Share

ตอนที่ 2

Author: เพลิงพนา
“น่าเสียดายนะ เพราะมาส่งโรงพยาบาลช้าเกินไป ถึงการผ่าตัดคนไข้จะประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่กลับรักษาชีวิตเด็กเอาไว้ไม่ได้”

“แล้วญาติของคนไข้ล่ะ?”

“ญาติคนไข้ไม่อยู่ ผู้หญิงคนนั้นเซ็นยินยอมผ่าตัดด้วยตัวเอง”

หลังฟื้นจากการดมยาสลบผ่าตัดแล้ว เสิ่นฝานซิงก็ยังรู้สึกหวาดกลัวไม่หาย เพราะเธอเพิ่งจะเฉียดตายมาก่อนหน้านี้ไม่นาน ยิ่งได้ยินเสียงพูดคุยของหมอและพยาบาลที่อยู่ข้างๆ

นิ้วมือของเธอก็ลูบไล้บริเวณท้องน้อยแบบไม่รู้ตัว

เป็นอย่างที่หมอคนนั้นบอกจริงๆ ลูกของเธอถูกทำแท้งไปแล้ว

ท้องน้อยที่เคยนูนเล็กน้อยบัดนี้แบนราบ

เธอไม่สามารถสัมผัสถึงชีวิตน้อยๆ ที่เคยเคลื่อนไหวอยู่ในนั้นได้แล้ว

เธอรู้ว่าตัวเองในยามนี้สมควรจะปล่อยโฮร้องไห้อย่างแตกสลาย แต่ไม่รู้ทำไมน้ำตาถึงไม่รินไหลออกมาแม้แต่หยดเดียว

บางทีอาจเป็นเพราะเธอร้องไห้มามากพอแล้วมั้ง

พอเห็นว่าเธอฟื้นแล้ว หมอก็สอบถามอาการว่าเธอรู้สึกเป็นยังไงบ้าง ก่อนจะไปยังช่วยปลอบใจเธออีกว่าให้ดูแลรักษาตัวเองดีๆ อีกไม่นานก็จะมีลูกได้อีก

เสิ่นฝานซิงพยักหน้ารับเล็กน้อย

เธอไม่ได้พูดออกไปว่าคงไม่มีโอกาสได้มีลูกอีกแล้ว เพราะเด็กคนนี้เธอได้มาเพราะการขโมย ก็เหมือนกับการแต่งงานของเธอที่ไปขโมยจากคนอื่นมา

ตอนแรกที่เธอได้แต่งงานกับชายหนุ่มแสนแพอร์เฟกต์อย่างฟู่อวี้หานสมดังใจ แต่ฟู่อวี้หานกลับคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการ ก็เลยจงเกลียดจงชังเธอเป็นอย่างยิ่ง ถึงขั้นที่หนีออกจากห้องหอในคืนแต่งงานอย่างเปิดเผยเพื่อทำให้เธออับอายขายหน้าคนอื่น

เธอกลายเป็นตัวตลกของคนทั้งเมืองหนิง

แต่งงานกันมาห้าปี ท่าทีของเขาที่มีต่อเธอก็ไม่ได้แข็งกร้าวเท่ากับสมัยก่อนแล้ว มีหลายครั้งที่เธอถูกคนอื่นนินทาเย้ยหยันอย่างรุนแรง ฟู่อวี้หานก็จะแสดงความเมตตาช่วยเธอกู้ศักดิ์ศรีคืนมาอยู่บ้าง

โบราณกล่าวไว้ว่าหากพบหน้ากันบ่อยครั้งก็ย่อมมีความผูกพันกันบ้าง บางทีอาจเป็นเพราะสวมบทเป็นสามีภรรยากันมานาน ได้เจอหน้ากันแทบทุกวัน เขาจึงยอมไว้หน้าเธออยู่สามส่วน

แต่เขาเคยบอกกับเธออย่างชัดเจนว่า

เขาแค่เห็นอกเห็นใจเธอเท่านั้น ไม่เคยรักเธอจริง ดังนั้นจะไม่ยอมให้เธอมีลูกของเขาเด็ดขาด

เพราะงั้นทุกครั้งที่พวกเขามีความสัมพันธ์กันเขาจะป้องกันอย่างแน่นหนา ถึงจะมีบางครั้งที่ผิดพลาดพลั้งเผลอไปบ้าง ก็จะเอายาคุมมาให้เธอกินตลอด

หลายปีมานี้เสิ่นฝานซิงทำหน้าที่คุณนายเสิ่นของตัวเองอย่างดีไม่มีขาดตกบกพร่อง รวมถึงทำตามกฎของเขาอย่างระมัดระวังด้วย

แต่สามเดือนก่อนมีอยู่คืนหนึ่งที่ฟู่อวี้หานกลับมาบ้านด้วยอาการเมามาย ร่างกายเต็มไปด้วยกลิ่นเหล้าเหม็นหึ่ง คืนนั้นเขาบังคับให้เธอยอมมีอะไรด้วย

โดยที่ไม่ได้ป้องกัน

หลังจากนั้นตอนที่เสิ่นฝานซิงคิดจะกินยาคุมก็พบว่าแผงยามันว่างเปล่า ตอนแรกเธอคิดจะไปซื้อที่ร้านขายยา แต่กลับมีเรื่องยุ่งๆ เข้ามาทั้งวันจนเธอลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท

ตอนแรกคิดว่าแค่ครั้งเดียวคงไม่เป็นอะไรหรอก ใครจะคิดล่ะว่าท้ายที่สุดเธอจะแจ็คพอตจริงๆ

เธอกังวลเรื่องนี้อยู่นานจึงปิดเป็นความลับอยู่เกือบสามเดือน จนในที่สุดก็ตัดสินใจจะสารภาพความจริงกับเขาวันนี้

เดิมทีเธอคิดว่าถ้ามีเด็กคนนี้ ความสัมพันธ์ของเธอกับฟู่อวี้หานก็คงจะผ่อนคลายขึ้นมาก แต่ระหว่างที่เดินทางไปตามนัดกลับเกิดอุบัติเหตุขึ้นเสียก่อน

พ่อแม่ของเธอไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว คนตระกูลฟู่ก็ไม่ชอบขี้หน้าเธอ

ก่อนจะผ่าตัด เธอแอบเห็นว่าหมอเอาโทรศัพท์ของเธอไปโทรหาฟู่อวี้หาน แล้วยังส่งข้อความเรื่องที่เธอเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำไปด้วย แต่ฟู่อวี้หานกลับไม่ยอมรับสาย เหมือนว่าสุดท้ายแล้วเขาจะยังปิดเครื่องหนีเพราะรำคาญด้วย

เสิ่นฝานซิงรู้ว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอ แต่ไม่คิดว่าเขาจะใจจืดใจดำถึงขนาดนี้

แหงนหน้ามองเพดานสีขาวที่แสนจะเงียบงันและไร้ชีวิตชีวาของโรงพยาบาล

แต่งงานห้าปี เหมือนกับภาพฝันฉากหนึ่ง

เสิ่นฝานซิงอยากลุกไปเข้าห้องน้ำ แต่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลต่างก็กำลังยุ่งกับงาน จึงไม่มีใครว่างมาช่วยเหลือเธอ เธอต้องลากเสาแขวนน้ำเกลือแล้วค่อยๆ เดินไปทางห้องน้ำทีละก้าวๆ

เสิ่นฝานซิงรู้สึกขอบคุณมากที่ชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาลนี้ไม่มีกระดุม

เรื่องที่ปกติใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็จัดการได้เสร็จสิ้น เธอกลับต้องใช้เวลานานเกือบครึ่งชั่วโมง

ตอนออกจากห้องน้ำและกำลังจะเดินกลับไปที่ห้องพัก ก็มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังออกมาจากห้องสำนักงานของโรงพยาบาล

น้ำเสียงที่คุ้นหูทำให้เธอถึงกับหยุดชะงัก

“อวี้หาน แค่เป็นแผลที่ขานิดเดียวเอง ฉันบอกแล้วไงคะว่าไม่เป็นอะไร คุณก็เว่อร์เกินเหตุ” เสียงนั้นอ่อนหวานน่าฟัง

น้ำเสียงไม่แสดงท่าทีกล่าวโทษ มันฟังดูคล้ายกำลังออดอ้อนมากกว่า

ดวงหน้าที่สวยงามอ่อนหวานและสีหน้าใส่ซื่อบริสุทธ์ของอีกฝ่าย ขนาดเธอที่เป็นผู้หญิงเหมือนกันยังอดรู้สึกอยากทะนุถนอมไม่ได้เลย

คราวนี้เธอเห็นชัดเต็มสองตาเลยล่ะ พวกเขาคือสามีของเธอกับหญิงสาวผู้เป็นรักแรก——เยี่ยจิง

เธอไม่รู้ว่าตอนนั้นฟู่อวี้หานมองไม่เห็นเธอที่ติดอยู่ในรถจริงๆ ไหม หรือว่ามองเห็นแล้วแต่ไม่สนใจกันแน่ ปล่อยให้เธอตายไปตามยถากรรม

แต่ทั้งหมดนั่นไม่สำคัญอีกแล้ว

เธอกระจ่างแจ้งแล้วว่าสาเหตุที่เขาทำตัวแย่ๆ กับเธอตลอดเวลาที่แต่งงานกัน หนึ่งในเหตุผลนั้นก็คือเยี่ยจิง

ต่อให้ไม่เกิดเรื่องในวันนี้ขึ้น ในอนาคตสักวันหนึ่งก็ต้องเกิดเรื่องขึ้นอยู่ดี

“พี่เยี่ยจิง ก็เพราะพี่อวี้หานเขาเป็นห่วงพี่ยังไงล่ะครับ”

“พี่อาจจะไม่รู้ แต่ตอนที่เขาจะพาพี่มาโรงพยาบาล เขาโทรหามาผมด้วยท่าทางร้อนรนจนเสียงสั่นเลยล่ะ สั่งให้ผมเตรียมตรวจร่างกายแบบละเอียดเอาไว้รอ ผมยังคิดว่าเกิดเรื่องอะไรใหญ่โตซะอีก”

หมอหนุ่มสวมชุดกาวน์ที่อยู่ข้างๆ พูดแซวขณะยิ้มเล็กยิ้มน้อย

เขาคือหลีเยว่ เพื่อนสมัยเด็กของฟู่อวี้หาน แล้วก็เป็นพยานรักของเยี่ยจิงกับฟู่อวี้หานด้วย

เยี่ยจิงหน้าแดงเล็กน้อย เธอแหงนหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่กำลังกอดเธอเอาไว้แน่น

หน้าตาแบบนี้จะมีผู้หญิงคนไหนต้านทานไหวล่ะ? เขาหน้าตาหล่อเหลาแล้วยังมีรูปร่างกำยำ ภายใต้ชุดบางๆ ของเขามีความอบอุ่นของบุรุษเพศแผ่ออกมา เธอแค่เอนพิงแผงอกของเขาก็รู้สึกปลอดภัยอย่างมากแล้ว ราวกับว่าต่อให้ฟ้าจะถล่มลงมา เขาก็จะช่วยแบกมันเอาไว้ให้เธอ

“ก็มันเป็นอุบัติเหตุรถชนนี่นา ตรวจร่างกายเป็นสิ่งจำเป็นนะ” ฟู่อวี้หานพูดเสียงเรียบ

“นายก็เป็นห่วงแค่พี่เยี่ยจิงนี่แหละ ฉันไม่เห็นนายจะสนใจใยดีคนอื่นแบบนี้บ้างเลย”

หลีเยว่พูดอย่างขบขัน

เขาเป็นคนหนึ่งที่รู้ดีว่าฟู่อวี้หานแต่งงานกับเสิ่นฝานซิง เพราะถูกครอบครัวบีบบังคับ

คำว่าคนอื่นที่หลีเยว่พูดถึง ย่อมต้องพูดถึงเสิ่นฝานซิง

หลายปีมานี้ทุกครั้งที่เสิ่นฝานซิงต้องมาโรงพยาบาลเพียงลำพัง บางครั้งเขาก็แอบคันปากอยากเม้าจึงบอกกับฟู่อวี้หานว่าเห็นเสิ่นฝานซิงอยู่ในโรงพยาบาล แต่ฟู่อวี้หานกลับไม่แสดงท่าทีเป็นห่วงเป็นใยอะไร

เรื่องที่เสิ่นฝานซิงแท้งลูกและเพิ่งจะรอดพ้นความตายมาหมาดๆ หลีเยว่ก็ได้ยินมาเหมือนกัน

เขาเรียกเสิ่นฝานซิงว่าพี่สะใภ้ แล้วครั้งนี้ยังเป็นหมอเจ้าของไข้ของเสิ่นฝานซิงอีกต่างหาก ตามหลักแล้วเขาก็ควรจะเข้าไปสอบถามและปลอบใจเธอสักหน่อย อย่างน้อยที่สุดก็ควรจะไปทักทายบ้าง

แต่เขากลับไม่แม้แต่จะเข้าไปเยี่ยมเยียน

เหตุผลก็ง่ายดายมาก เพราะคิดว่าเสิ่นฝานซิงสมควรโดนแล้ว

ตอนแรกที่เสิ่นฝานซิงแต่งงานกับฟู่อวี้หานก็ไม่บริสุทธ์แล้ว คราวนี้เรื่องที่เสิ่นฝานซิงตั้งครรภ์ตัวเองก็เคยถามหยั่งเชิงฟู่อวี้หานมาก่อน เขาไม่รู้เรื่องนี้เลยสักนิด

เอาจมูกคิดยังเข้าใจเลยว่าเสิ่นฝานซิง คิดจะใช้เด็กคนนี้ผูกมัดฟู่อวี้หานเอาไว้

น่าเสียดาย แผนการของเธอไม่สำเร็จ

ตอนนี้แท้งเด็กในครรภ์ไปแล้ว คิดว่าน่าจะเป็นชะตาฟ้าลิขิต ไม่น่าเห็นใจเลยสักนิด

“ผมเตรียมห้องพักวีไอพีให้พี่เยี่ยจิงก็แล้วกัน อยู่ตรวจอาการสักสองวันก่อนเพื่อความปลอดภัย”

หลังหลุดจากภวังค์ หลีเยว่ก็พูดคุยกับทั้งสองด้วยรอยยิ้ม

เยี่ยจิงพยักหน้าเบาๆ “รบกวนนายหน่อยนะ”

“รบกวนอะไรกัน? เรื่องของพี่ก็คือเรื่องของพี่อวี้หาน เรื่องของพี่อวี้หานทั้งทีผมต้องทำเต็มที่อยู่แล้วล่ะ”

หลีเยว่ตบอกด้วยท่าทางภาคภูมิใจ

ประโยคนี้ทำให้เยี่ยจิงรู้สึกถูกอกถูกใจมาก เธอหัวเราะเบาๆ แล้วเบนสายตาไปมองทางประตูแวบหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ

เสิ่นฝานซิงที่อยู่หน้าประตูสบตากับเธอเข้าโดยบังเอิญ

เสิ่นฝานซิงยังไม่ทันจะได้คิดอะไร เยี่ยจิงก็ดึงสายตากลับไปแล้วส่งยิ้มบางๆ ให้ฟู่อวี้หาน “อวี้หาน ฉันจำได้ว่าเมื่อกี๊เสิ่นฝานซิงโทรมาไม่ใช่เหรอ ท่าทางจะเป็นเรื่องด่วนนะ ถ้ายังไงนายลองโทรกลับไปสักหน่อยไหม”

พอพูดถึงชื่อของเสิ่นฝานซิง ฟู่อวี้หานก็ขมวดคิ้วหน้านิ่วทันที

เขายังไม่ทันจะเอ่ยปาก หลีเยว่ที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำอะไรบางอย่างก็ชิงตอบว่า “ไม่ต้องไปสนใจเธอหรอก เรื่องที่เสิ่นฝานซิงชอบตามตื๊อพี่ฟู่อวี้หานคนเขารู้กันหมด หลายปีมานี้เอะอะก็โทรหาแต่พี่อวี้หาน พี่อวี้หานรำคาญเธอจะตายไป”

“พี่เยี่ยจิง ให้พี่อวี้หานอยู่ดูแลพี่สิ แผลจะได้หายไวๆ”

“สักวันหนึ่งเสิ่นฝานซิงก็ต้องถอยออกไปแล้วยกตำแหน่งให้พี่”

เยี่ยจิงเอ็ดว่า “หลีเยว่ อย่าพูดเหลวไหล”

หลีเยว่รีบโบกไม้โบกมือ “ผมไม่ได้พูดเหลวไหลนะ พี่อวี้หานคิดแบบนี้จริงๆ”

ฟู่อวี้หานไม่ได้ปฏิเสธ

เพียงแค่ขมวดคิ้วหนักยิ่งกว่าเดิม

เสิ่นฝานซิงสัมผัสถึงความเงียบงันในอากาศ ก่อนจะหัวเราะเยาะตัวเองเบาๆ

ไม่เป็นไร อีกไม่นานวันนั้นก็จะมาถึงแล้วล่ะ
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ยามความรักมอดไหม้เหลือเพียงเถ้าธุลี   ตอนที่ 30

    ฟู่หร่านเมินเฉยเสิ่นฝานซิงและทิ้งอีกฝ่ายเอาไว้คนเดียว แล้วยังจงใจพูดคุยกับเยี่ยจิงอย่างมีความสุข เธอคิดว่าเสิ่นฝานซิงจะเป็นฝ่ายเอาของขวัญมาให้เหมือนทุกครั้งเธอยังวางแผนไว้ดิบดีว่าจะรับของขวัญมาแล้วโยนทิ้งอย่างไม่ใส่ใจ เพื่อใช้โอกาสนี้แสดงให้พี่เยี่ยจิงเห็นว่าเธอไม่ชอบขี้หน้าเสิ่นฝานซิงแต่ผ่านไปหลายนาทีแล้ว เสิ่นฝานซิงก็ยังไม่ยอมขยับสักทีเธอทนไม่ไหวจึงใช้หางตาลอบมองเสิ่นฝานซิง แต่กลับเห็นว่าสองนาทีต่อมาเสิ่นฝานซิงกลับเดินไปนั่งที่โซฟาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวเธอยังเห็นอีกว่าครั้งนี้เสิ่นฝานซิงมีของขวัญติดไม้ติดมือมาแค่ชิ้นเดียวดูยังไงก็ไม่เหมือนของขวัญที่เตรียมมาให้เธอเลยฟู่หร่านถึงกับงงไปสักพักเลยหรือว่าของขวัญที่จะให้มันชิ้นเล็กมาก? เสิ่นฝานซิงเลยใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง?ไม่ใช่สิ วันนี้เธอใส่ชุดเดรสมานี่นา จะไปมีกระเป๋าได้ยังไงฟู่หร่านทนไม่ไหวอีกต่อไปจึงหันไปถามเธอว่า “เสิ่นฝานซิง ของขวัญของฉันล่ะ?”เสิ่นฝานซิงไม่คิดว่าจู่ๆ เธอจะถามกันแบบนี้ จึงชะงักไปเล็กน้อยแล้วตอบว่า “ฉันไม่ได้เตรียมมา”“ไม่ได้เตรียมมา?”ฟู่หร่านรู้สึกโมโหจนเก็บอาการไม่อยู่คล้ายจะมองสีหน้าของอีกฝ่า

  • ยามความรักมอดไหม้เหลือเพียงเถ้าธุลี   ตอนที่ 29

    ความจริงเสิ่นฝานซิงชินกับเรื่องนี้แล้วล่ะฟู่หร่านกับฟู่อวี้หานเป็นพี่น้องที่สนิทสนมกันดีมาก ดังนั้นพอฟู่อวี้หานเกลียดเธอ ฟู่หร่านก็มักจะชอบพูดจาแดกดันต่อหน้าเธออยู่ประจำฟู่หร่านมักจะถากถางเธอว่าไม่เหมาะสมกับฟู่อวี้หาน เป็นมือที่สามแทรกกลางระหว่างฟู่อวี้หานกับเยี่ยจิงตอนแรกเสิ่นฝานซิงค่อนข้างเก็บมาคิดมากเลยล่ะเพื่อทำให้ฟู่หร่านยอมรับในตัวเธอ เธอพยายามสืบหาความชอบของฟู่หร่าน หาซื้อของขวัญให้อีกฝ่าย ไปต่างประเทศเพื่อรวบรวมของออฟฟิเชียลและลายเซ็นคนดังที่ฟู่หร่านชอบซึ่งฟู่หร่านก็ยอมรับไปทุกครั้ง แต่หลังจากได้ของไปแล้วนอกจากจะไม่รู้สึกขอบคุณกัน ยังหัวเราะเยาะแล้วบอกเธออีกว่า “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้แผนการในใจเธอนะ”“แล้วก็อย่าคิดว่าจะใช้วิธีการแบบนี้มาซื้อใจฉันได้ ไม่ว่าเธอจะพยายามเอาอกเอาใจฉันสักแค่ไหน ก็ยังเป็นมือที่สามของพี่ชายฉันกับพี่จิงจิงอยู่ดี ฉันไม่มีทางช่วยเธอหรอก”เสิ่นฝานซิงเคยเสียใจอย่างมากเพราะเรื่องพวกนี้แต่พอถึงท้ายที่สุดแล้ว เธอก็ค่อยๆ ปล่อยวางตอนนี้ถึงจะได้ยินสิ่งที่ฟู่หร่านพูด เธอก็ไม่รู้สึกอะไรอีกต่อไปเสิ่นฝานซิงเดินเข้าไปในห้องอย่างสง่าผ่าเผย ก่อนจะเอ่ยทักท

  • ยามความรักมอดไหม้เหลือเพียงเถ้าธุลี   ตอนที่ 28

    หลังอาบน้ำเสร็จแล้วเธอก็ยังเหลือเวลาว่างอีกเยอะเลยพออยู่ว่างๆ แล้วเธอก็คิดไม่ออกว่าควรจะทำอะไรดี ดังนั้นจึงปล่อยตัวเองเหม่อลอยคิดโน่นคิดนี่อยู่พักใหญ่ ขณะนอนแผ่อยู่บนเตียงบางทีอาจเป็นเพราะสองวันมานี้มีอะไรเกิดขึ้นหลายอย่าง พอเสิ่นฝานซิงหลับตาก็ผล็อยหลับอย่างรวดเร็วกว่าเธอจะตื่น เวลาก็ล่วงเข้าสู่เที่ยงของอีกวันแล้วเสิ่นฝานซิงลงจากเตียงแบบสะลึมสะลือ ทว่าเพิ่งจะลุกขึ้นยืนก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ขาเธอถึงได้รู้ตัวว่ารอยแผลจากการเดินซุ่มซ่ามไปชนขอบกำแพงเมื่อคืนก่อน ตอนนี้กลับบวมแดงขึ้นมาเสียอย่างนั้นแต่คืนนี้เธอมีกำหนดการต้องไปที่บ้านตระกูลฟู่ จะไปโรงพยาบาลตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วพอเห็นแบบนั้น เสิ่นฝานซิงจึงหยิบกล่องยาออกมาทำแผลคร่าวๆ แล้วออกจากห้องปกติฟู่อวี้หานไม่ค่อยอยากจะกลับไปที่บ้านตระกูลฟู่พร้อมกับเธอหรอก แต่ตอนนี้ทั้งสองคนตัดสินใจหย่ากันแล้ว เสิ่นฝานซิงจึงคิดว่าเธอไม่จำเป็นต้องรอไปพร้อมกับเขาเธอตัดสินใจไปเอาของขวัญที่เตรียมไว้ให้คุณย่าฟู่ก่อน จากนั้นก็ไปที่ศูนย์ซ่อมรถเพื่อรับรถคันที่เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นคันที่แม่ของเธอซื้อให้สมัยก่อน ตอนนี้มันซ่อมเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจึงขับร

  • ยามความรักมอดไหม้เหลือเพียงเถ้าธุลี   ตอนที่ 27

    เสิ่นฝานซิงลองคิดทบทวนดูเธอกับฟู่อวี้หานหย่ากันแล้วก็จริง แต่ยังอยู่ในช่วงสงบสติอารมณ์ ตามหลักแล้วเธอยังเป็นสะใภ้ของตระกูลฟู่อยู่เหมือนเดิมคำขอของฟู่อวี้หานจึงไม่นับว่าไร้เหตุผลอีกอย่างคุณย่าฟู่ก็ดีกับเธอมากๆ ด้วย เธอควรจะไปทักทายอีกฝ่ายสักหน่อยเสิ่นฝานซิงไม่ได้ปฏิเสธคำขอของเขา “ได้ ฉันจะไป”ฟู่อวี้หานได้ยินเธอตอบอย่างว่านอนสอนง่าย สายตาก็เหลือบมองเอกสารที่อยู่ข้างๆเอกสารที่หลี่เก๋อเอามาให้เขาระบุไว้อย่างชัดเจนว่าอพาร์ทเม้นท์ของเสิ่นฝานซิงตั้งอยู่ในพื้นที่แออัดที่ย่ำแย่มาก นอกจากจะเป็นชุมชนแออัดที่ยากจนแล้ว สภาพความเป็นอยู่ของห้องก็แย่ด้วยตอนที่เห็นข้อมูลในเอกสาร เขาถึงกับโกรธจนหลุดหัวเราะเขาให้เลขาฯส่งค่าใช้จ่ายให้เธอทุกเดือนเป็นเงินเกือบหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท แต่เธอกลับย้ายออกไปอยู่ในพื้นที่ชุมชนแออัดแบบนั้นกำลังจงใจอยู่หรือไง?อยากจะเรียกร้องความเห็นใจจากเขาเหรอ? หรือว่าอยากให้คนอื่นเขาติฉินนินทาลับหลัง ว่าภรรยาของเขาฟู่อวี้หานต้องทนอยู่ในสถานที่โกโรโกโสแบบนี้?ไม่ว่าจะเป็นข้อไหน ฟู่อวี้หานก็รู้สึกว่ามันน่าสมเพชทั้งนั้นแต่เขาก็ยังตัดสินใจว่าจะยอมให้ทางลงกับเธอเขา

  • ยามความรักมอดไหม้เหลือเพียงเถ้าธุลี   ตอนที่ 26

    เธอพนมมือไหว้เพราะกลัวว่าหลี่เก๋อจะปฏิเสธคำขอ ปากก็พูดซ้ำๆ ว่า “ขอร้องล่ะค่ะ ขอร้องล่ะค่ะ”หลี่เก๋อเองก็จนปัญญาจึงพยักหน้าแล้วบอกว่า “เดี๋ยวผมเอาไปส่งเอง คุณกลับไปเถอะ”เลขาฯสาวเหมือนรอดพ้นจากโทษทัณฑ์ ก่อนจะวิ่งหนีไปทางช่องทางเดินแคบๆ ด้วยรองเท้าส้นสูงอย่างเร่งรีบ ราวกับกลัวว่าหลี่เก๋อจะเปลี่ยนใจทีหลังหลี่เก๋อส่ายหน้าอย่างจนใจ ก่อนจะหันหลังกลับมาเผชิญหน้าประตูห้องทำงานอีกครั้ง ตอนที่กำลังจะเคาะประตูก็นึกถึงคำสั่งของฟู่อวี้หานขึ้นมาฟู่อวี้หานบอกเขาว่า เรื่องของตระกูลเสิ่นยกให้เขาเป็นคนจัดการทั้งหมดพอคิดได้แบบนี้ หลี่เก๋อก็คิดว่าตัวเองอย่าทำให้คุณฟู่อารมณ์เสียไปมากกว่านี้จะดีกว่าเขาลดมือที่เตรียมจะเคาะประตูลง แล้วเดินจากไปอีกทาง......ณ บ้านตระกูลเสิ่น“จริงเหรอ? ตระกูลฟู่ยอมลงทุนให้เราแล้ว?”หลังจากได้รับข่าวว่าโครงการสามารถหาเงินลงทุนได้แล้ว เสิ่นฉงที่นั่งอยู่บนโซฟาก็แทบจะกระโดดขึ้นมาด้วยความดีใจ“เยี่ยมไปเลย ขอบคุณมากครับ ฝากไปขอบคุณประธานฟู่ด้วยนะครับ คราวนี้โครงการของตระกูลฟู่จะต้องประสบความสำเร็จแน่ จะไม่ทำให้คุณฟู่ผิดหวังอย่างแน่นอน”หลังจากขอบคุณซ้ำๆ อยู่หลายครั้

  • ยามความรักมอดไหม้เหลือเพียงเถ้าธุลี   ตอนที่ 25

    พอได้ยินฟู่อวี้หานพูดแบบนั้น หลี่เก๋อก็เข้าใจได้ทันทีว่าท่านประธานฟู่ของตนเองอารมณ์ไม่ดีเพราะสาเหตุใดดูเหมือนท่านประธานฟู่กับคุณเสิ่นจะทะเลาะกันอีกแล้วแต่เขาชินกับเรื่องนี้แล้วล่ะฟู่อวี้หานยังคงติดใจเรื่องการแต่งงานในตอนนั้นไม่เลิก เพราะงั้นจึงไม่เคยทำตัวดีๆ กับเสิ่นฝานซิงเลยสักครั้งแต่ไม่ว่าฟู่อวี้หานจะทำตัวแย่สักแค่ไหน เสิ่นฝานซิงก็ไม่เคยอาละวาดใส่เขาเลย หนำซ้ำยังพยายามทำให้เรื่องราวมันจบลงด้วยดีเพราะฉะนั้นต่อให้พวกเขาสองคนทะเลาะกันรุนแรงแค่ไหน อีกไม่กี่วันพวกเขาก็จะกลับมาคืนดีกันเหมือนเดิมการแต่งงานของพวกเขาดำเนินมาจนถึงจุดที่สมดุลอย่างลงตัวมากเลยล่ะคนภายนอกอาจจะสงสัยและคิดในแง่ไม่ดี แต่เขากลับแอบรู้สึกว่าการแต่งงานของพวกเขาจะมั่นคงและยั่งยืนอีกอย่าง เขาก็รู้จักนิสัยของท่านประธานฟู่เป็นอย่างดี ถ้าหากฟู่อวี้หานไม่เต็มใจกับการแต่งงานครั้งนี้จริงๆ เกรงว่าคงจะเลิกรากันไปตั้งนานแล้ว“เรื่องห้องใหม่ของจิงจิงจัดการไปถึงไหนแล้ว?”ขณะจมกับความคิด หลี่เก๋อก็ได้ยินฟู่อวี้หานถามขึ้นมาเขารีบตอบกลับว่า “หาห้องแบบที่คุณเยี่ยต้องการได้แล้วครับ ผมจัดการซื้อห้องดังกล่าวและโอนเป็นช

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status