แชร์

บทที่ 16

ผู้เขียน: moonlight -mini
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-22 17:13:41

บทที่ 16

เช้าวันถัดมาอี้หลงปรากฏตัวที่ห้องโถงใหญ่ของจวนพร้อมกับรอยยิ้ม เขาดูอารมณ์ดีกว่าตอนที่ยึดเมืองได้มากมายเสียอีก

“ท่านแม่” ชายหนุ่มเอ่ยเรียกมารดาที่กำลังนั่งจิบชาอย่างสบายใจ "ท่านแม่ ข้าขอถามอะไรสักอย่างได้หรือไม่” คนเป็นแม่มองดูท่าทางของบุตรชายก็พอจะเดาได้ ยิ่งเมื่อรวมจากเรื่องที่ได้ยินเมื่อคืนก็เดาได้ไม่ยากแต่นางกลับแกล้งทำเป็นไม่รู้เสียอย่างนั้น

"เจ้ามีเรื่องอะไรหรืออี้หลง"

"ท่านแม่พอจะรู้หรือไม่ว่า...คู่หมั้นของข้า ข้าหมายถึงหว่านเอ๋อร์นางชอบสิ่งใดบ้าง" คำถามนั้นทำให้มารดาของเขายิ้มออกมาทันที

"คู่หมั้้นหรือ แม่คิดว่าเจ้ากับนางยกเลิกการหมั้นหมายไปแล้วนะ" นางเอ่ยกลั้วเสียงหัวเราะเบา ๆ "แต่ถ้าอยากรู้แม่จะบอกให้ เวลาแม่ไปเยี่ยมหว่านเอ๋อร์มักจะซื้อขนมที่โรงน้ำชาชื่อดังในเมืองไปด้วย นางชอบขนมที่โรงน้ำชาเจ้านั้น"

อี้หลงคิดไม่ออกว่าจะมีโรงน้ำชาร้านไหนนอกจากร้านที่เขาพบกับหญิงสาว ชายหนุ่มพยายามคิดว่าวันนั้นอีกฝ่ายกำลังกินหรือทำอะไรบ้าง "ที่นั่นเอง..." เขาพึมพำเบา ๆ กับตัวเอง

และเมื่อภาพเหตุการณ์ที่ได้พบหว่านเอ๋อร์ครั้งแรกผุดขึ้นในหัว ชายหนุ่มก็เผลอหลุดยิ้มออกมา

ซ่งอวี้หลินมองท่าทางข
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ยามเมื่อใจ เพรียกหาเพียงเจ้า   บทที่ 23

    บทที่ 23 หว่านเอ๋อร์มองห่อยาในมือใบหน้าแดงก่ำ แม้จะกลับมาที่เรือนแล้วแต่นางก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับห่อยาที่ได้รับมาจากท่านแม่ดี “ข้าจะต้มยาให้เอง เจ้าจะได้ไม่ต้องลำบาก" แม้น้ำเสียงของชายหนุ่มฟังดูเหมือนไม่มีอะไรแต่หญิงสาวกลับรู้สึกตะขิดตะขวงใจไม่น้อย ก่อนจะปล่อยห่อยาในมือให้อีกฝ่ายไปหว่านเอ๋อร์ได้แต่กัดริมฝีปากแน่น นางไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไร “พวกเราต้องกินมันจริง ๆ หรือ” อี้หลงขยับเข้าไปใกล้กับหว่านเอ๋อร์พร้อมทั้งกระซิบเบา ๆ“หากพวกเราเอาไปทิ้ง ท่านแม่ก็จะจับได้ว่าเรายังไม่ได้เข้าหอ มิสู้แค่ต้มแล้วดื่มไปแค่นั้นก็สิ้นเรื่อง หากครั้งหน้าท่านแม่ถามเจ้าก็ไม่ต้องพูดอะไร ข้าจะไม่ให้พวกท่านมาตำหนิเจ้าเด็ดขาด” หว่านเอ๋อร์ทำได้เพียงแค่พยักหน้า ตอนนี้นางรู้สึกเก้ ๆ กัง ๆ เวลาอยู่กับอีกฝ่าย มิรู้ว่าเป็นเพราะสิ่งที่ชายหนุ่มพยายามทำเพื่อให้นางพอใจมันมากจนรู้สึกลำบากใจที่จะรับ หรือเป็นเพราะความอ่อนโยนที่อี้หลงมีมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้คนรับอย่างนางทำตัวไม่ถูกก็ไม่รู้ แต่ยิ่งนานหว่านเอ๋อร์ก็เริ่มรู้สึกผิดที่กลั่นแกล้งอีกคน แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเรื่องใหญ่อย่างที่นางไม่ได้ทำหน้าที่สะ

  • ยามเมื่อใจ เพรียกหาเพียงเจ้า   บทที่ 22

    บทที่ 22"ลูกจะต้องหมั้นหมายกับบุรุษผู้หนึ่ง..." หว่านเอ๋อร์ยังคงจำคำของมารดาที่บอกกับนางในวัยเยาว์ได้ดี ไม่เพียงแค่คำพูดที่น่าตกใจ ท่าทางของทั้งพ่อและแม่ของนางก็ดูแปลก ๆ ด้วยในวันนั้น หญิงสาวจำได้ดีว่าตอนนั้นตนไปถามทั้งสองว่าเมื่อเช้าที่จวนมีเรื่องอะไรกันทำไมคนถึงมากมายแม้พ่อและแม่จะมีท่าทางลังเลแต่สุดท้ายก็บอกเรื่องที่เกิดขึ้นออกมา “หมั้นหรือเจ้าคะ กับใครกัน” แม้จะไม่เข้าใจดีนักแต่ก็รู้ว่าการหมั้นหมายคืออะไร เพราะสหายและคนรู้จักหลายคนก็มีคู่หมั้นคู่หมายมาตั้งแต่เด็ก บางคนมีตั้งแต่เกิดด้วยซ้ำ แต่มิใช่ว่าพ่อแม่ของนางบอกว่าจะให้นางเลือกคนคนนั้นเองหรอกหรือ"เขาคือบุตรชายคนเล็กแห่งตระกูลโจว เรื่องการหมั้นของเขากับเจ้าค่อนข้างซับซ้อน”ตอนนั้นหว่านเอ๋อร์จำได้ว่าไม่ได้รู้สึกอะไรมากนักกับคำที่ได้ยิน แต่พอเริ่มโตก็เริ่มต่อต้าน แล้วตอนนี้เล่านางรู้สึกอย่างไรกับอีกฝ่ายกันแน่โจวอี้หลงนั้นไม่ได้เป็นคนอย่างที่นางคิด เขาไม่ได้กักขฬะ ที่จริงออกจะมีไหวพริบดีเสียด้วยซ้ำ และบางครั้งก็ดูเจ้าเล่ห์อย่างน่าหมั่นไส้ หน้าตาก็ดี... หว่านเอ๋อร์เผลอคิดเรื่องนั้นอย่างไม่ตั้งใจจนใบหน้าขึ้นสี และยิ่งเมื่อนึกถ

  • ยามเมื่อใจ เพรียกหาเพียงเจ้า   บทที่ 21

    บทที่ 21"เจ้าอ่านอะไรอยู่หรือ" อี้หลงถามภรรยาของเขาพลางชะโงกหน้าไปดูตำราในมือของหว่านเอ๋อร์ "ตำราพฤกษาน่ะเจ้าค่ะ ข้าชอบอ่านเรื่องพวกนี้ ท่านไม่เคยรู้หรือ เล่มนี้ท่านแม่ของท่านก็เป็นคนซื้อมาฝากข้า" "ข้ารู้" อี้หลงยิ้ม ที่จริงถ้าจะพูดให้ถูกเขาเพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี่เอง "ข้าแค่อยากหาเรื่องคุยกับเจ้าเท่านั้น” หว่านเอ๋อร์ถอนหายใจ แล้วมองสามีของตนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย"ท่านแม่ทัพที่มีแผนการมากมายในการรบ แต่กับเรื่องในเรือนท่านคิดว่าทำเพียงแค่นี้จะชนะใจข้าได้จริง ๆ น่ะหรือ” โจวอี้หลงส่ายหน้า “เรื่องนั้นยากเสียยิ่งกว่าการศึกอีก เพราะจิตใจของเจ้าดูจะอ่านยากกว่ากลศึกใด ๆ” อี้หลงหยุดพูดไปครู่และตัดสินใจเอ่ยบางอย่างที่ติดอยู่ในใจ"ข้าขอถามอะไรเจ้าอย่างได้หรือไม่" หว่านเอ๋อร์มองอีกฝ่ายด้วยสายตาสงสัย "ถามอะไรหรือเจ้าคะ" "ข้าอยากรู้เรื่องของเจ้าทุกอย่าง ทั้งถามจากท่านพ่อท่านแม่ของข้าและของเจ้า ถามจากทุกคนที่คุ้นเคยกับเจ้า แต่เจ้ากลับไม่เคยถามอะไรข้าเลย เจ้าไม่อยากรู้จักข้าอย่างนั้นหรือ” หว่านเอ๋อร์มองชายหนุ่มผู้ได้ชื่อว่าเป็นสามีด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป"เพราะข้าไม่อยากหาเรื่องทะเลาะกับท

  • ยามเมื่อใจ เพรียกหาเพียงเจ้า   บทที่ 20

    บทที่ 20เช้าวันถัดมา ในห้องโถงใหญ่ของตระกูลโจว บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะจากเหล่าสมาชิกในครอบครัวที่กำลังร่วมรับประทานอาหารเช้า โจวอี้หลงเดินเข้ามาพร้อมกับหว่านเอ๋อร์ทำให้ทุกคนหันไปสนใจในทันที อี้เทียนเหลือบมองน้องชายคนเล็กก่อนจะหันไปยิ้มกับน้องชายคนรองอย่างขบขัน เขายิ้มกว้างและเอ่ยเย้า "อี้หลง เมื่อคืนเจ้าหลับสบายดีหรือไม่ ดูเหมือนพื้นที่เรือนเจ้าคงจะไม่แข็งเกินไปกระมัง แต่ก็น่าจะดีกว่าสนามรบสินะ" อี้หลงหันไปมองพี่ชายด้วยสายตาแปลกใจ "ท่านพี่รู้ได้อย่างไร" "เจ้าอย่าตำหนิใครเลย” คนเป็นแม่พูดเพราะรู้ว่าลูกชายคงจะเดาได้ไม่ยาก “เป็นแม่เองที่ไต่ถามเรื่องในจวน แม่ย่อมต้องรู้อยู่แล้ว”ฮูหยินของตระกูลพูดเช่นนี้อี้หลงก็พอจะเข้าใจได้ เมื่อเช้าคนที่เห็นเขานอนอยู่ที่พื้นหน้าเตียงก็มีเพียงสาวใช้ที่ยกน้ำล้างหน้าให้กับเขาและหว่านเอ๋อร์เท่านั้นพอท่านแม่ไต่ถามนางก็คงจะบอกในทันที เรื่องนี้ทำให้อี้หลงรู้สึกเสียหน้าเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่นักเพราะเขาเต็มใจและไม่ได้ตำหนิอะไรหว่านเอ๋อร์เลยแม้แต่นิด รวมถึงไม่โทษสาวใช้คนนั้นด้วย“ไม่เป็นไรหรอกน้องชายถือว่าเป็นการแก้แค้นเล็ก ๆ น้อย ๆ ของหว่านเอ๋

  • ยามเมื่อใจ เพรียกหาเพียงเจ้า   บทที่ 19

    บทที่ 19บรรยากาศในห้องหอนั้นเงียบสนิท ต่างจากด้านนอกที่เขาเพิ่งขอตัวมาได้ โจวอี้หลงเดินไปยังหญิงสาวที่นั่งคลุมหน้าอยู่บนเตียงด้วยใจที่เต้นรัว ทั้งตื่นเต้นและกังวล เขารู้ดีว่าคืนนี้มีความหมายเพียงใด และไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเพียงแค่คิดถึงความใกล้ชิดของเขากับหว่านเอ๋อร์ที่จะเกิดขึ้นในฐานะคู่ชีวิต มันก็ทำให้จิตใจของเขาสั่นไหวและแทบควบคุมร่างกายของตัวเองไม่อยู่หว่านเอ๋อร์นั่งอยู่บนเตียงด้วยท่าทางสงบนิ่ง แต่ภายใต้ผ้าคลุมสีแดง แววตาของนางกลับเต็มไปด้วยความเด็ดขาดและมีเป้าหมายที่ชัดเจน แม้โจวอี้หลงจะใช้ราชโองการจนได้นางมานั่งอยู่บนเตียงของเขา แต่หว่านเอ๋อร์คิดว่าตนยังคงถือไพ่เหนือกว่า "มาถึงขั้นนี้แล้ว ข้าคงหนีท่านแม่ทัพไปไหนไม่ได้แล้ว" หว่านเอ๋อร์เอ่ยขึ้นทันทีที่รู้สึกว่าอี้หลงกำลังเดินเข้ามาใกล้นาง "แต่ข้าอยากให้ท่านรู้เอาไว้ ว่าข้าเกลียดการถูกบังคับมากที่สุด" อี้หลงชะงักไป เขามองหญิงสาวที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยสายตาที่ผสมระหว่างความรู้สึกผิดและความรักอย่างลึกซึ้ง ก่อนจะค่อย ๆ ยื่นมือไปเปิดผ้าคลุมหน้าของคนที่เขารักออก เผยให้เห็นใบหน้าของหว่านเอ๋อร์ที่ดูงดงามกว่าทุกวันจนทำให้หัวใจเขาเต้นแรงม

  • ยามเมื่อใจ เพรียกหาเพียงเจ้า   บทที่ 18

    บทที่ 18จูหลิงยิ้ม "เจ้าจะคิดแบบนั้นก็ได้ แต่จากที่ข้าได้ยินพวกขุนนางพูดกัน เขาเป็นคนไปขอให้ฝ่าบาทพระราชทานงานสมรสให้ด้วยตัวเองเลย เขาดูจริงใจไม่น้อยเลยนะ แล้วถ้าไม่คิดอะไรจริงจังกับเจ้าเขาคงไม่ทำเรื่องแบบนี้ หรือพูดแบบนั้นหรอก" หว่านเอ๋อร์ขมวดคิ้ว "เจ้าก็เข้าข้างเขาอีกคนแล้ว ข้าคิดว่าเขาแค่รู้สึกผิดที่เคยถอนหมั้นกับข้าเท่านั้นแหละ" จูหลิงยักไหล่ "หรืออาจจะเสียดายที่ยกเลิกการหมั้นกับเจ้า ไม่ลองเปิดใจดูเล่า" หว่านเอ๋อร์ถอนหายใจอีกครั้ง "ข้าจะเปิดใจได้อย่างไร ในเมื่อเขายังดู...เหมือนกำลังหลอกล่อข้าอยู่ตลอดเวลาเลย" จูหลิงหัวเราะเบา ๆ "บางทีนี่อาจจะเป็นนิสัยที่เขาได้มาจากสนามรบ ความเจ้าเล่ห์นั่น แต่ก็น่าสนใจดีไม่ใช่หรืออย่างไร" หว่านเอ๋อร์มองจูหลิงอย่างไม่เชื่อ "น่าสนใจหรือ ไม่มีทาง” "แต่ไม่ว่าอย่างไรหลังจากนี้... เจ้าคงเจอเขาบ่อยขึ้นแน่ ๆ" จูหลิงยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหยิบถ้วยชาขึ้นมาดื่มต่ออย่างสบายใจปล่อยให้หว่านเอ๋อร์นั่งเงียบคิดถึงคำพูดและสิ่งที่เพิ่งเจอก่อนหน้าหลังจากข่าวพระราชโองการของโจวอี้หลงและหลี่หว่านเอ๋อร์แพร่ออกไป ไม่ช้าทางราชสำนักก็กำหนดวันสำหรับพิธีมงคลอย่างชัดเจน วันสำคั

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status