จักรพรรดิอู่อันมิยอมรับการมีอยู่ของค่ายกองทหารเสือ เซียวหลินเทียนก็มิสามารถไปบังคับเขาได้ เขาจึงรู้สึกท้อแท้เล็กน้อยศัตรูที่แข็งแกร่งบุกมาถึงเมืองหลวงแล้ว แต่เสด็จพ่อยังคงปกปิดความลับเพื่อผลประโยชน์ของเขาเองอยู่เช่นนี้จะมีความหมายอะไรกัน!“พ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ เช่นนั้นลูกขอทูลลา!”ได้กองทัพหลวงมาก็ย่อมดีกว่ามิได้อะไรเลย เซียวหลินเทียนเดินออกจากห้องทรงพระอักษรไปเลือกคนกับหัวหน้าราชองครักษ์ผางอย่างหน้าบึ้งเมื่อราชองครักษ์ผางได้ยินว่าเซียวหลินเทียนต้องการคนก็ยินดีมาก สั่งทหารกองทัพหลวงสิบกว่านายที่ค่อนข้างเก่งวรยุทธ ให้พวกเขาติดตามเซียวหลินเทียนไปสนับสนุนอันเจ๋อเซียวหลินเทียนทำงานเสร็จแล้วกำลังจะไป องครักษ์กองทัพหลวงนายหนึ่งก็เข้ามาพบราชองครักษ์ผางเซียวหลินเทียนจึงถือโอกาสกล่าวลาเขามีเรื่องคิดอยู่ในใจเต็มไปหมด จึงก้มหน้าคิดเรื่องค่ายกองทหารเสือของจักรพรรดิอู่อันความยอดเยี่ยมของกองกำลังนี้ทำให้เขาโหยหามาตลอด แม้ว่าเขาจะมิเคยคิดที่จะควบคุมกองกำลังนี้ แต่ก็อยากเห็นพลังการต่อสู้ของพวกเขาสักหน่อยตอนนี้ถูกองค์จักรพรรดิอู่อันปฏิเสธมา เซียวหลินเทียนจึงโกรธและแอบสาบานว่า เขาจะต้องฝ
“ท่านอ๋องอี้ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว กระหม่อมเองก็ปิดบังท่านมิได้แล้ว!”ราชองครักษ์ผางกระซิบ “คนที่กระหม่อมจะขอให้ท่านช่วยมิใช่ใครอื่น แต่เป็นพระสนมฮุ่ยกับองค์ชายเย่พ่ะย่ะค่ะ!”องค์ชายเย่?คิ้วหนาของเซียวหลินเทียนเลิกขึ้นทันที เขามิลืมเรื่องที่องค์ชายเย่นิ่งดูดายมิช่วยเหลือหลิงอวี๋!ทันทีที่เขาได้ยินว่าเกี่ยวข้องกับองค์ชายเย่ สัญชาตญาณของเซียวหลินเทียนก็อยากปฏิเสธทันทีเลยแต่ยังมิทันที่เขาจะเอ่ยปาก ราชองครักษ์ผางก็ดูเหมือนจะอ่านความคิดของเขาออก จึงรีบเอ่ยออกไป“กระหม่อมได้ยินเรื่องที่ท่านไปขอโสมโลหิตจากองค์ชายเย่แล้ว! โสมโลหิตนั้นอยู่ในมือขององค์ชายเย่จริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ แต่ท่านอ๋องอี้เข้าใจองค์ชายเย่ผิดไป... โสมโลหิตนั้นถูกใช้ไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“โสมโลหิตนั้นถูกใช้กับพระสนมฮุ่ยไปแล้ว ดังนั้นองค์ชายเย่จึงมิสามารถมอบให้ท่านได้!!”เซียวหลินเทียนตะลึงไปทันที เขามิเคยคาดคิดว่าองค์ชายเย่ซื้อโสมโลหิตให้กับพระสนมฮุ่ย!แต่นี่ก็ผิดปกติอยู่ดี!หากลูกชายซื้อโสมโลหิตให้มารดา ก็สามารถทำได้อย่างเปิดเผย เหตุใดองค์ชายเย่จึงต้องเก็บเป็นความลับด้วยเล่า?ยิ่งไปกว่านั้น เขายังฆ่าปิดปากผู้ค้าคนกลางอีก
คำพูดของราชองครักษ์ผางที่ยกทั้งตระกูลมาสาบาน เรียกได้ว่าเป็นคำสาบานที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เซียวหลินเทียนเคยได้ยินมาเลยเซียวหลินเทียนจึงเชื่อสิ่งที่ราชองครักษ์ผางบอกในทันทีใครจะชั่วร้ายถึงขนาดเอาคนทั้งตระกูลของตนมาสาบานกันเล่า!ราชองครักษ์ผางบริสุทธิ์ใจจึงได้กล้าสาบานร้ายแรงเช่นนี้“ราชองครักษ์ผาง ข้าเชื่อเจ้า เจ้าพูดต่อเถิด ต้องการให้ข้าช่วยอย่างไร?”เซียวหลินเทียนรู้ว่าเรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เขาเกลียดองค์ชายเย่ที่ไร้เมตตาต่อตน แต่ครั้งที่แล้วที่ราชองครักษ์ผางกับพระสนมฮุ่ยช่วยเรื่องของหลิงอวี๋เป็นการช่วยที่ยิ่งใหญ่มากตอนนี้พวกเขามาข้องเกี่ยวในเรื่องใหญ่เช่นนี้แล้วเซียวหลินเทียนจะมิช่วยเหลือได้อย่างไร!“ท่านอ๋องอี้ คาดว่าตอนนี้จะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับมิได้แล้ว เมื่อครู่องครักษ์ของกระหม่อมมาบอกว่าฮองเฮาเว่ยแอบไปตรวจสอบบันทึกการปรนนิบัติแล้วพ่ะย่ะค่ะ…”ราชองครักษ์ผางกังวลใจมาก “ดูท่าทาง เรื่องโสมโลหิตจะไปกระตุ้นความสงสัยของฮองเฮาเว่ยเข้าแล้ว ขอเพียงตรวจพบว่าพระสนมฮุ่ยไม่มีบันทึกการปรนนิบัติ แต่กลับตั้งครรภ์ ทั้งพระสนมฮุ่ยกับองค์ชายเย่ก็จะถูกองค์จักรพรรดิตัดเศียรแน่พ
“อาอวี๋ ดูเหมือนสภาพจิตใจเจ้าจะดีขึ้นมากแล้ว!”เซียวหลินเทียนเห็นใบหน้าของหลิงอวี๋มีสีเลือดฝาดก็รู้สึกโล่งใจเขาให้หานเหมยกับคนอื่น ๆ ออกไปแล้วก็รีบเอ่ย “เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว! อาอวี๋ เจ้ารีบช่วยข้าคิดหาวิธีว่าจะช่วยพระสนมฮุ่ยกับราชองครักษ์ผางได้อย่างไรทีเถิด!”หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างสับสน “เกิดเรื่องอันใดขึ้นเพคะ?”เซียวหลินเทียนรีบเล่าเรื่องที่ราชองครักษ์ผางบอกกับตนให้หลิงอวี๋ฟังอย่างรวดเร็วแล้วสุดท้ายก็เอ่ย“ข้าเชื่อว่าสิ่งที่ราชองครักษ์ผางพูดคือความจริง! แต่ข้ามิค่อยเชื่อสิ่งที่พระสนมฮุ่ยบอกนัก!”“คนเราหากไม่มีความสัมพันธ์กับคนอื่นจะท้องโดยไม่มีเหตุผลได้เยี่ยงไรกัน!”ครั้งที่แล้วหลิงอวี๋ได้รับบุญคุณของพระสนมฮุ่ย ยังคิดอยู่ว่าจะตอบแทนพระสนมฮุ่ยอย่างไร หลังจากฟังคำพูดของเซียวหลินเทียน นางก็สูดลมหายใจและเป็นกังวลแทนพระสนมฮุ่ย“พระสนมฮุ่ยตั้งครรภ์จริงหรือเพคะ? มิได้เข้าใจผิดใช่หรือไม่?”ในวังมิเท่าข้างนอก หากพระสนมฮุ่ยถูกคนลอบวางแผนจริง ๆ หลังจากเกิดเรื่องนางจะมิสังเกตเห็นได้เยี่ยงไร!ยิ่งไปกว่านั้น คนที่สามารถรับใช้ในตำหนักพระสนมฮุ่ยได้ ก็น่าจะเป็นคนสนิทของนางมิใช่หรือ หรือพวก
เซียวหลินเทียนตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ใต้หล้านี้มีเรื่องเช่นนี้จริง ๆ หรือ?แต่หลิงอวี๋บอกว่ามี เช่นนั้นก็น่าจะมีกระมัง“ถึงกระนั้นเจ้าก็มิสามารถเข้าวังตอนนี้ได้! นั่นจะมิทำให้เกิดความสงสัยหรือ?”เซียวหลินเทียนสงบลง เขากดหลิงอวี๋ไว้พลางรีบคิดหามาตรการตอบโต้ต้องทำอย่างไรถึงจะให้หลิงอวี๋ตรวจว่าพระสนมฮุ่ยตั้งครรภ์จริง ๆ หรือเป็นอาการป่วยในเวลานั้นเองภายในวังมินานหลังจากที่ราชองครักษ์ผางส่งเซียวหลินเทียนกลับไป เขาก็เห็นขันทีฉางพารองราชองครักษ์เฮ่อจู้และองครักษ์กองทัพหลวงอีกสิบกว่านาย ด้วยใบหน้าบึ้งตึงแย่แล้ว!ราชองครักษ์ผางหัวใจเต้นแรง แต่มิแสดงสีหน้าใด ๆ เขาลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้ม “ขันทีฉาง รองราชองครักษ์เฮ่อ นี่มีเรื่องอะไรหรือ? พวกเจ้าสองคนถึงมาด้วยกันได้!”เฮ่อจู้ยืนอยู่ข้างหลังขันทีฉางด้วยรอยยิ้มมิพูดอะไร แต่มือของเขากดลงบนดาบอย่างตั้งใจและมิตั้งใจ“ราชองครักษ์ผาง องค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้ท่านไปพูดคุยที่พระตำหนักฮุ่ยจู๋!”ขันทีฉางเองก็มีสีหน้าเศร้าหมองเช่นกัน เขาถ่ายทอดคำสั่งของจักรพรรดิอู่อันแล้วหันหลังเดินออกไปราชองครักษ์ผางเหลือบมองเหยียนเจ๋อ มิพูดอะไรแล้วเดินตามขันทีฉา
ทันใดนั้นกลิ่นอายสังหารที่รุนแรงก็พุ่งออกมาจากดวงตาที่หลุบต่ำของผางเซิง…เขาเสี่ยงชีวิตนับครั้งมิถ้วนเพื่อช่วยชีวิตจักรพรรดิอู่อัน!หากทรราชนั่นนึกถึงความดีของตน ก็คงจะใจกว้างเปิดโอกาสให้ตนกับพระสนมฮุ่ยไปแล้วหากทนพระสนมฮุ่ยมิได้จริง ๆ เช่นนั้นเขาก็คงต้องเสี่ยงชีวิตฆ่าเขาเสียก่อน...กลุ่มคนก้าวเดินกันไปที่พระตำหนักฮุ่ยจู๋องครักษ์กองทัพหลวงบางส่วนที่ลาดตระเวนในวังเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของราชองครักษ์ผาง เมื่อเห็นสิ่งนี้ก็ตกใจกันท่าทางของราชองครักษ์ผาง ดูอย่างไรก็เหมือนกำลังถูกรองราชองครักษ์เฮ่อพาตัวไป!นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้น?กระทั่งราชองครักษ์ผางเดินไปถึงที่พระตำหนักฮุ่ยจู๋ เพิ่งก้าวผ่านประตูไปก็รู้สึกได้ถึงเสียงลมที่มาจากด้านหลัง...วินาทีต่อมา ราชองครักษ์ผางก็ถูกเฮ่อจู้กับองครักษ์กองทัพหลวงหลายคนตรึงลงกับพื้นเฮ่อจู้เอื้อมมือออกไปคว้าดาบของราชองครักษ์ผางออกไปอย่างรวดเร็ว เขากดเข่าลงบนหลังของราชองครักษ์ผาง พลางเอ่ยอย่างแปลก ๆ“ผางเซิง เรื่องของท่านมันแดงแล้ว... องค์จักรพรรดิเห็นแก่ที่ท่านร่วมรบกับเขา จึงให้โอกาสท่านได้อธิบาย... ส่วนดาบนี่ข้าจะเก็บไว้ให้ท่านก่อน!”ราชองค
หมอหลี่ดูแก่ลงกว่าก่อนหน้านี้มาก เขาเหลือบมองราชองครักษ์ผางแล้วคุกเข่าลงพื้นเสียงดัง“ฝ่าบาท กระหม่อมบอกไปแล้วว่า… พระสนมฮุ่ยกำลังตั้งครรภ์ นางกลัวว่าจะถูกเปิดโปง จึงขอให้กระหม่อมสั่งยาทำแท้งให้ อีกทั้งนางยังให้เงินกระหม่อมแล้วให้ลาออกและกลับบ้านเกิดไปพ่ะย่ะค่ะ…”หมอหลี่กลัวจนตัวสั่น พลางเอ่ยอย่างสะเปะสะปะ “ฝ่าบาท กระหม่อมมิบังอาจปิดบังฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ แต่ราชองครักษ์ผางบอกว่าหากกระหม่อมกล้าแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปเขาจะฆ่าทั้งครอบครัวของกระหม่อม...”“กระหม่อมไม่มีทางเลือก! ขอฝ่าบาทโปรดเข้าใจด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ราชองครักษ์ผางจ้องมองตรงไป เขาเคยบอกว่าจะฆ่าครอบครัวหมอหลี่เมื่อใดกัน?หากเขาเป็นคนเลวทรามเช่นนั้น เขาจะปล่อยหมอหลี่ไปหรือ?“ปั้ก...”ทันใดนั้นถ้วยชาก็ตกลงมากระแทกหัวราชองครักษ์ผางน้ำชาร้อน ๆ รดลงบนหัวกับใบหน้าของราชองครักษ์ผางทันทีหากเป็นราชองครักษ์ผางสมัยหนุ่ม เขาคงจะโกรธขึ้นมาแล้ว แต่เขามิใช่คนหุนหันพลันแล่นเช่นในตอนนั้นอีกต่อไปแล้วราชองครักษ์ผางแอบกัดฟันแล้วมองจักรพรรดิอู่อันอย่างสงบ พลางเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำ“ฝ่าบาท นี่มันหมายความว่าอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ? เหตุใดจู่ ๆ ห
หลังจากนั้นมินาน ถังถีเตี่ยนกับหมอจางก็เดินเข้ามาด้วยกันจักรพรรดิอู่อันมิพูดอะไร ถือเป็นการอนุญาตโดยปริยายเขาอารมณ์มิดีมากแล้ว นี่จะทำให้ทุกคนรู้โดยทั่วกันว่าตนถูกสวมเขาหรือ?เขาแค่อยากจะจัดการพระสนมฮุ่ยกับราชองครักษ์ผางอย่างเงียบ ๆแต่ฮองเฮาเว่ยบอกว่า ราชองครักษ์ผางควบคุมกองทัพหลวงมาหลายปี หากฆ่าราชองครักษ์ผางไปโดยไม่มีหลักฐานใด ๆ รังแต่จะทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาเคียดแค้น...องครักษ์มากมายถึงเพียงนี้ ต่อไปใครไว้วางใจได้หรือไว้วางใจมิได้ เรื่องนี้คือสิ่งที่จะมาทดสอบ!จักรพรรดิอู่อันไม่มีทางที่จะเปลี่ยนองครักษ์กองทัพหลวงทั้งหมดได้ทันที ดังนั้นจึงอยากใช้โอกาสนี้เพื่อดูว่าใครในบรรดาองครักษ์กองทัพหลวงเหล่านี้ที่คู่ควรกับการไว้วางใจ!“ถังถีเตี่ยน หมอจาง พวกท่านผลัดกันขึ้นไปตรวจชีพจรของพระสนมฮุ่ย!”ฮองเฮาเว่ยออกคำสั่งถังถีเตี่ยนกลืนน้ำลายแล้วก้าวไปข้างหน้าแม้ว่าเขาจะถูกกองทัพหลวงเรียกตัวมาจากสถาบันหมอหลวง แต่ก็มิรู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นแต่หลังจากคลุกคลีอยู่ในวังมาหลายปี ถังถีเตี่ยนได้กลิ่นแปลก ๆเขาเดินไปหาพระสนมฮุ่ย เห็นพระสนมฮุ่ยคุกเข่าอยู่ที่พื้น ถังถีเตี่ยนจึงทำได้เพ
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี
ชีวิตนี้หาสหายรู้ใจได้ยากนัก!หลงเพ่ยเพ่ยยิ้ม นางก็รู้สึกว่าตนกับเย่หรงพูดคุยสื่อสารกันง่ายเช่นกันเย่หรงฉลาด ที่สำคัญที่สุดคือมิใช่บุรุษประเภทหัวโบราณคร่ำครึ มิเหมือนพวกพี่สามที่เอะอะก็วางตนเป็นผู้ใหญ่สั่งสอนนางเฮ้อ หากสามีในอนาคตของนางสามารถพูดคุยกันได้เหมือนเย่หรง เช่นนั้นสามีภรรยาจะมิรักใคร่กลมเกลียวกันมากหรอกหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยคิดแล้วพลันหน้าแดงเรื่อ นี่นางกำลังคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่!“พวกเรามาคิดกันก่อนดีกว่าว่าอีกประเดี๋ยวหากพบเสด็จย่าแล้วจะทำอย่างไรดี!”หลงเพ่ยเพ่ยมิกล้าคิดฟุ้งซ่านต่อไป รีบเปลี่ยนเรื่องคุย“ท่านกังวลว่าท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นจะก่อกวนหรือ?”เย่หรงก็ดึงความคิดกลับมา พวกเขาใกล้จะถึงภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ต้องคิดหาข้ออ้างให้ดี“อืม ท่านหญิงชิงเฉิงมิใช่คนประเภทที่จะเจรจาด้วยง่าย ๆ ท่านหญิงอวิ๋นยังพอคุยง่ายอยู่บ้าง แต่ในเมื่อพวกนางรับคำสั่งจากชายาเจ้าแห่งทะเลมาเพื่อถ่วงเวลาเสด็จย่า ย่อมมิยอมให้ข้าบรรลุเป้าหมายแน่!”หลงเพ่ยเพ่ยเผยสีหน้าอมทุกข์เย่หรงพลันนึกถึงข่าวลือเกี่ยวกับท่านหญิงอวิ๋นขึ้นมา แม้ท่านหญิงอวิ๋นจะเป็นธิดาแท้ ๆ ของชายาเจ้าแห่งทะเล แต่ช่วงห
“โอ้ ใต้หล้านั้นแตกต่างจากใต้หล้าของพวกเราหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยถูกเย่หรงกระตุ้นความอยากรู้ จึงจ้องมองพลางถาม“อืม บ้านเรือนที่นั่นสูงเท่าภูเขา สูงที่สุดอาจถึงร้อยชั้นได้ ทั้งยังมีรถมากมายที่มิต้องใช้ม้าลาก วิ่งได้เร็วมาก!”เย่หรงเล่าให้หลงเพ่ยเพ่ยฟังไปเรื่อย ๆเมื่อพูดถึงเครื่องบินก็ทำให้หลงเพ่ยเพ่ยเบิกตากว้าง นางมองเย่หรงอย่างงง ๆ “เจ้าโกหกกระมัง จะมีเครื่องมือที่สามารถบรรทุกคนขึ้นไปบนฟ้าได้อย่างไร!”“มีจริง ๆ ข้ามิได้โกหกท่าน พี่หญิงหลิงหลิงจำได้มากกว่าข้าเสียอีก รอมีโอกาสให้นางเล่าให้ท่านฟัง ท่านก็จะเชื่อว่าข้ามิได้โกหกท่าน!”เย่หรงเริ่มตื่นเต้น “ท่านหญิง ท่านปู่มิได้บอกหรือว่าคันฉ่องคุนหลุนของตงกู่อวี้สามารถพลิกฟ้าคว่ำปฐพีได้?”“หากพวกเราได้คันฉ่องคุนหลุนมา มิต้องรอเวียนว่ายตายเกิด ข้าจะพาท่านไปดูใต้หล้านั้น! ท่านจะต้องชอบใต้หล้านั้นอย่างแน่นอน!”เย่หรงพูดจนหลงเพ่ยเพ่ยใจเต้นระรัว นางกล่าวออกไปโดยมิต้องคิด “ได้ เช่นนั้นรอพวกเราช่วยแดนเทพผ่านพ้นภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้ พวกเราหาคันฉ่องคุนหลุนเจอแล้วก็ไปด้วยกัน ไปดูใต้หล้าที่เจ้าพูดถึงกัน!”“ตกลงตามนี้!”เย่หรงยกมือขึ้น หลงเพ่ยเพ่
คนหนึ่งคือคนที่ตนรัก อีกคนคือสหายที่ดีที่สุดของตน!แต่พวกเขากลับร่วมมือกันหลอกลวงตน!หยางหงหนิงหันหลังเดินออกไปด้วยใบหน้าบึ้งตึง นางจะมิปล่อยชายชั่วหญิงโฉดคู่นี้ไปแน่!สิ่งที่นางมิได้มาครอบครอง ยอมทำลายทิ้งเสียดีกว่ายอมให้คนอื่นได้ไป!หยางหงหนิงกลับไปที่รถม้าของตน เค้นเสียงลอดไรฟันออกมาคำหนึ่ง “ไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์!”ด้านหน้า เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยต่างก็ร้อนใจดั่งไฟเผา ฮองเฮาเสด็จไปสองชั่วยามแล้ว พวกเขาจะตามทันพระนางหรือ?อีกทั้งต่อให้ตามทัน มีท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นอยู่ พวกนางต้องช่วยชายาเจ้าแห่งทะเลขัดขวางมิให้ฮองเฮาเรียกตัวหลิงอวี๋เข้าเฝ้าแน่“ท่านหญิง พวกเราจะไปทันหรือไม่? ชายาเจ้าแห่งทะเลจะลงมือกับพี่หญิงหลิงหลิงแล้วหรือไม่?”เย่หรงถามอย่างร้อนรนหลงเพ่ยเพ่ยก็ร้อนใจเช่นกัน หลิงอวี๋ยังรอให้นางช่วยชีวิตอยู่ แต่นางก็มิรู้ว่าจะสามารถทูลขอพระราชโองการจากฮองเฮาได้สำเร็จหรือไม่“พวกเราพยายามเต็มที่เถอะ! ขอเพียงตามเสด็จย่าทัน ต่อให้ข้าต้องคุกเข่าอ้อนวอนก็ต้องให้นางพาพี่หญิงหลิงหลิงออกมาให้ได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวปลอบใจเย่หรงเห็นหลงเพ่ยเพ่ยวิ่งวุ่นไปทั่วกับตนก็นับว่าพยายามเ
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร