ใบหน้าของไป่หลี่ไห่ยิ่งดูมิเชื่อกว่าเดิมเสียอีก “เจ้าวังฉู่ ท่านคงถูกวิธีการแปลกประหลาดของสิงอวี๋ทำให้สับสนเป็นแน่!”“สิงอวี๋มีกลอุบายมากมายนัก นางจะต้องอาศัยวิธีนี้มาทำให้ท่านกลัวแล้วอาศัยปากของท่านมาข่มขู่พวกเราอย่างแน่นอน!”ทันใดนั้น เสียงของสิงอวี๋ก็ดังมาจากด้านหลัง “เหอะ ๆ เจ้าวังฉู่ คาดมิถึงว่าท่านต่างหากที่เป็นคนที่ฉลาดที่สุดในบรรดาพวกเขา! แค่ดูจากวิธีการของข้า ท่านก็คิดได้มากมายถึงเพียงนี้แล้ว!”“การคาดเดาของท่านถูกต้องแล้ว หากใช้ทักษะของข้าสกัดพิษออกมา มิต้องใช้ถึงครึ่งถ้วยก็สามารถคร่าชีวิตคนได้อย่างรวดเร็วจริง ๆ!”“ข้าบอกท่านได้อย่างภาคภูมิใจเลยว่า ขอเพียงอุปกรณ์ของข้าดีกว่านี้อีกสักหน่อย ข้าจะสามารถกลั่นยาพิษที่สามารถสังหารคนได้ด้วยการใช้เพียงมิกี่หยดเท่านั้น!”หลิงอวี๋มองใบหน้าของไป่หลี่ไห่ด้วยสายตาเย็นชา นางก็แค่ต้องอวดดีเนื่องจากก่อนหน้านี้นางสาบานไว้ว่า หลังจากวันนี้ไป นางต้องการให้คนเหล่านี้กลัวตน และมิกล้าที่จะยั่วยุนางได้ง่าย ๆ อีก...“เจ้าพูดจาไร้สาระ! ข้ามิเชื่อหรอก!”ไป่หลี่ไห่ตะคอกออกมาด้วยความโกรธเมื่อครู่ศิษย์คนหนึ่งมากระซิบเล่าเรื่องที่เกิดอะไรขึ้นก่
แต่ไป่หลี่ไห่มิกล้า แม้ว่าในใจของเขาจะมีเสียงนับหมื่นเรียกร้องให้เขาทำเช่นนั้น แต่เมื่อเขาเห็นสายตาของหลิงอวี๋เขาก็หวาดกลัวขึ้นมาเช่นกันดูภายนอกหลิงอวี๋ยิ้มให้ทุกคน แต่ดวงตาของนางกลับจ้องเขาอย่างเย็นชาสายตานั้นราวกับจะบอกไป่หลี่ไห่ว่า นางมิได้ล้อเล่น นางมียาพิษเช่นนั้นอยู่จริง ๆ!หลิงอวี๋เองก็มีอยู่จริง ๆ แต่สุดท้ายก็บอกกับทุกคนไปว่าล้อเล่นเพื่อที่จะทิ้งทางหนีไว้ให้ตนเองหากเรื่องที่นางมียาพิษเช่นนั้นแพร่ออกไป เช่นนั้นจะเป็นการทำให้คนบางส่วนหวาดกลัว แต่ในขณะเดียวกันก็จะดึงดูดความสนใจของราชสำนักด้วยจักรพรรดิองค์ใดเล่าจะยอมทนให้ราษฎรของตนมียาพิษที่มีพลังทำลายที่รุนแรงเช่นนี้อยู่!โดยเฉพาะที่นางสนิทกับบุคคลมีอำนาจเช่นหลงเพ่ยเพ่ยด้วย!ดังนั้นเพื่อมิให้ตนถูกคนวางแผนร้าย มหาเทพหลงก็จะต้องหาวิธีกำจัดนางไปเช่นกัน!“ปรมาจารย์ไป่หลี่ ทำตามสัญญาของท่านด้วย! ให้เหมียวหยางออกมายอมรับสิ่งที่เขาทำกับข้าไว้เสีย!”หลิงอวี๋เอ่ยออกมาอย่างเย็นชาฮูหยินเหมียวกับเถ้าแก่เหมียวมองไป่หลี่ไห่พ่ายแพ้อย่างตะลึงนี่ก็หมายความว่า พวกเขาจำเป็นต้องยอมรับความผิด มิฉะนั้นพวกเขาก็จะมิได้ยาแก้พิษจากหลิงอวี๋
“พวกเราเคยเจอกันทั้งหมดกี่ครั้ง?”หลิงอวี๋มิสามารถปล่อยไปได้ง่าย ๆ เช่นนี้ จึงเอ่ยถามไปตามตรง “ครั้งแรกเจ้าบังคับให้ข้าเปลี่ยนไปร่วมกับหอโอสถไป๋เป่าใช่หรือไม่?”“ใช่!”เหมียวหยางยังคงปกป้องไป่หลี่ไห่ต่อ “ข้าทำเอง มิได้เกี่ยวอะไรกับอาจารย์ข้า!”การซักถามของหลิงอวี๋แสดงให้ทุกคนเห็นถึงความเคียดแค้นระหว่างนางกับเหมียวหยาง และเหล่าบัณฑิตต่างก็รู้เรื่องนี้ สิงอวี๋มิได้โกหกเป็นเพราะเหมียวหยางดึงตัวสิงอวี๋ไปมิสำเร็จจริง ๆ เขาจึงมีความแค้นต่อสิงอวี๋อยู่ในใจ ดังนั้นหลังจากที่สัญญากับต่งเฉิงแล้วว่าจะมิทำให้สิงอวี๋เดือดร้อน เขาก็ยังไประบายความโกรธโดยการทำลายเรือนของสิงอวี๋อีกคำพูดที่ว่าสิงอวี๋คอยเกาะแกะเหมียวหยางอะไรนั่น ล้วนเป็นสิ่งที่ฮูหยินเหมียวแต่งขึ้นมาใส่ร้ายสิงอวี๋ทั้งสิ้นเมื่อเรื่องราวมาถึงขั้นนี้ความจริงก็ได้เปิดเผยแล้วเหล่าบัณฑิตเข้าใจในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น มิน่า ในตอนแรกสิงอวี๋จึงมิได้อธิบายแล้วบอกว่ารอให้ชนะก่อนแล้วค่อยพูดหากสิงอวี๋อธิบายตั้งแต่แรก หลายคนก็คงจะมิเชื่อทว่ายามนี้เหมียวหยางออกมาพูดเอง คำอธิบายเช่นนี้จึงมีความน่าเชื่อถือสูงต่งเฉิงจึงเอ่ยขึ้นมาโดยมิแสดงสีห
เหล่าบัณฑิตที่กำลังจะเดินออกไปข้างนอกล้วนหยุดฝีเท้า แล้วมองกลุ่มของแม่ทัพเฉิงอย่างสงสัยนี่จะทำอะไร?หลิงอวี๋และเย่หรงก็ตะลึงไปเช่นกัน ทั้งสองคนล้วนคาดมิถึงว่าแม่ทัพเฉิงจะมาที่นี่ในเวลานี้ก่อนหน้านี้เย่หรงอยากให้หลิงอวี๋ไปช่วยฮูหยินเฉิง เพื่อที่จะโน้มน้าวให้แม่ทัพเฉิงเป็นสายลับช่วยท่านแม่ของตนและหลิงอวี๋ก็มีความคิดเช่นเดียวกัน เพียงแต่นางกังวลว่าหากตนลงมือก็อาจจะไปดึงดูดความสงสัยของพวกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้ตอนนี้แม่ทัพเฉิงมาด้วยตนเองแล้วหลิงอวี๋จึงนึกถึงจ้าวหรุ่ยหรุ่ยขึ้นมาทันที ต้องเป็นฝีมือนางกับฮูหยินเฉียวแน่ ๆ ที่พาแม่ทัพเฉิงมาจุดประสงค์ก็คือบีบให้ตนลงมือ เพื่อตรวจสอบตัวตนของตน“เจ้าสำนักศึกษาจิน รองเจ้าสำนักศึกษาต่ง เฉิงโหม่วขอคารวะ!”แม่ทัพเฉิงเดินไปด้านหน้าแล้วประสานกำปั้นทำความเคารพเจ้าสำนักศึกษาจินและรองเจ้าสำนักศึกษาต่งเมื่อเจ้าสำนักศึกษาจินเห็นแม่ทัพเฉิง เขาก็นึกโยงไปถึงเรื่องที่พวกฮูหยินเฉียวสาดน้ำยาใส่สิงอวี๋ แล้วจึงคาดเดาจุดประสงค์ของแม่ทัพเฉิงแต่ต่งเฉิงมิรู้เรื่อง และรู้สึกสงสัยเช่นเดียวกับเหล่าบัณฑิต “แม่ทัพเฉิงมาที่นี่ด้วยเหตุอันใดหรือ?”แม่ทัพเฉิงจึงเอ่ยขึ
ภายใต้สายตาที่จับจ้องของทุกคน จ้าวหรุ่ยหรุ่ยและฮูหยินเฉียวล้วนมองไปทางสิงอวี๋อย่างภูมิใจคราวนี้แม่ทัพเฉิงออกโรงเอง วิธีการก็รวดเร็วและเด็ดขาด สิงอวี๋จะยังสามารถพูดแก้ตัวไปได้อีกหรือ?แต่สิงอวี๋ที่ควรจะแสดงท่าทีตื่นตระหนก กลับสีหน้าเหมือนเดิมมิเปลี่ยนแปลง แล้วมองไปทางแม่ทัพเฉิงอย่างเฉยเมย“แม่ทัพเฉิง ท่านบอกว่าข้าคือหลิงอวี๋หรือ? ฮองเฮาแห่งฉินตะวันตกผู้นั้น? สตรีที่สังหารเฉียวเค่อและตระกูลเฉียวออกหมายจับค่าหัวห้าล้าน?”“หรือสตรีที่ช่วยท่านแม่ของข้าหลวงเก๋อ?”แม่ทัพเฉิงมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาแผดเผา “ใช่แล้ว!”“เหอะ ๆ!” หลิงอวี๋หัวเราะออกมา “แม่ทัพเฉิง ท่านบอกแหล่งข่าวของท่านให้ข้ารู้ได้หรือไม่?”“แหล่งข่าวน่าเชื่อถือที่ว่านี้คือฮูหยินเฉียวเป็นคนบอกท่านใช่หรือไม่?”หลิงอวี๋ประเมินสถานการณ์ในทันที แม้ว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะเป็นศิษย์ของเจ้าวังเทียนจี แต่นางก็ไม่มีครอบครัวอยู่ที่ที่เมืองหลวงแดนเทพ แม่ทัพเฉิงไม่มีทางเชื่อคำพูดของนางได้ง่าย ๆ มีเพียงตระกูลสูงศักดิ์เช่นตระกูลเฉียวเท่านั้นที่เมื่อพูดอะไรแล้วแม่ทัพเฉิงจะเก็บมาใส่ใจแม่ทัพเฉิงนับว่าเป็นคนตรงไปตรงมา มิรู้สึกว่าจำเป็นต้องโกหกใน
“แม่ทัพเฉิง ข้ามิใช่คนที่ท่านตามหา!”หลิงอวี๋เอ่ยออกไปอย่างเย็นชา “ฮูหยินเฉียวติดหมายจับค่าหัวไว้มากมายถึงเพียงนั้น ทุกคนคงคุ้นเคยกับใบหน้าของหลิงอวี๋กันไปหมดแล้วกระมัง!”“บนใบหน้าของหลิงอวี๋มีรอยแผลอยู่มาก มิอาจพึ่งการแปลงโฉมและหน้ากากผิวหนังมนุษย์มาปกปิดได้หรอก เช่นเดียวกันกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย สวมผ้าคลุมหน้าไปก็ไม่มีประโยชน์!”“เมื่อครู่ฮูหยินเฉียวสั่งให้คนรับใช้ตระกูลเหมียวสาดน้ำยาใส่ข้าไปแล้วข้าก็มิได้เปลี่ยนแปลงไป นี่ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าข้ามิได้แปลงโฉมมา!”“พวกท่านยืนกรานที่จะบอกว่าข้าคือหลิงอวี๋ นี่มิเป็นการกลับผิดให้เป็นถูกแล้วจะเป็นอะไรได้?”เหล่าบัณฑิตที่ดูอยู่พยักหน้าเห็นด้วยก็จริง พวกของฮูหยินเฉียวสาดน้ำยาล้างหน้าของสิงอวี๋ไปแล้วแต่ก็ยังมิเห็นว่าสิงอวี๋จะมีการเปลี่ยนแปลงใด เห็นได้ชัดว่านางมิได้แปลงโฉมจริง ๆการจะบีบให้นางยอมรับให้ได้ว่านางคือหลิงอวี๋เช่นนี้ มันมากเกินไปแล้ว!หลงเพ่ยเพ่ยก็ก้าวออกไปเช่นกัน แล้วก็เอ่ยออกมา “แม่ทัพเฉิง ความแค้นคงทำให้ฮูหยินเฉียวสับสนแล้ว ท่านอย่าได้ถูกนางหลอกจนตามนางมารังแกสิงอวี๋เลย!”“อาการป่วยของฮูหยินท่าน ข้าจะคิดวิธีไปหาหมอมาให้ท่านเอ
ฮูหยินเฉียวเอ่ยออกมาอย่างมิปรานี “สิงอวี๋ วิชาพิษของเจ้าแข็งแกร่งถึงเพียงนั้น วิชาแปลงโฉมก็ต้องแข็งแกร่งเช่นกัน พวกเรานำน้ำยามามิอาจล้างการแปลงโฉมของเจ้าได้ แต่ข้าเชื่อว่าเจ้าจะยอมรับว่าเจ้าคือหลิงอวี๋!”ขณะที่พูดอยู่นั้นฮูหยินเฉียวก็ชักกระบี่ออกมา แล้วจ่อไปที่คอของสิงจั๋ว “ข้าจะนับถึงสิบ หากเจ้ายอมรับว่าเจ้าคือหลิงอวี๋ ข้าก็จะปล่อยเขาไป!”“มิเช่นนั้น ข้าก็จะสังหารเขา!”“หลิงอวี๋ หรือว่าเจ้ายอมให้คนบริสุทธิ์คนหนึ่งต้องตายไปภายใต้กระบี่ของข้า เพื่อการปกปิดของเจ้าเช่นนั้นหรือ?”คนจำนวนมิน้อยที่ดูอยู่ต่างก็รู้สึกกังวลขึ้นมา พฤติกรรมเช่นนี้ของฮูหยินเฉียวเกินไปจริง ๆ!นี่ก็พอ ๆ กันกับท่าทางบ้าคลั่งของไป่หลี่ไห่เมื่อครู่ เพียงเพื่อการแก้แค้นสติปัญญาก็หายไปจนหมดเจ้าสำนักศึกษาจินและต่งเฉิงล้วนคาดมิถึงว่าการประลองจะวุ่นวายจนเป็นเช่นนี้ นี่จะจบลงอย่างไรกัน?เซียวหลินเทียนมองไปทางหลิงอวี๋ เขารู้จักหลิงอวี๋ดี อย่าว่าแต่สิงจั๋วกับนางที่มีความสัมพันธ์ฉันพี่น้องกันเลย แม้ว่าจะเปลี่ยนเป็นคนที่มิเกี่ยวข้องอะไรกับนาง นางก็จะไม่มีทางเห็นแก่ตัวเพิกเฉยเป็นแน่“เตรียมตัว!”เซียวหลินเทียนทำสัญญาณมื
“เสี่ยวชี อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!”เย่หรงร้อนใจจนอยากจะพุ่งเข้าไปห้ามหลิงอวี๋ถอยหลังไปหลายก้าวแล้วตะคอกออกมา “เย่หรง อย่าเข้ามา! ท่านช่วยข้ามิได้หรอก!”“ดูหลงเพ่ยเพ่ยเถิด มีอำนาจมีอิทธิพล ตระกูลเฉียวยังมิเห็นนางอยู่ในสายตาเลย ยังสามารถพาตัวพี่ชายของข้าไปจากมือของนางได้ แล้วท่านจะทำกระไรได้?”“ข้ามิอยากทำให้พวกท่านต้องลำบาก ข้ากับพี่ชายยอมตายไปด้วยกันก็จบแล้ว!”เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยได้ยินคำพูดของหลิงอวี๋ ใบหน้าของนางก็แดงก่ำขึ้นมาด้วยความอายหลิงอวี๋ไม่มีอำนาจและอิทธิพลจึงต่อสู้กับตระกูลเฉียวมิไหวก็พอจะเข้าใจได้ แต่นางเป็นบุตรีของเจ้าแห่งทิศใต้ เป็นท่านหญิงของราชวงศ์ แต่กลับปกป้องคนที่อยากปกป้องไว้มิได้ นี่เป็นเรื่องที่น่าอับอายยิ่งนัก!ท่านผู้เฒ่าเย่โกรธจนเคราสั่น “ฮูหยินเฉียว เจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว เกินไปจริง ๆ… หากเจ้ากล้าลงมือในวันนี้ ตระกูลเย่ของข้าและตระกูลเฉียวของพวกเจ้าก็คงมิอาจอยู่ร่วมแผ่นดินเดียวกันแล้ว!”เย่ซื่อเจียงก็ตะโกนออกมาด้วยท่าทางจริงจังเช่นกัน “ฮูหยินเฉียว อย่าทำให้เรื่องร้ายแรงเลย หากเจ้าบีบให้สิงอวี๋ตาย นับจากนี้ตระกูลเย่ของข้าและตระกูลเฉียวของเจ้าจะอยู่ร่วมแผ่นดิน
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี