“เดินหน้า!”เซียวหลินเทียนโบกธงส่งสัญญาณให้ผู้ถือหางเสือเรืออย่างเด็ดขาดลูกเรือทั้งหมดร่วมแรงร่วมใจกันพายเรืออย่างเต็มกำลังเพื่อให้เรือมุ่งไปข้างหน้าอย่างห้าวหาญ“ถึงท่านอ๋องอี้จะอยากชนะแต่จะบุกไปเช่นนี้มิได้นะ! นี่เพิ่งจะแล่นออกมาได้มิไกลเท่าไร หากเรือเสียหายขึ้นมาคาดว่าจะต้องรั่วแล้วจมลงกลางทางเป็นแน่!”ขุนนางผู้หนึ่งเห็นเช่นนั้นก็อดมิได้ที่จะส่ายหน้าหลี่ว์เซียงมองเขาอย่างเย็นชา ท่านอ๋องอี้มิใช่คนโง่ เขาจะมิเข้าใจเหตุผลข้อนี้ได้เยี่ยงไรกัน?ที่เขาทำเช่นนี้จะต้องมีเจตนาเป็นแน่จักรพรรดิอู่อันกำลังดูอยู่อย่างเป็นกังวล เมื่อถูกขุนนางผู้นี้เอ่ยทะลุกลางปล้องขึ้นมาเช่นนี้จึงตะคอกออกไปอย่างมิพอใจ “ดูการแข่งขันไปเงียบ ๆ มิต้องพูดมาก! อ๋องอี้มิใช่คนโง่เสียหน่อย หากเจ้ารู้จักเขาก็จะเข้าใจ!”“กระหม่อมผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ขุนนางผู้นั้นถูกจักรพรรดิอู่อันตำหนิไปเช่นนี้ก็หน้าแดงหูแดงขึ้นมาทันที จากนั้นก็โค้งตัวรับผิดแล้วถอยไปข้างหลังจ้าวฮุยยิ้มออกมาจาง ๆ มองไปข้างหน้าก็เห็นเซียวหลินเทียนที่บีบให้เรือรบขององค์ชายอิงหันหางเสือเรือหลบการชนของเซียวหลินเทียนด้วยท่าทางห้าวหาญจ้าวฮุยเห็นแล้
เรือรบทั้งสี่ลำแล่นออกห่างจากฝั่งไปเรื่อย ๆ คนที่อยู่บนภูเขาก็มองเห็นได้ดีขึ้นด้วย แต่ก็เห็นแค่เรือเท่านั้น มิสามารถเห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ชัดเจนจักรพรรดิอู่อันเป็นกังวลมาก และในขณะที่กำลังร้อนใจอยู่ก็ได้เสียงของท่านอดีตเสนาบดีดังมาจากด้านหลัง “ฝ่าบาท กระหม่อมมีของกำนัลมาถวายฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ เป็นสิ่งที่อาอวี๋ขอให้กระหม่อมนำมามอบให้พ่ะย่ะค่ะ!”“ฝ่าบาททรงดูเถิดพ่ะย่ะค่ะ นี่คือของล้ำค่าคล้ายกับแว่นตากระจ่างที่อาอวี๋ถวายให้ไทเฮาพ่ะย่ะค่ะ สิ่งนี้จะทำให้ฝ่าบาททรงเห็นเรือเหล่านั้นได้ชัดเจนขึ้น!”“น่าอัศจรรย์ถึงเพียงนั้นเชียวหรือ? รีบส่งมาให้ข้าเร็วเข้า!”จักรพรรดิอู่อันได้ยินท่านอดีตเสนาบดีมารบกวนตน เดิมทีก็อยากจะด่าไป ครั้นได้ยินว่าของกำนัลนี้จะทำให้ตนเห็นเรือเหล่านั้นชัดขึ้น ความโกรธของเขาก็พลันสลายหายไป“นี่พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท...”ท่านอดีตเสนาบดียื่นท่อไม้ที่มีความยาวเท่าแขนดูแปลกประหลาดให้พร้อมกับรอยยิ้มขันทีกำลังจะไปรับก็ได้ยินองค์ชายเว่ยเอ่ยขึ้นมาอย่างมิเกรงใจเสียก่อน “ท่านอดีตเสนาบดี ขาบาดเจ็บก็พักผ่อนอยู่เรือนดี ๆ ไปเถิด มามอบของกำนัลให้เสด็จพ่อถึงที่นี่เวลานี้ หรือกลัวว่าหลิงอวี
