ยกที่หนึ่ง แก๊งมังกรซิ่งดูแลเมืองเก่ามาหลายปี ก่อนหน้านั้นมีเหตุนองเลือดอยู่บ่อย ๆ กระทั่งผลักดันกลุ่มชาวต่างชาติย้ายไปฝั่งเมืองใหม่ได้สำเร็จจึงสงบขึ้น กระนั้นก็มีกลุ่มอิทธิพลมากมายที่พยายามเข้ามายึดถนนเนี่ยอิน หากสุดท้ายไห่ถังรวบรวมพรรคพวกได้เยอะที่สุดจึงได้ดูแลที่นี่ โดยมีเจ้าพ่อเหวินเฉียงเป็นประมุขของแก๊งมังกรซิ่ง ซึ่งฝ่ายนั้นสืบทอดอำนาจมาจากบิดาเขาอีกที เมื่อไห่ถังมาถึงหน้าร้านอาหารของม่านอวี้อัน เขาก็ต้องงงเป็นไก่ตาแตก เกิดอะไรขึ้นกับร้านเก่าแก่แห่งนี้ เมื่อก่อนเจ้าของคือชายชาวต่างชาติ อีกฝ่ายขายให้กับม่านอวี้อันในราคาแสนถูกเพื่อตอบแทนความดีของเธอที่ดูแลภรรยาเขาก่อนสิ้นใจ ยามนี้กลับมีธงเล็ก ๆ และภาพนักกีฬาที่ส่งไปแข่งขันชิงเหรียญต่าง ๆ ในกีฬาระดับชาติติดหน้าร้าน ม่านอวี้อัน วางแผนสิ่งใดอยู่ โดยเฉพาะการเขียนป้ายเชียร์ ‘ไทสัน’ นักมวยที่ต้องบอกว่า เวลานี้ไร้ชื่อเสียง “นังคุณนายคงเพี้ยนจนหาเรื่องเล่นตลกสินะ” ไห่ถังว่า ก่อนกวาดตามองพื้นที่ของร้าน เขาพอใจมาก มีลานกว้างด้านหน้า และยังมีทางเข้าหลายทาง อีกทั้งตั้งอยู่ตรงกลางถนนเนี่ยอิน รถผ่านไปมาอยู่ตลอด
ม่านอวี้อันยืนอยู่เบื้องหน้าทุกคน เธองามสง่าราวกับนางพญาที่พร้อมออกรบ เป็นกุนซือหญิงผู้คอยออกคำสั่งให้แม่ทัพ จัดการฆ่าศึกอย่างโหดเหี้ยม “ร้านเล็ก ๆ ของเรายินดีรับใช้ พี่ถัง และอาอิง รวมถึงเป็นเกียรติยิ่งนัก ที่พี่น้องในแก๊งมังกรซิ่งมาเยี่ยมเยียน” น้ำเสียงเจ้าของร้านกังวาน ไม่แข็งกร้าว หากแต่น่าฟัง กระนั้นก็เปี่ยมด้วยความถือตัวและจองหองอยู่ในที เมื่อก่อนม่านอวี้อันไม่เคยเป็นเช่นนี้ นั่นคือสิ่งที่ทำให้ทุกคนเกิดข้อสงสัยในใจ “คุณนายอัน พูดเสียอย่างนี้ลูกน้องอั๊วตกใจหมด พวกเราล้วนเป็นคนกันเองแท้ ๆ” ม่านอวี้อันยิ้มหวานหยด แต่ไม่ใช่รอยยิ้มยั่วยวน และไม่รู้เหตุใดทุกคนที่อยู่ที่นั่งโต๊ะซึ่งต่อยาวกันไปนั้นถึงเสียวสันหลังวาบ ๆ ร้านอาหารนี้กลายเป็นบ้านผีสิงตั้งแต่เมื่อไร “ขวัญอ่อนกันจริงเชียว เป็นหนุ่มฉกรรจ์แท้ ๆ ระหว่างที่กินอาหารไป วันนี้เป็นโอกาสดี ด้วยมีการถ่ายทอดชกมวยสากล ฉันกำลังเชียร์อยู่หลายคน อย่างไรขอเปิดทีวีเครื่องเล็ก ๆ ไปด้วยนะพี่ถัง หวังว่าจะไม่สร้างความรำคาญ...” “แล้วแต่คุณนายเถอะ...” ไห่ถังตัดความเรื่องมากของหญิงสาวทิ้ง และอย
