้ารู้ว่าเขาเป็นพี่คนโตของจวน ก็ควรจะ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 25

    นางเกลียดชังชีหยวนมากกว่าสิ่งใดนางไม่เข้าใจว่าในหัวของเด็กคนนี้กำลังคิดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่ ถึงได้มีความคิดที่น่ากลัวเช่นนี้!คนปกติจะคิดแบบนี้ได้อย่างไร!เด็กที่นางเลี้ยงมากับมือ นางจะไม่รู้หรือว่าลูก ๆ ของนางเป็นคนเช่นไร?แต่ชีเจิ้นกลับมองนางด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “พวกเขาไม่ใช่พี่น้องกันแท้ ๆ ใช่หรือไม่?”คำถามสั้น ๆ ทำให้นางหวังถึงกับนิ่งงัน นางอ้าปากราวกับจะพูดอะไรบางอย่าง “แต่ว่า…..”“ไม่มีแต่!” ชีเจิ้นแสดงอำนาจของประมุขตระกูลออกมา “ยิ่งเป็นแบบนี้ก็ยิ่งต้องระมัดระวังเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง นี่เป็นเรื่องดี ไม่ใช่เรื่องเสียหาย!”ตระกูลของพวกเขาจะต้องไม่มีเรื่องอื้อฉาวระหว่างพี่น้องเกิดขึ้นเด็ดขาดแม้ว่าชีจิ่นจะไม่ใช่บุตรีแท้ ๆแต่ที่ผ่านมานางถูกเลี้ยงดูอยู่ในจวนหย่งผิงโหว และเติบโตขึ้นมาพร้อมกับชีอวิ๋นถิง หากวันหนึ่งนางกลายมาเป็นสะใภ้ของจวนหย่งผิงโหวแม้คนนอกจะรู้ว่าชีจิ่นไม่ใช่ลูกแท้ ๆ แต่ก็คงจะลือกันว่าจวนหย่งผิงโหวสกปรก และคงจะคิดว่าทั้งสองต้องสานสัมพันธ์กันมานานแล้วอย่างแน่นอนจวนหย่งผิงโหวรับเรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด!นางหวังรู้ดีว่านางไม่มีทางที่จะคัดค้านผู้

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 26

    วิทยายุทธ์ก็สอนไปทั้งหมดแล้วสุขภาพของซีอวิ๋นถิงนั้นดียิ่งนัก มีอาการปวดหัวและเป็นไข้น้อยมากเหตุใดถึงได้หมดสติไปกะทันหัน นางหวังตกใจจนอกสั่นขวัญหายชีเจิ้นก็รู้สึกตื่นตระหนกเช่นกัน แต่ว่ายังคงพยายามปลอบใจนาง “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรหรอก เจ้าวางใจเถิด พวกเราลองไปดูกันก่อน จะต้องไม่เป็นไรแน่”นางหวังร้องไห้สะอึกสะอื้น ตามชีเจิ้นไปที่เรือนของชีอวิ๋นถิงเมื่อพวกเขาไปถึง ชีจิ่นก็รีบเร่งมาถึงแล้วเช่นกันใบหน้าของชีจิ่นเต็มไปด้วยน้ำตา เสื้อคลุมอันงดงามที่มาจากผ้าไหมสูจิ่นเปรอะเปื้อนไปด้วยโคลนเมื่อพบนางหวัง ชีจิ่นก็เรียกมารดาอย่างสะอึกสะอื้นในทันที พลางคว้าแขนเสื้อของนางไว้ “ท่านแม่ข้าได้ยินว่าท่านพี่เป็นลมไป ข้าตกใจเหลือเกินเจ้าค่ะ……”ถึงอย่างไรก็เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เยาว์วัย ย่อมมีความมีผูกพันที่แตกต่างกันนางหวังคิดในใจ พลางแสดงสีหน้าอบอุ่น ปลอบโยนนางด้วยเสียงแผ่วเบา “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร บิดาของเจ้าให้คนไปเชิญหมอหลวงมาแล้ว จะต้องไม่เป็นไรแน่”สาวใช้ที่อยู่ข้างกายชีจิ่นรีบพูดขึ้นว่า “ใช่เจ้าค่ะ ดูตัวท่านเองสิเจ้าคะ พอได้ยินข่าวก็วิ่งมาที่นี่โดยไม่คำนึงอันใดเลย ทั้งยังล้มลงอีกด้วย เน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 27

