“ท่านพี่ อย่าได้กังวล! เราจะต้องตามหาเยวี่ยเยวี่ยเจอแน่!”เกิ่งเสี่ยวหาวเห็นสีหน้าหลิงอวี๋ดูเศร้าหมอง จึงรีบปลอบใจ“วันนี้ก็ใช่ว่าเราไม่ได้อะไรเลย! การช่วยเด็กที่ถูกลักพาตัวไปหลายคน นี่ก็เป็นบุญอย่างหนึ่งแล้ว!”“เยวี่ยเยวี่ยเป็นคนดีย่อมไม่มีภัยใดมาถึงตัว เราต้องตามหาเขาเจอแน่!”ฉินซานก็มองนางอย่างกังวลเช่นกัน“อาอวี๋ เจ้าก็ตามหามาทั้งวันแล้ว ข้าจะให้คนส่งเจ้ากลับไปพักผ่อนก่อนดีหรือไม่ ข้ากับเสี่ยวหาวจะจัดหาคนมาตามหาเพิ่ม…”“ไม่! ข้าจะหาเยวี่ยเยวี่ยให้เจอ! ข้าอยากหาเขาให้เจอด้วยตัวข้าเอง!”หลิงอวี๋ยกมือทั้งสองขึ้นเช็ดหน้า พบว่าน้ำตาเต็มใบหน้าของนางไปหมดไม่แปลกใจเลยที่เกิ่งเสี่ยวหาวกับฉินซานจะเป็นห่วงนางถึงเพียงนั้น...หลิงอวี๋ลูบหน้าแรง ๆ สองสามครั้ง ให้ตนเองฮึดสู้ขึ้นมานางจะท้อถอยไม่ได้!หากนางท้อถอย พวกเกิ่งเสี่ยวหาวก็จะได้รับผลกระทบทางอารมณ์จากนางเช่นกัน!“ข้าเชื่อว่าคนดีจะได้รับแต่สิ่งที่ดี! พวกเราช่วยเด็ก ๆ เหล่านี้แล้ว เมื่อพระเจ้าเห็นบุญนี้ จะต้องให้เยวี่ยเยวี่ยกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน!”หลิงอวี๋มองพวกคนที่ถูกมัดไว้ คิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยอย่างโหดร้าย“เจ้ากับฉิ
“เซียวหลินเทียน! เจ้าคืนลูกชายของข้ามานะ!”หลิงอวี๋เห็นความมืดมิดกลืนร่างผอมบางของหลิงเยวี่ยเข้าไป ก็ร้องออกมาด้วยใจที่แตกสลาย“ข้าเกลียดเจ้า… ชีวิตนี้อย่าคิดว่าข้าจะให้อภัยเจ้า…”นางยังพูดไม่ทันจบ ก็เห็นเงาดำ ๆ กระโดดลงหน้าผาไปแล้วตามมาด้วยเสียงคำรามอย่างร้อนใจของลู่หนานกับจ้าวซวน "ท่านอ๋อง... ไม่!"สมองของหลิงอวี๋ว่างเปล่า มองไปที่หน้าผามืดมิดด้วยความตะลึงงัน เซียวหลินเทียนกระโดดลงไปหรือ?จ้าวซวนไม่พูดพร่ำทำเพลง โบกดาบในมือแล้วพุ่งเข้าไปหาหลิงอวี๋หลิงอวี๋ตกใจมากจนลืมหลบ"หลบเร็วเข้า!"ตอนที่ฉินซานเห็นหลิงเยวี่ยถูกโยนลงไปก็รีบวิ่งเข้ามาทันที แต่ช้าไปเพียงก้าวเดียวเท่านั้น เซียวหลินเทียนกระโดดลงไปแล้วเขาเห็นจ้าวซวนโกรธมากจนอยากจะฆ่าหลิงอวี๋ ก็รีบพุ่งเข้าไปกอดหลิงอวี๋หลบทันทีลู่หนานก็คิดว่าจ้าวซวนจะฆ่าหลิงอวี๋เช่นกัน จึงรีบตะโกน "พี่จ้าว อย่าใจร้อนสิ..."ไหนเลยจะรู้ว่าจ้าวซวนผ่านหลิงอวี๋ไป แล้วตัดขาของเฉินฉางซิ่งที่คิดจะใช้โอกาสนี้หลบหนีด้วยการลงดาบเพียงครั้งเดียว“เอาคบไฟมา!”จ้าวซวนใบหน้าบูดบึ้ง แล้วตะคอกใส่หลู่ชิ่งที่ตัวแข็งเป็นหินอยู่ข้าง ๆ หลู่ชิงรีบหยิบคบไฟ ใช้
ตอนที่หลิงอวี๋เอื้อมมือออกไปจะอุ้มหลิงเยวี่ย เซียวหลินเทียนก็ฟื้นขึ้นมา แล้วกระชับแขนของเขาโดยไม่รู้ตัวหลิงเยวี่ยถูกรัดแน่นจนเจ็บและร้องออกมาเซียวหลินเทียนฟื้นขึ้นมาอย่างเต็มที่ ถึงได้เห็นแสงไฟและหลิงอวี๋“เซียวหลินเทียน เจ้าปล่อยก่อนเถิด ข้าจะให้พวกเขาดึงเยวี่ยเยวี่ยขึ้นไปก่อน!”หลิงอวี๋เห็นดวงตาที่สับสนของเซียวหลินเทียนจึงพูดเซียวหลินเทียนถึงได้ปล่อยมือ จากนั้นหลิงอวี๋ก็ผูกเชือกรอบตัวหลิงเยวี่ย พลางเอ่ยปลอบโยนเขา“เยวี่ยเยวี่ย ไม่ต้องกลัวนะ ลู่หนานกับลุงจ้าวซวนจะดึงเจ้าขึ้นไปอย่างปลอดภัย!”หลิงเยวี่ยพยักหน้าอย่างรู้ความหลิงอวี๋กระตุกเชือก ลู่หนานได้รับสัญญาณก็ดึงหลิงเยวี่ยขึ้นไปอย่างช้า ๆเมื่อครู่หลิงอวี๋เพิ่งสังเกตเห็นว่าสิ่งที่รองรับเซียวหลินเทียนกับหลิงเยวี่ยไว้นั้นเป็นต้นไม้ใหญ่รูปร่างคดเคี้ยวและลำต้นหนามาก เซียวหลินเทียนจึงไม่ตกอยู่ในอันตรายแต่นางไม่กล้าเข้าไป กลัวว่าลำต้นของต้นไม้จะไม่สามารถรับน้ำหนักของผู้ใหญ่ที่เพิ่มขึ้นอีกคนได้ นางยืนอยู่บนหินที่ยื่นออกมาติดกับกำแพงหิน“เซียวหลินเทียน บาดแผลของเจ้าข้าไม่สามารถช่วยรักษาให้ได้ในตอนนี้! แต่เจ้าไม่ต้องกังวล รอ
หลิงอวี๋ถูกดึงขึ้นมาอย่างราบรื่น นางไม่สนใจที่จะพัก แล้วเอ่ยเรียก "เซียวหลินเทียน ข้าจะรักษาบาดแผลให้เจ้า!"นางให้ลู่หนานถือคบไฟ จากนั้นหยิบยารักษาบาดแผล ยาฆ่าเชื้อ และผ้าก๊อซออกมาจากในมิติ แล้ววิ่งไปคุกเข่าตรงหน้าเซียวหลินเทียนนางใช้มีดผ่าตัดกรีดขากางเกงของเซียวหลินเทียน เห็นบาดแผลยาวเท่าฝ่ามือ มีเลือดและเนื้อเหวอะออกมานางก้มหัวใช้น้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดแผล แผลยาวขนาดนี้ จำเป็นต้องเย็บแผลหลิงอวี๋หยิบเข็มออกมาแล้วเย็บแผลโดยไม่มีการคิดอะไรเลยนางคิดแค่อยากจะรีบจัดการกับบาดแผล แล้วไปดูแลหลิงเยวี่ย เยวี่ยเยวี่ยตกลงไปสูงถึงเพียงนั้น จะต้องตกใจมากเป็นแน่หลิงอวี๋รีบเย็บอย่างรวดเร็ว ทายารักษาบาดแผล แล้วพันผ้าพันแผลให้เซียวหลินเทียนจากนั้นนางก็สั่งให้ลู่หนานกับจ้าวซวนอุ้มเซียวหลินเทียนกลับไปที่รถม้าแล้วหลิงอวี๋ถึงไปอุ้มหลิวเยวี่ย หลู่ชิ่งเอ่ยขึ้นยิ้ม ๆ "พระชายาทำงานหนักมานานมากแล้ว จะต้องเหนื่อยมากแน่! ให้ข้าแบกเยวี่ยเยวี่ยขึ้นไปเถิดขอรับ!"หลิงอวี๋เห็นเฮยจื่อมองตาปริบ ๆ จึงเอ่ย "เจ้าแบกเฮยจื่อไปเถิด! เยวี่ยเยวี่ยนี้ข้าดูแลก็พอแล้ว!!"หลู่ชิ่งเหลือบมองเฮยจื่อ ทำได้เพียงอดกลั้น
หลิงเยวี่ยเป็นเด็กเขารู้จักพอเพียงได้ง่าย ๆ ในสายตาของเขาแล้วการได้อยู่ในอ้อมแขนของหลิงอวี๋เป็นสิ่งที่มีความสุขที่สุดประกอบกับตลอดทั้งวันนี้ล้วนมีแต่ความวิตกกังวล พอรถม้าโยกไปมา ไม่นานเขาก็หลับไปแต่เฮยจื่อกลับไม่กล้านอน เขาคุกเข่าแทบเท้าของเซียวหลินเทียน อยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ไม่กล้าพูดหลิงอวี๋เห็นเซียวหลินเทียนหลับตา นางก็หันหน้าหนีไปเช่นกันแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะกระโดดลงไปช่วยหลิงเยวี่ยได้ทันเวลา แต่พอนึกถึงว่าตอนอยู่ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน ตอนที่เฉินฉางซิ่งให้เซียวหลินเทียนเลือก คนที่เซียวหลินเทียนเลือกก็คือเฮยจื่อหลิงอวี๋ไม่สามารถทนรับสิ่งนี้ได้ ถ้าเซียวหลินเทียนเลือกหลิงเยวี่ย เยวี่ยเยวี่ยก็ไม่มีทางถูกเฉินฉางซิ่งผลักลงหน้าผาไปดังนั้น นางไม่สนใจทั้งนั้นว่า "พ่อบุญธรรมกับลูกบุญธรรม" อย่างพวกเขาจะปฏิบัติต่อกันเยี่ยงไรหลิงอวี๋กอดเยวี่ยเยวี่ยแน่น คิดแค่กลับตำหนักไปจะพาหลิงเยวี่ยกับพวกแม่นมลี่ออกไปจากตำหนักอ๋องอี้เซียวหลินเทียนต้องการหย่าร้างกับนางอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?ได้ นางจะพาเยวี่ยเยวี่ยไป ให้เซียวหลินเทียนเสียใจไปตลอดชีวิตหลังจากที่ได้รู้ความจริง!แต่เมื่อเห็นหลิงเ
