จากนั้นสองวันเจียงเป่าก็หายป่วยกลับมาวิ่งเล่นได้ตามปกติได้ เจียงจวินจึงเบาใจลง สองวันมานี้เธอแทบไม่ได้นอนเต็มตื่นเท่าใดนัก เมื่อจัดการทุกอย่างรวมถึงอาหารเช้าของเจียงเป่าเรียบร้อยแล้ว เธอจึงเดินมาที่ห้องครัวอีกรอบ ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงป้าเซียวบ่นขึ้นมา
“กลับบ้านอีกแล้ว ยังเอาเงินเดือนของเซียวตั๋วไปจนหมด ฉันเป็นแม่แท้ๆ กลับไม่ได้ใช้เงินเดือนลูกชายเลยสักหยวน ช่างน่าโมโหนัก”
ได้ยินเพียงเท่านั้นเจียงจวินก็รู้ได้ในทันทีว่าเย่ซวงคงกลับบ้านเดิมของเธออีกแล้ว เจียงจวินไม่อยากใส่ใจเพราะไม่ใช่เรื่องของเธอ เธอรีบทำอาหารเช้าให้เสร็จ ก่อนจะยกอาหารไปวางบนโต๊ะ และแบ่งส่วนหนึ่งเอาไว้กินเองด้วย
เมื่อกลับเข้ามาในห้องก็พบว่าเจียงเป่าหลับไปอีกรอบหนึ่ง คงเพราะเพิ่งหายไข้จึงง่วงนอนกว่าปกติ เธอทิ้งกายนั่งลงที่หน้าประตูห้อง และมองดูน้องสาวตนด้วยความเอ็นดู
“เจียงเป่าดีขึ้นหรือยัง”
เจียงจวินเงยหน้าไปมองก่อนจะพบกับเซียวซาที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างเธอ เจียงจวินย่นจมูกเล็กน้อย กลิ่นสุราจากตัวของเขามันทำให้เธอรู้สึกมึนหัวขึ้นมาเสียดื้อๆ เธอจึงเอ่ยกับเขา
“ถอยออกไปไกลๆ หน่อย เหม็นกลิ่นเหล้ามากเลย นี่คุณอาบน้ำด้วยสุรามาเหรอ”
เซียวซาที่ได้ยินแบบนั้นก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยพูด
“พี่ดูไม่หล่อเลยหรือ เพื่อนในร้านสุราบอกว่า ผู้ชายตอนเมาจะหล่อมาก”
เจียงจวินเบ้ปากอย่างเหลืออด ก่อนจะพูด
“ไปเอาความคิดประหลาดแบบนี้มาจากที่ไหนกัน เหลวไหลสิ้นดี เฮ้อ ฉันจะไปดูหม้อไก่ตุ๋นในครัวเสียหน่อย”
เจียงจวินทำท่าจะลุกขึ้นแต่ทว่าเซียวซากลับลุกขึ้นพร้อมกับเธอ คนทั้งสองไม่ทันระวังทำให้เจียงจวินล้มลงไปนอนหงายบนพื้น ส่วนเซียวซาก็นอนทับลงไปบนตัวของเธอพร้อมกับใช้มือประคองศีรษะของหญิงสาวเอาไว้ เจียงจวินตัวแข็งทื่อ ในขณะที่เซียวซากลับจ้องมองเธออย่างอ่อนโยน
เขาไม่รอให้เธอขยับหนี กลับโน้มใบหน้าเข้าจูบเธออย่างดูดดื่ม เจียงจวินมึนงงไปหมด รู้สึกว่าภาพตรงหน้าเบลอไปหมดเสียแล้ว จนกระทั่งได้ยินเสียงของเจียงเป่า
“พี่ชายกัดปากพี่สาวทำไมคะ”
เจียงจวินรีบผลักเซียวซาออกทันที ใบหน้าสวยแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย ก่อนจะลนลานรีบตอบเจียงเป่า
“ไม่ใช่นะจ๊ะเป่าเปา ไม่ใช่”
“แต่หนูเห็นนี่ค่ะ พี่ชายกัดปากพี่สาว พี่ชายใจร้ายจัง ปากพี่สาวแดงหมดแล้ว”
เจียงจวินหมดคำจะกล่าว เธอถลึงตาใส่เซียวซาทันที ในขณะที่เขากลับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้พลางยกมือขึ้นลูบริมฝีปากตนเล็กน้อย
หวานจริงๆ!!!
นับแต่วันนั้นความรู้สึกกระอักกระอ่วนใจที่มีก็เพิ่มมากขึ้น เจียงจวินไม่กล้ามองหน้าเซียวซาแบบตรงๆ อีกต่อไป เธอรู้สึกว่าใจของตัวเองเหมือนมีความรู้สึกแปลกๆ ที่ไม่อาจคาดเดาได้กำลังเกิดขึ้นมา
วันนี้บ้านเซียวค่อนข้างวุ่นวายไม่น้อย เพราะต้องเตรียมส่งสินค้าไปในเมืองเพิ่ม อีกทั้งยังมีคนงานป่วยไข้ไปอีกหลายคน การส่งของไม่อาจล่าช้าได้ เพราะดอกไม้อาจจะเหี่ยวและผักอาจจะไม่สดทำให้ราคาตกลงมาได้ ครั้งนี้ลุงป้าบ้านเซียวจึงให้เซียวซาและเจียงจวินเป็นคนนำสินค้าไปส่งในเมือง ส่วนเจียงเป่าป้าเซียวจะดูแลให้เอง
เจียงจวินพยักหน้าก่อนจะรีบไปเตรียมตัว ก่อนไปยังย้ำเจียงเป่าว่าจะต้องเป็นเด็กดีและห้ามงอแงเป็นอันขาด
ตอนนี้เจียงจวินกำลังนั่งข้างเซียวซา พลางมองดูเขาขับรถด้วยความสนใจ ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะขับรถเป็นด้วย คิดว่าจะดื่มแต่เหล้าเป็นอย่างเดียวเสียอีก
เซียวซาคล้ายรับรู้ได้ถึงสายตาที่มองมา จึงหันมาเอ่ยกับเจียงจวินทันที
“ทำไมมองพี่ด้วยสายตาแบบนั้นล่ะ”
เจียงจวินรีบหลบสายตาเขาทันที ก่อนจะพูดขึ้นมาโดยที่ไม่มองหน้าเขา
“ไม่คิดว่าคุณจะขับรถเป็นด้วย”
“อ้อ ช่วงก่อนขับรถไปตีคนนอกหมู่บ้านบ่อยๆ น่ะเลยขับเป็น”
เจียงจวิน “...”
เหลือเกินจริงๆ!!!
เวลาล่วงเลยมาจนถึงยามสาย ก็มาถึงร้านที่ต้องนำของมาส่ง เมื่อส่งของและรับเงินมาเรียบร้อยแล้ว เซียวซาก็หันมามองเจียงจวินทันที
“ไหนๆ วันนี้ก็เข้าเมืองมาแล้ว พี่จะพาเธอไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า ที่นั่นของขายเยอะมากเลยนะ เธออยากได้อะไรเธอหยิบได้เลย เดี๋ยวพี่จ่ายเอง”
“ไม่ล่ะ ฉันอยากกลับบ้านแล้ว อีกทั้งเงินพวกนั้นก็ได้มาอย่างลำบาก คุณใช้ให้ประหยัดหน่อยเถิด”
เซียวซายิ้มมุมปาก ก่อนจะเดินเข้ามาประชิดตัวเจียงจวิน หญิงสาวขยับหนีจนร่างกายชนติดกับกำแพง ก่อนจะหันมามองเซียวซาที่กำลังใช้มือข้างหนึ่งเท้ากำแพงและจ้องมองเธออย่างไม่ลดละ
“มะ...มองฉันทำไม”
“ก็เธอสวย พี่เลยมอง”
เจียงจวินเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะเบือนหน้าหนี
ให้ตายเถอะ เธอเขินเขาอย่างนั้นหรือ
“เซียวซา ถอยออกไป นี่มันอยู่ในที่ชุมชน คุณไม่อายหรือ”
“ไม่อาย สมัยนี้คนเริ่มพลอดรักกันแบบโจ่งแจ้งแล้ว”
“ใครพลอดรักกับคุณกัน”
“น้องเจียงจวิน หากวันนี้ยอมตามใจพี่ พี่ลดหนี้ให้หนึ่งพันหยวนเลยอะ”
เจียงจวินได้ยินแบบนั้นดวงตาก็เป็นประกาย ก่อนจะมองเซียวซาอย่างหวาดระแวง
“ตามใจเรื่องอะไร เป็นเรื่องแปลกๆ ฉันไม่เอาด้วยนะ”
“เดี๋ยวก็รู้ ตามมาเถอะ หากชักช้าคิดดอกเบี้ยเพิ่มนะ”
“นิสัยไม่ดี!!!”
แม้ปากจะก่นด่าเซียวซาแต่ก็ยอมเดินตามเขาไปแต่โดยดี เซียวซายื่นมือของตัวเองเข้ามาจับมือของเจียงจวินเอาไว้ เธออยากจะดึงมือเขาออก แต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่เขาจะลดหนี้ให้เธอก็พยายามข่มใจเอาไว้ พลางจ้องมองมือของเขาด้วยแววตาที่สั่นไหว
เซียวซาพาเธอมาเลือกซื้อทั้งเสื้อผ้าและของใช้ เธอไม่ซื้อเขาก็อ้างว่าจะคิดหนี้เพิ่ม เจียงจวินหมดคำจะพูดจึงยอมตามใจเขาหนึ่งวัน
เมื่อกลับมาที่รถก็พบว่าข้าวของเต็มรถไปหมด เธอจึงพูดกับเซียวซาด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล
“ป้าเซียวได้ด่าคุณกับฉันแน่ เงินขายของวันนี้ทั้งนั้น”
“ด่าก็ช่างสิ เธอก็ฟังทะลุหูไป ฉันชินเสียแล้ว ต่อไปนี้เธออยากได้อะไรเธอต้องบอกพี่นะ”
“เซียวซา ฉันไม่เคยคิดอยากได้อะไรจากคุณเลยนะ”
“ก็เริ่มคิดได้แล้ว”
“เซียวซา!!! ฉันไม่ได้เป็นคนรักของคุณเลยนะ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน จะให้ฉันมาใช้เงินของคุณแบบนี้มันไม่ดีเลย”
“อะไรนะ หูไม่ดี อ้อ รักพี่มากเหรอ เธอไม่ต้องรีบบอกก็ได้ พี่รอฟังเธอทั้งชีวิต เธออยากซื้ออะไรอีกไหม พี่จะซื้อให้เธอเอง”
เจียงจวินโมโหแล้ว เธอชกกำปั้นเข้าไปที่ไหล่ของเขาอย่างเต็มแรง เซียวซาร้องโอยก่อนจะยกมือขึ้นกุมหน้าอกฝั่งซ้ายของตนเอง เจียงจวินที่เห็นแบบนั้นก็ขมวดคิ้วและรีบถามเขา
“ทำไมเจ็บตรงนั้นล่ะ ฉันแค่ชกแขนนี่”
“เจ็บสิ เธอไม่รับรักพี่ พี่เลยเจ็บตรงนี้อย่างไรเล่า”
เจียงจวินกลอกตาไปมา ก่อนจะเอ่ย
“หากเลิกไปร้านสุราได้ฉันจะพิจารณาก็แล้วกัน”
กว่าจะรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปก็สายไปเสียแล้ว เจียงจวินยกมือขึ้นปิดปากตน ในขณะที่เซียวซาตาลุกวาว รีบยื่นหน้าเข้ามาใกล้เธอทันที
“เธอพูดจริงเหรอ”
เจียงจวินเบือนหน้าหนีไม่ตอบ เซียวซาจึงถามย้ำ
“จริงหรือเปล่า”
เจียงจวินทนการรบเร้าไม่ไหวจึงหันมามองเขา แต่ทว่าเธอกลับหันมาจูบเขาโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะรีบผละออกด้วยความเขินอาย
ให้ตายเถิด!! เธอชอบผู้ชายไม่เอาไหนคนนี้เข้าแล้วจริงๆ
“น้องสาว พี่รับรองว่าพี่จะไม่ไปร้านสุราอีก หากทำได้ เธอต้องแต่งงานกับพี่นะ”
“น้อยๆ หน่อย ยังไม่ได้บอกว่าจะแต่งเสียหน่อย”
“ก็ได้ๆ พี่จะทำให้เธอเห็นให้ได้”
เจียงจวินยิ้มออกมาเล็กน้อย ชีวิตเธอตอนนี้ก็มีแค่เจียงเป่า ซ้ำร้ายในยุคสมัยเช่นนี้การมีที่พึ่งก็ถือเป็นเรื่องดี
หากต้องลงเอยกับเซียวซาจริงๆ แบบนั้นเธอก็คงจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเปลี่ยนเขาให้เป็นคนดีกว่าเดิมให้ได้
