"เพลงหิวรึยังลูก" อาหารบนโต๊ะถูกจัดวางไว้อย่างสวยงาม หน้าตาน่ากินมาก นึถึงเมื่อก่อนที่ครอบครัวของเรานั่งทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน ตอนนี้ไม่มีแล้ว คุณพ่อต้องไปทำงานต่างประเทศเพื่อส่งเงินมาให้ที่บ้านใช้จ่าย ส่วนแม่ก็ป่วยทำอะไรเองไม่ค่อยได้ยังดีที่มีเพื่อนบ้านแถวนั้นแวะเวียนมาอยู่เป็นเพื่อน
"นิดหน่อยค่ะคุณน้า เอ้ย คุณแม่"
"ไม่เป็นไรลูกแม่รู้ว่ายังไม่ค่อยชิน รอพี่เขาอีกหน่อยก็แล้วกัน อีกไม่นานก็คงจะถึงแล้วหล่ะ" เป็นลูกภาษาอะไรปล่อยให้แม่นั่งรอทานข้าว นี่ก็เกือบสิบนาทีเข้าให้แล้วยังไม่โผล่หัวมาอีก ก่อนหน้านี้ท่านก็บ่นกับฉันเหมือนกันว่าช่วงนี้เหงาๆ อยู่บ้านคนเดียว นั่งทานข้าวคนเดียวทุกวัน ออกแนวตัดพ้อซะมากกว่า ถ้าฉันมีแม่แบบนี้นะฉันจะไม่ยอมปล่อยให้ท่านอยู่คนเดียวแน่ๆ พูดไปก็คิดถึงแม่เหมือนกันไม่รู้ว่าป่านนี้จะกินข้าวหรือยัง
...............
"คุณผู้หญิงคะคุณหนูมาแล้วค่ะ " คุณหนูหรอ แหวะเรียกไปได้ยัง หนูบ้านหน่ะหรอตัวเหม็นๆ สกปรกๆ หยี ขนลุก
"เตรียมตักข้าวได้เลยแจ่ม"
"ไฮครับหม่ามี๊ คิดถึงจังเลย" ฉันไม่อยากจะหันหน้าไปตามเสียงที่ได้ยินเลย สร้างภาพชัดๆ
"มาแล้วหรอลูก มาทานข้าวกัน " ฉันแอบเห็นสายตาของคุณแม่ ท่านดูดีใจที่เห็นหน้าลูกชาย จะมีใครรู้บ้างว่าท่านรอคอยการกลับมาของทุกคนทุกๆ วัน ฉันสัมผัสได้ว่าท่านเหงา ท่านต้องการความอบอุ่นการดูแลเอาใจใส่
"นี่แม่ชวนเพื่อนมาทานข้าวด้วยหรอครับ ไม่เห็นบอกผมเลย " ห๊ะ อะไรนะเพื่อนแม่อย่างนั้นหรอ นี่ตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้ ป้าบ้านแกหน่ะสิสวยขนาดนี้ ใช้สมองหรือว่าส้นตีนคิดเนี่ย ความจริงฉันก็ไม่ค่อยจะยอมใครง่ายอยู่แล้วด้วย แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ก่อนเพราะที่นี่มันไม่ใช่บ้านของฉัน อีกอย่างเกรงใจคุณแม่ด้วยเดี๋ยวจะตกอกตกใจกับมาดโหดของเพลงพิณ
"นี่ทำไมปากร้ายแบบนี้ นี่เพลงพิณลูกสาวของเพื่อนแม่เอง จำน้องได้มั้ยลูก"
"เอิ่มมม อ๋อผมนึกออกแล้ว ยัยแว่นนั่นเอง นี่ยังใส่แว่นอยู่อีกหรอ " ฉันชักจะทนไม่ไหวกับคำพูดหมาๆ ของหมอนี่แล้วนะ ทำไมอ่ะ ฉันใส่แว่นแล้วมันทำไม ก็ดีมองฉันเป็นเพื่อนแม่นายก็ดีเหมือนกัน นายจะต้องไม่อยากแต่งงานกับฉัน คงไม่มีผู้ชายคนไหนชอบผู้หญิงเฉิ่มๆ แบบนี้หรอก
"ยังปากหมาเหมือนเดิม"
"เธอว่าอะไรนะ" พูดเบาแล้วยังจะหูดีเสือกได้ยินอีก ฉันไม่อยากหยาบคายสักเท่าไหร่แต่คนถ่อยปากหมาแบบนี้ไม่อยากจะสุภาพด้วยสักเท่าไหร่
"อย่าเรียกน้องแบบนั้นอีกนะ น้องออกจะน่ารัก นิสัยดีกิริยามารยาทก็งาม " รักคุณแม่จังเลย อย่างน้อยในบ้านหลังนี้ก็ยังมีคุณแม่ที่คอยเข้าข้างฉัน อ่อ ยังมีป้าแจ่มอีกหนึ่งคน คนอื่นๆ ฉันไม่รู้หรอกเพราะยังไม่ได้ใกล้ชิดพูดคุยด้วยสักเท่าไหร่
"แล้วนี่บ้านเขาไม่มีข้าวกินหรอครับถึงต้องมากินข้าวบ้านเรา"
"แสงเหนือ เอาหล่ะ ฟังแม่นะ ทานข้าวให้เสร็จแล้วแม่มีเรื่องจะคุยด้วย แล้วก็หยุดพูดแบบนี้กับน้องได้แล้ว เสียมารยาท" ฉันจะต้องอดทนกับคำพูดที่หลุดออกมาจากปากหมาๆ นี่ไปถึงเมื่อไหร่กัน อย่าให้ร่างจริงเปิดเผยนะแม่จะด่าให้ยับเลยคอยดู
"ครับแม่" จากนั้นป้าแจ่มก็ตักข้าว อาหารที่ป้าแจ่มทำอร่อยมากๆ เลย ที่จริงก็กินไม่ค่อยจะลงหรอกนะ แต่พอได้ชิมอาหารของป้าแจ่มไปก็เลยซัดไปซะสองจาน
"อร่อยมั้ยลูก สองจานเลย"
"อร่อยมากค่ะ "
"เอาหล่ะทั้งสองคนตามแม่ไปที่ห้องรับแขกนะ" ฉันยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มจากนั้นก็ลุกขึ้นเดินตามคุณแม่ออกไปห้องรับแขกทันที อยู่กับตานี้นานๆ เดี๋ยวได้ทะเลาะกันอีก
..............................................
"อะไรนะครับ จะให้ผมแต่งงาานกับยัยป้าแว่นหนาคนนี้ มี๊ครับ ผมไม่แต่ง" ฉันก็ไม่อยากแต่งหรอกย่ะ ทันทีที่ไอ้มาเฟียรู้ว่าจะต้องแต่งงานกับฉันก็ทำท่ากระฟัดกระเฟียดลึกขึ้นจากโซฟาด้วยความไม่พอใจทันที
"นั่งลงเดี๋ยวนี้ แล้วก็หยุดเรียกน้องแบบนั้นด้วย น้องชื่อเพลงพิณ "
"จะอะไรก็ช่าง ชื่ออะไรผมไม่สน มี๊กำลังคิดอะไรอยู่ " ฉันคิดว่าเขาจะใส่อารมณ์มากเกินไปละนะ คุณแม่ก็ยังคงพูดนิ่งๆ ผิดกับลูกชายที่เอาแต่เสียงดังแล้วใช้อารมณ์แบบไม่สนใจใคร
"มี๊ก็อยากให้เรามีครอบครัวสักที มี๊ไม่อยากให้เราทำตัวแบบนี้อีกแล้ว รู้มั้ยว่าบ้านหลังนี้มีผู้หญิงเข้าออกเป็นว่าเล่น มี๊ไม่ชอบ "
"ถ้าแม่ไม่พอใจเรื่องนี้เดี๋ยวผมจะจัดการเอง แต่ผมจะไม่ยอมแต่งงานกับยัยแว่นนี่เด็ดขาด"
"ได้ ถ้าไม่แต่ง ธุรกิจทุกอย่าง บ้าน รถ คอนโด มี๊จะยึดคืนให้หมด"
"มี๊ครับ "
"อย่าลืมว่ามี๊ยังไม่ได้ยกให้เป็นชื่อเรา มี๊ยังมีสิทธิ์อยู่ ก็แล้วแต่นะ คิดดูให้ดีๆ หนูเพลงขึ้นข้างบนกับแม่ดีกว่าลูกแม่มีอะไรจะให้ดู" เพิ่งเห็นคุณแม่เหี้ยมก็คราวนี้นี่แหละ นิ่มๆ แต่เชือดเจ็บนะคะ ทำเอาลูกชายสุดที่รักเสียงอ่อนไปเลย
........................................
ผมถึงกับหมดแรงเมื่อได้ยินคำขู่ของมี๊เมื่อกี้ ถูกเรียกตัวให้กลับบ้านด่วน เพราะเรื่องนี้เนี่ยนะ ผมต้องแต่งงานกับยัยป้าแว่นหนาจริงๆ หรอเนี่ย แค่เห็นหน้าก็หมดอารมณ์แล้ว บอกตรงๆ เลยว่าคนนี้ปี้ไม่ลงจริงๆ มี๊กำลังคิดอะไรอยู่ อยู่ๆ ทำไมถึงอยากให้ผแต่งงาน เฮ้ออ เครียดหว่ะ ถ้าเกิดผมต้องแต่งงานจริงๆ ไม่อยากจะคิด ชีวิตอิสระของผมจะต้องหมดไป สาวๆ ก็จะเข้าหาผมน้อยลง
"ฉันจะทำให้เธอร้องไห้ขี้มูกโป่งกลับบ้านไม่ทันเลยคอยดู" เอาวะไม่มีใครทนนิสัยของผมได้หรอก ผมไม่พร้อมที่จะต้องผูกมัดกับใคร ไม่อยากให้ใครมาบงการชีวิต ผมชอบชีวิตอิสระแบบนี้มากกว่า ผมนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ข้างล่างอยู่นาน คืนนี้ว่าจะค้างที่บ้านสักคืน เอาจริงๆ ก็รู้สึกผิดอยู่เหมือนกันที่ทิ้งมี๊ให้อยู่คนเดียวทุกวันแบบนี้ ผมลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินขึ้นห้อง อาบน้ำสักหน่อย คืนนี้ก็ถือว่าพักผ่อนซะหนึ่งคืน ส่วนเรื่องงานผมฝากให้ไอ้สองแฝดเป็นคนจัดการแทนหนึ่งวัน
แอดดดดด
"กระเป๋าใครวะ" ผมเปิดประตูห้องเข้ามาก็ต้องแปลกใจกับกระเป๋าใบใหญ่หลายในที่วางอยู่ปลายเตียง แถมยังได้ยินเสียงเหมือนคนอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำอีก
"ใครอยู่ในห้องน้ำอีกวะ" นี่มันชุดนอนผู้หญิงนี่หว่า ลายคิตตี้สีชมพูโคตรเด็กน้อยเลย เสื้อในกางเกงในรูปแมว ถูกวางเรียงไว้บนที่นอน สักพักเสียงน้ำในห้องน้ำเงียบลง
แอดดดด
"นะ นี่นาย ขะ เข้ามา"
พรึ่บบบบบบ
"กรี๊ดดดดดดดดดดด อย่ามองนะหันกลับไปเดี๋ยวนี้เลยไอ้บ้า"
"หืม ขาววว " ใครไม่มองก็บ้าแล้ว อยากซุ่มซ่ามมาทำผ้าหลุดต่อหน้าผมได้ยังไง ผมมันเสือหิวตลอดเวลาอยู่แล้ว
"กรี๊ดดดดดดดดดดด อย่ามองนะหันกลับไปเดี๋ยวนี้เลยไอ้บ้า""หืม ขาววว " ใครไม่มองก็บ้าแล้ว อยากซุ่มซ่ามมาทำผ้าหลุดต่อหน้าผมได้ยังไง ผมมันเสือหิวตลอดเวลาอยู่แล้ว"บอกให้หันไปไอ้บ้า " เหมือนผมกำลังโดนมนต์ของยัยนี่สะกดอยู่ ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้นในตอนนี้ สนใจก็แต่ผิวขาวๆ กับซาลาเปาคู่สวยคู่อวบถ้าได้จับมันคงจะพอดิบพอดีมือ สงสัยจะเป็นไส้เค็มเพราะมีไข่แดงแต้มอยู่บนลูกด้วย เชี้ยน่ากินชิบหาย ผมลืมสังเกตไปอีกอย่างคือ ยัยนี่ถอดแว่นแล้วโคตรน่ารัก ใบหน้าใสๆ ผิวขาวๆ ที่ไร้การแต่งแต้มไปด้วยเครื่องสำอางจอมปลอม ดวงตาคู่สวยแพขนตายาวดูเป็นธรรมชาติ กูชักจะอดใจไม่ไหวแล้วนะเว้ย มาแก้ผ้าต่อหน้าแล้วยังจะทำหน้าตาน่ารักอ่อยผมอีก จับปล้ำแม่งก่อนแต่งซะดีมั้ย ชักอยากจะแต่งงานขึ้นมาซะแล้วสิ......."อื้มม เสี่ยขาแรงๆ สิคะ เสี่ยยย""อ๊า เพลงจ๋าทำไมฟิตแบบนี้ อ่าา ครางดังๆ ครางให้เสี่ยรู้ว่าเพลงมีความสุข""เสี่ยขาา ทำไมของเสี่ยใหญ่แบบนี้คะ อ๊าาา อ๊ะๆ ๆ..."ไอ้แสงงงง "สติผมกลับคืนมาเมื่อได้ยินเสียงของยัยนมขาว ก็ยัยแว่นนั่นแหละครับ สรุปนี่กูกำลังฝัน เป็นเรื่องเป็นราวใช้ได้เลย แต่พอได้สติก็เห็นภาพของยัยแว่นคนเดิมเข้
"เพลงหิวรึยังลูก" อาหารบนโต๊ะถูกจัดวางไว้อย่างสวยงาม หน้าตาน่ากินมาก นึถึงเมื่อก่อนที่ครอบครัวของเรานั่งทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน ตอนนี้ไม่มีแล้ว คุณพ่อต้องไปทำงานต่างประเทศเพื่อส่งเงินมาให้ที่บ้านใช้จ่าย ส่วนแม่ก็ป่วยทำอะไรเองไม่ค่อยได้ยังดีที่มีเพื่อนบ้านแถวนั้นแวะเวียนมาอยู่เป็นเพื่อน"นิดหน่อยค่ะคุณน้า เอ้ย คุณแม่""ไม่เป็นไรลูกแม่รู้ว่ายังไม่ค่อยชิน รอพี่เขาอีกหน่อยก็แล้วกัน อีกไม่นานก็คงจะถึงแล้วหล่ะ" เป็นลูกภาษาอะไรปล่อยให้แม่นั่งรอทานข้าว นี่ก็เกือบสิบนาทีเข้าให้แล้วยังไม่โผล่หัวมาอีก ก่อนหน้านี้ท่านก็บ่นกับฉันเหมือนกันว่าช่วงนี้เหงาๆ อยู่บ้านคนเดียว นั่งทานข้าวคนเดียวทุกวัน ออกแนวตัดพ้อซะมากกว่า ถ้าฉันมีแม่แบบนี้นะฉันจะไม่ยอมปล่อยให้ท่านอยู่คนเดียวแน่ๆ พูดไปก็คิดถึงแม่เหมือนกันไม่รู้ว่าป่านนี้จะกินข้าวหรือยัง..............."คุณผู้หญิงคะคุณหนูมาแล้วค่ะ " คุณหนูหรอ แหวะเรียกไปได้ยัง หนูบ้านหน่ะหรอตัวเหม็นๆ สกปรกๆ หยี ขนลุก"เตรียมตักข้าวได้เลยแจ่ม""ไฮครับหม่ามี๊ คิดถึงจังเลย" ฉันไม่อยากจะหันหน้าไปตามเสียงที่ได้ยินเลย สร้างภาพชัดๆ"มาแล้วหรอลูก มาทานข้าวกัน " ฉันแอบเห็นสายตา
รถตู้สุดหรูภายในรถอุณหภูมิกำลังพอเหมาะ อยากจะงีบหลับหลับซะให้ได้ แต่ต้องพยายามฝืนหนังตาเอาไว้จะมานอนหลับน้ำลายยืดน่าเกลียดให้คนอื่นเห็นไม่ได้เสียภาพพจณ์คุณหรูเพลงพิณหมด ไม่ใช่สิอดีตสินะเพราะตอนนี้ครอบครัวของฉันไม่เหลืออะไรแล้ว ทรัพย์สินเงินทอง หรือแม้แต่ครอบครัวที่แสนจะอบอุ่นอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันก็ไม่มีอีกแล้ว ราคารถคันนี้มันก็คงจะมากโขอยู่เหมือนกันเมื่อก่อนที่บ้านฉันก็เคยมีแต่เดี๋ยวนี้จักรยานแค่คนเดียวยังไม่มีให้ใช้เลย คุณน้าสีดาส่งคนขับรถมารับฉันที่บ้านแต่เช้าตรู่ กว่าจะร่ำลากับแม่เสร็จกว่าจะขนกระเป๋าขึ้นรถก็เล่นเอาหลายชั่วโมงอยู่เหมือนกัน ส่วนพี่คนขับรถตลอดทางก็ไม่ชวนฉันคุยเลยสักคำ จำเป็นต้องวางมาดขนาดนี้ด้วยหรอ อย่างว่าทำงานบ้านมาเฟียก็ต้องวางตัวให้น่ากลัวเข้าไว้ แล้วฉันจะต้องไปเจออะไรแปลกๆ อีกมั้ยเนี่ย.."ถึงแล้วครับ" ประตูรถถูกเปิดแบบอัตโนมัติ ฉันค่อยๆ ก้าวขาลงจากรถอย่างสวยงาม ปานประหนึ่งว่าถูกรับตัวมาเป็นเมียเจ้าของบ้าน แต่มันก็จริงแบบไม่เต็มใจนะ ฉันสวมกระโปรงสีขาวแบบยาวสวมรองเท้าคัตชูแบบไม่มีส้นสีชมพู สวมเสื้อแขนตุ๊กตาสีชมพูอ่อน สวมแว่นสายตาแบบหนา ส่วนทรงผมตามสไตล์ของฉันถัก
ฉันนั่งเก็บเสื้อผ้าไปร้องไห้ไปจำใจต้องยอมทำตามที่แม่ขอ คุณน้าสีดายื่นข้อเสนอมาแบบนี้เพื่ออะไรฉันก็ไม่ทราบ ข้อตกลงก็คือฉันต้องเข้าไปอยู่บ้านของคุณน้า ในฐานะว่าที่เจ้าสาวของลูกชายคุณน้า ไอ้เสี่ยแสงจอมหื่น ฉันไม่เคยชอบขี้หน้าหมอนั่นเลย เจ้าชู้ เมียก็เยอะแยะ มั่วไปทั่ว เป็นเอดส์รึป่าวก็ไม่รู้ พรุ่งนี้คุณน้าจะส่งคนมารับที่หน้าบ้าน แม่บอกว่าแค่ฉันตกลงยอมไปอยู่บ้านคุณน้าหนี้สินก็ลดลงแล้ว30% ใครจะรู้บ้างว่าตอนนี้ฉันอึดอัดใจมากแค่ไหน ต้องยอมแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รัก มันจะเป็นไปได้ยังไง แค่นึกถึงหน้าไอ้หื่นนั่นฉันก็อยากจะร้องกรี๊ดใส่ เกลียดเข้าใจมั้ยว่าเกลียด ฉันเก็บของทุกอย่างที่เป็นของตัวเองลงกระเป๋า ไม่รู้ว่าต่อจากนี้ชีวิตของฉันจะเป็นยังไง"เพลงเก็บของเสร็จรึยังลูก""เสร็จแล้วค่ะแม่""ทำไมยังไม่นอนอีกหล่ะลูก""เพลงนอนไม่หลับ พรุ่งนี้เพลงก็จะไม่ได้อยู่ห้องนี้แล้ว คงคิดถึงมันแย่เลย" พูดไปน้ำตาก็จะไหล ห้องนี้เป็นห้องที่ฉันอยู่มาตั้งแต่เด็กๆ บ้านหลังนี้ก็เช่นกัน"เพลงฟังแม่นะ เราไม่มีทางเลือกมากนัก พี่เขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรตอนเด็กๆ เราสองคนก็เคยเล่นมาด้วยกัน ทำไมถึงได้จงเกลียดจงชังพี่เขานักหล
"ไอ้จิ้ง ไอ้จก เข้ามานี่ดิ๊ ""ครับเสี่ย"แอดดดดดดดด"มีอะไรให้ผมสองคนรับใช้ครับเสี่ย" ผมเรียกไอ้สองตัวเข้ามาในห้องเพราะต้องการถามเรื่องภารกิจวันนี้ว่าเรียบร้อยดีหรือยัง คำตอบเป็นที่น่าพอใจอีกไม่นานคู่ธุรกิจผู้สนับสนุนหลักจะเข้ามาที่บ่อนเพื่อส่งมอบสินค้าให้กับผมเดี๋ยวจะหาว่าผมหยิ่งไม่แนะนำตัว ผมชื่อแสงเหนือ ในวงการมาเฟียทุกคนจะเรียกผมว่า เสี่ยแสง ผมทำธุรกิจมืดหลายอย่าง มีทั้งบ่อนการพนัน อาบ อบ นวด อีทั้งยังมีผับ บาร์มากมายหลายแห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ ผมสืบทอดกิจการเหล่านี้จากพ่อของผม เอาจริงๆ ทีแรกก็ไม่ถนัดสักเท่าไหร่ แต่พอทำไปทำมาก็เริ่มชอบ ผมมีคติที่ว่าไม่ฆ่าไม่ทำร้าย ไม่ทรมาน ผมคิดว่าการเป็นมาเฟียไม่จำเป็นต้องทำร้ายใคร ผมมันมาเฟียใจหล่อหน้าใสหัวใจฟรุ้งฟริ้ง โคตรปัญญาอ่อนเลย แต่นั่นแหละครับมันคือตัวผม ผมมีลูกน้องที่รู้ใจอยู่หลายคน แต่ที่รู้ใจผมจริงก็มีไอ้สองตัวฝาแฝดนี่แหละครับ ไอ้จิ้งกับไอ้จก มันทำงานกับผมมานาน ตั้งแต่สมัยพ่อมันจนสืบทอดมาจนรุ่นลูก มันสองคนถ้ารวมหัวกันเมื่อไหร่งานที่สั่งสำเร็จทุกครั้ง"น้องแองจี้บ่นว่าคิดถึงเสี่ยนะครับ""น้องฟ้าก็ส่งคลิปสยิวมาให้เสี่ยด้วยครับ ""มึง