ผู้คนที่ดูอยู่โดยรอบเริ่มวิพากษ์วิจารณ์กัน“ใช่แล้ว อาการเจ็บป่วยของคุณชายหลี่มิสามารถรักษาให้หายได้ แต่แม่นางหลิงสามารถช่วยได้ เขาก็ยังจะผลักไสไปอีก นี่มาตรวจหรือมาก่อปัญหากันแน่?”“ต้องมาก่อปัญหาเป็นแน่! ครอบครัวของคุณชายหลี่ต่างก็ไม่ต้องการเขาแล้ว เขามีญาติที่ใดกันเล่า!”เมื่อคุณหนูใหญ่กวนได้ยินสิ่งนี้ ก็รู้สึกได้ทันทีว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้หลิงอวี๋อับอาย!นางเอ่ยขึ้นมาเสียงดัง "ญาติของเขาก็พูดถูก มีรอยแผลเป็นบนใบหน้าแม้ว่าจะรักษาโรคหายก็น่าเกลียดมากอยู่ดี! หากเป็นข้า ยอมตายเสียดีกว่าให้หน้าเสียโฉม!"เมื่อตู้ตงหงเห็นว่า คุณหนูใหญ่กวนโจมตีหลิงอวี๋ นางก็เอ่ยผสมโรงด้วยเช่นกัน "ใช่ หากเป็นข้าก็รับมิได้ที่จะมีแผลเป็นบนใบหน้า!"“ลูกพี่ลูกน้อง เจ้าเป็นแพทย์ชั้นเซียนมิใช่หรือ? แพทย์ชั้นเซียนก็ควรมีหลากหลายวิธีรักษา เจ้าคิดหาวิธีรักษาเขาโดยไม่ต้องกรีดหน้าเขาสิ!”เสิ่นจวนก็เอ่ยสมโรงด้วยอย่างต้องการให้เกิดความวุ่นวายขึ้นหลิงหว่านมองหลิงอวี๋ จู่ ๆ ก็รู้สึกเสียใจกับหลิงอวี๋ทันทีชีวิตของพี่หลิงหลิงหลายปีมานี้มิใช่เรื่องง่ายเลย แม้ว่านางจะเป็นพระชายาอ๋องอี้ แต่กลับดูเหมือนเป็นหม้
“ท่านหมอฮั๋วแก่แล้วยังโง่อีก ไม่รู้จักนางอย่างถ่องแท้ ก็เคารพเป็นอาจารย์อย่างไม่เลือกหน้า! พระชายาอ๋องอี้รักษาคนตาย เจ้าเองก็ต้องรับผิดชอบด้วย!”ตู้ตงหงยิ่งพูดท่าทางก็ยิ่งดูมีความเป็นเหตุเป็นผล แล้วก็เอ่ยขึ้นมาอย่างดูมีความชอบธรรม“หากท่านมิได้ยึดเอาชื่อเสียงของเจ้ามายอมรับพระชายาอ๋องอี้ในฐานะอาจารย์ของท่าน ใครจะเชื่อว่าคนที่ไม่มีการศึกษาจะสามารถมีทักษะทางการแพทย์ได้เล่า?”“กลยุทธ์ยี่สิบเจ็ดเข็มเล่มมีดอันใดกัน พูดจาไร้สาระทั้งเพ! การฝังเข็มที่พี่จางเจ๋อของข้าทำให้ท่านอ๋องเฉิงในตอนนั้นต่างหาก ที่เป็นกุญแจสำคัญในการช่วยชีวิตท่านอ๋องเฉิงไว้!”หมอที่เฝ้าดูอยู่เหล่านั้นต่างก็มองหน้ากันไปมา ตอนนั้นพวกเขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เป็นเพียงข่าวเล่าลือกันมาเท่านั้นหรือจะเป็นเพราะท่านฮั๋วแก่และโง่เขลาจริง ๆ เข้าใจผิดว่ากลยุทธ์การฝังเข็มธรรมดา ๆ เป็นกลยุทธ์ยี่สิบเจ็ดเข็มเล่มมีดในตำนาน?ท่านฮั๋วทั้งกังวลทั้งโกรธกับสายตาสงสัยเหล่านี้เขาไม่เคยถูกสงสัยกับทักษะทางการแพทย์ของเขาเลย ตู้ตงหงเด็กผู้หญิงที่ไม่รู้อะไรเลยผู้นี้ กล้าใส่ร้ายตนเองเช่นนี้เลยหรือ?ท่านอ๋องเฉิงก็โกรธจนตัวสั่น ในคำพูดของคนเหล
