“พวกเราจะเอาไงกันดี ใครมีไอเดียอะไรเสนอไหม” ติวเตอร์พูดอย่างเป็นงานเป็นการตามหน้าที่ประธานสาขาเครื่องกล ปี1
“ป๋องแป้งแต่งหน้าทำผมเป็นแล้วก็รู้จักร้านเสื้อผ้าสำหรับละครแนวมนต์รักลูกทุ่ง” ป๋องแป้งที่นั่งอยู่ข้างนิดหน่อยยกมือเสนอความคิดเห็น
“งั้นให้ป๋องแป้งอยู่ฝ่ายแต่งตัวนักแสดงนะ”
“โอเคค่ะ”
“แล้วนักแสดงสมทบตามบทที่หามาคร่าวๆ ต้องการคนแสดงอีก 8 คน ขอผู้หญิง4คนผู้ชาย 4คนนะ” ติวเตอร์ทำการบ้านเร็วมากค่ะเพื่อนรายละเอียดหามาครบเลย จากนั้นก็มีทั้งเพื่อนที่อยากแสดงและเพื่อนที่โดนเพื่อนบังคับสุดท้ายก็ได้คนครบตามบท โดยนิดหน่อยเล่นเป็นสายใจตัวร้ายเสนอโดยป๋องแป้งเพื่อนรัก
“แล้วเรื่องฉากมีใครจะอาสาไหม” ติวเตอร์หน้าเครียดเชียวก็เพราะมันสำคัญและยากสุด
“เราวาดรูปได้เดี๋ยวรับเอง” บิ๊กเสนอตัวและก็มีเพื่อนอีกหลายคนที่พอมีฝีมือวาดรูปไปทำฉากกันหลายคนทีเดียว
“โอเคตกลงตามนี้นะส่วนเรื่องเงินจะคำนวณแล้วส่งให้ในไลน์สาขาแล้วเราค่อยมาออกเงินช่วยกัน แยกย้ายไปกันกลับไว้เจอกันวันเสาร์โอเค” หลังจากพวกเราตกลงกันเสร็จเรียบร้อยฉันก็กลับคอนโดโดยมีแสตมป์ไปส่งติวเตอร์มันประชุมกับประธานสาขาชั้นปี1น่าจะกลับดึกตอนนี้ฉันกำลังนั่งทำการบ้านแคลคูลัสอยู่โซฟาหน้าทีวีอย่างตั้งใจ ฟองจันทร์คนนี้จะเอาเอไปฝาก ม๊ากับป๊า
“.....Trrrrrrrrrr....” เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้น ใครโทรมาเนี้ยเบอร์แปลกๆ ด้วยใครนะ
“ฮัลโหลสวัสดีค่ะ” มีมารยาทนิดนึงเพราะไม่รู้ว่าปลายสายเป็นใคร
“ฮัลโหลน้องฟองจันทร์” เสียงผู้ชายเสียงเข้มๆ ออกจะเสียงแข็งไปนิด
“ใครคะ” นี่ก็เสียงคุ้นๆ แต่ก็นึกไม่ออกว่าปลายสายคือใคร
“พะนายครับ” พะพี่หมอพะนายจริงเหรอเนี้ย ฉันถึงกับยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูเบอร์แต่ก็เป็นเบอร์ที่ไม่ได้บันทึก คือพี่หมอพะนายจีบไอ้ฟองจันทร์คนนี้จริงเหรอเนี้ย
“น้องฟองจันทร์ยังอยู่ไหมครับ” เสียงพี่หมอพะนายช่วยเรียกสติฉันกลับคืนมา
“อยู่ค่ะแฮะๆ” ทำไมรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาอีกแล้วเนี้ยทั้งๆ ที่เปิดแอร์จนหนาว
“แล้วทำอะไรอยู่ครับ” เสียงพี่หมอพะนายยังคงเข้มแต่ทำไมฟองจันทร์ชอบ
“ฟองทำการบ้านแคลอยู่ค่ะ”
“อ้าวทำการบ้านอยู่เหรองั้นพี่ไม่กวนแล้ว แค่นี้นะ” อ้าวโทรมาแค่ถามคำถามเดียวนี้เหรอ แล้วจะเสียดายทำไมเนี้ย