    สีหน้าของชีเจิ้นเขียวคล้ำลงแล้วเปลี่ยนเป็นซีดขาวจากนั้นก็เขียวคล้ำลงอีกครั้ง หงุดหงิดอย่างที่สุดในฉับพลันนั่นก็ไม่ใช่นี่ก็ไม่ใช่ ตกลงแล้วเกิดอันใดขึ้นกันแน่?ชีอวิ๋นถิงกลิ้งไปมาอยู่บนเตียงไม่หยุด ราวกับกุ้งฝอยที่ถูกโยนลงไปในหม้อที่มีน้ำเดือดอย่างไรอย่างนั้นนางหวังน้ำตาไหลพรั่งพรู “ท่านหมอหลวง ท่านรีบคิดหาวิธีเข้าเถิด คงจะปล่อยให้เขาต้องเจ็บปวดเช่นนี้ต่อไปใช่หรือไม่?”แม่ลูกเชื่อมใจถึงกัน ตอนนี้ชีอวิ๋นถิงกำลังทุกข์ทรมาน ก็ราวกับว่ามีคนเอามีดมากรีดเนื้อของนาง หากสามารถเจ็บปวดแทนชีอวิ๋นถิงได้ นางจะไม่ลังเลแม้แต่น้อยหมอหลวงลูบเคราของตนอย่างรู้สึกลำบากใจ “ข้าจะจ่ายยาสงบจิตให้เขาก่อน ลองดูว่าเขาดื่มไปแล้วจะสามารถดีขึ้นได้บ้างหรือไม่”หากหาต้นตอของปัญหาไม่เจอ ก็ไม่สามารถจ่ายยาที่ถูกต้องได้ หมอหลวงก็ไม่แน่ใจอยู่บ้างเช่นกันทว่าตอนนี้ไม่มีวิธีอื่นแล้ว ชีเจิ้นตัดสินใจ “เช่นนั้นก็ดื่มยาก่อนเถิด”ทุกคนกำลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับการต้มยา เพื่อป้อนให้กับชีอวิ๋นถิงตอนนี้ดึกมากแล้ว ชีหยวนหาวขึ้นมาเบา ๆ เหลียนเฉียวรีบกระซิบเตือนนาง “คุณหนู ตอนนี้ดึกมากแล้ว ข้าจะคอยปรนนิบัติ ท่านไปพักผ่อนสัก

Latest chapter

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 506

    ก็ต้องมี ‘คืนของขวัญ’ กลับไปบ้างกระมัง?ชีเจิ้นก็พลันเข้าใจ เพียงแค่เป้าหมายไม่ใช่ผู่อู๋ย่ง แต่ก็ยังเป็นการไปสังหารคนอยู่ดีเขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกำชับว่า “เช่นนั้นก็ ระวังตัวด้วยแล้วกันนะ”ชีหยวนก็เดินตรงดิ่งออกจากประตูไปชีเจิ้นจึงหันกลับมามองท่านโหวผู้เฒ่าชีกับฮูหยินผู้เฒ่าชี “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้านึกขึ้นได้แล้ว วันปีใหม่วันนั้น แม่หนูหยวนบอกว่านอกจากจะแวะไปที่เรือนนอกเมืองแล้ว ยังมีธุระที่ต้องทำ มันเป็นธุระอะไรกันแน่?”ทั้งยังเป็น ‘การคืนของขวัญ’ ให้ผู่อู๋ย่งอีกด้วย?ท่านโหวผู้เฒ่าชีถลึงตาใส่เขาอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าถามข้าแล้วข้าจะไปถามใคร โดนขังมาหลายวันแล้วเจ้ายังไม่เหนื่อยหรือไง? ทำตัวดี ๆ รีบไปอาบน้ำแล้วนอนพักเสีย ตอนเย็นค่อยไปกินข้าวที่เรือนใหญ่!”ชีเจิ้นอยากรู้จนใจแทบขาด แต่ก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าชีหยวนกำลังทำเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับผู่อู๋ย่ง และยังจะบอกว่าเป็น ‘การคืนของขวัญ’ ให้อีกฝ่ายอีกต่างหากแต่แล้วเขาก็นึกขึ้นได้อีกเรื่องหนึ่ง “ท่านพ่อ! ผู้บัญชาการไล่จะไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?!”ไล่เฉิงหลงช่วยพวกเขาไว้มาก ที่ไม่โดนลงโทษก็เพราะอีกฝ่ายช่วยไกล่เกลี่ยแล้วไอ้หมาขันทีอ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 505