แต่หลายคนกลับยังคงมิได้สนใจอย่างเช่นตู้ตงหง นางคิดว่าจับจุดอ่อนของหลิงอวี๋ได้แล้ว จะสามารถช่วยชะล้าง “ความอยุติธรรม” ให้คู่หมั้นของนางได้ตู้ตงหงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง พลางเอ่ยต่อ“ท่านอ๋องอี้ ท่านอ๋องทำผิดก็มีความผิดเช่นเดียวกับคนทั่วไป! แม้ว่าท่านจะเป็นท่านอ๋อง ก็มิสามารถปกป้องพระชายาอ๋องอี้ได้หรอกเพคะ!”“นางรักษาคนตาย ก็ต้องรายงานทางการ!”เซียวหลินเทียนเหลือบมองนางอย่างเย็นชา จากนั้นสายตาก็เลื่อนไปที่ใบหน้าของหลิงอวี๋“หลิงอวี๋ ไม่ต้องกลัว แม้ว่าจะถูกรายงานต่อทางการก็ไม่เป็นไร ข้ากับท่านอาจะจัดการให้เจ้าเอง”ท่านอ๋องเฉิงเห็นว่าเซียวหลินเทียนควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดแล้ว ก็ลูบเคราแล้วจับจ้องไปตรงหน้า“เสี่ยวหลิงเอ๋อร์(หลิงอวี๋)ไม่ต้องกลัว เสี่ยวซื่อเอ๋อร์(เซียวหลินเทียน)พูดถูก ข้าจะจัดการให้เจ้าเอง!”แต่ใบหน้าของหลิงอวี๋กลับไม่มีสีหน้าของความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อยและตอบโต้คำพูดของตู้ตงหงไป "อื้ม ควรรายงานต่อทางการ! ท่านอ๋องอี้ ท่านอ๋องเฉิง พวกท่านฟังที่คุณหนูตู้บอกเถิด รายงานต่อทางการเสีย!"เซียวหลินเทียตะลึงไปเล็กน้อย การแสดงออกของหลิงอวี๋ทำให้เขายกริมฝีปากขึ้นอย่างครุ่นคิด
“อืม เจ้าไม่เข้าใจ คนอื่นก็ยิ่งไม่เข้าใจเลย!”หลิงอวี๋ยิ้มอย่างเย็นชาพลางตะโกนเรียก "หลี่ชุง!"“อาจารย์ ข้าอยู่นี่!”หลี่ชุงตกใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่จนมือไม้อ่อนไปหมด พอหลิงอวี๋เรียกถึงได้สติขึ้นมานางรีบวิ่งไปข้างหน้าพลางเอ่ย "อาจารย์ มีอะไรจะสั่งหรือเจ้าคะ!"“ไปเอาหนูที่ข้าบอกให้เจ้าจับมามาหนึ่งตัว!” หลิงอวี๋เอ่ยหลี่ชุงพยักหน้า แล้ววิ่งเข้าไปในโรงเหยียนหลิงทันทีหลังจากนั้นไม่นานหลี่ชุงก็ถือกรงออกมา ในนั้นมีหนูที่กระโดดไปมาอยู่หนึ่งตัว“ให้มันเลียเลือดของคุณชายหลี่กระอักออกมาที่พื้น!”หลี่ชุงยกหนูไปยังตำแหน่งที่คุณชายหลี่นั่งอยู่ หนูได้กลิ่นเลือดและเริ่มเลียผ่านกรงนั้นทุกคนต่างจ้องไปที่หนูตัวนั้น เห็นว่าหลังจากที่หนูเลียเลือด ก็เริ่มแขนขากระตุกและมีเลือดออกจากปากท่าทางเช่นนั้น เหมือนกับตอนที่คุณชายหลี่ป่วยก่อนหน้านี้ทุกประการ“ในเลือดมีพิษ!”มีคนร้องออกมาอย่างตกใจหลิงอวี๋ยิ้มเบา ๆ และมองไปที่คุณชายหลี่คุณชายหลี่มองหนูตัวนั้นอย่างงุนงง เห็นหนูกระตุกสองสามครั้ง แล้วขนของมันก็ร่วง เลือดเนื้อของมันก็ดูจางลง แขนขาของมันกระตุกแล้วก็เสียชีวิตไปเขายังไม่ยอม ก้า
