DEVIL'S CURSE ต้องคำสาป 'เขา' ผู้นั้นเคลื่อนไหวอย่างดุดันอยู่เหนือร่างของเธอ ในความฝัน รสจูบ และการเสียดสี สร้างความสุขสมเสียจนไม่อยากให้มันจบลง เธอจมดิ่งสู่ห้วงจินตนาการมาอย่างยาวนาน กระทั่งเสียงทุ้มกระซิบข้างหู "มีความสุขให้พอ เพราะมันเป็นวันสุดท้ายของเจ้า" ดังนั้นความสุขในค่ำคืนนี้เธอจะขอรับไว้ทั้งหมดเอง
Lihat lebih banyakมีตำนานกล่าวไว้ว่า...อสุรกายสันโดษใต้ทะเลลึกมักจะออกล่าและหากินในเวลากลางคืน หลังจากที่มันจำศีลจนพลังแกร่งกล้า บ้างก็ว่ามันเป็นสัตว์ในตำนานที่มีคนเคยพบเห็นทั่วทุกมุมโลก
จะมีใครบ้างที่รู้ว่าแท้จริงมันไม่ได้เป็นเพียงแค่อสุรกายที่สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนและนักเดินเรือ แต่ทว่ามันกลับเป็นปีศาจที่สามารถทำให้โลกทั้งใบตาลปัตรพังพินาศ เพราะความร้ายกาจและฤทธิ์เดชที่ไม่มีใครสามารถต่อกรกับมันได้
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานกี่ศตวรรษ ตำนานเล่าขานถึงอสุรกายตนนี้ก็ยังคงตามหลอกหลอนผู้คนอยู่เสมอ มันอยู่คู่กับทุกคนจนกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านต้องเซ่นไหว้บูชา และอธิษฐานก่อนออกเดินเรือ…ว่าขอให้อย่ามีใครโชคร้ายได้พบเจอกับมันอีกเลย
“น่าเบื่อ” ชายหนุ่มเปล่งเสียงออกมาอย่างแผ่วเบา ในขณะที่สายลมเย็นฉ่ำพัดโบกจนเสื้อผ้าและเส้นผมปลิวไสว เจ้าของเสียงนั่งอยู่บนตึกสูงเสียดฟ้าใจกลางเมือง ดวงตาสีอำพันคล้ายกับเหล้าราคาแพงกวาดมองจุดต่ำสุดของสายตา
การจราจรติดขัดช่วงหัวค่ำทำให้รถยนต์มากมายอัดแน่นกันอยู่บนท้องถนนใจกลางเมืองหลวงของมหานคร มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหลายเหตุการณ์จนนับไม่ถ้วน เพราะความใจร้อนของคนใช้รถใช้ถนน
หนึ่งในนั้นคือรถยนต์ของหญิงท้องแก่อายุครรภ์สามสิบแปดสัปดาห์ ท้ายรถถูกชนอย่างแรงจนร่างกายอัดเข้ากับพวงมาลัย เสียงร้องเจ็บปวดดังเข้ามาในโสตประสาทของปีศาจหนุ่ม นั่นก็เพราะเขาเปิดการรับฟังเสียงโอดโอยของเธอเพื่อลดความน่าเบื่อหน่ายในวันนี้ลง
“อะ…อึก! ชะ…ช่วยด้วย” เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังขึ้นอย่างน่าเวทนาอยู่ภายในรถยนต์ยุโรปคันหรูที่ได้ชื่อว่าเป็นรถยนต์ที่แข็งแรงที่สุด แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถทนแรงกระแทกที่มาจากรถยนต์ขนาดใหญ่คันหลังได้เลย
หญิงท้องแก่พยายามช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุด โดยการปลดเข็มขัดนิรภัยเพื่อพาร่างกายบอบช้ำของตัวเองออกไปจากซากรถยนต์ เธอประคองหน้าท้องขนาดใหญ่ไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง
...ทุกอย่างที่เกิดขึ้นอยู่ในสายตาของปีศาจหนุ่มที่มองภาพนั้นอย่างเย็นชา
โครงคิ้วหนาขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นแสงสีฟ้าสว่างวาบออกมาจากหน้าท้องอวบนูนของหญิงสาว เขาพยายามจ้องลึกเข้าไปด้านในก็พบเห็นเพียงแค่เด็กผู้หญิงตัวน้อยที่กำลังจะขาดอากาศหายใจตายเพราะอุบัติเหตุเมื่อสักครู่นี้
“หึ…” แหงนหน้าสูดกลิ่นอายของความตาย พลางแค่นหัวเราะในลำคออย่างแผ่วเบาราวกับเจอเรื่องน่าตื่นเต้น เพราะแม้จะอยู่มาเกือบพันปีแต่เขาไม่เคยเห็นแสงเช่นนี้จากตัวมนุษย์เลยสักครั้ง ดูเหมือนว่าเด็กผู้หญิงในครรภ์กำลังส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากเขา “ถือว่าวันนี้เจ้าโชคดีที่ได้เจอข้า”
เขายกฝ่ามือขึ้นมาเล็กน้อย ควบคุมมวลน้ำแห่งการรักษาลงมาเพื่อช่วยหญิงท้องแก่และเด็กผู้หญิงในครรภ์ มันถูกกลั่นกรองลงมาเป็นฝนเม็ดใหญ่ที่ตกกระทบสู่ร่างของหญิงท้องแก่
โพรเทกต์หนูน้อยที่เกือบไม่มีโอกาสลืมตาดูโลกด้วยพลังเพียงเสี้ยวหนึ่งของเขา มองภาพความโกลาหลกระทั่งทุกอย่างเข้าสู่ความสงบ
แม้หญิงท้องแก่จะได้รับการช่วยเหลือและมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลแล้ว แต่ปีศาจหนุ่มกลับนึกถึงแสงเรืองรองนั้นจนเผลอคิดว่าหรือจริงๆ แล้ว…เด็กน้อยผู้นั้นจะเกิดมาพร้อมพลังพิเศษ
@QUEENS CITY “โอ้โห~” คลาริสาอ้าปากอย่างตกตะลึง เมื่อเข้ามาในอาณาเขตที่ตั้งปราสาทใหญ่โตของครอบครัวเพื่อนสนิท “อ้าปากกว้างจนแมลงบินเข้าปากหมดแล้วหนูท่อ” “นี่เหมือนปราสาทยุคกลางที่เราอ่านในเว็บตูนเลยอะไซลัส” ทั้งใหญ่โต ทั้งสวยงาม แถมยังอยู่ในหุบเขาอีกด้วย แต่อีกมุมหนึ่งก็ดูลึกลับและน่ากลัว “จอดรถได้แล้ว เราอยากลงไปเดินดู” “ไปๆ ลงไป” ไซลัสยอมจอดรถให้เพื่อนสนิทลงไปก่อน เกิดเธอผลีผลามกระโดดลงรถจะเจ็บตัวเอาเปล่าๆ ส่วนเขาก็วนรถมาจอดให้เป็นที่เป็นทาง จากนั้นเดินตามหลังเธอมาเรื่อยๆคลาริสาตื่นเต้นกับความแปลกใหม่เหล่านี้ ทุกอย่าง ณ ที่แห่งนี้เหมือนกับอยู่ในโลกจินตนาการเลย เธอเดินมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาหยุดอยู่ตรงต้นสะพานเหล็กที่ยื่นไปในทะเลสาบหมับ!จังหวะที่คลาริสากำลังจะก้าวขาขึ้นไปบนสะพาน ไซลัสตวัดแขนกอดเอาเธอไว้จนตัวลอยขึ้นจากพื้น ก่อนที่เจ้าตัวจะเอี้ยวหน้าไปถาม “อุ้มเราทำไม” “ไปหาพ่อกับแม่ก่อนแล้วค่อยมาเดินเล่นใหม่” “เออใช่ เราลืมเลย” ไซลัสยอมปล่อยเพื่อนยืนลงบนพื้นอย่างว่าง่าย เปลี่ยนมากอดคอพาเธอเดินลัดทางเดินเข้ามาในปราสาท ความเงียบทำให้เขาสงสัยว่าพ่อกับแม่หายไปไหน แต่พอจะอ้าป
หลายปีต่อมา…“มี้ครับ เดี๋ยวผมมานะ” ไซลัสในวัยสิบเก้าปีวิ่งลงมาจากชั้นสองของบ้านอย่างรีบร้อน ยังไม่ได้สวมเสื้อเลยด้วยซ้ำ“จะไปไหนลูก อีกสักพักเราต้องเดินทางแล้วนะ”“ไปรับยัยหนูท่อที่บ้านครับ”“แน่ะ มี้บอกแล้วว่าอย่าเรียกหนูคลาร่าแบบนั้น” เซเลน่าทำโทษลูกชายด้วยการตีแขนเบาๆ “เขาโตเป็นสาวแล้ว เรียกให้มันดีๆ หน่อย”“ในสายตาผมคลาร่าก็ยังเหมือนหนูท่อเหมือนเดิมนั่นแหละ” คล่ายังคงตัวเล็กเหมือนเด็กมัธยม ทั้งที่กำลังจะขึ้นมหาวิทยาลัยแล้ว เปรียบเทียบกับเขาที่มีความสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตรยอยู่เพียงระดับอกอยู่เลย “พ่อกับแม่ไปกันก่อนเลยก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมตามไปทีหลัง”“โอเค ขับรถระวังๆ ด้วยล่ะ”ไซลัสวิ่งออกมาเอารถยนต์นอกบ้าน แล้วใช้มันขับมารับคลาริสาที่บ้านของเธอซึ่งอยู่เมืองข้างเคียง ตอนแรกเขาตั้งใจจะไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัว แต่จู่ๆ คลาริสาก็ขอไปด้วยเธอเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวของเขาตั้งแต่อนุบาลจนมาถึงปัจจุบัน แม้ว่าหลังจากจบอนุบาลเขาจะเรียนโฮมสกูล แต่ก็ยังติดต่อกันผ่านข้อความอยู่บ่อยๆตอนที่เขามีอายุได้เพียงแปดขวบ เขาก็เติบโตเทียบเท่ากับชายหนุ่มวัยเจริญพันธุ์แล้ว กว่าจะได้เจอคลาริสาอีกครั้งห
“ศาสตราจารย์คะ!”“ครับ?”“เอ่อ…วันนี้ไปทานอาหารกลางวันกับฉันมั้ยคะ”เซเวียสสบตากับผู้ใต้บังคับบัญชาของตัวเองด้วยแววตาเรียบเฉย ความคิดในหัวของเจ้าหล่อนทำให้เขาเกือบหลุดหัวเราะเธอกำลังคิดว่าอย่างไรเขาก็ต้องตกลง เพราะตัวเองเป็นคนหน้าตาดี คงไม่กล้าปฏิเสธสาวสวยแบบนี้ หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงปฏิเสธอย่างไม่ไว้หน้า แต่ตอนนี้เขาต้องนึกถึงภาพลักษณ์ของตัวเองในที่ทำงานด้วย“ได้สิครับ”“จริงนะคะ!”“เจอกันที่โรงอาหารตอนกลางวันแล้วกันครับ” ว่าจบเซเวียสก็หันไปรับเครื่องดื่มสองแก้วจากบาริสต้า แล้วเดินออกมาจากร้านกาแฟเพื่อมาส่งน้ำให้กับคนรักอย่างเช่นทุกวันปัจจุบันเขาทำงานที่ศูนย์วิจัยมาได้เกือบสามเดือนแล้ว แต่เรื่องที่เขากับเซเลน่าเป็นสามีภรรยากันยังคงถูกเก็บเป็นความลับ เธอให้เหตุผลว่าไม่อยากให้ใครเอาเรื่องส่วนตัวไปพูดลับหลัง และเขาก็ปฏิบัติตามที่เธอต้องการอย่างเคร่งครัดมาตลอดก๊อก ก๊อก ก๊อก~“เชิญค่ะ” ปีศาจหนุ่มเปิดประตูเข้าไปทันทีที่ได้ยินเสียงอนุญาตของคนในห้อง “มาทำอะไร”“เอาช็อกโกแลตเย็นมาให้”“อ้อ ขอบใจ” เซเลน่าลุกจากเก้าอี้ทำงานพร้อมกับรับแก้วเครื่องดื่มมาจากมือเซเวียส นอกจากจะขอบคุณเขาด้วยคำพูดย
“เมื่อกี้นายไปไหนมา” เซเลน่าเอ่ยถามหลังจากเดินพ้นออกจากอาณาเขตโรงเรียนของอนุบาล ด้วยความที่เขาหายไปเกือบครึ่งชั่วโมง คงไม่แปลกที่เธอจะสงสัย“ซื้อโรงเรียน”“ถามจริง?” เธอถามกลับอย่างไม่อยากเชื่อ“จริง”“อะไรเข้าสิงให้คิดจะซื้อโรงเรียนลูกเนี่ย”“สิ่งที่ไซลัสกำลังเจอคือการเหยียดหยาม เพราะทุกคนเอาแต่คิดว่าเป็นเด็กไม่มีพ่อ ถ้าฉันเป็นเจ้าของโรงเรียนนี้ใครมันจะกล้าทำตัวไม่ดีใส่ลูกอีกล่ะ” ตอนแรกเขาตั้งใจว่าจะเข้าไปคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียนเท่านั้น แต่ระหว่างเดินผ่านกลับได้ยินคุณครูซุบซิบเรื่องของไซลัสกับเซเลน่าอย่างออกรสออกชาติ ในฐานะที่เขาเป็นพ่อและสามีก็ควรจะปกป้องลูกและภรรยาตัวเอง“ต้องเล่นใหญ่เบอร์นี้เลยเหรอ? อีกไม่นานลูกก็โตแล้วอีกอย่างฉันมีความคิดจะให้ไซลัสเรียนโฮมสกูลด้วย ถ้าลูกผ่านเกณฑ์ ไม่กี่ปีก็เข้ามหา’ ลัยได้”ปัจจุบันไซลัสเรียนอยู่ระดับชั้นอนุบาล แต่สรีระร่างกายของเขาเหมือนเด็กประถมต้น ดังนั้นเธออยากจะหลีกเลี่ยงเหตุการณ์เหมือนที่เป็นอยู่ตอนนี้ โดยการให้ไซลัสศึกษาเล่าเรียนที่บ้านแทน แต่เมื่อเขาพร้อมที่จะเข้ามหาวิทยาลัยก็จะให้เขาได้ออกไปใช้ชีวิตเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไป“นายก็รู้ว่าลู