บทนำ ณ เมืองติดชายทะเล ถนนเนี่ยอิน พื้นที่ควบคุมของแก๊งมังกรซิ่ง เยว่จือตัวสั่นไปหมด เด็กสาวไม่รู้จะทำอย่างไร การถูกตบหน้าอย่างรุนแรงถึงสองครั้งติดต่อกัน ด้วยฝ่ามือหยาบกร้านของอาซู คนในแก๊งมังกรซิ่ง ทำให้น้ำตาคลอหน่วย แม้ในยามนี้เธอจะพยายามอดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ ถึงอย่างนั้นน้ำตาก็ยังคงไหลอาบใบหน้าเรียวเล็กที่ซีดราวกับซากศพ ในใจของเธอภาวนาขอให้เรื่องเฮงซวยทั้งหมดนี้เป็นเพียงภาพความฝัน มิหนำซ้ำเด็กสาวยังห่วงอีกสามชีวิต เมื่อคืนคุณผู้หญิงเพ้อหนักก่อนที่ตัวจะสั่นเทาและสลบไปนาน ตอนนี้เธอคงกำลังรอการกลับไปของเยว่จือ รวมถึงสองฝาแฝดวัยสี่ขวบกว่าที่เมื่อเช้าได้กินเพียงขนมปังบาแก็ตที่ทั้งแข็งและแห้งโรยน้ำตาล ซึ่งเด็กสาววางได้แผนไว้ว่า หากเกิดเรื่องร้ายแรงใดขึ้น เธอจะพาพวกเด็ก ๆ หนีไปให้ไกล! เสียงเนื้อกระทบเนื้อยังดังก้องในหู เธอกลัว ตื่นตระหนก และขวัญเสีย ทว่าสิ่งที่ทำได้คือจำต้องกลั้นเสียงสะอื้นและน้ำตาเอาไว้ ถึงจะยากลำบากเหลือเกิน แต่ที่ต้องทำเช่นนั้นก็เพราะเธอไม่ต้องการให้คนพวกนี้เห็นความอ่อนแอของตน อย่างไรก็ตาม นับว่าแก๊งมังกรซิ่งยังมีเมตตาอยู่บ้าง
“มะ มัมมี้!” เสียงเล็ก ๆ ที่แสนสดใสดังขึ้น ตามด้วยอีกเสียงที่ฟังเหมือนกับว่าเพิ่งผ่านพ้นการร้องไห้อย่างหนักมา “น้อง หิว... หิว!” หญิงสาวลืมตาช้า ๆ การหายใจของเธอยังไม่เป็นปกติ และรู้สึกว่าตัวชื้นเหนียวเหนอะไปด้วยเหงื่อ แล้วก็เป็นตอนนั้นเองที่มือเล็ก ๆ ที่พอจะอุ่นอยู่สักหน่อยลูบแก้มเธอเบา ๆ พร้อมรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจหญิงสาวอ่อนยวบ “มะ มามี้ มะ ไม่ ตะ ตาย!” เธอฉงนแต่ก็พยายามตั้งสติ การที่ต้องอยู่ในรถคันนั้นและไม่มีอากาศหายใจทำให้เธอกลัวจัด และเธอเชื่อว่าตนเองตายไปแล้ว ทว่าระหว่างที่เธอกำลังอยู่ในช่วงของความเป็นและความตาย เธอกลับได้ยินเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะของเด็ก ๆ จวบจนลืมตาได้อีกครั้ง จึงเห็นพวกเขาทั้งสองคน “หนู...” เสียงของเธอแหบจัดและอ่อนแรง “มามี้... น้องไม่ร้อง แต่เฮียผิง งอแงจะกินขนมตลอด” คนที่เอ่ยกับเธอเป็นเด็กผู้ชายที่คุยเก่ง อายุคงราว ๆ สี่ถึงห้าขวบ ส่วนอีกคนจ้ำม่ำกว่า แก้มย้อยน่ารัก กำลังทำหน้าบึ้ง เขาสื่อสารติด ๆ ขัด ๆ อยู่สักหน่อย เพราะทำท่าเหมือนกับพยายามจะพูด แต่อ้าปากแล้วหุบอยู่สองสามครั้ง ก่อนจะมีเสียงดังใ
หลังจากนั้น แจ็คสัน สามีคืนเดียวของเธอต้องไปเซ็นสัญญาทำธุรกิจ ซึ่งเธอทราบในภายหลังว่าเขาตกอยู่ในเหตุการณ์ก่อการร้ายครั้งใหญ่ และเกิดการจลาจลจนมีผู้เสียชีวิตนับสองร้อยคน ซ้ำร้ายยังมีร่างที่ถูกเผาไหม้อยู่ในอาคารจนไม่อาจระบุได้ว่าเป็นใครอีกหลายศพ และชื่อ แจ็คสัน หยวน เองก็อยู่ในรายนามผู้เสียชีวิต ทำให้เธอต้องถูกผลักไสจากคนในตระกูลหยวน รวมถึงลุงกับป้าที่กล่าวหาว่าเธอเป็นตัวซวย สุดท้ายม่านอวี้อันจึงต้องมาอยู่ที่ร้านขายอาหารเล็ก ๆ แห่งนี้ ในถนนเนี่ยอินที่มีแก๊งมังกรซิ่งคอยรีดไถเงินผู้คน “คุณผู้หญิง” เมื่อเยว่จือยังคงเรียกซ้ำ ๆ อยู่เช่นนั้น หญิงสาวเลยต้องยกมือห้าม “ฉันคือใคร?” “เอ๋ ทำไมถามแบบนั้นคะ” เยว่จือตกใจ แต่ไหนแต่ไรม่านอวี้อันเป็นผู้หญิงที่ใช้เสียงเบา ไม่ชอบโวยวายหรือปั้นสีหน้าตึง ๆ ทว่าตอนนี้กลับไม่ใช่อย่างนั้น! “เอาใหม่ ตั้งสติ แล้วฟังคำถามให้ดี ๆ ฉัน-คือ-ใคร?” ม่านอวี้อันคนใหม่นี้ลงเสียงหนัก ดวงตากลมโตที่จ้องเยว่จือพลอยให้เด็กสาวตัวสั่น “คะ คุณผู้หญิง คือม่านอวี้อัน...” เมื่อได้ยินแบบนั้น วิญญาณที่สวมร่างผู้อื่นพลันขน
นางจิ้งจอกเข้าครัว เยว่จือบีบมือตัวเองแน่น เธออยากสร้างเรื่องโกหกม่านอวี้อันอย่างที่แล้ว ๆ มา ทว่าไม่รู้เหตุใด ยามนี้คุณผู้หญิงถึงไม่เหมือนเดิม และยังสร้างความกล้าหาญให้เด็กสาวอยากพูดความจริงอย่างหมดเปลือก! “นะ หนู เดินไม่ดูทางเอง เลยเจอกับเฮียถัง เขามาถามเรื่องเงินค่าเช่าร้านที่ติดไว้ กับเงินที่คุณผู้หญิง เอ่อ... มาดามยืมมาซื้อของ แล้วทำเจ๊งจนเรากำลังจะอดตาย...” ฟังจากปากเยว่จือ ม่านอวี้อันก็รู้ว่าสิ่งที่เธอกำลังเผชิญอยู่ในโลกนี้ไม่ใช่แค่ความยากจน แต่ยังมีหนี้ที่ต้องจ่ายอีกด้วย และถ้าถึงขั้นที่คนของฝ่ายนั้นกล้าทำร้ายเด็กสาวตัวเล็ก ๆ แล้วนั่นย่อมหมายความว่ามันอยู่ในขั้นวิกฤติ “เฮียถัง...” เมื่อเอ่ยชื่อนี้ขึ้น ม่านอวี้อันก็ตัวแข็งค้าง ในความทรงจำเธอเห็นผู้ชายตัวสูงใหญ่กับกลุ่มแก๊งของเขาที่ถือขวานและมีดเล่มยาว คนพวกนั้นเป็นพวกมาเฟียปล่อยเงินกู้ แถมยังเก็บดอกเบี้ยสุดโหด โชคชะตาเล่นตลกกับผู้หญิงที่ต้องดิ้นรนเลี้ยงดูตัวเองจนม่านอวี้อันต้องไปยืมเงินคนพวกนั้น โดยเอาบ้านเป็นหลักค้ำประกัน ซึ่งด้านหน้าของบ้านหลังนี้เปิดเป็นร้านอาหาร แต่เกือบหนึ่งปีแล้วที่
ม่านอวี้อันจะไม่ผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับลูกชายเธอเด็ดขาด เมื่อตั้งมั่นจะเช่นนั้น ภายในห้องครัวจึงมีงานล้นมือ! ทว่าเมื่อลงมือเข้าครัวกันจริงจัง เซียงเจียวกลับเป็นเด็กที่มีแต่ความน่ารัก เขาพูดเก่ง ขี้อ้อน และสิ่งที่ทำให้ม่านอวี้อันผิดคาดคือ เขาค่อนข้างขี้เกียจ นิสัยแบบนี้หากไม่คอยสอนหรือควบคุมให้ดี โตไปเขาต้องเป็นหนุ่มหล่อที่แผลงฤทธิ์ให้คนเอือมระอาแน่ ๆ ส่วนผิงกั่วของเธอ ไม่ว่าจะบอกให้ปอกกล้วย ร่อนแป้ง หรือนั่งรอนิ่ง ๆ เขาก็ไม่ส่งเสียงบ่น และยังทำงานของตนได้ดีอย่างที่ผู้ใหญ่แบบเยว่จือเทียบไม่ติด “คนเก่งของแม่” เธอชมผิงกั่ว และเขาก็ยิ้มเขินอายตอบ ลูกชายคนโตช่างเป็นสุภาพบุรุษแสนน่ารัก พอได้ยินแม่ชมพี่ชาย เซียงเจียวจึงหน้าง้ำหน้างอ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ส่งเสียงประท้วง “เอ ผิงเกอรู้ไหม เวลาเข้าครัวถ้าทำหบ้าบูดบึ้ง วันนั้นจะกินข้าวไม่อร่อย และยังท้องเสียด้วย” ม่านอวี้อันเอ่ย แน่นอนว่าผิงกั่วเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่าย เขาเลยพยายามยิ้มกว้าง แต่ภาพที่เห็นดูเหมือนอยากร้องไห้มากกว่า “ผะ ผิงยิ้มเป็น” ผิงกั่วเอ่ย ท่าทางเขาประหม่ามิน้อย “ใช่ลูกรั
Back to 1986 สิ่งที่ลี่ฮุ่ยเอ่ยขึ้นมานั้นสร้างความประหลาดใจแก่ม่านอวี้อัน ซึ่งหลังจากนั้น สตรีวัยกลางคนก็ได้ถือวิสาสะก้าวพรวด ๆ เข้าไปในบ้าน! “ป้ารู้หรอกนะ คุณนายมือบางตีนบางอย่างเธอจะทำอะไรเป็น พอถูกจับได้ว่าคิดขายลูกให้แก๊งมังกรซิ่งก็ทำสำออย ล้มหมอนนอนเสื่อ” ม่านอวี้อันไม่ตอบ เธออยากรู้หลายสิ่ง ซึ่งหากจะให้ดีก็ควรมาจากปากของลี่ฮุ่ยคนนี้ “ระวังคำพูดบ้างป้าลี่ กล่าวหาแบบนี้มันเกินไปหน่อย” เยว่จือทนไม่ไหวเลยต่อว่าลี่ฮุ่ย ม่านอวี้อันยกมือห้ามเยว่จือ เด็กสาวเลยเก็บปากเงียบ “เฮ้อ คุณนายอัน อย่าหาว่าสอนเลยนะ เธอน่ะ เปิดร้านอาหารไม่รุ่งหรอก ทางที่ดีหัดรับจ้างซักผ้า หรือไม่ก็ยอมเหนื่อยหน่อย รับงานร้อยดอกไม้หรือพับถุงกระดาษขายคงพอมีเงินซื้อข้าวสาร ซื้อไข่อยู่บ้าง อย่าได้รักสบายไปหน่อยเลย สงสารนังหนูเยว่จือบ้าง อีกสักหน่อยมันคงต้องออกเรือน ไม่อยู่ให้เธอกดหัวใช้งาน” เยว่จือส่ายหน้าเร็วหวือ เธอไม่เคยคิดเช่นนั้น ม่านอวี้อันไม่เคยใจร้ายต่อเธอ อีกทั้งก่อนหน้านี้ บิดาและมารดาอีกฝ่ายก็เป็นคนรับเธอมาอุปการะ เพื่อให้เธอไม่ต้องถูกขายในซ่อง!
ม่านอวี้อันยืนอยู่เบื้องหน้าทุกคน เธองามสง่าราวกับนางพญาที่พร้อมออกรบ เป็นกุนซือหญิงผู้คอยออกคำสั่งให้แม่ทัพ จัดการฆ่าศึกอย่างโหดเหี้ยม “ร้านเล็ก ๆ ของเรายินดีรับใช้ พี่ถัง และอาอิง รวมถึงเป็นเกียรติยิ่งนัก ที่พี่น้องในแก๊งมังกรซิ่งมาเยี่ยมเยียน” น้ำเสียงเจ้าของร้านกังวาน ไม่แข็งกร้าว หากแต่น่าฟัง กระนั้นก็เปี่ยมด้วยความถือตัวและจองหองอยู่ในที เมื่อก่อนม่านอวี้อันไม่เคยเป็นเช่นนี้ นั่นคือสิ่งที่ทำให้ทุกคนเกิดข้อสงสัยในใจ “คุณนายอัน พูดเสียอย่างนี้ลูกน้องอั๊วตกใจหมด พวกเราล้วนเป็นคนกันเองแท้ ๆ” ม่านอวี้อันยิ้มหวานหยด แต่ไม่ใช่รอยยิ้มยั่วยวน และไม่รู้เหตุใดทุกคนที่อยู่ที่นั่งโต๊ะซึ่งต่อยาวกันไปนั้นถึงเสียวสันหลังวาบ ๆ ร้านอาหารนี้กลายเป็นบ้านผีสิงตั้งแต่เมื่อไร “ขวัญอ่อนกันจริงเชียว เป็นหนุ่มฉกรรจ์แท้ ๆ ระหว่างที่กินอาหารไป วันนี้เป็นโอกาสดี ด้วยมีการถ่ายทอดชกมวยสากล ฉันกำลังเชียร์อยู่หลายคน อย่างไรขอเปิดทีวีเครื่องเล็ก ๆ ไปด้วยนะพี่ถัง หวังว่าจะไม่สร้างความรำคาญ...” “แล้วแต่คุณนายเถอะ...” ไห่ถังตัดความเรื่องมากของหญิงสาวทิ้ง และอย
ยกที่หนึ่ง แก๊งมังกรซิ่งดูแลเมืองเก่ามาหลายปี ก่อนหน้านั้นมีเหตุนองเลือดอยู่บ่อย ๆ กระทั่งผลักดันกลุ่มชาวต่างชาติย้ายไปฝั่งเมืองใหม่ได้สำเร็จจึงสงบขึ้น กระนั้นก็มีกลุ่มอิทธิพลมากมายที่พยายามเข้ามายึดถนนเนี่ยอิน หากสุดท้ายไห่ถังรวบรวมพรรคพวกได้เยอะที่สุดจึงได้ดูแลที่นี่ โดยมีเจ้าพ่อเหวินเฉียงเป็นประมุขของแก๊งมังกรซิ่ง ซึ่งฝ่ายนั้นสืบทอดอำนาจมาจากบิดาเขาอีกที เมื่อไห่ถังมาถึงหน้าร้านอาหารของม่านอวี้อัน เขาก็ต้องงงเป็นไก่ตาแตก เกิดอะไรขึ้นกับร้านเก่าแก่แห่งนี้ เมื่อก่อนเจ้าของคือชายชาวต่างชาติ อีกฝ่ายขายให้กับม่านอวี้อันในราคาแสนถูกเพื่อตอบแทนความดีของเธอที่ดูแลภรรยาเขาก่อนสิ้นใจ ยามนี้กลับมีธงเล็ก ๆ และภาพนักกีฬาที่ส่งไปแข่งขันชิงเหรียญต่าง ๆ ในกีฬาระดับชาติติดหน้าร้าน ม่านอวี้อัน วางแผนสิ่งใดอยู่ โดยเฉพาะการเขียนป้ายเชียร์ ‘ไทสัน’ นักมวยที่ต้องบอกว่า เวลานี้ไร้ชื่อเสียง “นังคุณนายคงเพี้ยนจนหาเรื่องเล่นตลกสินะ” ไห่ถังว่า ก่อนกวาดตามองพื้นที่ของร้าน เขาพอใจมาก มีลานกว้างด้านหน้า และยังมีทางเข้าหลายทาง อีกทั้งตั้งอยู่ตรงกลางถนนเนี่ยอิน รถผ่านไปมาอยู่ตลอด
“ป้าลี่... มั่นใจอย่างไรว่านังจิ้งจอกอวี้อันไม่ได้วางแผนหลอกใช้เรา” ลี่ฮุ่ยหรือจะยอมให้เด็กรุ่นลูกมาถอนหงอกตัวเอง ไม่มีทางเสียละ การที่หล่อนคบค้ากับโรสเพราะเถ้าแก่โจวเป็นคนกว้างขวาง ส่วนเด็กน้อยคนนี้ หล่อนแค่ใส่หน้ากากพูดจาดีด้วย อย่างน้อยที่สุดโรสก็ไม่คิดอยากได้ผลประโยชน์ใด ๆ จากหล่อน ให้ดีหน่อยก็แค่แข่งขันอวดร่ำอวดรวยและความสามารถของตนเท่านั้น “โถ หลอกใช้อะไรกัน แบบนี้เขาเรียกยื่นหมูยื่นแมว ป้าก็เห็นว่าคุณนายอันเปิดบ้านให้เราดูเธอทำขนม แล้วนั่น ไอ้บราวนี่ก็น่าสนใจ ป้าเคยกินนะ ถึงจะนานแล้ว เป็นขนมพวกคนหัวทอง ตาสีอ่อน มันไม่ใช่เค้กนุ่มฟู เรียกว่าคุกกี้บาร์คงได้ เนื้อแน่นหนึบ มีความฉ่ำ รสก็เข้มข้น และบราวนี่ยังติดหนึ่งในสิบขนมฮิตตลอดกาลอยู่เสมอ ว่าแต่น้องโรสเถอะ เรียนโรงเรียนนานาชาติแท้ ๆ ทำไมยังเรียกชื่อขนมผิดอีก!” ตอนนั้นเองที่โรสอยากจะกรี๊ด เธอเสียหน้า แต่ยังอดทนไว้ได้ ก่อนจะชะเง้อคอมองอาหารที่ลี่ฮุ่ยเตรียมนำขึ้นโต๊ะเย็นนี้ “ฉันไม่ชอบกินของหวานและพวกอาหารขยะ ทำไมฉันต้องเหลือบแลบราวนี่ด้วย ส่วนป้าล่ะ... เย็นนี้จะทำอาหารพื้น ๆ อะไรมาให้ขายหน้าคนอื่น!”
