ตอนที่ยี่สิบเอ็ด เหตุใดเป็นเช่นนี้
“แม่นางน้อยพูดเอาแต่ได้ ข้าไม่จ่ายค่าชดเชยใดทั้งสิ้น มากินอาหารแล้วเกือบตาย ยังต้องจ่ายเงิน มีที่ใดกัน” ชายนักเลงโวยวายต่อแต่ไม่กล้าเสียงดังด้วยจวงเห่ยกังยืนจังก้าอยู่
“นางก็บอกเองว่าหากน้องชายเจ้าเกือบตายจริงย่อมได้เงิน แต่หากไม่จริงจึงต้องจ่ายเงิน หรือว่าเจ้ารู้อยู่แก่ใจว่าไม่จริงจึงเกรงที่จะต้องจ่ายเงิน” บุตรชายแม่ทัพใหญ่สวนด้วยคำพูดตรงไปตรงมาตามนิสัย
“เอ่อ...ข้า...” ชายนักเลงเริ่มพูดไม่ออกด้วยไม่คิดว่าจะมีบุตรชายแม่ทัพใหญ่ยื่นหน้ามาช่วยเหลือ
ผู้ว่าจ้างบอกเขาว่าเจ้าของร้านเป็นเพียงหญิงสาวอ่อนแอ นอกจากเงินค่าจ้างที่ได้รับแล้วจึงคิดจะข่มขู่เอาเงินให้หนักอีกทาง
“ไป นำทางไปได้แล้ว” ทหารผู้ติดตามของจวงเห่ยกังก้าวเข้ามารวบสองแขนของชายท่าทางนักเลงแล้วลากออกไปราวเป็นนักโทษเสียเอง ขณะหลี่หยู่ซี
ตอนที่ยี่สิบสอง ช่วยเหลือ“ข้าต้องเตรียมการที่นี่ให้ลงตัวก่อนจึงจะไปได้ พวกเราวางแผนเอาไว้แล้ว ขอองค์ชายอย่าได้ปรับเปลี่ยนตามใจ” หลี่หยู่ซีตอบอย่างไม่เกรงใจ“ได้ เช่นนั้นข้าจะรออยู่ที่นี่” กลายเป็นว่าองค์ชายผู้ไม่เคยมีหญิงใดขัดใจกลับรั้งรอด้วยต้องการเอาชนะสาวน้อยเจ้าของร้านหมาล่าเลิศรสหลี่หยู่ซีส่งจดหมายไปหากัวจื่อหานหลายครา แต่ไม่มีจดหมายตอบมาสักฉบับจนเริ่มกังวลใจเกรงว่าเขาจะมีเรื่อง สุดท้ายนางถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ ใบหน้าซูบเซียว“เจ้าโหมงานหนัก หรือห่วงคุณชายกัวมากไปกันแน่จึงดูทรุดโทรมเพียงนี้” จวงเห่ยกังซึ่งบัดนี้แวะมาแทบทุกวันทักถามด้วยหยางหมิงเจ๋อโดนคุมตัวอย่างเฝ้าระวังจึงปลีกตัวมาได้ยาก ขณะที่องค์ชายแคว้นโจวไปๆมาๆราวที่นี่เป็นบ้าน จวงเห่ยกังจึงรับหน้าที่มาตามติดเพื่อป้องกันไม่ให้มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นกับทั้งองค์ชายต่างแคว้นและหญิงสาวเจ้าของร้าน“เขากลับไปได้เกือบเดือนแล้ว ไม่มีจดหมายตอบมาสักฉบับ ข้าเกรงว่าเขาจะมีอันตราย” ด้วยเห็นหน้าจนคุ้นเ
ตอนที่ยี่สิบเอ็ด เหตุใดเป็นเช่นนี้“แม่นางน้อยพูดเอาแต่ได้ ข้าไม่จ่ายค่าชดเชยใดทั้งสิ้น มากินอาหารแล้วเกือบตาย ยังต้องจ่ายเงิน มีที่ใดกัน” ชายนักเลงโวยวายต่อแต่ไม่กล้าเสียงดังด้วยจวงเห่ยกังยืนจังก้าอยู่ “นางก็บอกเองว่าหากน้องชายเจ้าเกือบตายจริงย่อมได้เงิน แต่หากไม่จริงจึงต้องจ่ายเงิน หรือว่าเจ้ารู้อยู่แก่ใจว่าไม่จริงจึงเกรงที่จะต้องจ่ายเงิน” บุตรชายแม่ทัพใหญ่สวนด้วยคำพูดตรงไปตรงมาตามนิสัย “เอ่อ...ข้า...” ชายนักเลงเริ่มพูดไม่ออกด้วยไม่คิดว่าจะมีบุตรชายแม่ทัพใหญ่ยื่นหน้ามาช่วยเหลือผู้ว่าจ้างบอกเขาว่าเจ้าของร้านเป็นเพียงหญิงสาวอ่อนแอ นอกจากเงินค่าจ้างที่ได้รับแล้วจึงคิดจะข่มขู่เอาเงินให้หนักอีกทาง“ไป นำทางไปได้แล้ว” ทหารผู้ติดตามของจวงเห่ยกังก้าวเข้ามารวบสองแขนของชายท่าทางนักเลงแล้วลากออกไปราวเป็นนักโทษเสียเอง ขณะหลี่หยู่ซี
ตอนที่ยี่สิบ หาเรื่อง“เจ้าไม่ต้องสนใจท่านแม่ เงินส่วนนี้เป็นเงินส่วนตัวของข้า เจ้าไม่ต้องรีบร้อนหามาคืน” หยางหมิงเจ๋อรู้ข่าวรีบแจ้นมาปลอบขวัญหญิงสาว“หยางฮูหยินส่งจดหมายมาเป็นลายลักษณ์อักษร หากไม่คืนเงินอาจมีปัญหาถึงขั้นฟ้องร้องได้ ข้าไม่อยากให้ร้านหมาล่าหม้อไฟซึ่งเพิ่งเปิดต้องกระทบกระเทือนชื่อเสียงถึงเพียงนั้นพี่หมิงเจ๋อ ที่ผ่านมาข้าขอบคุณมาก ต่อจากนี้ข้าคงต้องพึ่งพาตนเองแล้ว” หลี่หยู่ซีตัดบทมีแต่ทำเช่นนี้ หยางหมิงเจ๋อจึงจะไม่เดือดร้อน นางไม่คู่ควรกับเขาตั้งแต่แรก ควรให้เขาได้แต่งงานกับหญิงสาวที่ดีอย่างที่มารดาของเขาต้องการหยางหมิงเจ๋อกลับไปเจรจากับมารดา แต่ไม่ว่าอย่างไรหยางฮูหยินก็ไม่ยินยอม แถมยังบังคับให้เขาเข้าพิธีหมั้นกับคุณหนูจวง บุตรสาวแม่ทัพใหญ่ในเร็ววัน ระหว่างเรื่องเหล่านี้ยังไม่คลี่คลาย เสียงปึงปังก็ดังสนั่นออกมาจากห้องโถงชั้นหนึ่งเรียกให้หลี่หยู่ซีต้องรีบวิ่งไปมองดู&
ตอนที่ยี่สิบ หาเรื่องกัวจื่อหานเองย่อมเกาะติดคู่หมั้นสาวด้วยไม่อยากสูญเสียนางให้กับผู้ใด ไม่น่าเชื่อว่ายามอยู่เมืองหลวงไม่เคยมีชายใดกล้าตอแยกับหลี่หยู่ซี มีแต่หญิงสาววุ่นวายกับเขาจนคู่หมั้นสาวแง่งอนอยู่บ่อยครา เหตุใดอยู่ที่นี่จึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้ยังไม่ทันได้คิดหาวิธีรวบรัดแต่งงานกับหญิงสาว คนสนิทของบิดาก็ถือจดหมายมาตามหาเขาถึงที่ร้านหมาล่าหม้อไฟ“คุณชาย ฮูหยินล้มป่วยครานี้อาการหนักหนานัก ท่านเสนาบดีทุกข์ใจมาก จึงขอเชิญคุณชายรีบกลับไปดูใจมารดาด้วยเถิด”แม้กัวจื่อหานจะรู้ว่านี่เป็นแผนเรียกตัวเขากลับบ้าน แต่บิดาถึงกับลงทุนส่งคนสนิทมาตามด้วยตนเอง เขาจะดื้อดึงต่อไปคาดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่“ซีซี ข้าจะรีบกลับไปเจรจากับท่านพ่อท่านแม่ให้เข้าใจ แล้วจะรีบกลับมาแต่งงานกับเจ้า ไม่ว่าอย่างไรข้าจะแต่งกับเจ้าเพียงผู้เดียว ขอให้เชื่อใจข้า” ชายหนุ่มโอบร่างบางเอาไว้แนบแน่นเพื่อสื่อความในใจ“ข้าเชื่อใจหานหานเสมอ ไม่ต้องกังวล ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นี่ เดินทางดีดี อย่าได้เร่งรีบจนป่วยไข้ไป” หลี่หยู
ตอนที่สิบเก้า ฉกฉวยโอกาสองคชายหกและจวงเห่ยกังถึงกับทำคอย่นเมื่อได้ยินประโยคหลัง ผิดกับองค์หญิงแปดซึ่งยิ้มแย้มชอบใจ“เช่นนี้สิ จึงจะสมเป็นว่าที่พี่สะใภ้ของข้า”“ความจริง หากไม่อยากให้แม่เลี้ยงและน้องสาวผู้ร้ายกาจตามรังควาน การตัดสินใจไปอยู่ที่แคว้นโจวย่อมดีที่สุด” องค์หญิงรีบเอ่ยเข้าข้างตนเอง“ไม่จำเป็นต้องไปไกลเพียงนั้นหรอกพ่ะย่ะค่ะองค์หญิง ขอเพียงนางแต่งงานก็ไม่ต้องอยู่ภายใต้คำสั่งของบิดาอีกต่อไป” หยางหมิงเจ๋อเอ่ยขัด“ชิ ก็แต่งงานกับพี่หกอย่างไรเล่า มีสามีเป็นถึงองค์ชาย ย่อมไม่มีผู้ใดกล้ามาวุ่นวาย” องค์หญิงแปดเชิดหน้าอย่างภาคภูมิในศักดิ์ฐานะ“องค์ชายหกมีทั้งชายาเอก ชายารอง ชายาสาม แล้วยังอนุอีกมากมาย หากเข้าไปอยู่ที่นั่นคงมีแต่เรื่องวุ่นวายไม่รู้จักจบสิ้น” หยางหมิงเจ๋อเอ่ยราวตาเห็น“ฮ่า ฮ่า ฮ่า คุณชายหยางเอ่ยราวเคยเข้าไปอยู่ในเรือนหลังเสียเอง”“องค์หญิงทรงสูงศักดิ์ย่อมไม่เคยต้องพบเห็นเรื่องน่ารำคาญใจของการแย่งชิงความโป
ตอนที่สิบแปด ชิงดีชิงเด่น“นางเองหรือที่เจ้าเฝ้าติดตามอยู่หลายวันจนน้องสาวของข้าแง่งอนไม่พอใจ อืม...หากจะวัดเพียงแค่รูปร่างหน้าตา นับว่าน้องสาวของข้ายังเหนือกว่าเล็กน้อย แต่หากจะวัดที่รสชาติอาหาร ต้องยอมรับว่านางเหนือกว่ามาก” จู่ๆจวงเห่ยกังก็ทะลุกลางปล้องขึ้นมาทุกสายตาต่างหันไปมองจ้องความไม่รู้กาลเทศะของบุตรชายแม่ทัพใหญ่จนเขารู้สึกเก้อเขิน “เอ่อ...ข้าเพียงจะเอ่ยชมว่าหมาล่าหม้อไฟที่ร้านห่าวซือรสชาติดีเยี่ยม เลิศรสจนข้าอยากจะร่วมลงแข่งชิงเจ้าของร้านด้วยอีกคนแล้ว” ยิ่งพูดยิ่งแย่ จนสายตาทุกคู่มองกดดันมาทางจวงเห่ยกังอย่างไม่ชอบใจ โชคดีที่หลี่หยู่ถงซึ่งสุ่มดูอยู่เห็นเหตุการณ์ศึกแย่งชิงสาวงามจึงเกิดความหมั่นไส้ทนเก็บเนื้อเก็บตัวไม่ไหว ถลาออกมาชี้หน้าพี่สาวต่างมารดาซึ่งมีชายหนุ่มรุมล้อมอ