นรีกุลเหลือบมองคฤหาสน์รอบด้านที่ไม่มีไฟสักดวงเดียวอย่างประหลาดใจ เรียวปากอมชมพูของนรีกุลจึงได้ขยับขึ้นเอ่ยถามพวกเขาว่า
“คุณอาคะ ที่นี่ไม่มีหลอดไฟเหรอคะ” นรีกุลกล่าวด้วยสีหน้าตระหนก
"ไม่มีหรอกจ้ะ หลอดไฟเป็นเชื้อเพลิงที่สิ้นเปลือง อาใช้แค่ตะเกียงจุดโคมแทน” อัญมณีกล่าวตอบนรีกุล หลานสะใภ้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
แก้วน้ำทรงสูงคล้ายแก้วไวน์ที่นรีกุลยกขึ้นทาบริมฝีปากหของหล่อนแทบจะร่วงหลุดจากมือสวยของหญิงสาว
“แปลว่าที่นี่ไม่มีไฟฟ้าเหรอคะ” นรีกุลถามต่อขณะยกน้ำที่สาวใช้คนนั้นเสริ์ฟแขกขึ้นมาจิบ
เพียงจิบไปแค่คำแรกนรีกุลแทบสำลัก รสชาติของน้ำเฝื่อนอย่างที่นรีกุลไม่เคยลิ้มลองรสชาติประหลาดแบบนี้ที่ไหนมาก่อน
“แค่ก ๆ” นรีกุลสำลักน้ำที่สาวใช้นำมาเสิร์ฟเฮือกใหญ่
“หนูนุ่น” อัญมณีเอ่ยเรียกหลานสะใภ้แล้วยกมือทาบอกของหล่อนจนนัฐธวีร์เห็นทรวงอกเนินอวบอิ่มที่ซุกซ่อนไว้ของอัญมณีอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ทว่าอารามตระหนกทำให้นัฐธวีร์เข้าไปประคองนรีกุลอย่างอ่อนโยน ชายหนุ่มเอ่ยถามภรรยาตนเองด้วยสีหน้าไม่พอใจว่า
“นุ่นเป็นอะไรไหม คุณอานี่น้ำอะไรครับ” นัฐธวีร์กล่าวแล้วมองหน้าสาวใช้ที่ก้มหลบสายตาดุคมของเขาจนตัวสั่น
“ไม่ค่ะวีร์ นุ่นไม่เป็นอะไร” นรีกุลกล่าวขณะรับผ้าเช็ดปากมาจากอัญมณี
“น้ำชาอัญชันที่หลานชอบไงจ้ะ” ท้ายประโยคอัญมณีกล่าวเสียงสูงอย่างทรงพลัง
“น้ำชาอัญชัน อ้อ พอดีนุ่นเขาไม่ชอบน้ำสมุนไพรครับ” นัฐธวีร์กล่าวอย่างพยายามระงับโทสะ
มือเรียวของนรีกุลเอื้อมมากุมมือหนาของนัฐธวีร์ไว้อย่างรู้เท่าทันปากัปกิริยาไม่พอใจของสามีหล่อน
นัฐธวีร์อ้าปากจะกล่าวคำต่อว่าต่อทว่าชายหนุ่มต้องหยุดแค่นั้นพร้อมตัดบทกับอาสาวว่า
“วันนี้ผมกับนุ่นมาเหนื่อย ๆ ผมขอพาศรีภรรยาผมไปนอนพักก่อนนะครับ” เสียงเข้มของชายหนุ่มกล่าวขึ้นพลางมองนรีกุลอย่างห่วงใย
“ตามสบายจ้ะ” อัญมณีกล่าวขณะตักขนมเค้กชิ้นโตเข้าปากอย่างไม่รับรู้ถึงความรู้สึกเฝื่อนเลยสักนิดเดียว
ตกดึกในค่ำคืนนั้นนรีกุลนอนหนุนแขนนัฐธวีร์อย่างเช่นเดิมเหมือนทุกวัน
ดวงตาคู่เรียวรีของชายหนุ่มรู้สึกถึงความอ่อนล้าที่มาจากการเดินทางระยะไกล ชายหนุ่มประคองภรรยาสาวของเขาไปนอนที่หมอนหนุนสีม่วงอ่อน
นรีกุลเปิดเปลือกตามองดูการกระทำของสามีหนุ่มอย่างเชื่องช้า นัฐธวีร์มักจะทำเช่นนี้กับเธอเสมอ ๆ
แม้ว่าเขาจะไม่ปริปากบ่นอะไร หากแต่นรีกุลก็อดรู้สึกสุขใจไม่ได้ในความรักที่เขามีให้แก่เธอ