“เหล่าหลิง กลเม็ดของเซียวหลินเทียนยอดเยี่ยมมาก! เขาทำลูกเรือขององค์ชายหนิงตกน้ำไปสองคนแล้ว!”จักรพรรดิอู่อันดูอย่างตื่นเต้นแล้วพูดคุยถึงภาพที่เห็นกับท่านอดีตเสนาบดีเวลานี้ มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่มีกล้องส่องทางไกล จึงมีเพียงพวกเขาสองคนที่พูดคุยกันได้“ใช่ วรยุทธของเซียวหลินเทียนไร้ที่ติอยู่แล้ว แค่ประสบการณ์การต่อสู้ยังมิเพียงพอ!”ขณะที่ท่านอดีตเสนาบดีกำลังพูดอยู่นั้น จู่ ๆ ก็เห็นอะไรบางอย่างจึงตะโกนขึ้นมา “เหตุใดเซียวหลินเทียนมิฉลาดถึงเพียงนั้น หากจะกวาดล้างให้หมด กลเม็ดนี้ควรจะเข้าทางข้างหลังสิ เช่นนั้นจึงจะจัดการได้อีกสองคน!”“เจ้าต่างหากที่โง่เขลา เจ้ามิเห็นหรือว่าข้างหน้ามีทหารนายหนึ่งเกี่ยวที่กราบเรืออยู่? หากถูกจับไปที่กราบเรือ ลูกเรือขององค์ชายสี่ก็จะถูกจัดการ! แล้วก็จะถูกพวกเขาโจมตีเอาได้!”จักรพรรดิอู่อันตะโกนขึ้นมาอย่างตื่นเต้น “องค์ชายสี่กลับมาป้องกันเป็นทางเลือกที่ถูกต้องแล้ว… เอ๊ะ สู้สิ… จัดการพวกเขาให้ตกน้ำกันไปให้หมดเลย!”ขุนนางโดยรอบมองหน้ากันไปมา แต่ตอนนี้ไม่มีใครกล้าสงสัยแล้วว่าจักรพรรดิอู่อันกับท่านอดีตเสนาบดีเล่นละครกันอยู่ท่านอ๋องเฉิงได้ยินเช่นนั้นก
บนเรือรบของเซียวหลินเทียนในเวลานี้ข้างนอกกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด ส่วนในท้องเรือ จู้เต๋อเห็นว่าไม่มีใครสังเกตตนอยู่จึงเดินลงไปด้านล่างของเรืออย่างเงียบ ๆเขาเหลียวซ้ายแลขวาเห็นว่าไม่มีใครสังเกตเห็นตน ก็ไปเอาสิ่วเหล็กและค้อนออกมาจากมุมหนึ่งแล้วเล็งไปที่กระดานด้านล่างก่อนจะตอกลงไปขอเพียงตอกให้แผ่นกระดานด้านล่างแตกสองสามแผ่น น้ำก็จะรั่วเข้ามาเป็นจำนวนมาก แล้วอีกไม่นานเรือรบของเซียวหลินเทียนก็จะมีน้ำรั่วเข้ามาถ่วงความเร็วเอาไว้ และภายในเวลามิถึงหนึ่งก้านธูป เรือรบของเซียวหลินเทียนก็จะจมลงแต่ในขณะที่จู้เต๋อยกค้อนเหล็กขึ้นมา จู่ ๆ ก็มีหินก้อนหนึ่งลอยมาในความมืดแล้วกระแทกเข้าที่สะบักของเขาจู้เต๋อเจ็บจึงทำให้ค้อนเหล็กที่ถือไว้มิมั่นคงหล่นลงไปที่เท้าของเขา“ซี้ด...”จู้เต๋อเจ็บจนน้ำตาไหลออกมา เขารีบหันกลับไปมองแล้วก็เห็นชายแปลกหน้าอายุประมาณสามสิบเดินออกมาจากที่มืด พลางมองมาที่เขาอย่างเย็นชาชายผู้นั้นรูปร่างผอมเพรียว ผิวพรรณขาวผ่องจนแทบจะใส และดวงตาคู่นั้นก็โบ๋ลึกถูกจับได้แล้ว!จู้เต๋อตกใจเล็กน้อย เขามองไปรอบ ๆ โดยมิรู้ตัวและเห็นว่านอกจากชายผู้นี้แล้วก็ไม่มีคนอื่นอีกดวงตาข