    ชีหยวนเลิกคิ้วขึ้นนิด ๆ เห็นทั้งสองคนกลับมาดูครบสามสิบสอง ดูก็รู้ว่าไม่ได้ถูกลงโทษ ก็รู้ทันทีว่าเป็นไล่เฉิงหลงที่ช่วยไว้นางหลุบตาลงแล้วส่ายหน้า “ไม่ใช่เพราะข้าหรอกเจ้าค่ะ เรื่องนี้เดิมทีก็เกิดขึ้นเพราะข้า เป็นข้าที่ก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นมา พวกท่านต้องลำบากก็เพราะข้า”ความรู้สึกของท่านโหวผู้เฒ่าชีซับซ้อนอย่างยิ่งชีเจิ้นก็เช่นกันชีหยวนก็ถือว่าเข้าใจฐานะของตนเองดีนัก และไม่ทำตัวเกรงใจเกินจำเป็น พูดสิ่งที่ควรพูด ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าจะมีใครตอบรับได้หรือไม่แต่ว่านางพูดตรงได้ ทว่าท่านโหวผู้เฒ่าชีกับชีเจิ้นย่อมไม่อาจตอบกลับตรง ๆ เช่นนั้น ท่านโหวผู้เฒ่าชีจึงกล่าวว่า “พูดอย่างนั้นก็ไม่ได้หรอก ตำแหน่งนี้ของเขา ทำมาก็หลายปี อยู่กึ่งกลาง หากทำงานของฝ่าบาทได้สำเร็จ เช่นนั้นสักวันก็ต้องเกิดเหตุเช่นนี้”ถ้าหากทำไม่สำเร็จ ต้องสืบหากันไปเรื่อย ๆ ไม่จบไม่สิ้น ฮ่องเต้หย่งชางก็ย่อมต้องเริ่มสงสัยในความสามารถของชีเจิ้น และหมดความอดทนต่อเขาฉะนั้นว่ากันตามจริงแล้ว เคราะห์นี้ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี ยังดีที่มีชีหยวนอยู่ จึงสามารถคลี่คลายเรื่องราวได้รวดเร็วขนาดนี้ท่านโหวผู้เฒ่าก็โล่งอก เมื่อเห็นเหล่าลูก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 504

    ฮ่องเต้หย่งชางกวาดพระเนตรมองโดยรอบ ตวาดเสียงเกรี้ยว “อ่างน้ำมงคลเล่า? ไยถึงได้มาช่วยดับไฟกันช้านัก?!”แล้วก็รีบร้อนหันไปถามไล่เฉิงหลง ซึ่งรับหน้าที่เฝ้าตำหนักเฟิ่งเจ่าในวันนี้ “ร่างของกุ้ยเฟยเล่า?”ไล่เฉิงหลงเหงื่อไหลท่วมทั้งร่าง คุกเข่าลงแล้วคารวะ “กระหม่อมกับนายพันลู่ช่วยกันหามร่างของกุ้ยเฟยออกมาได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่...”พวกเขาก็รู้ดีว่าเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยมีตำแหน่งเช่นไรในพระทัยของฮ่องเต้หย่งชาง ไหนเลยจะกล้าปล่อยให้ร่างของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยถูกเผาจนมอดไหม้?หากปล่อยให้เป็นเช่นนั้นจริง เกรงว่าพวกตนก็คงต้องลงไปอยู่กับบรรพบุรุษแล้วแต่ถึงจะช่วยออกมาได้ ทว่าร่างของกุ้ยเฟยก็ยังคงดูเวทนานักอย่างน้อยเส้นผมของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยก็ถูกไฟไหม้ไปแล้วครึ่งหนึ่งใบหน้าก็ถูกควันรมจนดำไปหมดฮ่องเต้หย่งชางปิดดวงเนตรลง เอื้อมพระหัตถ์ไปลูบไล้ใบหน้าของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟย สั่งการด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ไล่เฉิงหลง ลู่อี้เฟิง ดูแลไม่ดีจนตำหนักเฟิ่งเจ่าเกิดเพลิงไหม้ ให้ไปรับการลงโทษโบยสามสิบไม้ที่กรมวัง!”จากนั้นก็นิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วถามต่อ “เหตุใดอ่างน้ำมงคลถึงกลายเป็นน้ำแข็ง?”ในวังหลวง ตามถนนสาย

