LOGIN“ช้าก่อน”
ร่างสูงของใครอีกคนเดินเอามือไพล่หลังเข้ามาข้างใน
อ๋องเฉวียน หืมมมมตัวจริงหล่อใสฮืออออฉันกำลังสำลักความหล่อ จะเป็นอะไรไหม หากจะพูดว่าเห็นไหมมีคนหล่อมาพัวพันตั้งสองคนฮืออออๆๆๆ
“อย่าหลงความหล่อเจ้าค่ะตายแล้วความหล่อแบบนี้ไม่หลงได้ไงเจ้าคะ” ห้ามมีมี่แต่ระบบเป็นเสียเอง อ๋องเฉวียนพูดเสียงทุ้มนุ่มหู
“เพียงยั่วยวนโทษนางถึงตายเลยหรือไร หรือว่านางทำนายทายทักบางอย่างผิดไป” เสียงก็ทุ้มนุ่มลึก
“ข้าหาได้ฝักใฝ่เรื่องงมงายเหล่านั้น ทำนายสิ่งใดได้ก็แค่วางท่าราวกับเทพธิดาแล้วก็พูดคำโป้ปดจนคนโง่หลงเชื่อ อ๋องเฉวียน อย่าบอกนะว่าจะมาขวางข้า เพราะนาง”
“ใครจะบังอาจกับอ๋องหรง แต่นี่เอาไปอ่านเสีย”
โยนม้วนกระดาษให้กับอ๋องหรง
“มีคนขอให้นางรอดอย่างนั้นหรือมีคนเชื่อคำโป้ปดของนางอีกแล้วหรือ”
คลี่กระดาษออกอย่างเร็ว
“ฝ่าบาทให้คนส่งราชสาสน์มาให้พานางกลับวังหลวงทันที”
“ฮ่าๆๆๆ ในที่สุดในที่สุด ฟ้าต้องมีตา ถอยไปถอยไป”
มีมี่ยิ้ม เดินออกมาจากทหารที่คุมตัวไว้ปัดไม้ปัดมือปัดเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่เสีย ผมเผ้าที่หลุดหลุ่ยก็รีบเกล้ารวบเสียใหม่ หากจะย้อนเวลามาจะต้องไม่ธรรมดาอย่างน้อยก็ต้องมีคนคุ้มกะลาหัวละวะ แต่ว่านี่มันมีในนิยายหรือซีรีส์ด้วยหรือบทนางเชลยคนนี้นี่ มันมีในนิยายด้วยหรือ
“มีเจ้าคะท่านผู้ใช้เข้ามาทดแทนระบบของหลี่ชวีหลิน”
อ๋องหรงพยักหน้าให้อ๋องเฉวียนดูท่าทีของมีมี่
“นางคงคาดการณ์ไว้แล้วว่าต้องไม่ตาย จึงมีท่าทีเช่นนี้ดูนางไม่ได้ดีใจทั้งยังพูดจาเหมือนว่ามันจะต้องเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว นางฉลาดเป็นกรด แทงข้าตายก็ได้ประโยชน์ ไม่ตายก็มีคนช่วย”
“โอ้โห้คิดไปเองเป็นฉากๆ เลย”
“นางเป็นถึงองค์หญิงองค์เดียวของชนเผ่าเอ่อถัวย่อมจะไม่ธรรมดา หรือบางทีนางอาจหยั่งรู้อนาคตดั่งที่ผู้คนกล่าวขาน”
อ๋องเฉวียนเอ่ยปากยิ้มๆ
พูดเบาๆ กันสองคนเหมือนกลัวว่ามีมี่จะได้ยินเรียกอีกอย่างว่านินทานั่นแหละ
“อย่าเรียกว่าไม่ธรรมดานางร้ายกาจมาก นางวางหมากไว้หมดแล้วแม้กระทั่งการใช้มีดแทงข้าเพื่อให้ข้าเกิดโทสะลากนางเข้ามาในนี้แล้วนางก็ยั่วยวนข้าเพื่อให้ข้าหลงกลมีอะไรกับนาง นางก็จะรอด และนางยังกล้าบีบจมูกข้า”
