เพื่อให้พ่อของเธอล้อมรั้วไม้ไผ่ในที่ดินเช่าทำกินติดบ้านให้ ลูก ๆ เข้าป่าตัดไม้ไผ่ส่วนพ่อและแม่มีหน้าที่ช่วยกันทำรั้วตามที่หลิวตานได้ออกแบบเอาไว้ แปลงผักมีทั้งหมดแปดแปลง แบ่งด้านในให้เท่า ๆ กัน มองจากรั้วด้านนอกไม่มีทางเห็นข้างในเลย และมีประตูให้เข้าอีกด้วย
เพื่อนบ้านที่เห็นต่างบอกว่ามันสิ้นเปลืองแต่สองสามีภรรยาไม่ได้ตอบโต้ ลูกสาวต้องการทำสิ่งใดพ่อแม่ย่อมต้องสนับสนุนอยู่แล้ว อีกทั้งการปลูกผักที่บ้านก็จะมีผักไว้กิน คนอื่นไม่เห็นของด้านไหนก็จะไม่ได้มาขอ
หลิวตานให้คนที่บ้านเรียกสิ่งที่อยู่ในรั้วไม้ไผ่ว่าฟาร์ม ซึ่งเป็นฟาร์มเล็ก ๆ ที่ในอนาคตจะเติบโตมากกว่านี้ ตอนแรกทุกคนไม่ค่อยเข้าใจแต่เธอก็อธิบายให้ฟัง
นอกจากปลูกผัดกาดที่หลิวตานให้น้องสาวช่วยปลูกแล้ว ทุกคนในบ้านจึงหันมาลงมือกับที่ดินที่เหลือ โดยเฉพาะแม่ของเธอที่เตรียมเมล็ดพันธุ์ต่าง ๆ สำหรับปลูกธัญพืช
“โชคดีนะคะที่เพื่อนบ้านเราเขาอารมณ์ดีเลยมาช่วยพรวนดินให้ ไม่อย่างนั้นกว่าพวกเราจะได้ปลูกธัญพืชต้องใช้เวลาหลายวันแน่ ๆ ค่ะ” หลิวตานปาดเหงื่อที่ไหลออกมาอย่างเหนื่อย
ต้องบอกว่าตอนนี้หลิวตานเหนื่อยมาก ๆ ยิ่งใกล้หมดเวลายิ่งไม่มีการพักผ่อนทำให้อ่อนล้า และท้องฟ้าเริ่มแสงหมดลงหลิวตานยิ่งกลัวว่าทุกอย่างจะไม่ทันสองขาเล็กชะงักมองหมูป่าเขี้ยวยาวตัวใหญ่ตรงหน้าอย่างหวาดกลัว หลิวตานสบตากับหมูป่าเขี้ยวยาว สมองสั่งการให้หนีแต่หมูป่าที่ดุร้ายกลับวิ่งเข้าใส่หลิวตานไม่มีทางเลือกรีบปีนต้นไม้ขึ้นที่สูง อย่างน้อยต้นไม้ในป่ามันใหญ่หมูไม่สามารถขึ้นมาได้ ถึงแม้การวิ่งชนของมันจะทำให้ต้นไม้สั่นและมีแนวโน้มว่าจะหักลง“โธ่ ฉันอุตส่าต์หลีกเลี่ยงแล้วแท้ ๆ” หลิวตานพึมพำหยิบเอาหน้าไม้ที่ให้พ่อทำให้ออกมาใช้งานตลอดระยะเวลาในป่าหลิวตานเจอสัตว์หลากหลายชนิดแต่เพราะการหลบหลีกทำให้เธอไม่ต้องปะทะกับมัน แต่ว่าหมูป่าเขี้ยวยาวตัวนี้กลับเห็นเธอก่อนอู๊ด อู๊ดหลิวตานหลุบตามองต่ำ หมูป่าเขี้ยวยาวยังคงพยายามโค่นต้นไม้ที่เธอขึ้น ทำให้หลิวตานตัดสินใจปีนไปต้นไม้ข้าง ๆ ทันที ก่อนยกหน้าไม้ขึ้นมาเล็งไปยังบริเวณดวงตาของมัน “ถ้าฉันไม่ทำแก แกต้องตามทำร้ายฉันแน่นอน”ฟิ้ว!
เข้าสู่วันที่สี่ในการตามหาสมุนไพรส่วนประกอบของยาหวนคืนวิญญาณ ตลอดสามวันที่ผ่านมาต้องบอกว่ามันไม่ง่ายเลยในการตามหาสมุนไพรแต่ละชนิด ตอนนี้หลิวตานได้มาแล้วสามชนิด โสมป่า หลิงจือ ฝูหลิง ที่ต้องเดินหาทั่วป่าเพื่อให้ได้มาแต่ละชนิดวันนี้เป็นวันที่สี่แล้วหลิวตานลงจากต้นไม้เร็วกว่าเดิมเพื่อหาสมุนไพรชนิดต่อไป วันนี้คิดเอาไว้อย่างน้อยต้องได้สองชนิด ไม่อย่างนั้นวันหลัง ๆ เธอต้องกดดันตัวเองเพื่อให้ได้พวกมันมา ถ้าเป็นสามวันก่อนต้องบอกว่าหลิวตานรอแดดออกถึงออกเดินทาง และจะจัดการตัวเองก่อนตะวันตกดินป้องกันอันตรายยิ่งวันน้อยลงการตามหาจะช้าเหมือนเดิมไม่ได้ อะไรที่คิดว่าเสียเวลาหลิวตานต้องปรับเปลี่ยน ลงจากต้นไม้เร็วกว่าเดิมเพื่อเติมพลังและออกเดินทางต่อสมุนไพรชนิดที่สี่หลิวตานตั้งใจไปเก็บฉงโหลว มันเป็นสมุนไพรที่ให้ฤทธิ์เย็น รสขม แต่เป็นสมุนไพรมีพิษเล็กน้อย มันเป็นสมุนไพรที่เธอต้องไปเก็บมา“เอ๊ะ”ระหว่างกินอาหารมื้อเช้าเอาแรงก่อนออกเดินทางหลิวตานเพ่งมองมือตัวเองอย่างตกใจ จุดสีดำวงกลมเล็ก ๆ แต้มอยู่ที่ข้อมือขวา หากคนอื่นมองมัน
ครบสามวันตามที่ตกลงกับพ่อหลิวตานเตรียมของหลายอย่างแต่เอาเฉพาะสิ่งสำคัญเท่านั้น หลัก ๆ คือ เนื้อไก่ป่า เนื้อกระต่าย เนื้อปลา ที่ตากแห้งเอาไว้ตลอดสามวัน เธอทำสำรองอาหารเพียงสามสี่วันเท่านั้น การเข้าป่าไม่เป็นอุปสรรคการหาของกินแน่นอนแต่สิ่งที่ขาดไม่ได้คืออาวุธสำหรับป้องกันตัว “มันคือมีดสั้นพกพาที่พ่อใช้เวลาออกปฏิบัติภารกิจ มันไม่ได้ใหญ่ไม่ได้เล็กและพ่อมั่นใจว่าจะช่วยเหลือลูกได้ในยามคับขัน”“ขอบคุณค่ะพ่อ” หลิวตานรับมีดสั้นจากพ่อของเธอที่ยื่นให้ มองมันครู่หนึ่งก่อนเก็บลงช่องเล็ก ๆ ที่เย็บติดไว้ในรองเท้าตลอดระยะเวลาสามวันที่ผ่านมาหลิวตานนำชุดของเธอที่เก่าแล้วสามชุด ออกมาตัดเย็บให้มีที่ใส่ของสำคัญ รวมถึงรองเท้าให้มีที่ซ่อนของ หากเกิดเหตุการณ์ที่ต้องทิ้งของอย่างน้อยถ้ามีอาวุธติดตัวจะดีที่สุด นอกจากมีดสั้นแล้ว หลิวตานยังให้พ่อทำไม้หน้าสามที่แรงให้อีกอย่างเพื่อป้องกันตัว“ฉันไปก่อนนะคะพ่อแม่ จะรีบกลับมาค่ะ”“ดูแลตัวเองด้วย” “พ่อแม่และน้องรอที่บ้านนะ”&nbs
“แต่ว่าผักในฟาร์มของเรามีไม่เยอะนี่คะ” หลิวอิ๋งอีสงสัย ผักในฟาร์มโตวันโตคืน“ทำตามที่พี่บอกถูกแล้ว หลังจากนั้นพวกเราค่อนสลับผักอื่นไปขาย ขายผักตามฤดูค่อนข้างเป็นที่ชอบของคนในอำเภอ พวกเขาต่างแย่งกันซื้อ เสียดายเหมือนที่พวกเราต้องจำกัดจำนวนการขายในแต่ละวัน”หลิวตานไม่ลืมว่าที่บ้านนอกจากแม่ที่ใช้แรงงานแล้ว พ่อยังไม่สามารถช่วยได้เต็มที่ บางวันต้องไปเช่ารถลากของเพื่อนบ้านเพื่อนำผักเข้าไปขายหน้าโรงเรียน คนที่ช่วยกันเข็นคือจ้าวเหม่ยกับสามพี่น้อง เพราะหลิวตงตงค่อนข้างเดินช้าถ้าให้เข็นรถเข็นให้อีกทุกอย่างจะช้าไปหมด“ฉันเข้าใจแล้ว”ผักที่ส่งขายหลิวตานทำการล้างทำความสะอาดแล้วนำไปผึ่งลมให้แห้งหนึ่งคืน ก่อนหน้านี้ผึ่งในห้องโถงของบ้านแต่ด้วยความที่มันเยอะขึ้นทุกวัน ทำให้หลิวตานกับพ่อช่วยกันทำที่ตากผักเล็ก ๆ ข้างบ้านจากไม้ไผ่ในป่าในที่สุดภารกิจใหม่อันท้าท้ายสำหรับหลิวตานก็มาถึง ภารกิจที่ 23 การตามหาสมุนไพรหรือส่วนผสมของยาประกอบวิญญาณ หรือชื่อที่แท้จริงของมันคือ ยาหวนคืนวิญญาณ เป็นยาท
หลิวตานเพียงเสนอทั้งสองคนแต่ใครจะคิดว่ามีลูกค้าอีกหลายคนที่มาลงชื่อ หลิวตานเปิดรับเพียงไม่กี่คนเท่านั้นพรุ่งนี้ลูกค้าอีกหลายท่านที่หน้าร้านต้องได้ซื้อด้วย “ไปเถอะ พี่จะไปส่งเข้าห้องเรียน” หลิวตานบอกน้องชาย น้องสาวหลังคนอื่นกลับบ้านไปแล้ว “ค่ะ” พาน้อง ๆ ไปส่งที่ห้องเรียนเสร็จแล้วหลิวตานค่อยเข้าห้องเรียนของตนเอง วันนี้ผักกาดหมดเร็วกว่าทุกวันพอเข้าห้องหลิวตานจึงมีเวลาคุยกับสหายคนอื่น เวลาพักกลางวันเป็นอะไรที่มาถึงเร็วมาก หลิวตานเก็บของใส่กระเป๋าหลังทำงานส่งครูเสร็จ รอเวลาปล่อยจะไปกินข้าวกับน้องทั้งสองที่นัดแนะกันเรียบร้อยแล้ว “หลิวตาน...” สือหยวนเฟิงเม้มปากมือถือปิ่นโตเอาไว้แน่นและสายตามองปิ่นโตในมือของหลิวตาน “คือว่า” “นายอยากแลกปิ่นโตหรือ” หลิวตานยิ้มออกมาเมื่ออีกฝ่ายแสดงสีหน้าตะลึงที่เธอรู้ทันความคิดของเขา มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกตั้งแต่เขาได้ลองชิมอาหารฝีมือของเธออีกฝ่ายดูเหมือนจะติดใจมาก “ใช่ ๆ อาหารของเธออร่อยมาก” เขายิ้มกวางพลางพยักหน้า “ไม่ได้หรอก” หลิวตานรีบเอ่ยต่อทันทีที่เขาหุบยิ้ม “อาหารที่ฉันทำมานายคงได้กินบ่อยแล้ว แต่แบ่งอาหารได้เพราะฉันทำมาเผื่อ กินคนเดียวไม่หมดหรอก”
การบำรุงร่างกายคนที่บ้านหลิวตานไม่ได้ให้กินอย่างเดียว เธอทำอาหารหลากหลายเพื่อบำรุงจริง แต่มีเวลากินที่แน่ชัด ขนมให้กินพอหายอยากหลังอาหารในแต่ละมื้อ ไม่ใช่ว่าเธอไม่ให้น้องกินขนม บางวันเธอซื้อให้เองด้วยซ้ำ แต่ถ้ากินขนมน้อง ๆ ไม่ค่อยกินข้าวกัน กลับถึงบ้านหลิวตานนำขนมไปไว้ในตู้ เปลี่ยนชุด ก่อนออกมาสอนกลางบ้านเด็ก ๆ ที่หลายวันมานี้ไม่ต้องสอนทั้งสองก็เริ่มทำเองได้แล้ว เพียงแต่หลิวตานอยากตรวจก่อนส่งครูเลยต้องมาดู อีกทั้งต้องจัดการเรื่องการบ้านของตัวเองอีก “รดน้ำผักเสร็จพี่จะไปซักผ้า เมื่อวานอาสวี่ไม่ได้ซักเพราะเมื่อคืนมันดึกมาแล้ว เตรียมผ้าไปซักด้วย” หลิวตานบอกน้องชายระหว่างรดน้ำผักในฟาร์ม เมื่อคืนผู้ชาย ผู้หญิงแยกกันไปอาบน้ำ และซักผ้า หลิวตานสอนให้น้องชาย น้องสาวซักผ้าเอง แต่ผ้าของพ่อแม่เธอจะช่วยแม่ซักตอนอาบน้ำที่แม่น้ำ กว่าจะซักผ้าเสร็จมันดึกแล้ว หลิวตานเลยไม่ให้น้องชายซักผ้า หลิวอิ๋งอียืนอีกฟากตะโกนกลับมาบอก “ของพี่รองแม่เอาไปซักให้แล้วค่ะ” “เฮ้อ” หลิวตานอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ แม่ของเธอยังมีหัวโบราณและค้านตอนที่เธอสอนน้องชายซักผ้าเอง เวลาเผลอก็จะเอาของน้องชายไปซักผ้าให้ อย่างเช่นวันน