“ตัวเจ้าเองไม่คิดอะไรเลยหรือ? ความจริงอยู่ตรงหน้าแล้ว เนื้องอกเลือดของเจ้ามิมีใครในเมืองหลวงที่สามารถรักษาได้ ข้ารักษาให้เจ้าแล้ว นับว่าช่วยชีวิตเจ้าหรือไม่?”“เจ้ากินบัวกมลนิลเข้าไป พิษบัวกมลนิลนี้ ขอเพียงได้สัมผัสมันเพียงเล็กน้อย ภายในเวลาไม่ถึงธูปครึ่งดอก ก็ทำให้ร่างกายเปื่อยเน่าจนตายได้แล้ว!”“เจ้าก็เห็นจุดจบของหนูแล้ว ยังต้องการจะปกป้องคนที่คิดจะฆ่าเจ้าอยู่อีกหรือ?”“ข้าช่วยชีวิตเจ้าไว้ มิได้รับเงินจากเจ้าเลยสักนิด!”“เหตุใดเล่า เจ้ายังคาดหวังให้ข้าให้โอสถเจ้าไม่คิดเงินอีกหรือ? ใต้หล้านี้มีของถูกเช่นนี้ที่ใดกัน?”หลิงอวี๋ด่าออกมามากถึงเพียงนี้ แต่ความโกรธก็ยังคงไม่หายไป นางหันกลับไปตะโกนบอกแม่ทัพเฉิน“ใต้เท้าเฉิน ข้าต้องการรายงานต่อทางการ!”“คุณชายหลี่แล้วก็หวงหยาผู้นี้สมรู้ร่วมคิดกัน อาศัยการไปหาหมอเป็นข้ออ้าง แต่จริง ๆ แล้วซ่อนยาพิษไว้ในปาก จงใจใส่ร้ายข้าและสร้างความวุ่นวายการทำงานปกติของโรงเหยียนหลิง!”“พวกเขายังใส่ร้ายท่านฮั๋ว ท่านอ๋องเฉิง และทำลายทรัพย์สินส่วนตัวด้วย! ข้าอยากจะฟ้องร้องพวกเขาที่กลั่นแกล้งสร้างความวุ่นวาย มิสนใจกฎหมายบ้านเมือง!”“ใต้เท้าเฉิน ข้าหลิงอวี
คำพูดของตู้ตงหง ทำให้คนบางส่วนสั่นคลอน แบบนี้มันก็เป็นไปได้!ผู้คนเริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันขึ้นมาอีกครั้ง“คำพูดของคุณหนูตู้ฟังดูสมเหตุสมผล โรงหุยชุนกับโรงเหยียนหลิงเป็นศัตรูคู่อาฆาตกัน บางทีพระชายาอ๋องอี้อาจต้องการเป็นใหญ่เพียงฝ่ายเดียว จึงหาคนมาใส่ร้ายโรงหุยชุน!”“ช่างมันเถิด! พระชายาอ๋องอี้มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม โรงหุยชุนคงไม่สามารถเอาชนะพระชายาอ๋องอี้ได้ จึงคิดหาคนมาใส่ร้ายนาง!”“แต่คำกล่าวอ้างของคุณชายหลี่บอกว่าคุณชายจางเป็นคนสั่งนะ นี่มันก็เข้าทางแล้ว!”“คุณชายหลี่ผู้นี้นิสัยไม่ดี ใครจะรู้ว่าเขาจงใจปั้นแต่งคำพูดแบบนี้มาเอาใจพระชายาอ๋องอี้ เพื่อจะรักษาอาการป่วยหรือไม่!”เมื่อได้ยินว่าท่ามกลางผู้คนนั้น มีเสียงเอนเอียงมาทางตนเอง จางเจ๋อก็ชื่นชมไหวพริบของตู้ตงหงเขาคว้ามือของตู้ตงหง พลางเอ่ยอย่างอารมณ์ดี“คุณหนูตู้ ขอบคุณที่เจ้าเชื่อข้าถึงเพียงนี้! การมีคนรู้ใจเช่นเจ้าในชีวิต แม้ว่าจางเจ๋อจะถูกคนร้าย ก็รู้สึกชื่นใจ!”“คนอื่นไม่เชื่อข้าก็ไม่สำคัญ ขอเพียงเจ้าเชื่อในตัวข้าก็พอแล้ว!”เอ่อ......หลิงอวี๋ หลิงหว่านและอันซินเกือบจะอาเจียนกับคำพูดการแสดงความรักอย่างไร้