นัฐธวีร์นอนหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน ชายหนุ่มเหลือบมองไปทางหญิงสาวที่หลับสนิทอย่างสุขใจ
ความรักของเขาและเธอเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่วันที่นรีกุลได้เดินทางไปเคารพศพปู่ของเขา จวบจนถึงตอนนี้ความรักที่เขามีต่อนรีกุลก็ไม่เคยเสื่อมสลายไปได้เลย
เสียงกรนดังของใครบางคนปลุกให้นรีกุลสะดุ้งตื่นด้วยความแปลกของสถานที่
มือเรียวของหญิงสาวควานหาชายคนรักหมายจะเรียก หากแต่เวลานี้นรีกุลเห็นเพียงแสงจันทร์ที่เล็ดลอดเข้ามาในหน้าต่างบานกว้างที่ปิดไม่สนิท
นรีกุลเหลือบมองไปยังบานหน้าต่างที่เปิดกว้าง หญิงสาวเอื้อมมือไปหมายจะงับบานหน้าต่างเข้า แต่แล้วทันใดนั้นนรีกุลก็ขยับมือไม่ได้
“เกิดอะไรขึ้นทำไมมือของนุ่นแข็งอย่างนี้ค่ะวีร์” นรีกุลเอ่ยร้องเรียกชายหนุ่มด้วยแววตาตระหนกกว่าเดิม
นรีกุลก้มลงมองไปยังมือของตนเองก็พลันปรากฎมือสากหยาบกร้าน บนนิ้วของมือสากที่ยื่นมาจับนั้นที่ปลายเล็บมีเลือดติดอยู่
หญิงสาวหวีดร้องสุดเสียงพลางพยายามสะบัดมือของหล่อนให้ออกจากมือปริศนานั้นทันที
“นุ่น ๆ” เสียงทุ้มเรียกหญิงสาวให้ตื่นจากภวังค์ หญิงสาวเปิดเปลือกตาขึ้นทันทีก็พลันปรากฎร่างสูงโปร่งของนัฐธวีร์อยู่ใกล้เธอ
“วีร์คะ นุ่นกลัวมีคนมาจับมือนุ่นไว้” นรีกุลล่ะล่ำล่ะลักบอกเขาอย่างตกใจสุดขีดพลางโผเข้ากอดร่างสูงโปร่งของเขาอย่างรวดเร็ว
“ไม่ต้องกลัวนะนุ่นวีร์อยู่นี่แล้ว” เสียงนั้นเอ่ยบอกเธอพลางประทับริมฝีปากร้อนลงบนกระหม่อมของหญิงสาวทันที
นรีกุลรับรู้ถึงอุณหภูมิที่กำลังทวีความคุกรุ่นในเรือนกายของหล่อน เรียวปากบางของเขาซอนไซ้ไปยังใบหูของนรีกุลจนหญิงสาวเผลอไผลร้องซี้ดปากด้วยความสุขใจ
มือหนาของชายหนุ่มเอื้อมปลดตะขอชุดที่นรีกุลสวมใส่อยู่ เขาแนบเรือนกายของหล่อนให้ผสานกับเขาอย่างลุ่มหลงในตัวของนรีกุล
หญิงสาวปิดเปลือกตาของหล่อนลงอย่างพลั้งเผลอ ความหวามไหวแทรกไปทั่วอณูของนรีกุล
ภรรยาของนัฐธวีร์ปิดเปลือกตาลงไปแล้ว หากแต่เวลานี้ดวงวิญญาณร้ายของกรวีร์ยังคงทำงานตามคำสั่งของเดรัจฉานต่อไป
นิ้วเรียวของวิญญาณร้ายซอนไซ้เข้าไปยังปากถ้ำสวรรค์ของหญิงสาว นรีกุลบิดตัวแล้วครวญเสียงหวานจนนัฐธวีร์สะดุ้งเล็กน้อยทว่าความอ่อนเพลียจากการเดินทางในระยะเวลานานทำให้เขาฟุบหลับไป
หนุ่มสาวสองคนหารู้ไม่ว่าเวลานี้ดวงวิญญาณของกรวีร์ได้เสพสมเรือนกายของนรีกุลอย่างอุกอาจ และดวงจิตของนัฐธวีร์ได้ถูกเรียกจิตไปโดยสัตว์ร้ายในคราบของสาวงามเสียแล้ว!