ระยะนี้เซียวตั๋วอาการดีขึ้นมาก แม้ขาจะเดินกะเผลกๆ แต่เขาก็ทำงานหลายอย่างได้มากขึ้น เซียวซาและเจียงจวินเองก็ไม่เอาเปรียบพี่ชายพี่สาว หากขายได้เยอะก็แบ่งกำไรให้เสมอ กลายเป็นเซียวตั๋วและเซียวหยี่ที่เกรงใจคนทั้งสองเจียงจวินมองดูภายในร้าน คิดว่าอาจจะต้องจ้างคนมาเพิ่ม หลายวันก่อนเยี่ยนอิงมาเยี่ยมเธอพร้อมกับเยี่ยนชาง คนทั้งสองบอกว่ามีที่ดินผืนหนึ่งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาล เป็นที่ของคุณปู่เขาเอง หากเธออยากซื้อเขาขายให้สามพันห้าร้อยตำลึง เป็นที่ดินผืนไม่เล็กไม่ใหญ่มากนัก เดิมทีอยากจะลดราคาให้ แต่ที่ผืนนั้นราคาดี ไม่อาจที่จะลดราคาได้มากกว่านี้แล้ว เจียงจวินเองขอปรึกษากับเซียวซาเสียหน่อย เพราะราคาที่ว่านั้นก็ไม่ใช่น้อยๆ เลย แต่เซียวซากลับบอกว่าแล้วแต่เธอ หากเธออยากซื้อเขาเองก็ไม่คัดค้านอะไรวันนี้คนในร้านค่อนข้างที่จะมากอยู่ ผู้คนต่างเข้ามาในร้านจนกระทั่งถึงเวลาเย็น บะหมี่ก็ขายดีจนหมด แม้กระทั่งสุราของเซียวซาก็ไม่เหลือ ในขณะที่กำลังจะเก็บร้านกันอยู่นั้น ก็มีหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินเข้ามาในร้าน "เจียงจวิน นั่นเธอใช่ไหม"เจียงจวินที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการคิดบัญชีรายรับรายจ่ายเมื่อได้ยินแบบนั้นจึงเ
โรงพยาบาลใหญ่"ดีใจด้วยนะครับ ภรรยาคุณตั้งครรภ์ได้แปดสัปดาห์แล้ว"เซียวซาที่ได้ยินแบบนั้นก็อึ้งไปจนทำอะไรไม่ถูก ราวกับสติของเขาหลุดลอยไปไกลแล้ว เขาทั้งยิ้มทั้งทำหน้าตาเหมือนคนมึนงง จนเซียวตั๋วต้องพูดขึ้นมา"อาซา เมียแกท้องแล้ว!!!"อาซาพลันได้สติขึ้นมา ก่อนจะเอ่ยถามหมอด้วยน้ำเสียงที่สั่นๆ"ปะ แปดสัปดาห์คืออะไรเหรอครับคุณหมอ"เขามึนงงไปหมดแล้ว สมองตอนนี้คิดหรือนึกภาพอะไรไม่ออกเลย หมอที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย ท่าทีของคุณพ่อมือใหม่ก็เป็นแบบนี้กันทุกคน"สองเดือนครับ""สองเดือน""ครับ""ขอบคุณครับหมอ ผมต้องดูแลเธอยังไงบ้างครับ""คุณพ่อใจเย็นนะครับ ตอนนี้ไม่ต้องทำอะไร แค่ให้เธอนอนพักให้มากๆ กินอาหารมีประโยชน์ ช่วงนี้อย่าเพิ่งให้เธอทำงานหนักก็พอครับ""ครับๆ ผมจะทำตามที่คุณหมอบอกครับ""ครับ อย่างนั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ"หมอยิ้มให้เซียวซาอีกครั้งก่อนจะเดินจากไป เซียวซาหันมามองเซียวตั๋ว ก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยความดีใจ"พี่ใหญ่ เมียผมท้องแล้ว"เขาโผเข้ากอดเซียวตั๋วด้วยความดีใจ หลัวจื่อชิวมองภาพตรงหน้าก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อยครั้งนี้เขาควรตัดใจจากเธอแล้วจริงๆ สินะ ดูแล้วเธอก็คงมีความสุขดีกับค
เช้าวันต่อมาเจียงจวินและเซียวซาตื่นแต่เช้า สองสามีภรรยาเตรียมจะเข้าเมืองเพื่อไปทำความสะอาดร้าน วันนี้เธอพาเจียงเป่าและเจ้าแมวเป่าเป้ยไปด้วย เจียงเป่าค่อนข้างตื่นเต้นเหลือเกิน ส่วนเจ้าแมวเป่าเป้ยก็รู้สึกว่าวันนี้ตนจะได้ไปเปิดหูเปิดตาเสียทีหลังจากที่เอาแต่เฝ้าบ่อน้ำมานานพวกเขายังพาเซียวหยี่และเซียวตั๋วไปด้วย จะได้พากันไปเปิดหูเปิดตา เพราะไม่อยากให้พี่ชายต้องอยู่แต่ในบ้าน ส่วนพ่อแม่สามีนั้นไม่อยากเดินทางไกล เพราะเหนื่อยล้านั่งรถนานๆ ไม่ไหวแล้วร้านที่เยี่ยนชางให้เช่าทำเลดีและค่อนข้างกว้างขวาง เจียงจวินรู้ดีว่าที่เขาให้เช่าในราคาถูกเพราะเห็นแก่เธอ อีกอย่างเยี่ยนชางร่ำรวยขนาดนั้น เขาเองกลับไม่ได้มาคิดเล็กคิดน้อยกับเธอเลยด้วยซ้ำทุกคนช่วยกันทำความสะอาดร้านอย่างขยันขันแข็ง ส่วนเซียวตั๋วก็กำลังนั่งเล่นอยู่กับเจียงเป่า เด็กน้อยที่ช่างพูดและชวนเขาคุย มันทำให้เขารู้สึกดีเป็นอย่างมาก เขาตั้งใจว่านับจากนี้จะตั้งใจรักษาตัวให้ดีขึ้นกว่าเดิมใช้เวลาไม่นานร้านก็ทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อย เมื่อถึงเวลาเที่ยงเซียวซาก็ไปซื้ออาหารมาให้ทุกคนได้กินกันรองท้อง เพราะต้องพาเซียวตั๋วไปที่โรงพยาบาลเพื่อปรึกษาเรื่อ
เมื่อจัดการเก็บของที่ต้องเก็บและซื้อของที่เตรียมเอาไว้ทำอาหารเรียบร้อยแล้ว เซียวซาและเจียงจวินจึงขับรถกลับบ้านเซียวกันในทันที ระหว่างทางยังไม่ลืมแวะซื้อขนมอร่อยๆ กลับไปฝากคนที่บ้านเซียวด้วยเมื่อกลับมาถึงบ้านก็พบว่าเจียงเป่ากำลังนั่งเล่นอยู่กับเจ้าแมวเป่าเป้ยที่หน้าบ้าน ส่วนพ่อแม่สามีนั้นกำลังช่วยกันรดน้ำต้นไม้อยู่ ด้านเซียวหยี่นั้นก็กำลังเก็บกวาดทำความสะอาดร้านบะหมี่ เมื่อเห็นว่าเซียวซาและเจียงจวินกลับมาแล้ว เซียวหยี่จึงเอ่ยถามทันที"กลับมาแล้วเหรอ วันนี้กลับมาไวนะ ขายดีใช่ไหม พวกเธอสองคนกินอะไรมาหรือยัง หิวไหมพี่จะไปทำอาหารมาให้"เจียงจวินยิ้มให้เซียวหยี่เล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตอบ"กินมาแล้วค่ะพี่ นี่ค่ะฉันกับเซียวซาซื้อขนมมาฝากคนในบ้านด้วย""อืม พวกเธอไปพักเถอะ"เจียงจวินพยักหน้า ในขณะที่เซียวซามองไปรอบๆ บ้าน และพูดขึ้นมา"แม่ครับ พี่ใหญ่ล่ะครับ"หญิงชราที่รดน้ำต้นไม้เสร็จแล้วจึงหันมามองลูกชายคนเล็ก ก่อนจะเอ่ยตอบ"อยู่ในห้องนั่นแหละ""ครับ ผมจะเอาขนมไปให้พี่ใหญ่เสียหน่อย"เซียวซาพูดจบก็เดินเข้าบ้านไปพร้อมกับห่อขนมในมือ เขามุ่งหน้าไปที่ห้องของเซียวตั๋วในทันที ก่อนจะยกมือขึ้นเคาะไปที่ประ
เซียวตั๋วถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในทันที เซียวซาและเจียงจวินนั้นตกใจจนแทบเสียสติ เมื่อสอบถามเรื่องราวจากคนละแวกนั้นก็ได้ความว่า เซียวตั๋วมีเรื่องกับสามีใหม่ของเย่ซวง เขาดื่มมาเล็กน้อยจึงคิดจะไปหาเย่ซวง เดิมทีคิดจะกลับบ้านแต่กลับไม่ถึง เขาถูกคนของสามีใหม่เย่ซวงรุมทุบตีจนสาหัส ส่วนพวกที่ทุบตีก็หนีหายไปยังไม่ถูกจับ ด้านเย่ซวงนั้นก็บอกว่าเธอไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น อีกทั้งยังพูดอีกว่าเธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเซียวตั๋วแล้ว เขาต่างหากที่มารังควานเธอไม่ยอมเลิกราเซียวซายกมือขึ้นนวดหว่างคิ้ว ระยะนี้บ้านเซียวมีแต่เรื่องจริงๆ อีกทั้งเซียวตั๋วยังมาเกิดเรื่องแบบนี้อีก เจียงจวินยื่นมือของตัวเองไปจับมือของเขาเอาไว้ ก่อนจะพูดขึ้นมา"เราควรไปแจ้งความกันก่อนนะคะ ฉันจะให้พี่จื่อชิวช่วยพวกเราอีกแรง"เซียวซาถอนหายใจออกมา สีหน้าของเขาเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะพยักหน้าให้เจียงจวินและพากันไปที่โรงพักหลัวจื่อชิวที่เห็นสภาพเซียวซาที่เหมือนกับตีกับใครมาก็มองเขาเล็กน้อย ก่อนจะหันมาพูดกับเจียงจวิน"พี่จะส่งคนออกตามหาพวกนั้นให้เร็วที่สุด แต่ถ้าพวกมันเป็นเพียงคนเมาก็คงจะไม่ได้ค่าเสียหายอะไรมากนัก แล้วพี่สามีของเธ
เซียวซาและเจียงจวินจ้องมองชายหนุ่มทั้งสามคนนั้นด้วยแววตาที่เรียบเฉย เซียวซาดันเจียงจวินมาไว้ด้านหลัง ก่อนจะเอ่ยถามหนึ่งในหัวหน้าแก๊งนั้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา"พวกเราจ่ายค่าเช่ากับคนที่ปล่อยเช่าไปแล้ว""เจ้าของคนไหนล่ะ ไม่เห็นรู้จักเลย ที่นี่มีแค่พี่ที่เป็นเจ้าถิ่น จ่ายมา ก่อนที่จะเจ็บตัว ที่นี่ไม่มีใครล้มพี่ได้ พวกพี่สามคนเป็นคนคุมที่นี่"เซียวซาที่ได้ยินแบบนั้นก็ส่งเสียงเหอะในลำคอ ไอ้พวกอันธพาลกวนเมืองนี่มันชอบระรานคนจริงๆ ดูแล้วคงจะทำบ่อย เพราะชาวบ้านที่มาขายของหรือพ่อค้าแม่ค้าต่างก็ก้มหน้าไม่กล้าเข้ามาช่วยพวกเขาเลยแม้แต่คนเดียวแต่เขาไม่กลัวหรอก"ไม่จ่าย หัดทำงานบ้าง ไม่ใช่มารีดไถเงินคนอื่นแบบนี้ มันน่าสมเพช"เซียวซาพูดเพียงเท่านั้น ก่อนจะหันหลังคิดจะพาเจียงจวินกลับ แต่ทว่าชายที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าแก๊งกลับยกมือขึ้นตบศีรษะเซียวซาจนเขามึนงง เซียวซาจึงหันไปมองอย่างเอาเรื่อง"ทำไมวะน้องชาย คิดจะสู้กับพี่เหรอ แถวนี้ไม่มีใครสู้กับพี่ได้ หากใครล้มพี่ได้พี่จะยอมนับถือเป็นลูกพี่เลย"เซียวซาโมโหแล้ว เขาจึงชกหัวหน้าแก๊งมันจนล้มหงายหลัง พวกลูกน้องสามคนที่เหลือคิดจะเข้ามาทำร้ายเซียวซา จึงช่วยกั