Share

บทที่ 265

Author: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
เจียงจิ่นเหยียนถามบ่าวรับใช้ของสกุลจางก่อนจึงค่อยส่งจางอวี่มั่วกลับห้องนอนของนาง ประโยคนั้นยังคงดังก้องอยู่ในหัวนางตลอด “ข้าจะแต่งกับนาง”

เขาช่วยปกป้องนางยามยากอีกครั้ง นางซึ้งใจจนแทบลืมหายใจ จ้องเจียงจิ่นเหยียนตาไม่กะพริบ ทำใจละสายตาไปจากเขาไม่ได้

นางอยากผูกติดอยู่กับเขาตลอดเวลาใจแทบขาด เขาก็เป็นเหมือนเทพบุตรของนาง ตั้งแต่เล็กจนโตก็เป็นเช่นนี้เสมอมา เมื่อเยาว์วัยนางถูกรังแก ก็มีแต่เขาที่ก้าวออกมาช่วยนาง

คราวนั้นนางถูกพี่ชายและน้องสาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องฝั่งพ่อข่มเหง เขาก็เหมือนแสงสว่างมาขวางด้านหน้านาง หลังจากนั้นเขาก็สั่งสอนพวกเขาอย่างดุเดือด เขาคงลืมแล้วสินะ

เจียงจิ่นเหยียนถูกนางจ้องจนหน้าแดงไปหมด เขาเตือนนางให้ปล่อยมือ “คุณหนูจาง หากเจ้าไม่เป็นอะไรแล้วก็ลงมาได้แล้วกระมัง”

สาวใช้ของจางอวี่มั่วก็ตกใจจนตะลึงงัน เห็นคุณหนูผ่านพ้นเมฆหมอกไปได้จนได้เห็นแสงสว่าง ก็ดีใจแทนนาง “คุณหนู คุณชายเจียงเรียกท่านอยู่นะเจ้าคะ”

จางอวี่มั่วจึงเพิ่งปล่อยมือจากคอเขา รีบขอโทษ “ขออภัยเจ้าค่ะ ข้า…”

เจียงจิ่นเหยียนคงรู้แล้วว่าเหตุใดนางจึงคิดสั้น ก็อธิบายว่า “วันนั้นข้าออกเดินทางไปกับท่านเหิงอ๋องกลางด
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 266

    ฮูหยินผู้เฒ่าจางก็เร่งมาเช่นกัน เมื่อตื่นขึ้นมานางถึงได้รู้ว่าหลานสาวถูกเจียงจิ่นเหยียนช่วยไว้ เดิมนางก็พอใจในตัวเขาอยู่แล้ว แต่เขาไม่ยอมรับปากมาตลอด และยังไม่ไม่ยอมแสดงออกอีก นางไม่อยากให้หลานสาวต้องได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจจริงๆ ถึงได้รับปากเจตนาสู่ขอของฮูหยินผู้เฒ่าซูนางก็ได้ยินเจียงจิ่นเหยียนกล่าวต่อหน้าทุกคนว่าจะขอแต่งงานกับหลานสาวของนางเช่นกัน เกรงว่าเรื่องนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงใดขึ้นอีก ฮูหยินผู้เฒ่าจางจึงกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “ด้านนอกล้วนมีหมอหลวงอยู่ เชิญหมอหลวงมาดูหน่อยก็ดี และถือโอกาสที่ทุกคนต่างอยู่ที่นี่ พวกเราสองครอบครัวก็กำหนดเรื่องการหมั้นหมายของเด็กทั้งสองคนกันเสียเลยเถิด”เจียงจิ่นเหยียนรีบกล่าวว่า “ไม่ต้องแล้วขอรับ บาดแผลเล็กๆ เท่านั้น ผู้เยาว์กลับไปใส่ยาเองก็ไม่เป็นไรแล้วขอรับ”ฮูหยินผู้เฒ่าจางเห็นความสนใจส่วนใหญ่ของเขาไม่อยู่ในเรื่องการแต่งงาน ดวงตาจึงมีความผิดหวังอยู่บ้าง สตรีนั้นหากจะออกเรือนก็ควรแต่งกับผู้ที่มีใจต่อนาง มิใช่ไปแต่งกับผู้ที่มิใส่ใจในตัวนางเจียงหรูเมิ่งเป็นคนที่เคยมีประสบการณ์มาก่อน รู้ว่าพี่ใหญ่เป็นคนหัวช้าในเรื่องของความรู้สึก จึงรีบกล่าว

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 267

    จางอวี่มั่วผลัดอาภรณ์เรียบร้อยแล้ว นางที่ประทินโฉมใหม่อีกครั้งกำลังเฝ้าอยู่หน้าฉากบังลมกับเจียงหรูเมิ่ง นางฟังอย่างสับสนงุนงง แอบคิดในใจว่า “บาดแผลบนร่างของเขาถูกคนตีมาหรือนี่ เป็นผู้ใดกันที่ใจดำต้องการทำร้ายเขา แถมเขายังยอมรับการทุบตีนี้อย่างเต็มใจอีก”เจียงหรูเมิ่งยิ้มน้อยๆ ว่า “คุณหนูจางโปรดอย่าได้คิดมาก พี่ชายของข้าเป็นคนดี เพียงแต่ตอนวัยรุ่นเขาโชคร้ายเท่านั้น”“เรื่องเป็นเช่นใดหรือ?” นางถามเจียงหรูเมิ่งกล่าว “สรุปคือ พี่ชายของข้าไม่ใช่พวกที่ทรยศต่อความรักพวกนั้น ในอนาคต หากเขาเต็มใจจะเล่าให้ท่านฟัง ท่านก็จะเข้าใจเอง ทุกสิ่งล้วนเป็นการกลั่นแกล้งของโชคชะตา พี่ชายของข้าเป็นคนคิดมาก คุณหนูจางเป็นผู้ศึกษาตำราจึงเข้าใจหลักเหตุผลต่างๆ ดังนั้น ท่านโปรดเข้าใจและเห็นใจเขามากหน่อยเถิด หลายปีมานี้เขาตัวคนเดียวก็ไม่ง่ายเลยจริงๆ ทั้งตั้งมุ่งมั่นร่ำเรียนวิชาแถมยังต้องดูแลเรื่องที่บ้านอีก”และเป็นเพราะน้องสาม สาวน้อยที่ราวกับผู้ใหญ่คนนั้นให้เขาออกไปก่อร่างสร้างกิจการข้างนอก ไม่เช่นนั้น ด้วยความรู้ความสามารถของเขา คงเข้ารับราชการเป็นขุนนางไปนานแล้ว และไม่แน่ว่าบัดนี้ก็คงประสบความสำเร็จสร้างผล

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 268

    แต่ดอกไม้ไม่บานไปตลอดกาล คนก็ไม่โชคดีตลอดไปเช่นเดียวกัน บุรุษล้วนชอบของใหม่รังเกียจของเก่า นางคิดว่านางได้เป็นพระชายาเหิงอ๋องแล้วก็จะอยู่ฝนตำแหน่งได้อย่างมั่นคงตลอดไปกระนั้นหรือยังคงเด็กเกินไปจริงๆ!หลี่ฮูหยินย่อมไม่ตำหนิพระชายาเหิงอ๋องอย่างเปิดเผย เพราะไม่ว่าอย่างไรตอนนี้นางก็เป็นพระชายาของเหิงอ๋องนางจึงกล่าวว่า “คำกล่าวนี้ของพระชายาหมายความเยี่ยงใดกันเพคะ ตอนนั้นเป็นคุณชายใหญ่เจียงที่ทำร้ายลูกชายของข้า เขาทำร้ายคนก่อน ตามหลักเหตุผลแล้ว เขาต่างหากที่ควรกินข้าวคุก แถมยังเกาะๆ แกะๆ กับหญิงสาวที่ยังไม่ออกเรือนอีก ช่างเสียทีที่เป็นบัณฑิต ดูท่ากฎระเบียบของสกุลเจียงก็คงไม่เคร่งครัดนัก นี่หากมิใช่เหิงอ๋องทรงไปช่วยพูดแทน ยามนี้คุณชายเจียงก็คงยังถูกขังอยู่ในคุกกระมังเพคะ”เจียงเฟิ่งหัวทั้งไม่โมโหจนหน้าแดงก่ำหรือกริ้วโกรธ นางกล่าวเบาๆ ด้วยแววตาที่สงบมั่นคงว่า “อ้อ ดูเหมือนทุกคนจะลืมคดีหญิงสาวหายตัวที่สกุลหยางก่อเมื่อครึ่งปีก่อนไปแล้ว ที่หลี่ฮูหยินรักและปกป้องบุตรชายของตนมากเกินไปเช่นนี้ ข้าเดาว่าคุณชายหลี่ก็คิดจะเลียนแบบหรือไม่กันนะ! ดังคำกล่าวที่ว่าสามขวบบอกอายุ เจ็ดขวบบอกสันดาน ลักษณะขอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 269