ชายหนุ่มดันร่างอรชรให้นอนราบไปกับพื้นเตียง เวลานี้นรีกุลรู้สึกปั่นป่วนอย่างบอกไม่ถูกมือเรียวของนัฐธวีร์ซอนไซ้ไปยังร่องสวรรค์ของหญิงสาว ลมหายใจของนรีกุลกระตุกขึ้นในทันทีเจ้าบ่าวสอดนื้วเข้าไปเพื่อสำรวจห้องแห่งความลับสวรรค์อย่างที่เขาต้องการมานานแสนนานไม่ว่าจะผ่านไปเนิ่นานเพียงใด นรีกุลก็เป็นสตรีที่เขาชอบอยู่เสมอไม่ว่าจะส่วนเว้าส่วนโค้งที่เห็นได้จนเด่นชัดหรือจะเป็นความเด็ดขาดจริงใจก็ตามเขาจุมพิตหล่อนอย่างดูดดื่ม จนนรีกุลรู้สึกราวกับว่าหล่อนกำลังฝันไปหญิงสาวอดรู้สึกไม่ได้ว่าอุณหภูมิในเรือนกายร้อนผะผ่าวกับเวลานี้อยู่ในห้องอบซาวน่าก็ไม่ปานดวงหน้าคมเข้มของนัฐธวีร์ก้มลงตักตวงความหอมหวานจากน้ำตกสวรรค์ของหล่อนอย่างรวดเร็วนรีกุลครวญเสียงหวานยามเมื่อเวลานี้ชายหนุ่มก้มลงสำรวจซอนไซ้ซุกซนอยู่ตรงปากทางเข้าหว่างขาของหล่อน“ซี้ดดด” นรีกุลร้องสุดเสียงยามเมื่อเวลานี้ชายหนุ่มลากลิ้นสากขึ้นลงราวกับจะมุดร่องสวรรค์ของหล่อนลิ้นเหนียวลากไล้ไปมาจนเจ้าหล่อนอดรู้สึกกำซาบซ่านไปทั่วกายาไม่ได้นรีกุลกำผ้าปูที่นอนแน่นบามเมื่อเวลานี้ชายคนรักกำลังดอมดมดแกกุหลาบสีหวานในถ้ำอย่างหลงใหลนัฐธวีร์ปลดชั้นในตัวจิ๋วของ
ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์ งานแต่งงานของนรีกุลและนัฐธวีร์จัดขึ้นอย่างใหญ่โตอีกครั้งกรพจน์บิดาของเขาเชิญแขกมาทั้งตำบลเพื่อมาเป็นสักขีพยานให้กับบ่าวสาวห้องแต่งตัวเจ้าสาวภาพที่ปรากฎตรงหน้ากระจกบานใหญ่เป็นภาพของสตรีสวมชุดวิวาห์ยาวกรอมเท้าดวงหน้าหวานรูปไข่ คิ้วเรียวเข้มโค้งดั่งคันศร จมูกของหล่อนโด่งรั้นเชิดขึ้นริมฝีปากสีแดงระเรื่อดูน่าสัมผัสเวลานี้นรีกุลไม่นึกฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับนัฐธวีร์ใหม่อีกครั้งท่ามกลางความเห็นดีเห็นงามจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นรีกุลและนัฐธวีร์ผ่านอะไรร้าย ๆ มาตั้งมากมายหากหล่อนไม่มีกรพจน์ได้ช่วยเหลือเธอในวันนั้นอาจจะไม่มีนรีกุลหลงเหลืออยู่เลยนรีกุลอดรู้สึกขึ้นมาไม่ได้ว่าเวลานี้หล่อนช่างเป็นหญิงที่โชคดีที่สุดในโลกที่จะได้เป็นสะใภ้ตระกูลจิระชาญและในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ เธอกำลังจะเข้าพิธีมงคลสมรสกับสามีที่รักเธอสุดดวงใจพิธีแต่งงานของนรีกุลเป็นไปอย่างราบรื่น วันนี้นรีกุลดูงดงามมากในสายตาของนัฐธวีร์“ขอเชิญบ่าวสาวมาตัดเค้กได้”สิ้นเสียงพิธีกรที่ ได้รับเชิญมา นรีกุลสาวเท้าเข้ามายืนใกล้ๆ กับนัฐธวีร์หล่อนมองดูเค้กแต่งงานของเธออย่างไม่น
