บทที่ 8
วันนี้หลิวอี้เฟยไม่ได้ไปเดินเล่นในสวน นางเดินวนไปวนมาอยู่ในห้อง จะทำไงให้รอดพ้นอาหารเย็นค่ำคืนนี้ หากหยางชงอวี้กินเสร็จแล้วไม่ยอมกลับล่ะ แล้วมากินนางต่อจะทำยังไง ตายๆ ทำไงดี "ซิงซิง เจ้าไปบอกท่านอ๋องที่ว่าข้าไม่สบาย วันนี้คงทานข้าวเป็นเพื่อนไม่ได้" ซิงซิงหันไปมองเจ้าของเสียง นางก็ดูแข็งแรงดี เดินวนรอบห้อง หากไปเดินตลาดข้างนอกคงเดินทั่วเมืองเลยที่เดียว ทำไม่ต้องให้โกหก"พระชายา ไม่สบายตรงไหนเพคะ " เฮ้อ!! ข้าก็เข้าใจน่ะซิงซิงว่าเจ้าซื่อ แต่อย่าถึงขั้นซื่อบื้อขนาดนี้ได้มั้ย "ข้าปวดหัว เจ้าไปรายงานตามที่สั่งก็พอ" อ๋อ สงสัยเดินวนเวียนมากไป "เพคะ พระชายา" "เรียนท่านอ๋อง ช่วงนี้หลายวันมานี้ด้านหน้าจวนมีคนของราชครูมาด้อมๆมองๆ ทั้งวัน" จางหลงองค์รักษ์ของอ๋องสาม หลังจากพาพระชายาออกนอกจวนโดยไม่ได้รับอนุญาต ถูกสั่งโบย โทษนี้ตัวเขารับได้ เพราะเค้าฝ่าฝืนคำสั่ง แถมท่านอ๋องย้ายเขาไปดูแลส่วนหน้าของจวน มีคำสั่งห้ามเข้าใกล้พระชายาอีกด้วย คิดแล้วก็โทษตัวเอง วันนั้นไม่น่าขี้เกียจเดินแล้วใช้สวนเป็นทางลัดเลย "จับตาดูต่อไป แล้วมารายงานเป็นระยะ" คนข้างนอกเริ่มคลื่นไหว แต่คนข้างในยังนิ่งเฉย หลิวอี้เฟย เจ้ามีแผนจากจะกล่อมข้ายังไง ข้าจะกระชากหน้ากากเจ้าออกมาให้ได้ หยางชงอวี้ยิ้มเยาะ หลังจากนึกถึงใบหน้าของหลิวอี้เฟยหน้าปั้นยิ้มเสแสร้งของนาง "ท่านอ๋อง ซิงซิง สาวใช้ประจำตัวพระชายา ของเข้าเฝ้า" มู่หลง ที่ยืนยามอยู่ด้านนอก "ให้เข้ามา" ซิงซิง เดินตัวลีบเล็ก เข้ามาในห้อง "ท่านอ๋องเพคะ พระชายาทรงปวดศีรษะ วันนี้เกรงว่าจะรับประทานอาหารเย็นเป็นเพื่อนท่านอ๋องไม่ได้" พูดจบหน้าเหลือหดสองนิ้ว บรรยากาศในห้องเงียบสงัด หยางชงอวี้ยืนมองสาวใช้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่แฝงไปด้วยไอเย็น ซิงซิงกำลังจะร้องไห้ หยางชงอวี้โบกมือเป็นสันญาณ ให้ออกไป แล้วเดินไปหยิบหนังสือที่ชั้นมานั่งอ่าน ส่วนซิงซิงนั้นแทบจะบินออกจากห้อง จะสำเร็จมั้ย หวังว่าอ๋องบ้ากามนั้นคงไปกินข้าวเรือนอื่น นางไม่สบายเขาต้องไม่อยากมาวุ่นวายแน่นอน นึกแล้วก็ภูมิใจในตัวเอง ที่อยู่ๆก็คิดแผนนี้ออกในนาทีสุดท้าย หลิวอี้เฟยยืนยิ้มให้กับตัวเอง ''ข้านี้ฉลาดจริงๆ'' "พระชายาเพคะ สำรับอาหารเย็นมาแล้วค่ะ ซิงซิงให้พ่อครัวผัดผักบุ้งไฟแดง ของโปรดพระชายามาด้วย พระชายาจะได้อารมดี หายปวดหัวไวๆ" พูดไปจัดแจง จัดวางกับข้าวลงบนโต๊ะอย่าสวยงาม "เจ้านี้รู้ใจข้าจริง" หลิวอี้เฟย ยิ้มกว้าง โอ้ยซิงซิงเอ้ย อยู่ด้วยกันกับข้าก็นาน เจ้ายังซื่อไม่เปลี่ยน "เปิ่นหวางมาทันอาหารเย็นพอดีเลยใช่หรือไม่" หยางชวอวี้เดินเข้าห้องมา แล้วมานั่งที่โต๊ะอาหาร ทำเป็นไม่เห็นสีหน้าตกตะลึงของอีกฝ่าย "ท่าน ท่าน มาได้ยังไง ก็ ก็ ซิงซิงไปบอกแล้วนิว่าข้าไม่สบาย" นางพูดติดอ่างอีกแล้ว "พระชายาของเปิ่งหวางไม่สบาย เปิ่งหวางก็ต้องมาดูแลสิ" ยิ้มหวานตอบสาวสวยที่นั่งอ้างปากเหวออยู่ข้างๆ อี้เฟย รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด" ท่านอ๋องเพคะ วันนี้หม่อมชั้นรู้สึกไม่ค่อยสบาย เกรงว่าจะดูแล ปรนนิบัติท่านอ๋องได้ไม่ดี ยังไงท่านอ๋องเสด็จเรือนอนุเหมยหลันหลัน ดีมั้ยเพคะ" หยางชงอวี้ หยิบชามข้าวยัดใส่มือหลิวอี้เฟย "พระชายาของเปิ่งหวางป่วย จะให้ใจดำทิ้งไปได้ยังไง" ใจดำเลย ใจดำเยอะๆ ไม่ต้องมาดูดำดูดี รีบออกจากห้องข้าไปให้ไวที่สุดยิ่งดี อี้เฟยแหกปากอยู่ในใจ บรรยากาศการทานข้าววันนี้แปลกพิลึก อีกคนยิ้มอารมดี ตักคีบอาหารให้สาวสวยข้างกายไม่ขาด ส่วนอีกคนนั่งก้มหน้ามองชามข้าว ทำหน้าเหมือนกำลังถูกบังคับให้ยาพิษ ยิ่งเวลาหยางชงอวี้ คีบผักบุ้งไฟแดงมาให้" ของโปรดเจ้า ทานเยอะๆสิ" หลิวอี้เฟยทำหน้าเหมือนจะสำลักข้าวออกมา ข้าจะไม่กินผัดผักบุ้งไปอีกนาน ข้าจะลบเมนูนี้ออกจากของโปรด มื้อค้ำอันแสนแปลกประหลาดจบลง ซิงซิงเก็บสำรับแล้วออกจากห้องไป "เชิญท่านอ๋องเสร็จ เพคะ เดี๋ยวหม่อมชั้นไปส่งที่หน้าเรือน" อี้เฟยก้มหน้าถอนสายบัวให้หยางชงอวี้ "น้องหญิง ไม่ชอบให้เปิ่งหวางดูแลเอาใจใส่หรอกหรือ?" น้องหญิง? อี้เฟยตากระตุก สงสัยจะท่าไม่ดีแล้วแกอี้เฟย "ไม่เลยซักนิด" เอาว่ะ ตายเป็นตาย หากต้องนอนร่วมเรือนเคียงหมอนกับคนที่ไม่ได้รัก ตายยังจะดีกว่า หยางชงอวี้ เดินมาจับมือนางแล้วจุมพิต เมื่อเห็นอีกฝ่ายรีบชักมือออกแล้วถูหลังมืออย่างแรง จึงยิ้มเจ้าชู้เดินมากอดเอวนางจากข้างหลัง อี้เฟยขนลุกซู่ พยายามดิ้นรนออกมาจากวงแขนนั้นแต่ไม่เป็นผล "เจ้าไม่ได้ต้องการให้เปิ่งหวางรักและเอ็นดูเจ้าหรอกหรือ หากเปิ่นหวางเอ็นดูเจ้า จะต้องการสิ่งใดนั้นไม่ยากเลย" "ไม่เลยซักนิด ปล่อยข้าได้แล้ว" หลิวอี้เฟย ตะโกนออกมาสุดเสียง พยายามแกะมือปลาหมึกออกจากเอว หยางชงอวี้นั้นเค้าทราบดีว่านางพยายามหนีงานแต่งงาน แต่นางมีหน้าที่มากล่อมให้เค้าเข้าพวกกับราชครูแน่นอนเขามั่นใจในจุดนี้ "หากเจ้าขัดใจเปิ่นหวาง ไม่กลัวตระกูลหลิวเดือดร้อน?" "เกี่ยวอะไรกับข้า ข้าแต่งออกมาแล้ว ไม่ใช่คนตระกูลหลิวอีกต่อไป โอ๊ยปล่อยข้าได้แล้ว ถ้ามีอารมก็ไปหาอนุเจ้านู้น ข้าเชื่อว่าพวกนางยินดีปรนนิบัติเจ้าอย่างถึงใจ" เสียงหวีด โวยวายเสียงลั่นห้อง อยู่ๆหลิวอี้เหยก็ถูกดึงเหวี่ยงออกหมุนตัวมาอีกด้าน นางไม่ทันตั้งตัว ริมฝีปากของนางถูกปิดสนิทด้วยริมฝีปากหยกของหยางชงอวี้ นางไม่สามารถหนีได้เลย จูบนี้รุนแรง บดขยี้เนื้อบางของนาง บังคับเรียกร้องให้อี้เฟยอ้างปากรับลิ้นอุ่นๆ เข้าไปภายใน มืออีกข้างลูบไล้ไปยังแผ่นหลังของนาง แม้จะใส่จะมีเสื้อนอกกั้นอยู่แต่ได้รับรู้ได้ถึงสัมผัสร้อนๆจากมือหยางชงอวี้ อี้เฟยพยายามบังคับสมองน้อยๆที่เหลือที่ยังทำงานได้อยู่ ทำยังไงดีตายแน่ๆ ในห้องนอนอีกด้วย แกโดนรวบหัวรวบหางแน่อี้เฟยเอ้ย อยู่ๆ หลิวอี้เฟยก็เป็นลมล้มพับไป ถ้าหากหยางชงอวี้ไม่กอดไว้ ป่านนี้นางหัวฟาดพื้นไปแล้ว แน่นอนอี้เฟยแกล้งเป็นลมคิดว่าหยางชงอวี้เป็นถึงอ๋องอยากได้หญิงใดก็ได้สมใจ คงไม่หักหาญน้ำใจกับหญิงสาวไม่ได้สติ หยางชงอวี้ เหล่มองอี้เฟยด้วยความสงสัย แล้วอุ้มช้อนร่างบางไปนอนบนเตียงห่มผ้าให้ ดับเทียนในห้อง ก่อนจะดับเทียนดวงสุดท้ายหันไปมองร่างที่นอนอยู่บนเตียง สีหน้านางนั้นเกร็ง ปากแม้มเข้าหากันสนิท หยางชงอวี้ดับเทียนดวงสุดท้ายแล้วเดินออกจากห้องไป "หึหึ" หยางชงอวี้ หลุดเสียงออกมาเล็กน้อยไม่อยากเป็นของข้าถึงกับแกล้งเป็นลมเลยหรอ "ท่านอ๋อง คุณชายอวี้หยงกวง เชิญที่หอซื่อเซินขอรับ" มู่หลง องครักษ์คู่ใจเดินออกมาจากความมืด "อืม เตรียมรถม้า หาคนมาเฝ้าพระชายาไว้ เปิ่นหวางอยากรู้ทุกความเคลื่อนไหวของนาง" กวางน้อย ข้าอยากจะรู้เจ้าจะทำยังไต่อไป หึหึพิเศษ4องค์หญิงเลี่ยงลี่กำลังปั้นหิมะเล่นเป็นรูปสัตว์ต่างๆ เจินเป่ากลิ้งเล่นเอาตัวถูกับหิมะไปมา แม้เจินเป่าจะตัวเกือบเท่าเสือแต่อ่อนโยนกับเลี่ยงลี่ยิ่งกว่าลูกแมว"องค์ชายฮุ่ยจื่อ น่ารักมั้ยซิงซิง" จางเลี่ยงอดถามไม่ได้เพราะยังไม่มีใครได้เห็นองค์ชายเลยตั้งแต่คลอด นี้ก็สองวันแล้ว"น่ารักมากกกกกก ปากกับตาเหมือนพระชายาไม่มีผิด"ซิงซิงรีบตอบ แอบภูมิใจที่ตนได้เห็นและอุ้มองค์ชายน้อย"ถ้าเจ้าไม่รีบแต่งกับข้าระวังจะมีลูกไม่ทันใช้นะ" จางเลี่ยงยืนกอดอกมองซิงซิง"ข้ายังไม่ได้แต่งกับท่านเลย มาพูดถึงเรื่องมีลูกท่านนี้""ก็แต่งสิ"จางเลี่ยงพูดออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยซิงซิงหน้าแดง มือเผลอออกแรงใส่หิมะเยอะไปตุ๊กตาเลยแตก"พี่ซิงซิง" องค์หญิงน้อยแบะปากจะร้องไห้"ซิงซิงไม่ได้ตั้งใจเพคะ เดี๋ยวปั้นให้ใหม่นะเพคะ องค์หญิงอยากได้รูปอะไร ไม่ร้องน้าโอ้ๆ""เลี่ยงลี่ อยากได้ตุ๊กตาพ่อแม่ลูก " องค์หญิงน้อยนั่งสะอื้น"ข้าช่วย" จางเลี่ยงเดินมาช่วยซิงซิงปั้นตุ๊กตาหิมะหิมะตกหนักมาหลายวันแล้ว แต่จวนอ๋องมีแต่ความอบอุ่น เรือยเหมยฮัว มีขนาดใหญ่มาก ที่เรือนมีห้องนอนหลายห้องนอน ห้องหนังสือ ห้องทานอาหาร ท่านอ๋องต่อเติมออกไปเรื่
พิเศษ3หิมะกำลังตกหนัก อากาศหนาวมาก แต่ท่านอ๋องสามกำลังร้อนรุ่มกลุ้มใจ หมอตำแยถูกตามตัวมายังจวนท่านอ๋องสามอย่างเร่งด่วน พระชายา เจ็บท้องกำลังจะคลอด บ่าวไพร่ต่างพากันวุ่นวาย เนื่องจากท่านอ๋องถูกพระชายาไล่ออกมากจากห้องคลอดทำให้ท่านอ๋องนั้นฟาดงวงฟาดงาไปทั่ว ในห้องนั้นจึงมีแค่ พระชายา หมอตำแยและซิงซิงเท่านั้น"อี้เฟย เป็นอย่างไรบ้าง" หลังจากเดินวนอยู่หน้าห้องมาซักระยะ ตั้งแต่หมอมาถึงภายในนั้นเงียบเชียบข้าใจคอไม่ดีเลย ทำไมเงียบแบบนี้ เมื่อไม่มีเสียงตอบรับ อ๋องชงอวี้ก็ได้แต่เดินวนเวียนไปมาตอน ใจหนึ่งก็อยากจะเข้าไปดูแต่ถากหากเข้าไปนางบอกจะไม่พูดด้วยตลอดชีวิต จะเข้าไปก็ไม่ได้ รออยู่ข้างนอกก็ร้อนใจจะตาย "จิงซิ่ง เจ้าเข้าไปดูสิ" "หลิ่งถิง น้ำร้อนล่ะพร้อมมั้ย"มู่หลงองครักษ์คู่ใจได้แต่ส่ายหัว ไม่ใช่ลูกคนแรกเสียหน่อย ท่านอ๋องทรงวิตกกังวลเกินไปเฮ้อ! จางหลงถอนหายใจออกมาเบาๆ เบามากๆ เนื่องจากมองท่านอ๋องเดินไปเดินมาแล้วเกิดอาการเวียนหัว "ใครให้เจ้าถอนหายใจเสียงดัง เปิ่นหวางกำลังใช้สมาธิ" อ๋องชงอวี้หันมาทำตาเขียวใส่จางหลงเวรกรรม หายใจ ยังผิดเลยเวลานี้เวลาผ่านไป 2ชั่วยาม ในที่สุดก็มีความเคลื่อนไหวจ
พิเศษ2"คุยอะไรกันอยู่" อ๋องชงอวี้ เดินเข้ามาในเรือน อุ้มเลี่ยงลี่มานั่งบนตักหันไปหอมแก้มพระชายา แล้วก็ก้มลงหอมแก้มองค์หญิงน้อย ปากน้อยๆยังเคี้ยวขนมแก้มตุ้ยอยู่"อี้เฟย ว่าจะให้จิงซิ่ง หลิ่งถิง มาประจำที่เรือนเพคะ ""ดีๆ เจ้าท้องแก่มากแล้ว ซิงซิงดูแลเลี่ยงลี่คงไม่มีเวลามาดูแลเจ้าเท่าไร พรุ่งนี้พี่จะขอฮ่องเต้ลา จนกว่าเจ้าจะคลอดดีมั้ย"พระชายาอ้าปากค้าง ตอนข้าคลอดเลี่ยงลี่ก็ลาหยุด 1ปีเต็มๆ แถมต่อเติมเรือนทำห้องนอนให้เลี่ยงลี่อยู่ในเรือนเดียวกันกลับมาจากในวังก็คลุกอยู่กับเลี่ยงลี่ พาเข้านอนเองทุกคืน นี้จะลาหยุดก่อนข้าคลอดล่วงหน้าอีกหรือ โอ้ยพ่ออออ"ไว้อี้เฟยคลอดค่อยลาดีมั้ยเพคะ""ไม่ เพราะพี่ลาเสด็จพ่อมาเรียบร้อยแล้ว" น้ำเสียงเจือขบขัน พลางฟัดแก้มน้อยๆที่เคี้ยวขนมอยู่จ้าๆ ตามใจท่านเลยบ่ายคล้อย ท่านอ๋องวาดรูปอยู่ที่ศาลาริมสระบัวมีพระชายาเอนหลังอยู่ข้างๆ ท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทีส่วนองค์หญิงเลี่ยงลี่ วิ่งเล่นอยู่ไม่ไกล"เจ้าแก่แล้วกะมัง เล่นกับองค์หญิงแค่นี้หอบเชียว"จางเลี่ยงยืนพิงต้นไม้ ดูซิงซิงเล่นวิ่งไล่จับกับองค์หญิง"ปีนี้ข้าเพิ่งอายุ20ปี ข้าจะแก่ได้ยังไง ท่านนี้" อ้าปากมาก็ชวนตี คนบ้า
พิเศษ1โอ้ยยยยย ตายๆ ข้าจะเป็นลม สงสัยจะข้าแก่เกินไปแล้วสำหรับเรื่องนี้"องค์หญิงเพคะ ซิงซิงไม่ไหวแล้วเพคะ ได้โปรดหยุดก่อน แฮ่กๆ" ซิงซิงวิ่งตามเด็กน้อยคนหนึ่งเหงื่อเปียกโชกไปทั้งตัว"พี่ซิงซิง ตามมาๆ ไวๆ บี๋เสื้อน้อยจะบินหนีแล้ว" องค์หญิงหยางเลี่ยงลี่ เด็กน้อยวัย3ขวบ ผิวสีขาวราวกับน้ำนม ปากแดงแก้มแดง กำลังวิ่งตามจับผีเสื้อในสวนนิสัยขององค์หญิงนั้นตรงตามชื่อแทบจะทุกอย่างความงดงามที่สว่างไสว วันที่ลืมตาดูโลก ฮ่องเต้ทรงพระทานยศองค์หญิงและพระนามให้ หลานคนแรกของฮ่องเต้คงไม่ต้องบอกว่าทรงเอ็นดูแค่ไหน"ซิงซิงไม่ไหวแล้วเพคะ" ทรุดลงไปนั่งกับพื้น"ไม่ไหวก็ไม่หาคนอื่นมาช่วยล่ะ พระชายาบอกเจ้าหลายครั้งแล้วนิ" จางเลี่ยงยืนทอดเงาบังร่างของซิงซิงเอาไว้"ไม่ ข้าจะดูแลองค์หญิงคนเดียวเท่านั้น" หันค้อนขวับใส่เมื่อรู้ว่าเงานั้นเป็นของใคร "ท่านล่ะไม่เฝ้าพระชายาเหรอ ระวังท่านอ๋องทำโทษเอาจะหาว่าข้าไม่เตือน""เจ้าห่วงตัวเองเถอะ ข้าเปลี่ยนเวรกับจางหลงแล้ว ส่วนเจ้านะจะเป็นลมอยู่แล้ว" เดินไปอุ้มองค์หญิงน้อยชูแขนขึ้นจนสุด จนองค์หญิงน้อยจับผี้เสื้อได้"คิกๆ พี่จางเลี่ยงเก่งที่สุดเลย""องค์หญิง พระชายาตามหาอยู่นะขอรั
บทที่ 29ในที่สุดฤดูใบไม้ผลิก็มาถึง ลมเย็นๆ พัดลอดผ่านใบไม้ต้นหญ้าให้ความรู้สึกสดชื่น ต้นไม้ต่างแข่งกันออกดอกอวดสีสันสวยสดงดงามหน้าประตูเมืองหลวง ผู้คนมากมายสองข้างทาง มายืนส่งขบวนขององค์หญิงเจียวเหมย องค์หญิงจะเสด็จไปยังแคว้นต้าชิง เพื่อแต่งงานกับฮ่องเต้ต้าชิง เชื่อมสัมพันธ์ของสองแคว้น"รักษาตัวด้วยนะเจียวเหมย" อี้เฟยจับมือเจียวเหมย น้ำตาคลอเบ้า แม้ไม่ใช่พี่น้องร่วมสายโลหิต แต่นางเปรียบเสมือนน้องสาวตัวน้อยๆ ของนาง ต้องแต่งงานตามที่พ่อแม่จัดหาให้ เหมือนหญิงสาวทุกคนในยุคนี้"พี่สะใภ้ ข้าจะคิดถึงท่าน" องค์หญิงเจียวเหมยสวมกอดอี้เฟยไว้ ในราชวงศ์มีการแก่งแย่งชิงดีกันมากมาย มีเพียงแค่นางที่จริงใจกับข้า ดีกับข้าเสมอต้นเสมอปลาย นางเหมือนพี่สาวที่ข้าไม่เคยมี"เอาล่ะ ร่ำลากันพอแล้ว เดี๋ยวจะช้ากว่ากำหนดการ"ซื่อเล่อ พูดขึ้นขัดสองสาวที่กอดกันกลมอยู่ หากปล่อยให้ร่ำลากันต่อไปวันนี้คงไม่ได้เดินทางเป็นแน่"พี่สะใภ้ไม่ต้องห่วง ข้าจะส่งเจียวเหมยให้ถึงที่ รับรองปลอดภัยหายห่วง ท่านเชื่อมือข้าได้"ซื่อเล่อพูดหยอกเย้า ตามประสานิสัย"ฝากเจียวเหมยด้วยนะ" หลังจากส่งองค์หญิงเจียวเหมยขึ้นรถม้าไป เมื่อขบวนเคลื่
บทที่ 28"ไม่นึกเลย ฮ่องเต้จะประทานยาพิษให้พระสนมหลิว ได้ยินว่ายาพิษนั้นเป็นพิษน้ำทิพย์" บ่าวไพร่ในตระกูลหลิว กำลังนั่งนินทาเจ้านายอยู่ในโรงครัว"เฮ้อ นายท่านกับนายน้อยก็ถูกประหาร ไม่ทันไรคุณหนูใหญ่ก็มาถูกประทานยาพิษ นี้หาก.."ปัง!!!! เสียงประตูโรงครัวเปิดออก "พวกเจ้าไม่มีงานทำกันหรือไง ถึงได้มานั่งนินทาเจ้านาย หรือต้องถูกโบยถึงจะหลาบจำ" เสียงแม่นม คนสนิทของฮูหยินใจจริงอยากสั่งโบยพวกปากหอยปากปูพวกนี้ให้หมด แต่ตอนนี้ต้องอาศัยพวกเขา หลังจากนายท่านถูกประหาร บ่าวไพร่ลาออกเกือบหมด ใครจะอยากอยู่รับใช้พวกกบฏ ตอนนี้เหลือแค่ข้าเก่าเต่าเลี้ยงกับพวกที่ไม่มีที่จะไปเท่านั้นกระมัง"ท่านแม่ เราจะทำอย่างไรต่อไปดี" หลิวอี้ฟางนั่งกอดฮูหยินเอาไว้ หลังจาก พี่ใหญ่ถูกจับขังคุกหลวง ฮ่องเต้รับสั่งห้ามใครเยี่ยมเด็ดขาด ใครฝ่าฝืนคำสั่งต้องรับโทษสถานเดียวกับพระสนม คือประหารชีวิต"ฮ่องเต้ช่างลำเอียง ถ้าพูดให้ถูกพี่ใหญ่เป็นถึงพระสนมของฮ่องเต้เคยเป็นคนโปรด แล้วทำไมถึงได้ไปเข้าข้างนังอี้เฟย"" จุ๊ๆ อี้ฟาง อย่าพูดเสียงดังไปหากใครได้ยินเข้ามีกี่หัวก็คงไม่พอ แม่ไม่อยากได้ยินเรื่องพวกนี้อีก แม่เหลือแค่เจ้าแล้ว ฮือๆ" ข้