Share

บทที่ 57

Author: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
เซี่ยซางไม่อยากให้เรื่องราวใหญ่โตไปมากกว่านี้ ต่อให้คนของเขาสืบสาวมาถึงสำนักหลิงอวิ๋น เขาก็ไม่ได้ให้ใครรู้

เขาเอ่ยเสียงเข้ม “สำนักหลิงอวิ๋น ข้าจะจำไว้”

พูดจบ เขาก็เดินออกจากห้องรับแขกทันที เมื่อมาถึงด้านนอก จึงเห็นคนมามุงอยู่เต็มเรือน หนำซ้ำยังเป็นสตรีทั้งหมด สีหน้าพวกนางหวาดกลัว จ้องเขาตาไม่กระพริบ

เซี่ยซางถูกหญิงมากมายจ้องมอง อีกทั้งนึกถึงหญิงสาวร้อยกว่าคนที่ตายไป จู่ ๆ ในใจเขาหวาดกลัวเล็กน้อย ดูท่าคงต้องให้หลินเฟิงไปสืบที่มาของสตรีเหล่านี้

ทว่าสุดท้ายกลับทำให้เซี่ยซางผิดหวัง หญิงเหล่านี้เป็นเพียงหญิงน่าสงสารที่ไม่มีบ้าน ถานหว่านชิงเองก็เป็นหญิงชาวบ้าน ที่ถูกหยางจิ้งทำร้ายจนบ้านแตกสาแหรกขาด ส่วนพวกหญิงสาวที่อยู่ในสำนักหลิงอวิ๋นถูกนางรับไว้ทั้งหมด

สำนักหลิงอวิ๋นก็เป็นเหมือนศูนย์เมตตาธรรม

......

อีกด้านหนึ่ง เมื่อเจียงเฟิ่งหัวกลับไปที่ทะเลสาบร้อยบุปผา งานชมบุปผาได้จบลงแล้ว

งานชมบุปผาปีนี้มีทั้งเรื่องประหลาดใจและเรื่องน่าเสียใจ ทุกคนพูดกันไปต่าง ๆ นานา “คุณชายใหญ่เจียงไม่มาร่วมงาน น่าเสียดายยิ่งนัก ปีก่อนที่เขาร่วมงาน เวลานี้งานชมบุปผาก็ยังไม่จบ ทุกคนแข่งกันจนไม่อยากกลับ เด็กรับ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 58

    ซูถิงหว่านมองไปตามสายตาของนาง พบกับเซียวอวี้กำลังจ้องมาทางพวกนางไม่วางตาเห็นเพียงบนเรือยังมีคุณชายอื่นกำลังดื่มสุรา บนเรือมีหญิงสาวดีดพิณผีผาพร้อมขับร้อง น้ำเสียงดังเข้าหู อ่อนหวานกังวานเจียงเฟิ่งหัวไม่ตอบนาง คล้ายกำลังตั้งใจฟังเสียงบรรเลงซูถิงหว่านดูแคลน “พวกเขาใช้ชีวิตเสพสุข มีสตรีคลอเคลีย แต่ทหารชายแดนกลับลำบากพายุทรายล้างหน้าแทนน้ำ ปกป้องบ้านเมือง ลำบากตรากตรำ ช่างไม่ต่างจากหญิงร้องเร่ไม่รู้ความแค้นแห่งการเสียชาติ ยังคงขับขานบทเพลงผ่านแม่น้ำ!”เสียงของนางไม่เบา ดึงดูดสายตาคนรอบข้างได้ทันที มีคนชื่นชมเมตตาจิตของนาง ที่มีคุณธรรมอันยิ่งใหญ่แต่ก็มีบางคนที่ดูแคลนนางที่สารแน ทำไมนางไม่ไปเฝ้าชายแดนเองล่ะนางสวมชุดทะมัดทะแมงสีแดง เรือนร่างสง่างาม เมื่อเทียบกับหญิงอื่นทำให้ดูนางแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเจียงเฟิ่งหัวกล่าวเสียงค่อย “มิได้ พระชายารองกล่าวเช่นนี้ดูเหมารวมไปทั้งหมด อคติเกินไป ทำให้ไม่เที่ยงตรง”ซูถิงหว่านพูดจาเถรตรง ไม่รู้จักแต่งโคลงกลอน ยิ่งไม่รู้จักพวกคำสร้อย “พระชายาเองก็เป็นบุตรสาวราชครู แต่กลับช่วยออกหน้าพูดแทนพวกนาง คงเสียเกียรติลูกคุณหนูตระกูลใหญ่”“ข้าไม่ได้ช่ว

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 59

    “เซียวอวี้ ผู้ชนะในงานประชันบุปผา เรียนหนังสือเก่งมาก สหายอย่างเจ้าข้ากัวเซี่ยวคบแน่นอน” กัวเซี่ยวพูดเสียงดัง “แต่เจ้าจะแย่งคนงามกับข้าไม่ได้นะ”“คุณชายกัวระวังคำพูดด้วย” เซียวอวี้ยิ่งนอบน้อม พร้อมเอ่ยเตือนเสียงเข้มด้านหลังยังมีอีกสองประโยคไม่คิดยามนี้กลับต้องโศกาใช้พัดบังหน้า เฝ้ารอความรักจากราชาใต้เงาจันทร์ กัวเซี่ยวท่องกลอน ‘ความโศกาแห่งตำหนักตะวันตก’ ทำให้แคลงใจว่ากำลังหลอกล่อนางดั่งหญิงเปล่าเปลี่ยวในวัง เขาไม่อนุญาตให้ใครเกี้ยวเจียงเฟิ่งหัวต่อมา เขาหันไปยกมือคารวะเจียงเฟิ่งหัวเพื่อแสดงความเคารพ “ไม่ทราบว่าปีนี้คุณหนูสามก็มาร่วมงานชมบุปผาด้วย ข้านึกว่าหลังแต่งงานคุณหนูสามจะไม่ออกมาแล้ว คุณชายใหญ่เจียงดูเหมือนยังไม่กลับมา” เขาแอบดีใจ แม้จะเห็นนางเพียงแวบเดียวก็ยังดีใจ เพื่อปกปิดความในใจ เขายิ่งแสดงท่าทีนอบน้อมมีมารยาท“พี่ชายใหญ่ข้าไปเล่าเรียนที่แดนตะวันตก ตอนนี้ยังไม่กลับเมืองเซิ่งจิง แต่ก็น่าจะเร็วๆ นี้แล้ว” เจียงเฟิ่งหัวสีหน้าเรียบเฉย ไม่กลัวไม่เกรงเซียวอวี้กล่าวอีก “ปีที่ผ่านมาคุณชายใหญ่เจียงมางานชมบุปผาเป็นเพื่อนคุณหนูสาม ปีนี้เจ้ามาคนเดียว...”กัวเซี่ยวหันมองเซียวอวี้

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 60

    เห็นเพียงเซี่ยซางขวางหน้านางกะทันหัน สายตาที่จ้องนางเยือกเย็นราวจะกินคน ไม่พูดกับนางสักคำหันหลังจากไปทันทีดวงตาเจียงเฟิ่งหัวไร้เดียงสา อยากพูดบางอย่างแต่สุดท้ายกลับไม่พูดสิ่งใดเห็นเพียงซูถิงหว่านรีบตามไปทันที “ท่านอ๋อง ท่านเสร็จธุระแล้ว! พวกเราไปท่องทะเลสาบกันดีกว่าเพคะ!”“อืม” เขาไม่หันหลัง สำหรับคำขอของซูถิงหว่านเขาล้วนรับปากทั้งสิ้น อีกทั้งไม่อยากกลับจวนเร็วขนาดนั้น พอดีเจียงเฟิ่งหัวอยู่ที่นี่ด้วยเดิมทีเขามีเรื่องบางอย่างอยากถามเจียงเฟิ่งหัว แต่เมื่อเห็นนางยักคิ้วหลิ่วตาให้ชายอื่น ทำให้เขาไม่อยากสนใจนาง เจียงเฟิ่งหัวไม่รู้ว่าตัวเองคือหญิงที่มีสามีแล้วหรือ?เจ้าคนแซ่เซียวนั่นมีสิทธิ์อะไรมายืนขวางนางแก้ปัญหาให้นาง เขารู้จักกับพี่ใหญ่ของนาง สนิทกับสกุลเจียงด้วยหรือไม่ พวกเขารู้จักกันแต่แรกแล้วหรือ...ขณะนี้ในหัวของเซี่ยซางเต็มไปด้วยคำถาม ซูถิงหว่านเดินมาขวงแขนเขา เขาก็ยังไม่รู้สึกตัวเมื่อเห็นพวกเขาเดินออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ ทันใดนั้นเจียงเฟิ่งหัวเดินย้อนไปอีกทาง ในไม่ช้านางหายไปท่ามกลางฝูงชนรอให้เซี่ยซางรู้สึกตัวหันกลับมาดูว่าเจียงเฟิ่งหัวตามไม่ทันก็สายไปเสียแล้วกำลังจะเอ่

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 61

    หงซิ่วกับเหลียนเย่รีบเข้าไปประคอง เมื่อเห็นแผ่นหลังอวิ๋นฟางวิ่งหนีอย่างลนลาน มุมปากนางยิ้มเย็น ปากของกลุ่มชายเมาเหล้าร้องตะโกนตลอด “คนงาม เจ้าหนีทำไมเล่า มาให้พวกพี่ชายเอ็นดูเจ้าดี ๆ สักทีเถอะ!”ทันใดนั้นเมื่อเห็นความงามของเจียงเฟิ่งหัวก็ไม่อยากตามหญิงคนเมื่อครู่ไปอีก กลุ่มชายเมาเหล้าหันไปพูดจาหยาบโลนกับเจียงเฟิ่งหัวแทน “เหล่าสหาย ที่นี่มีสาวงามอีกสามคน”แววตาเจียงเฟิ่งหัวมีแต่ความผวาและหวาดกลัว หงซิ่วและเหลียนเย่ปกป้องนางไว้ด้านหลังพร้อมตะโกน “พวกเจ้าหลีกไป อย่าเข้ามานะ คุณหนู รีบหนีเร็วเจ้าค่ะ”เสียงของพวกนางดึงดูดความสนใจของผู้คนรอบข้าง แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย กลุ่มชายฉกรรจ์ที่ดื่มเหล้าเมามาย ใครก็ไม่อยากข้องเกี่ยว เพราะไม่มีใครอยากหาเรื่องใส่ตัวเจียงเฟิ่งหัวเองก็วิ่งไปทางทะเลสาบร้อยบุปผา เมื่อเห็นเซี่ยซางอยู่ด้านหน้า นางจึงล้มลงทันใด ดวงตาแดงก่ำมีน้ำตาไหลรินออกมาไม่หยุด ร่างกายหมอบลงกับพื้นและสั่นงก ๆ เซี่ยซางที่รีบมาเห็นภาพเจียงเฟิ่งหัวอ่อนแอบอบบางเข้าพอดี เขาโกรธแค้นมาก ดวงตาราวกับจะมีไฟลุกโชน เขารีบเดินดุ่มเข้าไปตรงหน้าเจียงเฟิ่งหัวพร้อมเรียกขานเสียงค่อย “หรวนหร่วน”

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 62

    หลังขึ้นรถม้า ซูถิงหว่านกล่าวเสียงค่อย “พระชายางดงามเพียงนั้น หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกหมายปอง โชคดีที่ไม่เกิดเรื่องราวใหญ่โต หม่อมฉันกับท่านอ๋องเป็นห่วงแทบแย่ คราวหน้าพระชายาจะไปที่ใดต้องแจ้งพวกเราก่อน ท่านจากไปโดยพลการเช่นนี้อันตรายเกินไปเพคะ”ความหมายแฝงคือต้องโทษเจียงเฟิ่งหัวที่งดงามเกินไปจึงทำให้ผู้คนหวังผลจากนาง เตือนสติเซี่ยซางว่าเจียงเฟิ่งหัวมีความคลุมเครือกับชายอื่น นางหนีไปโดยพลการจึงพบกับชายเมาเหล้า ทุกอย่างล้วนเป็นความผิดของเจียงเฟิ่งหัวเจียงเฟิ่งหัวจ้องซูถิงหว่านกะทันหัน พร้อมสอบถาม “ความหมายของพระชายารองซูคือข้าผิดที่เกิดมางาม ทุกอย่างล้วนเป็นความผิดข้าหรือ”ซูถิงหว่านชะงักไป ก่อนจะรีบอธิบาย “หม่อมฉันไม่ได้หมายความเช่นนั้น พระชายาอย่าโกรธเคือง หม่อมฉันไม่ทันได้คิด ใจร้อนชั่วขณะจึงพูดออกไป ไม่ได้ตั้งใจ...”เจียงเฟิ่งหัวไล่ต้อนอย่างไม่ลดละ “พระชายารองซูช่างไร้เดียงสายิ่ง แค่คำว่าไม่ตั้งใจก็ทำให้ผู้อื่นตกสู่หุบเหวลึกไม่เห็นก้น พระชายารองซูเองก็เป็นสตรี เจ้าควรรู้ว่าชื่อเสียงสำคัญมากเพียงใดต่อสตรีคนหนึ่ง”“วันนี้ท่านอ๋องช่วยข้าไว้ ถือเป็นบุญของข้า แต่เหล่าหญิงสาวที่ถูกทำ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 63

    เซี่ยซางไม่สนใจ ข้อมือของเจียงเฟิ่งหัวถูกเขาจับไว้แน่น แรงของเขาเยอะมาก คล้ายจะดึงจนข้อมือนางหลุด นางดิ้นไม่หลุด จึงเสียงดังใส่เขา “ท่านอ๋อง ท่านทำให้หม่อมฉันเจ็บนะเพคะ มือหม่อมฉันจะขาดอยู่แล้ว”เซี่ยซางไม่สนใจ ดึงนางเข้าไปในหอสุราที่อยู่ด้านข้างทันที “เสี่ยวเอ้อร์ เปิดห้องที่ดีที่สุดหนึ่งห้อง”หลินอวี่ยืนอยู่กลางห้องโถง มองดูทุกสิ่งจนอ้าปากค้าง สาวใช้สองคนก็ตามอยู่ด้านหลังโดยไม่รู้เรื่อง คืนนี้เหิงอ๋องกินยาใดผิดจึงได้บ้าบอเช่นนี้ พวกนางก็ไม่กล้าเข้าไปยุ่งวุ่นวาย จึงได้แต่ตามอยู่ด้านหลังอย่างนอบน้อมท่าทางบอบบางของพระชายาช่างน่าสงสาร เหตุใดท่านอ๋องจึงไม่รู้จักทะนุถนอมกันสักนิด พวกนางเองก็รู้ว่านายหญิงตัวเองมีแผนการ จึงได้แกล้งโง่ยืนอยู่ด้านข้างเห็นเพียงเจียงเฟิ่งหัวราวกับถูกฉุดกระชากขึ้นไปชั้นบน เสี่ยวเอ้อร์รีบตามขึ้นไปเช่นกัน จากนั้นพาพวกเขาไปยังห้องที่ดีและใหญ่ที่สุด “ท่านลูกค้ายังต้องการสิ่งใดหรือไม่ขอรับ?”“ไม่ต้องการ ไสหัวออกไป”เมื่อประตูปิดสนิท เซี่ยซางเกี่ยวตัวเจียงเฟิ่งหัวที่บอบบางขึ้นแล้วโยนไปบนเตียง จากนั้นคร่อมนางเอาไว้ แล้วจูบริมฝีปากนางอย่างบ้าคลั่ง เขาทำราวกับระบา

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 64

    นางจัดแจงเสื้อผ้าจนเรียบร้อย พร้อมกล่าวเสียงอ่อนโยน “ก่อนกลับจวน หม่อมฉันมีเรื่องอยากถามท่านอ๋อง คืนนั้นที่บอกว่าจะตรึกตรองเรื่องชอบหม่อมฉันอย่างจริงจัง ยังเชื่อถือได้หรือไม่?”เซี่ยซางหันมองนาง วันนี้ตอนอยู่ในวังเมื่อเขารู้ว่าเจียงเฟิ่งหัวลงชื่อในหนังสือคำร้อง ใจเขารู้สึกตื้นตัน วินาทีนั้นเขาร้อนใจอยากพบนางเหลือเกินมีคนคนหนึ่งยืนสนับสนุนเขาอยู่ท่ามกลางฝูงชนเงียบ ๆ ในใจเขารู้สึกอบอุ่นกระนั้น เมื่อเขาเห็นนางถูกชายอื่นปกป้องอยู่ด้านหลังบนสะพาน ตัวเขาราวกับถูกราดด้วยน้ำเย็น ในใจเขาทั้งโกรธทั้งแค้น เจียงเฟิ่งหัวที่งดงามเพียงนั้นดึงดูดสายตาของชายอื่น ทำให้เขาริษยาจนแทบคลั่งเมื่อเห็นนางถูกชายเมาเหล้ารังแก เขาแทบอยากจะสังหารพวกมันทันที นางบอบบางน่าสงสาร เขาอยากปกป้องนางทุกปฏิกิริยาของเขาแสดงให้เห็นอย่างหนึ่งว่าเขาสนใจเจียงเฟิ่งหัว ไม่ใช่เพียงเพราะนางเป็นพระชายาของเขาจิตใจของเขาว้าวุ่น เขาเกิดความรู้สึกอื่นต่อนาง หนำซ้ำยังยากจะควบคุมเขาไม่อยากยอมรับว่าตัวเองเปลี่ยนใจแล้ว ไม่อยากยอมรับว่าตัวเองผิดต่อคำสาบานที่ให้ไว้กับซูถิงหว่าน ยามนั้นเขากล่าวอย่างฮึกเฮิมว่าจะชอบสตรีอย่างซูถิงหว่า

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 65

    มือของซูถิงหว่านที่จู่ ๆ ก็ลูบคลำอยู่บนร่างของเขา ทำให้เขาแข็งทื่อทันใด แล้วพลิกตัวลุกขึ้นนั่งเขาเอ่ยกะทันหัน “หวานหว่าน...”แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยวาจา ซูถิงหว่านก็เป็นฝ่ายจูบริมฝีปากของเขา “ท่านอ๋อง หวานหว่านอยากเป็นของท่าน...”ในใจเซี่ยซางรู้สึกคลื่นไส้กะทันหัน จึงผลักนางออกไป “หวานหว่าน อย่าทำเช่นนี้”ซูถิงหว่านไม่ทันตั้งตัวกับการกระทำของเขา ในแววตาเต็มไปด้วยความสงสัย “อาซาง ท่านไม่รักข้าแล้วหรือ”ทันใดนั้นเซี่ยซางโผเข้าหานางราวกับคนบ้า เขาอยากจูบซูถิงหว่านโดยไม่สนใจสิ่งใด จูบนางโดยไม่ต้องรู้สึกถึงภาระทางใจ เขาอยากยืนยันว่าจะชอบนางเพียงคนเดียวแววตาซูถิงหว่านเต็มไปด้วยความปรารถนา นางนึกว่าสุดท้ายนางจะกลายเป็นคนของเขา กลายเป็นสตรีที่เหิงอ๋องรักมากที่สุด ทว่าจู่ ๆ ข้างหูกลับมีเสียงไร้เรี่ยวแรงของเซี่ยซางดังขึ้น “หวานหว่าน ขอโทษ ข้าทำไม่ได้”“อาซาง ท่านเป็นอะไร?” ในใจซูถิงหว่านรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่างเห็นเพียงเขาพลิกตัวลงจากเตียงกะทันหัน แล้วหาเสื้อผ้าตัวเองมาสวม ไม่รู้ทำไมเขาจึงไม่มีความปรารถนาในตัวซูถิงหว่านสักนิด เมื่อสัมผัสนาง ภายในหัวมีแต่ใบหน้าของเจียงเฟิ่งหัว

Latest chapter

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 384

    ในเวลานี้เอง ทันใดนั้นอู๋ซินก็เดินมาตรงหน้าเจียงเฟิ่งหัว “กราบทูลพระชายา ฝ่าบาทมีรับสั่งเชิญท่านเข้าไปพ่ะย่ะค่ะ”เขาก็กังวลมากว่านางจะติดร่างแหไปกับฮองเฮาด้วยโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เนื่องด้วยเรื่องวันนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพระชายาเหิงอ๋อง อู๋ซินจึงไม่ได้ส่งคนไปอธิบายสถานการณ์ก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเรื่องยุ่งยากโดยไม่จำเป็นเจียงเฟิ่งหัวจัดแจงเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็เข้าไปในพระตำหนักเฉียนชิงอย่างเคารพนบนอบก็ได้เห็นว่าเซี่ยหลิงเอ๋อร์ก็คุกเข่าอยู่ด้านใน ใบหน้านางมีแต่น้ำตา สะอึกสะอื้น ท่าทางดูเหมือนน้อยเนื้อต่ำใจมาก แขนของนางก็โผล่ออกมาข้างนอก แขนเสื้อม้วนขึ้นมา บนแขนเต็มไปด้วยรอยแผลถูกตี เลือดแดงสามารถสังเกตเห็นได้ ผิวเหมือนมีเลือดซึมออกมาแล้วนางครุ่นคิดในใจ แผลเหล่านี้เป็นฝีมือวังหมัวมัว หรือว่าเป็นฝีมือของนางเองกันแน่? อย่างมากวังหมัวมัวก็แค่ตีฝ่ามือ ไม่มีทางตีไปจนถึงแขนเด็ดขาดเจียงเฟิ่งหัวเดินเข้าไปด้านหน้า ถวายคำนับด้วยความเคารพ “หม่อมฉันถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ”ขณะที่นางกำลังจะคุกเข่าลงนั้นเอง ฝ่าบาทก็ตรัสว่า “ตามสบายเถิด ไม่ต้องคุกเข่าแล้ว ดึกดื่นป่านนี้แล้ว เจ้ามาทำอะไร”เจ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 383

    เมื่อเจียงเฟิ่งหัวตามมาถึงพระตำหนักเฉียนชิง เหล่าพระสนมในวังส่วนใหญ่ต่างก็มาถึงแล้วพระสนมเยี่ยนเฟยผู้ชอบประสมโรงเมื่อมีเรื่องวุ่นวายร่ำสุราจนเมาแล้วก็มาแทรกตัวอยู่แถวหน้า หญิงอายุเยอะแล้วอย่างนางหัวเราะเยาะโดยไม่สนใจว่าเรื่องจะยิ่งบานปลาย “หวังเจาอี๋ร้ายจริง ๆ กล้าสวมเขาให้ฝ่าบาท นางเข้าวังมายังไม่ถึงสองปีหรอกกระมัง แค่นี้ก็ทนไม่ไหวแล้วหรือ อยู่ในวังมันเหงาหงอย มิน่าล่ะ มิน่าล่ะ!”“ราตรีช่างยาวนานวังกว้างใหญ่ หญิงเดียวดายลำพังร่ำรำพัน…”“ใบหน้าอันเคยงามชราไป อยู่จำใจในวังให้ระทม…”“ฝันสลายน้ำตานองเต็มผ้า แว่วเสียงจากวังหน้ายามดึกดื่น…”“…”พระสนมเยี่ยนเฟยเริ่มขับขานบทกลอนต่อหน้าทุกคน ดูท่าทางเหมือนได้ระบายความโกรธเป็นอย่างมากเพียงไม่นาน หัวหน้าขันทีเฉาไม่สนใจลำดับยศต่ำสูงแล้ว สั่งให้คนรีบลากตัวพระสนมเยี่ยนเฟยออกไป “พระสนมเยี่ยนเฟย ท่านก็เงียบ ๆ ลงสักหน่อยเถิด หากทำให้ฝ่าบาททรงพิโรธแล้วท่านไม่เพียงแต่จะทำร้ายตัวเอง ยังจะทำร้ายอวี้อ๋องด้วยนะพ่ะย่ะค่ะ!”เยี่ยนเฟยกระเสือกกระสน พูดอ้อม ๆ แอ้ม ๆ ว่า “หวังเจาอี๋กล้าคบชู้เพราะนางมีความกล้า ข้ากลับเสียเวลาในวังไปเปล่า ๆ อยู่หลายสิบปี

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 382

    เซี่ยหลิงเอ๋อร์เมื่อชาติที่แล้วพูดได้เลยว่าเรียกร้องความสนใจ เกินหน้าเกินตาคนอื่นถึงขีดสุด มีหน้ามีตาไปทั้งชีวิต ชาตินี้ก็ไม่แน่นอนแล้ว ได้ยินว่าเฉิงฮองเฮามักจะลงโทษนางโดยใช้เหตุผลว่าเป็นการสั่งสอนกฎระเบียบแก่นางทันใดนั้นเจียงเฟิ่งหัวก็มองนางแวบหนึ่ง เพียงแค่ปราดเดียว นางก็ดูออกว่าสายตาที่เซี่ยหลิงเอ๋อร์จับจ้องที่นางเต็มไปด้วยความอาฆาตมาดร้ายในวังก็ต้องอยู่รอเฝ้าคืนข้ามปีเช่นกัน เพียงแค่ว่าหลังจากอาหารมื้อสุดท้ายของปีแล้ว ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกลับไปเฝ้ารอช่วงเวลาข้ามปีในตำหนักตัวเอง เวลานี้เอง คนในวังก็ยิ่งรู้สึกเหงาหงอยกลอนวรรคหนึ่งที่กล่าวไว้ว่า ทุกเทศกาลยิ่งคะนึงถึงครอบครัว ยิ่งถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเต็มที่ในช่วงเทศกาลเช่นนี้เจียงเฟิ่งหัวก็ต้องอยู่เฝ้าคืนข้ามปี เพื่อคนในครอบครัว ต่อให้นางง่วงแค่ไหนนางก็ต้องห่อตัวไว้ด้วยเสื้อคลุมขนสัตว์ นั่งล้อมอยู่ข้างเตาไฟเวลานี้เอง ด้านนอกก็มีเสียงตีฆ้องและกลองดังขึ้น ทั้งวังก็แปรเปลี่ยนจากที่เงียบสงบกลายเป็นอึกทึกครึกโครมขึ้นมาในชั่วพริบตาเหลียนเย่เปิดประตูวิ่งออกไปดูความวุ่นวาย เพียงไม่นานนางก็นำข่าวกลับมา “ในวังเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วเพคะ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 381

    เหลียนเย่นำข่าวที่ไปสืบมากลับมา “แต่ละคนแข่งกันแต่งตัวอย่างยั่วยวน จัดจ้าน ทั้งดีดพิณ เล่นหมากรุก เขียนตัวอักษร วาดภาพ แย่งกันแสดงความสามารถ กลัวสุด ๆ ว่าจะสู้คนอื่นไม่ได้ ดูท่างานชมดอกเหมยที่ฮองเฮาทรงจัดครั้งนี้ ทุกคนต่างก็รู้ว่าที่จริงแล้วมีวัตถุประสงค์อะไร”เจียงเฟิ่งหัวสีหน้าเรียบเฉย กำลังอ่านหนังสือเรื่องเล่าออกใหม่ที่อยู่ในมือ เนื้อหาตลกขบขันน่าสนใจ สนุกจนนางหัวเราะแฮะ ๆ ขึ้นมาเหลียนเย่กล่าว “พระชายา ท่านได้ฟังบ่าวพูดอยู่บ้างหรือไม่เพคะ!”เจียงเฟิ่งหัวไม่ละสายตาจากหนังสือ นิ้วอันเรียวงามทั้งสิบนิ้วพลิกหน้าหนังสือเบา ๆ ผ่อนคลายสบายอารมณ์ กล่าวเสียงอ่อนโยนว่า “ได้ยินแล้ว ไม่มีอะไรน่าฟังเลย คิดไว้อยู่แล้ว” เพราะว่าหญิงสาวเหล่านี้ต่อไปล้วนจะกลายเป็นพระสนมในวังทั้งสิ้น“ว่ากันว่าลูกสาวบ้านเจ้ากรมถังกับลูกชายใต้เท้าลู่เจ้ากรมยุติธรรมสนิทสนมรักกันมาตั้งแต่เยาว์วัยมิใช่หรือ? นางมีคนที่อยู่ในใจอยู่แล้ว ยังมาร่วมวงด้วยอีก ท่านน่ะไม่ได้เห็นท่าทางของนาง กลัวมาก ๆ ว่าจะด้อยกว่าคนอื่น แสดงออกอย่างกระตือรือร้นสุด ๆ” เหลียนเย่จิกกัดต่อไป“แล้วก็ยังมีจูเจินเจินกับเฉียวเซวียนเอ๋อร์นั่นอีก พว

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 380  

    ส่วนความแค้นระหว่างสกุลเฉิงและสกุลซู เฉิงฮองเฮาวางความสำคัญไว้หลังเซี่ยซางแล้ว ขอเพียงเซี่ยซางได้เป็นฮ่องเต้ ไม่ว่าเรื่องอะไรนางสามารถละทิ้งไปก่อนชั่วคราวได้ทั้งสิ้น ซูถิงหว่านยืนยันอย่างหนักแน่นว่าเซี่ยซางจะต้องได้เป็นฮ่องเต้ และนางก็เชื่อมั่นอย่างไร้ข้อกังขา รู้สึกว่าโอรสของตนเองมีความสามารถมากถึงเพียงนั้น สมควรได้ดำรงตำแหน่งเป็นรัชทายาท เป็นฮ่องเต้ นางเฝ้ารอวันที่ว่านี้มายี่สิบกว่าปีแล้ว เฉิงฮองเฮาเปลี่ยนน้ำเสียงให้อบอบอุ่นอ่อนโยน “ความหมายของหรวนหร่วนคือ? แม่นางเหล่านี้ไม่ว่าด้วยอุปนิสัย รูปโฉมหน้าตา หรือชาติกำเนิดล้วนหาได้ยากยิ่ง หากพวกนางหมั้นหมาย หรือสมรสกับผู้อื่นไปแล้วจริง ๆ ก็เท่ากับว่าพลาดไปแล้ว ข้าเองก็คิดเพื่อซางเอ๋อร์นะ” นางยังเอ่ยด้วยเสียงที่เบาลงอีกว่า “หรวนหร่วน ความจริงข้าเองก็กำลังคิดว่าจะดึงขุนนางให้มาเป็นพวกพ้องของซางเอ๋อร์ เจ้าในฐานะภรรยาของเขา ก็น่าจะรู้ว่าบิดาของพวกนางมีความสำคัญในราชสำนักอย่างไรบ้าง” ได้ยินถึงตรงนี้ เจียงเฟิ่งหัวอยากจะอาเจียนออกมาเต็มที คนที่ไม่รู้คงเข้าใจผิดไปกันใหญ่ว่านางกำลังเฟ้นหาลูกสะใภ้ให้ตนเอง ทั้งที่ความจริงแม่สามีเป็นคนลากลูกสะ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 379  

    เฉิงฮองเฮาก็หยิบภาพเหมือนออกมาให้เจียงเฟิ่งหัว พลางอธิบายทีละใบว่าคนในภาพเป็นธิดาของขุนนางท่านใด หลังจากเจียงเฟิ่งหัวดูแล้ว ในบรรดาภาพเหมือนเหล่านั้นก็มีคนคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่บ้าง ดูเหมือนว่านางจะเตรียมการทุกอย่างให้เซี่ยซางตามกฎเกณฑ์การคัดเลือกพระสนมจริง ๆ “สตรีที่เสด็จแม่ทรงเลือกมาเหล่านี้ งดงามเพริศพริ้งจริงเพคะ เพียงแต่ชาติกำเนิดของพวกนางจะไม่เอิกเกริกเกินไปหรือเพคะ ล้วนเป็นธิดาจากตระกูลบุญหนักศักดิ์ใหญ่ทั้งสิ้น พวกนางจะยอมสมรสกับท่านอ๋องเป็นเพียงอนุภรรยาได้อย่างไรเพคะ เสด็จแม่หากไปสู่ขอแบบนี้ เกรงว่าจะหมางใจกับขุนนางได้นะเพคะ!” “ได้เป็นอนุชายาของซางเอ๋อร์ ถือเป็นวาสนาของพวกนางแล้ว” เฉิงฮองเฮาเริ่มอวดดีขึ้นมาบ้างแล้ว คอยให้โอรสของตนได้เป็นฮ่องเต้ พวกเขาจะต้องระริกระรี้อยากส่งบุตรีเข้าวังจนทนไม่ไหวแน่ เจียงเฟิ่งหัวได้ยินคำพูดนี้แล้วรู้สึกไม่สบายใจยิ่งนัก ตอนนางเชิญท่านแม่เข้าวังเมื่อครั้งแรก ก็แสดงท่าทางสูงส่งถือดีเช่นนี้เหมือนกัน ราวกับว่าการที่เจียงเฟิ่งหัวได้สมรสเป็นพระชายาของโอรสของนาง นับว่าเป็นโชคดีที่บรรพบุรุษได้สั่งสมบุญบารมีจุดธูปใหญ่บูชาสวรรค์มา ก่อนที่เฉิงฮองเฮาจะเล

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 378  

    แต่นางเล่า ก็ได้แต่ทนทรมานต่อไปแบบนี้ ไม่รู้ว่าเมื่อใดจะได้หลุดพ้นออกมาเสียที ปัจจัยสำคัญคือบุตรชายไม่มีปัญญาจะไปแย่งชิงตำแหน่งนั้น มิเช่นนั้นนางเองก็… ฮองเฮาเห็นนางเงียบไปไม่พูดจา กระนั้นก็มิได้สั่งให้นางออกไป แต่ตรัสขึ้นอีกครั้งหนึ่งว่า “ใกล้จะปีใหม่แล้ว พวกเจ้าทุกคนประสงค์จะฉลองวันปีใหม่อย่างไรหรือ ข้าขอย้ำประโยคนั้น อย่าฟุ่มเฟือยสิ้นเปลือง บัดนี้ที่เขตชายแดนกำลังทำศึกสงคราม พวกเรายิ่งสมควรมัธยัสถ์ ต่อหน้าสตรีทั้งใต้หล้าควรเป็นแบบอย่างที่ดี พวกเจ้าทุกคนจงจำไว้ พวกเราเป็นสตรีของฝ่าบาท จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้ผู้คนปฏิบัติตาม แต่ละตระกูลของพวกเจ้า ก็ให้พวกเจ้าทุกคนกลับไปดูแลควบคุมกันเอง…” เฉิงฮองเฮาพร่ำพูดแต่เรื่องเดิมราวกับกำลังท่องบทสวดภาวนา ถ้อยคำเหล่านี้พวกนางฟังจนเบื่อหน่ายแล้ว ทุกคนขานรับด้วยความนอบน้อมราวกับสายน้ำไร้ชีวิต “เพคะ หม่อมฉันน้อมรับพระราชเสาวนีย์ของฮองเฮาอย่างเคร่งครัดเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวมองดูแล้ว ก็รู้สึกจืดชืดไร้รสชาติ นางฉลองปีใหม่ที่จวนสกุลเจียงยังน่าสนใจมากกว่า คนทั้งเรือนล้อมวงกินอาหารด้วยกัน ท่านพ่อท่านแม่ยังมอบเงินแต๊ะเอียปีใหม่ให้พวกนางเหล่าพี่สาวน้อ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 377  

    “หากเยี่ยนเฟยประสงค์จะพบพี่สะใภ้รอง ส่งคนไปตามนางก็ได้เพคะ เพียงแต่บัดนี้เสด็จพ่อทรงมอบราชกิจให้นาง และนางก็กำลังยุ่งมากเพคะ เกรงว่าจะไม่มีเวลาว่าเขาวังมาปรนนิบัติเยี่ยนเฟย มองจากพระวรกายของเยี่ยนเฟยแล้วเหมือนจะสบายดีเพคะ!” เจียงเฟิ่งหัวสุขุมเยือกเย็นมิได้ขุ่นเคือง พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “จะอย่างไรก็ตาม ความไม่กตัญญูมีสามประการ การไร้ทายาทสำคัญที่สุด…” เยี่ยนเฟยเพิ่งเอ่ยปากออกมา ทันใดนั้น เหล่านางสนมจากในวังก็ทยอยเดินออกมา เห็นเพียงพวกนางแสดงความเคารพต่อเจียงเฟิ่งหัวอย่างนอบน้อมก่อนคนแรก “น้อมคารวะพระชายาเหิงอ๋อง” นางผุดยิ้มเล็กน้อยพลางเอ่ยว่า “คารวะพระสนมทุกท่าน” เดิมทีวันนี้เป็นวันที่เหล่านางสนมในวังทุกพระองค์ต้องเข้ามาถวายบังคมต่อฮองเฮาในยามเช้า มองจากอาภรณ์แพรพรรณและการแต่งกายของพวกนางก็เห็นชัดเจนแล้วว่า ในระยะนี้นางสนมพระองค์ใดได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาทมากที่สุด ใบหน้าของพวกนางยิ่งเปล่งปลั่งแดงเรื่อ มากถึงขั้นฉายแววภาคภูมิใจอย่างเต็มที่ หย่าเฟยเป็นผู้คว้าชัยเหนือใครอย่างไม่ต้องสงสัย และนางก็ยังคงวางมาดงามสง่าในแบบองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ดังเดิม ทรวดทรงอรชรอ้อนแอ้น ด

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 376  

    เหลียนเย่หยิบมาลองดม รู้สึกเพียงกลิ่นหอมสดชื่นโชยปะทะจมูก หอมยิ่งนัก “หากว่าคุณหนูมีของสิ่งนี้ตั้งแต่เมื่อเยาว์วัยก็คงดี ตอนเด็ก ๆ จะได้ไม่ต้องฝันร้ายบ่อย ๆ อีก” อ้าวเสวี่ยถามเหลียนเย่ “เกิด อะไรขึ้นกับพระชายากันแน่ พวกเจ้ารับใช้พระชายามาตั้งแต่ยังเล็ก เคยเกิดเรื่องน่าสะพรึงกลัวใดขึ้นกับนางมาก่อนหรือไม่?” “ไม่มี คุณหนูมีชีวิตเป็นสุขดีมาตลอด หากว่ายาหอมคืนเรือนสามารถช่วยให้คุณหนูไม่ต้องฝันร้ายอีกเช่นนั้นก็ดีมากแล้วจริง ๆ” ที่เหลียนเย่กล่าวมาเป็นความจริง เช้าตรู่วันต่อมา หลังจากเจียงเฟิ่งหัวตื่นขึ้นมาแล้วนางดูปกติคล้ายว่าไม่เคยมีเรื่องใดเกิดขึ้นมาก่อน เห็นอ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่เฝ้าอยู่ในห้องของนาง นางก็เหยียดตัวบิดขี้เกียจพลางกล่าวว่า “เมื่อคืนหลับสบายจริง ๆ ข้ารู้สึกจิตใจปลอดโปร่ง ร่างกายสดชื่นดีมาก พวกเจ้าได้จุดกำยานอะไรเอาไว้หรือไม่?” เหลียนเย่เห็นนางลืมเรื่องเมื่อคืนที่ละเมอร้องไห้ในความฝันไปก็ถามขึ้นว่า “พระชายาจำอะไรไม่ได้เลยหรือเพคะ?” “ข้าต้องจำอะไรได้หรือ?” เจียงเฟิ่งหัวประคองท้องของตนเองเดินลงมาจากเตียงพลางเอ่ยว่า “ข้าจำได้ว่าเมื่อคืนข้ากับเจ้านอนด้วยกัน” “ใช่แล้วเพค

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status