LOGINบรรยากาศในมหาวิทยาลัยช่วงบ่ายเต็มไปด้วยสีสันกลุ่มเฟรชชี่สาว ๆ เดินผ่านลานหน้าคณะศิลปกรรมและสถาปัตย์ พวกเธอพากันส่งเสียงดังคิกคักเป็นระยะ ๆ เมื่อเห็นร่างสูงในเสื้อช็อปสีเทาควันบุหรี่เดินตรงมาทางตึกฝั่งวิจิตรศิลป์
“นั่นไงพี่โจ! หล่อแบบตะโกน…” หนึ่งในนั้นว่า “เขาว่าพี่โจเหมือนพระเอกซีรีส์เกาหลีเลย แต่อัพเลเวลด้วยรอยสักนิดๆ ที่ใครแทบไม่เคยเห็น” เสียงซุบซิบดังขึ้นทั่วกลุ่ม “ได้สักที แม่จะไม่ลืมพระคุณ” “เห็นว่าเขาก็เสือผู้หญิงนะแก อยากรู้จัง ผู้หญิงแบบไหนกันนะที่เขาจะเลือกขยุ้ม อยากให้เป็นฉันจัง” ด้วยส่วนสูงกว่า 195 เซนติเมตร ผิวขาวน่ากิน สาวๆ ก็อดนึกไปถึงไอ้เจ้าแท่งสีชมพูใต้ร่มผ้าไม่ได้ ผมเซ็ตลวกๆ และสายตาที่มองเมื่อไหร่ก็เหมือนสะกดใจใครได้ทุกคน เขากลายเป็นตำนานของสาวน้อยหน้าใหม่ไปโดยปริยาย วนิสายืนมองอยู่ไกล ๆ ตรงบันไดทางขึ้นตึก เธอเห็นทุกอย่าง เห็นพวกสาวๆ พากันยื่นขนม ตุ๊กตา หรือแม้แต่ “ขวดน้ำที่ผ่านปากตัวเองแล้ว” ให้พี่เขาแบบไม่อายฟ้าอายดิน รอยยิ้มมุมปากของเขาเมื่อรับของเหล่านั้น …มันทำให้เธอเหมือนถูกบีบรัดบางอย่างในอกจนแน่นไปชั่วขณะ “นิสา เราฝากของให้พี่โจหน่อยดิ” เสียงของโบว์ เพื่อนเอกเดียวกันดังขึ้นทำเอาคนร่างบางถึงกับสะดุ้ง เธอยื่นซองสีชมพูอ่อนในมือมาให้ พร้อมทั้งเอียงคอแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม “เห็นว่าเธอเป็นหลานรหัสเขาอะนะ คนเข้าหาเขาน่าจะง่ายสุดแล้วป่ะ” วนิสารับซองอย่างชั่งใจ มองแค่แวบเดียวก็รู้ว่าข้างในไม่ใช่แค่ "ของฝากธรรมดา" “ให้ฉันบอกว่าของจากใครเหรอ?” เธอถามเบา ๆ “จากเพื่อนอีกกลุ่มอะ ของยัยจูน ยัยมินต์อะ เห็นว่าพี่โจเข้าเวิร์กช็อปบ่อย ๆ แล้วแอบปลื้มใหญ่เลย” วนิสาหลุบตาลงมองซองในมือ ขณะเดียวกันสายตาก็เหลือบไปเห็นคนตัวสูงกำลังนั่งยองๆ ข้างสนามฟุตบอลกับรถบิ๊กไบค์คันประจำ กำลังคุยกับรุ่นพี่ปีสี่คนหนึ่ง และมีสาวเฟรชชี่อีกคนยืนถือร่มให้ด้วยท่าทางออดอ้อน เธอกำลังชั่งใจอยู่ว่าจะเอาไปให้เขาตอนนี้ดีไหม ทว่าพลอยชมพูก็เดินมากับแม็กซ์เวลพอดี “นิสาเราไปหาอะไรกินกันเถอะ บัดดี้แกว่าจะเลี้ยงอ่ะ” พลอยชมพูที่แอบปลื้มบัดดี้ของเพื่อนสนิทก็ชวนหญิงสาวยกใหญ่ ทำให้วนิสาต้องรีบเก็บซองที่เพื่อนอีกกลุ่มฝากมาใส่ในกระเป๋าผ้าอย่างลวกๆ “ไปสิ..” ใครอีกคนที่แอบมองกันแต่แรกแล้วเห็นแบบนั้นเข้า เขาเข้าใจว่าแม็กซ์เวลคงเอาของบางอย่างให้เธอ คนสายตาคมหึงแรงมองกันอย่างเกรี้ยวกราดก่อนจะเดินอาจๆ ตรงมาทางนี้ “เดี๋ยวนิสา” เสียงทุ้มห้าวของคนปากหยักหนาเรียกขึ้นกลางลานหน้าคณะ ทำเอาร่างบางของเธอรวมถึงแม็กซ์เวลและพลอยชมพูที่เดินขนาบอยู่ข้างๆ กันต้องหยุดชะงัก วนิสาหันกลับไปมองเขาด้วยแววตาเลิ่กลั่กเล็กน้อย “คะ…ลุงโจ?” เขาเดินเข้ามาหาทั้งสามในชุดช็อปที่พับแขนขึ้นถึงข้อศอก พร้อมรอยสักลายจางๆ ที่โผล่พ้นออกมานิดหน่อย แน่นอนว่าเธอเคยเห็นมันมากกว่านั้น แล้วปากหยักหนาก็เอ่ยเสียงเรียบถามเธอ “วันนี้มีเรียนถึงกี่โมง” เขาถามแต่ดวงตามองลึกอย่างไม่ปิดบังความหึงหวงเท่าไหร่ “แล้วพี่เกี่ยวอะไรด้วยวะโจ?” แม็กซ์เวลถามสวนขึ้นทันที เสียงนั้นออกเข้มเจือหงุดหงิดอย่างชัดเจน ก่อนที่พลอยชมพูจะรีบคว้าแขนเสื้อแม็กซ์เวลไว้ “ใจเย็นก่อนพ่อบัดดี้…อันนี้ลุงเขา!” คนตัวสูงปรายตามองแม็กซ์เวลครู่หนึ่ง ก่อนแค่นยิ้มมุมปาก “ก็จะไปส่งหลานรหัส…นายเกี่ยวอะไรด้วยแม็กซ์?” น้ำเสียงฟังดูเถื่อนนิดๆ ใบหน้าเย็นชา แต่แววตานั้น…บอกชัดว่าไม่พอใจ “หลานรหัสงั้นเหรอ…ข้ออ้างสิไม่ว่า” แม็กซ์เวลยักคิ้วสูง “ดูสนิทดีนะ” วนิสาได้แต่ยืนนิ่ง หัวใจเธอเต้นระส่ำเมื่อสายตาคมจ้องกันเขม็ง บรรยากาศรอบตัวราวกับหยุดเคลื่อนไหว มันเหมือนเสือสองตัวกำลังวัดเขี้ยวเล็บกัน…โดยมีเธอเป็นจุดศูนย์กลางที่ไม่อาจหลบหนีไปทางไหนได้ “ว่าไง?” เสียงของลุงรหัสถามย้ำอีกครั้ง วนิสากลืนก้อนเหนียวๆ ลงคอ ก่อนจะตอบเสียงเบา “เลิกประมาณห้าโมงเย็นค่ะ…” “อืม..” เขาพยักหน้า ก่อนจะว่าเสียงนุ่ม “พี่จะมารับ” แม็กซ์เวลหัวเราะในลำคอทันที “เธอบอกหรือยังว่าอยากให้มารับ?” สายตาของเขาเหลือบมองวนิสา ก่อนจะปรายกลับไปยังโจอย่างท้าทาย ลุงรหัสแค่นยิ้ม ริมฝีปากหยักหนายกขึ้นน้อย ๆ “งั้นบอกนายนั่นไปสิ ว่าจะให้พี่มารับรึเปล่า” สายตาคมเฉี่ยวมองดุมาหากัน คคำพูดนั้นทำเอาใบหน้าของวนิสาร้อนวูบวาบ แม็กซ์เวลถึงกับขบกรามแน่น ขณะที่พลอยชมพูเบิกตากว้าง รีบดึงเพื่อนถอยห่างออกมา “ค่ะ ให้มารับ” “ก็แค่นั้น” คนตัวสูงเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรอีก ทิ้งไว้เพียงอารมณ์บางอย่างที่ค้างคาอยู่ในบรรยากาศ วนิสา พลอยชมพู และแม็กซ์เวลต่างยืนมองตามแผ่นหลังกว้างที่ค่อย ๆ ห่างออกไปเรื่อย ๆ ก่อนที่ดวงตากลมโตจะมองไปยังมุมสแตนด์ใต้ต้นไม้ ที่ซึ่งข้าวของนานาชนิดวางกองกันอยู่ ทั้งของกิน ของใช้ ตุ๊กตา ขนมโฮมเมด น้ำหอม และอีกสารพัดสิ่งที่สาว ๆ ประเคนให้ เธอถอนหายใจออกมายาวเหยียด “ของดีทั้งนั้น…น่าเสียดายแทนเจ้าของเลยแฮะ” เธอบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ อย่างคนพยายามไม่รู้สึกเสียดายอะไร ขณะเดียวกัน…อีกฟากหนึ่งของตึก “เจมส์” เสียงเรียกจากด้านหลังดังขึ้นเรียบๆ “ว่าไงวะ” เจมส์ เพื่อนสนิทที่กำลังเล่นโทรศัพท์อยู่เงยหน้าขึ้นมา โจนาธานยืดคางไปทางกองของ “แกช่วยเก็บของพวกนั้นไปใส่รถให้ฉันหน่อย” เจมส์ชะงัก “หือ? เอาจริงดิ? นี่นายจะเอาเหรอวะ” เจมส์ถามด้วยความสงสัย ปกติโจไม่เคยแตะของพวกนี้เลยสักครั้ง เขาเคยพูดติดปากว่า ‘ไม่อยากรับของจากคนที่ไม่ได้สนใจ’ โจปรายตามองเพื่อนอีกครั้งนิดหนึ่ง “ยังยืนงงอยู่อีก? กูจะเอาไปให้หลาน” “อ๋อ…อ่า หลาน…” เจมส์พยักหน้าช้า ๆ พลางคิดในใจว่า สงสัยเป็นลูกพี่ลูกน้องหรือไม่ก็คงเป็นเด็กข้างบ้านละมั้ง แต่เอ้า!! มันพักคอนโดนี่หว่า หรือมีสาวๆ ที่คอนโดวะ เจมส์ครุ่นคิด โจนาธานหันหลังมาบอกกับเพื่อนที่ตัวสูงพอๆ กันอีกครั้ง “วันนี้ไม่ได้เอารถยนต์มา มึงช่วยเอาไปไว้ใต้คอนโดกูก่อน เดี๋ยวที่เหลือกูจัดการต่อเอง” เขาหมายถึงเอาใส่ในรถเจมส์ แล้วให้เจมส์เป็นธุระเอาไปไว้ใต้คอนโดให้เขา “อ๋อ… เออ ๆ ได้ ไม่มีปัญหา” เจมส์ตอบง่ายๆ ไม่ได้คิดอะไร…เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า “หลาน” ที่ว่า แท้จริงแล้วคือ “หลานรหัส” …. เสียงเครื่องยนต์ของบิ๊กไบค์คันหรูดังกระหึ่มอยู่ตรงลานจอดหน้าคณะ ท่ามกลางสายตาของนักศึกษาทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องที่กำลังทยอยกรูกันออกจากตึกหลังจบคลาสเรียนในช่วงเย็น ทุกคนต่างพากันเหลียวมองเป็นตาเดียว “ให้ตายเถอะ…นั่นพี่โจใช่มั้ยอะ?” “โห หล่อสลบเลยวันนี้” แต่สิ่งที่ทำให้เสียงซุบซิบเพิ่มระดับขึ้นอีก…ไม่ใช่แค่ความหล่อร้ายของชายหนุ่มในชุดช็อป หากเป็นคนที่เขาเปิดหมวกกันน็อกแล้วยื่นส่งให้อย่างตั้งใจ ขณะที่โจยกมือจับหมวกกันน็อกสวมให้เธออย่างใจเย็น วนิสาไม่รู้ตัวเลยว่าภาพตรงหน้ากำลังกลายเป็นขี้ปากทั่วมหาลัยในนาทีถัดมา “โหหห นี่เขาไม่เคยให้ใครซ้อนท้ายเลยนะเว้ย!” “บอกว่าแค่สายรหัสไง อย่าคิดมาก” “สายรหัสที่ซ้อนท้ายพี่โจอะนะ? ฉันยอมตายเถอะ!!” “แต่ผู้หญิงคนนั้นก็สวยมากเลยนะ สวยแบบ...ดารายังอาย เห็นว่าเป็นดาวคณะด้วยนะ เผลอๆ ประกวดดาวมหาลัยแม่นี้ขึ้นแท่นซุปตาร์” เสียงซุบซิบระคนระริกอยู่ทั่วลาน บ้างก็คิดดีว่า ‘คงเป็นแค่สายรหัส’ บ้างก็ไม่ชอบใจ เพราะรู้สึกว่าวนิสา ‘เกินหน้าเกินตา’ แต่ก็มีอีกบางเสียงที่แอบอิจฉาหญิงสาวเบาๆ ... “ฉันว่าเหมาะกันนะ...ทั้งสวยทั้งหล่อ เหมือนพระนางซีรีส์ดังเลย” บิ๊กไบค์คันหรูเคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าๆ ท่ามกลางแสงแดดยามเย็นที่สาดกระทบเงาร่างของทั้งสองคนแนบชิดกันบนเบาะหลัง มือของโจเอื้อมไปจับมือเล็กของเธอมากำไว้แน่น โดยไม่พูดอะไร มือเล็กยื่นไปจับชายเสื้อของเขาไว้ แต่เพียงไม่กี่นาที รถก็พุ่งออกจากลานมหาวิทยาลัยอย่างรวดเร็วด้วยซีซีรถที่ใหญ่ ทำเอาหญิงสาวแทบหงายหลังลมพัดปะทะใบหน้า “กอดพี่ไว้แน่นๆ เดี๋ยวตก” ไม่ว่าเปล่า มือหนายังกุมมือเธอเข้ามากระชับเขาไว้แน่น “หอมจัง…” กลิ่นหอมประจำตัวเขา มันหอม…หอมละมุนแบบผู้ชายมีเสน่ห์ กลิ่นอ่อน ๆ ของมักส์ (musk) ลอยแทรกในอากาศ คล้ายกลิ่นกายสะอาดหลังอาบน้ำแต่ยังติดความเร้าใจบางอย่างในตัว ผสมกับกลิ่นของ ไม้ซีดาร์ (cedarwood) ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น มั่นคง มีพลังแต่ก็อ่อนโยน มันเป็นความหอมในแบบที่...ไม่หวาน ไม่ฉุน แต่ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งอยากซุกตัวเข้าไปใกล้กว่าเดิม ไหนจะกลิ่นหนังจากเสื้อช็อปจางๆ มันหอมเย้ายวนเธอยิ่งนัก ยิ่งคิดหัวใจเต้นแรงเหมือนกำลังหลุดเข้าไปอยู่ในหนังโรแมนติกฉากเปิดเรื่องที่มีพระเอกขับมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ โดยมีนางเอกซ้อนท้าย โจนาธานไม่พูดอะไรตลอดทางจนมาถึงคอนโดบรรยากาศในมหาวิทยาลัยช่วงบ่ายเต็มไปด้วยสีสันกลุ่มเฟรชชี่สาว ๆ เดินผ่านลานหน้าคณะศิลปกรรมและสถาปัตย์ พวกเธอพากันส่งเสียงดังคิกคักเป็นระยะ ๆ เมื่อเห็นร่างสูงในเสื้อช็อปสีเทาควันบุหรี่เดินตรงมาทางตึกฝั่งวิจิตรศิลป์“นั่นไงพี่โจ! หล่อแบบตะโกน…”หนึ่งในนั้นว่า“เขาว่าพี่โจเหมือนพระเอกซีรีส์เกาหลีเลย แต่อัพเลเวลด้วยรอยสักนิดๆ ที่ใครแทบไม่เคยเห็น”เสียงซุบซิบดังขึ้นทั่วกลุ่ม“ได้สักที