เมื่อผมพบคุณอีกครั้ง คุณจะไม่ได้พบผมคนเดิมอีกต่อไป อยากกลับมามากแค่ไหน กรุณาใช้ร่างกายของคุณพิสูจน์
View Moreกริ๊ง
เสียงปากขวดไวน์แดงกระทบกับขอบแก้วไวน์สีใส นักดื่มหน้าอ่อนเทน้ำสีสวยเติมลงแก้วตัวเองเป็นรอบที่สาม แก้มขาวนวลขึ้นสีระเรื่อตามปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป จนชายหนุ่มอีกคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามต้องยื่นมือมาจับขวดไวน์เอาไว้เพื่อยั้งแรงกระทบป้องกันความเสียหายต่อแก้วไวน์ใบบางที่เพื่อนสนิทของเขาอาจทำให้มันแตกเสียก่อนที่จะคุยธุระกันรู้เรื่อง
“พอไหมไอ้ทิ เดี๋ยวก็เมาหรอก ฉันไม่ใจดีอุ้มไปส่งคอนโดนนะโว้ย”
“ยังไม่เมา นี่เพิ่งแก้วที่สามเอง” ทิพากร หรือ ทิ เอ่ยตอบเพื่อนสนิทอย่างเล้ง ซึ่งเขาเป็นคนโทรนัดให้ออกมาดื่มเป็นเพื่อนในค่ำคืนนี้
“ไม่เมาก็เทเบา ๆ อุตส่าห์มาบาร์หรูขนาดนี้ดันไม่ให้เขาบริการ อยากจะเทเองซะอย่างนั้น อย่าทำแตกเชียว ถ้านายทำแตกคราวหน้าฉันไม่มาด้วยแล้ว”
“รู้แล้วน่า ไม่ทำให้นายขายหน้าหรอก อีกอย่างพรุ่งนี้ฉันเองก็มีงานที่ต้องทำเหมือนกัน ไม่ปล่อยให้ตัวเองเมาหรอก แค่อยากดื่มแก้เซ็งเฉย ๆ” พูดจบทิพากรก็ยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบไปหนึ่งอึก เล้งเห็นแบบนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจ ก่อนจะเทไวน์ราคากลาง ๆ ของร้านใส่แก้วตัวเองเช่นกัน
“แล้วมีเรื่องเซ็งอะไรถึงได้อยากดื่มขึ้นมา ปกตินายไม่ดื่มนี่ถ้าไม่ใช่วันหยุด” ทิพากรยกแก้วไวน์ขึ้นจิบก่อนจะตอบเพื่อนสนิท
“นายจำเรื่องที่ฉันเคยเล่าให้ฟังเมื่อสองปีก่อนได้ไหม เรื่องของคนคนหนึ่งที่ฉันเข้าไปทำงานพิเศษเป็นคนดูข้อมูลให้โปรเจกต์เขาน่ะ”
อีกฝ่ายนิ่งคิดไปสักพักแล้วจึงพยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยตอบกลับไป
“คนที่มาสารภาพรักกับนายน่ะเหรอ”
“อือ” ทิพากรตอบไปสั้น ๆ แล้วยกแก้วไวน์ขึ้นจิบอีกครั้ง
“แล้วยังไง อย่าบอกนะว่าเขามาตามตื๊อนายอีก” เล้งเอนตัวมาข้างหน้าใช้ศอกยันลงบนหน้าขาข้างหนึ่ง
“เปล่า”
“แล้วมันยังไงล่ะ ลีลาจังวะไอ้ทิ อยากเล่าจริงไหมเนี่ย” เล้งเริ่มหงุดหงิดที่คนโทรเรียกเขาออกมานั่งดื่มเป็นเพื่อน ทำหน้าตายุ่งเหยิงราวกับมีเรื่องรบกวนใจตั้งแต่เจอหน้ากันที่หน้าร้านกลับเอาแต่เอ่ยเปิดประเด็นแล้วปล่อยให้เขาเป็นคนจี้ถามประหนึ่งว่าเขาเป็นพิธีกรรายการข่าว
“ก็ไม่ยังไง แค่โปรเจกต์ที่บริษัทฉันรับมาใหม่แล้วให้ฉันเข้าไปเป็นที่ปรึกษาไอทีและดูแลเรื่องโปรแกรมให้ดันเป็นบริษัทของคนนั้น นายเข้าใจไหมว่า...ฉันไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก มันเลยไม่รู้จะทำตัวยังไงดีน่ะ”
“แค่นี้เนี่ยนะ จะยากอะไรก็แค่ทำหน้าที่ของเราไป ถ้านายไม่ได้ชอบแล้วเขาไม่มาตามตื๊อ มันก็ไม่น่ามีปัญหานี่”
“นั่นสินะ”
ทิพากรได้แต่ตอบรับไปแบบนั้น เขาไม่เคยลืมว่าแม้แต่เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวตั้งแต่มัธยมของเขาอย่างเล้ง เขาก็ยังไม่เคยบอกความชอบของตัวเองในเรื่องความชอบส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์
แน่ล่ะ...คนที่โตมากับบ้านคนเชื้อสายจีนที่หัวอนุรักษ์สุดโต่งอย่างเล้ง หากรู้ว่าเขาชอบผู้ชายด้วยกันล่ะก็ เขาอาจไม่เหลือเพื่อนเลยสักคน
ความจริงหากบอกออกไปผลลัพธ์อาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เขากลัว เรื่องที่เขาชอบเพศเดียวกันอันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกใหม่ในสังคมสมัยนี้ แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่กล้าบอกใครออกไปนั่น คงเพราะความชอบที่อาจแปลกประหลาดในสายตาคนรอบข้างอย่าง...
...เรื่องที่เขามีรสนิยมคลั่งไคล้ในการใส่ถุงน่อง สายรัดต้นขา รวมถึงเนื้อผ้าซาติน และดูเหมือนว่าภายในใจลึก ๆ ของเขาแล้ว เขายังอยากให้ใครสักคนมากระทำรุนแรงกับตัวเอง หากแต่ว่าเรื่องนี้ตัวเขาก็ยังไม่แน่ใจนัก และไม่เคยพิสูจน์
ก่อนหน้านี้หลายปีทิพากรเคยแอบคบหากับเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง และพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อจะประคับประคองความสัมพันธ์ในรูปแบบปกตินั้นไว้ หากแต่สุดท้ายทิพากรก็ต้องยอมรับความจริงว่าความชอบส่วนตัวของเขาไม่อาจได้รับการตอบสนองเพียงแค่การร่วมกิจกรรมแบบคู่รักปกติ ความชอบของเขากลายเป็นเรื่องประหลาดในสายตาคนรัก
ในคืนหนึ่งที่เขาลองเอ่ยความชอบของตัวเองกับคนรักออกไป แต่เมื่อได้รับสายตาเหยียดปนขบขัน ทิพากรต้องรีบแก้ตัวว่าการที่เขาร้องขอใส่ถุงน่องเวลาร่วมกิจกรรมคู่รักและอยากให้อีกฝ่ายลองตีหรือฟาดตนดูสักครั้งเป็นเพียงคำเอ่ยล้อเล่นเท่านั้น
เพียงไม่นานความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานคนนั้นก็ต้องจบลง ทิพากรทิ้งคำถามมากมายไว้ข้างหลังไม่ยอมหันกลับไปตอบ หลังจากเอ่ยตัดความสัมพันธ์เขาก็ลาออกมารับงานอิสระเงียบ ๆ
หากโชคชะตาของมนุษย์ถูกกำหนดด้วยกามเทพประจำตัว กามเทพของทิพากรก็ต้องขยันเอามาก ๆ เมื่อวันที่ทิพากรตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่เริ่มความสัมพันธ์กับใครอีกหากยังไม่สามารถตัดความชอบสุดแสนประหลาดของตัวเองได้
เขาไม่อยากทำให้ใครเสียใจ
ยิ่งไปกว่านั้น...เขาไม่อยากทำให้ตัวเองเสียใจอีก
ในตอนนั้นเองชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในชีวิต ชายหนุ่มผู้แก่กว่าเขาถึง 7 ปี หน้าตาหล่อเหลา บุคลิกสง่าผ่าเผย ฐานะดี ชาติตระกูลดี และยังอบอุ่นอ่อนโยนกับเขามาก ก็เข้ามาทำให้เขาตกหลุมรักอีกครั้ง
ขณะที่หัวใจเริ่มหวั่นไหวไปกับรักครั้งใหม่ เขาเกือบจะเอ่ยปากตอบรับคำสารภาพรักในเย็นวันหนึ่ง ณ ร้านกาแฟที่เขาและคนคนนั้นมักแวะไปนั่งเล่นด้วยกันเสมอ หากแต่เสียงในหัวของเขาร้องห้ามเอาไว้เสียก่อน
ไม่ว่าอย่างไร ความสัมพันธ์กับคนคนนั้นก็คงจบลงเหมือนรักที่ผ่านมา
เพราะเขามันเป็น...คนประหลาด
เพราะแบบนั้น ทิพากรจึงตอบปฏิเสธออกไปและทิ้งคำถามมากมายไว้ในดวงตาคู่คมคู่นั้น...เหมือนเคย
เรื่องราวมันควรจบลงที่ต่างฝ่ายต่างแยกย้าย
ใช่...สุดท้ายพวกเขาก็แยกย้ายกันไป เพียงแต่ในใจของทิพากรยังคงนึกถึงความอ่อนโยนของคนคนนั้นเสมอ หลายครั้งที่เขามักทำให้ชายหนุ่มผู้สุภาพอ่อนโยนแปดเปื้อนด้วยการที่เขาเก็บเอาใบหน้า รูปร่าง รวมถึงน้ำเสียงทุ้มมาจินตนาการและมอบความสุขให้ตัวเองในยามค่ำคืน
แม้จะรู้ตัวดีว่าตัวเองยังไม่อาจลืมคนคนนั้นได้ แต่ทิพากรไม่เคยคิดจะเดินกลับไปหาและเอ่ยขอโอกาสอีกครั้ง กลับกันเขาพยายามหลีกเลี่ยงการเจอในทุกทาง ไม่ว่าจะเปลี่ยนเบอร์ เปลี่ยนที่อยู่ หรือแม้แต่ย้ายไปหางานที่ไกลออกไปจากโซนเดิมที่เคยเจอกัน
ใครจะไปคิดว่ากามเทพจะเล่นตลกกับโชคชะตาเขาเป็นครั้งที่สอง ด้วยการส่งชายหนุ่มที่ยังติดค้างอยู่ในใจให้กลับมาในวงโคจรชีวิตเขาอีกครั้ง
“ได้ข่าวว่าโปรเจกต์ใหม่ที่นายไปดูให้เป็นบริษัทของนักธุรกิจใหญ่นี่” เสียงของเพื่อนสนิทเรียกทิพากรให้กลับมาอยู่กับปัจจุบันอีกครั้ง
“อือ เป็นบริษัทเปิดใหม่น่ะ แต่ผู้บริหารเป็นมือฉมังเลยล่ะ”
“ฉันว่าดีนะ ต่อให้นายจะต้องเจอสาวนักตื๊อคนนั้น หรืออะไรก็เถอะ แต่ได้ไปร่วมทำงานกับคนเก๋า ๆ คนเก่ง ๆ ในแวดวงธุรกิจขนาดนั้น หลังโปรเจกต์จบการงานนายต้องรุ่งแน่ จะย้ายไปทำงานที่อื่นก็คงสบาย”
ทิพากรได้แต่ยกยิ้มมุมปากไม่ได้ตอบอะไร เล้งคงลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้เขาบอกไปว่าคนที่เคยมาสารภาพรักและเขาปฏิเสธไปนั้นเป็นเจ้าของบริษัทที่ร่วมโปรเจกต์ ไม่ใช่คุณป้า หรือพี่สาวชาวออฟฟิศอย่างที่อีกฝ่ายเข้าใจผิดอยู่ในตอนนี้
“นี่ทิ นายไม่ต้องไปกังวลเรื่องแม่สาวคลั่งรักเก่า ๆ ของนายหรอก ฉันว่านายตั้งใจทำโปรเจกต์ให้ดี ไม่แน่นายอาจจะไปเข้าตาเจ้าของบริษัทแล้วโดนซื้อตัวไปทำประจำก็ได้นะ ไม่ต้องมาเป็นพนักงานสัญญาจ้างปีต่อปีแบบนี้ ว่าแต่...เจ้าของบริษัทนั้นคือใครนะ เหมือนนายเคยบอกแล้วฉันก็ลืม คุ้นว่าชื่อดังเชียว ใช่ไหม”
“อือ ก็...คุณกานต์ อติกานต์ ไง”
ภายในเพนต์เฮาส์สุดหรูชั้นบนสุดของตึกสูงระฟ้า บรรยากาศเงียบสงัดเมื่อแม่บ้านเก่าแก่ถูกขอให้ลงไปที่ชั้นล่างก่อนถึงเวลาพัก ชายหนุ่มผิวขาวก้าวเท้าเปลือยเปล่าลงมานั่งคุกเข่ารอเจ้าของบ้านอยู่ที่หน้าลิฟต์ทิพากรสวมชุดนอนสายเดี่ยวสั้นสีขาวสะอาด เช่นเดียวกับถุงน่องตาข่ายที่สวมขึ้นมาถึงต้นขา ชั้นในเล็กจิ๋วเนื้อบางทำหน้าที่โอบอุ้มส่วนอ่อนไหวเอาไว้ราวกับขนนกบนรังที่รายล้อมไข่ใบเล็กของแม่นกอย่างนุ่มนวลมือเรียวสวยสวมถุงมือโปร่งสีขาวแต่งระบายลูกไม้และโบเล็ก ๆ น่าทะนุถนอม ที่คอยังใส่ปลอกคอกระดิ่งเสียงใส รอคอยให้เจ้านายกลับมาใส่สายจูง ได้จิมอบชุดนี้ให้เขาในตอนที่ขับรถมาส่งเขาที่นี่ ก่อนที่จะขับจากไป ทิพากรก้มมองของอีกสองอย่างที่มาพร้อมกับชุดซึ่งเขายังไม่ได้สวมใส่ให้ครบบัตต์ปลั๊กหางกลมขนฟูนิ่มสีขาว เหมือนของบันนี่เพื่อนที่ชวนเขาไปงานปาร์ตี้ไม่ผิดเพี้ยน มันมาคู่กับคาดผมหูกระต่ายเข้าคู่กัน ทิพากรเขินตัวเองเล็กน้อยเมื่อต้องสวมคาดผมหูกระต่ายนี้ไว้บนหัว มือเล็กจับปลายหางนุ่มฟูอ้อมไปจ่อไว้ที่ช่องทางด้านหลัง ก่อนที่เขาจะเดินมานั่งรอที่ตรงนี้เขาได้ทำความสะอาดและหล่อลื่นช่อ
ทิพากรลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ไม่พบใครอยู่ในห้องแล้ว บนโซฟาตัวยาวหน้าห้องมีเสื้อผ้าชุดใหม่พับวางเอาไว้ให้ เขาลุกขึ้นเดินไปหยิบมาเปลี่ยน ไซซ์พอดีจนน่าเหลือเชื่อ ดวงตากลมมองสำรวจไปรอบห้อง ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับอติกานต์เมื่อคืนก็พานให้ใจสั่นไหว ไม่รู้ทำไมความสัมพันธ์เขาถึงเดินมาถึงจุดนี้ได้ขณะที่กำลังจะหันหลังเดินออกไปจากห้องนี้ สายตาก็เหลือบไปเห็นซองกระดาษสีแดงที่ข้างหมอน เขาจำได้ว่าอติกานต์เป็นคนวางซองนี้เอาไว้ก่อนที่จะเดินจากเขาไป ทิพากรหยิบมันขึ้นมาดู ทำใจอยู่สักพักจึงเปิดซองดึงการ์ดขึ้นมาอ่านสายตาไล่ไปตามตัวอักษรทีละบรรทัด แล้วความจริงก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้น ใจของคนอ่านเต้นแรงเมื่อรู้ว่าสิ่งที่เขาฟูมฟายไปเป็นอาทิตย์ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่เขาปรุงแต่งขึ้นมาเอง ตัดสินอีกฝ่ายโดยที่ไม่ซักถามความสงสัย“คุณทิ ตื่นแล้วเหรอ” เสียงเรียกจากด้านหลังเรียกให้ทิพากรหันไปดูชายหนุ่มร่างสูงเพรียวที่เขาเคยเห็นก่อนจะหลับไปปรากฏขึ้นที่ประตูหน้าห้อง ทิพากรเคยเห็นเขาคนนี้มาก่อนหน้านี้แล้วกับอติกานต์ที่ร้านประจำของเขาเมื่อนานมาแล้ว แต่ไม่ร
ร่างสูงเพรียวยืนพิงหลังกับผนังหน้าประตูห้องรับรองของลูกค้า VIP ข้างกายมีเด็กหนุ่มผิวสีแทนสวมเพียงกางเกงชั้นในหนังสีน้ำตาลนั่งหมอบอยู่แทบเท้า ที่คอมีปลอกคอหนังสีเดียวกับชั้นในสวมใส่อยู่ซึ่งมันถูกโซ่สีเงินวาวคล้องเอาไว้ โดยที่ปลายของมันอยู่ในมือของคนที่ยืนมองบานประตูด้วยใบหน้าเคร่งเครียดสุนัขหนุ่มคลอเคลียใบหน้ากับหน้าแข้งเรียวภายใต้กางเกงเนื้อผ้านิ่มราคาแพงของเจ้าของบาร์แห่งนี้อย่างเอาใจ เมื่อได้ยินเสียงเจ้านายถอนหายใจดังขึ้นอีกครั้ง เกือบครึ่งชั่วโมงแล้วที่เจ้านายของเขายืนมองบานประตูฟังเสียงร้องครวญครางที่เขาเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่า คนด้านในกำลังสุขสมหรือเจ็บปวดไดจิยืนกอดอกครุ่นคิดว่าจะเอาอย่างไรดีกับดวงใจของเพื่อนสนิทที่เจ้าตัวละทิ้งไว้ในห้องรับรองภายในบาร์ตนเอง ก้มมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ นานแล้วที่อติกานต์เดินจากไป ทิ้งไว้เพียงประโยคสั้น ๆ กับเขาแค่ว่า…“ฝากดูแลทิด้วย เขาอยากได้อะไรก็หาให้ด้วย ค่าใช้จ่ายมาคิดที่กู”ไดจิคลายมือออกลดมือลงไปลูบหัวสุนัขตัวโปรด จากนั้นจึงกระตุกโซ่จูงหนึ่งครั้งก่อนจะก้าวขาเดินไปยังบานประตู
ภาพเบื้องหน้าของผู้ต้องหาคือฉากเซ็กซ์อันเร่าร้อนของกระต่ายน้อยกับเหยี่ยวหนุ่ม ซึ่งกำลังใช้เข็มขัดฟาดลงที่ก้นงอนงามหลายต่อหลายทีอยู่ที่กลางเวทียกสูง ช่างดูสวยงามและกระตุ้นอารมณ์ของผู้คนภายในงานเป็นอย่างยิ่งหากทิพากรได้เป็นผู้ชมอยู่ในปาร์ตี้ข้างล่าง เขาก็คงอยู่ในอารมณ์ไม่ต่างจากผู้คนมากมายที่รายล้อมเวทีกลมนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตอนนี้เขาไม่ต่างอะไรจากนักโทษที่กำลังจะถูกตัดสินเสียงโซ่ดังทุกครั้งที่ร่างกายเขาไหวสะท้านกับแส้หนังที่อติกานต์ฟาดลงมาทั่วทั้งตัว มันไม่ได้เจ็บมาก แต่เมื่อโดนฟาดซ้ำที่เดิมอยู่บ่อยครั้งก็ทิ้งความแสบร้อนและรอยแดงที่ผิวได้เช่นกัน น้ำลายสายเล็กไหลย้อยออกมาจากช่องว่างระหว่างลูกบอลที่ปิดปากเขาไว้ หยดลงที่พื้นพรมสีแดงเบอร์กันดีนุ่มเท้าจนขึ้นเป็นวงสีเข้มทุกครั้งที่เส้นหนังฟาดลงมาที่ผิวเนื้อ มันทั้งสร้างความเจ็บปวดและกระตุ้นความต้องการบางอย่างให้ก่อเกิด ทั้งที่ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลยสักนิด แต่ร่างกายของทิพากรกลับตอบสนองตรงกันข้ามความเจ็บที่เกิดขึ้นที่ผิวเนื้อจึงย้ายเข้ามาเกาะกุมที่หัวใจดวงเล็กของเขาแทน แล้วปล่อยให้อวัยวะ
ไวน์ ค็อกเทล วิสกี้ และเครื่องดื่มอีกมากมายมีสำหรับบริการให้ผู้ร่วมงานซึ่งซื้อบัตรเข้างานมาในราคาแพงอย่างไม่อั้น จะสั่งกี่อย่างหรือกี่แก้วก็ได้ ทุกอย่างถูกบริการเพื่อเสริมสร้างความมอมเมาเท่าที่แขกผู้มีเกียรติต้องการปกติทิพากรไม่ค่อยได้ดื่มเครื่องดื่มพวกนี้บ่อยนัก จึงไม่ค่อยรู้ว่าเครื่องดื่มแบบไหนเป็นอย่างไรบ้าง เขาเลือกหยิบจากบริกรมาหนึ่งแก้วที่มองดูแล้วสีถูกใจเขาที่สุด หลังจากจิบไปเพียงอึกแรก ตั้งแต่ลำคอลงไปถึงท้องเขาก็ร้อนวูบวาบ ทิพากรวางแก้วทรงแปดเหลี่ยมนั้นลงไม่ได้กินต่ออีก มันคงแรงไปสำหรับเขา แต่หากคิดอีกแง่ ก็ดีเหมือนกัน เพราะอย่างน้อยความร้อนของมันก็คลายความหนาวจากการสวมใส่เสื้อผ้าเพียงน้อยชิ้นได้ใต้แสงไฟสะท้อนจากลูกบอลดิสโก้ขนาดใหญ่เหนือฟลอร์เต้นรำ กระต่ายขาว นายพรานหนุ่ม และเหยี่ยวดำหลายคนกำลังกอดรัดกันนัวเนียอยู่บนนั้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะบรรยากาศ ความตื่นเต้น หรือเพราะเครื่องดื่มที่เพิ่งดื่มไปที่ทำให้ทิพากรรู้สึกร้อนผะผ่าวขึ้นมาจึงถึงกกหูเขาเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำเปล่าขึ้นมาดื่ม เมื่อวางมันลงบนโต๊ะ ขนนกสีเทาปนน้ำตาลอันหนึ่งก็ถูกยื่นมาตรง
Bunny Night Partyค่ำคืนของกระต่ายป่า นั่นเป็นชื่อปาร์ตี้ของคนที่มีรสนิยมคล้ายกันจะมารวมตัว ค่ำคืนที่เหล่าผู้กระหายอยากสัมผัสและอยากถูกสัมผัสได้มาพบปะกันอย่างอิสระ ปาร์ตี้ที่นาน ๆ ทีจะจัดขึ้นสักครั้ง และทิพากรเคยใฝ่ฝันว่าจะได้มาร่วมงานนี้สักหน เพียงแต่เขาไม่เคยกล้าพอ จนกระทั่งงานนี้หายเงียบไปในวงการ BDSM ต่างรู้กันดีว่าบาร์ของคุณไดจิเป็นอันดับหนึ่งสำหรับคนในวงการเสมอ แต่นั่นไม่ได้แปลว่าบาร์นี้จะจัดกิจกรรมด้านนั้นอย่างเป็นปกติและเปิดเผย ค่ำคืนแห่งกระต่ายป่าจึงเป็นกิจกรรมที่ทุกคนที่มีความชอบแบบเดียวกันต่างรอคอยโดยปกติแล้วจะจัดเดือนละหนึ่งครั้ง แต่ไม่รู้ทำไมตั้งแต่กลางปีก่อนกิจกรรมนี้ก็ถูกยกเลิกไป การกลับมาจัดใหม่ในรอบเกือบปีจึงเป็นที่พูดถึงกันมาก ทิพากรเคยคิดว่าหากได้เข้าร่วมงานนี้พร้อมกับคนรักก็คงจะดี ไม่คิดว่าพอถึงเวลาได้มาจริง ๆ เขาจะไม่มีใครคนนั้นยืนข้างกาย“คุณซันใช่ไหมครับ”เสียงเรียกจากทางด้านหลังเรียกให้ทิพากรหันไปมอง เขายืนอยู่ที่ข้างบาร์หรูสาขาใหญ่สุด ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีของเมืองหลวง สวมเสื้อ
Comments