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 503

    ฮ่องเต้หย่งชางเหนื่อยล้าอย่างถึงที่สุดหลายวันมานี้ ทุกค่ำคืนเขามักจะฝันถึงเรื่องราวในอดีตตัวเขากับพระชายาหลิ่วสมัยยังอยู่ในดินแดนศักดินาในช่วงนั้น ยามใดที่คลื่นลมในทะเลพัดแรง ไม่รู้ว่าหลังคาบ้านของราษฎรกี่หลังจะปลิวว่อนทุก ๆ ปีล้วนมีคนต้องสังเวยชีวิตเพราะเหตุนี้ไม่น้อยแค่นั้นยังพอทนได้ แต่ภูมิอากาศก็ยังเย็นชื้น ทำให้ข้อกระดูกของเขาเจ็บเรื้อรังพระชายาหลิ่วจึงมักช่วยทำการรมยาเฉพาะจุดให้เขา อยู่เคียงข้างช่วยเหลือราษฎร คิดหาหนทาง ร่วมมือกับขุนนางท้องถิ่น แบ่งเขตพื้นที่ แล้วสอนชาวบ้านสร้างบ้านจากหินที่แข็งแรงมั่นคงในบริเวณที่ปลอดภัยกว่ายังได้ขอร้องอดีตฮ่องเต้ให้ส่งช่างจากกรมโยธามาช่วยสอนการเปิดเตาเผาและเผาอิฐพวกเขาค่อย ๆ แก้ไข นำพาเมืองจางโจวจากดินแดนยากไร้กลายเป็นเมืองมั่งคั่ง แม้แต่เมืองใกล้เคียงอย่างเฉวียนโจวก็ยังได้สร้างท่าเรือบางคราก็ฝันถึงเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยแรกเริ่มเดิมที เขาก็ไม่ได้คิดจะให้เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยเข้าวังเลยด้วยซ้ำเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยอายุน้อยกว่าเขามากเกินไป ห่างกันถึงสิบสองปีเขามองนางเหมือนน้องสาวคนหนึ่งมาตลอดแต่เมื่อเวลาค่อย ๆ ผ่านไป เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 502

    ปิดไม่มิดแล้วเขาไม่มีทางบ้าเลือดถึงขั้นลากผู่อู๋ย่งลงไปด้วยหรอก อย่างน้อยแบบนี้ผู่อู๋ย่งก็ยังอาจเห็นแก่ที่เขาเชื่อฟัง แล้วช่วยดูแลคนในตระกูลของเขาบ้างมิเช่นนั้น เกรงว่าตระกูลสวีคงไม่เหลือแม้แต่คนเดียวเซี่ยกงกงเชิญไล่เฉิงหลงเข้ามา ไล่เฉิงหลงก็นำเอกสารคำรับสารภาพพร้อมลายนิ้วมือของคนเหล่านั้นมาขึ้นถวายฮ่องเต้หย่งชางเพียงแค่เหลือบตามอง ก่อนจะเหวี่ยงเอกสารลงตรงหน้าสวีฮว่าน “เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีก? คดีลักลอบค้าของเมื่อปลายปีก่อนก็เริ่มสอบตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เจ้าคงคิดหาแพะรับบาปไว้ตั้งแต่นั้นกระมัง? ถึงได้ยุยงปลุกปั่นพวกครัวเรือนทหารที่มีเอี่ยว ให้เชื่อว่าตระกูลชีหักหลังพวกเขา ให้พวกเขารับผิดแทน!”สวีฮว่านฟุบหน้าลงกับพื้น สั่นเทาไปทั้งร่าง เอ่ยปากวิงวอนไม่หยุด “ฝ่าบาทโปรดเมตตา ฝ่าบาทโปรดไว้ชีวิตเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้หย่งชางแค่นเสียงเย็น แล้วกวาดดวงเนตรมองเหล่าขุนนางบุ๋นบู๊ “เมื่อครู่พวกเจ้าล้วนโกรธแค้นลุกฮือกันขึ้นมา กล่าวว่านี่คือการสมคบคิดศัตรู ขายชาติ ทรยศหักหลัง เป็นความผิดฐานคิดกบฏ พวกเจ้าพูดถูกแล้ว”สิ้นคำ ก็เรียกผู้บัญชาการศาลต้าหลี่เติ้งเหรินกู้ “คดีนี้ให้ศาลต้าหลี่เป็นผู้สื