แม่จะไม่ลืมพระคุณ”“เห็นว่าเขาก็เสือผู้หญิงนะแก อยากรู้จัง ผู้หญิงแบบไหนกันนะที่เขาจะเลือกขยุ้ม อยากให้เป็นฉันจัง”ด้วยส่วนสูงกว่า 195 เซนติเมตร ผิวขาวน่ากิน สาวๆ ก็อดนึกไปถึงไอ้เจ้าแท่งสีชมพูใต้ร่มผ้าไม่ได้ ผมเซ็ตลวกๆ และสายตาที่มองเมื่อไหร่ก็เหมือนสะกดใจใครได้ทุกคน เขากลายเป็นตำนานของสาวน้อยหน้าใหม่ไปโดยปริยายวนิสายืนมองอยู่ไกล ๆ ตรงบันไดทางขึ้นตึก เธอเห็นทุกอย่าง เห็นพวกสาวๆ พากันยื่นขนม ตุ๊กตา หรือแม้แต่ “ขวดน้ำที่ผ่านปากตัวเองแล้ว” ให้พี่เขาแบบไม่อายฟ้าอายดินรอยยิ้มมุมปากของเขาเมื่อรับของเหล่านั้น …มันทำให้เธอเหมือนถูกบีบรัดบางอย่างในอกจนแน่นไปชั่วขณะ“นิสา เราฝากของให้พี่โจหน่อยดิ”เสียงของโบว์ เพื่อนเอ
“ที่รัก…พี่จะแตกอีกแล้ว…”เสียงของเขากระซิบหนัก แต่แฝงแรงสะกดที่ทำให้เธอใจเต้นแทบขาด ยังไม่ทันให้เธอได้ตั้งตัว… เอวหนาก็สอบส่ายสะดพกบดเบียดขยับเอวหนา ซอยรัวเข้าออกทันทีแบบไม่ยั้งผับ! ผับ! ผับ!จังหวะแรงและเร็วขึ้นทุกวินาที จนร่างน้อยๆ ของเธอสั่นเพื่อมไปตามแรงดัน ร่างกระเด้งกระดอนถี่ ๆ เต้าอิ่มกระเพื่อมขึ้นลงจนมือเขาต้องบีบเอาไว้แน่นไม่ให้หลุดจากสายตา“อ๊าาา!! พี่โจ…”เสียงครางเธอหลุดลอดออกมาทั้งที่พยายามกลั้นไว้ แต่กลีบรักของเธอกลับยิ่งรัดแท่งหนาของเขาไว้แน่นจนตอดตุบๆ เหมือนต้องการยั่วให้เขาพังลงตรงนั้น“โคตรแน่น…ซี้ดด…”เขากัดฟันกรอด ดวงตาดุดันเต็มไปด้วยแรงกระหาย มือข้างหนึ่งจับสะโพกเธอกลมกลึงกดลงแรงๆ ส่วนอีกข้างจิกเบาะแน่นแทบทะลุ“อ๊าาาาาาาาา!!”เขากระแทกครั้งสุดท้าย ซัดเต็มแรงพร้อมปล่อยน้ำสวาทร้อนฉ่าลึกเข้าไปในตัวเธอ ร่างของเขากระตุกรัวถี่ เมื่อน้ำรักพวยพุ่งเข้าสุดโพรง วนิสาสะดุ้ง ข้างในนุ่มนิ่มขมิบตอดแท่งอุ่นร้อนจนแน่นหนึบ“อือออ….”เสียงหอบดังแข่งกับเสียงหัวใจ เขายังแช่เสียบคาไว้เต็มลำ…ไม่ยอมขยับ และไม่ยอมถอน ก่อนจะขมิบก้นแล้วจ้วงกระแทกให้น้ำสวาทที่เหลือพวยพุ่งออกมาจนสุด“โอ้วว…
“เธอนี่มันน่าจับกระแทกเป็นบ้า…”เสียงเขาแหบพร่าแต่ยังยั่วไม่หยุด“ทั้งคราง ทั้งรัด ทั้งดึง…อยากโดนแตกใส่ข้างในมั้ย”วนิสาแทบไม่มีแรงตอบ เธอได้แต่ส่ายหน้าอย่างอาย แต่ร่างกายกลับสวนทาง เสียงครางของเธอกลับดังยิ่งกว่าครั้งไหน ๆร่างหนาบีบรั้งเอวเธอแน่น“เดี๋ยวพี่จะแตกให้เต็มท้องเลย…จนกลีบเล็กๆ นั่นไม่ลืมรสชาติพี่ เธอจะได้ไม่ไปเอากับคนอื่น”แรงกระแทกถาโถมจนสุดทาง เธอสะดุ้งเร้า ขาสั่นเกร็งแล้วปลดปล่อยอย่างสุดกลั้น ร่างสั่นสะท้าน“อ๊าาา—พี่โจ…!”เธอครางลั่นในจังหวะที่เขาก็กระตุกเกร็งตามมาเขาจูบเธอเร็วรัวและบดขยี้ถี่ยิบ“บอกสิว่าจะให้พี่เอาแค่คนเดียว”ความอยากในกายตอนนี้มันทำให้เธอว่าง่ายตามที่เขาต้องการไปซะหมด“นิสาจะให้พี่เอาแค่คนเดียว”“พี่ไหน?”“พี่ จะ…โจ…”อ๊าาา….เสียงกระสันหอบเอ่ยถามกันพร้อมกับจ้วงลำกายเข้ามาถี่ๆ พ่นความร้อนเข้าใส่จนล้นทะลักซึมผ่านถุงบางแต่เขายังไม่ถอนออก... เขาก้มลงกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงต่ำที่ทำให้สันหลังวาบ“รอบแรกแค่อุ่นเครื่อง…”เขาบอกกันเพียงแค่นั้น ก่อนจะยกขาเธอพาดขึ้นข้างหนึ่งบนเบาะ ปลายลำยังคาอยู่ในช่องทางเปียกชื้นที่ยังคงรัดตอดไม่ยอมปล่อย“รัดแน่นแบบนี้…ยัง
เสียง ปัง!! ของประตูรถปิดดังราวกับฟ้าผ่า ก่อนที่เสียงหอบหายใจแรงของหญิงสาวจะดังขึ้นในความเงียบงันภายในห้องโดยสาร“พี่มันโรคจิต!!”“พี่มันบ้า”“แล้วอะไรอีก” เขาถามเสียงทุ้มต่ำเสียงกรีดร้องของเธอสะท้อนก้องภายในรถ เธอฟาดแผงคอนโซลด้วยอารมณ์ที่เดือดไม่แพ้เขา มือเล็กยื้อดึงประตูข้างแต่ไม่มีทางหนี เมื่อทุกอย่างถูกล็อกไว้แล้ว“อยากจะทุบก็ทุบเลย”ชายหนุ่มพูดช้าๆ เสียงทุ้มต่ำราวกับฟืนที่กำลังรอสะเก็ดไฟ จุดชนวนเผาระเบิดกลางอากาศ“ปล่อยฉันนะ!”เสียงของเธอสั่นปนโกรธ ปนหวาดระแวงแต่คำตอบกลับมากระแทกใจจนแทบขาดอากาศหายใจ“ทำไม…จะปล่อยให้เธอกลับไปเอากับไอ้นั่นมันงั้นเหรอ?”แววตาของเขาขุ่นมัวและเจ็บลึกจนแทบมองไม่เห็นเหตุผลใดๆเธอหันมาจ้องตาเขา ดวงตาสั่นระริก แต่ยังพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น“แม็กซ์เป็นบัดดี้ฉัน! แล้วเขาก็ตามจีบฉันมาก่อนหน้าคุณแล้วด้วย!” เสียงของเธอไม่ได้ตะโกน แต่คมกริบเหมือนมีดโกนเฉือนซ้ำกลางหัวใจคำว่า “คุณ…ฉัน…คุณ” นั่นแหละ ทำให้ผู้ชายคนนี้…ถึงกับ หมดความอดทนเอี๊ยด!!….เสียงเบรกกระชากกระแทกจนร่างทั้งสองโยกไปตามแรง รถหรูจอดปาดเข้าข้างทางในเสี้ยววินาที คนร่างหนารีบถอดเข็มขัดนิรภัยขอ
เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา วนิสาอยู่ที่คอนโดของเขาทั้งวันทั้งคืน โดยโกหกพลอยชมพูไปว่าตัวเองกลับบ้าน...แต่พอถึงเวลากลับหอ เรื่องมันก็แตกจนได้ก็ท่าเดินแปลก ๆ ของเธอน่ะสิ... ปิดไว้ยังไงก็ไม่มิด“อย่าบอกนะว่าแก…กับ…”คำพูดของพลอยทำเอาวนิสาหยุดกึก ดวงตาคู่นั้นหลบเลี่ยงเบี่ยงสายตาเพื่อนพลางพยักหน้าเบาๆ อย่างยอมรับในสิ่งที่เธอทำ“ยัยนิสา…ว่าแล้วไง บทแกจะใจง่ายก็ใจง่ายจริงๆ”วินาทีนั้นหัวใจของวนิสาเหมือนสะดุด“แกว่าฉัน...ง่ายไปใช่มั้ย?” เธอถามเสียงแผ่ว “แล้วพี่เขาจะเห็นค่าฉันมั้ยเนี่ย…”พลอยชมพูถอนหายใจ เธอไม่ได้อยากพูดให้เพื่อนเจ็บใจหรอก แต่ความจริงมันก็คือความจริง“คนที่จริงจังกับเราน่ะ เขาไม่มาตัดสินว่าเราง่ายหรือไม่ง่ายหรอกนิสา เขาจะดูว่าหลังจากนี้…จะไปด้วยกันได้แค่ไหน”เว้นจังหวะนิดหนึ่ง พลอยชมพูก็พูดต่อเหมือนคนที่รู้อะไรบางอย่างมา“แกก็คอยดูเอาแล้วกัน ว่าพี่เขาจะ ‘คบ’ แกแบบเปิดเผยไหม… หรือแค่เก็บไว้เป็นความลับใต้เตียง”วินาทีนี้ แม้จะพูดอะไรไม่ออก แต่วนิสาก็เริ่มรู้สึกเสียวสันหลังแปลกๆ“แกรู้ป่ะ ว่าลุงรหัสของแกนั่น…ขึ้นชื่อเรื่องเจ้าชู้”…เงียบ…ก่อนที่เสียงของพลอยชมพูจะพูดอีกประโยคที่ท
เสียงทุ้มกระเส่าพร่าเอ่ยเรียกชื่อกันอีกครั้ง ปลายนิ้วหยาบลูบแนวเอวบางใต้ผ้าห่มอย่างแผ่วเบา ร่างสูงเปลือยท่อนบนแนบชิดอยู่ข้างหลังเธอ ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดต้นคอเธอขยับตัวเล็กน้อย ก่อนเสียงครางเบาๆ จะเล็ดลอดออกมา ใบหน้าหวานซุกลุกล้ำลงกับหมอน พร้อมพึมพำครางชื่อเขา…“อือ… พี่โจ…”คนพึงใจเผลอยิ้มที่มุมปาก แล้วโน้มตัวลงจูบไหล่เนียนของเธอช้าๆ มือใหญ่สอดเข้ามาใต้ผ้าห่ม ลูบผ่านหน้าท้องแบนราบของเธออย่างเชื่องช้า ปลายนิ้วไล้วนที่สะดือเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนต่ำลง...เรื่อยๆ แล้วก็ไปยำแก้มก้นจนสุดแรง พร้อมเสียงครางเส่า“อื้มมม…น่ากินทุกตรง”“ยังไม่พอเหรอคะ…”เธอถามเสียงพร่าปนเขิน แก้มร้อนผ่าวแม้จะยังไม่กล้าสบตา คนเจ้าเล่ห์ยิ้มมุมปาก เอียงหน้าลงมากระซิบชิดใบหูใกล้ๆ เสียงพร่าต่ำของเขาทำเอาขนอ่อนเธอลุกวาบในทันที“ยังเลย...”“พี่อยากอีกแล้ว…”เขาซุกใบหน้าลงซอกคอ กดจูบเบา ๆ ก่อนเป่าลมหายใจอุ่นร้อนใส่“จะให้พี่ทำยังไงดีล่ะ…”“ในเมื่อหนูทั้งหอม ทั้งน่ารัก…แล้วก็…” เขาจงใจพูดลากเสียงช้าๆ “น่าเอา…” มือเขาลูบต่ำลงมาถึงกลางต้นขา และเลื่อนเข้าหาความนุ่มลึกที่ยังอุ่นร้อนอยู่“นิสายังไหวมั้ย เจ็บอยู่รึเปล่า”คนถ







