Share

ยามความรักมอดไหม้เหลือเพียงเถ้าธุลี
ยามความรักมอดไหม้เหลือเพียงเถ้าธุลี
Author: เพลิงพนา

ตอนที่ 1

Author: เพลิงพนา
“คุณฟู่ ตอนนี้สถานที่เกิดเหตุรถชนยังอันตรายมาก คุณจะเข้าไปไม่ได้นะ”

“พวกเราติดต่อทีมกู้ภัยมาแล้ว รถพยาบาลกำลังจะมาถึงในไม่ช้า”

“คุณฟู่...”

“หลีกไปให้พ้น! ถ้านายทำฉันเสียเวลาจนเธอเป็นอะไรขึ้นมา พวกแกทุกคนจะต้องตายตามเธอไปด้วย!” ท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่ประหนึ่งเสียงกระแสน้ำเชี่ยว เสียงตะคอกของใครคนหนึ่งทำให้เสิ่นฝานซิงที่หมดสติเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ค่อยๆ ได้สติกลับมา

เธอพยายามทอดสายตามองออกไปอย่างยากลำบาก เห็นเงาร่างสูงใหญ่ที่แสนจะคุ้นตาอยู่ห่างออกไป และกำลังวิ่งเข้ามาทางเธอดุจเทพที่ลงมาจากสวรรค์

เสิ่นฝานซิงปลื้มปิติจนหลั่งน้ำตา

หลังจากประสบอุบัติเหตุ เธอไม่รู้เลยว่าตัวเองถูกขังอยู่ในรถที่พลิกคว่ำมานานแค่ไหนแล้ว

เธอคิดว่าฟู่อวี้หานจะไม่มาหาเธอแล้วเสียอีก

ก่อนเกิดเรื่อง เธอยังทะเลาะกับฟู่อวี้หานอยู่เลย

เพราะว่าเมื่อคืนก่อนพวกเขาตกลงกันว่าจะนัดเจอที่บริษัท แต่ฟู่อวี้หานกลับยกเลิกนัดกะทันหันหลังจากรับโทรศัพท์จากใครบางคน ไม่ว่าเธอจะโทรหากี่สายเขาก็ไม่ยอมรับ หลังจากเกิดอุบัติเหตุ เธอใช้แบตเตอรี่ที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดส่งตำแหน่งให้เลขาฯของเขาอย่างเร่งรีบ

เธอคิดว่าฟู่อวี้หานจะเมินเฉยต่อข้อความของเธอเหมือนเมื่อก่อน

คิดไม่ถึงว่า...

“ลูกแม่...หนูมีหวังแล้วนะ...คุณพ่อมาแล้ว...”

เสิ่นฝานซิงก้มมองเลือดแดงสดที่รินไหลออกจากร่างกายเป็นสาย ขณะกอดความหวังเสี้ยวสุดท้ายเอาไว้

เธอพยายามเปล่งเสียงเรียกชื่อของฟู่อวี้หานทั้งที่ยังมีอาการเวียนศีรษะและอยากจะอาเจียน ทว่าเพิ่งจะอ้าปากก็พบว่าเสียงของตัวเองแหบแห้งจนพูดอะไรไม่ได้เลย

แต่ไม่เป็นไรหรอก ฟู่อวี้หานมาตามหาเธอแล้ว เธอพยายามยกแขนที่ไร้เรี่ยวแรงของตัวเองขึ้นมา คิดจะโบกเรียกเขา...

วินาทีต่อมา ฟู่อวี้หานกลับเดินผ่านเธอไปแบบดื้อๆ เขาเร่งฝีเท้าเดินต่อไปอย่างไม่ลดละ

เสิ่นฝานซิงชะงักนิ่ง

คิดว่าเขาอาจจะจำผิดคน

วันนี้เธอไม่ได้ขับรถของบ้านตระกูลฟู่ออกมา รถคันนั้นถูกน้องสาวของสามีขับออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว รถคันนี้เป็นของขวัญที่เธอได้รับมาจากคุณแม่ ปกติจะนำรถคันนี้ออกมาขับน้อยมาก ฟู่อวี้หานจะจำไม่ได้ก็ไม่แปลก

เสิ่นฝานซิงไม่มีเวลาให้ครุ่นคิดมากนัก เธอพยายามใช้แรงทั้งหมดที่มีตะโกนเรียกชื่อเขา

แต่การเสียเลือดเป็นเวลานานทำให้เธอหมดสิ้นเรี่ยวแรง เสียงของเธอจึงเบาไม่ต่างจากเสียงยุงบิน

ฟู่อวี้หานไม่ได้ยินเสียงของเธอและเดินห่างออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งหยุดฝีเท้าที่หน้ารถยนต์คันสีขาวของคู่กรณี

เสิ่นฝานซิงยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ฟู่อวี้หานก็เปิดประตูรถคันนั้นออกแล้วอุ้มผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังตัวสั่นระริกออกมา

ผู้หญิงคนนั้นสวมโค้ทกันลมตัวยาว รูปร่างบอบบางผอมเพรียวของเธอดูสง่างามอย่างมาก ท่าทางอ่อนแอจนใครเห็นก็ต้องรู้สึกสงสาร

ตอนที่เห็นหน้าของเธอคนนั้น เสิ่นฝานซิงก็เหมือนถูกความสิ้นหวังกลืนกิน

เธอคือรักแรกของฟู่อวี้หาน เยี่ยจิง

เธอพลันนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้ รถคันนั้นขับเปลี่ยนเลนไปมาไม่ยอมหยุด ก่อนจะขับจี้ท้ายรถเธออย่างบ้าคลั่ง โดยไม่ให้เวลาเธอได้ตอบสนองเลยแม้แต่น้อย

แต่ตอนนี้กลับจอดนิ่งอยู่ข้างทางอย่างปลอดภัย ราวกับเด็กที่กำลังบาดเจ็บและบอบช้ำ

ขณะที่เจ้าของรถกำลังเอนศีรษะซบอกของสามีเธออยู่

เสิ่นฝานซิงไม่มีเวลาคิดว่าทำไมเยี่ยจิงที่ควรจะอยู่ต่างประเทศถึงกลับมากะทันหัน แล้วก็ไม่ว่างพอจะคิดด้วยว่าทำไมเยี่ยจิงถึงขับรถชนท้ายเธอ ทำไมทุกอย่างถึงได้บังเอิญขนาดนี้

ตอนนี้เธอแค่อยากจะรักษาชีวิตของลูกเท่านั้น

“คุณฟู่ รถคันนั้นเหมือนจะมีคนติดอยู่นะครับ!”

ขณะที่เสิ่นฝานซิงตะเกียกตะกายพยายามจะทุบกระจกรถ บอดี้การ์ดข้างกายฟู่อวี้หานก็สังเกตเห็นว่ามีเงาคนเคลื่อนไหวอยู่ภายในรถ อีกทั้งรู้สึกว่ารถคันดังกล่าวดูคุ้นตาแปลกๆ จึงอดเอ่ยทักไม่ได้

พอได้ยินแบบนั้น ฟู่อวี้หานก็เอียงศีรษะไปมอง

ผู้หญิงที่อยู่ในรถมีเลือดเปรอะเปื้อนเต็มใบหน้า เลือดสีแดงเข้มรินไหลออกมาจากร่างกายของเธอ สภาพของเธอเละเทะจนดูไม่ได้ แต่ก็ยังพอจะมองเห็นเค้าโครงหน้าสวยงามของอีกฝ่ายได้แบบเลือนราง

อีกทั้งยังดูคุ้นตาอยู่ไม่น้อย

ฟู่อวี้หานหยุดฝีเท้ากะทันหัน เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เยี่ยจิงที่อยู่ในอ้อมกอดกลับส่งเสียงครางด้วยความเจ็บเบาๆ

“จิงจิงได้รับบาดเจ็บ รีบส่งคนไปเคลียร์เส้นทางเพื่อไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้”

ฟู่อวี้หานไม่สนใจเรื่องอย่างอื่นอีก

“แต่ว่าคุณฟู่ครับ...”

บอดี้การ์ดคนนั้นยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกสายตาเย็นเยียบของฟู่อวี้หานข่มให้กลัวจนต้องตอบกลับว่า “ครับ”

เสิ่นฝานซิงเห็นกับตาว่าฟู่อวี้หานเพียงหันมามองเธอแค่แวบเดียวเท่านั้น ก็อุ้มเยี่ยจิงก้าวฉับๆ ออกไปขึ้นรถ

“ฟู่อวี้หาน ช่วยด้วย! ช่วยลูกของเราด้วย...” เสิ่นฝานซิงอยากจะตะโกนออกไปแบบนั้นมาก แต่แค่เธออ้าปากก็ถูกก้อนเลือดในลำคอขวางเส้นเสียงแล้ว

ไม่มีใครสนใจเธอเลย

รถของฟู่อวี้หานที่มีเยี่ยจิงอยู่พุ่งทะยานออกไปแล้ว

เสิ่นฝานซิงจ้องมองรถที่แล่นห่างออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสายตาของเธอเริ่มเหม่อลอย พริบตาต่อมาความเจ็บปวดราวกับถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ก็ถาโถมเข้าหาเธอราวกับคลื่นน้ำ

เธอประคองสติไม่ไหวอีกต่อไป ภาพเบื้องหน้าของเธอมืดดับ ก่อนจะหมดสติไปอีกครั้ง
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ยามความรักมอดไหม้เหลือเพียงเถ้าธุลี   ตอนที่ 30

    ฟู่หร่านเมินเฉยเสิ่นฝานซิงและทิ้งอีกฝ่ายเอาไว้คนเดียว แล้วยังจงใจพูดคุยกับเยี่ยจิงอย่างมีความสุข เธอคิดว่าเสิ่นฝานซิงจะเป็นฝ่ายเอาของขวัญมาให้เหมือนทุกครั้งเธอยังวางแผนไว้ดิบดีว่าจะรับของขวัญมาแล้วโยนทิ้งอย่างไม่ใส่ใจ เพื่อใช้โอกาสนี้แสดงให้พี่เยี่ยจิงเห็นว่าเธอไม่ชอบขี้หน้าเสิ่นฝานซิงแต่ผ่านไปหลายนาทีแล้ว เสิ่นฝานซิงก็ยังไม่ยอมขยับสักทีเธอทนไม่ไหวจึงใช้หางตาลอบมองเสิ่นฝานซิง แต่กลับเห็นว่าสองนาทีต่อมาเสิ่นฝานซิงกลับเดินไปนั่งที่โซฟาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวเธอยังเห็นอีกว่าครั้งนี้เสิ่นฝานซิงมีของขวัญติดไม้ติดมือมาแค่ชิ้นเดียวดูยังไงก็ไม่เหมือนของขวัญที่เตรียมมาให้เธอเลยฟู่หร่านถึงกับงงไปสักพักเลยหรือว่าของขวัญที่จะให้มันชิ้นเล็กมาก? เสิ่นฝานซิงเลยใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง?ไม่ใช่สิ วันนี้เธอใส่ชุดเดรสมานี่นา จะไปมีกระเป๋าได้ยังไงฟู่หร่านทนไม่ไหวอีกต่อไปจึงหันไปถามเธอว่า “เสิ่นฝานซิง ของขวัญของฉันล่ะ?”เสิ่นฝานซิงไม่คิดว่าจู่ๆ เธอจะถามกันแบบนี้ จึงชะงักไปเล็กน้อยแล้วตอบว่า “ฉันไม่ได้เตรียมมา”“ไม่ได้เตรียมมา?”ฟู่หร่านรู้สึกโมโหจนเก็บอาการไม่อยู่คล้ายจะมองสีหน้าของอีกฝ่า

  • ยามความรักมอดไหม้เหลือเพียงเถ้าธุลี   ตอนที่ 29

    ความจริงเสิ่นฝานซิงชินกับเรื่องนี้แล้วล่ะฟู่หร่านกับฟู่อวี้หานเป็นพี่น้องที่สนิทสนมกันดีมาก ดังนั้นพอฟู่อวี้หานเกลียดเธอ ฟู่หร่านก็มักจะชอบพูดจาแดกดันต่อหน้าเธออยู่ประจำฟู่หร่านมักจะถากถางเธอว่าไม่เหมาะสมกับฟู่อวี้หาน เป็นมือที่สามแทรกกลางระหว่างฟู่อวี้หานกับเยี่ยจิงตอนแรกเสิ่นฝานซิงค่อนข้างเก็บมาคิดมากเลยล่ะเพื่อทำให้ฟู่หร่านยอมรับในตัวเธอ เธอพยายามสืบหาความชอบของฟู่หร่าน หาซื้อของขวัญให้อีกฝ่าย ไปต่างประเทศเพื่อรวบรวมของออฟฟิเชียลและลายเซ็นคนดังที่ฟู่หร่านชอบซึ่งฟู่หร่านก็ยอมรับไปทุกครั้ง แต่หลังจากได้ของไปแล้วนอกจากจะไม่รู้สึกขอบคุณกัน ยังหัวเราะเยาะแล้วบอกเธออีกว่า “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้แผนการในใจเธอนะ”“แล้วก็อย่าคิดว่าจะใช้วิธีการแบบนี้มาซื้อใจฉันได้ ไม่ว่าเธอจะพยายามเอาอกเอาใจฉันสักแค่ไหน ก็ยังเป็นมือที่สามของพี่ชายฉันกับพี่จิงจิงอยู่ดี ฉันไม่มีทางช่วยเธอหรอก”เสิ่นฝานซิงเคยเสียใจอย่างมากเพราะเรื่องพวกนี้แต่พอถึงท้ายที่สุดแล้ว เธอก็ค่อยๆ ปล่อยวางตอนนี้ถึงจะได้ยินสิ่งที่ฟู่หร่านพูด เธอก็ไม่รู้สึกอะไรอีกต่อไปเสิ่นฝานซิงเดินเข้าไปในห้องอย่างสง่าผ่าเผย ก่อนจะเอ่ยทักท

  • ยามความรักมอดไหม้เหลือเพียงเถ้าธุลี   ตอนที่ 28

    หลังอาบน้ำเสร็จแล้วเธอก็ยังเหลือเวลาว่างอีกเยอะเลยพออยู่ว่างๆ แล้วเธอก็คิดไม่ออกว่าควรจะทำอะไรดี ดังนั้นจึงปล่อยตัวเองเหม่อลอยคิดโน่นคิดนี่อยู่พักใหญ่ ขณะนอนแผ่อยู่บนเตียงบางทีอาจเป็นเพราะสองวันมานี้มีอะไรเกิดขึ้นหลายอย่าง พอเสิ่นฝานซิงหลับตาก็ผล็อยหลับอย่างรวดเร็วกว่าเธอจะตื่น เวลาก็ล่วงเข้าสู่เที่ยงของอีกวันแล้วเสิ่นฝานซิงลงจากเตียงแบบสะลึมสะลือ ทว่าเพิ่งจะลุกขึ้นยืนก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ขาเธอถึงได้รู้ตัวว่ารอยแผลจากการเดินซุ่มซ่ามไปชนขอบกำแพงเมื่อคืนก่อน ตอนนี้กลับบวมแดงขึ้นมาเสียอย่างนั้นแต่คืนนี้เธอมีกำหนดการต้องไปที่บ้านตระกูลฟู่ จะไปโรงพยาบาลตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วพอเห็นแบบนั้น เสิ่นฝานซิงจึงหยิบกล่องยาออกมาทำแผลคร่าวๆ แล้วออกจากห้องปกติฟู่อวี้หานไม่ค่อยอยากจะกลับไปที่บ้านตระกูลฟู่พร้อมกับเธอหรอก แต่ตอนนี้ทั้งสองคนตัดสินใจหย่ากันแล้ว เสิ่นฝานซิงจึงคิดว่าเธอไม่จำเป็นต้องรอไปพร้อมกับเขาเธอตัดสินใจไปเอาของขวัญที่เตรียมไว้ให้คุณย่าฟู่ก่อน จากนั้นก็ไปที่ศูนย์ซ่อมรถเพื่อรับรถคันที่เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นคันที่แม่ของเธอซื้อให้สมัยก่อน ตอนนี้มันซ่อมเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจึงขับร

  • ยามความรักมอดไหม้เหลือเพียงเถ้าธุลี   ตอนที่ 27

    เสิ่นฝานซิงลองคิดทบทวนดูเธอกับฟู่อวี้หานหย่ากันแล้วก็จริง แต่ยังอยู่ในช่วงสงบสติอารมณ์ ตามหลักแล้วเธอยังเป็นสะใภ้ของตระกูลฟู่อยู่เหมือนเดิมคำขอของฟู่อวี้หานจึงไม่นับว่าไร้เหตุผลอีกอย่างคุณย่าฟู่ก็ดีกับเธอมากๆ ด้วย เธอควรจะไปทักทายอีกฝ่ายสักหน่อยเสิ่นฝานซิงไม่ได้ปฏิเสธคำขอของเขา “ได้ ฉันจะไป”ฟู่อวี้หานได้ยินเธอตอบอย่างว่านอนสอนง่าย สายตาก็เหลือบมองเอกสารที่อยู่ข้างๆเอกสารที่หลี่เก๋อเอามาให้เขาระบุไว้อย่างชัดเจนว่าอพาร์ทเม้นท์ของเสิ่นฝานซิงตั้งอยู่ในพื้นที่แออัดที่ย่ำแย่มาก นอกจากจะเป็นชุมชนแออัดที่ยากจนแล้ว สภาพความเป็นอยู่ของห้องก็แย่ด้วยตอนที่เห็นข้อมูลในเอกสาร เขาถึงกับโกรธจนหลุดหัวเราะเขาให้เลขาฯส่งค่าใช้จ่ายให้เธอทุกเดือนเป็นเงินเกือบหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท แต่เธอกลับย้ายออกไปอยู่ในพื้นที่ชุมชนแออัดแบบนั้นกำลังจงใจอยู่หรือไง?อยากจะเรียกร้องความเห็นใจจากเขาเหรอ? หรือว่าอยากให้คนอื่นเขาติฉินนินทาลับหลัง ว่าภรรยาของเขาฟู่อวี้หานต้องทนอยู่ในสถานที่โกโรโกโสแบบนี้?ไม่ว่าจะเป็นข้อไหน ฟู่อวี้หานก็รู้สึกว่ามันน่าสมเพชทั้งนั้นแต่เขาก็ยังตัดสินใจว่าจะยอมให้ทางลงกับเธอเขา

  • ยามความรักมอดไหม้เหลือเพียงเถ้าธุลี   ตอนที่ 26

    เธอพนมมือไหว้เพราะกลัวว่าหลี่เก๋อจะปฏิเสธคำขอ ปากก็พูดซ้ำๆ ว่า “ขอร้องล่ะค่ะ ขอร้องล่ะค่ะ”หลี่เก๋อเองก็จนปัญญาจึงพยักหน้าแล้วบอกว่า “เดี๋ยวผมเอาไปส่งเอง คุณกลับไปเถอะ”เลขาฯสาวเหมือนรอดพ้นจากโทษทัณฑ์ ก่อนจะวิ่งหนีไปทางช่องทางเดินแคบๆ ด้วยรองเท้าส้นสูงอย่างเร่งรีบ ราวกับกลัวว่าหลี่เก๋อจะเปลี่ยนใจทีหลังหลี่เก๋อส่ายหน้าอย่างจนใจ ก่อนจะหันหลังกลับมาเผชิญหน้าประตูห้องทำงานอีกครั้ง ตอนที่กำลังจะเคาะประตูก็นึกถึงคำสั่งของฟู่อวี้หานขึ้นมาฟู่อวี้หานบอกเขาว่า เรื่องของตระกูลเสิ่นยกให้เขาเป็นคนจัดการทั้งหมดพอคิดได้แบบนี้ หลี่เก๋อก็คิดว่าตัวเองอย่าทำให้คุณฟู่อารมณ์เสียไปมากกว่านี้จะดีกว่าเขาลดมือที่เตรียมจะเคาะประตูลง แล้วเดินจากไปอีกทาง......ณ บ้านตระกูลเสิ่น“จริงเหรอ? ตระกูลฟู่ยอมลงทุนให้เราแล้ว?”หลังจากได้รับข่าวว่าโครงการสามารถหาเงินลงทุนได้แล้ว เสิ่นฉงที่นั่งอยู่บนโซฟาก็แทบจะกระโดดขึ้นมาด้วยความดีใจ“เยี่ยมไปเลย ขอบคุณมากครับ ฝากไปขอบคุณประธานฟู่ด้วยนะครับ คราวนี้โครงการของตระกูลฟู่จะต้องประสบความสำเร็จแน่ จะไม่ทำให้คุณฟู่ผิดหวังอย่างแน่นอน”หลังจากขอบคุณซ้ำๆ อยู่หลายครั้

  • ยามความรักมอดไหม้เหลือเพียงเถ้าธุลี   ตอนที่ 25

    พอได้ยินฟู่อวี้หานพูดแบบนั้น หลี่เก๋อก็เข้าใจได้ทันทีว่าท่านประธานฟู่ของตนเองอารมณ์ไม่ดีเพราะสาเหตุใดดูเหมือนท่านประธานฟู่กับคุณเสิ่นจะทะเลาะกันอีกแล้วแต่เขาชินกับเรื่องนี้แล้วล่ะฟู่อวี้หานยังคงติดใจเรื่องการแต่งงานในตอนนั้นไม่เลิก เพราะงั้นจึงไม่เคยทำตัวดีๆ กับเสิ่นฝานซิงเลยสักครั้งแต่ไม่ว่าฟู่อวี้หานจะทำตัวแย่สักแค่ไหน เสิ่นฝานซิงก็ไม่เคยอาละวาดใส่เขาเลย หนำซ้ำยังพยายามทำให้เรื่องราวมันจบลงด้วยดีเพราะฉะนั้นต่อให้พวกเขาสองคนทะเลาะกันรุนแรงแค่ไหน อีกไม่กี่วันพวกเขาก็จะกลับมาคืนดีกันเหมือนเดิมการแต่งงานของพวกเขาดำเนินมาจนถึงจุดที่สมดุลอย่างลงตัวมากเลยล่ะคนภายนอกอาจจะสงสัยและคิดในแง่ไม่ดี แต่เขากลับแอบรู้สึกว่าการแต่งงานของพวกเขาจะมั่นคงและยั่งยืนอีกอย่าง เขาก็รู้จักนิสัยของท่านประธานฟู่เป็นอย่างดี ถ้าหากฟู่อวี้หานไม่เต็มใจกับการแต่งงานครั้งนี้จริงๆ เกรงว่าคงจะเลิกรากันไปตั้งนานแล้ว“เรื่องห้องใหม่ของจิงจิงจัดการไปถึงไหนแล้ว?”ขณะจมกับความคิด หลี่เก๋อก็ได้ยินฟู่อวี้หานถามขึ้นมาเขารีบตอบกลับว่า “หาห้องแบบที่คุณเยี่ยต้องการได้แล้วครับ ผมจัดการซื้อห้องดังกล่าวและโอนเป็นช

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status