    ฮูหยินผู้เฒ่าซูไม่รู้ว่าเหตุใจจู่ๆ นางจึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา นางก็เดาใจเจียงเฟิ่งหัวไม่ถูก เมื่อครู่นางบีบหลี่ฮูหยินจนพูดไม่ออกโดยไม่เห็นแก่หน้าสกุลหลี่เลยสักนิด ท่าทางกดข่มบีบคั้นผู้คนเช่นนี้ทำให้คนรู้สึกรังเกียจนักเดิมนางคิดว่าเจียงเฟิ่งหัวเป็นเพียงบุตรสาวของขุนนางบุ๋นผู้หนึ่งเท่านั้น คิดไม่ถึงว่านิสัยจะแข็งกร้าวเพียงนี้ อายุยังน้อยเช่นนี้ก็ปากคอเราะรายขนาดนี้แล้วเจียงเฟิ่งหัวเห็นนางไม่ตอบ ก็กล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า “ฮูหยินผู้เฒ่าซูมิได้พาหลานชายมาร่วมงานเลี้ยงด้วยคนหนึ่งหรอกหรือ ท่านฮูหยินผู้เฒ่าคงมิได้คิดจะทำการสู่ขอให้คุณชายจีหรอกนะ!” อาศัยเขาก็คิดจะแต่งกับหลานสาวของท่านกั๋วกงอย่างนั้นหรือ การกระทำเช่นนี้ของฮูหยินผู้เฒ่าซูคิดจะดูถูกจางกั๋วกง หรือจงใจสร้างเรื่องกันแน่คนตาดีแค่มองก็รู้ว่า ฮูหยินผู้เฒ่าซูมิใช่คนดีกระไร“แน่นอนว่าไม่ใช่ เขาก็ไม่ใช่หลานชายแท้ๆ ของข้าเสียหน่อย พระชายาเหิงอ๋องโปรดอย่ากล่าววาจาอย่างไร้มูล” กระแสโทสะฮูหยินผู้เฒ่าซูคุกรุ่น เมื่อครู่นางก็พูดถึงเรื่องที่เฉินแต่งหญิงรับใช้ของจวนเหิงอ๋องเป็นภรรยาไปแล้ว ตอนนี้ยังพูดขึ้นมาอีก เจียงเฟิ่งหัวจงใจหาเรื่องชัดๆฮูหย

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 270

    ฮูหยินผู้เฒ่าซูไม่ได้คิดมาก นางคิดแต่จะเล่นงานเจียงเฟิ่งหัวเท่านั้น อันที่จริงแล้วซูเซวี่ยนเคยแต่งภรรยามาก่อน และยังแต่งถึงสองรอบด้วย ทว่าภรรยาทั้งสองคนล้วนจากโลกนี้ไปหมดแล้ว การแต่งกับจางอวี่มั่วถือเป็นการแต่งภรรยาเอกคนที่สาม แต่หากเขาไม่พูด คนสกุลซูไม่บอก ก็จะไม่มีผู้ใดรู้ที่เจียงเฟิ่งหัวรอก็คือคำนี้ นางวางแผนมาสิบปี ที่ระวังก็คือคนสกุลซู แล้วจะไม่ตรวจสอบลำดับสายตระกูลของตระกูลซูให้ชัดเจนได้อย่างไรอีกหลายปีข้างหน้า ซูเซวี่ยนจะได้กุมอำนาจทางทหารจริงๆ วิธีการของเขาโหดเหี้ยมอำมหิต ไม่ใช่คนดีมีคุณธรรม ชาติก่อนเป็นเพราะมีซูถิงหว่านคอยกระซิบอยู่ข้างหมอน ซูเซวี่ยนจึงยังได้เป็นแม่ทัพใหญ่พิทักษ์แผ่นดินด้วยในชาตินี้ เขาก็เป็นหนึ่งในศัตรูอันแข็งแกร่งที่เจียงเฟิ่งหัววางแผนจะต่อกรด้วยแต่นางคิดไม่ถึงว่า ในชาตินี้ ฮูหยินผู้เฒ่าซูจะให้ซูเซวี่ยนแต่งจางอวี่มั่วเป็นภรรยานางคิดว่า ชะตาของจางอวี่มั่วได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ดังนั้นจึงได้ดึงซูเซวี่ยนเข้ามาพัวพันด้วยเจียงเฟิ่งหัวกล่าวเรียบๆ ว่า “อย่างนั้นหรือ?” ถึงขนาดทำภรรยาตายไปสองคนแล้ว ยังบอกว่าไม่มีอีกในเวลานั้นเอง ฮูหยินผู้เฒ่าจางก็เดินอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 271

    วันนี้ พระชายาองค์ชายสามนำของขวัญมาที่จวนเหิงอ๋อง “เฟิ่งหัว ยินดีด้วย!”เจียงเฟิ่งหัวยิ้มบางๆ “เหตุใดพี่สะใภ้สามถึงล้อคนเป็นแบบพวกเขาด้วยเล่า”“เหิงอ๋องสร้างความชอบในการบรรเทาภัยพิบัติ ฝ่าบาททรงดีพระทัยอย่างยิ่ง เดิมก็เป็นเรื่องดีนี่นา” พระชายาองค์ชายสามกล่าวต่ออีกว่า “เหิงอ๋องจากเมืองหลวงไปสองเดือนแล้ว น่าจะใกล้กลับมาแล้วกระมัง!”เจียงเฟิ่งหัวรินชาให้นาง “พอจัดการงานทางเจียงหนานเสร็จก็น่าจะกลับมาแล้ว”พระชายาองค์ชายสามยิ้มแย้มอย่างเบิกบาน “เหิงอ๋องก่อตั้งหอการกุศลขึ้นมา ได้รับการยกย่องจากเหล่าบัณฑิตและนักปราชญ์จำนวนมาก กล่าวกันว่าเหิงอ๋องมีจิตเมตตาต่อมวลชน เป็นบุญของราษฎร และยังมีคนกล่าวว่า พระชายาของเหิงอ๋องไม่เพียงมีรูปโฉมงดงาม ยังมีจิตใจดุจพระโพธิสัตว์ ส่วนเหิงอ๋องก็หล่อเหลาสง่าไม่ธรรมดา ไอหยา พวกเจ้าสองสามีภรรยาช่างเป็นคู่สร้างคู่สมที่สวรรค์สรรค์สร้างจริงๆ…”“หากพี่สะใภ้สามยังกล่าวคำพูดยกยอพวกนี้กับเฟิ่งหัวอีก ข้าจะไม่ต้องรับท่านแล้วนะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวต่อว่า “พี่สะใภ้สามสิ่งใดก็กล่าวมาตามตรงเถิด”“อันที่จริงแล้วก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ก็แค่เหล่าฮูหยินสูงศักดิ์ทั้งหลายในเมื