“งั้นเราเข้าไปข้างในกันเถอะคุณพ่อกับคุณแม่ท่านรอนานแล้วล่ะ” นัฐธวีร์กล่าวด้วยเสียงนุ่มนรีกุลมองมือของนัฐธวีร์ที่ยื่นมาทางหล่อน หญิงสาวนิ่งไปชั่วอึดใจในวันนี้ตั้งแต่ที่หล่อนเข้ามาเป็นสะใภ้ในบ้านของนัฐธวีร์ ไม่มีวันไหนที่หล่อนไม่เลือกเขา นรีกุลและสามีผ่านอะไรด้วยกันมามากมายไม่ว่าเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตจะดีหรือร้ายก็ตามแต่นรีกุลได้เตรียมใจและได้เลือกเส้นทางนี้เอง นั้นคือการได้อยู่กับสามีของหล่อนยอ่างนัฐธวีร์ ผู้ชายเพียงคนเดียวที่ชาตินี้ทั้งชาตินรีกุลจะรักนัฐธวีร์ตลอดไปเวลานี้นรีกุลเลือกแล้วว่าจะซื่อสัตย์ต่อหัวใจของตนเอง“นุ่นคุณฟังผมอยู่ไหม” นัฐธวีร์ถามย้ำเมื่อหญิงสาวยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่อย่างใจลอย“ค่ะวีร์ เราเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ” นรีกุลกล่าวพลางยื่นมือออกไปกุมมือของชายคนรัก“ครับคุณภรรยา” นัฐธวีร์กล่าวพลางพานรีกุลเข้าไปด้านในบ้านหลังใหม่ของพวกเขา“หนูนุ่น แม่เตรียมอาหารไว้แล้วล่ะ หนูคงหิวแล้วใช่ไหมจ้ะ” มารดาของนัฐธวีร์กล่าวอย่างไม่ถือตัวเหมือนแต่ก่อนนรีกุลที่เห็นดังนั้นชะงักไปเพียงเล็กน้อย หล่อนพยักหน้ารับคำมารดาของเขาอย่างรวดเร็ว“ไปเจ้าวีร์พาหนูนุ่นไปกินข้าวเสียซิ” ก
ไม่กี่วันต่อมาหมอเจ้าของไข้ก็ให้นรีกุลกลับบ้านได้ นัฐธวีร์ได้พานรีกุลออกมาขึ้นรถกลับไปบ้าน“นุ่นคาดเข็มขัดดี ๆ นะ” ชายหนุ่มเอ่ยหยอกล้อกับคนรัก ทว่าเขากลับมีสีหน้าจริงจังนรีกุลอดสงสัยขึ้นมาไม่ได้ กระนั้นดวงหน้าหวานยังคงแต้มรอยยิ้มกว้างอย่างเดิมนรีกุลเอื้อมมือคาดเข็มขัดนริภัย ไม่กี่นาทีต่อมานัฐวีร์ก็ขับรถพุ่งทะยานออกไป“เราจะไปไหนกันคะวีร์” นรีกุลเอ่ยถามอย่างสงสัยในตัวของสามีไม่น้อย“ไปที่ที่เป็นของเรา” นัฐธวีร์กล่าวด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง“ที่ที่เป็นของเรา” นรีกุลทวนคำตอบของชายคนรัก“เดี๋ยวนุ่นก็รู้เองล่ะน่า” นัธธวีร์บอกปัด“ก็ได้ค่ะวีร์” นรีกุลตอบ หล่อนเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ข้างคนขับรถยนต์ของนัฐธวีร์แล่นไปตามถนนใหญ่เรื่อย ๆในที่สุดรถขอองชายหนุ่มก็ไปหยุดอยู่หน้าบ้านหลังโตสไตล์มินิมอลหลังหนึ่ง“นุ่นตื่นได้แล้วครับ” นัฐธวีร์กล่าวพลางเขย่าตัวของหญิงสาวให้ตื่นขึ้น“คะ วีร์” หญิงสาวงัวเงียตอบออกมาด้วยเสียงอู้อี้“ถึงแล้วค่ะ ที่นี่แหละที่ของเรา” นัฐธวีร์กล่าวพลางเอื้อมปลดสายเข็มขัดนริภัยให้เธอนรีกุลลงจากรถอย่างรวดเร็วตามหลังนัฐธวีร์ สามีไปติด ๆ…ดวงตาคู่สวยของนรีกุลเบิกกว้างกว่าเดิม หล่
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณย่า นุ่นอภัยให้” นรีกุลตอบออกมาในที่สุด“แต่ผมว่าคุณอาควรมาขอโทษนุ่นด้วยตนเองนะครับ” นัฐธวีร์เอ่ยเสียงแข็งเขาจะไม่ยอมให้นรีกุลยอมอ่อนข้อให้คนในตระกูลของเขาอีกต่อไปแล้วอย่างไรเสียอัญมณีก็ควรมาขอโทษด้วยตนเองไม่ใช่หลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นมารดาปลอม ๆ เช่นนี้“หลานวีร์ อัญมณีเขา…” คุณย่าเอ่ยอย่างไม่ทันจบประโยคดี หยาดน้ำใสไหลคลอหน่วยตาของหญิงชรานัฐธวีร์และนรีกุลมองสบสายตากันอย่างรู้สึกสังหรณ์ในใจ“อัญมณี เขาเสียชีวิตแล้ว เมื่อเช้านี้” คุณย่าพูดเพียงเท่านั้นก็ปล่อยโฮออกมาทันทีจนผู้เป็นสะใภ้ต้องเข้ามาปลอบประโลม“พ่ออยากให้แกอภัยให้อาของแกสักครั้งนะวีร์” เสียงของกรพจน์อ่อนลงมากในเวลาเช่นนี้“แต่ที่คุณอาทำมันมากเกินการให้อภัย” นัฐธวีร์โต้เถียงกลับไปอย่างไม่ลดละ“พ่อเข้าใจ จริง ๆ พ่อก็ยังไม่ชอบใจกับการกระทำของเขาแต่อัญมณีถูกทำร้ายก่อนโดยบิดาของเขาเอง”“คุณพ่อหมายความว่ายังไงครับ” นัฐธวีร์ถามเสียงเข้มของนัฐธวีร์ทำให้ผู้เป็นบิดาเล่าความจริงบางอย่างออกมา“อัญมณีถูกคุณพ่อจับไปทดลอง ทำให้หล่อนกลายเป็นยักษ์ร้าย” กรพจน์เล่าเท้าความ“จับไปทดลอง” ชายหนุ่มทวนคำ“ใช่ ใช่พ่อของฉันรับอัญ
หยดน้ำใสไหลหยดออกมาจากดวงตาของนัฐธวีร์หล่นลงบนแขนขวาของนรีกุลแพขนตางอนยาวหนากระพือเปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า นรีกุลค่อย ๆ ลืมตาขึ้น“นุ่น คุณตื่นแล้วใช่ไหม”“นี่ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม” นัฐธวีร์ถามย้ำนรีกุลไม่ตอบอะไร หล่อนคลี่ระบายรอยยิ้มเล็กน้อยมือเรียวของนัฐธวรีร์กดออดเรียกพยาบาล เขากรอกเสียงลงไปตามสายอย่างรวดเร็ว“หมอครับ หมอครับ ภรรยาของผมฟื้นแล้วครับ” ชายหนุ่มกรอกเสียงลงไปฉับพลันพยาบาลสาวรีบเข้ามาตรวจดูคนไข้อย่างรวดเร็วนัฐธวีร์ถอยออกมาจากห้องพักพิเศษผู้ป่วยนอกให้แพทย์ได้เข้ามาตรวจนรีกุลได้อย่างเต็มที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้นัฐธวีร์ละสายตาจากหญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู“หนูนุ่นเป็นอย่างไรบ้างตาวีร์” ปลายสายเป็นมารดาของเขาโทรถามอาการของภรรยาสุดรัก“นุ่นปลอดภัยแล้วครับแม่” นัฐธวีร์กล่าวขึ้นแม่ดีใจด้วยนะตาวีร์ มารดาเขาตอบกลับมาด้วยความยินดี“ครับแม่” นัฐธวีร์น้ำตารื้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเขาอดรู้สึกดีใจขึ้นมาไม่ได้ว่าครอบครัวเขาเองก็เป็นห่วงภรรยาของเขาเหมือนกันชายหนุ่มสังเกตเห็นตอนที่กรพจน์ขับรถ เขามองแววตานั้นออกแววตานั้นคล้ายกับแววตาที่ผู้เป็นพ่อมองบุตรสาวความห่วงหา และห่วงใยที