บันทึกของหมอพะนาย
หมอพะนาย ธีรพิชญ์ หลี่หมิง นักศึกษาแพทย์ปี 3 อายุ 21 ปีรูปร่างสูงหุ่นดีตามสไตล์ผู้ชายออกกำลังกายหน้าตาหล่อเหลาเป็นลูกครึ่งไทยฮ่องกง ที่บ้านทำธุรกิจสถานบันเทิง มีสาขาทั้งในประเทศไทยและฮ่องกงปู่เป็นเจ้าพ่อกาสิโนที่ฮ่องกง ทั้งบ้านมีพี่น้อง 3 คน เขาเป็นลูกคนกลาง มีพี่ชายชื่อ พะนา อายุ 25ปี น้องสาวชื่อพะนาง อายุ18ปีเรียนอยู่เกรด 12ไฮสคูลที่ฮ่องกงอยู่กับปู่ตั้งแต่อายุ 16 ที่พวกเขาสามพี่น้องมีชื่อแบบไทยกันทุกคนเพราะต้นตระกลูของแม่เขาเป็นขุนนางในวังเลยอยากให้พวกเขาพี่น้องมีชื่อเล่นแบบไทยกันทุกคน ที่เลือกเรียนหมอทั้งที่บ้านทำธุรกิจสีเทาเพราะชอบอยากช่วยเหลือคน
กลับสู่ปัจจุบัน
ที่มียัยผู้หญิงขี้เมามาอ้วกใสเสื้อแถมหลับหนีความผิดไปแล้ว
“เอาไงดีวะเนี้ย” เขาหยิบโทรศัพท์โทรออกไปหาไอ้พี่รหัสตัวดีของยัยขี้เมาเพื่อจะถามหมายเลขห้องยัยขี้เมา
“ตูด…ตูด…ตูด… ติ๊ด!”
“อ้าวไอ้เพื่อนเลวแค่เสียเวลาที่เคลียร์กับเมียมารับโทรศัพท์เพื่อนชักนิดก็ไม่ได้ แม้ง!” พอไม่รู้จะเอายังไงผมเลยตัดสินใจพายัยขี้เมาไปนอนที่คอนโดผมแล้วกันพรุ่งนี้มีเรียนเลคเชอร์ตอนแปดโมงเช้าอีก ในขนาดที่คณะอื่นเขายังไม่เปิดเรียนที่นอกจากมีกิจกรรมรับน้อง แต่คณะผมเปิดเรียนแล้วนี่แหละชีวิตนักศึกษาแพทย์
“ยัยขี้เมาตื่นๆ” ผมพยายามปลุกยัยขี้เมาให้ตื่น
“ครอกZZZ” ดูจากอาการหลับลึกมากของยัยขี้เมาผมคิดว่าคงต้องอุ้มเข้าไปในห้องแล้วแหละ
“ปึง!!!” ผมโยนยัยขี้เมาลงบนเตียงในห้องนอนรับแขก คอนโดผมเป็นคอนโดที่มีสองห้องนอน ปกติผมจะนอนอีกห้อง ส่วนห้องนี้จะเป็นเพื่อนๆ ผมที่มาค้างด้วยที่มานอน
“อ้าวเฮ้ยลืมอ้วกเต็มเสื้อเลยนี่เตียงก็เละอ้วก เอาไงดีวะ” สุดท้ายผมก็เลยตัดสินใจเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ยัยขี้เมาแล้วก็อุ้มไปนอนที่ห้องนอนผมแล้วไปอาบน้ำนอนจะตีสองแล้วเรียนแปดโมงรีบนอนเลย ไม่ต้องห่วงที่จะมีเวลามาคิดหื่นกับยัยขี้เมาคนสวยถึงแม้จะเห็นทั้งตัวแล้วก็ตาม อารมณ์ตอนนี้คือ
“เฮ้อเสร็จชักทีเหนื่อยโว้ย” แล้วจากนั้นคือหลับเป็นตาย
07.45 นาที
"กรี๊ดดดดดดดดดดด ฉันมาอยู่บนเตียงนี้ได้ยังไงไอ้ชั่วไอ้เลวแกทำอะไรกับฉัน"อารมณ์เหมือนโดนซาตานสุดหล่อป้นสวาท กำผ้าหุ่มไว้แน่น กลัวจนตัวสั่นไปหมดน้ำตาคลอเบ้า >>>หยุดดด!ความคิดมโนไว้ค่าความจริงเหตุการณ์ปัจจุบันคือ...
"อ้าวน้องตื่นแล้วเหรอครับ"ผู้ชายอะไรโคตรหล่อ (เดี๋ยวๆ ไม่ใช่แล้ว) พี่เขา (...ซึ่งไม่รู้จักชื่อเดินออกมาจากห้องน้ำ แต่งตัวชุดนักศึกษาถูกระเบียบเชียวสงสัยพี่เขาจะไปเรียน
"เออออ" เอ่อถึงกับพูดไม่ออก
"พอดีพี่รีบไปเรียนน้องจะกลับตอนไหนแล้วล็อกห้องไว้ให้พี่ด้วยนะครับ แล้วเจอกัน"พอพูดจบ พี่เขาก็รีบวิ่งออกไปจากห้องทันที
"อย่างนี้ก็ได้เหรอวะเนี้ยงง แล้วตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกับฉานนน"นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี้ยแล้วทำไมฉันมานอนที่นี่แล้วชุดที่ใส่นี่คืออะไร แต่ก็แน่ใจว่าผู้ชายคนเมื่อกี้พี่เขาไม่ได้ทำอะไรกับฉันเลย
แต่เดี๋ยวนะ!เท่าที่จำได้เมื่อคืนฉันไปกินเหล้าที่ผับกับพี่โจรป่าแล้วพี่โจรป่าก็งานเขาแล้วฉันก็ไปเต้นกับเจ้น้ำผึ้ง มีผู้ชายมาจีบเจ้แล้วพี่โจรป่าก็หึงจนไปต่อยเขา แล้วฉันก็จำได้รางๆ ว่าพี่คิงฝากให้เพื่อนมาส่งฉันแล้วฉันก็รู้สึกเหมือนตัวเองอ้วกแล้วอะไรอีกเนี้ย...
แต่เดี๋ยวนะอ้วกเหรอตายแล้วอ้วกใส่พี่หน้าหล่อ คนสวยทำอะไรลงไปอย่างนี้จะกล้ามองหน้าพี่เขาไหมเนี้ยโอ๊ยทำไงดี
“.....Trrrrrrrrrr....” ในขนาดที่กำลังนั่งคิดเรื่องเมื่อคืนอยู่ ก็มีคนโทรมาว่าแต่โทรศัพท์ฉันอยู่ไหนเนี้ยได้ยินเสียงมาจากที่ใกล้ๆ เตียงนี่แหละแต่หาไม่เจอ ลุกจากออกจากเตียงเพื่อเดินรอบห้องเพื่อหาโทรศัพท์
“เจอชักที ฮัลโหล~~~” คนที่โทรมาคือติวเตอร์ สงสัยมันจะชวนไปหาข้าวเช้ากินกัน
“อยู่ไหนเนี้ย ฉันกับไอ้แสตมป์มายืนกดกริ่งรอแกที่หน้าห้องแกจนคนข้างห้องแกจะออกมาด่าอยู่แล้วนะ เมื่อคืนไม่ได้กลับมานอนห้องเหรอว่ะ” ไอ้ติวเตอร์โวยวายมาตามสายอย่างหงุดหงิดที่รอนาน
“เอ่อดิตอนนี้อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ เดี๋ยวล้างหน้าแล้วจะโทรหาให้มารับนะรอแปบ”
“อ้าวจริงเอ่อๆ แล้วเล่ามาให้หมดนะว่าไปทำอะไรมาเมื่อคืน”
“โอเคแค่นี้แหละ” ฉันกดวางสายจากเพื่อนแล้วรีบ เข้าไปจัดการธุระส่วนตัวในห้องน้ำ...
ณ.ร้านMK
หลังจากที่ติวเตอร์มารับฉันที่คอนโดพี่หมอพะนายเพื่อนพี่หน้าโจรป่า
ฉันก็ไปอาบน้ำที่คอนโดแล้วมาหาอะไรกินที่ห้างใกล้ๆมหาลัยสาเหตุที่เลือกร้านเอ็มเคเพราะแสตมป์มันจะเลี้ยง!!! ของฟรีฟองจันทร์ชอบมากค่าถึงจะกินบ่อยมากแต่ก็กินได้เหมือนเดิม
“ตกลงไปนอนที่คอนโดนั้นได้ยังไงเล่ามาเลย...” พอพวกเราสั่งอาหารกันเสร็จ ติวเตอร์ก็เข้าประเด็นทันทีบอกแล้วว่าอย่าให้มันได้พูดจิกกัดไม่ปล่อยถ้าไม่กระจ่าง
“คือเมื่อคืนก็ไปกินเหล้ากับพี่คิงและพี่น้ำผึ้งพี่สายรหัสฟองไงที่ชวน แล้วพวกแกไม่ว่างแล้วอยู่ๆพี่คิงก็ดันมีชะนีมาอ่อย ที่นี่พี่คิงกับเจ้น้ำผึ้งพวกเขาสองคนกำลังคบเป็นแฟนกัน เลยเกิดระเบิดลงที่พี่คิงเจ้น้ำผึ้งเลยลากฟองไปเต้นตามประสาสาวๆ เราเลยกินเหล้าจนเมาหนักทั้งคู่” เล่าไปเรื่อยแบบเป็นเรื่องปกติ เอ่อก็มันเป็นเรื่องที่แปลกตรงไหนไปผับก็ต้องไปกินเหล้าและเต้นจะให้ไปสวดมนต์ก็ไม่ใช่เรื่อง
“อ้าวแล้วพี่คิงมันทำไมไม่ไปส่งแกที่คอนโดวะฟองจันทร์!” แสตมป์มันทำหน้าแบบอยากเผือกมากถึงมากที่สุด มันบอกกับฉันทางสายตาว่าเรื่องมันยังไม่จบแค่นั้นแน่นอน
“คือแบบนี้พอไปเต้นตามประสาสาวๆ เจ้น้ำผึ้งก็มีผู้ชายเข้ามาจีบ พี่คิงแกเกิดหึงโหดมาจากที่รับน้องมาก็รู้ๆ กันอยู่ว่าเฮียแกโหดขนาดไหนพี่คิงเลยให้เพื่อนพี่แกไปส่งฉันแล้วไม่รู้ไปไงมาไง ฟองก็ตื่นมาอีกทีที่คอนโดพี่เขาเลยให้พวกแกสองคนไปรับเมื่อเช้านั่นแหละ”
“เฮ้ยแล้วแกไม่โดนทำอะไรใช่ปะ” แสตมป์มันถามด้วยสีหน้าตื่นตกใจจนดูโอเวอร์
“ใจเย็นคะ เพื่อนยังอยู่ครบทุกอย่างไม่ได้โดนทำมิดีมิร้ายอะไรหรอก ไม่ต้องห่วงนะไอ้เพื่อนแสตมป์” ฉันพูดไปก็คีบหมูที่สุกแล้วกินไป
“หึ!ไอ้แสตมป์ก่อนที่แกจะไปห่วงไอ้ฟอง แกควรห่วงพี่เจ้าของคอนโดดีกว่าไหมไม่รู้ว่าเมื่อคืนโดนมันพยายามปล้ำหรือเปล่าวะยิ่งมันโสดมาจะเป็นปีอยู่แล้วของอาจจะขาดก็ได้นะเว้ยฮ่าๆ” ไอ้ติวเตอร์บางทีแกเงียบๆ ปากไปก็ได้นะโว้ย ฟังอย่างเดียวก็ไม่มีใครว่าหรอกนะว่าเป็นใบ้
“ไอ้เพื่อนเลว คนอย่างฟองจันทร์คนนี้ไม่มีทางจะปล้ำใครก่อนหรอกนะเว้ย”
“ไงครับ! น้องฟองจันทร์ล็อกห้องให้พี่หรือยังครับ” ก่อนจะเกิดศึกน้ำลายระหว่างฉันกับไอ้ติวเตอร์อยู่ๆ ก็มีเสียงทักทายอันไม่คุ้นหูมาเบรกศึกระหว่างเพื่อนให้หยุดลงอย่างกะทันหันพวกเราทั้งสามคนหันหน้าไปมองทางโต๊ะข้างที่พึ่งเข้ามานั่งอย่างพร้อมเพรียงกันว่าเสียงที่พูดทักทายฉันนั้นเป็นใครกัน