ครั้นกลุ่มคนเดินทางกลับถึงเมืองหลวงฟ้าก็สว่างแล้วหลิงอวี๋หลับกลางทาง นางตื่นตอนรถม้าควบมาถึงตำหนักอ๋องอี้ พลันรุดลงรถม้าพร้อมอุ้มหลิงเยวี่ยที่หลับสนิทเพราะเกินทนรอนางมิต้องการอยู่ร่วมกับเซียวหลินเทียนดั่งความสัมพันธ์ฉัน “พ่อลูก” อีกต่อไป“เซียวหลินเทียน เจ้าถามเฮยจื่อเมื่อไรแจ้งข้าด้วย! ข้ามีสิทธิ์รู้ว่าใครลักพาตัวลูกข้าไป!”หลิงอวี๋มองเซียวหลินเทียนเย็นชาพลางยิ้มหยันกล่าวคำ “เจ้าอย่าคิดปกป้องคนผิด! ถ้าข้าไม่พอใจคำตอบ งั้นข้าก็ไม่กลัวรบกวนถึงองค์จักรพรรดิ!”เอ่ยจบ หลิงอวี๋พลางอุ้มหลิงเยวี่ยเดินกะเผลกจากไปจ้าวซวนใช้สายตาส่งสัญญาณให้ลู่หนานลู่หนานเข้าใจพลางไล่ตามไปขวางหลิงอวี๋กล่าวคำ “พระชายา ข้าจะส่งพวกท่านกลับขอรับ!”หลิงอวี๋ทั้งหิวและเท้าเจ็บเลยไม่มากพิธีกับลู่หนาน พลางตามลู่หนานกลับเรือนบุหงาแม่นมลี่กับหลิงซินเป็นห่วงจนนอนไม่หลับทั้งคืนหลิงซินยิ่งทวีความตระหนกหวาดผวา นางเป็นคนดูแลแต่หลิงเยวี่ยหายตัวไป หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับหลิงเยวี่ย นางขอไถ่โทษด้วยชีวิตนางยืนรออยู่นอกเรือนบุหงาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ครั้นเห็นลู่หนานอุ้มหลิงเยวี่ยกลับมาจากไกล ๆ หยาดน้ำตาหลิงซินพลันไ
หลิงอวี๋และกลุ่มคนมาถึงเรือนริมวารี ลานเรือนเซียวหลินเทียนเปี่ยมด้วยคนแล้วหลิงอวี๋กวาดตามองพบชิวเหวินซวง พ่อบ้านฟั่นและคนรับใช้ยืนอยู่ใต้ขั้นบันได เฮยจื่อยืนข้างหน้าคนรับใช้นางไม่อยากยอมรับการมองลงมาของเซียวหลินเทียนเหมือนคนรับใช้พวกนั้น เลยดึงหลิงเยวี่ยขึ้นบันไดยืนอีกด้านของเซียวหลินเทียน“ดี คนมาครบแล้ว! ตัวข้าจะเริ่มการไต่ถามประเดี๋ยวนี้!”เซียวหลินเทียนมองเฮยจื่อสีหน้าไร้คลื่นอารมณ์พลางกล่าวเสียงทุ้ม“เฮยจื่อ เจ้าก่อน ลองเล่าให้ทุกคนสิว่า เจ้าหนีออกตำหนักอ๋องอี้ได้เช่นไร ทั้งยังไปตกอยู่ในน้ำมือผู้ลักพาได้อย่างไร!”เฮยจื่อลอบมองเซียวหลินเทียนอย่างขลาดกลัวพลางคุกเข่าลงเสียงดังตุ้บ“ท่านพ่อทูนหัว กระหม่อมรู้ความผิดแล้วว่าไม่ควรคิดไปจากตำหนักอ๋องอี้เพราะความโกรธชั่ววูบ ต่อไปกระหม่อมมิกล้าอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนเอ่ยถามเสียงเด็ดขาด “ไยต้องโกรธ? เจ้าเห็นพระชายากับหลิงเยวี่ยที่เรือนวันนั้นหรือ?”เฮยจื่อตัวสั่นเทิ้ม แอบมองหลิงอวี๋บนบันไดพลางกล่าวใจไม้ไส้ระกํา“กราบทูลท่านพ่อทูนหัว วันนั้นพระชายาและหลิงเยวี่ยเคยมาเรือนจริง! เป็นกระหม่อมที่ให้เฉี่ยวเหลียนไปเชิญพ่ะย่ะค่ะ!
เฉี่ยวเหลียนสมรู้ร่วมคิดกับเฮยจื่อแล้วยืนยันว่าตนด่าเฮยจื่อและมีหลายคนพบเห็นตนเคยไปเรือนของเฮยจื่อจริง ๆตราบใดที่ทั้งสองยืนกรานกล่าวว่าตนข่มเหงเฮยจื่อ นั่นแม้ว่าตนจะไม่ได้ลักพาตัวเขา ชื่อเสียงโหดเหี้ยมนี้นางก็ต้องแบกรับงั้นหรือ?ความคิดของหลิงอวี๋ปั่นป่วนเร็วจี๋ นางควรพิสูจน์ว่าตนมิได้ด่าเฮยจื่อเช่นไรดี?กลอุบายคราก่อนที่ทำให้หลิงหลานกับแม่ครัวพิสูจน์ว่าตัวเองกล่าวเท็จเคยใช้แล้วครั้งหนึ่ง ไม่อาจใช้ได้ผลอีกนางมองเฮยจื่อกับเฉี่ยวเหลียน มุมปากเผยยกยิ้มเร็วพลัน“ท่านอ๋อง พวกเขามั่นใจว่าหม่อมฉันด่าคนเยี่ยงนี้! หากหม่อมฉันพูดว่าไม่เคยด่าเฮยจื่อและไม่มีพยานในเหตุการณ์ เดาว่าจะไม่มีคนเชื่อหม่อมฉันว่าพูดความจริงเพคะ!”“แต่หลิงอวี๋มีวิธีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตน โปรดขออนุญาตท่านอ๋อง หลิงอวี๋ขอถามเฮยจื่อสักสองสามคำถามเพคะ”เซียวหลินเทียนมองนางพลางผงกศีรษะ “ได้ เจ้าถามเถอะ!”หลิงอวี๋หยิบเมล็ดช็อกโกแลตหนึ่งเม็ดออกจากถุงเหรียญที่หลิงซินเย็บให้ตน พลางเดินลงบันไดเฮยจื่อไม่ทันโต้ตอบ หลิงอวี๋พลันบีบกรามล่างเขาพลางยัดเมล็ดช็อกโกแลตเข้าปากเขาเมล็ดช็อกโกแลตละลายในปากรวดเร็ว เฮยจื่อรู้สึกขมและห
“ข้ามีนามว่าหลานฮุ่ยจวน ข้าเป็นคนให้กำเนิดเจ้ามา เป็นแม่ของเจ้า!”ท่านอาสุ่ยเอ่ยต่อ “อาอวี๋ แม่รอเจ้ามาหลายปีแล้ว ขอเพียงเจ้าเปิดห้องขังนี้ แม่ก็จะอยู่กับเจ้าตลอดไปได้!”หลิงอวี๋เห็นแสงสีรุ้งเหล่านั้นจางลงไป จากนั้นนางก็มาอยู่ในห้องขังที่มืดมิดห้องหนึ่งสตรีที่สวมอาภรณ์เก่า ๆ ผู้หนึ่งกำลังถูกขังอยู่ในกรงเหล็ก บนใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ ดูราวกับว่าถูกทุบตีมาอย่างสาหัสเมื่อนางเห็นหลิงอวี๋ สตรีผู้นั้นก็พุ่งเข้ามาคว้าลูกกรงไว้แล้วเรียกนางด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวังใบหน้านั้นมีความอ่อนโยนและค่อนข้างคุ้นเคย หลิงอวี๋จึงเดินเข้าไปหาโดยมิรู้ตัว“ท่านคือท่านแม่ของข้าหรือ?”นางเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสับสน“ข้าคือแม่ของเจ้า… อาอวี๋ เจ้าคือลูกที่ข้าอุ้มท้องมาสิบเดือนและให้กำเนิดเจ้ามา เหตุใดเจ้าจึงจำข้ามิได้เล่า?”“อาอวี๋ แม่ก็มิอยากแยกจากเจ้าเช่นกัน แต่คนเลวพวกนั้นมาพรากเราออกจากกัน พวกเขาขังแม่ไว้ที่นี่ ทุบตีทำร้ายแม่ ทรมานแม่!”สตรีผู้นั้นสะอื้นพลางเอ่ยออกมา “แม่คิดถึงเจ้าตลอดเวลาที่อยู่ในคุก ที่เจ้ามาหาที่นี่มิใช่ว่าเพื่อจะมาช่วยเหลือแม่หรอกหรือ?”“เจ้ารีบไขประตูช่วยแม่ออ
“มิใช่ ข้ามีนามว่าสิงอวี๋ พวกเขาจำคนผิดแล้ว!”แม้ว่าหลิงอวี๋จะชอบเสียงของสตรีผู้นี้ แต่จะฟังแค่ประโยคเดียวของนางแล้วยอมรับตัวตนเลยก็คงมิได้ท่านอาสุ่ยยิ้มออกมาแล้วทำไม้ทำมือไปทางเจ้าแห่งทะเลเจ้าแห่งทะเลยกมือขึ้นมา จากนั้นองครักษ์ผู้หนึ่งก็ก้าวเข้ามาเปิดกลไกของกรงเหล็ก ประตูเหล็กจึงเลื่อนขึ้นไป และท่านอาสุ่ยก็เดินเข้าไปหลิงอวี๋รู้สึกหวั่นใจขึ้นมา นี่เจ้าแห่งทะเลต้องการจะทำกระไร?เขาพาท่านอาสุ่ยที่ดูประหลาดผู้นี้มาก็เพราะคิดจะเกลี้ยกล่อมตนหรือ?“สิงอวี๋ เจ้าแห่งทะเลตรัสว่าท่านเป็นบิดาของเจ้า และระหว่างเจ้ากับเจ้าแห่งทะเลก็มีเรื่องเข้าใจผิดกันบางอย่าง เจ้าแห่งทะเลทรงให้ข้ามาเกลี้ยกล่อมเจ้าว่าอย่าได้ดื้อดึงกับท่านเลย”ท่านอาสุ่ยเอ่ยออกมาอย่างอ่อนโยน “พ่อลูกกันมิโกรธกันข้ามวันข้ามคืน หากมีเรื่องอันใดเข้าใจผิดกัน พูดกันตรง ๆ ก็จบ!”“เจ้าบอกกับอามาว่า เหตุใดเจ้าจึงมิยอมรับบิดาของเจ้า?”หลิงอวี๋เหลือบมองเจ้าแห่งทะเลที่ยืนอยู่ด้านข้างแล้วยิ้มบาง ๆ “มิใช่ว่าข้ามิยอมรับพ่อ แต่พวกเขาจำคนผิดจริง ๆ เจ้าค่ะ!”“ข้ามิใช่หลิงอวี๋ และมิใช่บุตรีของเจ้าแห่งทะเลแน่นอน! ข้าสกุลสิง ท่านพ่อท่านแม่ขอ
หลิงอวี๋มองชายาเจ้าแห่งทะเลที่เดินออกไป แววตาพลันเย็นเยียบลงนางมิคิดว่าชายาเจ้าแห่งทะเลจะมาที่นี่ด้วยตนเองเพียงเพื่อกล่าวถึงเรื่องไร้สาระเหล่านี้ชายาเจ้าแห่งทะเลต้องมีแผนสำรองอื่นอีกแน่นอน“ศิษย์พี่ ชายาเจ้าแห่งทะเลคิดจะทำอะไรกันแน่เจ้าคะ?”เถาจื่อถามอย่างสงสัย “เหตุใดพวกเขามิพาพวกเราไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์?”ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนยังคิดอยู่ว่า หากมิสามารถพาหลิงอวี๋ออกมาได้ ก็จะไปซุ่มรออยู่ใกล้ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อเตรียมพร้อมชิงตัวคนทว่ายามนี้ชายาเจ้าแห่งทะเลกลับมิเล่นตามตำรา เพียงแค่กักตัวหลิงอวี๋ไว้ในจวนเจ้าแห่งทะเล พวกเขามิกังวลว่าจะเกิดเรื่องมิคาดฝันขึ้นหรือไร?“มีความเป็นไปได้สองอย่าง ประการแรกคือ บางทีวิธีนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาอาจจะมิใช่วิธีสลายเลือดละลายกระดูกตามข่าวลือ แต่อาจจะเป็นวิธีอื่น!”“อย่างไรเสียข่าวลือเหล่านี้ก็แพร่มาหลายร้อยปีแล้ว อาจเป็นไปได้ว่า ตระกูลหลงจงใจปล่อยข่าวออกมาก็เพื่อข่มขวัญผู้ที่ละโมบอยากได้หยกหล้าสุขาวดี!”หลิงอวี๋วิเคราะห์อย่างใจเย็น“ส่วนอีกความเป็นไปได้หนึ่งก็คือ ตัวหยกหล้าสุขาวดีเองยังมีความลับอยู่ เจ้าแห่งทะเลมิรู้ ทว่าเขาคิดว่าข้ารู้ จ
ภารกิจของชายาเจ้าแห่งทะเลคือการงัดปากหลิงอวี๋ให้บอกวิธีเข้าไปในหยกหล้าสุขาวดีภารกิจนี้ยากยิ่ง!ชายาเจ้าแห่งทะเลยังมิอาจพูดตรง ๆ ได้ มิฉะนั้นก็เท่ากับเป็นการชี้ให้หลิงอวี๋ล่วงรู้ถึงความมิรู้ของพวกเขาเกี่ยวกับหยกหล้าสุขาวดีทั้งยังจะกระตุ้นให้หลิงอวี๋ไปค้นพบความลับของหยกหล้าสุขาวดี ถึงกาลนั้นเจ้าแห่งทะเลต้องการครอบครองหล้าสุขาวดีก็คงยากยิ่งกว่าการขึ้นสวรรค์เสียอีกเมื่อครู่ชายาเจ้าแห่งทะเลกำลังครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะทำอย่างไรให้หลิงอวี๋ประนีประนอมยอมบอกความลับของหยกหล้าสุขาวดีออกมาอย่างว่าง่าย แต่คิดไปคิดมาก็ยังไม่มีแผนการที่ดีเลยนางทำได้เพียงลองหยั่งเชิงดูก่อน ดูว่าจะสามารถใช้เซียวหลินเทียนและบุตรชายของหลิงอวี๋มาเกลี้ยกล่อมให้นางคายความลับออกมาได้หรือไม่“หลิงอวี๋ เจ้าอย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ ฟังเงื่อนไขที่ข้าจะมอบให้เจ้าก่อน!”ชายาเจ้าแห่งทะเลระงับโทสะไว้ และกล่าวอย่างเยือกเย็น “เจ้าคือฮองเฮาแห่งฉินตะวันตก เซียวเยวี่ยบุตรชายเจ้าคือรัชทายาทแห่งฉินตะวันตก แต่ไหนแต่ไรแผ่นดินนั้นของพวกเจ้ากับพวกเราก็มิเคยก้าวก่ายกัน!”“อีกทั้งสามีข้าก็คือบิดาของเจ้า พวกเราก็มิได้อยากจะฆ่าล้างพวกเจ้าหรอก
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว