“พวกเราเคยเจอกันทั้งหมดกี่ครั้ง?”หลิงอวี๋มิสามารถปล่อยไปได้ง่าย ๆ เช่นนี้ จึงเอ่ยถามไปตามตรง “ครั้งแรกเจ้าบังคับให้ข้าเปลี่ยนไปร่วมกับหอโอสถไป๋เป่าใช่หรือไม่?”“ใช่!”เหมียวหยางยังคงปกป้องไป่หลี่ไห่ต่อ “ข้าทำเอง มิได้เกี่ยวอะไรกับอาจารย์ข้า!”การซักถามของหลิงอวี๋แสดงให้ทุกคนเห็นถึงความเคียดแค้นระหว่างนางกับเหมียวหยาง และเหล่าบัณฑิตต่างก็รู้เรื่องนี้ สิงอวี๋มิได้โกหกเป็นเพราะเหมียวหยางดึงตัวสิงอวี๋ไปมิสำเร็จจริง ๆ เขาจึงมีความแค้นต่อสิงอวี๋อยู่ในใจ ดังนั้นหลังจากที่สัญญากับต่งเฉิงแล้วว่าจะมิทำให้สิงอวี๋เดือดร้อน เขาก็ยังไประบายความโกรธโดยการทำลายเรือนของสิงอวี๋อีกคำพูดที่ว่าสิงอวี๋คอยเกาะแกะเหมียวหยางอะไรนั่น ล้วนเป็นสิ่งที่ฮูหยินเหมียวแต่งขึ้นมาใส่ร้ายสิงอวี๋ทั้งสิ้นเมื่อเรื่องราวมาถึงขั้นนี้ความจริงก็ได้เปิดเผยแล้วเหล่าบัณฑิตเข้าใจในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น มิน่า ในตอนแรกสิงอวี๋จึงมิได้อธิบายแล้วบอกว่ารอให้ชนะก่อนแล้วค่อยพูดหากสิงอวี๋อธิบายตั้งแต่แรก หลายคนก็คงจะมิเชื่อทว่ายามนี้เหมียวหยางออกมาพูดเอง คำอธิบายเช่นนี้จึงมีความน่าเชื่อถือสูงต่งเฉิงจึงเอ่ยขึ้นมาโดยมิแสดงสีห
เหล่าบัณฑิตที่กำลังจะเดินออกไปข้างนอกล้วนหยุดฝีเท้า แล้วมองกลุ่มของแม่ทัพเฉิงอย่างสงสัยนี่จะทำอะไร?หลิงอวี๋และเย่หรงก็ตะลึงไปเช่นกัน ทั้งสองคนล้วนคาดมิถึงว่าแม่ทัพเฉิงจะมาที่นี่ในเวลานี้ก่อนหน้านี้เย่หรงอยากให้หลิงอวี๋ไปช่วยฮูหยินเฉิง เพื่อที่จะโน้มน้าวให้แม่ทัพเฉิงเป็นสายลับช่วยท่านแม่ของตนและหลิงอวี๋ก็มีความคิดเช่นเดียวกัน เพียงแต่นางกังวลว่าหากตนลงมือก็อาจจะไปดึงดูดความสงสัยของพวกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้ตอนนี้แม่ทัพเฉิงมาด้วยตนเองแล้วหลิงอวี๋จึงนึกถึงจ้าวหรุ่ยหรุ่ยขึ้นมาทันที ต้องเป็นฝีมือนางกับฮูหยินเฉียวแน่ ๆ ที่พาแม่ทัพเฉิงมาจุดประสงค์ก็คือบีบให้ตนลงมือ เพื่อตรวจสอบตัวตนของตน“เจ้าสำนักศึกษาจิน รองเจ้าสำนักศึกษาต่ง เฉิงโหม่วขอคารวะ!”แม่ทัพเฉิงเดินไปด้านหน้าแล้วประสานกำปั้นทำความเคารพเจ้าสำนักศึกษาจินและรองเจ้าสำนักศึกษาต่งเมื่อเจ้าสำนักศึกษาจินเห็นแม่ทัพเฉิง เขาก็นึกโยงไปถึงเรื่องที่พวกฮูหยินเฉียวสาดน้ำยาใส่สิงอวี๋ แล้วจึงคาดเดาจุดประสงค์ของแม่ทัพเฉิงแต่ต่งเฉิงมิรู้เรื่อง และรู้สึกสงสัยเช่นเดียวกับเหล่าบัณฑิต “แม่ทัพเฉิงมาที่นี่ด้วยเหตุอันใดหรือ?”แม่ทัพเฉิงจึงเอ่ยขึ
