แชร์

บทที่ 420

ผู้เขียน: ฉินอันอัน
ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้ต้องการปรึกษาจริง ๆ ปกติก็เป็นเซียวอวิ๋นถิงที่คุยกับนาง

ท่านโหวผู้เฒ่าชีรู้สึกขึ้นมาทันทีว่าฮูหยินใหญ่ลู่ช่างโง่เขลาจนน่าสมเพช

ไม่สิ ไม่ใช่แค่โง่จนน่าสมเพช แต่ยังโอหังจนเกินเยียวยา

ตอนนี้พระชายาหลิ่วกลับสู่เมืองหลวงแล้ว คนร้ายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวในอดีตล้วนควรเก็บเนื้อเก็บตัวรอดูข่าว

แต่ในช่วงเวลานี้ฮูหยินใหญ่ลู่กลับกล้าคิดวางแผนเล่นงานผู้อื่น

นางคิดอะไรอยู่กันแน่?!

“แล้วจากนั้นเล่า?” ชีเจิ้นถามอย่างร้อนใจ

ชีหยวนแสยะยิ้มเย้ยหยัน “นางหาพวกอันธพาลสองคนมาหมายจะใช้วิธีสกปรกกับข้า ข้าเกลียดเรื่องพรรค์นี้ที่สุด เลยส่งนางลงไปพบกับผู้บัญชาการทหารสูงสุดลู่แล้วเจ้าค่ะ”

สามีภรรยาคู่นี้ก็ผีเน่ากับโลงผุดี ๆ นี่เอง เหมาะสมกันดี อย่าได้แยกจากกันเลย

ชีเจิ้นอ้าปากค้าง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ตายได้ดี!”

แต่ว่า...

ท่านโหวผู้เฒ่าชีมองชีหยวน “คิดเรื่องเก็บกวาดไว้เรียบร้อยหรือยัง?”

ทุกครั้งที่ชีหยวนฆ่าคน นางสามารถถอยออกมาได้โดยไร้ร่องรอย นั่นเป็นเพราะชีหยวนจัดการเก็บกวาดทุกอย่างสะอาดหมดจด จนไม่มีใครหาหลักฐานใด ๆ ได้

แต่กรณีของฮูหยินใหญ่ลู่นั้น นางเป็นคนนัดชีหยวนออกไปพบก่อน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
นิพา วรรณสว่าง แผ่นทอง
ทำมัยอ่านตอนตอไปมัยได้
goodnovel comment avatar
Neo
อัพเยอะๆได้มั้ยอ่ะ ชอบเรื่องนี้ที่สุดเลย
goodnovel comment avatar
Jocky Tagool
อยากให้อัพมากกว่าวันละ 4 ตอนจังเลย
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 421

    เซียวอวิ๋นถิงยังคงยิ้มตาหยีเหมือนเดิม ไม่มีทีท่าผิดหวังแม้แต่น้อย “จริงหรือ? เช่นนั้นคงเป็นข้าที่จำผิดไปเอง แต่ไหน ๆ ก็มาถึงแล้ว......”เขาหยิบกุญแจอายุยืนสีทองอร่ามออกมาจากด้านหลัง แล้วยื่นให้กับชีหยวน พร้อมกล่าวว่า “ขอให้ปีใหม่เริ่มต้นด้วยความโชคดี และขอให้ทุกสิ่งเป็นไปอย่างราบรื่นสมปรารถนา เล็ก ๆ น้อย ๆ จากใจ หวังว่านับจากนี้ไปเจ้าจะผ่านพ้นเคราะห์ร้ายและพบแต่ความรุ่งเรือง”กุญแจอายุยืนทอประกายแวววาวภายใต้แสงไฟเห็นได้ชัดว่า แค่เอื้อมมือออกไปก็สามารถหยิบของสิ่งนั้นไว้ในมือได้ แต่ชีหยวนกลับไม่ยื่นมือออกไปรับความสัมพันธ์ระหว่างนางกับเซียวอวิ๋นถิง ไม่ได้อยู่ในระดับที่รับกุญแจอายุยืนชิ้นนี้ไม่ได้ท้ายที่สุดแล้ว ตอนที่นางขอเงินจากเขา นางก็ไม่เคยลังเลเลยสักนิดแต่เงินทองก็คือเงินทองกุญแจอายุยืนนี้กลับแตกต่างออกไปนางส่ายหน้า “ขอบคุณน้ำใจของท่านอ๋องเจ้าค่ะ เพียงแต่ว่าหากข้าน้อยรับของของท่านเป็นการส่วนตัว เกรงว่าจะเข้าข่ายการรับของโดยมิชอบ ซึ่งผิดกฎระเบียบเจ้าค่ะ” ……ท่านโหวผู้เฒ่าชีและชีเจิ้นมองหน้ากันด้วยความสงสัยเต็มหัวตอนนี้มานึกขึ้นได้ว่าพวกเขาเป็นผู้ใหญ่ การที่ตัวนางแอบร

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 422

    เดิมทียังคิดว่าวันส่งท้ายปีเก่าในวันพรุ่งนี้ จะได้กินเกี๊ยวอย่างสบายใจสักมื้อแล้วเชียวแต่พอมาดูตอนนี้ เกรงว่าเรื่องราวจะไม่ง่ายขนาดนั้นเสียแล้วแต่ที่แปลกก็คือ ไม่ว่าจะเป็นท่านโหวผู้เฒ่าชี เซียวอวิ๋นถิง หรือชีหยวนทั้งสามคนล้วนเปี่ยมด้วยรอยยิ้มสดใส ไม่มีท่าทีเป็นกังวลเลยแม้แต่น้อยยิ่งแปลกเข้าไปใหญ่ชีเจิ้นอดไม่ได้ที่จะเรียกพ่อของเขาท่านโหวผู้เฒ่าชีกดมือเขาไว้ อดกลั้นความปั่นป่วนในใจ ก่อนจะแค่นหัวเราะแล้วพูดว่า “วันตายของฉู่กั๋วกงมาถึงแล้ว!”ชีเจิ้นเบิกตากว้างยังไม่ทันที่เขาจะเข้าใจ ตรงหน้าประตูก็เกิดความวุ่นวายขึ้นแล้วเฉินฮ่าวและพวกที่ขวางประตูไว้ร้องตะโกนเสียงดัง “ท่านกั๋วกงตรากตรำทำงานหนักมาโดยตลอด! ในอดีตเพื่อแย่งชิงเจียงหยิน ท่านไม่ได้หลับไม่ได้นอน แม้ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลและโรคภัย ก็ยังไม่ยอมถอดเกราะออกจากสนามรบ! บัดนี้แค่คำกล่าวหาจากชาวบ้านต่ำต้อยที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าเพียงคนเดียว กลับสามารถลบล้างความพยายามหลายปีของท่านกั๋วกงให้สูญเปล่าได้อย่างนั้นหรือ?!”เฉิงกั๋วกงขมวดคิ้วแน่น กล่าวเตือนใจไล่เฉิงหลง “ใต้เท้าไล่ยังหนุ่มแน่น การทำอะไรอย่างเฉียบขาดเป็นเรื่องเข้าใจได

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 423

    ฉู่กั๋วกงหันไปยิ้มด้วยท่าทียั่วยุใส่ไล่เฉิงหลง ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อ และแขนเสื้อได้สะบัดใส่หน้าของไล่เฉิงหลงไล่เฉิงหลงยังไม่ทันขยับ องครักษ์เสื้อแพรที่อยู่ข้างหลังเขาก็ชักดาบปักวสันต์ออกมาพร้อมเพรียงกัน จ้องมองฉู่กั๋วกงอย่างไม่พอใจที่เขาเสียมารยาทต่อเจ้านายของพวกตนเฉิงกั๋วกงอยากพูดบางอย่างแต่ก็หยุดลง แม้ว่าเขาจะออกหน้าช่วยพูดแทนฉู่กั๋วกงเพราะเห็นแก่ไมตรีเก่า ๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาอยากเป็นศัตรูกับไล่เฉิงหลงเจ้าเด็กนี่มันเก่งกาจและน่ากลัวเขาจึงกระแอมไอ ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท “พี่เจ็ด อย่าไปถือสาเด็กหนุ่มนักเลย ฝ่าบาทมีรับสั่งให้เข้าเฝ้า เรารีบเข้าวังกันเถอะ!”ในสายตาของพวกเขา ฮ่องเต้หย่งชางยังคงมีเมตตาต่อเหล่าขุนนางเก่าที่ร่วมรบมาจากแคว้นหมิ่นเสมอตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไร่ชาในฝูเจี้ยนแทบทั้งหมดล้วนตกอยู่ในมือของพวกขุนนางชั้นสูง พระองค์จะมิทรงทราบเลยเชียวหรือ?ทว่าเพียงพราะเห็นแก่ไมตรีจิตที่ร่วมทำศึกสงครามกันมาในอดีต จึงทรงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอดีตเป็นเช่นนั้น อนาคตก็จะเป็นเช่นนั้นด้วยพวกเขาไม่กล้าทำเรื่องที่เลวร้ายเกินไป เพียงแค่โลภไปหน่อย เสวยสุขไปหน่อยเท่านั้นฮ่องเต้จะมาถึง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 424