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 272

    พระชายาขององค์ชายสามนับเป็นผู้ที่มีความสามารถและเด็ดเดี่ยวนัก นางถึงกับช่วยองค์ชายสามรับชายารอง และยังมีอนุคอยปรนนิบัติอีก บัดนี้นางได้ให้กำเนิดทายาทถึงสามคนแล้ว แต่ชายารองและอนุนางอื่นต่างมิได้คลอดสักคน นี่ก็เพราะพวกนางล้วนคนที่นางแอบวางไว้ข้างกายเพื่อให้บุรุษใช้แก้เบื่อเท่านั้น นางถึงจะเป็นภริยาเอก เมื่อมีลูกแล้ว ไม่ว่าผู้ใดก็สั่นคลอนตำแหน่งของนางไม่ได้“เฟิ่งหัวนับถือพี่สะใภ้สามนัก พี่สะใภ้เป็นผู้ที่มองเรื่องราวได้กระจ่างจริงๆ” เจียงเฟิ่งหัวยิ้มอย่างผ่อนคลาย“เจ้าอย่าได้เปลี่ยนเรื่อง ข้าเห็นว่าสาวใช้ข้างกายเจ้าสองคนนั้นล้วนไม่เลว ก็ไม่เคยคิดจะให้พวกนางช่วยเจ้าหรือ” พระชายาองค์ชายสามกล่าว“ท่านพูดถึงหงซิ่วกับเหลียนเย่หรือ?”“ปกติยามออกเรือน บ้านเดิมล้วนจะจัดหาสาวใช้ที่หน้าตาดีสองสามคนแต่งมาเป็นสินเดิมด้วย คนที่รับใช้ข้างกายเจ้าก็น้อยเกินไปแล้ว พวกเราเป็นพระชายา อย่างน้อยข้างกายต้องมีสาวใช้ขั้นหนึ่งสี่คนคอยปรนนิบัติ แบบนี้ ต่อให้ยกขึ้นเป็นอนุคนสองคนก็ยังเหลือคน” พระชายาองค์ชายสามถ่ายทอดประสบการณ์ให้นางตอนที่เจียงเฟิ่งหัวออกเรือน มารดาของนางก็คิดถึงจุดนี้แล้วเช่นกัน แต่ถูกนางปฏิเ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 273

    เจียงเฟิ่งหัวเห็นนางมีรูปโฉมงดงามสดใส มีลักษณะของสตรีเจียงหนานอยู่หลายส่วน ในดวงตาก็มีความหยิ่งทระนงบางส่วน ภายในใจของนางก็กระตุกขึ้นมา ยิ้มน้อยๆ ว่า “เจ้าเป็นผู้ใดกัน?”“หม่อมฉันมีนามว่าเย่ซู่ซู่ คนที่บ้านล้วนถูกน้ำพัดหายเสียชีวิตไปหมดแล้วเพคะ บัดนี้เหลือเพียงหม่อมฉันเพียงคนเดียว ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวไร้ที่พึ่ง โชคดีที่ได้เหิงอ๋องทรงให้ความช่วยเหลือ พระคุณที่ทรงช่วยชีวิต หม่อมฉันไร้สิ่งใดตอบแทน หม่อมฉันจึงคิดจะขายตัวเป็นบ่าว ขอพระชายาโปรดรับซู่ซู่ไว้ด้วยเถิดเพคะ” เย่ซู่ซู่คุกเข่าอยู่บนพื้นโขกศีรษะติดต่อกัน น้ำเสียงที่อ่อนแอ อ่อนละห้อยอย่างน่าสงสารนั้น เสนาะหูราวดั่งระฆังเงินเจียงเฟิ่งหัวมีสีหน้าสงบนิ่ง นางมองไปยังเซี่ยซาง “ท่านอ๋องทรงคิดเห็นอย่างไรเพคะ?”“ตอนนี้ข้างกายของหรวนหร่วนมีเพียงหงซิ่วกับเหลียนเย่เป็นสาวใช้ประจำกายสองคนเท่านั้น มีคนปรนนิบัติเพิ่มอีกสักสองสามคนก็ยังได้” เซี่ยซางกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “แต่สุดท้ายจะเก็บนางไว้หรือไม่ หรวนหร่วนก็ตัดสินใจเองเถิด”เก็บสาวใช้ที่หน้าตาดีเช่นนี้ไว้ข้างกาย แถมยังมีเจตนาซ่อนเร้นอีก! แม้แต่เซี่ยซางก็คิดจะเก็บนางไว้ นางมีความสามารถเ

Latest chapter

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 376  

    เหลียนเย่หยิบมาลองดม รู้สึกเพียงกลิ่นหอมสดชื่นโชยปะทะจมูก หอมยิ่งนัก “หากว่าคุณหนูมีของสิ่งนี้ตั้งแต่เมื่อเยาว์วัยก็คงดี ตอนเด็ก ๆ จะได้ไม่ต้องฝันร้ายบ่อย ๆ อีก” อ้าวเสวี่ยถามเหลียนเย่ “เกิด อะไรขึ้นกับพระชายากันแน่ พวกเจ้ารับใช้พระชายามาตั้งแต่ยังเล็ก เคยเกิดเรื่องน่าสะพรึงกลัวใดขึ้นกับนางมาก่อนหรือไม่?” “ไม่มี คุณหนูมีชีวิตเป็นสุขดีมาตลอด หากว่ายาหอมคืนเรือนสามารถช่วยให้คุณหนูไม่ต้องฝันร้ายอีกเช่นนั้นก็ดีมากแล้วจริง ๆ” ที่เหลียนเย่กล่าวมาเป็นความจริง เช้าตรู่วันต่อมา หลังจากเจียงเฟิ่งหัวตื่นขึ้นมาแล้วนางดูปกติคล้ายว่าไม่เคยมีเรื่องใดเกิดขึ้นมาก่อน เห็นอ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่เฝ้าอยู่ในห้องของนาง นางก็เหยียดตัวบิดขี้เกียจพลางกล่าวว่า “เมื่อคืนหลับสบายจริง ๆ ข้ารู้สึกจิตใจปลอดโปร่ง ร่างกายสดชื่นดีมาก พวกเจ้าได้จุดกำยานอะไรเอาไว้หรือไม่?” เหลียนเย่เห็นนางลืมเรื่องเมื่อคืนที่ละเมอร้องไห้ในความฝันไปก็ถามขึ้นว่า “พระชายาจำอะไรไม่ได้เลยหรือเพคะ?” “ข้าต้องจำอะไรได้หรือ?” เจียงเฟิ่งหัวประคองท้องของตนเองเดินลงมาจากเตียงพลางเอ่ยว่า “ข้าจำได้ว่าเมื่อคืนข้ากับเจ้านอนด้วยกัน” “ใช่แล้วเพค

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 375  

    ครั้นส่งสี่หมัวมัวออกไปแล้ว เจียงเฟิ่งหัวเองก็มิอาจใจเย็นอยู่เฉยได้ ซูถิงหว่านต้องมีความทรงจำจากเมื่ออดีตชาติแล้วแน่ ซูถิงหว่านรู้แล้วว่าหลังจากนี้นางจะได้เป็นฮองเฮา เพราะฉะนั้นนางถึงได้ไม่เกรงกลัวเพราะมีสิ่งยึดเหนี่ยว หากมิใช่เพราะการตายของจีเฉินทำให้การเดินทางของนางล่าช้า นางอาจจะมุ่งหน้าไปเขตชายแดนเพื่อรวมตัวกับคนสกุลซูแล้วก็ได้ นางมิอาจเอาความโปรดปรานของเซี่ยซางมาเดิมพันว่าตำแหน่งของนางจะมั่นคง เมื่อวานฝ่าบาทนอกจากพระราชทานสิ่งล้ำค่าให้กับนางเพื่อเป็นรางวัลแล้ว ยังพระราชทานป้ายอาญาสิทธิ์ทองคำส่วนพระองค์ป้ายหนึ่งให้กับนางด้วย ด้านบนมีอักษรเขียนว่า ‘เสมือนฮ่องเต้เสด็จ’ มีมันแล้ว นางก็สามารถเดินผ่านได้ทุกที่ในวังหลวงแม้กระทั่งทั่วทั้งใต้หล้า ตอนแรกนางงุนงงอยู่เล็กน้อย ต่อมาเฉากงกงถึงได้เร่งให้นางรีบกล่าวขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณของฝ่าบาทได้ สัญลักษณ์ของผู้ที่ได้รับป้ายทองอาญาสิทธิ์อันนี้ก็คืออำนาจ คือความไว้เนื้อเชื่อใจที่ฝ่าบาทมีต่อนาง “พระชายา ท่านเป็นอะไรไปเพคะ หน้าซีดเชียวเพคะ” เหลียนเย่เห็นนางเงียบไปนาน เหม่อลอยอยู่ตามลำพัง “เปล่า อาจเพราะเหนื่อยล้าเกินไปหน่อยกระมัง ข

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 374  

    สี่หมัวมัวตกใจกลัวตัวสั่น รีบยั้งปากทันใด ครั้นมาถึงด้านในตำหนักเฉินซี เจียงเฟิ่งหัวก็สั่งให้เหลียนเย่ปิดประตูทันที ทิ้งให้อยู่ในห้องกับสี่หมัวมัวลำพัง เห็นเพียงนางสีหน้าเยือกเย็น พร้อมเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า “สี่หมัวมัว เจ้าคงจะทราบดีว่าคำพูดเมื่อครู่ของเจ้ามีโทษหนักถึงขั้นตัดศีรษะ บัดนี้เสด็จพ่อมีพระพลานามัยแข็งแรงดี ตำแหน่งองค์รัชทายาทยังมิได้แต่งตั้ง เจ้ากลับเผยแพร่คำพูดเหล่านี้โดยพลการ มิเพียงเจ้าจะรักษาศีรษะของเจ้าไว้ไม่ได้ แม้แต่เสด็จแม่ ท่านอ๋องและข้าก็จะพลอยได้รับเคราะห์จากคำพูดประโยคนี้ของเข้าไปด้วย” สี่หมัวมัวตกใจกลัวจนเหงื่อเย็นไหลพราก ๆ “บ่าวทราบเพคะ ดังนั้นบ่าวถึงได้เก็บงำไว้ในใจมาตลอด บางคำมิได้พูด บ่าวเองก็ทุกข์ใจเพคะ หนนี้ถึงได้อยากแจ้งพระชายา อยากให้พระชายาช่วยโน้มน้าวฮองเฮาด้วยเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวอย่างจงใจ “เมื่อครู่เจ้าบอกว่าถ้อยคำเหล่านี้พระชายารองซูเอ่ยกับเสด็จแม่ เจ้ามิได้โป้ปดจริงแน่หรือ” สี่หมัวมัวเล่าอย่างละเอียดไม่มีปิดบัง “ถ้อยคำเหล่านี้บ่าวมิได้เป็นคนพูดเพคะ บ่าวจะกล้าพูดแบบนี้ออกไปได้อย่างไรเพคะ และมิใช่ฮองเฮาเป็นคนตรัสด้วยเพคะ ถ้อยคำเห

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 373  

    ผ่านไปสองวัน ซูถิงหว่านยังไม่กลับมา สุดท้ายแล้วนางเลือกเดินซ้ำรอยเดิมของชาติก่อนติดตามเซี่ยซางไปที่เขตชายแดน และที่น่าขันคือข่าวนี้เฉิงฮองเฮาเป็นคนมาบอกนางด้วยตนเอง ได้ยินเฉิงฮองเฮากล่าวว่า “พระชายารองซูไปที่เขตชายแดนเพื่อช่วยซางเอ๋อร์ทำศึก ซางเอ๋อร์เองก็จำเป็นต้องมีสตรีสักคนคอยดูแลอยู่เคียงข้างกาย ส่วนเจ้าก็ท้องแก่แล้ว ข้าจึงอนุญาตให้นางไป หรวนหร่วนเจ้าคงไม่กล่าวโทษข้ากระมัง” เจียงเฟิ่งหัวผุดยิ้มน้อย ๆ พลางเอ่ยว่า “เสด็จแม่ทรงคิดรอบคอบ ท่านอ๋องมีคนเอาใจใส่อยู่เคียงข้างกายสักคนก็นับว่าดีเพคะ เพียงแต่เหมันต์ฤดูอากาศข้างนอกหนาวเย็นยิ่งนัก และอีกไม่นานก็จะถึงวันปีใหม่แล้ว พระชายารองซูเป็นสตรีตัวคนเดียวเดินทางไปเช่นนั้นจะปลอดภัยหรือเพคะ” “นางมีวรยุทธ์ติดตัว และมีกองทัพสกุลซูปกป้องคุ้มครอง ปลอดภัยไร้กังวล เราเห็นว่านางก็มิได้มีท่าทีอิดออดอะไร” “เป็นเช่นนี้ก็ดียิ่งนักเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ฮองเฮาเปลี่ยนใจรวดเร็วเสียจริง ตอนแรกยังคัดค้านเซี่ยซางอย่างสุดกำลังไม่ให้พาสตรีไปออกศึก อ้างว่าจะไม่เป็นสิริมงคล ถึงขั้นทำลายความองอาจน่าเกรงขามของหัวหน้าแม่ทัพ ทว่าบัดนี้กลับอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 372  

    เจียงเฟิ่งหัวออกจากตำหนักคุนหนิงก็ตรงไปยังตำหนักเฉินซีทันที ในตอนนั้น เห็นนางกำนัลคนหนึ่งท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ก็โพล่งเสียงตำหนิออกไป “ใคร” อ้าวเสวี่ยตั้งรับทันที ไม่รอให้นางเดินเข้าไปใกล้ อวิ๋นฟางก็เดินงก ๆ เงิ่น ๆ มาหยุดเบื้องหน้าเจียงเฟิ่งหัว “บ่าวคารวะเพคะพระชายา” เจียงเฟิ่งหัวเห็นนางชัดถนัดตาแล้วก็แอบคิดเงียบ ๆ ในใจ นางมีฝีมือไม่เบาเลยทีเดียว แอบลอบกลับวังมาได้ ทว่าด้วยสถานการณ์ของนางตอนนี้ ซูถิงหว่านไม่มีทางปล่อยนางไปแน่ นางจนตรอกไม่มีทางถอยแล้ว จำต้องวิ่งเข้ามาหลบในวังถึงจะไม่ถูกคนไล่ล่า อ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่เองก็ชะงักงันไปแล้วเช่นกัน อวิ๋นฟางช่างกล้าหาญยิ่งนัก กล้ากลับเข้ามาในวังหลวงอีก พวกนางคิดว่าหลังจากอวิ๋นฟางหนีไปทางประตูหลังของเขตเมืองหลวงแล้ว นางจะหนีออกไปจากเมืองเซิ่งจิง อย่างน้อยก็ต้องหนีให้ห่างไกลจากเรื่องวุ่นวาย ปกป้องชีวิตไว้เป็นสำคัญ “เข้ามาเถิด!” เจียงเฟิ่งหัวกล่าว อวิ๋นฟางตามเข้าไปในตำหนักเฉินซี นางกำนัลได้ต้มน้ำร้อนเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ภายในห้องอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง ภายใต้แสงตะเกียงสว่างรุบรู่ อวิ๋นฟางก็เริ่มขะมักเขม้นทำงานสารพัดทั้งยกน้ำเทน้ำ นางยังกระตือ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 371  

    เฉิงฮองเฮาเปิดเปลือกตา ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า “มาแล้ว จัดการเรื่องข้างนอกวังเรียบร้อยดีแล้วหรือยัง? ออกจากวังไปครึ่งเดือนแล้วมิใช่หรือ!” เจียงเฟิ่งหัวท่าทางมิได้หยิ่งยโสเกินควรแต่ก็มิได้ถ่อมตัวจนเกินเหตุ “ทูลเสด็จแม่ จัดการเหมาะสมเรียบร้อยดีแล้วเพคะ” “ข้าได้ยินว่าเมื่อสิบวันก่อนสินค้าและวัตถุดิบถูกส่งไปหมดแล้ว” แม่สามีของนางก็ดูจะวางมาดขึ้นเช่นกัน ราวกับต้องการให้นางยอมเชื่อฟังคำสั่งสอน เหมือนกับเมื่อชาติก่อนไม่มีผิด “เพคะ เพียงแต่ของที่ส่งออกไปเมื่อสิบวันก่อนเป็นแค่ชุดแรกเพคะ เพราะมีจำนวนมากเกินไป ชุดต่อไปจะต้องทยอยลำเลียงออกไปเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวอย่างละเอียด มองแล้วอ่อนโยนนอบน้อม สงบเสงี่ยมเรียบร้อยมารยาทเพียบพร้อมไร้ที่ติ แม้แต่เฉิงฮองเฮายังมิอาจหาจุดใส่ไฟได้เลย “ลุกขึ้นมานั่งเถิด” น้ำเสียงของเฉิงฮองเฮาฟังดูดีขึ้นเล็กน้อย “ซางเอ๋อร์มีสกุลซูคอยจุนเจือ บัดนี้เด็กในครรภ์ของเจ้าสำคัญเหนือสิ่งใด อย่ามัวเพ่นพ่านด้านนอกมากนัก อย่าไปข้องเกี่ยวกับสตรีในหมู่ขุนนางราชสำนักมากเกินไป ที่สำคัญจงอย่าได้มัวละโมบใฝ่หาความดีความชอบจนลำดับความสำคัญผิดไป” เจียงเฟิ่งหัวคิดในใจ ตอนอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 370

    “เพคะ สะใภ้รับบัญชา”จากนั้น เจียงเฟิ่งหัวก็วางหมากลงไปตัวหนึ่ง “เสด็จพ่อ ทรงแพ้แล้วเพคะ”ฮ่องเต้เหลือบมองกระดานหมากคราหนึ่ง เริ่มจากความตกตะลึง ตามด้วยสีหน้ามืดครึ้มที่มองไม่ออก จากนั้นก็ทรงหัวเราะออกมาว่า “ดูเหมือนเราไม่อาจไม่ตกรางวัลนี้แล้ว มาเล่นอีกตา หากเจ้าชนะเราอีก เราก็จะมอบรางวัลให้อีกครั้ง”เจียงเฟิ่งหัวเก็บหมากบนกระดานขึ้นมาอย่างเยือกเย็น ไร้ความลนลาน “ลูกก็ชนะมาได้อย่างหวุดหวิดเพคะ ต้องเป็นเพราะเมื่อครู่เสด็จพ่อทรงฟังลูกพูดเพลิน จึงได้ออมมือให้ลูกแน่เลยเพคะ”“เจ้าคงไม่รู้สินะ หลายวันมานี้เรามีราชโองการเรียกตัวบิดาของเจ้าเข้าวังมาเดินหมากเป็นเพื่อนเราทุกวัน เขากลับไม่เคยชนะเราเลยสักตา ช่างน่าเบื่อนัก แต่เขาบอกว่าบุตรสาวของเขาเป็นยอดฝีมือในการเดินหมาก เรายังคิดว่าเขาพูดเกินจริงเสียอีก แต่วันนี้ หลังได้เดินหมากไปกระดานหนึ่งเราก็เชื่อแล้ว”“ท่านพ่อก็เหมือนยายหวังขายแตง ที่ชอบขายเองชมเองเพคะ ต่อให้บุตรสาวของท่านจะทำสิ่งใดไม่เป็นเลย ท่านก็รู้สึกว่าดีอยู่ดีเพคะ”“ยังถ่อมตัวเข้าเสียแล้ว เมื่อมาเป็นลูกสะใภ้ของราชวงศ์เรา แค่การถ่อมตนอย่างเดียวไม่พอหรอกนะ ในอนาคตยังต้องช่วยซางเอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 369

    เมื่อเจียงเฟิ่งหัวกลับวังก็ถูกฮ่องเต้เรียนตัวไปที่ห้องทรงอักษร หลังนางรายงานเรื่องภารกิจที่ฮ่องเต้มอบหมายให้นาง ก็วางแผนจะกลับตำหนักคุนหนิงไปคารวะฮองเฮาแต่จู่ๆ ฮ่องเต้ก็ตรัสขึ้นมาว่า “ได้ยินว่าพระชายาของเหิงอ๋องชำนาญการวางหมาก เราอยากหาคนมาเล่นด้วยสักตาพอดี ว่าอย่างไร จะอยู่เล่นเป็นเพื่อนเราสักตาหรือไม่”เจียงเฟิ่งหัวคารวะลงรอบหนึ่งด้วยมารยาที่พอเหมาะ ไม่ถ่อมตัวไม่เย่อหยิ่ง แล้วกล่าวอย่างเคารพว่า “เคารพมิสู้เชื่อฟัง สะใภ้ย่อมทำตามพระบัญชาของเสด็จพ่อเพคะ แต่หากเสด็จพ่อทรงเป็นฝ่ายปราชัย ลูกจะขอรางวัลจากเสด็จพ่อสักอย่างได้ไหมเพคะ”ฮ่องเต้ตรัสว่า “อยากได้อะไรก็พูดมาได้เลย หากเจ้าเอาชนะข้าได้ ก็ถือเป็นรางวัลที่เจ้ามีผลงานใดการทำคดี แต่หากพ่ายแพ้ รางวัลก็จะไม่มีแล้วนะ”เจียงเฟิ่งหัวแอบคิดว่า “ฮ่องเต้ยังคงเป็นพวกที่ไม่ยอมเสียเปรียบ ถึงกับเอารางวัลของนางมาใช้เดิมพันหมาก หากนางชนะหมากควรนับเป็นรางวัลพิเศษไม่ใช่หรือ!”“เพคะ” นางตอบอย่างว่าง่ายเพราะในท้องของเจียงเฟิ่งหัวมีเด็กอยู่ เพื่อดูแลเด็กในท้องของนาง จึงให้หัวหน้าขันทีเฉายกโต๊ะที่สูงขึ้นเล็กน้อยเข้ามาตัวหนึ่งมาใช้แก้ขัด และยังเตรียม

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 368

    คนทั้งสองเท้าสะเอวหัวเราะขึ้นมา “คนที่คิดจะช่วยคุณหนูหลินของเราไถ่ตัวมีเต็มไปหมด ท่านต่อแถวไม่ทันหรอก อีกอย่าง ท่านก็ไม่มีคุณสมบัตินั้นด้วย อย่าได้เพ้อฝันอีกเลย” คุณหนูหลินไม่ขาดแคลนเงินทอง ทั่วทั้งหออี๋ชุนล้วนอยู่ใต้การตัดสินใจของนาง ไม่จำเป็นต้องไถ่ตัวเพราะนางไม่มีสัญญาขายตัว“ข้าจะต้องแต่งนางเป็นภรรยาให้ได้ พวกเจ้ารอก่อนเถอะ” กัวเซี่ยวตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะแต่งกับหลินอวี่ให้ได้ในบรรดาเหล่าคุณชายตระกูลใหญ่ กัวเซี่ยวก็พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง เขาหน้าตาไม่เลว ชาติตระกูลก็ไม่เลว เขาจึงคิดว่าหลินอวี่ไม่มีทางปฏิเสธแน่ได้ยินเขาพูดเช่นนั้น จื่อฮุ่ยจึงเอ่ยบ้างว่า “หากคิดจะแต่งกับคุณหนูของข้า นอกเสียจากว่าท่านจะเป็นจอหงวน นั่นอาจพอมีโอกาสบ้าง ไม่เช่นนั้นก็อย่าได้เสียเวลาอีกเลย”กัวเซี่ยวตะลึงงันไปแล้ว ที่เขาไม่ชอบที่สุดก็คือการอ่านตำรานี่แหละเห็นเขายังคงไม่ยอมจากไปอีก พวกนางก็ไม่อยากเปลืองน้ำลายกับเขาแล้ว จึงตีกัวเซี่ยวจนสลบแล้วโยนเขาออกไปนอกหออี๋ชุนเสียเลย “ช่างน่ารำคาญเหลือเกิน คนที่อยากแต่งงานกับคุณหนูของข้าตอนนี้ต่อแถวไปถึงนอกประตูเมืองนู่นแล้ว ค่อยๆ ไปต่อแถวเถอะ” พวกนางย่อมไม่เห็น

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status