อ๋องเฉวียนอมยิ้ม
“ไม่ธรรมดาจริงๆ” พูดไปยิ้มไป
“แค่องค์หญิงชนเผ่า หากว่าฝ่าบาทต้องการนางทำไมไม่ให้เผ่าเอ่อถัวส่งตัวนางเข้าวังตั้งแต่แรกทำไมต้องให้เรามาพาตัวนางไป ในสภาพนี้กันเล่า”
อ๋องเฉวียนถอนหายใจ
“ไข่มุกมังกร ที่ตามหาจนป่านนี้ยังไร้วี่แวว ดีที่อ๋องหรงมาช่วยทันเวลาทำให้การศึกครั้งนี้กับเผ่าเอ่อถัวลุล่วงไปด้วยดี ต่อไปก็ต้องส่งตัวองค์หญิงเข้าวัง อ๋องหรงก็รั้งอยู่กับข้าที่นี่เพื่อตามหาไข่มุกมังกรต่อไป”
อ๋องหรงพยักหน้าขึ้นลง
มีมี่ตะแคงหูฟังเรื่องไข่มุกมังกรก่อนจะถอนหายใจเบ้ปาก ไข่มุกมังกร มุกเดิมๆ ในหนังจีนสินะ เอาไปขายที่ท่าพระจันทร์จะได้กี่บาทกัน
“ข้าจะส่งตัวนางกลับวังหลวงรุ่งสางพรุ่งนี้” อ๋องหรงถอนหายใจยาว
ฝ่าบาทต้องการตัวกัวซวี่หลินในแบบนี้ นั่นอาจเพราะต้องการให้นางสำนึกบุญคุณ และช่วยทำนายทายทักเรื่องต่างๆ อย่างคนที่ติดหนี้บุญคุณจะว่าไปฝ่าบาทก็เชื่อเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว หรือหากมองในแง่ดี อาจเพิ่งอยากได้ตัวนางเพราะนางเองก็งดงามเพียงนี้ล่มเมืองก็ว่าได้ ว่าแต่ฝ่าบาทกับนางมีความสัมพันธ์ใดกันแน่ เหตุใดจึงอยากจะได้ตัวองค์หญิงชนเผ่าที่มากเล่ห์คนนี้กัน เคยได้ยินว่าองค์หญิงชนเผ่าคนนี้งดงามอ่อนหวานแล้วที่เขาเห็นคืออะไรกัน อ่อนหวานตรงไหนก่อน เมื่อวานนางยอมตายไม่ยอมไปวังหลวงกับเขา เชิดหน้าเย่อหยิ่งพอเช้ามาเปลี่ยนเป็นคนละคน อย่าบอกนะเพราะนางเป็นแบบนี้ฝ่าบาทจึงมีใจรักใคร่ ต้องการแต่งนางในฐานะสนม ที่มากมายจนล้นวังหลวงของฝ่าบาท แล้วยังจะต้องการนางไปทำไมอีก แต่นางกับเขาเมื่อคืนจะมีอะไรเกินเลย หรือไม่ทำไมเขาไม่มีความทรงจำในเรื่องนี้ สะบัดศรีษะไปมา
“ท่านกังวลว่าฝ่าบาทจะหลงใหลนางหรือไร” อ๋องเฉวียนป้องปากกระซิบ
“สร้างความระแวงสงสัยรับไป1โอกาสพลังพิเศษ”
“พลังพิเศษที่ว่ามีไม่จำกัดเลยหรือ”
“ไม่เจ้าค่ะแต่ถ้าทำดีก็มีโอกาสหมุนวงล้อรับพลังพิเศษแต่หากไม่มีเวลาหมุนเราจะเลือกพลังพิเศษ ที่เหมาะกับสถานการณ์เจ้าค่ะ” มีมี่พยักหน้า
“ว่าแต่ไม่มีใครเห็นและได้ยินเจ้าใช่ไหมระบบ”
“อ่อแน่นอนเจ้าค่ะมีแต่ท่านผู้ใช่งานในระบบออนไลน์เท่านั้นที่เห็นข้า หากไม่สะดวกก็แอค่คิดเจ้าค่ะเหมือนส่งกระแสจิตข้าน้อยสามารถรับรู้ได้ทันที” มีมี่ยักคิ้ว
“ดีมากดีที่สุดเลย”
มองไปที่สองคนที่กำลังหารือกันเรื่องจะทำอย่างไรกับมีมี่
“ช่างเถอะขอแค่เป็นบัญชาของฝ่าบาทเราก็ไม่ควรละเลย ลู่เหวินพานางไปที่ห้องพักทางปีกซ้ายดูแลนางให้ดี…อย่าให้หนีไปไหน”
“นี่จะบอกอะไรให้เอาบุญดีกับข้าไว้หน่อย ไข่มุกมังกรไม่ไกลเกินเอื้อม” มี่มี่พลั้งปากพูดไป
“ทำไม”
อ๋องทั้งสองถามขึ้นเกือบจะพร้อมกัน มีมี่อมยิ้มลอยหน้าลอยตา
“แล้วองค์หญิงท่านรู้ได้อย่างไรว่าเราจะไม่มีทางหาเจอ”
อ๋องเฉวียนถามขึ้นดังๆ
แหมอ่านมาจนปรุแล้ว
“ก็เพราะไข่มุกมังกรไม่เอาดีกว่าต้องมีสิ่งตอบแทนสินะจะพูดก็ต้องมีสิ่งตอบแทน”
ทั้งสองคนสบตากันแล้วขมวดคิ้วคม
“พาตัวนางไปชักเลอะเลือนใหญ่แล้ว”
อ๋องหรงไล่ส่งลู่เหวินรีบมาผายมือเชิญมีมี่
“ฮ่าๆๆๆๆๆ ดีๆๆ ทางนี้ ตรงนี้ น่านแหละเขาเรียกว่าหลังสองสามวันมานี้ปวดหลังน่าดู นวดดีดีหน่อย ดีมากๆ ซ้ายอีกนิด อืม หนักมืออีกหน่อย”
“องค์หญิงเจ้าขา สบายมากไปแล้วเจ้าค่ะ”
มีมี่นอนคว่ำกางแขนกางขา ไม่ได้สำรวมอย่างที่สาวใช้นามซูเอ่อเคยเห็นตอนที่ซวี่หลินถูกพาตัวมาในฐานะเชลย ก่อนนั้นนางเย่อหยิ่งสูงส่งและพูดน้อย องค์หญิงซวี่หลินเปลี่ยนไปมากทีเดียว
ลู่เหวินก้มหน้ายิ้ม เมื่อเห็นอ๋องหรงถอนหายใจยาวหนึ่งชั่วยามนางทนรออย่างอดทนเพื่ออะไรมีหรือเขาจะไม่รู้โต๊ะอาหารที่ศาลาริมน้ำสาวใช้ยกอาหารคาวหวานมาวางไว้ เสวียนอี้ช่วยจัดอาหารลงจานอย่างไม่ถือตัวว่าเป็นคุณหนู“ลู่เหวินไปรอรับ องค์หญิงเก้า” เสวียนอี้อ้าปากค้างอ๋องหรงที่เอามือไพล่หลังมองไปที่ประตูทางเข้าตำหนักเอ่ยปากเสียงเข้ม เสวียนอี้หูผึ่ง“ไม่แน่อาจไม่มาขอรับ”ลู่เหวินพูดอ้อมแอ้ม“ไม่มาแล้วนางจะกินที่ไหน ห้องเครื่องไม่ยกเครื่องเสวย ข้าถามไถ่ก็อ้างเรื่องที่นางเป็นชนเผ่ากลัวว่าทำเครื่องเสวยไปแล้วจะไม่ถูกปาก ช่างเป็นข้ออ้างที่ฟังขึ้นเหลือเกิน แค่นางไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นสนมก็ถึงกับอดข้าว”“ขอรับ ลูกจะไปรอรับหากไม่มาจะไปตามขอรับ”“มาแล้วๆๆๆ มาแล้วรอนานไหมข้ามาแล้ว ฮ่าๆๆๆ ไม่ต้องกังวลไม่ต้องกังวลข้ามาแล้ว”หนีบเอาหีบเงินกับหีบทองเข้ามา ลู่เหวินจะรับเอาก็เบี่ยงตัวหลบ“ไม่ไม่ต้องๆ ข้าถือเองได้”“นั่นคืออะไร” อ๋องหรงเอ่ยปากถาม"เงินกับทองของข้าที่นำติดตัวมาจากเอ่อถัวอย่างไรเล่าทั้งเนื้อทั้งตัวมีเท่านี้” อ๋องหรงส่ายหน้าไปมากำลังคิดว่าทำไมเขาที่จับตาตลอดถึงไม่เห็นว่ามีมี่เอาเงินทองเหล่านี้ขึ้นเ
“เจ้าค่ะ แต่พูดก็พูดองค์หญิงถูกพามาที่นี่ก็เพื่อการนี้เจ้าค่ะมาถวายตัวองค์หญิงต้องทำใจเจ้าค่ะ แต่ที่น่าแปลกใจคือซูเอ่อไม่คิดว่าองค์หญิงจะมีเวทย์หยั่งรู้ที่เป็นภัยต่อคนอื่น เช่นนี้ฝ่าบาทเองก็คงไม่รู้หากฝ่าบาทรู้ก็คงไม่ให้องค์หญิงมาที่นี่ให้เสียเวลา” มีมี่ยิ้ม“ไม่ใช่เพื่อการนี้แต่เพื่อช่วยมวลมนุษยชาติ เจ้าเข้าใจไหมซูเอ่อ ต่อไปช่วยเป็นกระบอกเสียงให้คนอื่นได้รู้ว่าข้ามีหน้าที่ทำนายทายทักอนาคตของผู้คนดีไหมการที่เข้ามาอยู่ที่นี่จะได้ไม่สูญเปล่าข้าแบ่งให้เจ้า 20เปอร์เซ็นต์เลยเอ้า”ซูเอ่ออ้าปากค้าง ธุรกิจกำลังเริ่มต้นและไปได้ดี“ซูเอ่อจะได้ส่วนแบ่งหรือเจ้าค่ะ” ดวงตาแวววาว“แน่นอน ต่อจากนี้ก็จะยื้อเรื่องของฝ่าบาทได้อีกสักพักไม่ให้เขามากวนใจข้าแต่ระหว่างนี้อะไรก็ไม่แน่นอน เงินทองแน่นอนที่สุด ข้าตั้งใจมาที่นี่เพื่อทำนายดวงให้กับผู้คนในวังหลวงเพื่อแนะแนวทางและช่วยหาทางออกจากเรื่องที่ไม่อาจตัดสินใจหรือแก้ไขได้ด้วยตัวเอง เราสองคนมาทำธุรกิจร่วมกัน ตกลงไหม”เรื่องราวต่อจากนี้มีมี่อ่านมาหมดล่ะบอกไปก็เหมือนสปอยส์ต่อจากนี้เรื่องราวสปอยส์เหล่านี้จะกลายเป็นเงินทอง“ตกลงเจ้าค่ะ” มีมี่ยิ้ม จะร่วงหรือรอดก็ต
“เจ้าค่ะ แต่พูดก็พูดองค์หญิงถูกพามาที่นี่ก็เพื่อการนี้เจ้าค่ะมาถวายตัวองค์หญิงต้องทำใจเจ้าค่ะ แต่ที่น่าแปลกใจคือซูเอ่อไม่คิดว่าองค์หญิงจะมีเวทย์หยั่งรู้ที่เป็นภัยต่อคนอื่น เช่นนี้ฝ่าบาทเองก็คงไม่รู้หากฝ่าบาทรู้ก็คงไม่ให้องค์หญิงมาที่นี่ให้เสียเวลา” มีมี่ยิ้ม“ไม่ใช่เพื่อการนี้แต่เพื่อช่วยมวลมนุษยชาติ เจ้าเข้าใจไหมซูเอ่อ ต่อไปช่วยเป็นกระบอกเสียงให้คนอื่นได้รู้ว่าข้ามีหน้าที่ทำนายทายทักอนาคตของผู้คนดีไหมการที่เข้ามาอยู่ที่นี่จะได้ไม่สูญเปล่าข้าแบ่งให้เจ้า 20เปอร์เซ็นต์เลยเอ้า”ซูเอ่ออ้าปากค้าง ธุรกิจกำลังเริ่มต้นและไปได้ดี“ซูเอ่อจะได้ส่วนแบ่งหรือเจ้าค่ะ” ดวงตาแวววาว“แน่นอน ต่อจากนี้ก็จะยื้อเรื่องของฝ่าบาทได้อีกสักพักไม่ให้เขามากวนใจข้าแต่ระหว่างนี้อะไรก็ไม่แน่นอน เงินทองแน่นอนที่สุด ข้าตั้งใจมาที่นี่เพื่อทำนายดวงให้กับผู้คนในวังหลวงเพื่อแนะแนวทางและช่วยหาทางออกจากเรื่องที่ไม่อาจตัดสินใจหรือแก้ไขได้ด้วยตัวเอง เราสองคนมาทำธุรกิจร่วมกัน ตกลงไหม”เรื่องราวต่อจากนี้มีมี่อ่านมาหมดล่ะบอกไปก็เหมือนสปอยส์ต่อจากนี้เรื่องราวสปอยส์เหล่านี้จะกลายเป็นเงินทอง“ตกลงเจ้าค่ะ” มีมี่ยิ้ม จะร่วงหรือรอดก็ต
“เรื่องเวทย์หยั่งรู้คงแพร่ออกไปทั่ววังหลวงแล้วฝ่าบาทจะต้องบังคับให้องค์หญิงสะกดเวทย์ไว้แน่ๆ เจ้าค่ะ” มีมี่ถอนหายใจรอบที่ร้อยห้องทรงอักษร“อย่างนั้นหรือนาง นางมีเวทย์ประหลาดอย่างนั้นหรือ เจ้าเคยได้ยินไหมอ๋องหรง” ฉีก้านพูดจบก็คีบเครื่องเสวยใส่ปากเคี้ยวงับๆ อย่างอารมณ์ดี อวี่หนิงคีบเนื้อกุ้งที่แกะวางให้อย่างเอาใจ“ไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ” น้ำเสียงเรียบเฉย“อือประหลาดจริง มันก็จริงอยู่เจ้าไม่เคยเข้าใกล้นางนี่เจ้าสิบสอง เลยไม่รู้ว่านางมีเวทย์ประหลาดแบบนี้”ลู่เหวินหันไปอมยิ้มเสียอีกทางจะไม่เคยอย่างไรยามที่องค์หญิงเก้าจะแทงท่านอ๋องท่านอ๋องก็ลากองค์หญิงเข้าไปแทงคืน ไม่สิ เมื่อสองคืนที่ผ่านมาก็ไม่รู้ได้แทงกันหรือเปล่าจะเรียกว่าใกล้หรืออะไรดี“พ่ะย่ะค่ะ” ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ“แล้วข้าควรทำอย่างไร”“ฝ่าบาทเพฮะก็ควรจะเข้าไปพูดคุยกับพระสนมก่อนดีไหมเพฮะ”“พระสนมอะไรกัน นางยังไม่ยอมถวายตัวเสด็จพ่อก็จะแต่งตั้งนางแล้วหรือ รอให้นางถวายตัวก่อนค่อยเรียกนางว่าพระสนม แบบนี้เสด็จพ่อก็ขาดทุนสิ” คนที่ไม่อยากให้ใครมาแย่งความรักจากพ่อไปอวี่หนิงขัดขึ้นขันทีอาวุโสยิ้มเจื่อนๆ“เพฮะไม่พระสนม เพฮะต่อไปไม่กล้าเรียกแล้วเพฮะ
ไม่มีในบท นิยายเรื่องนั้นอ๋องหรงไม่ได้มาส่งใครไม่มีใครตามมาด้วยเพียงแค่กลับวังหลวงใกล้ชิดองค์หญิงสามโดยมีฝ่าบาทและเสวียนอี้คอยขัดขวางแสดงว่ามีมี่ถูกเพิ่มบทเข้ามาแน่ๆแล้วฉานเป็นตัวอะไรวะ“ได้ได้ได้ ฉันจะดูแลตัวเองท่านเองก็ระวังตัวต่อจากนี้จะต้องพบเจออุปสรรคมากหน่อยแต่อย่ายอมแพ้นะ..สู้สู้ อืมลืมบอกไปหากมีอะไรที่ไม่เข้าใจหรือหาทางออกไม่ได้ก็มาปรึกษาได้นะข้าช่วยได้จริงๆ นะ”ในฐานะคนคุ้นเคยมีมี่อดที่จะรู้สึกใจหายไม่ได้แค่ไม่กี่วันที่ใช้เวลาเดินทางร่วมกันมารู้สึกว่าอ๋องหรงคนนี้มีบางอย่างที่แบกไว้หนักอึ้งทีเดียว“ข้าไม่มีอะไรให้เจ้าช่วย เพราะข้าช่วยอะไรเจ้าไม่ได้”เหลือบตามองขันทีอาวุโสที่ถือพานเดินมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ต้อนรับองค์หญิงเก้าซวี่หลินเข้าสู่ตำหนักเหมยฮวา…..เตรียมการถวายตัววววว” มีมี่ยืนตัวแข็งทื่อ นี่มันเรื่องอะไรกัน เดิมคิดว่านี่คือวิกฤติของอ๋องหรงแต่ตอนนี้เป็นวิกฤติของมีมี่ไปเสียแล้ว ถวายตัวอะไรกันใครจะถวายตัวฉันไม่ใช่องค์หญิงเก้าแต่จะปฏิเสธอย่างไรได้เสื้อผ้าหน้าผมก็องค์หญิงเก้าซวี่หลินทั้งหมดหันมองอ๋องหรงสบตาคมที่เฉยชานั้น เหมือนจะขอร้องให้ช่วย แต่กลับถูกนางกำนัลกับขันทีล็อ
“อือ”สะดุ้งเฮือกเมื่อพบว่าในผ้าห่มมีร่างอุ่นๆ ของใครในนั้นอีกทั้งมือเหนียวราวกับหนวดปลาหมึกกอดรัดเขาไว้แน่นผงกศีรษะมองหน้าก็รู้ว่านี่คือมีมี่ นางมานอนที่นี่ได้อย่างไร“มูมู่มาให้กอดหน่อยจะหนีไปไหน”มีมี่เองก็ครึ่งหลับครึ่งตื่นคิดว่ากำลังกอดแมว อ๋องหรงแกะมือเหนียวออกแต่ไม่สำเร็จ“หือ กอดนิดกอดหน่อยทำเป็นโมโห พรุ่งนี้ไม่ต้องกินเปียกเลยนะ” บนงึมงำอ๋องหรงเป่ยหรางใจเต้นตึกตัก จะว่าไปคืนนั้นจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้วยซ้ำแต่ทำไมพอโดนนางกอดอ้อมกอดอบอุ่นนี้กลับรู้สึกแปลกๆ ใจก็เต้นไม่เป็นท่า ก็เขาไม่เคยแนบชิดหญิงใดมาก่อนต่างหาก แค่เพียงรอว่าสักวันได้ได้เผยความในใจกับองค์หญิงสามอวี่หนิง“ได้รับ1โอกาสพลังพิเศษ ทำให้ตัวร้ายใจสั่นอีกแล้วเย้ๆๆๆๆ”“นอนๆๆๆ ฉันง่วงแล้ว”ยกมือเกาที่คอให้อ๋องหรงตาก็ไม่ลืมอีกคนอยากจะปัดมือออกแต่พอเห็นดวงตาดำขลับที่หลับตาพลิ้มเคี้ยวปากจั๊บๆ ก็เลยสงสารไม่อยากปลุกปล่อยให้มี่มี่นอนกอดแบบนั้นมันก็รู้สึกดีไปอีกแบบ หากไม่รวมอาการใจเต้นตึกตักที่เป็นอยู่ริมฝีปากแห้งผากและรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่เขาเป็นบุรุษ ไม่สิจะเห็นแก่ตัวมากไปแล้วนางเป็นหญิงนี่จะมาทำแบบนี้นาง