ภายใต้สายตาที่จับจ้องของทุกคน จ้าวหรุ่ยหรุ่ยและฮูหยินเฉียวล้วนมองไปทางสิงอวี๋อย่างภูมิใจคราวนี้แม่ทัพเฉิงออกโรงเอง วิธีการก็รวดเร็วและเด็ดขาด สิงอวี๋จะยังสามารถพูดแก้ตัวไปได้อีกหรือ?แต่สิงอวี๋ที่ควรจะแสดงท่าทีตื่นตระหนก กลับสีหน้าเหมือนเดิมมิเปลี่ยนแปลง แล้วมองไปทางแม่ทัพเฉิงอย่างเฉยเมย“แม่ทัพเฉิง ท่านบอกว่าข้าคือหลิงอวี๋หรือ? ฮองเฮาแห่งฉินตะวันตกผู้นั้น? สตรีที่สังหารเฉียวเค่อและตระกูลเฉียวออกหมายจับค่าหัวห้าล้าน?”“หรือสตรีที่ช่วยท่านแม่ของข้าหลวงเก๋อ?”แม่ทัพเฉิงมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาแผดเผา “ใช่แล้ว!”“เหอะ ๆ!” หลิงอวี๋หัวเราะออกมา “แม่ทัพเฉิง ท่านบอกแหล่งข่าวของท่านให้ข้ารู้ได้หรือไม่?”“แหล่งข่าวน่าเชื่อถือที่ว่านี้คือฮูหยินเฉียวเป็นคนบอกท่านใช่หรือไม่?”หลิงอวี๋ประเมินสถานการณ์ในทันที แม้ว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะเป็นศิษย์ของเจ้าวังเทียนจี แต่นางก็ไม่มีครอบครัวอยู่ที่ที่เมืองหลวงแดนเทพ แม่ทัพเฉิงไม่มีทางเชื่อคำพูดของนางได้ง่าย ๆ มีเพียงตระกูลสูงศักดิ์เช่นตระกูลเฉียวเท่านั้นที่เมื่อพูดอะไรแล้วแม่ทัพเฉิงจะเก็บมาใส่ใจแม่ทัพเฉิงนับว่าเป็นคนตรงไปตรงมา มิรู้สึกว่าจำเป็นต้องโกหกใน
“แม่ทัพเฉิง ข้ามิใช่คนที่ท่านตามหา!”หลิงอวี๋เอ่ยออกไปอย่างเย็นชา “ฮูหยินเฉียวติดหมายจับค่าหัวไว้มากมายถึงเพียงนั้น ทุกคนคงคุ้นเคยกับใบหน้าของหลิงอวี๋กันไปหมดแล้วกระมัง!”“บนใบหน้าของหลิงอวี๋มีรอยแผลอยู่มาก มิอาจพึ่งการแปลงโฉมและหน้ากากผิวหนังมนุษย์มาปกปิดได้หรอก เช่นเดียวกันกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย สวมผ้าคลุมหน้าไปก็ไม่มีประโยชน์!”“เมื่อครู่ฮูหยินเฉียวสั่งให้คนรับใช้ตระกูลเหมียวสาดน้ำยาใส่ข้าไปแล้วข้าก็มิได้เปลี่ยนแปลงไป นี่ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าข้ามิได้แปลงโฉมมา!”“พวกท่านยืนกรานที่จะบอกว่าข้าคือหลิงอวี๋ นี่มิเป็นการกลับผิดให้เป็นถูกแล้วจะเป็นอะไรได้?”เหล่าบัณฑิตที่ดูอยู่พยักหน้าเห็นด้วยก็จริง พวกของฮูหยินเฉียวสาดน้ำยาล้างหน้าของสิงอวี๋ไปแล้วแต่ก็ยังมิเห็นว่าสิงอวี๋จะมีการเปลี่ยนแปลงใด เห็นได้ชัดว่านางมิได้แปลงโฉมจริง ๆการจะบีบให้นางยอมรับให้ได้ว่านางคือหลิงอวี๋เช่นนี้ มันมากเกินไปแล้ว!หลงเพ่ยเพ่ยก็ก้าวออกไปเช่นกัน แล้วก็เอ่ยออกมา “แม่ทัพเฉิง ความแค้นคงทำให้ฮูหยินเฉียวสับสนแล้ว ท่านอย่าได้ถูกนางหลอกจนตามนางมารังแกสิงอวี๋เลย!”“อาการป่วยของฮูหยินท่าน ข้าจะคิดวิธีไปหาหมอมาให้ท่านเอ
ฮูหยินเฉียวเอ่ยออกมาอย่างมิปรานี “สิงอวี๋ วิชาพิษของเจ้าแข็งแกร่งถึงเพียงนั้น วิชาแปลงโฉมก็ต้องแข็งแกร่งเช่นกัน พวกเรานำน้ำยามามิอาจล้างการแปลงโฉมของเจ้าได้ แต่ข้าเชื่อว่าเจ้าจะยอมรับว่าเจ้าคือหลิงอวี๋!”ขณะที่พูดอยู่นั้นฮูหยินเฉียวก็ชักกระบี่ออกมา แล้วจ่อไปที่คอของสิงจั๋ว “ข้าจะนับถึงสิบ หากเจ้ายอมรับว่าเจ้าคือหลิงอวี๋ ข้าก็จะปล่อยเขาไป!”“มิเช่นนั้น ข้าก็จะสังหารเขา!”“หลิงอวี๋ หรือว่าเจ้ายอมให้คนบริสุทธิ์คนหนึ่งต้องตายไปภายใต้กระบี่ของข้า เพื่อการปกปิดของเจ้าเช่นนั้นหรือ?”คนจำนวนมิน้อยที่ดูอยู่ต่างก็รู้สึกกังวลขึ้นมา พฤติกรรมเช่นนี้ของฮูหยินเฉียวเกินไปจริง ๆ!นี่ก็พอ ๆ กันกับท่าทางบ้าคลั่งของไป่หลี่ไห่เมื่อครู่ เพียงเพื่อการแก้แค้นสติปัญญาก็หายไปจนหมดเจ้าสำนักศึกษาจินและต่งเฉิงล้วนคาดมิถึงว่าการประลองจะวุ่นวายจนเป็นเช่นนี้ นี่จะจบลงอย่างไรกัน?เซียวหลินเทียนมองไปทางหลิงอวี๋ เขารู้จักหลิงอวี๋ดี อย่าว่าแต่สิงจั๋วกับนางที่มีความสัมพันธ์ฉันพี่น้องกันเลย แม้ว่าจะเปลี่ยนเป็นคนที่มิเกี่ยวข้องอะไรกับนาง นางก็จะไม่มีทางเห็นแก่ตัวเพิกเฉยเป็นแน่“เตรียมตัว!”เซียวหลินเทียนทำสัญญาณมื
“เสี่ยวชี อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!”เย่หรงร้อนใจจนอยากจะพุ่งเข้าไปห้ามหลิงอวี๋ถอยหลังไปหลายก้าวแล้วตะคอกออกมา “เย่หรง อย่าเข้ามา! ท่านช่วยข้ามิได้หรอก!”“ดูหลงเพ่ยเพ่ยเถิด มีอำนาจมีอิทธิพล ตระกูลเฉียวยังมิเห็นนางอยู่ในสายตาเลย ยังสามารถพาตัวพี่ชายของข้าไปจากมือของนางได้ แล้วท่านจะทำกระไรได้?”“ข้ามิอยากทำให้พวกท่านต้องลำบาก ข้ากับพี่ชายยอมตายไปด้วยกันก็จบแล้ว!”เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยได้ยินคำพูดของหลิงอวี๋ ใบหน้าของนางก็แดงก่ำขึ้นมาด้วยความอายหลิงอวี๋ไม่มีอำนาจและอิทธิพลจึงต่อสู้กับตระกูลเฉียวมิไหวก็พอจะเข้าใจได้ แต่นางเป็นบุตรีของเจ้าแห่งทิศใต้ เป็นท่านหญิงของราชวงศ์ แต่กลับปกป้องคนที่อยากปกป้องไว้มิได้ นี่เป็นเรื่องที่น่าอับอายยิ่งนัก!ท่านผู้เฒ่าเย่โกรธจนเคราสั่น “ฮูหยินเฉียว เจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว เกินไปจริง ๆ… หากเจ้ากล้าลงมือในวันนี้ ตระกูลเย่ของข้าและตระกูลเฉียวของพวกเจ้าก็คงมิอาจอยู่ร่วมแผ่นดินเดียวกันแล้ว!”เย่ซื่อเจียงก็ตะโกนออกมาด้วยท่าทางจริงจังเช่นกัน “ฮูหยินเฉียว อย่าทำให้เรื่องร้ายแรงเลย หากเจ้าบีบให้สิงอวี๋ตาย นับจากนี้ตระกูลเย่ของข้าและตระกูลเฉียวของเจ้าจะอยู่ร่วมแผ่นดิน
พวกเหลยเหวินมองสถานการณ์บานปลายไปจนถึงจุดที่สิงอวี๋ใช้การปลิดชีพตนมาต่อต้านอย่างตกตะลึง พวกเขารู้สึกกังวลมาก มิรู้ว่าจะช่วยให้สิงอวี๋ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่ามีคนเป็นผู้นำบีบฮูหยินเฉียว เหลยเหวินก็มิสนใจอะไรแล้ว จึงวิ่งออกไปหาฮูหยินเฉียว“ฮูหยินเฉียว ใช้ข้าแทนพี่ใหญ่สิงเถิด ข้าเป็นสหายสนิทของสิงอวี๋ นางคงมิยอมเห็นข้าตายแน่ ๆ!”“ข้าด้วย!”หลงเพ่ยเพ่ยหรือจะยอมล้าหลัง นางรู้สึกผิดต่อสิงอวี๋ที่ปล่อยให้สิงจั๋วตกอยู่ในมือของฮูหยินเฉียว นางจะยืนดูเฉย ๆ ได้อย่างไร เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้นางก็เดินเข้าไปด้วยใบหน้าเคร่งขรึมเช่นกัน“ข้าเป็นท่านหญิง ย่อมมีน้ำหนักมากกว่าพวกเจ้า สิงอวี๋จะต้องมิปล่อยให้ข้าตายอย่างแน่นอน ข้าจะเปลี่ยนตัวกับสิงจั๋วเอง!”“จะขาดข้าไปได้อย่างไรเล่า! สิงอวี๋กับข้าเป็นสหายสนิทกันก็ควรจะถูกฮูหยินเฉียวใช้ข่มขู่สิงอวี๋จึงจะถูก มิเช่นนั้นความสำคัญของข้าก็มิถูกเปิดเผยสิ!”จงเจิ้งเฟยตามมาอย่างมิยอมแสดงความอ่อนแอออกมาเมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว อู่เถาและบัณฑิตบางส่วนจากหอโอสถซ่างกู่ก็พากันเดินไปหาฮูหยินเฉียวเช่นกัน“พวกเราเป็นศิษย์น้อง
เซียวหลินเทียนผลักดันการแสดงที่หลิงอวี๋เป็นผู้นำให้ไปถึงจุดสูงสุด หลิงอวี๋รู้อยู่แก่ใจ แล้วจะลบความดีของเขาออกไปอย่างขัดกับความรู้สึกได้อย่างไรเล่า!จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมองอยู่ที่ด้านข้าง เดิมทีนางคิดว่าด้วยนิสัยของหลิงอวี๋แล้ว เมื่อเห็นว่าฮูหยินเฉียวใช้ชีวิตของสิงจั๋วมาข่มขู่ นางจะต้องยอมรับอย่างแน่นอนไหนเลยจะคิดว่าเรื่องราวจะหลุดจากการควบคุมแล้วกลับกลายเป็นเช่นนี้ไปได้ล้มเหลวในตอนสุดท้ายเสียได้!จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเห็นว่าฮูหยินเฉียวทำให้ทุกคนโกรธ ก็รู้สึกเสียดายอยู่ในใจ แต่สายตาก็มองไปทางแม่ทัพเฉิงวันนี้เป็นโอกาสดีที่สุดที่จะพิสูจน์ว่าสิงอวี๋คือหลิงอวี๋หรือไม่ หากพลาดโอกาสนี้ไป ต่อไปหากจะพิสูจน์อีกก็ยากแล้วไหน ๆ แม่ทัพเฉิงก็มาแล้ว จะมิใช้ให้คุ้มค่าได้อย่างไรเล่า!จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิกลัวที่จะเป็นจุดเด่นแล้ว เพื่อที่จะจับหลิงอวี๋และเซียวหลินเทียน วันนี้ตระกูลเฉียวจึงนำยอดฝีมือจำนวนมากมาสำนักศึกษาชิงหลงด้วยแม่ทัพเฉิงเองก็นำกลุ่มทหารมาเช่นกัน หากวันนี้มิสามารถจับทั้งสองคนได้ พวกเขาก็ไม่มีโอกาสแล้ว“สิงอวี๋ สิ่งที่ฮูหยินเฉียวทำนั้นมิถูกต้อง นางมิควรจับตัวพี่ชายเจ้ามาข่มขู่เจ้า! พฤติกรรมเช
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี
ชีวิตนี้หาสหายรู้ใจได้ยากนัก!หลงเพ่ยเพ่ยยิ้ม นางก็รู้สึกว่าตนกับเย่หรงพูดคุยสื่อสารกันง่ายเช่นกันเย่หรงฉลาด ที่สำคัญที่สุดคือมิใช่บุรุษประเภทหัวโบราณคร่ำครึ มิเหมือนพวกพี่สามที่เอะอะก็วางตนเป็นผู้ใหญ่สั่งสอนนางเฮ้อ หากสามีในอนาคตของนางสามารถพูดคุยกันได้เหมือนเย่หรง เช่นนั้นสามีภรรยาจะมิรักใคร่กลมเกลียวกันมากหรอกหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยคิดแล้วพลันหน้าแดงเรื่อ นี่นางกำลังคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่!“พวกเรามาคิดกันก่อนดีกว่าว่าอีกประเดี๋ยวหากพบเสด็จย่าแล้วจะทำอย่างไรดี!”หลงเพ่ยเพ่ยมิกล้าคิดฟุ้งซ่านต่อไป รีบเปลี่ยนเรื่องคุย“ท่านกังวลว่าท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นจะก่อกวนหรือ?”เย่หรงก็ดึงความคิดกลับมา พวกเขาใกล้จะถึงภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ต้องคิดหาข้ออ้างให้ดี“อืม ท่านหญิงชิงเฉิงมิใช่คนประเภทที่จะเจรจาด้วยง่าย ๆ ท่านหญิงอวิ๋นยังพอคุยง่ายอยู่บ้าง แต่ในเมื่อพวกนางรับคำสั่งจากชายาเจ้าแห่งทะเลมาเพื่อถ่วงเวลาเสด็จย่า ย่อมมิยอมให้ข้าบรรลุเป้าหมายแน่!”หลงเพ่ยเพ่ยเผยสีหน้าอมทุกข์เย่หรงพลันนึกถึงข่าวลือเกี่ยวกับท่านหญิงอวิ๋นขึ้นมา แม้ท่านหญิงอวิ๋นจะเป็นธิดาแท้ ๆ ของชายาเจ้าแห่งทะเล แต่ช่วงห
“โอ้ ใต้หล้านั้นแตกต่างจากใต้หล้าของพวกเราหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยถูกเย่หรงกระตุ้นความอยากรู้ จึงจ้องมองพลางถาม“อืม บ้านเรือนที่นั่นสูงเท่าภูเขา สูงที่สุดอาจถึงร้อยชั้นได้ ทั้งยังมีรถมากมายที่มิต้องใช้ม้าลาก วิ่งได้เร็วมาก!”เย่หรงเล่าให้หลงเพ่ยเพ่ยฟังไปเรื่อย ๆเมื่อพูดถึงเครื่องบินก็ทำให้หลงเพ่ยเพ่ยเบิกตากว้าง นางมองเย่หรงอย่างงง ๆ “เจ้าโกหกกระมัง จะมีเครื่องมือที่สามารถบรรทุกคนขึ้นไปบนฟ้าได้อย่างไร!”“มีจริง ๆ ข้ามิได้โกหกท่าน พี่หญิงหลิงหลิงจำได้มากกว่าข้าเสียอีก รอมีโอกาสให้นางเล่าให้ท่านฟัง ท่านก็จะเชื่อว่าข้ามิได้โกหกท่าน!”เย่หรงเริ่มตื่นเต้น “ท่านหญิง ท่านปู่มิได้บอกหรือว่าคันฉ่องคุนหลุนของตงกู่อวี้สามารถพลิกฟ้าคว่ำปฐพีได้?”“หากพวกเราได้คันฉ่องคุนหลุนมา มิต้องรอเวียนว่ายตายเกิด ข้าจะพาท่านไปดูใต้หล้านั้น! ท่านจะต้องชอบใต้หล้านั้นอย่างแน่นอน!”เย่หรงพูดจนหลงเพ่ยเพ่ยใจเต้นระรัว นางกล่าวออกไปโดยมิต้องคิด “ได้ เช่นนั้นรอพวกเราช่วยแดนเทพผ่านพ้นภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้ พวกเราหาคันฉ่องคุนหลุนเจอแล้วก็ไปด้วยกัน ไปดูใต้หล้าที่เจ้าพูดถึงกัน!”“ตกลงตามนี้!”เย่หรงยกมือขึ้น หลงเพ่ยเพ่
คนหนึ่งคือคนที่ตนรัก อีกคนคือสหายที่ดีที่สุดของตน!แต่พวกเขากลับร่วมมือกันหลอกลวงตน!หยางหงหนิงหันหลังเดินออกไปด้วยใบหน้าบึ้งตึง นางจะมิปล่อยชายชั่วหญิงโฉดคู่นี้ไปแน่!สิ่งที่นางมิได้มาครอบครอง ยอมทำลายทิ้งเสียดีกว่ายอมให้คนอื่นได้ไป!หยางหงหนิงกลับไปที่รถม้าของตน เค้นเสียงลอดไรฟันออกมาคำหนึ่ง “ไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์!”ด้านหน้า เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยต่างก็ร้อนใจดั่งไฟเผา ฮองเฮาเสด็จไปสองชั่วยามแล้ว พวกเขาจะตามทันพระนางหรือ?อีกทั้งต่อให้ตามทัน มีท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นอยู่ พวกนางต้องช่วยชายาเจ้าแห่งทะเลขัดขวางมิให้ฮองเฮาเรียกตัวหลิงอวี๋เข้าเฝ้าแน่“ท่านหญิง พวกเราจะไปทันหรือไม่? ชายาเจ้าแห่งทะเลจะลงมือกับพี่หญิงหลิงหลิงแล้วหรือไม่?”เย่หรงถามอย่างร้อนรนหลงเพ่ยเพ่ยก็ร้อนใจเช่นกัน หลิงอวี๋ยังรอให้นางช่วยชีวิตอยู่ แต่นางก็มิรู้ว่าจะสามารถทูลขอพระราชโองการจากฮองเฮาได้สำเร็จหรือไม่“พวกเราพยายามเต็มที่เถอะ! ขอเพียงตามเสด็จย่าทัน ต่อให้ข้าต้องคุกเข่าอ้อนวอนก็ต้องให้นางพาพี่หญิงหลิงหลิงออกมาให้ได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวปลอบใจเย่หรงเห็นหลงเพ่ยเพ่ยวิ่งวุ่นไปทั่วกับตนก็นับว่าพยายามเ
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร
หลิงอวี๋ฟังแล้วก็อดอมยิ้มมิได้ เซียวหลินเทียนใช้คนตระกูลเก๋อมาจัดการชายาเจ้าแห่งทะเล กลอุบายนี้ช่างเด็ดขาดนักรถม้ามาถึงจวนเจ้าแห่งทะเล เมื่อหลิงอวี๋ลงจากรถก็มองไปยังคฤหาสน์หลังใหม่ที่กำลังก่อสร้างอีกครั้ง กำแพงล้อมรอบสร้างเสร็จแล้ว ดูจากขนาดแล้วใหญ่โตมากจริง ๆนางอดสงสัยมิได้ ข้างในมีเรือนบุหงาแบบเดียวกับตำหนักอ๋องอี้ของตนอย่างที่เถาจื่อบอกจริงหรือ?นางอยากเข้าไปดู อยากเห็นเหลือเกินว่าบ้านในอดีตของตนเป็นอย่างไร!“คุณหนูสิง เชิญ!”พ่อบ้านเว่ยเห็นหลิงอวี๋มองคฤหาสน์ฝั่งตรงข้ามก็ร้องเรียกอย่างมิอดทนหลิงอวี๋หันกลับมา เห็นประตูใหญ่หนาทึบของจวนเจ้าแห่งทะเลเปิดอ้าอยู่ ข้างในลานเรือนซับซ้อนลึกล้ำ มองสุดตามิเห็นปลายทางนี่คือที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายโดยแท้!หลิงอวี๋ลอบสูดหายใจลึก ๆ แล้วเดินเข้าไป“ปัง!”ประตูใหญ่หนาทึบปิดลงด้านหลังนางหลิงอวี๋มิได้หันกลับไปมอง เพราะนั่นจะดูมิสง่างามนางรอให้พ่อบ้านเว่ยนำทางอยู่ข้างหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินผิดทางแล้วถูกพ่อบ้านเว่ยหาเรื่องผิดพลาดมาตำหนิขณะเดียวกัน หลงเพ่ยเพ่ยก็ได้พาเย่หรงมุ่งหน้าไปยังวังหลวงแล้ว“อุบายนี้ของชายาเจ้าแห่งทะเลช่างร้า
จวนเจ้าแห่งทะเลตั้งอยู่ในย่านคหบดีและสูงศักดิ์ของเมืองหลวงแดนเทพ อันที่จริงอยู่ห่างจากคฤหาสน์อู่เพียงมิกี่ช่วงถนนเท่านั้นรถม้าวิ่งไปตามทางเรื่อย ๆ เถาจื่อพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงกระซิบข้างหูหลิงอวี๋เบา ๆ“คุณหนู อีกประเดี๋ยวท่านจะเห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กำลังสร้างอยู่ตรงข้ามจวนเจ้าแห่งทะเล ที่นั่นฝ่าบาททรงสร้างให้ท่านเจ้าค่ะ!”“คราแรกที่พวกเรามาตามหาท่านในเมืองหลวงแดนเทพนั้นมิรู้ว่าจะต้องเสียเวลานานเท่าใด ฝ่าบาทจึงทรงให้สือหรงซื้อคฤหาสน์แถวนี้ไว้ล่วงหน้าแล้วรื้อสร้างใหม่ทั้งหมด!”“ฝ่าบาทตรัสว่า เจ้าแห่งทะเลคือบิดาของท่าน ในเมื่อเขามิยอมรับท่าน ฝ่าบาทก็จะทำให้เขาเห็นว่า ใช่ว่าท่านไม่มีบ้านเสียหน่อย แม้จวนเจ้าแห่งทะเลไม่มีที่ให้ท่าน ฝ่าบาทก็จะสร้างจวนหลังที่ใหญ่กว่าจวนเจ้าแห่งทะเลให้!”“คุณหนู ข้างในมีเรือนหลังหนึ่ง สร้างตามแบบเรือนบุหงาที่ตำหนักอ๋องอี้ในฉินตะวันตกของท่านไม่มีผิดเพี้ยน หากท่านได้เห็นจะต้องชอบอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ!”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยได้ยินเผยอวี้พูดถึงคฤหาสน์หลังใหม่ที่พวกเขาสร้างแล้ว ตอนนั้นยังรู้สึกแปลกใจว่าเซียวหลินเทียนคิดจะอยู่เมืองหลวงแดนเทพเป็นการถาวรหรืออย่
วิธีนี้ของหลิงอวี๋เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยนางได้ในยามนี้ ด้วยเซียวหลินเทียนและคนอื่น ๆ ก็ยังคิดหาวิธีที่ดีกว่านี้มิออกเย่หรงกล่าวขึ้นทันที “ข้าจะไปหาหลงเพ่ยเพ่ย บอกนางมิต้องมาแล้ว ให้เข้าวังไปทูลขอเข้าเฝ้าฮองเฮาได้เลย!”“พี่หญิงหลิงหลิง ท่านต้องยื้อจนกว่าพวกเราจะมาช่วยท่านให้ได้นะ!”พูดจบ เย่หรงก็รีบร้อนออกไปเก๋อเฟิ่งฉิงมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาซับซ้อน นางหวังให้หลิงอวี๋เข้าจวนเจ้าแห่งทะเลไปแล้วออกมามิได้แต่เรื่องนี้ก็พัวพันถึงความเป็นความตายของเซียวหลินเทียน นางมิอยากให้เซียวหลินเทียนต้องเกิดเรื่อง!ช่างขัดแย้งในใจเสียจริง!“อาอวี๋ เจ้าไปก่อนเถอะ... วางใจได้ ต่อให้ต้องก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ในเมืองหลวงแดนเทพ ข้าก็จะพาเจ้ากลับบ้านให้ได้!”เซียวหลินเทียนกล่าวอย่างหนักแน่นเขายังมีแผ่นป้ายไม้ที่ขันทีโม่ให้มา สามารถใช้ขอความช่วยเหลือจากแม่ทัพฝ่ายซ้ายได้ เซียวหลินเทียนตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะใช้แผ่นป้ายไม้นี้ช่วยหลิงอวี๋ขันทีโม่เคยบอกว่า เพียงอาศัยแผ่นป้ายไม้นี้ ก็สามารถทำให้แม่ทัพฝ่ายซ้ายช่วยตนทำเรื่องหนึ่งเรื่องได้หากแม่ทัพฝ่ายซ้ายสามารถช่วยคนได้เพียงคนเดียว เช่นนั้นเขาก็ยอมตายเ
เผยอวี้และคนอื่น ๆ ต่างมองหน้ากันอย่างจนปัญญา นึกว่ามหาปราชญ์และเจ้าแห่งทะเลกลับไปแล้วพวกตนจะรอดพ้นจากครั้งนี้ไปได้ คาดมิถึงว่าชายาเจ้าแห่งทะเลจะใช้ไม้นี้อีกภายนอกดูเหมือนเป็นการเชิญ แต่จริง ๆ แล้วจะปฏิเสธมิไปได้หรือ?เซียวหลินเทียนสามารถแสร้งป่วยได้ แต่หลิงอวี๋เพิ่งจะปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าแห่งทะเลไปเมื่อครู่ ตอนนี้ย่อมมิอาจใช้การแสร้งป่วยมาหลีกเลี่ยงได้อีกแล้ว“บอกไปว่าคุณหนูสิงกำลังรักษาอาการป่วยให้ข้าอยู่ เดี๋ยวค่อยไป!”ในสถานการณ์กะทันหันเช่นนี้เซียวหลินเทียนทำได้เพียงถ่วงเวลาไปก่อนแล้วค่อยคิดหาวิธี“เผยอวี้ เจ้าส่งคนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยกับเจ้าแห่งทิศใต้ ให้หลงเพ่ยเพ่ยไปเป็นเพื่อนอาอวี๋!”เป็นเรื่องความเป็นความตายของหลิงอวี๋ เผยอวี้รีบให้คนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยทันทีหลิงอวี๋นิ่งเงียบ นั่งคิดอยู่ข้าง ๆเพื่อชิงหยกหล้าสุขาวดีกลับคืนมา ในเวลานั้นชายาเจ้าแห่งทะเลสามารถลงมืออำมหิตกับหลานฮุ่ยจวนที่กำลังตั้งครรภ์ได้ครั้งนี้นางส่งพ่อบ้านมาเชิญตนไปจวนเจ้าแห่งทะเล พูดไปพูดมาก็เพื่อหยกหล้าสุขาวดีบนตัวนางนั่นเองส่วนการที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาได้นั้นต้องใช้วิธีสลายโลหิตละลายกระดูก หรือว่าช