จางเจ๋อคิดจะตะโกนกลับด่าว่าคนคนนั้นโกหกแต่เมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นว่าคุณชายผู้นั้นคือลูกชายคนโตของราชองครักษ์ผาง จางเจ๋อก็กลืนคำด่ากลับคืนไปเลยเขาหรือจะกล้าทำให้คุณชายผางขุ่นเคือง!จางเจ๋อเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา จึงเอ่ย "จริงอยู่ที่ซื้อมาจากดินแดนม้ง! แต่เพื่อนของข้าซื้อมันให้ข้า!"“พระชายาอ๋องอี้ แม้ว่าข้าจะคาดเข็มขัดที่ซื้อมาจากดินแดนม้ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าข้าเคยไปดินแดนม้งนี่!”จู่ ๆ ตู้ตงหงก็อารมณ์ขึ้น แล้วตะโกนขึ้นมา“ผู้ใดจะไม่มีเพื่อนเล่า! พระชายาอ๋องอี้ท่านคิดจะเอาเข็มขัดที่ซื้อมาจากดินแดนม้งมาใส่ร้ายพี่จางเจ๋อ นี่มันสมเหตุสมผลแล้วหรือ?”หลิงอวี๋ยิ้มเล็กน้อย“คุณหนูตู้ หูข้างใดของเจ้าที่ได้ยินว่าข้าใส่ร้ายพี่จางเจ๋อของเจ้าหรือ? เจ้าสอบสวนข้าเสียมากมายถึงเพียงนั้น จะไม่อนุญาตให้ข้าย้อนถามบ้างสักประโยคเลยหรือ?”"เห้อ ผู้ที่ไม่เคยไปดินแดนม้ง ทั้งยังไม่เคยได้ยินเรื่องบัวกมลนิล แต่กลับสามารถบอกฤทธิ์ทางยาของบัวกมลนิลได้..."“อีกทั้งยังเอาแต่พูดอยู่ตลอดว่าคุณชายหลี่จะต้องตายภายในธูปครึ่งดอก…”เสียงถอนหายใจของหลิงอวี๋ทำให้เหล่าผู้มีสติปัญญาต่างเข้าใจกันจางเจ๋อสามารถโต้เถีย
แม่ทัพเฉินโบกมือ แล้วเหล่านักการก็หยุด“ให้ตาย… เจ็บจะตายอยู่แล้วโว้...”หวงหยาเจ็บปวดจนหน้าบิดเบี้ยว น้ำหูน้ำตาไหลออกมาหมดเขาคลานไปบนพื้น เห็นใบหน้าเคร่งขรึมของแม่ทัพเฉิน ก็ไม่กล้าพูดคำหยาบออกมา“ใต้เท้าเฉิน หมอหลี่จากโรงหุยชุนเป็นคนสั่งข้า!”“เขาให้เงินข้าห้าสิบตำลึง ให้ข้าหาคนสองสามคนมาก่อปัญหาที่โรงเหยียนหลิง!”“ยาพิษนั้นหมอหลี่ก็เป็นคนให้มาด้วย!”หลังจากทนทุกข์ทรมานจากการลงโทษมามากพอแล้ว หวงหยาก็สารภาพทุกอย่างออกมาในคราวเดียว“หมอหลี่ ข้าขอโทษ… แม้ว่าท่านจะสัญญาว่าจะให้ข้าเพิ่มอีกห้าร้อยตำลึง แต่ข้าเกรงว่าถึงมีเงินแต่ก็คงไม่มีชีวิตให้ได้ใช้เงินแล้ว!”หวงหยาไม่เพียงแต่รู้สึกเจ็บปวดทั่วร่างกาย แต่เมื่อนึกถึงเงินห้าร้อยตำลึงที่เขาสูญเสียไป เขาก็ยังรู้สึกเจ็บปวดใจด้วยหวงหยากลัวว่าหมอหลี่จะโต้แย้งเหมือนจางเจ๋อ แล้วโยนความผิดนั้นให้กับตนเอง จึงชี้ไปที่เหล่าพี่น้องของเขาพลางตะโกน“ใต้เท้าเฉิน สิ่งที่ข้าบอกเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ตอนที่หมอหลี่ไปหาข้า พี่น้องเหล่านี้ก็อยู่ที่นั่นด้วย! พวกเขาเป็นพยานให้ข้าได้!”พี่น้องเหล่านั้นเห็นว่าเจ้านายของตนถูกทุบตีจนเนื้อตัวเต็มไปด้วยแผลเห
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี