Home / โรแมนติก / ย้อนรักตำหนักชมดาว / ขอเพียงเจ้าหันกลับมามองและย้อนคืน

Share

ขอเพียงเจ้าหันกลับมามองและย้อนคืน

last update Last Updated: 2024-11-22 07:27:13

“กลับกันเถอะ ผมจะแจ้งคุณซุนอย่างเป็นทางการอีกทีว่าพบกล่องทองเหลืองที่ข้างในมีนาฬิกาพกถึงลุงพ่อบ้านจะบอกว่าแจ้งแล้วก็เถอะ พรุ่งนี้เราตั้งใจขยายวงกว้างออกไปกว่านี้ ทีมงานบอกว่า ดินชั้นล่าง ลงไปความหนาแน่นของชั้นดินลดลง พูดกันตามจริงคงต้องมีใครเคยขุดและฝังอะไรไว้ที่นี่จริงๆ ทีมขุดบอกว่า มันกว้าง กว้างมากจนน่าจะเป็นสุสานหรือหลุมฝังศพเลยก็ได้” พริมมี่พยักหน้า

“กลับกันก่อนพรุ่งนี้ค่อยมาสำรวจใหม่บางทีอาจพบขุมสมบัติเข้าจริงๆ ก็ได้"

พริมมี่พูดไปยิ้มไป สมศักดิ์ยกมือท่วมหัว

“สาธุขอให้ได้ขอให้โดน”

ทานข้าวเย็นกันเสร็จแล้ว พริมมี่หยิบเอากล่องทองเหลืองที่ทำความสะอาดจนสวยพร้อมกับนาฬิกาพกมาวางไว้ บนโต๊ะหินอ่อน สมศักดิ์กับทีมขุดคงเหนื่อยวันนี้ต่างแยกย้ายกันนอนทั้งๆ ที่เพิ่งจะสองทุ่ม ดวงจันทร์ดวงกลมโตเพิ่งจะโผล่พ้นขอบฟ้าสีแดงสด จนน่าประหลาดใจฟูลมูนหรือไรคืนนี้

ถอดสายสร้อยที่ห้อยคอมาวางเทียบกัน

พริมมี่ไม่เห็นความแตกต่างแม้แต่น้อยพยายาม มองและจ้องไปที่ลวดลายที่สวยงาม หน้าฝาปิดนาฬิกาพกทั้งสอง ตรงกลางห่วงสร้อยที่บอกเวลาเที่ยงวันหรือเที่ยงคืน เหมือนจะเป็นอักขระที่เหมือนตัวอักษร แต่ว่าเป็นอักษรของ ประเทศไหนหรืออักษรโบราณของเชื้อชาติใด เดินหยิบเอาไอแพดมา เสริ์ทหาอักขระโบราณเผื่อว่าจะตรงกับอักขระบนฝาปิดนาฬิกาพก

พริมมี่เบิกตากว้างมันคืออักษรโบราณของล้านนา เป็นไปไม่ได้ ทำไมพริมมี่ไม่เคยสนใจมันทำไมพริมมี่ไม่เคยตรวจสอบของที่ติดตัวมาแต่เกิด

มีอักษรสองตัว คล้ายเลขสามมีหัวหน้าหลังและเลขสองหัวแตกคล้ายฆ.ระฆัง

พริมมี่สอดส่ายสายตาเปรียบเทียบอักษร กไก่ กับด.เด็ก

มือไวเท่าความคิดยกนาฬิกาพกสองอันมา กดลงไปตรงไปที่สลักบนตัวเรือน

“พรึ่บบบบบบบบบบบบ”

แสงสว่างวาบ เจิดจ้าจนพริมมี่ต้องยกมือขึ้นบังดวงตาไว้เสีย

“ฉิบหายแล้ว”

ระเบิดเวลา ไม่สิยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ระเบิดปรมาณูนี่ฉันกำลังจะทำลายโลกหรือ ทำไมไม่เอะใจว่าอาจเป็นระเบิด ดวงตาพร่ามัวแล้วรู้สึกว่าร่างกายถูกดึงกระชากเข้าไปสู่ ท่อลำเลียงแคบๆไหลไปราวกับอุโมงค์ในสวนน้ำที่พาให้เวียนหัวและอยากอาเจียน

