Share

บทที่ 4

ซูชิงอู่อดรนทนเกี่ยวพันตัวเองกับเย่เสวียนถิงไม่ไหว แต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่มานอกประตู

หญิงรับใช้คนหนึ่งรายงานอยู่นอกประตู

“กราบทูลท่านอ๋องและพระชายา ภายในวังได้จัดเตรียมรถม้าให้แก่ท่านและพระชายาเพื่อเข้าวังร่วมคารวะบรรดาพระสนมยามเช้าเพคะ!”

ในชาติก่อน เมื่อคืนในครานั้นนางถูกคนวางยานอนทรมานทั้งคืน ครั้นรุ่งเช้าเกือบดื่มยาหยุดครรภ์คร่าชีวิต เพิ่งแต่งงานวันแรกก็ไม่ได้ไปวังหลวงน้อมคารวะตามประเพณี

ตามธรรมเนียมในวัง เจ้าสาวของราชวงศ์ที่เพิ่งอภิเษกเข้า วันแรกต้องเยี่ยมเยียน คารวะพระสนมทุกตำหนัก นางไม่เพียงฝ่าฝืนประเพณียังทำให้เย่เสวียนถิงแบกรับแรงกดดันมากโข

ซูชิงอู่เพิ่งจะลุกขึ้นกลับได้ยินเย่เสวียนถิงเปิดปากตอบ

“ประเดี๋ยวข้าจะไปคารวะท่านแม่เอง”

นางรับใช้รายงานต่อเนื่อง เย่เสวียนถิงบ่ายหน้ามองยังซูชิงอู่ “อยู่จวนพักผ่อนให้ดี ข้าจะรีบไปรีบกลับ”

ซูชิงอู่ฉงนพักหนึ่ง “สุขภาพข้าดีขึ้นแล้ว”

เย่เสวียนถิงเงียบลง แต่ยังคงยืนกราน “ในวังมีแต่เรื่องหยุมหยิมยุ่งยาก ข้าไม่อยากให้เจ้ารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ”

ถึงอย่างไรชื่อเสียงของซูชิงอู่ก่อนตบแต่งกับเขาก็ถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี เข้าวังเที่ยวนี้ชี้ชัดว่าคงไม่อาจเลี่ยงคำครหาพ้น

พอประโยครั้นถูกเอ่ยจบ เย่เสวียนถิงเอี้ยวตัวออกประตูไปทันที เขาเดินตรงไปลานเรือนนอนเดิมของตนเพื่อเปลี่ยนอาภรณ์

เมื่อซูชิงอู่ได้ยินเช่นนั้นนั้น ดวงตาพลันแดงก่ำกระแสไออุ่นไหลรินในทรวง หัวใจเย็นเยือกของนางถูกความอบอุ่นห่อหุ้ม

ใต้หล้านี้มีเขาอยู่ ช่างดีจริง ๆ…

นางเปิดปากพูดต่อคนนอกประตู “พวกเจ้าเข้ามา มาอาบน้ำเปลี่ยนอาภรณ์ให้ข้า!”

นางจะปล่อยให้เขาทนกล้ำกลืนได้เยี่ยงไร?!

……

นอกจวนเตรียมรถม้าพร้อมแล้ว

หลังจากหญิงรับใช้ในจวนผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ให้ ทั้งคู่ก็เดินตามท่านอ๋องกับพระชายานอกประตูไป

หางตาเย่เสวียนถิงเสมองร่างของซูชิงอู่ที่อยู่เบื้องหลัง ในใจกระสับกระส่ายเล็กน้อย

ภาพในอดีตค่อย ๆ ปรากฏชัดเจนในความทรงจำ ก่อนเคยมีเพียงสีหน้าเดียดฉันท์แววตาเปี่ยมแค้นของซูชิงอู่ที่มีต่อเขา…

นิ้วมือใต้แขนเสื้องอลงชั่วครู่ เย่เสวียนถิงพยายามทำให้ท่าทีการเดินของตนดูเป็นปกติขึ้นสักหน่อย ทั้งยังกังวลว่าจะได้เห็นสายตารังเกียจจากซูชิงอู่อีก

ขณะเขายกม่านรถม้ากำลังก้าวขึ้นรถ จู่ ๆ ก็เห็นเงาคนผู้หนึ่งเดินสองก้าวมาข้างกายเขาอย่างเร่งรีบ

“ข้ามาแล้ว!”

ซูชิงอู่เกาะขาเขาไว้พลางเงยหน้ามอง ดวงหน้าสะสวยแหงนขึ้นส่งยิ้มให้เขา

นิ้วมือนุ่มนิ่มเหมือนไม่มีกระดูก ทั้งตัวนางแนบอยู่บนร่างเขา

สัมผัสอบอุ่นอ่อนนุ่มทำหว่างคิ้วเย่เสวียนถิงกระตุกเล็กน้อย ริมฝีปากบางเม้มทันใด ทั้งตัวเขาทื่ออยู่กับที่ ชั่วขณะหนึ่งมิรู้ว่าควรก้าวเท้าซ้ายหรือขวาดี

ซูชิงอู่เห็นสีหน้าเขามืดมนไม่ขยับ หัวใจพลันเต้นวูบหวิวพักหนึ่ง

สีหน้านางเคร่งขรึมทันที จากนั้นก็มองที่ขาเขาโดยสัญชาตญาณ

“อย่าขยับ!”

ฉับพลันนั้นก็มีสองคำลอดจากกลีบริมฝีปากเย่เสวียนถิง

ความรู้สึกต้อยต่ำในส่วนลึกแผ่ออกจากหัวใจ เขาต้องการซ่อนเร้นส่วนบกพร่องสุดชีวิต

ซูชิงอู่ไม่กล้าสัมผัสขาของเขาอีก หากแต่มุ่นคิ้วถามอย่างห่วงใย “เจ็บขาหรือ? กลับไปข้าจะลองคิดหาวิธีช่วยท่าน ต้องรักษาหายแน่นอน!”

แม้เย่เสวียนถิงจะได้ยินคำปลอบโยนประเภทนี้ แต่ในใจกลับไม่ได้ดีใจเท่าใดนัก

เขาเพียงแต่จัดเสื้อคลุมบดบังสองขาตัวเองไว้

“ไม่เจ็บ ไปเถอะ”

ความห่วงใยไม่มีปี่มีขลุ่ยของซูชิงอู่ทำเย่เสวียนถิงเคอะเขินอยู่ไม่น้อย

เขาเอียงหน้าไปไม่มองหน้าซูชิงอู่อีก

หวั่นเกรงจะตกหลุมพรางของอีกฝ่าย

ก่อนหน้านี้ ซูชิงอู่ไม่ใช่ไม่เคยเป็นเช่นนี้ แค่ความอดทนนางไม่สูงนักและไม่ได้เสแสร้งอย่างปัจจุบันมานานแล้ว…

ความเจ็บปวดครั้งนั้นทำให้เขาเจ็บปวดเข้ากระดูกดำ

ครั้นหากไร้ความหวังก็คงไม่ต้องผิดหวัง พวกเขาคงหวังเพียงทำตามแผนของตนเพียงเท่านั้น

ซูชิงอู่ชำเลืองมองสีหน้าเขา ก็นึกอยากจะตบตัวเองสักสองสามฝ่ามือ

ในขณะนั้น นางรู้สึกเจ็บปวดหัวใจอย่างที่สุด

นางกัดริมฝีปากมือกุมบนเข่าแน่น สายตาทอดมองชายตรงข้ามไม่วางตา

ดวงตาคู่นั้นทั้งเจิดจ้าเร่าร้อน อนึ่งจะแผดเผาคนได้ก็ไม่ปาน

รถม้าเคลื่อนตัว แต่เย่เสวียนถิงกลับรู้สึกค่อนข้างอึดอัดกับสายตาที่นางจับจ้องมา

เขายกมือลูบหน้าตัวเองโดยสัญชาตญาณ “บนหน้าข้ามีอะไรหรือ?”

ครั้นซูชิงอู่ได้ยินเขาเอ่ยถาม จึงรีบลุกจากที่นั่ง

พื้นที่ในรถม้ากว้างเหลือคณา เพียงพอให้นางยืนตัวตรงได้เสียด้วย

ทว่าผ่านไปครู่เดียวตัวรถก็โงนเงนเล็กน้อย ร่างซูชิงอู่เสียสมดุลกะทันหันทั้งตัวนางถลาไปข้างหน้า

สีหน้าของเย่เสวียนเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน พลางเอื้อมมือออกไปรับตามสัญชาตญาณ

ครู่ต่อมา เขาก็โอบร่างหยกอ่อนหอมอุ่นไว้ในอ้อมแขน

ซูชิงอู่เหยียดแขนออกคว้าเอวเขาแน่น สบโอกาสทองยืดตัวให้ตรงพลางโน้มกลีบริมฝีปากชิดข้างหูของเขา

กลิ่นกายหอมอบอวลระลอกหนึ่งล้อปลายจมูกของเย่เสวียนถิง ซูชิงอู่หัวร่อเสียงแผ่วข้างหูเขา ลมหายใจอุ่นทำใบหูเกิดจั๊กจี้

“เสวียนถิง ข้าชอบท่าน…”

แขนของเย่เสวียนถิงรัดแน่นโดยไม่ได้ตั้งใจครู่หนึ่ง

เสียงเขาแหบแห้งน้อย ๆ “ซูชิงอู่ เจ้ารู้สึกสนุกมากหรือที่ทำให้ข้าอยู่ในกำมือ?”

ซูชิงอู่เงยหน้าขึ้น ทั้งสองประสานสายตา

นางยกคางแนบชิดข้างปากเขาพลางกะพริบตา ริมฝีปากแดงระเรื่อเผยอน้อย ๆ “ข้าถวายตัวเองต่อหน้าท่าน ไม่นึกว่าท่านจะไม่รับฟัง ข้าไม่อาจดึงดูดใจท่านได้แล้วรึ หรือว่า…หัวใจท่านมีผู้อื่นแล้ว?”

น้ำเสียงนางระรื่นหู ทุกถ้อยคำคล้ายแซมความเย้ายวนเล็ก ๆ ปลุกเร้าให้หัวใจว้าวุ่น

ซูชิงอู่ยิ้มร่า ดวงตาหยาดเยิ้มดุจแพรไหม ร่างนุ่มนิ่มเกาะอยู่บนตัวเขาราวไม่มีกระดูก

หัวใจของเย่เสวียนถิงเต้นประหนึ่งตีกลอง

เมื่อต้องประจันหน้ากับคนที่คะนึงหามาตลอดหลายปี เขาจะมั่วนั่งนิ่งไม่เคอะเขินได้อย่างไร?

เย่เสวียนถิงทนการยั่วยวนรุนแรงเช่นนี้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เขาก้มศีรษะลงในทันที…

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status