    แววตาของไล่เฉิงหลงยิ่งฉายความสนใจมากขึ้นพระราชนัดดาองค์โตมาอยู่ที่นี่ในวันนี้ เห็นได้ชัดว่าพายุคลื่นลูกใหญ่ที่พระชายาหลิ่วกลับเข้าวังในครั้งนี้ ย่อมเกี่ยวข้องกับวังบูรพาเป็นแน่หญิงสาวที่เขาปกป้องอยู่นั้น......ไล่เฉิงหลงหันไปมองลูกน้องแวบหนึ่งลูกน้องเข้าใจทันทีและรีบจากไปทันทีฉู่กั๋วกงก็ได้ขึ้นม้าตามการเร่งรัดของเซี่ยกงกงไปแล้วจูปิน เฉินฮ่าว และพรรคพวกต่างก็ตามไปด้วยเว้นเพียงเฉิงกั๋วกง ที่ไม่รู้เพราะเหตุใด เขามองไล่เฉิงหลง แล้วเกิดความรู้สึกประหลาดบางอย่าง คิดทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง จึงหาเหตุผลอ้างว่าต้องกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และไม่ได้ตามไปฝูงชนที่รายล้อมจวนฉู่กั๋วกงก็เริ่มทยอยสลายตัวบรรดาปัญญาชนและชาวบ้านเริ่มวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้สำหรับชาวบ้านธรรมดาย่อมไม่ต้องพูดถึง ทุกเสียงล้วนด่าทอว่าฉู่กั๋วกงชั่วร้ายและสมควรตาย แต่พวกปัญญาชนกลับรู้เรื่องราวมากกว่าเล็กน้อยเมื่อคิดถึงคดีที่ศาลซุ่นเทียนสอบสวนเกี่ยวกับเจียงเหยียนเจินที่ส่งคนไปลอบสังหารหูอี้ชวนในวันนี้ พวกเขาก็ยิ่งดูแคลนฉู่กั๋วกงเข้าไปใหญ่กระซิบกระซาบพิพากษ์ถึงเรื่องเสือยังไม่กินลูกของตนเอง กล่าวถึงเรื่องพระชาย

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 425

    ชีเจิ้นรู้สึกเย็นวาบในใจ ไม่ใช่แค่เย็นธรรมดา เขาถึงขั้นขนลุกซู่ไปทั้งแผ่นหลังเลยทีเดียวพอฝืนทนจนกลับถึงจวน ก็รีบร้อนตรงไปยังห้องอักษรทันทีก่อนหน้านี้พวกเขาเลิกใช้ห้องอักษรเป็นที่ปรึกษาหารือไปแล้ว มักจะไปพูดคุยกันที่หอหมิงเยว่แทนแต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน ทันทีที่เข้าห้องอักษร ชีเจิ้นก็รีบคว้าตัวท่านโหวผู้เฒ่าชีแล้วเอ่ยถาม “ท่านพ่อ! ท่านได้ยินหรือไม่ องค์หญิงเป่าหรง ตอนนางยังเด็กขนาดนั้นก็เคย…...”นั่นมันคนตั้งเท่าไหร่ นั่นคือชีวิตของผู้คนนับพัน!แม้แต่ในตอนนี้ หากมีคนตายจำนวนมากขนาดนั้น ก็คงเป็นเหตุการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน ถือได้ว่ามีผู้บาดเจ็บล้มตายอย่างหนักทั้งสองฝ่าย จำเป็นต้องรายงานต่อราชสำนักแล้วปีนั้นองค์หญิงเป่าหรงอายุแค่กี่ปีเอง?!หญิงสาวผู้นี้น่ากลัวยิ่งกว่าชีหยวนเสียอีกไม่แปลกใจเลยที่ฮองเฮาเฝิงจะถูกกดดันจนต้องเก็บตัวเงียบอยู่แต่ในวัง แม้แต่ในวันสำคัญอย่างวันขึ้นหนึ่งค่ำและสิบห้าค่ำที่ตำหนักกลางต้องออกมารับการถวายพระพรจากบรรดาสตรีบรรดาศักดิ์ นางก็ไม่เคยปรากฏตัวและไม่แปลกใจเลยที่ฮองเฮาเฝิงถึงกับต้องไปที่อารามไป๋อวิ๋นเพื่อขอร้ององค์หญิงใหญ่ ยอมทำทุกวิถีทางเพื่อส่

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 426

    เพราะองค์หญิงเป่าหรงก็ยังเอ่ยถ้อยคำที่ว่าให้ละทิ้งจวนฉู่กั๋วกงเช่นนี้ออกมาในเวลานี้ฉู่กั๋วกงก็มาถึงตำหนักไท่จี๋แล้วด้านนอกตำหนักไท่จี๋มีกองกำลังองครักษ์เสื้อแพรล้อมอยู่เต็มไปหมด ไล่เฉิงหลงเข้าไปด้านในล่วงหน้าก่อน ไม่นานนักเขาก็เดินออกมา ขณะที่เดินผ่านฉู่กั๋วกงและจูปิน เขายกมุมปากขึ้นยิ้มเยาะด้วยสายตาเย็นชาให้พวกเขาจูปินยังแค้นใจเรื่องที่ไล่เฉิงหลงฟันแขนเสื้อเฉินฮ่าวไปเมื่อครู่ จึงสบถออกมาว่า “ทำเป็นวางท่าอะไรนักหนา?!”ไม่นาน ผู่อู๋ย่งก็เดินออกมาจากด้านใน แล้วร้องประกาศเสียงแหลม “เรียกฉู่กั๋วกงเข้าเฝ้า!”เมื่อเห็นผู่อู๋ย่ง สีหน้าของเหล่าขุนนางชั้นสูงก็ไม่สู้ดีนักเขาคือขันทีชั้นผู้ใหญ่แห่งกรมขันทีพระราชพิธี ปกติมักติดต่อกับสำนักขุนนางหลวง และมีอำนาจตรวจทานราชโองการ ถือเป็นขุนนางขันทีที่ทรงอิทธิพลที่แท้จริงฉู่กั๋วกงจัดเสื้อคลุมของตนให้เรียบร้อย ก่อนจะเชิดหน้าขึ้น ก้าวเข้าสู่ตำหนักไท่จี๋ในใจของเขาได้เตรียมแผนการรับมือไว้แล้วอันดับแรกคุกเข่าทูลรายงานข่าวการจากไปของฮูหยินฉู่กั๋วกงที่ถูกบีบบังคับจนต้องปลิดชีพจากนั้นก็ร้องไห้คร่ำครวญ ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตนได้ภักดีต่อฮ่องเต

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 427

    ตลอดหลายปีที่ดำรงตำแหน่งขุนนางมา ฉู่กั๋วกงไม่เคยตกอยู่ในสภาพที่น่าอับอายเช่นนี้มาก่อนเขารู้สึกว่าตัวเองถูกต้อนจนมาถึงริมหน้าผา เพียงแค่ก้าวพลาดเพียงนิดเดียว ก็จะตกลงไป จนร่างแหลกสลาย ไม่เหลือแม้แต่ซากแต่มาถึงตอนนี้ เจียงเหยียนเจินพูดได้ชัดเจนทุกอย่าง ทั้งยังกล้าสาบานด้วยชีวิตลู่หมิงอันก็กลับมาแล้ว พาหม่าเซวียน เจ้าเมืองทงโจวกลับมาด้วย รวมถึงอ๋องโจว ผู้ที่ฮ่องเต้หย่งชางให้ความไว้วางใจมาตลอด คนทั้งสองสามารถเป็นพยานได้ว่า ลู่หมิงฮุยเป็นคนที่ไปลอบสังหารเซียวโม่และราชบุตรเขยลู่ยังมีหญิงรับใช้ชราที่อยู่ในจวนของลู่หมิงฮุย นางกล่าวยืนยันอย่างหนักแน่นว่านางสามารถสาบานด้วยชีวิตได้ ว่าฉู่กั๋วกงเป็นผู้สั่งให้เฉินชง ซึ่งเป็นพ่อบ้านใหญ่ของจวนลู่หมิงฮุย ลงมือสังหารฮูหยินใหญ่ลู่เพื่อปิดปาก ป้องกันไม่ให้ฮูหยินใหญ่ลู่เป็นเหมือนเจียงเหยียนเจินที่หันมาหักหลังเมื่อมีคนเอาเรื่องราวในอดีตและเหตุการณ์ล่าสุดมาปะติดปะต่อกัน ก็กลายเป็นตาข่ายที่แน่นหนาแม้ว่าบางเรื่องในนี้จะไม่เป็นความจริง แต่ก็ไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะคำโกหกที่ปะปนทั้งเรื่องจริงและเรื่องเท็จนี่แหละ คือสิ่งที่จับพิสูจน์ได้ยากที่สุดเป็น

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 428

    แม้แต่เฉินฮ่าวและจูปินที่มาขอความเมตตา ก็ยังถูกปลดจากตำแหน่งขุนนางโดยตรงองค์หญิงใหญ่และลู่หมิงอันยังคงร่ำไห้แสดงความน่าสงสารอยู่ที่นี่ ก็มีแต่ทำให้ความโกรธของฮ่องเต้หย่งชางก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆถึงเวลานั้น เกรงว่าแม้แต่พระสนมกุ้ยเฟยและเหล่าองค์หญิงองค์ชายก็คงต้องพลอยเดือดร้อนเพราะตนไปด้วยต่อให้ฮ่องเต้หย่งชางเห็นแก่โศกาดูรของพระชายาหลิ่วและเซียวโม่ ในอนาคต พระองค์ก็ต้องมีอคติต่อเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยอย่างแน่นอนชีหยวน! ชีหยวน!หากเขารู้ล่วงหน้าว่าบุตรสาวบุญธรรมของคนเชือดหมูผู้นี้ จะสามารถลุกขึ้นมาก่อคลื่นลมปั่นป่วนได้เพียงลำพัง เขาจะบีบคอฆ่านางให้ตายตั้งแต่แรก!เพราะเขาประมาท! ทั้งหมดเป็นเพราะเขาประมาท!หัวใจของเขาเจ็บปวดอย่างรุนแรง แต่สมองกลับยังคงคิดวางแผนอย่างรวดเร็วไม่ได้! เขาจะลากกุ้ยเฟยและเหล่าองค์หญิงองค์ชายมาเกี่ยวข้องไม่ได้!ตราบใดที่ขุนเขาเขียวขจียังอยู่ อย่าได้กลัวไม่มีฟืนเผาเขารู้ดีว่าองค์หญิงเป่าหรงมีความสามารถเพียงใดตราบใดที่ยังมีความหวังแม้เพียงเส้นด้ายเดียว เขาย่อมสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้ดังนั้น......ดังนั้นมีเพียงคนแก่อย่างเขาที่ต้องตายไปเท่าน

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 506

    ก็ต้องมี ‘คืนของขวัญ’ กลับไปบ้างกระมัง?ชีเจิ้นก็พลันเข้าใจ เพียงแค่เป้าหมายไม่ใช่ผู่อู๋ย่ง แต่ก็ยังเป็นการไปสังหารคนอยู่ดีเขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกำชับว่า “เช่นนั้นก็ ระวังตัวด้วยแล้วกันนะ”ชีหยวนก็เดินตรงดิ่งออกจากประตูไปชีเจิ้นจึงหันกลับมามองท่านโหวผู้เฒ่าชีกับฮูหยินผู้เฒ่าชี “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้านึกขึ้นได้แล้ว วันปีใหม่วันนั้น แม่หนูหยวนบอกว่านอกจากจะแวะไปที่เรือนนอกเมืองแล้ว ยังมีธุระที่ต้องทำ มันเป็นธุระอะไรกันแน่?”ทั้งยังเป็น ‘การคืนของขวัญ’ ให้ผู่อู๋ย่งอีกด้วย?ท่านโหวผู้เฒ่าชีถลึงตาใส่เขาอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าถามข้าแล้วข้าจะไปถามใคร โดนขังมาหลายวันแล้วเจ้ายังไม่เหนื่อยหรือไง? ทำตัวดี ๆ รีบไปอาบน้ำแล้วนอนพักเสีย ตอนเย็นค่อยไปกินข้าวที่เรือนใหญ่!”ชีเจิ้นอยากรู้จนใจแทบขาด แต่ก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าชีหยวนกำลังทำเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับผู่อู๋ย่ง และยังจะบอกว่าเป็น ‘การคืนของขวัญ’ ให้อีกฝ่ายอีกต่างหากแต่แล้วเขาก็นึกขึ้นได้อีกเรื่องหนึ่ง “ท่านพ่อ! ผู้บัญชาการไล่จะไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?!”ไล่เฉิงหลงช่วยพวกเขาไว้มาก ที่ไม่โดนลงโทษก็เพราะอีกฝ่ายช่วยไกล่เกลี่ยแล้วไอ้หมาขันทีอ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 505

    ชีหยวนเลิกคิ้วขึ้นนิด ๆ เห็นทั้งสองคนกลับมาดูครบสามสิบสอง ดูก็รู้ว่าไม่ได้ถูกลงโทษ ก็รู้ทันทีว่าเป็นไล่เฉิงหลงที่ช่วยไว้นางหลุบตาลงแล้วส่ายหน้า “ไม่ใช่เพราะข้าหรอกเจ้าค่ะ เรื่องนี้เดิมทีก็เกิดขึ้นเพราะข้า เป็นข้าที่ก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นมา พวกท่านต้องลำบากก็เพราะข้า”ความรู้สึกของท่านโหวผู้เฒ่าชีซับซ้อนอย่างยิ่งชีเจิ้นก็เช่นกันชีหยวนก็ถือว่าเข้าใจฐานะของตนเองดีนัก และไม่ทำตัวเกรงใจเกินจำเป็น พูดสิ่งที่ควรพูด ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าจะมีใครตอบรับได้หรือไม่แต่ว่านางพูดตรงได้ ทว่าท่านโหวผู้เฒ่าชีกับชีเจิ้นย่อมไม่อาจตอบกลับตรง ๆ เช่นนั้น ท่านโหวผู้เฒ่าชีจึงกล่าวว่า “พูดอย่างนั้นก็ไม่ได้หรอก ตำแหน่งนี้ของเขา ทำมาก็หลายปี อยู่กึ่งกลาง หากทำงานของฝ่าบาทได้สำเร็จ เช่นนั้นสักวันก็ต้องเกิดเหตุเช่นนี้”ถ้าหากทำไม่สำเร็จ ต้องสืบหากันไปเรื่อย ๆ ไม่จบไม่สิ้น ฮ่องเต้หย่งชางก็ย่อมต้องเริ่มสงสัยในความสามารถของชีเจิ้น และหมดความอดทนต่อเขาฉะนั้นว่ากันตามจริงแล้ว เคราะห์นี้ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี ยังดีที่มีชีหยวนอยู่ จึงสามารถคลี่คลายเรื่องราวได้รวดเร็วขนาดนี้ท่านโหวผู้เฒ่าก็โล่งอก เมื่อเห็นเหล่าลูก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 504

    ฮ่องเต้หย่งชางกวาดพระเนตรมองโดยรอบ ตวาดเสียงเกรี้ยว “อ่างน้ำมงคลเล่า? ไยถึงได้มาช่วยดับไฟกันช้านัก?!”แล้วก็รีบร้อนหันไปถามไล่เฉิงหลง ซึ่งรับหน้าที่เฝ้าตำหนักเฟิ่งเจ่าในวันนี้ “ร่างของกุ้ยเฟยเล่า?”ไล่เฉิงหลงเหงื่อไหลท่วมทั้งร่าง คุกเข่าลงแล้วคารวะ “กระหม่อมกับนายพันลู่ช่วยกันหามร่างของกุ้ยเฟยออกมาได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่...”พวกเขาก็รู้ดีว่าเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยมีตำแหน่งเช่นไรในพระทัยของฮ่องเต้หย่งชาง ไหนเลยจะกล้าปล่อยให้ร่างของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยถูกเผาจนมอดไหม้?หากปล่อยให้เป็นเช่นนั้นจริง เกรงว่าพวกตนก็คงต้องลงไปอยู่กับบรรพบุรุษแล้วแต่ถึงจะช่วยออกมาได้ ทว่าร่างของกุ้ยเฟยก็ยังคงดูเวทนานักอย่างน้อยเส้นผมของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยก็ถูกไฟไหม้ไปแล้วครึ่งหนึ่งใบหน้าก็ถูกควันรมจนดำไปหมดฮ่องเต้หย่งชางปิดดวงเนตรลง เอื้อมพระหัตถ์ไปลูบไล้ใบหน้าของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟย สั่งการด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ไล่เฉิงหลง ลู่อี้เฟิง ดูแลไม่ดีจนตำหนักเฟิ่งเจ่าเกิดเพลิงไหม้ ให้ไปรับการลงโทษโบยสามสิบไม้ที่กรมวัง!”จากนั้นก็นิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วถามต่อ “เหตุใดอ่างน้ำมงคลถึงกลายเป็นน้ำแข็ง?”ในวังหลวง ตามถนนสาย

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 503

    ฮ่องเต้หย่งชางเหนื่อยล้าอย่างถึงที่สุดหลายวันมานี้ ทุกค่ำคืนเขามักจะฝันถึงเรื่องราวในอดีตตัวเขากับพระชายาหลิ่วสมัยยังอยู่ในดินแดนศักดินาในช่วงนั้น ยามใดที่คลื่นลมในทะเลพัดแรง ไม่รู้ว่าหลังคาบ้านของราษฎรกี่หลังจะปลิวว่อนทุก ๆ ปีล้วนมีคนต้องสังเวยชีวิตเพราะเหตุนี้ไม่น้อยแค่นั้นยังพอทนได้ แต่ภูมิอากาศก็ยังเย็นชื้น ทำให้ข้อกระดูกของเขาเจ็บเรื้อรังพระชายาหลิ่วจึงมักช่วยทำการรมยาเฉพาะจุดให้เขา อยู่เคียงข้างช่วยเหลือราษฎร คิดหาหนทาง ร่วมมือกับขุนนางท้องถิ่น แบ่งเขตพื้นที่ แล้วสอนชาวบ้านสร้างบ้านจากหินที่แข็งแรงมั่นคงในบริเวณที่ปลอดภัยกว่ายังได้ขอร้องอดีตฮ่องเต้ให้ส่งช่างจากกรมโยธามาช่วยสอนการเปิดเตาเผาและเผาอิฐพวกเขาค่อย ๆ แก้ไข นำพาเมืองจางโจวจากดินแดนยากไร้กลายเป็นเมืองมั่งคั่ง แม้แต่เมืองใกล้เคียงอย่างเฉวียนโจวก็ยังได้สร้างท่าเรือบางคราก็ฝันถึงเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยแรกเริ่มเดิมที เขาก็ไม่ได้คิดจะให้เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยเข้าวังเลยด้วยซ้ำเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยอายุน้อยกว่าเขามากเกินไป ห่างกันถึงสิบสองปีเขามองนางเหมือนน้องสาวคนหนึ่งมาตลอดแต่เมื่อเวลาค่อย ๆ ผ่านไป เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 502

    ปิดไม่มิดแล้วเขาไม่มีทางบ้าเลือดถึงขั้นลากผู่อู๋ย่งลงไปด้วยหรอก อย่างน้อยแบบนี้ผู่อู๋ย่งก็ยังอาจเห็นแก่ที่เขาเชื่อฟัง แล้วช่วยดูแลคนในตระกูลของเขาบ้างมิเช่นนั้น เกรงว่าตระกูลสวีคงไม่เหลือแม้แต่คนเดียวเซี่ยกงกงเชิญไล่เฉิงหลงเข้ามา ไล่เฉิงหลงก็นำเอกสารคำรับสารภาพพร้อมลายนิ้วมือของคนเหล่านั้นมาขึ้นถวายฮ่องเต้หย่งชางเพียงแค่เหลือบตามอง ก่อนจะเหวี่ยงเอกสารลงตรงหน้าสวีฮว่าน “เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีก? คดีลักลอบค้าของเมื่อปลายปีก่อนก็เริ่มสอบตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เจ้าคงคิดหาแพะรับบาปไว้ตั้งแต่นั้นกระมัง? ถึงได้ยุยงปลุกปั่นพวกครัวเรือนทหารที่มีเอี่ยว ให้เชื่อว่าตระกูลชีหักหลังพวกเขา ให้พวกเขารับผิดแทน!”สวีฮว่านฟุบหน้าลงกับพื้น สั่นเทาไปทั้งร่าง เอ่ยปากวิงวอนไม่หยุด “ฝ่าบาทโปรดเมตตา ฝ่าบาทโปรดไว้ชีวิตเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้หย่งชางแค่นเสียงเย็น แล้วกวาดดวงเนตรมองเหล่าขุนนางบุ๋นบู๊ “เมื่อครู่พวกเจ้าล้วนโกรธแค้นลุกฮือกันขึ้นมา กล่าวว่านี่คือการสมคบคิดศัตรู ขายชาติ ทรยศหักหลัง เป็นความผิดฐานคิดกบฏ พวกเจ้าพูดถูกแล้ว”สิ้นคำ ก็เรียกผู้บัญชาการศาลต้าหลี่เติ้งเหรินกู้ “คดีนี้ให้ศาลต้าหลี่เป็นผู้สื

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 501

    แน่นอนว่าผู่อู๋ย่งไม่มีพ่อ พ่อของเขาตายไปนานแล้ว มิเช่นนั้นจะเข้ามาเป็นขันทีในวังได้อย่างไรกันเล่า?!แต่ตอนนี้ ความรู้สึกในใจเขามันไม่ต่างอะไรกับพ่อเพิ่งตายไปจริง ๆ เลยบัดซบเอ๊ย!เหลวไหลสิ้นดี!ที่ไหนมีขันที ที่นั่นก็ต้องมีคนของเขาแฝงอยู่รัชทายาทวังบูรพาโง่เง่าอย่างกับหมู ทั้งยังอ่อนแอขี้โรค ร่างกายก็เจ็บออด ๆ แอด ๆ ไปทั้งตัวต่อให้เซียวอวิ๋นถิงฉลาดหลักแหลมแค่ไหน ก็ใช่ว่าจะรอดพ้นสายตาเขาไปได้ทุกอย่าง ไม่ว่าอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นแค่คน ไม่ใช่เทพเซียน!เขาเตรียมตัวไว้แล้วว่าส่งขันทีไปขัดขวางเซียวอวิ๋นถิง แล้วก็ให้องครักษ์เสื้อแพรไปทำเลยหลักฐานทั้ง ๆ ที่เขาวางแผนทุกอย่างเอาไว้อย่างไม่มีที่ติแต่สุดท้ายเซียวอวิ๋นถิงกลับวางแผนเหนือกว่า ส่งของไปถึงฮ่องเต้หย่งชางก่อนเสียได้แล้วจะไม่ให้เขาโมโหได้อย่างไร?!ไอ้บ้าสองตัวนั่น!คนหนึ่งเจ้าเล่ห์ อีกคนเหี้ยมโหด ราวกับสุนัขจิ้งจอกกับอสรพิษรวมหัวกัน ใครหน้าไหนเข้าใกล้ก็ต้องถูกพวกเขากัดเข้าให้สักแผลเขาสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วรีบสงบสติอารมณ์ลงอย่างรวดเร็วเขาเบือนหน้าหนีอย่างเย็นชา ไม่มองทางสวีฮว่านอีกเขาไม่เคยกังวลเลยว่าเรื่องนี้จะพัวพัน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 500  

    ก็ใช่ว่าจะเคราะห์ร้ายเสียทีเดียว ถึงอย่างไรก็ไม่มีคนมาสนใจเขานัก ล้วนแต่ยุ่งกับการจัดการจวนฉู่กั๋วกงกันทั้งนั้น ต่อมาเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยก็ตายไปอีก เรื่องราวเยอะเกินไป ไม่มีใครจะนึกถึงเขาหรอก ทว่าเขาเองก็กลัวมาก! น้องหญิงคนนั้นของเขา มิใช่คนที่จะสะสางหนี้แค้นด้วยคุณธรรมมาตั้งแต่ตอนเยาว์วัยแล้ว หลังจากนี้จะต้องหาโอกาสมาจัดการเขาแน่! พูดให้ถึงที่สุด เรื่องทั้งหมดนี้ต้องโทษสกุลชีอย่างเดียว หากว่าสกุลชีไม่พาตัวพระชายาหลิ่วกลับมา เรื่องราวทั้งหมดนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ดังนั้นแล้วในตอนนี้อุตส่าห์หาโอกาสได้แล้วทั้งที เข้าย่อมต้องเหยียบย่ำสกุลชีให้เต็มที่แน่นอน ผู่อู๋ย่งยิ่งรู้สึกขบขันเต็มที พอเห็นว่าสวีฮว่านเหลือบสายตามองตนเองด้วยความเคร่งเครียดแล้ว ก็เบนสายตาออกเชิงว่าตักเตือนทันที สวีฮว่านรีบก้มศีรษะลง บัดนี้ลำคอของเขายังเจ็บแปลบ ๆ อยู่เลย ไหนจะตรงช่วงท้องอีก ดูเอาเถิดว่านางเด็กชีหยวนคนนี้ดุร้ายโหดเหี้ยมมากขนาดไหน หัวใจของเขาเต้นระส่ำว้าวุ่นไม่เป็นสุข จนถึงตอนนี้ ทั่วท้องพระโรงทั้งฝ่ายบู๊ฝ่ายบุ๋นล้วนพุ่งเป้าโจมตีจุดอ่อนของสกุลชี ทว่าเซียวอวิ๋นถิงกลับยังคงไม่ปรากฏตัว

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 499  

    สกุลชีถูกโจรบุกปล้นในวันที่สามของปีใหม่ ที่พำนักของคุณหนูใหญ่สกุลชีถูกไฟเผาวอดไปครึ่งหนึ่ง หากมิใช่เพราะคุณหนูใหญ่สกุลชีบังเอิญไปอยู่ที่ห้องของฮูหยินผู้เฒ่า และกำลังคัดเลือกถั่วปากอ้ากับฮูหยินผู้เฒ่าพอดี เกรงว่าคุณหนูใหญ่สกุลชีคงจะไม่รอดแล้ว เรื่องนี้ปิดบังไม่อยู่ ไม่นาน ก็แพร่สะพัดลือเล่ากันไปไกลแล้ว จะไม่ให้แพร่สะพัดไปไกลก็คงไม่ได้ สกุลชีเพิ่งถูกกล่าวหาว่าสมคบกับข้าศึกขายดินแดนให้อริราชศัตรู โหวผู้เฒ่าชีและชีเจิ้นก็ถูกจับเข้าคุกหลวงไปแล้ว เห็นสกุลชีสภาพน่าเวทนาถึงเพียงนี้ แต่ใครจะรู้ว่ายังมีคนจ้องจะซ้ำเติมสกุลชีไม่ปล่อย หวังให้สกุลชีตายราบคาบ เฮอะ ๆ พวกชาวบ้านก็ยังมีแอบวิพากษ์วิจารณ์กันบ้าง “ไม่รู้ว่าใช่ฝีมือของครอบครัวทหารจากจี้โจวหรือไม่?” “จริงด้วย หากว่าเป็นอย่างที่พวกครอบครัวทหารเหล่านั้นว่ากันจริง เงินถูกสกุลชิงเอาไปแล้ว แต่กลับโยนความผิดให้พวกเขารับไว้แบบนั้น พวกเขาจะไปยอมได้อย่างไร?” “หากเป็นข้านะ ข้าก็คงทุ่มสุดตัวเหมือนกัน!” ดูเหมือนว่าคนที่คิดเห็นเช่นเดียวกันนี้จะมิได้มีเพียงแค่พวกชาวบ้าน เทศกาลปีใหม่ปีนี้ถูกลิขิตไว้ไม่ให้เงียบสงบ ในวันที่เจ็ดของปีใหม่ ศ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 498  

    สวีฮว่านเหงื่อเย็นไหลพลั่ก ตอนที่ได้ยินชีหยวนนับหนึ่ง สอง สาม ท้ายที่สุดเขาก็ทนไม่ไหว ร้องเสียงดังออกไป “ข้าให้เจ้าก็ได้! ข้าให้เจ้าก็ได้! สาส์นลับอยู่ใน…อยู่ในชั้นวางลับหลังโต๊ะหนังสือในห้องหนังสือของข้า!” ชีหยวนเปล่งเสียงอุทานออกมาหนึ่งคำ ก่อนจะเก็บกริชและปิ่นทองคำกลับมา แล้วใช้มือข้างหนึ่งคว้าคอเสื้อด้านหลังของเขาฉุดเขาขึ้นมา และผลักให้เขาเดินไปที่ชั้นหนังสือ พร้อมเอ่ยเสียงเข้มว่า “เปิดมัน” สวีฮว่านลังเลเล็กน้อย ทันใดนั้นชีหยวนก็เตะข้อพับขาของเขาอย่างแรงไปหนึ่งที “เปิดออก!” สวีฮว่านดึงจี้หยกที่ห้อยอยู่ข้างเอวของตนเองออกมาด้วยมือที่สั่นเทา ก่อนจะฝังมันเข้าไปในตำแหน่งที่เป็นช่องเว้าบนชั้นวางหนังสือ และหมุนมันหนึ่งรอบ ทันใดนั้นชั้นหนังสือก็เปิดออกอย่างช้า ๆ ทว่าเสี้ยวพริบตาเดียวนี้ สวีฮว่านรีบสะบัดตัวออกจากชีหยวนหวังว่าจะหลบหนี เขารู้ดี โดยปกติคนเราเมื่อตกอยู่ในเสี้ยวขณะที่ได้รับสิ่งของที่ตนเองต้องการมากเป็นอย่างยิ่ง ก็จะเผลอไผลไปได้ง่ายดายที่สุด เขาเฝ้ารอจังหวะนี้มาโดยตลอด ทว่าน่าเสียดาย เขาเพิ่งจะกลิ้งตัวไปกับพื้น กลับเห็นชีหยวนใช้มือปัดลูกธนูที่พุ่งออกมาจากชั้นวางลับ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status