“งั้นแค่นี้นะคะ”
“ฝันดีนะครับฟองจันทร์”
“ค่ะพี่หมอพะนาย” แล้วพี่หมอพะนายก็วางสายไปแต่ฉันยังนั่งยิ้มอยู่จนสะดุ้งเพราะไอ้แสตมป์วีดีโอคลอไลน์มาถามการบ้านแคล
ณ. ห้องแคล1
“โอ้ยเรียนเสร็จชะทีโว้ย” แสตมป์มันมีความโล่งทั้งๆ ที่ทั้งคาบมันนั่งแชทกับสาวๆ แต่ไม่ต้องห่วงเพราะเวลาทำการบ้านดันทำได้เบื่อในความฉลาดของมันมาก
“แสตมป์แกเคยจดตามที่อาจารย์สอนด้วยเหรอ”
“ก็คนมันขี้เกียจนี่น่าเอาหน้า คืนนี้แกไปนั่งชิวกับพวกฉันไหมฟองจันทร์ ไอ้ติวเตอร์ก็ไป” เพื่อนชวนเที่ยวเราควรไปเข้าสังคมบ้าง
“นิดหน่อย ป๋องแป้งไปนั่งชิวด้วยกันไหมคืนนี้”
“ไปๆ กันกี่โมงร้านไหน” ป๋องแป้งหันมาถามนิดหน่อยหันมาพยักหน้าตกลง
“เดี่ยวแชร์โลเคชันให้โอเคนะ” จากนั้นพวกเราก็เดินออกจากห้องกลับคอนโด รอเวลาออกไปเที่ยว
ร้านนั่งชิว
ตอนนี้ฉันอยู่ร้านนั่งชิว บรรยากาศที่นี่ตกแต่งแนววินเทจสวยมากมีสระว่ายน้ำขนาดเล็กตกแต่งด้วยเรือที่มีน้ำพุออกมาคลายน้ำตก ด้านข้างเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา
“แล้วเพื่อนแกเมื่อไหร่จะมา” แสตมป์ที่นั่งข้างๆ หันมาคุยด้วยวันนี้มันพาน้องมุกของมันมาด้วย
“นิดหน่อยก็เพื่อนแกเหมือนกันป่ะ ทำไมทำเหมือนไม่ชอบเขาหะ”
“หน้าอย่างกับแกงจืดใครจะชอบลง” มันมีเรื่องอะไรไม่เล่าให้ฉันฟังหรือเปล่าเนี้ย
“แกงจืดตรงไหน นิดหน่อยออกจะน่ารักวันก่อนก็มีผู้ชายคณะนิติมาจีบเลยนะแกอะตาถั่ว! แสตมป์” ฉันหัวเราะในความตาถั่วของเพื่อน
“ว่าไงนะมันเป็นใคร” ทำไมต้องเสียงดังทำท่าโมโหด้วยเนี้ย
“มาแล้วค่ะทุกคนนน ขอโทษนะที่มาช้าพอดีทำสวยอยู่” ป๋องแป้งที่เดินนำมาปากแดงมาก จัดเต็มมาเลยส่วนข้างหลังคือนิดหน่อยสวยเซ็กซี่นิดๆ มาเชียว
“เอานั่งๆ ทำไมนิดสวยจังเราจีบได้ไหม” บิ๊ก พูดขึ้นหน้าตาเยิ้มเชียว
“บ้าเป็นเพื่อนกันดีแล้วนะคะ”
“ฮ่าๆ แห้วว่ะ” เพื่อนเกือบ10คนในโต๊ะนั่งหัวเราะบิ๊กกันอย่างสนุกจากนั่นพวกเราก็ดื่มไปเมาส์ไปจนร้านปิดหลังจากที่แสตมป์มันมาส่งฉันแล้วก็เดินเข้าลิฟต์ด้วยอาการมึนนิดๆ พอลิฟต์มาถึงชั้นที่ฉันอยู่ก็เดินเซนิดหน่อยเข้าไปห้องแต่อยู่ๆ ก็ล้มลงจนชนประตูห้องตรงข้ามเสียงดัง
“ปัง!” ด้วยอาการที่ไม่ปกติก็พยายามลุกขึ้นแต่อยู่ๆ ก็มีคนพยุงตัวฉันขึ้นจากพื้น ฉันกำลังเงยหน้าขึ้นเพื่อขอบคุณเขา
“ไปไหนมาทำไมพึ่งกลับ แล้วกลิ่นเหล้านี่ไปกินเหล้ามาเหรอ” เขาบีบแขนฉันจนเจ็บแถมทำหน้าโหดใส่ ทำหน้าเหมือนฉันไปฆ่าใครตายมาอย่างงั้นแหละ
“พะพี่หมอพะนายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ” ฉันไม่ตอบคำถามแต่ถามพี่หมอกลับไปแบบงงก็คอนโดพี่เขาไม่ได้อยู่ที่นี่นิ
“ตอบพี่มาก่อน”
“ฟองจันทร์ไปนั่งชิวกับเพื่อนในสาขามาค่ะ” พูดจบก็ยิ้มหวานนำทัพไปก่อนแล้วกัน เหมือนพี่หมอพะนายจะอารมณ์ไม่ค่อยดีนะวันนี้
“เป็นผู้หญิงกินเหล้าบ่อยมันไม่ดีนะถึงจะเรียนวิศวะแต่ก็ไม่ควรกินบ่อยนะครับ”
“ค่ะพ่อหนูจะจำไว้นะคะ” ฉันพูดล้อเลียนเขา
“แล้วตกลงพี่หมอพะนายมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ แล้วนี่ใส่ชุดนอน” ก็ดูจากการแต่งตัวของพี่หมอที่แต่งตัวเหมือนคนเตรียมจะนอนเป็นใครก็ต้องสงสัยเป็นธรรมดา
“พี่อยู่ห้องนี้” พี่หมอพะนายชี้นิ้วไปที่ห้องที่เรายืนคุยกันอยู่หน้าห้อง
“จริงเหรอคะ แล้วคอนโดหรูที่ฟองจันทร์เคยไปนอนละที่นั่นคอนโดพี่ไม่ใช่เหรอ” คอนโดที่ฉันเคยไปนอนมันโคตรหรูแล้วทำไมพี่หมอต้องย้ายมาอยู่คอนโดธรรมดาด้วย
“พอดีที่นี่ใกล้มอ ช่วงนี้พี่เลิกแล็บดึกเลยหาคอนโดใกล้ๆ อยู่ขี้เกียจขับรถดึกๆ ไกลๆ มันเหนื่อย”
“ออค่ะ งั้นฟองจันทร์เข้าห้องก่อนนะคะง่วงแล้ว” ฉันกำลังจะหมุนตัวกลับไปห้องตัวเองโดนดึงแขนไว้ก่อน
“มีอะไรเหรอคะ” พี่หมอพะนายก้าวมาใกล้ฉันจนหน้าเราเกือบชนกัน ทำให้ฉันต้องผละออกไปชนประตูห้องตัวเองที่อยู่ตรงข้าม อยู่ๆ เขาก็ก้มลงมาจูบหน้าผากฉันแล้วกระซิบข้างใบหูของฉัน
“ฝันดีนะยัยขี้เมาของเฮีย” ลมหายใจอุ่นๆ กลิ่นมิ้นอ่อนๆ เป่าลดบนใบหูของฉัน
“ค่ะ ฝันดีเหมือนกันคะพี่หมอพะนาย” หลังจากพี่เขาผละออกจากตัวฉัน ฉันก็รีบเปิดประตูแล้วเข้าห้องไปอย่างรวดเร็ว ทำไมรู้สึกหน้าร้อนหัวใจเต้นเร็วเหมือนวิ่งมาชักหนึ่งกิโลเมตร
“ใจเย็นๆ ฟองจันทร์ตั้งสติหน่อย” ฉันพยายามหายใจเข้าลึกๆ เป็นอะไรเนี้ยทำตัวอย่างกับคนไม่เคยมีแฟน แค่ผู้ชายหน้าตาหล่อมากมาจีบทำไมต้องเขินขนาดนี้
จนแล้วจนตลอดเวลาจะตีสี่แล้วฉันยังคงนอนไม่หลับ ภาพที่พี่หมอพะนายบอกฝันดีมันทำให้ฉันหลอนมาก เขินจนอยากจะระบายให้เพื่อนฟังแต่รู้ว่าโทรไปตอนนี้คงไม่มีมนุษย์เพื่อนทั้งหลายรับสายชักคนแน่แต่ละคนเมาแล้วคงหลับเป็นตาย ก็คงมีแต่ฟองจันทร์คนนี้นี่แหละที่เป็นบ้าจนไม่หลับไม่นอนเขินจนเกือบจะเช้าแล้ว