Share

บทที่ 1152

Author: กานเฟย
หลิงอวี๋เห็นภาพนี้บนอัฒจันทร์ก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ

เซียวหลินเทียนมิได้โกรธแล้วหุนหันพลันแล่นแบบเมื่อก่อนแล้ว!

เขาพลิกวิกฤตที่มองมิเห็นได้อย่างยอดเยี่ยมมาก!

วิชากระบี่ที่ยอดเยี่ยมนี้ ทั้งสยบผู้ที่มีเจตนาร้ายได้ และยังปกป้องพวกอันเจ๋อมิให้โดนดูถูกได้ด้วย

ใต้หล้านี้จะมีกี่คนที่สามารถทำเช่นนี้ได้เล่า!

การกระทำเช่นนี้ทำให้จักรพรรดิอู่อันพยักหน้าอย่างพึงพอใจเช่นกัน

เดิมทีองค์ชายเว่ยคิดว่าเซียวหลินเทียนจะโกรธคนฆ่าคน จึงพยายามจะใส่ไฟเขา ไหนเลยจะคิดว่าเซียวหลินเทียนจะใช้วิธีนี้แก้ปัญหา

จ้าวฮุยมองแผ่นหลังของเซียวหลินเทียนด้วยแววตาเป็นประกาย แล้วเขาก็ตัดสินได้อีกครั้งว่าตนเลือกผิดไปแล้ว

ตอนแรกน่าจะเลือกเซียวหลินเทียนเป็นลูกเขยไปเสีย!

องค์ชายคังกัดริมฝีปากล่างแน่น เรื่องปาไข่เน่านี่เป็นความคิดของจ้าวเจินเจินที่อยากจะป้องกันไว้สองชั้น

‘หากเซียวหลินเทียนถูกไข่เน่าโยนใส่จนเต็มตัว จากนิสัยของเขาแล้วจะต้องโกรธแล้วฆ่าราษฎรเพื่อระบายความโกรธแน่นอนเพคะ!’

‘เช่นนี้หากเซียวหลินเทียนพ่ายแพ้แล้วสูญเสียเมืองไปก็จะถูกตัดหัวต่อหน้าธารกำนัลซึ่งเป็นโทษที่ร้ายแรง!’

‘ทว่าหากว่าเขาชนะ ก็จะมีความผิดฐานฆ่าราษฎร
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Kanha Khorada
ชอบมากสนุกชวนติดตาม
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2706

    “แล้วหลังจากนั้นเล่า? การกระทำของหยางเฉิงเช่นนี้ พวกลัทธินิกายเหล่านั้นจะยอมแต่โดยดีหรือ?”หลิงหว่านที่นั่งฟังอยู่ข้าง ๆ ได้ยินถึงตรงนี้ก็อดเอ่ยถามขึ้นมามิได้เฉาจือส่ายหน้า “แน่นอนว่าย่อมมิยอมง่าย ๆ เช่นนั้น ศิษย์ในสำนักที่หลบหนีไปได้ ล้วนส่งคนมาลอบสังหารหยางเฉิงตลอดหลายปีที่ผ่านมา”“หยางเฉิงได้รับบาดเจ็บนับครั้งมิถ้วน มิว่าเล็กหรือใหญ่ แต่เขาก็รอดมาได้ทุกครั้ง!”“ส่วนคนที่ลอบสังหารเขา หยางเฉิงก็มิเคยปรานี จับได้เป็นต้องสังหาร แล้วนำศีรษะไปแขวนไว้ที่หน้าศาลาว่าการเพื่อข่มขวัญผู้อื่น!”“ข้าจะบอกอะไรให้นะ หากศีรษะพวกนั้นมิถูกน้ำท่วมพัดไป ป่านนี้ก็คงยังแขวนอยู่ที่หน้าศาลาว่าการ”“นี่ถือเป็นทิวทัศน์อีกอย่างหนึ่งของปากั๋วโจว พวกเหล่าร้ายที่คิดจะก่อการอธรรม เพียงได้เห็นศีรษะที่แขวนเรียงรายอยู่เต็มหน้าศาลาว่าการ ก็ต้องชั่งใจดูแล้วว่าจะกล้าต่อกรกับหยางเฉิงหรือไม่!”หลิงอวี๋ตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะ การที่หยางเฉิงสามารถรอดชีวิตมาได้ครั้งแล้วครั้งเล่านั้น มิใช่เพียงเพราะความสามารถของเขาเอง แต่เบื้องหลังเขาน่าจะมีหมอเทวดาเหมือนอย่างตนเองคอยช่วยเหลืออยู่เป็นแน่!“ปีนี้หยางเฉิงอายุเท่าใดแล้ว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2705

    หลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนนำขบวนเดินทางออกจากหมู่บ้านตระกูลเหมิง มุ่งหน้าต่อไปในวันนั้น ขบวนก็ได้เดินทางมาถึงปากั๋วโจวช่วงเวลานี้เฉาจือรับหน้าที่เป็นหน่วยสอดแนมล่วงหน้าให้กับเซียวหลินเทียน และยังมิทันที่จะเข้าเขตปากั๋วโจว เขาก็ได้เริ่มเล่าประวัติความเป็นมาของเมืองแห่งนี้ให้หลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนฟังปากั๋วโจวถือเป็นเมืองใหญ่แห่งหนึ่งในแดนเทพ มีประชากรเกือบสามแสนคนด้วยทำเลที่ตั้งอันเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่เชื่อมต่อไปได้ทุกทิศทาง จึงนับเป็นเมืองใหญ่ที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจอย่างยิ่งเฉาจือกล่าวอย่างฉะฉานว่า “ฝ่าบาท เจ้าเมืองคนก่อนของปากั๋วโจวคือหยางเฉิง เขามิได้เริ่มต้นจากการเป็นขุนนางฝ่ายบุ๋น แต่เดิมเป็นขุนพลฝ่ายบู๊ ได้รับบาดเจ็บที่ขาในสนามรบจึงได้ผันตัวมาเป็นขุนนางฝ่ายบุ๋นพ่ะย่ะค่ะ!”“หยางเฉิงผู้นี้ ทั้งบุ๋นและบู๊ล้วนเป็นเลิศ มีความเที่ยงธรรมซื่อตรง แต่ก็มีวิธีการที่เด็ดขาดเหี้ยมโหดเช่นกัน”“เจ็ดปีก่อนตอนที่เขามารับตำแหน่ง ปากั๋วโจวยังเป็นเพียงเมืองที่ยากจน แต่ด้วยอำนาจเหล็กและการผลักดันนโยบายใหม่ ๆ ของเขา ก็ทำให้ปากั๋วโจวเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นเมืองที

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2704

    เมื่อสือเหล่ยเห็นท่าทางกังวลของเผยอวี้ ก็หัวเราะพลางกล่าวว่า “แม่ทัพเผย ท่านมิต้องเป็นห่วง แม่ทัพหลิงมิเป็นอะไร!”“มิเพียงแต่มิเป็นอะไร เขายังได้พบกับวาสนาอันน่าอัศจรรย์ สามารถสยบสัตว์อสูรได้ตัวหนึ่งด้วย!”“ข้าจะบอกให้นะ สัตว์อสูรตัวนี้เป็นลิงตัวหนึ่ง มีพละกำลังมหาศาล...”สือเหล่ยเล่าเจื้อยแจ้วถึงเรื่องราวที่พวกเขาไปพบเจอสัตว์อสูรสองตัวกำลังต่อสู้กัน และท้ายที่สุดหลิงเฟิงก็เป็นฝ่ายเก็บผลประโยชน์ไปอย่างไรให้เผยอวี้ฟังจนหมดสิ้นฉินซานที่ตามมาถึงกับยืนตะลึงเมื่อได้ฟัง ครู่ต่อมาจึงกล่าวขึ้นอย่างอิจฉาว่า “หลิงเฟิงนี่ช่างโชคดีเสียจริง!”“หากรู้แต่แรกว่าเป็นเช่นนี้ ข้าไปตามหาซานเชวี่ยเสียก็ดี บางทีสัตว์วิเศษตัวนั้นอาจจะกลายเป็นของข้า!”ขณะที่ทุกคนกำลังสนทนากันอยู่ ก็พลันเห็นหลิงเฟิงและลิงตัวหนึ่งเดินเรียงแถวกลับมาหลิงเฟิงหัวเราะเหอะ ๆ แล้วเอ่ยขึ้น “เผยอวี้ ฉินซาน ดูเจ้ากร่างของข้าสิ สง่างามองอาจหรือไม่?”“เอ้อ จริงสิ วันนี้ทุกคนจะได้กินของดีกันแล้ว เจ้ากร่างได้นำของกำนัลแรกพบมาให้พวกเจ้ามากมายเลยทีเดียว!”พลางพูด หลิงเฟิงก็เททุกอย่างออกมาจากแหวนพระสุเมรุของเขาจนหมดสิ้น มีทั้งเนื้อเส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2703

    เถาจื่อยังคงเป็นกังวลกับอาการบาดเจ็บของอู่หราน เมื่อได้ยินดังนั้นจึงกล่าวขึ้นว่า “ถ้าเช่นนั้นพี่ใหญ่หลิง ท่านค่อย ๆ ตามมาแล้วกัน พวกเราขอไปก่อนนะเจ้าคะ!สือเหล่ยแบกอู่หรานขึ้นหลังเรียบร้อยแล้ว ทุกคนคิดว่าเมื่อมีเจ้ากร่างคอยช่วยเหลือหลิงเฟิง เขาย่อมมิน่าจะเกิดเหตุมิคาดฝันอันใดขึ้นได้ จึงรีบเดินทางกลับซานเชวี่ยเดินนำทางอยู่ข้างหน้า สือเหล่ยพลางเดินพลางเอ่ยถามด้วยความสงสัย“ซานเชวี่ย เจ้าหลงทางได้อย่างไร?”“ระหว่างทางเจ้ามิได้ทำเครื่องหมายไว้ตลอดหรือ?”ซานเชวี่ยแสดงสีหน้ากระอักกระอ่วน เอ่ยตอบอย่างเก้อเขินว่า “ตอนแรกก็เป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ แต่ภายหลังเกิดเหตุมิคาดฝันขึ้น ข้าจึงมิทันได้ทิ้งสัญลักษณ์ไว้!”“ข้าจะบอกพวกท่านให้ ในภูเขานี้ยังมีคนป่าผู้หนึ่ง เขาปกคลุมไปด้วยขนสีขาวทั่วทั้งร่าง เคลื่อนไหวรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ!”“วันนั้นข้าเห็นเขาในป่า ก็รู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก!”“มิใช่ว่าฮองเฮาทรงรับสั่งให้แม่ทัพเผยคอยจับตาดูว่าหลงหมิงยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ พอข้าเห็นคนผู้นั้นเข้า ก็เลยคิดว่าอาจจะเป็นหลงหมิง จึงได้แอบติดตามเขาไป!”“เขาวิ่งเร็วมาก ข้ามัวแต่รีบไล่ตามเขา เลยมิทันได้ทิ้งสัญลักษณ์ไ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2702

    สือเหล่ยเห็นดังนั้นก็เอ่ยยิ้มขึ้นมา “ท่านแม่ทัพหลิง แม้มันจะเป็นสัตว์อสูร แต่ก็ยังเป็นเพียงสัตว์ป่าที่ยังมิถูกขัดเกลา”“ข้าคาดว่ามันคงฟังที่ท่านพูดมิเข้าใจ ต่อไปภายหน้าท่านค่อย ๆ สอนมันไปเรื่อย ๆ มิช้ามันย่อมสื่อใจกับท่านได้!” หลิงเฟิงครุ่นคิดแล้วก็เห็นว่ามีเหตุผล ในเมื่อพูดกับเจ้ากร่างมิรู้เรื่อง ก็คงต้องพามันออกเดินทางไปด้วยกัน!ทั้งสองคำนึงถึงบาดแผลบนตัวของเจ้ากร่าง จึงมิได้เร่งฝีเท้า เพียงค่อย ๆ เดินไปอย่างช้า ๆเดินมาได้ครึ่งค่อนวัน ครั้นเมื่อถึงจุดนัดหมาย ก็ยังมิเห็นวี่แววของอู่หรานและเถาจื่อทั้งสองจึงตัดสินใจเดินตามเส้นทางที่ซานเชวี่ยทิ้งร่องรอยไว้ครั้งนี้เมื่อเดินมาจนเกือบค่อนบ่าย ก็ได้ยินเสียงวิ่งมาจากที่ไกล ๆ ตามมาด้วยเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราดของสัตว์ป่า“หรือว่าอู่หรานกับเถาจื่อจะเจอเรื่องอันตรายเข้าแล้ว?”หลิงเฟิงชักกระบี่ออกมา แล้วรีบรุดไปข้างหน้าพร้อมกับสือเหล่ยเพื่อไปสมทบกับเถาจื่อและอู่หรานวิ่งไปได้มิถึงร้อยเมตร ก็เห็นเถาจื่อและซานเชวี่ยกำลังประคองอู่หรานที่อาบไปด้วยเลือดวิ่งตรงมาเมื่อเห็นหลิงเฟิง เถาจื่อก็ตะโกนลั่น “พี่ใหญ่หลิง รีบมาช่วยเร็วเข้า!”“พี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2701

    หลิงเฟิงในยามนี้ราวกับเด็กน้อยจอมซน แม้จะเห็นว่าเจ้าตัวประหลาดตาเขียวมิพอใจ แต่เขาก็ยังเอ่ยหยอกเย้าว่า “ก็ให้ชื่อนี้แหละ!”“เจ้าจะคงมิได้จะให้ข้าเรียกเจ้าว่าเจ้าถั่ว เจ้าจิ๋ว หรือว่าเจ้าลิงหรอกใช่หรือไม่?”เจ้าตัวประหลาดตาเขียวกลอกตาอย่างจนใจ ชื่อพวกนี้ยังสู้ชื่อปี้อวี้มิได้เลยด้วยซ้ำ!“หรือจะให้ข้าเรียกเจ้าว่าเจ้ากร่าง?”หลังจากหยอกเย้าเจ้าตัวประหลาดตาเขียวจนพอใจแล้ว หลิงเฟิงก็เริ่มตั้งชื่ออย่างจริงจังเสียที“เจ้ากร่าง ก็มิเลวนะ ต่อให้เจ้ามิชอบ ข้าก็มิเปลี่ยนแล้ว!”หลิงเฟิงแสร้งทำเป็นข่มขู่เจ้าตัวประหลาดตาเขียวเอียงคอ ดูเหมือนจะมิเข้าใจว่าเจ้ากร่างหมายความว่าอะไรหลิงเฟิงจึงทำท่าทางวางมาดใหญ่โตในท่วงทีแบบประหนึ่งตนเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในปฐพี พร้อมกับอธิบายอย่างใจเย็น“เจ้ากร่าง ก็คือความหมายที่ว่าเก่งกาจมาก ๆ เจ้าสามารถเอาชนะเสือดำตัวนั้นได้ ก็นับเป็นเจ้าป่าได้แล้ว!”“ข้าจะตั้งชื่อให้เจ้าว่าหวังป้า[footnoteRef:0]ก็ได้ แต่หวังป้ากับหวังปา[footnoteRef:1]ฟังดูคล้ายกันนัก ฝ่ายหนึ่งเป็นคำด่าคน แต่อีกนัยหนึ่งก็แฝงไว้ซึ่งความยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม!” [0: หวังป้า 王霸 หมายถึง เจ้าป่า]

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status