พริมมี่หลับๆตื่นๆด้วยรา่งกายกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เจ็บจนแทบทนไม่ไหว

“ว๊าบบบบบบบ”

“ท่านอา เอี้ยนอ๋องหลานเจอหญิงงาม”

เสียงสดใสกับใบหน้าหล่อราวราวเทพสวรรค์มาจุติ ของเจี้ยนเหวินจูตี้ตะโกนลั่นบอกกล่าวกับ เอี้ยนอ๋องจูตี้ที่ หล่อเหลาคมเข้ม แต่แววตากลับเฉยชาลดคันธนูในมือลงในทันทีที่ร่างเล็กของพริมมี่ร่วงลงตรงหน้าดังผลั๊ก

“นางเป็นใคร มาจากไหน”พูดขึ้นเกือบพร้อมกัน

พริมมี่กุมที่ท้อง กุมที่ข้อเท้า ด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส เงยหน้ามองสองหนุ่มที่กำลังมองมาที่พริมมี่ มีอะไรบางอย่างขยับตัวที่ด้านหลังของ เอี้ยนอ๋องจูตี้

“ท่านอา กวางป่า”

 เจี้ยนเหวินอ๋อง ตะโกนขึ้นสุดเสียงกวางตัวมหึมา โผ่ลออกมาจากพุ่มไม้ด้วยสีหน้าตื่นกลัวเพราะถูกใครบางคนไล่ตามมา

“ท่านอ๋องอย่า”

จิ้งเหอที่เป็นทั้งองครักษ์และขันทีคนสนิทของเอี้ยนอ๋องจูตี้ที่สายตาว่องไวคมกริบ ส่งเสียงร้องห้ามแต่ไม่ทันแล้ว

“ ฟิ้ววววว” เอี้ยนอ๋องจูตี้หันหลังปล่อยลูกดอกเข้าเป้า

“ปึก”

ลูกดอกพุ่งเข้าเสียบที่กลางอกข้างซ้ายขององค์รัชทายาทจูเปียวบิดาของเจี้ยนเหวิน บนหลังม้าอย่างจัง แม่นดังจับวางร่างสูงร่วงลงจากหลังม้าอย่างแรง

คนทั้งสองทิ้งคันธนูหรือแม้แต่ความสนใจในตัวพริมมี่วิ่งตรงไปยังร่างโชกเลือดของจูเปียว 

“ท่านพ่อ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ย้อนรักตำหนักชมดาว   ไม่พรากจากกันจนแก่ชรา

    ปี2004“คุณ พงษ์ปรีดาค่ะภรรยาคุณคลอดแล้วค่ะคุณได้ลูกสาวหน้าตาน่าชังเชียวค่ะ”พ่อของพริมมี่ รีบสาวเท้าเข้าไปยังห้องคลอด อรอุมา อุ้มทารกเพศหญิงให้ดื่มนมจากอก“โอ้ลูกพ่อ ให้ผมดูหน้าเขาหน่อย พริมมี่ของพ่อ”“คุณพงษ์ยังไม่เห็นหน้าลูกอีกหรือ อรคิดว่าคุณเข้ามาก่อนแล้ว”สีหน้าแสดงความสงสัย พงษ์ปรีดารับเอาร่างกระจ้อย“เปล่านี่”“แล้วนี่คืออะไร”คุณอรอุมาวางนาฬิกาพกลงบนเตียงสีขาวสะอาดตา“นาฬิกา”“ค่ะ อรเห็นมันวางอยู่ข้างๆ ลูกของเรา”คุณพงษ์ปรีดาหันหน้าหันหลัง“อาจเป็นใครสักคน” คว้านาฬิกาขึ้นมาดูเสียงนาฬิกายังเดินปกติ“ผมจะลองเอาออกไปไกลๆ ไม่แน่อาจเป็นระเบิดเวลาหรือมีอะไรซุกซ่อนอยู่”"ดีเลยค่ะให้พยาบาลประกาศตามหาเจ้าของดีไหม”คุณพงษ์ปรีดาพยักหน้าก่อนจะรวบนาฬิกาออกห่างจากพริมมี่น้อย“อุ๊แว อุ๊แวๆๆๆๆๆๆๆ”อยู่ๆพริมมี่ก็ร้องไห้จ้า“คุณค่ะ”คุณอรอุมาให้พริมมี่กินนม เห่กล่อมก็ไม่ยอมหยุด คุณพงษ์ปรีดาวางนาฬิกาพกลงข้างๆร่างกระจ้อย ก่อนที่ร่างเล็กจะมีรอยยิ้มทั้งๆที่เพิ่งจะคลอดออกมา“อย่าเลยคุณ บางทีนี่อาจเป็นของยายหนูก็ได้แกจึงหวงมากขนาดนี้”คุณพงษ์ปรีดาถอนหายใจ จูซุนก้าวขายาวๆ ออกจากโรงพยาบาล“ฉันรอเธออย

  • ย้อนรักตำหนักชมดาว   แล้วภพหน้ามาพบกันอีกครา

    คุณหมอหย่งก้าวขามายืนหน้าห้องพิเศษSuper vipที่พริมมี่ นอนไม่ได้สติอยู่ที่นั่น จูซุน เอนกายลงบนเตียงนอนคู่ด้านข้าง อีกฝั่งเป็นกระจกกว้างที่มองเห็นท้องฟ้าสีฟ้าสวย และทิวทัศน์จากมุมสูง“ก็อกๆ”เคาะประตูไปสองครั้งเบาๆ“เชิญเข้ามา” จูซุน ขยับกายนั่งห้อยขาที่เตียงนอน“คุณจูซุนขอรับ กระผมมาตรวจดูอาการของ..ของคู่รักของคุณจูซุนครับ”ร่างสูงในวัยแก่กว่าจูซุนไม่กี่ปี ก้าวขามายังเตียงคนไข้ที่พริมมี่นอนอยู่แต่กลับตะลึงจังงัง กับใบหน้าคุ้นตาของพริมมี่“อืมมมยินดีที่ได้พบกัน..อีกครั้ง”หมอหย่งไม่ได้สะดุดหูกับคำพูดของจูซันทว่าสะดุดใจกับใบหน้าของพริมมี่ที่เขาเอาแต่เฝ้าฝันถึง“เอ่อ คะครับผมคุณผู้หญิงท่านนี้ นอนหลับไม่ได้สติมาสามคืน แล้วตามที่ผมวินิจฉัยอาการเบื้องต้นจากข้อมูลและประวัติของคนไข้ทำให้รู้ว่าร่างกายของเธอไม่ได้มีความผิดปกติอะไรสมองยังคงสมบูรณ์ไม่ได้เกิดการกระทบกระเทือนทางสมอง หรือบาดเจ็บที่ศีรษะหรือภาษาบ้านๆ คือล้มหัวฟาดหรืออะไร….”จูซุนมองหมอหย่งที่บรรยายเนิบๆ สายตาจับจ้องที่ใบหน้าของพริมมี่ มือก็สารวนกับการ ใช้เครื่องเสตทโตสโคปวางลงที่อกข้างซ้าย“แล้วทำไมเธอถึงไม่ฟื้นขึ้นมาทันที”หมอหย่งถอ

  • ย้อนรักตำหนักชมดาว   ให้พบกันท่ามกลางผู้คนนับพัน

    "อะอะนายท่านเกรงใจไปแล้วนายท่านสูงส่งรินสุราให้สุ่ยหลีไม่เหมาะนัก""ข้าเต็มใจเจ้าดื่มหมดจอกแทนคำขอบคุณข้า"สุ่ยหลียิ้มทั้งน้ำตายกจอกสุรารินลงคออย่างไม่ลังเลเพียงพริบตาสุ่ยหลีก็คอพับลงไปกับพื้นหลับใหลไปในทันที"นายท่านโธ่นายท่าน"ตะวันบ่ายสุ่ยหลีคร่ำครวญกับกองสัมภาระน้ำตาเต็มสองตาดึงยกเป้สัมภาระไม้ไผ่ขึ้นทาบแผ่นหลัง"ข้าจะตามนายท่านขึ้นไปเดี๋ยวนี้""ตุ๊บ"บางอย่างล่วงลงพื้นสุยหลีทรุดกายลงพิงต้นไม้ใหญ่คลี่ก้อนผ้าที่มีตัวอักษรอยู่บนนั้น"สุ่ยหลีฟังข้าที่เป่ยจิง มีโรงเตี๊ยมชื่อว่า…สุ่ยหลีที่นั่นข้าใช้เงินสร้างมันเพื่อเจ้ากลับไปรอข้าที่นั่น หากตามขึ้นมาวันไหนที่ข้ากลับไปจึงไม่พบเจ้า ฝากดูแลตำหนักชมดาว..แทนข้า แล้วเราจึงจะได้พบกัน..อย่าฝืนบัญชาหากยังตามข้าขึ้นไปพบข้าเราจึงตัดขาดกัน"ปาดน้ำตาที่ไหลรินสะอื้นอย่างหนัก"ข้าเช่นไรจะกล้าฝืนบัญชาฝ่าบาท กล้าให้ฝ่าบาทตัดขาดกับข้า"ปาดน้ำตาแห้งเหือดหันมองเทือกเขาเหลียงซานยิ้มเศร้าๆ ก้าวขาบ่ายหน้ากลับไปยังเป่ยจิงรอวันพบกันกับจูเหวินหน้าผาสูงสลับซับซ้อน มือเรียวราวลำเทียนยึดเกาะปีนป่าย"เหลือเพียงที่แห่งนี้ที่ขายังไม่เคยเสาะแสวงหาน้ำพุกาลเวลาหวังว่

  • ย้อนรักตำหนักชมดาว   ต่อไป

    สุ่ยหลียิ้ม“เช่นนั้นเขาเหลียงซานเบื้องหน้าเหมาะที่จะปีนป่ายต่อเติมความหวังในเมื่อเราเดินทางไปมาจนทั่วยังไม่พบน้ำพุแห่งกาลเวลา บางทีควรจะลองปีนเขาดูบ้าง”เจี้ยนเหวินยิ้มกว้างเป่ยจิง"จักรพรรดิหย่งเล่อทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆ ปี"เสียงถวายพระพรดังกึกก้องเมื่อจักรพรรดิหย่งเล่อหรือเอี้ยนอ๋องจูตี้ในอดีตเสด็จขึ้นนั่งบัลลังก์มังกร หย่งเล่ออมยิ้มอดคิดถึงพริมมี่กับคำว่าหย่งเล่อหรือหยกเลอค่ายกกำไลหยกสีแดงขึ้นมามองดู"ยังคงคิดถึงเจ้าเหมือนเดิมมีมี่"พึมพำเบาๆ ยิ้มเศร้าๆ"ฝ่าบาท เมืองหลวงเป่ยจิงและพระราชวังต้องห้ามบัดนี้ได้เริ่มก่อสร้างแล้ว ตามพระบัญชา""ดีมาก จิ้งเหอท่านควรจะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงเรื่องนี้""พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทเป่ยจิงของเรารุ่งเรืองร่มเย็น ต่างชาติล้วนต้องการผูกมิตร""ดียิ่งแล้วข้าน้อมนำดำรัสของไท่หวงซางหมิงไท่จูสืบต่อมาหวังว่าบรรพบุรุษจะชื่นชม ครั้งนี้ตั้งใจส่งสินค้าและราชทูตยังต่างชาติต่างภาษาเพื่อเจริญสัมพันธ์ทางการทูต"จิ้งเหอประสานมือตรงหน้า"ข้าน้อยยินดีเป็นตัวแทนเดินเรือยังต่างแคว้น"จักรพรรดิหย่งเล่อยิ้มกว้าง"ดีแล้วจิ้งเหอท่านไม่เคยทำให้ข้าผิดหวัง"จักรพรรดิหย่งเล่อเดินเอามื

  • ย้อนรักตำหนักชมดาว   เมื่อพานพบกลับไร้วาสนาจำต้องแยกจากกัน

    แม้จะเจ็บปวดเพียงใดขอแค่ให้ได้ลอง พริมมี่ลมหายใจขาดเป็นห้วงๆ เลือดไหลซึมออกจากอกข้างซ้าย“ฉันกำลังจะตายใช่ไหม ฉันจะตายจริงๆ ใช่ไหม”บนเนินเขา นั่นแสงทองสุดท้ายสาดส่องไปที่ต้นไป๋กว่อ เหลืองอร่ามใบสีเขียวเปลี่ยนเป็นสีเหลืองงดงามราวกับภาพฝัน สุ่ยหลีหยุดเกี้ยว เจี้ยนเหวินอ้าปากค้างเมื่อเห็น สีเหลืองอร่ามตานั้น“พริมมี่ ดูนั่น”พยุงพริมมี่ให้ลงไปยังต้นไป๋กว่อพริมมี่ยิ้มเศร้าๆ เสียงหายใจรวยรินหอบเหนื่อยใกล้เข้ามาแล้วสินะใกล้ถึงเวลาแล้ว“ต้องอย่างนี้สิสำหรับพริมมี่ต้องงดงามแบบนี้ พาข้าไปที่นั่นเถิด”เจี้ยนเหวินช้อนร่างบางไว้ในอ้อมแขน พาพริมมี่ไปยังต้นไป๋กว่อเหลืองอร่ามตา“จะต้องทำอย่างไร”เจี้ยนเหวินเอ่ยปากเสียแหบแห้ง ไม่อยากให้พริมมี่ต้องจากไปถึงตอนนี้คำพูดของพริมมี่ ที่เขาคิดว่าเป็นเพียงการคาดเดากลับเกิดขึ้นจริงทุกอย่าง เช่นไรจึงไม่เชื่อว่านางมาจากอนาคตแล้วหากนางจะกลับไปเช่นไรเขาจึงจะไม่เชื่อว่ามันจะเกิดขึ้น“พริมมี่แค่หวังว่า จะได้กลับไปจริงๆ ขอแค่ได้ลองนาฬิกาสองเรือนนั้นพาพริมมี่มาที่นี่จะต้องพากลับไปได้แน่ ภายใต้อักษรง่ายๆ แค่กดมันลงไป พริมมี่ก็จะข้ามภพกลับไปยังที่เดิม”ยิ้มบางๆ ในใจหว

  • ย้อนรักตำหนักชมดาว   รอ3

    เจี้ยนเหวินยิ้มเศร้าๆ“ไม่มีนาง ไม่มีข้า ไม่พบนางไม่มีข้า เพราะหัวใจข้าแหลกสลายไปเสียแล้ว มีนางจึงมีข้า”เอี้ยนอ๋องถอนหายใจ“หวังว่าฝ่าบาทจะยังไม่ทิ้งหนานจิง”“หนานจิงกับข้า บอบช้ำพอกัน เพียงแค่ข้าไม่อาจปกป้องสิ่งใดได้แม้แต่คนที่รัก ก็ไม่ควรจะลอยหน้าอยู่ได้อีก เอี้ยนอ๋องหวังว่าราชวงค์หมิงจะรุ่งเรืองดังที่เสด็จปู่ต้องการ ข้าตั้งใจเร้นกายไปกับนางตั้งแต่แรกแล้ว ทุกอย่างจึงมอบให้อาสี่จึงดี”เอี้ยนอ๋องจูตี้หลับตาลงช้าๆ สะกดกลั้นความเจ็บปวดในใจเขาก็อยากจะเลือกพริมมี่เช่นเดียวกับเจี้ยนเหวินแต่นางไม่เลือกเขา“เคลื่อนเกี้ยว”สุายหลี ตวัดแส้ลงบนหลังม้าทั้งหกให้พุ่งทะยานไปยังเป่ยจิงที่อยู่ห่างออกไป1,022กิโลเมตร หรือ2,044ลี้ปี2024ซุนจูยืนยิ้มมองร่างไร้สติของพริมมี่ที่ใบหน้ากลับมีสีเลือดขึ้นมากว่าเมื่อวาน“ข้าใจแทบสลายในวันนั้นวันที่ต้องพาเจ้าเดินทางรอนแรมสองพันลี้เพื่อพาเจ้ากลับมาที่นี่ แต่จนแล้วจนรอด ก็ต้องมารอเจ้าถึงหกร้อยปีอยู่ที่นี่รอเจ้านานเหลือเกินพริมมี่ เรากำลังจะได้พบกันอีกครั้ง”“ฝ่าบาท ระยะทางยาวไกลเช่นไรจะพาพระสนมไปถึงที่นั่นได้”สุ่ยหลีแสดงความกังวลเจี้ยนเหวินประคองร่างเล็กที่หายใจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status