หลังจากไซลัสยอมหยุดการกระทำของตัวเองลง เขาก็เดินกลับมาหาเพื่อนผู้หญิงที่ก้มหัวปิดหน้าปิดตา ย่อตัวนั่งลงใกล้ๆ แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“เมื่อกี้เธอไม่เห็นอะไรใช่มั้ย”“ระ…เราไม่เห็นอะไรนะ!” คนถูกถามสะดุ้งพร้อมกับกางนิ้วมองหน้าของไซลัส โดยที่ยังเอามือปิดหน้าตัวเองไว้“งั้นก็ดี ตอนนี้เธอต้องวิ่งไปฟ้องครูว่าเพื่อนทะเลาะกัน โยนของจนทำกล้องวงจรปิดพัง”“ตะ…แต่เมื่อกี้ไซลัส…”“เธอต้องไม่เห็นอะไร เรื่องนี้จะไม่เกี่ยวกับเรา…เข้าใจมั้ย” น้ำเสียงของไซลัสเข้มขรึมเพื่อต้องการข่มขู่เพื่อนผู้หญิงคนนี้ไม่ให้เอาเรื่องนี้ไปพูดกับใคร “เธอชื่ออะไร”“คะ…คลาริสา”“เราจำชื่อเธอได้แล้ว ถ้าไม่อยากโดนเหมือนพวกนั้น หวังว่าจะไม่พูดถึงชื่อของเรากับครู”“อื้อๆ เราจะไม่พูดอะไรเลย” เด็กหญิงยกมือกุมจมูกตัวเองลุกพรวดวิ่งผ่านของเล่นที่กระจัดกระจายบนพื้นออกไปจากห้องเรียนอย่างรวดเร็วส่วนไซลัสก็หยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วเดินมานั่งอ่านหนังสือที่เดิมอย่างไม่คิดจะปรายตามองเพื่อนร่วมห้องที่ถูกเขาเล่นงานคืนเลยสักนิดที่เด็กชายไม่อยากเอาคืนเพื่อนๆ ก็เพราะคิดว่าอีกหน่อยพวกนั้นก็คงหยุดแกล้งไปเอง แต่ที่ไหนได้กลับหนัก
“หัวหน้าครับ” “หืม? ว่าไงคะคุณโจเอล” “ไปกดน้ำกันมั้ยครับ” “ก็ดีค่ะ ฉันกำลังอยากได้คาเฟอีนพอดีเลย” เซเลน่าโครงศีรษะเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนทิศทางเดินยังตู้กดน้ำดื่มของศูนย์วิจัย “คุณโจเอลเอาอะไรดีคะ เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง” “ผมเป็นผู้ชายนะครับ ให้ผมเลี้ยงหัวหน้าเถอะ” “ฉันไม่อยากให้คนอื่นเอาไปพูดว่าดูแลลูกน้องตัวเองไม่ดีค่ะ” “คนที่กล้าว่าหัวหน้าก็คงมีแต่คนขี้อิจฉานั่นแหละ ผลงานก็ยอดเยี่ยม แถมสวยอีกต่างหาก” “ฉันจะลอยแล้วนะ อย่าชมเยอะ” เซเลน่าแย้มยิ้ม ก่อนจะหันไปเลือกน้ำดื่มสำหรับโจเอลและตัวเอง จากนั้นก็ยื่นมันไปให้เขา “ฉันเห็นคุณดื่มอันนี้บ่อยๆ น่าจะถูกใจอยู่ใช่มั้ยคะ” “ขอบคุณครับผม ผมเปิดให้มั้ยครับ” “ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยื่นกระป๋องน้ำดื่มไปให้อีกฝ่ายช่วยเปิด จากนั้นก็รับกลับมาพร้อมกับยกขึ้นจิบเบาๆ โดยที่สายตามองเอกสารงานวิจัยของทีม “คุณรู้รึยังว่ากำลังจะมีคนเข้ามาแทนตำแหน่งของด๊อกเตอร์เบอร์นาร์ดน่ะครับ” “หาคนมาแทนได้แล้วเหรอคะ” “เห็นสาวๆ บอกว่าคนคนนั้นเข้ามาประจำที่ศูนย์วิจัยแล้วนะครับ แต่พวกเราคงได้เจอวันพรุ่งนี้ตอนแนะนำตัว” “ก็ดีเหมือนกันนะคะ เพราะตั้งแต่ด๊อกเตอร์เบ
Komen