ณ.ตระกูลภูริสิทธิโชค
"ภพคะ เราไม่ไปงานศพของไอ้พี่จินจะดีหรือคะ"เสียงของหญิงสาวเอ่ยถามชายชู้ที่ตัวเองนั่งซบอกดูทีวีอยู่บนเตียงนอนของจินด้วยสภาพเปลือยเปล่า พลางใบหน้างามก็เงยหน้ามองเสี้ยวหน้าของพิภพด้วยแววตาออดอ้อนไร้การเศร้าโศกที่ตัวเองพึ่งจะเสียว่าที่สามีในทะเบียนสมรสไปหยกๆ
"จิ๊! พิมพ์จะไปพูดถึงมันให้เสียอารมณ์ทำไม ภพอุสาห์ไม่นึกถึงภาพเมื่อวานนี้แล้ว"พิภพพูดขึ้นอย่างหัวเสียพร้อมกับดันร่างนุ่มนิ่มของพิมพ์ที่พึ่งจะทำเรื่องอย่างว่ากันเสร็จไปเมื่อกี้ออกจากการซบอกของตัวเอง ก่อนที่จะดันตัวลุกขึ้นจากเตียงเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ปล่อยให้พิมพ์นั่งหน้าบูดบึ้งอยู่บนเตียงตามลำพัง
และเหตุการณ์นี้ก็อยู่ในสายตาของร่างโปร่งแสงเจ้าของห้องและบ้านหลังนี้ที่ยืนดูอยู่นานหลายนาทีแล้ว
'หึ! ทั้งที่วันนี้ควรจะเป็นวันแต่งงานที่ทุกคนต่างสวมชุดสีมงคลมีความสุขกัน แต่ทุกคนกลับต้องเปลี่ยนมาสวมชุดสีดำและมางานศพของเจ้าบ่าวด้วยใบหน้าโศกเศร้าแทน ฮ่าๆๆๆ แล้วดูเจ้าสาวของกูสิกลับมานอนกกชายชู้ของมันในห้องของกูอย่างหน้าตาเฉย ตลกเป็นบ้าเลยวะ!!! ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ'
ร่างโปร่งแสงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาแดงก่ำจ้องมองหญิงสาวที่นอนเล่นมือถืออย่างสบายใจอยู่บนเตียงนอนที่ยับยู่ยี่บ่งบอกว่าพึ่งผ่านอะไรมาเป็นอย่างดี
ด้านเพลงพิณที่นอนเล่นมือถืออยู่บนเตียงอย่างอารมณ์ดีนั้น อยู่ๆก็รู้สึกขนลุกซู่และรู้สึกเหมือนโดนใครสักคนจ้องมองมาที่ตัวเอง ก็รีบวางมือถือและลุกขึ้นนั่งกวาดสายตามองไปรอบๆแต่ก็ไม่เห็นอะไร จึงล้มตัวกลับมานอนเล่นมือถือเหมือนเดิม ผ่านไปไม่นานพิภพก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดคลุมเดินมาหยุดที่ข้างเตียงหลังใหญ่
ก่อนที่จะเอ่ยพูดอะไรบางอย่างออกมาที่ทำให้ร่างโปร่งแสงที่ยืนอยู่ชะงักนิ่งไปอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่หูตัวเองได้ยินจากปากคนที่เขาเชื่อใจ
"พิมพ์แล้วเอกสารบัญชีการเงินบริษัทที่ผมให้คุณเก็บไว้อยู่ที่นี้ด้วยมั้ย ผมจะเอาไปเผาทิ้ง"
'เผาเอกสารบัญชีการเงินบริษัท? เอกสารอะไร แล้วเผาทำไม'
"ภพคะ พิมพ์คงไม่โง่เอาเอกสารที่เราโกงเงินบริษัทของไอ้พี่จินมาไว้ในบ้านของมันหรอก เอกสารพวกนั้นพิมพ์เก็บไว้ที่คอนโดที่พี่มันเคยซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดของพิมพ์"เพลงพิณดันตัวลุกขึ้นมานั่งอีกครั้งพลางหันไปตอบชายคนรักพร้อมกับกลอกตาไปมา เมื่อได้ยินชายหนุ่มที่ลักลอบคบกันมานานกว่า3ปีเอ่ยถามขึ้นมาแบบนั้น
"ภพจะไปรู้มั้ยล่ะ ภพก็นึกว่าพิมพ์จะเก็บไว้ใกล้ๆตัว งั้นพรุ่งนี้เราไปเอาเอกสารการโกงเงินกว่า2ปีพวกนั้นไปเผากันนะพิมพ์"เอ่ยพูดพลางก้าวขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วดึงหญิงสาวมานอนซบที่อกตัวเองเหมือนอย่างเคย
"โอเคค่ะที่รัก"
'นี่พวกมึงสองคนสวมเขาให้กูไม่พอ พวกมึงยังยักยอกเงินบริษัทกูอีกอย่างงั้นหรอ!!!'
