ผ่านไป 6 เดือน นรีกุลจึงได้เข้าพิธีวิวาห์กับนัฐธวีร์ งานแต่งงานของทั้งสองจัดอยู่ในโบสถ์ราบรื่นจนแทบไม่มีที่ติ แขกเหรื่อในงานต่างพากันมาแสดงความยินดีกับบ่าวสาวทั้งสอง
รถสปอร์ตคันหรูแล่นเข้ามายังบริเวณลานจอดรถของคฤหาสน์หลังใหญ่
ภาพที่ปรากฏชัดในสายตาของหญิงสาวนั้นคือเคหาสน์สถานหลังใหญ่โตโอ่อ่าราวกับปราสาทราชวังของดยุคในนิทานแวมไพร์ที่นรีกุลชอบอ่านตั้งแต่ตอนเด็ก
ปลายเท้าของหญิงสาวก้าวลงจากรถยนต์คันหรูราวกับละเมอ นรีกุลเดินเข้าไปใกล้รั้วสูงตั้งตระหง่านระฟ้าอย่างหลงใหล
มือเรียวของหญิงสาวเอื้อมมือไปคว้าเหล็กสนิมเขรอะราวกับหล่อนได้ต้องมนต์ของคฤหาสน์มอนอฟอยด์เข้าเสียแล้ว
ดวงตาคู่กลมโตราวกับอัลมอนด์สีน้ำตาลกรักของนรีกุลเบิกกว้างขึ้นยามเมื่อเวลานี้ร่างอรชรของหล่อนถูกเขย่าด้วยมือหนาของชายคนรัก
“นุ่น” นัฐธวีร์เรียกภรรยาของเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนละมุน
“คะ” นรีกุลกล่าวทว่าหญิงสาวต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อประตูรั้วที่หญิงสาวยืนจับอยู่ค่อย ๆ เคลื่อนออกจากกัน
“วีร์คะ บ้านหลังนี้สวยมากเลย นุ่นอยากได้เป็นเรือนหอของเราค่ะ” นรีกุลกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
สายลมหอบพัดพาความหนาวเย็นจนไหล่กำยำของเขาสั่นสะท้าน นัฐธวีร์มองสำรวจภรรยาสาวของเขาด้วยแววตารักใคร่
“ได้สิครับ ที่นี่แหละมรดกของคุณปู่” นัฐธวีร์กล่าวกับหญิงคนรักที่มาวันนี้เธอได้กลายเป็นภรรยาของเขาอย่างเต็มตัวเสียแล้ว
“จริงเหรอคะวีร์ วิเศษไปเลยค่ะ” นรีกุลกล่าวด้วยสีหน้าเริงร่า
“วีร์จะโกหกนุ่นไปทำไมล่ะคะ” นัฐธวีร์กล่าวพลางเอื้อมมือหนาปัดปอยผมบาง ๆ ของหญิงสาวมาทัดหูให้นรีกุล
นรีกุลยิ้มเขิน ดวงหน้าสวยแต้มระบายรอยยิ้มกว้างจนเห็นฟันของหล่อนที่ขัดจนขาวสะอาด
ภาพความน่ารักของคู่สามีภรรยาทำให้หญิงสาวที่มองผ่านผ้าม่านสีดำด้วยความไม่พอใจเป็นพ้นทวี
“พวกคุณเป็นใครกัน” เสียงหวานหากแต่ทรงพลังของสตรีคนหนึ่งเดินเข้ามาแทรกกลางนรีกุลและชายคนรัก
“อ้อผมชื่อนัฐธวีร์ครับ เป็นหลานของปู่กรชัยครับ” ท้ายประโยคชายหนุ่มเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำเสียจนสตรีตรงหน้าแย้มรอยยิ้มอย่างพอใจ
“อ้อ อานึกว่าใครที่แท้ก็หลานวีร์นี่เอง” อัญมณีกล่าวด้วยท่าทีสุภาพ
“สวัสดีครับคุณอา” นัฐธวีร์กล่าวขึ้นพลางหันไปสบสายตาของหญิงสาวที่มองมาทางเขาอย่างสงสัย
“นี่นุ่นครับคุณอา เป็นภรรยาของวีร์” เสียงเข้มของนัฐธวีร์ดึงสติของอัญมณีได้เป็นอย่างดี
“สวัสดีจ้ะ” อัญมณีกล่าวขณะยกมือรับไหว้จากนรีกุล
“สวัสดีค่ะ คุณอา” นรีกุลเอ่ยพลางแย้มเรียวปากสีสวยของตนเองฉีกยิ้มกว้างส่งให้อัญมณี
“หลานวีร์มาเหนื่อย ๆ หลานมานั่งข้างในก่อนซิ” อัญมณีกล่าวพลางชักชวนนัฐธวีร์และนรีกุลให้เดินตามเข้ามา
“ดีเหมือนกันครับคุณอา ผมรู้สึกกระหายน้ำพอดี” นัฐธวีร์กล่าวพลางจูงมือของนรีกุลเดินตามอาสาวของเขาให้เข้ามาด้านใน
หญิงสาวเดินตามเขามาอย่างว่าง่าย นัฐธวีร์ปล่อยมือของนรีกุลทันทีที่เขาเดินเข้ามาถึงพรมเช็ดเท้าขนาดใหญ่หลายเมตร
นรีกุลก้มลงถอดรองเท้าส้นสูงที่หล่อนใส่มาในการมาฮันนีมูนกับสามีของเธอ
ปลายเท้าเรียวขาวสะอาดของหญิงสาวสัมผัสกับพรมเช็ดเท้าหน้าคฤหาสน์ที่อ่อนละมุน นรีกุลอดรู้สึกชอบลายพรมผืนนี้ไม่ได้ทว่าเสียงของนัฐธวีร์ดังขึ้นข้างหูของเธอ
“เป็นอะไรไหมนุ่น วันนี้คุณดูเหนื่อยนะ” นัฐธวีร์กล่าวแสดงความห่วงใยในตัวของภรรยารัก
“ค่ะวีร์ นุ่นรู้สึกเพลีย ๆ อย่างไรชอบกล” นรีกุลเอ่ยขึ้นขณะที่ก้าวเดินตามนัฐธวีร์ไปยังห้องโถงรับแขก
“นั่งก่อนซิจ้ะ” อัญมณีกล่าวกับหลานวีร์และนรีกุล
หญิงสาวนั่งลงอย่างว่าง่ายบนโซฟาตัวยาวหนานุ่มที่อัญมณีเชื้อเชิญให้เธอนั่ง
ดวงตาคู่กลมโตของหญิงสาวกวาดสายตาไปมองยังหญิงสาววัยกำดัดคนหนึ่ง เธอสวมชุดคลุมยาวกรอมเท้าสีดำสนิทในมือของหล่อนถือถาดน้ำสีม่วงไว้พร้อมเสริ์ฟชายหญิงทั้งสอง
“นี่เภครา หลานวีร์จำอาเภคราได้ไหมจ้ะ” อัญมณีเอ่ยถามชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
ตั้งแต่นรีกุลเกิดมาไม่เคยเห็นครอบครัวใดจะแต่งกายเหมือนครอบครัวของสามีหล่อนเลย
ดวงตาคู่กลมโตของหญิงสาวลอบมองไปยังอัญมณี น้องสาวของบิดาของกรพจน์
ภาพที่ปรากฎเด่นชัดในสายตาของนรีกุลนั้นเป็นภาพที่หาดูได้ยาก
เค้าโครงหน้ารูปไข่ได้รูปสวยแต่งแต้มริมฝีปากด้วยสีแดงอ่อน เรือนผมของอัญมณีเงางามดำขลับเป็นประกายยามต้องแสงตะเกียง
ชายหนุ่มดันร่างอรชรให้นอนราบไปกับพื้นเตียง เวลานี้นรีกุลรู้สึกปั่นป่วนอย่างบอกไม่ถูกมือเรียวของนัฐธวีร์ซอนไซ้ไปยังร่องสวรรค์ของหญิงสาว ลมหายใจของนรีกุลกระตุกขึ้นในทันทีเจ้าบ่าวสอดนื้วเข้าไปเพื่อสำรวจห้องแห่งความลับสวรรค์อย่างที่เขาต้องการมานานแสนนานไม่ว่าจะผ่านไปเนิ่นานเพียงใด นรีกุลก็เป็นสตรีที่เขาชอบอยู่เสมอไม่ว่าจะส่วนเว้าส่วนโค้งที่เห็นได้จนเด่นชัดหรือจะเป็นความเด็ดขาดจริงใจก็ตามเขาจุมพิตหล่อนอย่างดูดดื่ม จนนรีกุลรู้สึกราวกับว่าหล่อนกำลังฝันไปหญิงสาวอดรู้สึกไม่ได้ว่าอุณหภูมิในเรือนกายร้อนผะผ่าวกับเวลานี้อยู่ในห้องอบซาวน่าก็ไม่ปานดวงหน้าคมเข้มของนัฐธวีร์ก้มลงตักตวงความหอมหวานจากน้ำตกสวรรค์ของหล่อนอย่างรวดเร็วนรีกุลครวญเสียงหวานยามเมื่อเวลานี้ชายหนุ่มก้มลงสำรวจซอนไซ้ซุกซนอยู่ตรงปากทางเข้าหว่างขาของหล่อน“ซี้ดดด” นรีกุลร้องสุดเสียงยามเมื่อเวลานี้ชายหนุ่มลากลิ้นสากขึ้นลงราวกับจะมุดร่องสวรรค์ของหล่อนลิ้นเหนียวลากไล้ไปมาจนเจ้าหล่อนอดรู้สึกกำซาบซ่านไปทั่วกายาไม่ได้นรีกุลกำผ้าปูที่นอนแน่นบามเมื่อเวลานี้ชายคนรักกำลังดอมดมดแกกุหลาบสีหวานในถ้ำอย่างหลงใหลนัฐธวีร์ปลดชั้นในตัวจิ๋วของ
ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์ งานแต่งงานของนรีกุลและนัฐธวีร์จัดขึ้นอย่างใหญ่โตอีกครั้งกรพจน์บิดาของเขาเชิญแขกมาทั้งตำบลเพื่อมาเป็นสักขีพยานให้กับบ่าวสาวห้องแต่งตัวเจ้าสาวภาพที่ปรากฎตรงหน้ากระจกบานใหญ่เป็นภาพของสตรีสวมชุดวิวาห์ยาวกรอมเท้าดวงหน้าหวานรูปไข่ คิ้วเรียวเข้มโค้งดั่งคันศร จมูกของหล่อนโด่งรั้นเชิดขึ้นริมฝีปากสีแดงระเรื่อดูน่าสัมผัสเวลานี้นรีกุลไม่นึกฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับนัฐธวีร์ใหม่อีกครั้งท่ามกลางความเห็นดีเห็นงามจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นรีกุลและนัฐธวีร์ผ่านอะไรร้าย ๆ มาตั้งมากมายหากหล่อนไม่มีกรพจน์ได้ช่วยเหลือเธอในวันนั้นอาจจะไม่มีนรีกุลหลงเหลืออยู่เลยนรีกุลอดรู้สึกขึ้นมาไม่ได้ว่าเวลานี้หล่อนช่างเป็นหญิงที่โชคดีที่สุดในโลกที่จะได้เป็นสะใภ้ตระกูลจิระชาญและในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ เธอกำลังจะเข้าพิธีมงคลสมรสกับสามีที่รักเธอสุดดวงใจพิธีแต่งงานของนรีกุลเป็นไปอย่างราบรื่น วันนี้นรีกุลดูงดงามมากในสายตาของนัฐธวีร์“ขอเชิญบ่าวสาวมาตัดเค้กได้”สิ้นเสียงพิธีกรที่ ได้รับเชิญมา นรีกุลสาวเท้าเข้ามายืนใกล้ๆ กับนัฐธวีร์หล่อนมองดูเค้กแต่งงานของเธออย่างไม่น
“งั้นเราเข้าไปข้างในกันเถอะคุณพ่อกับคุณแม่ท่านรอนานแล้วล่ะ” นัฐธวีร์กล่าวด้วยเสียงนุ่มนรีกุลมองมือของนัฐธวีร์ที่ยื่นมาทางหล่อน หญิงสาวนิ่งไปชั่วอึดใจในวันนี้ตั้งแต่ที่หล่อนเข้ามาเป็นสะใภ้ในบ้านของนัฐธวีร์ ไม่มีวันไหนที่หล่อนไม่เลือกเขา นรีกุลและสามีผ่านอะไรด้วยกันมามากมายไม่ว่าเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตจะดีหรือร้ายก็ตามแต่นรีกุลได้เตรียมใจและได้เลือกเส้นทางนี้เอง นั้นคือการได้อยู่กับสามีของหล่อนยอ่างนัฐธวีร์ ผู้ชายเพียงคนเดียวที่ชาตินี้ทั้งชาตินรีกุลจะรักนัฐธวีร์ตลอดไปเวลานี้นรีกุลเลือกแล้วว่าจะซื่อสัตย์ต่อหัวใจของตนเอง“นุ่นคุณฟังผมอยู่ไหม” นัฐธวีร์ถามย้ำเมื่อหญิงสาวยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่อย่างใจลอย“ค่ะวีร์ เราเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ” นรีกุลกล่าวพลางยื่นมือออกไปกุมมือของชายคนรัก“ครับคุณภรรยา” นัฐธวีร์กล่าวพลางพานรีกุลเข้าไปด้านในบ้านหลังใหม่ของพวกเขา“หนูนุ่น แม่เตรียมอาหารไว้แล้วล่ะ หนูคงหิวแล้วใช่ไหมจ้ะ” มารดาของนัฐธวีร์กล่าวอย่างไม่ถือตัวเหมือนแต่ก่อนนรีกุลที่เห็นดังนั้นชะงักไปเพียงเล็กน้อย หล่อนพยักหน้ารับคำมารดาของเขาอย่างรวดเร็ว“ไปเจ้าวีร์พาหนูนุ่นไปกินข้าวเสียซิ” ก
ไม่กี่วันต่อมาหมอเจ้าของไข้ก็ให้นรีกุลกลับบ้านได้ นัฐธวีร์ได้พานรีกุลออกมาขึ้นรถกลับไปบ้าน“นุ่นคาดเข็มขัดดี ๆ นะ” ชายหนุ่มเอ่ยหยอกล้อกับคนรัก ทว่าเขากลับมีสีหน้าจริงจังนรีกุลอดสงสัยขึ้นมาไม่ได้ กระนั้นดวงหน้าหวานยังคงแต้มรอยยิ้มกว้างอย่างเดิมนรีกุลเอื้อมมือคาดเข็มขัดนริภัย ไม่กี่นาทีต่อมานัฐวีร์ก็ขับรถพุ่งทะยานออกไป“เราจะไปไหนกันคะวีร์” นรีกุลเอ่ยถามอย่างสงสัยในตัวของสามีไม่น้อย“ไปที่ที่เป็นของเรา” นัฐธวีร์กล่าวด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง“ที่ที่เป็นของเรา” นรีกุลทวนคำตอบของชายคนรัก“เดี๋ยวนุ่นก็รู้เองล่ะน่า” นัธธวีร์บอกปัด“ก็ได้ค่ะวีร์” นรีกุลตอบ หล่อนเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ข้างคนขับรถยนต์ของนัฐธวีร์แล่นไปตามถนนใหญ่เรื่อย ๆในที่สุดรถขอองชายหนุ่มก็ไปหยุดอยู่หน้าบ้านหลังโตสไตล์มินิมอลหลังหนึ่ง“นุ่นตื่นได้แล้วครับ” นัฐธวีร์กล่าวพลางเขย่าตัวของหญิงสาวให้ตื่นขึ้น“คะ วีร์” หญิงสาวงัวเงียตอบออกมาด้วยเสียงอู้อี้“ถึงแล้วค่ะ ที่นี่แหละที่ของเรา” นัฐธวีร์กล่าวพลางเอื้อมปลดสายเข็มขัดนริภัยให้เธอนรีกุลลงจากรถอย่างรวดเร็วตามหลังนัฐธวีร์ สามีไปติด ๆ…ดวงตาคู่สวยของนรีกุลเบิกกว้างกว่าเดิม หล่
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณย่า นุ่นอภัยให้” นรีกุลตอบออกมาในที่สุด“แต่ผมว่าคุณอาควรมาขอโทษนุ่นด้วยตนเองนะครับ” นัฐธวีร์เอ่ยเสียงแข็งเขาจะไม่ยอมให้นรีกุลยอมอ่อนข้อให้คนในตระกูลของเขาอีกต่อไปแล้วอย่างไรเสียอัญมณีก็ควรมาขอโทษด้วยตนเองไม่ใช่หลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นมารดาปลอม ๆ เช่นนี้“หลานวีร์ อัญมณีเขา…” คุณย่าเอ่ยอย่างไม่ทันจบประโยคดี หยาดน้ำใสไหลคลอหน่วยตาของหญิงชรานัฐธวีร์และนรีกุลมองสบสายตากันอย่างรู้สึกสังหรณ์ในใจ“อัญมณี เขาเสียชีวิตแล้ว เมื่อเช้านี้” คุณย่าพูดเพียงเท่านั้นก็ปล่อยโฮออกมาทันทีจนผู้เป็นสะใภ้ต้องเข้ามาปลอบประโลม“พ่ออยากให้แกอภัยให้อาของแกสักครั้งนะวีร์” เสียงของกรพจน์อ่อนลงมากในเวลาเช่นนี้“แต่ที่คุณอาทำมันมากเกินการให้อภัย” นัฐธวีร์โต้เถียงกลับไปอย่างไม่ลดละ“พ่อเข้าใจ จริง ๆ พ่อก็ยังไม่ชอบใจกับการกระทำของเขาแต่อัญมณีถูกทำร้ายก่อนโดยบิดาของเขาเอง”“คุณพ่อหมายความว่ายังไงครับ” นัฐธวีร์ถามเสียงเข้มของนัฐธวีร์ทำให้ผู้เป็นบิดาเล่าความจริงบางอย่างออกมา“อัญมณีถูกคุณพ่อจับไปทดลอง ทำให้หล่อนกลายเป็นยักษ์ร้าย” กรพจน์เล่าเท้าความ“จับไปทดลอง” ชายหนุ่มทวนคำ“ใช่ ใช่พ่อของฉันรับอัญ
หยดน้ำใสไหลหยดออกมาจากดวงตาของนัฐธวีร์หล่นลงบนแขนขวาของนรีกุลแพขนตางอนยาวหนากระพือเปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า นรีกุลค่อย ๆ ลืมตาขึ้น“นุ่น คุณตื่นแล้วใช่ไหม”“นี่ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม” นัฐธวีร์ถามย้ำนรีกุลไม่ตอบอะไร หล่อนคลี่ระบายรอยยิ้มเล็กน้อยมือเรียวของนัฐธวรีร์กดออดเรียกพยาบาล เขากรอกเสียงลงไปตามสายอย่างรวดเร็ว“หมอครับ หมอครับ ภรรยาของผมฟื้นแล้วครับ” ชายหนุ่มกรอกเสียงลงไปฉับพลันพยาบาลสาวรีบเข้ามาตรวจดูคนไข้อย่างรวดเร็วนัฐธวีร์ถอยออกมาจากห้องพักพิเศษผู้ป่วยนอกให้แพทย์ได้เข้ามาตรวจนรีกุลได้อย่างเต็มที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้นัฐธวีร์ละสายตาจากหญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู“หนูนุ่นเป็นอย่างไรบ้างตาวีร์” ปลายสายเป็นมารดาของเขาโทรถามอาการของภรรยาสุดรัก“นุ่นปลอดภัยแล้วครับแม่” นัฐธวีร์กล่าวขึ้นแม่ดีใจด้วยนะตาวีร์ มารดาเขาตอบกลับมาด้วยความยินดี“ครับแม่” นัฐธวีร์น้ำตารื้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเขาอดรู้สึกดีใจขึ้นมาไม่ได้ว่าครอบครัวเขาเองก็เป็นห่วงภรรยาของเขาเหมือนกันชายหนุ่มสังเกตเห็นตอนที่กรพจน์ขับรถ เขามองแววตานั้นออกแววตานั้นคล้ายกับแววตาที่ผู้เป็นพ่อมองบุตรสาวความห่วงหา และห่วงใยที