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 501

    แน่นอนว่าผู่อู๋ย่งไม่มีพ่อ พ่อของเขาตายไปนานแล้ว มิเช่นนั้นจะเข้ามาเป็นขันทีในวังได้อย่างไรกันเล่า?!แต่ตอนนี้ ความรู้สึกในใจเขามันไม่ต่างอะไรกับพ่อเพิ่งตายไปจริง ๆ เลยบัดซบเอ๊ย!เหลวไหลสิ้นดี!ที่ไหนมีขันที ที่นั่นก็ต้องมีคนของเขาแฝงอยู่รัชทายาทวังบูรพาโง่เง่าอย่างกับหมู ทั้งยังอ่อนแอขี้โรค ร่างกายก็เจ็บออด ๆ แอด ๆ ไปทั้งตัวต่อให้เซียวอวิ๋นถิงฉลาดหลักแหลมแค่ไหน ก็ใช่ว่าจะรอดพ้นสายตาเขาไปได้ทุกอย่าง ไม่ว่าอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นแค่คน ไม่ใช่เทพเซียน!เขาเตรียมตัวไว้แล้วว่าส่งขันทีไปขัดขวางเซียวอวิ๋นถิง แล้วก็ให้องครักษ์เสื้อแพรไปทำเลยหลักฐานทั้ง ๆ ที่เขาวางแผนทุกอย่างเอาไว้อย่างไม่มีที่ติแต่สุดท้ายเซียวอวิ๋นถิงกลับวางแผนเหนือกว่า ส่งของไปถึงฮ่องเต้หย่งชางก่อนเสียได้แล้วจะไม่ให้เขาโมโหได้อย่างไร?!ไอ้บ้าสองตัวนั่น!คนหนึ่งเจ้าเล่ห์ อีกคนเหี้ยมโหด ราวกับสุนัขจิ้งจอกกับอสรพิษรวมหัวกัน ใครหน้าไหนเข้าใกล้ก็ต้องถูกพวกเขากัดเข้าให้สักแผลเขาสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วรีบสงบสติอารมณ์ลงอย่างรวดเร็วเขาเบือนหน้าหนีอย่างเย็นชา ไม่มองทางสวีฮว่านอีกเขาไม่เคยกังวลเลยว่าเรื่องนี้จะพัวพัน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 500  

    ก็ใช่ว่าจะเคราะห์ร้ายเสียทีเดียว ถึงอย่างไรก็ไม่มีคนมาสนใจเขานัก ล้วนแต่ยุ่งกับการจัดการจวนฉู่กั๋วกงกันทั้งนั้น ต่อมาเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยก็ตายไปอีก เรื่องราวเยอะเกินไป ไม่มีใครจะนึกถึงเขาหรอก ทว่าเขาเองก็กลัวมาก! น้องหญิงคนนั้นของเขา มิใช่คนที่จะสะสางหนี้แค้นด้วยคุณธรรมมาตั้งแต่ตอนเยาว์วัยแล้ว หลังจากนี้จะต้องหาโอกาสมาจัดการเขาแน่! พูดให้ถึงที่สุด เรื่องทั้งหมดนี้ต้องโทษสกุลชีอย่างเดียว หากว่าสกุลชีไม่พาตัวพระชายาหลิ่วกลับมา เรื่องราวทั้งหมดนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ดังนั้นแล้วในตอนนี้อุตส่าห์หาโอกาสได้แล้วทั้งที เข้าย่อมต้องเหยียบย่ำสกุลชีให้เต็มที่แน่นอน ผู่อู๋ย่งยิ่งรู้สึกขบขันเต็มที พอเห็นว่าสวีฮว่านเหลือบสายตามองตนเองด้วยความเคร่งเครียดแล้ว ก็เบนสายตาออกเชิงว่าตักเตือนทันที สวีฮว่านรีบก้มศีรษะลง บัดนี้ลำคอของเขายังเจ็บแปลบ ๆ อยู่เลย ไหนจะตรงช่วงท้องอีก ดูเอาเถิดว่านางเด็กชีหยวนคนนี้ดุร้ายโหดเหี้ยมมากขนาดไหน หัวใจของเขาเต้นระส่ำว้าวุ่นไม่เป็นสุข จนถึงตอนนี้ ทั่วท้องพระโรงทั้งฝ่ายบู๊ฝ่ายบุ๋นล้วนพุ่งเป้าโจมตีจุดอ่อนของสกุลชี ทว่าเซียวอวิ๋นถิงกลับยังคงไม่ปรากฏตัว