เตรียมอาหารเลี้ยงวันเกิด ม่านอวี้อันปล่อยให้ลี่ฮุ่ยและสมาคมแม่บ้านทั้งหมดทำอาหารของพวกหล่อนไป ส่วนหญิงสาวเตรียมอุปกรณ์พร้อมเช็กเตาอบเพื่อดูอุณหภูมิให้คงที่ สิ่งที่เธอจะลงมือต่อจากนี้คือบราวนี่และไอศกรีมรสกะทิ กลุ่มแม่บ้านดูจะสนใจอยู่หรอก แต่พวกเธอคิดว่ามันไม่ได้ทำยากเย็นอะไร เนื่องจากถนนเนี่ยอินมีรถเข็นขายไอศกรีมอยู่สองเจ้า และโรงทำไอศกรีมก็อยู่ในซอยนี้ รสชาติพื้น ๆ หอม หวาน มัน ไม่มีสิ่งใดพิเศษ แต่สิ่งที่ไม่ว่าจะเป็นโรสหรือลี่ฮุ่ยคอยชะเง้อคอยืดคอยาวมองหญิงสาวคือ การทำบราวนี่ แต่รอดูอยู่นาน ม่านอวี้อันก็ไม่ลงมือเสียที! ลี่ฮุ่ยจึงได้แต่ทำท่าทีฮึดฮัด ส่วนโรสพ่นลมหายใจร้อน ๆ อยู่หลายหนและเริ่มคิดว่านังจิ้งจอกม่านอวี้อันกำลังวางแผนร้ายหลอกใช้พวกตนอยู่หรือไม่ เพราะเค้กกล้วยหอมก็ยังแกะสูตรอีกฝ่ายไม่สำเร็จ แถมตอนนี้ยังต้องมาแข่งกันทำอาหารเลี้ยงงานวันเกิดให้เจ้าอิง น้องสาวไห่ถังอีก ในเวลานั้นเซียงเจียวกับผิงกั่วเรียนเขียนตัวอักษรมาเกือบชั่วโมงแล้ว พวกเขาเลยได้รับอนุญาตให้เข้ามาดูในครัว แต่ทำได้เพียงแค่ดูเท่านั้น เพราะม่านอวี้อันยังไม่อยากให้เด็ก ๆ ช่วยงานในวันนี้ เนื่อ
คุกกี้ไอศกรีม ม่านอวี้อันให้การต้อนรับกลุ่มแม่บ้านของลี่ฮุ่ยตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงเที่ยง จากนั้นจึงให้ทุกคนพักกลับไปกินข้าวที่บ้านและดูแลสิ่งต่าง ๆ ตามหน้าที่ของพวกหล่อน และเป็นเช่นนี้มาเกือบสองวันแล้ว นับแต่ทุกคนอดทนแช่เค้กกล้วยหอมของเธอในตู้เย็นเพื่อกินในเช้าวันรุ่งขึ้น ผลที่ได้รับก็นับว่าเป็นไปตามที่ม่านอวี้อันวางแผน ซึ่งมันเหนือความคาดหมายมิน้อย เพราะเธอให้เยว่จือนำขนมอีกอย่างไปให้สมาคมแม่บ้านไพ่นกกระจอกกินด้วย มันคือ ‘ไอศกรีมคุกกี้’ เป็นของแปลกใหม่ ทั้งยังมีส่วนผสมง่าย ๆ จากแป้งเค้ก น้ำตาลไอซิ่ง เนย ผงต่าง ๆ แล้วก็ช็อกโกแลตสับหยาบ ๆ ซึ่งสูตรนี้เธอไม่ได้ใส่ไข่ไก่ลงไป แต่ถึงจะมีส่วนผสมแบบพื้นฐาน รสชาติก็กำลังดี ไม่หวานจัด ทั้งเข้มข้น กินเล่นได้ หรือจะกินรองท้องในมื้อเช้ายิ่งเหมาะ แถมหน้าตาเหมือนไอศกรีมก้อนที่ตักขายใส่ในขนมปังที่กำลังได้รับความนิยมช่วงนี้ เมื่อเอ่ยถึงขนมคุกกี้ไอศกรีมดังกล่าวแล้วก็ต้องยกความดีให้กับแจ็คสัน เพราะในถุงกระดาษใบใหญ่นั้น เขาใส่ผงกาแฟบด ผงโกโก้ ช็อกโกแลตแท่ง ทั้งยังมีบรั่นดีที่เหมาะสำหรับทำอาหาร รวมถึงแยมสตรอว์เบอร์รี พลอยให้เธอแปลกใ
“เอ๋ นะ นายคือลุงผี!?” ในที่สุดม่านอวี้อันก็หลุดชื่อคนตัวโตออกไป ซึ่งผู้ชายคนนี้ส่งกระแสคุกคามกลับมาถึงเธอ เขาไม่ได้ดูสุภาพอย่างอีธาน แฟนหนุ่มผู้แสนดีที่ต้องคอยรองรับอารมณ์ร้าย ๆ ของหญิงสาวอยู่หลายปี และนั่นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องน่ากลัวจนพรากลมหายใจของ ลิซ่า จาง ให้หลุดลอยกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนเข้ามาอยู่ในร่างนี้ ม่านอวี้อันสูดลมหายใจลึก เธอย่อมรู้ดีว่าโลกใบนี้ไม่มีอีธาน คนแสนดีสองหน้า ผู้ชายที่กล้าหักหลังเธออย่างเจ็บแสบ! ส่วนผู้ชายที่ยืนมาดเท่อยู่ตรงหน้านั้นเป็นคนที่ไม่ควรอยู่ใกล้หรือไว้ใจ กระแสคุกคามอันรุนแรงที่แผ่ออกมาจากเรือนร่างสูงใหญ่ทำให้ม่านอวี้อันคล้ายถูกหมัดใหญ่ ๆ น็อกกลางอากาศ “อาอัน เธอสวยขึ้นจนผิดหูผิดตารู้ไหม” ชายหนุ่มพูดตามความจริง ความเจ้าเนื้อของเธอหายไป ยามนี้เขาแปลกใจกับท่าทางที่ดูไม่ปกติสักเท่าไรของม่านอวี้อัน ประหนึ่งเธอกระโดดออกมาจากตัวละครร้าย ๆ ในทีวีที่ชอบส่งเสียงสูง ๆ วางสีหน้าหงิกงอบ่อยครั้ง ทว่าดูมีสีสันชวนให้ค้นหา ทั้งเธอยังดูมีชีวิตชีวาคล้ายสมองกำลังคิดสิ่งต่าง ๆ ไม่หยุด มันจึงทำให้เขารู้ว่าเธอเองก็อยากมีชีวิ
สองวันต่อมาอันที่จริงม่านอวี้อันนอนหลับไม่สนิทในตอนกลางคืน ทั้งที่ห้องนอนนี้โล่ง สะอาด อากาศถ่ายเทสะดวก ส่วนลูกชายทั้งสองคนก็นอนที่ห้องของพวกเขา เยว่จืออยู่ห้องส่วนตัวติดครัว และถึงแม้เธอจะได้นอนห้องใหญ่ที่อยู่ปีกทางซ้ายของบ้านซึ่งมีห้องน้ำในตัว แต่สาเหตุของการนอนไม่หลับ นั่นเป็นเพราะกังวลใจ ยิ่งถามถึงเรื่อง ‘กู๋กุ่ย’ กับเยว่จือ ม่านอวี้อันก็พลอยใจคอไม่อยู่กับเนื้อตัว อีกทั้งท่าทางแปลก ๆ ของผิงกั่วก็ยิ่งทำให้เธอมั่นใจในคำพูดของเยว่จือ มีผู้ชายซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังนี้ ผู้ชายที่ลูก ๆ ของเธอเรียกเขาว่า ‘กู๋กุ่ย’ หรือ ‘ลุงผี’ เขาเป็นแมวที่ไม่ได้คิดมาขโมยกินข้าวของในบ้าน แต่มีแผนร้ายอื่นแอบแฝง และม่านอวี้อันต้องสืบค้นต้นสายปลายเหตุให้ได้ “เธอพูดเหมือนลุงผีนั่นคุ้นเคยบ้านหลังนี้ดี” เยว่จือมองม่านอวี้อันอย่างไม่เชื่อหูตนเองว่าคุณผู้หญิงจะถามเช่นนี้ “มาดามลืมทุกอย่างจริง ๆ เหรอคะ ทั้งที่เป็นคนป้อนยา ลากเขาเข้าบ้าน แถมเอ่อ... อาบน้ำ โกนหนวดเครา และตัดผมให้เขาด้วย” “อย่าซี้ซั้วพูด ฉะ ฉันจะไปทำเรื่องพรรค์นั้นได้ยังไง” “แหม มาดามทำไปแล้ว แถมยังเป็นคนซ่อนกู
แมวตัวผู้ หลบอยู่ในบ้านลูกกวาด เยว่จือกำลังดูแลสองแฝดในครัวที่กำลังมีความสุขมากกับอาหารง่าย ๆ ที่ม่านอวี้อันทำให้ พอเด็กสาวเห็นม่านอวี้อันถือของกินเข้ามา เธอจึงกุลีกุจอไปช่วยถือ ขณะนั้นเด็กชายทั้งสองต่างมองตาโต พวกเขาคิดว่าวันนี้คงเป็นปีใหม่หรือวันเด็ก แม่ถึงได้รับของแจกเข้าบ้านเยอะแยะไปหมด “มัมมี้ ให้น้องช่วยไหม” เซียงเจียวยิ้ม ดวงตากลมโตของเขาเป็นประกาย “ไม่เป็นไรเจียวเกอ กินข้าวให้เรียบร้อย เวลาเคี้ยวอาหารต้องไม่พูดนะจ๊ะ เดี๋ยวติดคอ” เซียงเจียวพยักหน้ารับคำม่านอวี้อัน ส่วนผิงกั่วหันมามองเธอ สายตาเขาดูมีพิรุธอยู่สักหน่อย “เอ ผิงเกอ ไม่ชอบไข่ข้นกับมันฝรั่งบดเหรอลูก กินหมี่ผัดกับไก่ย่างไหม ป้าลี่เอามาฝาก” เธอบอกลูกคนโตแล้ววางจานอาหารที่ลี่ฮุ่ยเอามาให้ลงบนโต๊ะ เด็กชายไม่ตอบแต่หันไปมองไก่ย่าง พอเห็นน้องชายหยิบขาไก่ขึ้นกัด เขาจึงเลือกชิ้นที่ชอบแล้วนั่งกินเงียบ ๆ ผิงกั่วของเธอช่างเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย “มาดามเรียกอาหารเข้าบ้านได้จริงด้วย นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ” เยว่จือถาม เด็กสาวตื่นเต้นไม่แพ้ฝาแฝด ม่านอวี้อันไม่ใช่เทพเซียนหรือน
จับผิดนางจิ้งจอก เมื่อขนมหมดลง พร้อมความหอมหวานที่ติดอยู่ในปาก เซียงเจียวก็ทั้งเลียมือและดูดนิ้ว จากนั้นประตูห้องนั่งเล่นก็มีเสียงหมุนลูกบิด! ผิงกั่วใจหล่นหายเขายืนนิ่งค้างราวกับสมองหยุดสั่งงานไปเสียดื้อ ๆ “อ๊ะ... เฮียผิง!” เสียงเล็กแหลมของน้องชายแผดดังเรียกสติ จากนั้นผิงกั่วจึงไม่รอช้า เขารู้ว่าแม่ไม่อยากให้ลุงผีมาที่บ้านอีก ผู้ชายตัวโตคนนี้เคยทำให้แม่ยุ่งยากใจทั้งยังเสียน้ำตาหลายหน แล้ววันนี้เขาได้ทำเรื่องน่าละอาย เผลอกินของจากอีกฝ่าย ไม่ได้การละ เขาจะทำให้แม่เสียใจไม่ได้ แม่คือโลกทั้งใบของผิงกั่ว เขาจะไม่ทำให้แม่เสียใจ! ร่างของคนเจ้าเนื้อพุ่งไปยังประตูเพื่อขวางไม่ให้คนเปิดเข้ามาได้ “ไม่!” เด็กชายร้องอยู่สองสามหน และนั่นทำให้คนที่อยู่ด้านนอกแปลกใจ “เด็ก ๆ เกิดอะไรขึ้น!” ม่านอวี้อันใจเสียและร้อนรน เธอพยายามหมุนลูกบิด แต่เหมือนจะมีปัญหา “ผิงเกอ เจียวเกอ!” หญิงสาวเรียกลูกชายและปล้ำลูกบิดประตูเฮงซวยอยู่เกือบอึดใจใหญ่ ๆ กระทั่งมันเปิดออกได้ ซึ่งเป็นวินาทีเดียวกันกับที่ผิงกั่วโผเข้าไปกอดม่านอวี้อัน ส่วนน้องชายก็แสร้งร