"เออ!จริงสิ ตกลงคนสวยของผมจดทะเบียนสมรสกับไอ้พี่จินหน้าโง่นั้นก่อนที่มันจะตายแล้วใช่มั้ยครับ"ถามขึ้นพลางมือหนาก็ลูบไล้ไหล่เนียนของเพลงพิณเล่น ส่วนเพลงพิณที่ได้ยินคำถามก็ขมวดคิ้วเข้าหากันมุ่นพร้อมกับพยักหน้าหงึกๆตอบออกไปอย่างงงๆ
"ใช่แล้วล่ะ ก็ตามที่เราวางแผนไว้ไงที่รัก ว่าให้พิมพ์แต่งงานจดทะเบียนสมรสกับพี่มันและค่อยๆปอกลอกเอาสมบัติมันทีล่ะนิดๆ"
"หึๆ แต่ตอนนี้เราไม่ต้องค่อยๆหลอกเอาสมบัติมันแล้วนะ เพราะมันไม่มีญาติที่ไหนไม่ใช่หรอ งั้นก็แสดงว่าทรัพย์สมบัติของมันทั้งหมดในตอนนี้รวมถึงบริษัทที่มันรักนักรักหนาก็ต้องตกมาเป็นของที่รักคนที่จดทะเบียนสมรสกับมันไม่ใช่หรอครับ ฮ่าๆ"พิภพเอ่ยขึ้นพลางหัวเราะยิ้มแย้มออกมาอย่างชอบอกชอบใจ
"จริงด้วย! งั้นแสดงว่าเงินในบัญชีของพี่มันบริษัทของพี่มันรวมถึงบ้านหลังนี้ก็ตกเป็นของพิมพ์ทั้งหมดน่ะสิ กรี๊ดดดด พวกเรารวยแล้ววววว"หญิงสาวสาธยายขึ้นด้วยใบหน้าตื่นเต้นดีใจไม่ต่างจากชายชู้ของตัวเอง เมื่อถึงได้ถึงประโยคคำพูดของชายหนุ่มเมื่อกี้
ส่วนทางกับร่างโปร่งแสงในตอนนี้อย่างสิ้นเชิงที่โกรธเป็นอย่างมาก เมื่อได้ยินว่าบริษัทและทรัพย์สมบัติที่พ่อแม่และตัวเขาสร้างมาต้องตกไปเป็นของชายชั่วหญิงเลวคู่นี้
'ไม่!!! กูไม่ให้! บริษัทของพ่อแม่กู กูไม่ให้พวกมึง กูไม่มีวันให้บริษัทที่กูลงทุนลงแรงกอบกู้ชื่อเสียงมานานหลายปีตกไปเป็นของคนชั่วๆอย่างพวกมึงสองคน กูไม่ยอมเด็กขาด!!!!'
พรึ่บ
"พะ ภพคะ..."เพลงพิณที่กำลังยิ้มดีใจกับประโยคที่พึ่งได้ยินจากคนรักว่าตัวเองจะได้ทรัพย์สมบัติของจินทั้งหมด เป็นต้องเปลี่ยนเป็นใบหน้าถอดสีพร้อมกับขยับตัวเข้าหาอ้อมกอดของพิภพ เมื่ออยู่ๆไฟในห้องก็ดับพรึ่บไป แต่ไม่นานก็สว่างขึ้นมาเหมือนเดิม แต่ทว่าไฟในห้องกลับดับๆติดๆอยู่อย่างนี้ประมาณ3ครั้งถึงจะกลับมาเป็นปกติดังเดิม
จนทำให้เพลงพิณเริ่มตัวสั่นหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่พิภพกลับคิดเพียงว่าหลอดไฟนั้นมีปัญหาเพียงเท่านั้น
"พิมพ์คุณจะกลัวอะไร ก็แค่หลอดไฟมันมีปัญหาแค่นั้นเอง พรุ่งนี้เช้าคุณก็ให้คนเข้ามาดูตอนที่เราออกไปจัดการเรื่องเอกสารการยักยอกเงินด้วยแล้วกัน"ว่าจบพิภพก็ดันตัวแฟนสาวออก ก่อนที่เจ้าตัวจะล้มตัวนอนลงบนเตียงฝั่งที่เคยเป็นพื้นที่ของจิน
ส่วนเพลงพิณที่เห็นคนรักของตัวเองหลับไปแล้ว ก็รีบที่จะล้มตัวนอนตามและพยายามข่มตาให้หลับเข้าสู่ห้วงนิทรา โดยมีสายตาอาฆาตแค้นของณภัทรจ้องมองอยู่อย่างนั้น ก่อนที่ร่างโปร่งแสงของจินจะค่อยๆหายวับไปจากห้องนอนของตัวเองที่ตอนนี้เมียของเขาได้พาชายชู้มาทำเรื่องชั่วช้าบนเตียงนอนของเขา
2อาทิตย์ต่อมาหลังจากเสร็จงานเผาศพของจิน
"คุณไม่ละอายใจบ้างหรอ นี่พึ่งจะเผาร่างของจินไปแค่ไม่กี่อาทิตย์คุณก็แต่งตั้งชายชู้ของคุณขึ้นมาเป็น1ในบอร์ดบริหารที่ถือหุ้นมากที่สุด"ทักษกรถามหญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎของณภัทรด้วยน้ำเสียงโมโห และหญิงสาวที่ยืนกอดอกอยู่ตรงหน้าของเขาในตอนนี้เธอเองก็พึ่งจะได้รับมรดกทั้งหมดของชายหนุ่มคนที่เขาแอบรักมาตลอดหลายไปเพียงไม่กี่วัน
แต่ทว่าเธอที่พึ่งได้ครอบครองมรดกและบริษัทนำเข้ารถยนต์ของจินไปไม่นาน เจ้าหล่อนก็เล่นแต่งตั้งชายชู้ขึ้นมาเป็น1ในบอร์ดบริหารในทันที โดยไม่สนคำคัดคาดหรือคำติฉินนิทราเลยสักนิด
"แล้วจะทำไม ฉันจะแต่งตั้งใครมันก็เรื่องของฉัน นี่มันบริษัทของฉันคุณมาเกี่ยวอะไรด้วย อ๋อจริงสิคุณคงจะเสียใจมากที่คนที่คุณแอบรักมาตลอดตายไปซินะ ก็นะ อุสาห์พยายามบอกพยายามเตือนเรื่องของฉันกับพี่ภพให้พี่จินรู้ตั้งหลายครั้งนี่เนอะ แต่ทำยังไงได้ก็ไอ้พี่จินมันหลงฉันขนาดนั้น เพื่อนเตือนยังไงก็โง่หลงเชื่อในคำยุยงของฉัน"
เพลงพิณสาธยายออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มไร้สำนึกพร้อมกับยกฝ่ามือบางขึ้นมาป้องปากตัวเองแล้วหัวเราะออกมาน้อยๆ ก่อนที่จะไหวไหลเล็กน้อยแล้วหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในบริษัทของจินอย่างหน้าตาเฉย ปล่อยให้ภูมิยืนกำมือขบกรามแน่นข่มความโกรธแค้นและโมโหไว้ภายในใจ ก่อนที่จะเดินกลับไปขึ้นรถด้วยแววตาแดงก่ำ
เดิมทีวันนี้ภูมิตั้งใจจะไปทำบุญและเอาดอกไม้ไปให้จินที่วัด แต่แล้วภูมิต้องเปลี่ยนเป้าหมายมาที่บริษัทของจินแทนเพราะได้รับข่าวจากพนักงานของจินที่รู้จักเขาทักมาบอกว่าเพลงพิณแต่งตั้งให้ไอ้พิภพชายชู้ขึ้นมาเป็น1ในบอร์ดผู้บริหารที่ถือหุ่นบริษัทถึง30% แค่ได้ยินภูมิก็พอจะเดาออกทันทีว่าไอ้หุ่น30%ที่มันถือนั้นมาจากการไม่ได้ซื้อขายแต่เป็นการที่เพลงพิณเซ็นมอบให้มันเลยต่างหาก
"แม่งเอ๊ยยยย"
ปึก!
คิดมาถึงตรงนี้ฝ่ามือหนาของภูมิก็ฟาดลงที่พวงมาลัยรถอย่างแรงโดยความโมโหและโกรธแค้นที่ทำอะไรไม่ได้
เขานั้นอยากที่จะบีบให้ทางเพลงพิณและชายชู้นั้นที่นั่งอยู่ในตำแหน่งผู้ถือหุ้นบริษัทของจินมากที่สุดในตอนนี้นั่นล้มละลายและเสียชื่อเสียงเหลือเกิน แต่พอภูมินึกถึงว่าจินรักบริษัทนี้มากแค่ไหนภูมิก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรเกี่ยวกับบริษัทของจินมาก ภูมิถึงได้ถอยออกมาแบบนี้ปล่อยให้ชายชั่วหญิงเลวคู่นั้นเสพสมทัพย์สมบัติของคนที่เขารักมากอย่างมีความสุขต่อไป
"ขอโทษ ขอโทษนะจินที่ภูมิช่วยจินไว้ไม่ได้ แถมตอนนี้ภูมิยังช่วยบริษัทของจินไว้ไม่ได้อีก ภูมิขอโทษจริงๆจิน..."ภูมิที่ขับรถออกมาจากบริษัทของจินได้ไม่ไกลเท่าไหร่นัก ก็หักพวงมาลัยเข้าข้างทางจอดรถตรงข้างกับศาลไม้เก่าอะไรสักอย่างที่ดูทรุดโทรมเหมือนไร้คนดูแลมานาน
ก่อนที่ทักษกรจะซบใบหน้าลงกับพวงมาลัยรถบ่นพึมพำอะไรสักอย่างกับตัวเองออกมาเสียงเบาจนจับใจความไม่ได้ พลางนัยน์ตาคมทั้งสองข้างก็มีน้ำสีใสไหลลงมาไม่หยุด โดยเบาะข้างคนขับก็มีร่างโปร่งแสงของคนที่ภูมิเอ่ยขอโทษเมื่อกี้นั่งมองอยู่ด้วยแววตาโศกเศร้าไม่ต่างกัน
'มึงไม่ผิดเลยภูมิ เป็นกูเองที่โง่ไม่ยอมเชื่อคำตักเตือนของคนที่หวังดีที่สุดกับกู เป็นกูเองที่โง่ยอมเชื่อคำหลอกลวงแล้วไปจดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงสารเลวคนนั้น จนทำให้บริษัทที่พ่อแม่กูสร้างขึ้นมาเองกับมือต้องพังลงเพราะชายชั่วหญิงเลวคู่นั้น ถ้าเกิดว่ากูย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตเหี้ยๆพวกนี้ได้ กูจะไม่ยอมให้เรื่องต่ำช้าพวกนี้เกิดขึ้นกับชีวิตของกูและให้สภาพของมึงเป็นแบบนี้เด็ดขาด และกูจะทำให้พวกมันสองคนได้รับบทเรียนที่สาสม!'
'งั้นเจ้าก็จงกลับไปเปลี่ยนแปลงโชคชะตาชีวิตของตัวเจ้าซะสิ'
'ใคร! เสียงของใคร!'
'กลับไปเปลี่ยนชีวิตของเจ้าซะ โอกาสที่ข้าให้เจ้าครั้งนี้จงใช้มันให้คุ้มค่าเสีย'
'คุณเป็นใคร คุณอยู่ตรงไหน แล้วสิ่งที่คุณพูดหมายความว่ายังไง ผมไม่เข้าใจ โอกาสอะไรของคุณ....'
ณภัทรร้องตะโกนถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาได้ยินน้ำเสียงที่ดูทรงพลังและมีอำนาจเอ่ยพูดขึ้นมาเมื่อกี้ ใบหน้าหล่อเหลาหันมองรอบๆก็ไม่เจอใครที่ไหน เห็นเพียงศาลไม้ที่ทรุดโทรมและเก่าตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของถนน แต่แล้วจินที่กำลังจ้องมองศาลไม้เก่าๆด้วยใบหน้างงงวยอยู่นั้นก็ต้องยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาบดบังใบหน้าของตัวเอง เมื่ออยู่ๆก็มีแสงสว่างจ้าสาดส่องออกมาจากศาลไม้พุ่งตรงมาทางเขาจนจินต้องปิดเปลือกตาลงแล้วสติของเขาก็ค่อยๆดับวูบไป
เนื้อหาในตอนนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตจริง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านณภัทรหลังจากที่ทักษกรกายภาพบำบัดจนร่างกายหายดีกลับมาเดินเหินได้เป็นปกติ ในวันนี้ก็ครบหนึ่งอาทิตย์พอดีที่คนตัวสูงออกจากโรงพยาบาลมาและตลอดระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ภูมิก็ปฏิบัติต่อจินอย่างกับจินนั้นเป็นคนพิการอย่างไงอย่างงั้น ไม่ว่าจินจะเดินเหินไปไหน จะไปหยิบจับอะไรภูมิก็จะเป็นคนอาสาทำแทนทุกอย่าง ขนาดจินไปทำงานที่บริษัทคนตัวสูงนี่ก็ตามไปประคบประหงมเขาถึงที่บริษัท"คุณทักษกรครับ คุณไม่มีงานที่ต้องทำหรือยังไง ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลมาผมยังไม่เห็นคุณเข้าบริษัทของคุณเลยนะครับ เอาแต่มาเฝ้าผมที่บริษัทป่านนี้งานคุณไม่ท่วมโต๊ะแล้วหรือไง"ณภัทรที่อยู่ในชุดเสื้อสูทเต็มยศหมุนเก้าอี้หนังราคาแพงหันมาถามคนตัวสูงที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงสแลคนั่งปอกผลไม้อยู่ที่โซฟารับรองแขกในห้องทำงานของเขา"ภูมิยังอยู่ในช่วงวันลาป่วยอยู่ครับ อีกประมาณ5วัน วันลาป่วยข
บทส่งท้ายวันที่19/09/2***ณ เวลา19:19นาทีเจ้าของความสูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตรนอนหลับใหลไร้สติมานานนับ2เดือนในวันนี้เปลือกตาสีมุกที่เคยปิดสนิทกลับค่อยๆเปิดขึ้น แต่ทว่าเมื่อนัยน์ตาคมโดนแสงสว่างภายในห้องเปลือกตาบางเป็นต้องกะพริบถี่เพื่อปรับสายตาให้เข้ากับแสงสว่างทักษกรที่ฟื้นลืมตาตื่นขึ้นหลังจากหลับใหลไปเป็นเดือนๆกวาดสายตามองรอบๆห้องเพื่อมองหาใครบางคน แต่ไม่ว่าทักษกรจะกวาดสายตาจนทั่วห้องแล้วเขาก็ไม่เห็นใครสักคนทักษกรที่ลืมตาตื่นและไม่เห็นใครสักคนจึงพยายามที่จะดันตัวลุกขึ้นนั่ง แต่ทว่าด้วยความที่ร่างกายของเขาไม่ได้ขยับมานานนับเดือน จึงทำให้แขนขาของเขาอ่อนแรง"อ่าานี้เราหลับไปนานแค่ไหนกันนะ"น้ำเสียงแหบแห้งพึมพำกับตัวเองออกมาเสียงเบาและเมื่อตัวเขาทำอะไรไม่ได้ ภูมิจึงได้แต่นอนมองเพดานห้องอยู่อย่างนั้นสักพัก ก่อนที่จะปิดเปลือกตาลงแล้วหลับไปอีกด้านณภัทรที่หายดีปกติหลังจากที่คุณหมออนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้เขาก็กลับมาใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม คือตอนเช้ามา
ณภัทรณภัทรที่อยู่ในชุดลำลองของทางโรงพยาบาลนั่งก้มหน้าจิกเล็บมือลงหลังมือข้างขวาที่มีสายน้ำเกลือของตัวเองแน่นอย่างเคยตัว พลันริมฝีปากได้รูปก็กัดเม้มเข้าหากันพลางก้อนเนื้อด้านซ้ายก็เต้นระส่ำอย่างตื่นกลัวในใจก็พร่ำร้องขอภาวนา ว่าให้คนตัวสูงภายในห้องที่ตอนนี้คุณหมอกำลังปั๊มหัวใจช่วยอยู่นั้นกลับมาทีเถอะอย่าจากเขาไปไหนเลย"หนูจิน...แม่ว่าเรากลับไปรอที่ห้องพักเถอะทางนี้ อึก ให้พ่อกับแม่จัดการเองนะลูก"คุณหญิงวราศิริเดินมาทรุดตัวนั่งลงเก้าอี้ด้านข้างจินพร้อมกับเอื้อมมือที่เหี่ยวย่นเล็กน้อยตามอายุมาแตะลงที่มือของจิน ก่อนจะเอ่ยพูดกับจินด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและติดขัด พลันนัยน์ตาแดงก่ำทั้งสองก็ไม่กล้าที่จะเงยขึ้นมาสบตากับจินโดยตรงเธอทำได้เพียงแค่เบี่ยงสายตาหลบไปอีกทางเพื่อไม่ให้จินเห็นว่าตอนนี้เธอนั้นกำลังอ่อนแอและเศร้าเสียใจมากแค่ไหน เธอไม่อยากให้จินเศร้าเสียใจไปมากกว่านี้เพราะการที่เครียดมากๆมันไม่ส่งผลดีต่อลูกในท้องและอาจเกิดสภาวะตกเลือดได้"คุณแม่...ให้ผมอยู่ต่อเถอะนะครับ ถ ถ้าเกิดภูมิเข้าไม่ไหวแล้วจริงๆ อึก ผะ ผมจะได้อ
'เกิดไอ้เด็กตัวน้อยนั้นเป็นอะไรไปเอ็งจะรับผิดชอบไหวหรือไง'หญิงชราที่อยู่ในชุดเสื้อม่อฮ่อมนุ่งผ้าถุงหันมาเอ่ยพูดกับชายชราที่ยืนถือไม้ตะพดอยู่ข้างกายจิน ด้านจินที่ไม่รู้ว่าชายชรากลับมายืนอยู่ข้างตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็ล่ะสายตาจากภูมิแล้วหันมามองด้านข้างด้วยความตกใจทันที แต่ทว่าพอหันกลับไปมองที่เดิมก็ไม่เห็นภูมิแล้ว"ไม่ต้องมองหาหรอก ภาพเหตุการณ์ที่เอ็งเห็นเมื่อกี้มันเป็นเพียงภาพที่เคยเกิดขึ้นที่นี้เมื่อ2-3เดือนก่อน ในตอนนี้ร่างของไอ้หนุ่มตัวสูงนั้นก็นอนไม่ได้สติอยู่ที่โรงพยาบาลเหมือนเดิมนั่นแหละ"ชายชราเอ่ยพูดขึ้นพลางจ้องมองสบนัยน์ตาของจินนิ่งๆด้านจินที่ยืนฟังก็ได้แต่ยืนเม้มปากกำมือแน่น เพราะเขาไม่รู้จะต้องทำยังไงให้ภูมิได้กลับมามันไม่ควรเป็นแบบนี้ ภูมิไม่ควรที่จะต้องมาตายแทนเขาแบบนี้ ในตอนนี้ต้องเป็นตัวเขาไม่ใช่หรอที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงใช่!มันต้องเป็นตัวเขา"เจ้าคิดจะเอาตัวเองมาแลกเหมือนกับไอ้หนุ่มแว่นนั้
"ก็ไอ้หนุ่มนั้นมันเอาชีวิตของตัวเองมาแลกกับการให้เอ็งย้อนเวลากลับมาแก้ไขโชคชะตายังไงล่ะ"จบประโยคของชายชราที่อยู่ในชุดเสื้อผ้าอาภรณ์เก่าๆ ร่างจิตวิญญาณของจินก็ถูกดึงกระชากออกจากห้องสี่เหลี่ยมที่ล้อมรอบเต็มไปด้วยควันสีขาวแล้วมาโผล่ที่ข้างถนนเส้นหนึ่งที่เป็นทางรุกลังแต่ทว่าจินกับดูคุ้นตาเป็นอย่างมาก"ที่นี้ที่ไหนทำไมถนนเส้นนี้ดูคุ้นตาจัง"ณภัทรสบถกับตัวเองเสียเบาพลางนัยน์ตาสีน้ำตาลก็กวาดมองรอบๆเพื่อสังเกตสิ่งรอบข้าง ก่อนที่สายตาจะไปหยุดที่ศาลไม้หลังหนึ่งที่ข้างในมีรูปปั้นตายายอยู่ แถมข้างหน้าศาลยังมีของไหว้เต็มไปหมดทั้งดอกไม้ธูปเทียนของกิน จนแทบจะไม่มีที่ให้ว่างณภัทรยืนมองได้ไม่นานก็ต้องล่ะสายตาออกจากศาลไม้แล้วหันไปมองยังเส้นถนน เมื่อได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวเซ็งแซ่พูดคุยของชาวบ้านทว่าเมื่อนัยน์ตาสีน้ำตาลของจินหันไปมองยังต้นตอของเสียงคิ้วคมของจินเป็นต้องขมวดเข้าหากันแทบจะเป็นปม เพราะเหล่าผู้คนที่กำลังเดินมานั้นต่างพากันแต่งกายคล้ายคนสมัยเก่าๆเมื่อ50-60ปีก่อน พลางภายในมือของเหล่าคนที่ทยอยเดินมาต่างก็พากันถือน้ำกับของกินและดอกไม้ธูปเทียนเพื่อเต
2เดือนต่อมาณ.โรงพยาบาลแห่งหนึ่งเวลา17:12นาทีแกร๊ก"อ่าวหนูจินเลิกงานแล้วลูกหรอกินอะไรมาหรือยังจ๊ะ"คุณหญิงวราศิริที่กำลังนั่งปอกผลไม้ด้วยสีหน้าและแววตาเศร้าสร้อยอยู่ เมื่อได้ยินเสียงว่ามีคนเปิดประตูเข้ามาก็หันไปมองยังประตูห้องก็พบว่าเป็นชายหนุ่มตัวสูงที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีเพราะตลอดสองเดือนที่ผ่านมานี้ชายหนุ่มคนที่ลูกชายของเธอแอบรักและมักเล่าถึงให้เธอฟังอยู่บ่อยๆ มักจะมาเฝ้าลูกชายของเธอที่นอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ตลอด"คุณน้าคุณอาสวัสดีครับ"ณภัทรที่เปิดประตูเข้ามาก็หันมาสวัสดีผู้ใหญ่ทั้งสอน แต่ทว่าพอจินเงยหน้ามาสังเกตมองคุณหญิงวราศิริและคุณณัฐพงษ์ผู้เป็นสามีของเธอ คิ้วคมของจินเป็นต้องขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างสงสัยเพราะสีหน้าของคนทั้งสองนั้นดูเศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัด จนจินที่สังเกตเห็นเป็นต้องใจกระตุกวูบ"คุณน้าอะไรล่ะจ้ะ บอกให้เรียกคุณแม่ไง"คุณหญิงวราศิริเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มน้อยๆ