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 499  

    สกุลชีถูกโจรบุกปล้นในวันที่สามของปีใหม่ ที่พำนักของคุณหนูใหญ่สกุลชีถูกไฟเผาวอดไปครึ่งหนึ่ง หากมิใช่เพราะคุณหนูใหญ่สกุลชีบังเอิญไปอยู่ที่ห้องของฮูหยินผู้เฒ่า และกำลังคัดเลือกถั่วปากอ้ากับฮูหยินผู้เฒ่าพอดี เกรงว่าคุณหนูใหญ่สกุลชีคงจะไม่รอดแล้ว เรื่องนี้ปิดบังไม่อยู่ ไม่นาน ก็แพร่สะพัดลือเล่ากันไปไกลแล้ว จะไม่ให้แพร่สะพัดไปไกลก็คงไม่ได้ สกุลชีเพิ่งถูกกล่าวหาว่าสมคบกับข้าศึกขายดินแดนให้อริราชศัตรู โหวผู้เฒ่าชีและชีเจิ้นก็ถูกจับเข้าคุกหลวงไปแล้ว เห็นสกุลชีสภาพน่าเวทนาถึงเพียงนี้ แต่ใครจะรู้ว่ายังมีคนจ้องจะซ้ำเติมสกุลชีไม่ปล่อย หวังให้สกุลชีตายราบคาบ เฮอะ ๆ พวกชาวบ้านก็ยังมีแอบวิพากษ์วิจารณ์กันบ้าง “ไม่รู้ว่าใช่ฝีมือของครอบครัวทหารจากจี้โจวหรือไม่?” “จริงด้วย หากว่าเป็นอย่างที่พวกครอบครัวทหารเหล่านั้นว่ากันจริง เงินถูกสกุลชิงเอาไปแล้ว แต่กลับโยนความผิดให้พวกเขารับไว้แบบนั้น พวกเขาจะไปยอมได้อย่างไร?” “หากเป็นข้านะ ข้าก็คงทุ่มสุดตัวเหมือนกัน!” ดูเหมือนว่าคนที่คิดเห็นเช่นเดียวกันนี้จะมิได้มีเพียงแค่พวกชาวบ้าน เทศกาลปีใหม่ปีนี้ถูกลิขิตไว้ไม่ให้เงียบสงบ ในวันที่เจ็ดของปีใหม่ ศ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 498  

    สวีฮว่านเหงื่อเย็นไหลพลั่ก ตอนที่ได้ยินชีหยวนนับหนึ่ง สอง สาม ท้ายที่สุดเขาก็ทนไม่ไหว ร้องเสียงดังออกไป “ข้าให้เจ้าก็ได้! ข้าให้เจ้าก็ได้! สาส์นลับอยู่ใน…อยู่ในชั้นวางลับหลังโต๊ะหนังสือในห้องหนังสือของข้า!” ชีหยวนเปล่งเสียงอุทานออกมาหนึ่งคำ ก่อนจะเก็บกริชและปิ่นทองคำกลับมา แล้วใช้มือข้างหนึ่งคว้าคอเสื้อด้านหลังของเขาฉุดเขาขึ้นมา และผลักให้เขาเดินไปที่ชั้นหนังสือ พร้อมเอ่ยเสียงเข้มว่า “เปิดมัน” สวีฮว่านลังเลเล็กน้อย ทันใดนั้นชีหยวนก็เตะข้อพับขาของเขาอย่างแรงไปหนึ่งที “เปิดออก!” สวีฮว่านดึงจี้หยกที่ห้อยอยู่ข้างเอวของตนเองออกมาด้วยมือที่สั่นเทา ก่อนจะฝังมันเข้าไปในตำแหน่งที่เป็นช่องเว้าบนชั้นวางหนังสือ และหมุนมันหนึ่งรอบ ทันใดนั้นชั้นหนังสือก็เปิดออกอย่างช้า ๆ ทว่าเสี้ยวพริบตาเดียวนี้ สวีฮว่านรีบสะบัดตัวออกจากชีหยวนหวังว่าจะหลบหนี เขารู้ดี โดยปกติคนเราเมื่อตกอยู่ในเสี้ยวขณะที่ได้รับสิ่งของที่ตนเองต้องการมากเป็นอย่างยิ่ง ก็จะเผลอไผลไปได้ง่ายดายที่สุด เขาเฝ้ารอจังหวะนี้มาโดยตลอด ทว่าน่าเสียดาย เขาเพิ่งจะกลิ้งตัวไปกับพื้น กลับเห็นชีหยวนใช้มือปัดลูกธนูที่พุ่งออกมาจากชั้นวางลับ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status