เมื่อเห็นใบหน้าท้อแท้ของเผยอวี้ หลิงอวี๋ก็ยิ้มออกมาพลางเอ่ย “เจ้ามิต้องท้อใจไปหรอก เจ้ามิได้มองคนผิด ซุนเจ๋อผู้นี้แท้จริงแล้วเป็นคนที่พึ่งพาได้!”ทันทีที่เผยอวี้หลิงอวี๋บอกว่าเขาพึ่งพาได้ทั้งที่จับได้คาหนังคาเขาเช่นนั้นก็ร้อนใจขึ้นมาทันที “พี่หลิงหลิง ท่านอย่ามาเยาะเย้ยข้าเลย หากเขาพึ่งพาได้แล้วจะทำร้ายพวกเราเช่นนี้หรือ?”หลิงอวี๋จึงเอ่ยปลอบใจ “ข้าหมายถึงซุนเจ๋อที่เป็นเนื้อแท้ของเขา มิใช่คนที่อยู่ตรงหน้านี้!”“นี่ก็คือซุนเจ๋อชัด ๆ นี่ ข้าจะจำคนผิดได้หรือ?”เผยอวี้คิดว่าหลิงอวี๋เมาเรือจนเบลอสับสนไปหมดแล้วหรือไม่หลิงอวี๋มิพูดจาไร้สาระใด ๆ กับเขาแล้วเดินตรงไปที่ซุนเจ๋อที่ถูกเผยอวี้โยนลงไปที่พื้นนางคุกเข่าลงแล้วสำรวจใบหน้าของซุนเจ๋อ จากนั้นก็จับที่ผมตรงข้างหูของซุนเจ๋อและใช้เล็บสะกิดเบา ๆจากนั้นผิวหนังก็ถูกเล็บของหลิงอวี๋สะกิดออกมาเบา ๆแล้วหลิงอวี๋ก็ดึงออกอย่างระมัดระวัง และถอดหน้ากากใบหน้ามนุษย์ที่บางราวกับปีกจักจั่นออกมาจากใบหน้าของซุนเจ๋อใบหน้าของซุนเจ๋อเผยออกมาทั้งหมดแล้วเป็นใบหน้าที่เผยอวี้มิเคยเห็นมาก่อนเผยอวี้ตกใจจนตาค้าง แล้วทีนี้ถึงได้เข้าใจว่าเหตุใดหลิงอวี๋ถึงบอ
แต่จักรพรรดิอู่อันมิพูด ท่านอดีตเสนาบดีกลับทนมิไหว เขารู้เรื่องที่พ่ายแพ้การแข่งขันปีนป่าย และเขาเชื่อว่ารอกที่หลิงอวี๋ออกแบบไม่มีทางมีปัญหาแน่ท่านอดีตเสนาบดีนำทัพมาตลอดชีวิต จะมีแผนสกปรกใดบ้างที่เขามิเคยเจอเรื่องนี้ต้องเป็นคนกันเองแน่นอนที่ทำเรื่องสกปรก!แม้ว่าเขาจะมิสามารถช่วยหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนจับตัวคนทำได้ในขณะนี้ แต่เขาก็สามารถแอบบอกจักรพรรดิอู่อันเป็นนัย ๆ ได้อยู่!ท่านอดีตเสนาบดีอาศัยช่วงเวลาที่มีแค่เพียงตน จักรพรรดิอู่อันและท่านอ๋องเฉิงที่มองเห็นสถานการณ์ต่อสู้นี้ เขากลอกตาแล้วจู่ ๆ ก็ตะโกนขึ้นมา “เอ๊ะ เหตุใดเรือจึงได้ช้าลง น้ำเข้าหรือไม่?”เขามิได้ระบุชื่อตรง ๆ ออกไป จักรพรรดิอู่อันจึงคิดว่าท่านอดีตเสนาบดีพูดถึงเรือขององค์ชายหนิง จึงเอ่ยคล้อยตามไป “เจ้ามิเห็นหรือว่าตัวเรือแตก น้ำก็เข้าสิ!”องค์ชายเว่ยไม่มีกล้องส่องทางไกลจึงมองมิเห็นการต่อสู้ เขาคิดว่าจู้เต๋อทำลายสำเร็จแล้วจึงเอ่ยขึ้นมาทันที“เสด็จพ่อ ลูกก็บอกแล้วว่าองค์ชายสี่ทำมิได้ เขาล้มเหลวและแพ้ติดกันสองครั้งแล้ว ครั้งนี้ก็ยังทำผิดพลาดเช่นนี้อีก ทำให้เสด็จพ่อต้องพ่ายแพ้และเสียเมืองทั้งสองเมืองไป!”“ครั้งนี้
พวกของจักรพรรดิอู่อันยืนอยู่ด้านหน้า ส่วนบรรดาสตรีมิสามารถเข้าไปใกล้ได้จึงทำได้เพียงยืนอยู่ด้านหลังวันนี้อันซินก็มากับเหล่าคุณหนูหลายคนเพื่อให้กำลังใจกลุ่มของฉินตะวันตกเช่นกัน นางกับหลิงหว่านยืนอยู่ด้วยกันเมื่อได้ยินขุนนางเหล่านั้นต่างกำลังด่าหลิงอวี๋อยู่ อันซินก็สีหน้าเปลี่ยนไป นางเห็นหลิงหว่านหน้าซีดก็ยื่นมือไปจับมือของหลิงหว่านไว้ทั้งสองคนต่างรู้สึกหนักอึ้งหากกลุ่มของเซียวหลินเทียนพ่ายแพ้ เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋จะต้องถูกตัดหัวต่อหน้าธารกำนัลส่วนอันเจ๋อกับเผยอวี้ที่เป็นรองแม่ทัพของเซียวหลินเทียน แม้ว่าจะมิถูกตัดหัวแต่ตำแหน่งการงานของพวกเขาก็ต้องจบลงเช่นกันตอนนี้พวกนางมิได้กังวลเรื่องอันเจ๋อกับเผยอวี้ ได้แต่ครุ่นคิดว่าจะช่วยเหลือให้หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนรอดพ้นจากการถูกลงโทษอย่างไรดีจ้าวเจินเจินเองก็ได้ยินคำพูดเหล่านี้เช่นกัน และนางก็ควบคุมตนเองที่อยากจะหัวเราะออกมามิได้จริง ๆแต่นางก็มิกล้าหัวเราะยินดีบนความทุกข์ของผู้อื่นออกมาต่อหน้าทุกคนเช่นนั้นหรอก จึงทำได้เพียงเอาผ้ามาปิดไว้ครึ่งหน้าแล้วหัวเราะอย่างเงียบ ๆ‘หลิงอวี๋ จะสู้กับข้าเยี่ยงนั้นหรือ? ตอนนี้รู้ถึงความแ
ปี๊ด… ปี๊ด ๆ …คนเป่าแตรเป่าดังเป็นระดับ ๆเสียงแตรประกาศข่าวดีนั้นเป็นการส่งข่าวให้ขุนนางทุกคนได้เข้าใจนี่เป็นชัยชนะของฉินตะวันตกจริง ๆ!พวกคนที่เหยียดหยามเซียวหลินเทียนและยั่วยุให้องค์จักรพรรดิประหารเขากับหลิงอวี๋เมื่อครู่ต่างก็หน้าซีดกันไปหมดพวกเขากลัวจะไปดึงความสนใจองค์จักรพรรดิจึงทยอยหลังหลังกันไปหลิงหว่านกับอันซินได้ยินข่าวนี้ก็ชะงักกันไป จากนั้นทั้งสองคนก็กอดกันน้ำตาคลอสุดยอด! ฉินตะวันตกชนะแล้ว!พวกของหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนชนะแล้ว!จ้าวเจินเจินหน้าซีดไปทันที!เป็นไปได้เยี่ยงไร?เห็น ๆ อยู่ว่าหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนหาหนอนบ่อนไส้ขององค์ชายเว่ยมิพบ อีกทั้งนางก็จัดคนที่ไม่มีผู้ใดคาดคิดไปสร้างความเสียหายเพื่อเป็นการป้องกันอีกขั้นหนึ่งด้วย!แผนสร้างความเสียหายถึงสองชั้น ว่ากันตามเหตุผลแล้วไม่มีทางที่จะล้มเหลวได้เลย!ไหนเลยจะคิดว่าหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนจะยังชนะได้!พระชายาเว่ยจิตใจว่างเปล่า สมองก็ว่างเปล่าเช่นกันหลิงอวี๋… นางสารเลวผู้นี้ นางเป็นคนโปรดของเทพพระเจ้าหรือไร?เหตุใดนางจึงรอดพ้นจากสถานการณ์ที่ต้องตายไปอย่างโชคดีครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นนี้?ที่แห่ง
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี