“…” นัฐธวีร์ได้แต่นิ่งเงียบไร้การโต้เถียงกับปลายสายเรียกเข้าของเขาอยู่สักพักใหญ่
ชายหนุ่มปล่อยให้ปลายสายอาละวาดใส่เขาอย่างไม่มีข้อ โต้เถียงใดใดออกมาจนสาแก่ใจ
นัฐธวีร์จึงอ้าปากหมายจะกล่าวประโยคต่อไปเพื่อตัด บทสนทนาระหว่างพ่อลูกทิ้งเสียดื้อ ๆ
“แกรู้ไหมคุณปู่ของแก ท่านเสียแล้ว” แต่แล้วกรพจน์ ปลายสายที่โทรมาหาเขา ก็เปลี่ยนน้ำเสียงลงจนนัฐธวีร์สัมผัสได้
นัฐธวีร์รู้สึกราวกับว่าเวลานี้พายุไต้ฝุ่นลูกใหญ่กำลังโถม กระหน่ำซัดเขาเข้าสู่ใจกลางพายุอย่างรุนแรงทุกอย่างรวดเร็วเสียจน เขาไม่สามารถทำใจยอมรับเหตุการณ์ได้
เพียงประโยคแรกของบิดาเขาไม่อาจทำให้จิตใจของนัฐธวีร์ สงบนิ่งลงได้แม้แต่น้อย
ตรงกันข้ามเวลานี้หัวใจของชายหนุ่มกลับรู้สึกแน่นหน้าอกราวกับมีใครบางคนพยายามเคล้นมันออกมา และกระทืบให้มันแหลกเป็นเสี่ยง ๆ
“อะไรนะครับ คุณพ่อ” นัฐธวีร์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตระหนกจนนรีกุลที่ได้ยินบทสนทนาทั้งหมดอดเป็นห่วงในความสัมพันธ์พ่อลูกของชายคนรักไม่ได้
มือสากหนาที่ถือสมาร์ทโฟนของชายหนุ่มหมดเรี่ยวแรงลง ทว่าหยาดน้ำใสไหลคลอออกมาจากหน่วยตาทั้งสองข้างของเขาอย่างอ่อนล้า
“ครับผม…ผมจะรีบไปครับ” นัฐธวีร์กรอกเสียงลงไปตามปลายสายอย่างอิดโรยพลางสไลด์ปิดโทรศัพท์ของเขาลงอย่างเหม่อลอย
แข้งขาที่เคยมีเรี่ยวแรงของชายหนุ่มค่อยหมดแรงลงอย่างเชื่องช้าราวกับตุ๊กตาไขลานที่รอวันหยุดหมุน…นัฐธวีร์ทรุดตัวลงนั่งพิง ผนังห้องทั้งสภาพนั้น
“เกิดอะไรขึ้นคะวีร์”นรีกุลเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตระหนกทันทีที่สาวเจ้าเห็นสภาพ ของชายคนรักที่ดวงตาแดงก่ำ
“นุ่นผมว่าเราต้องรีบไปหาคุณพ่อกันแล้วล่ะ”นัฐธวีร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังหนักแน่นเสียจนนรีกุลฟังแล้วอดใจหายไม่ได้
คิ้วเข้มของชายหนุ่มมุ่นเข้าหากันเป็นปมใหญ่คล้ายเชือก ไนล่อนที่ถูกผูกแน่นเสียจนเป็นปมหนา โดยที่นัฐธวีร์เองก็ไม่ทันรู้ตัว
ทว่าเวลานี้ใบหน้าคมคายของนัฐธวีร์บึ้งตึงลงอย่างไม่สบอารมณ์ เป็นที่สุด
“งั้นนุ่นไปเก็บของก่อนนะคะ”นรีกุลกล่าวกับนัฐธวีร์อย่างรวดเร็ว
“เก็บมาให้วีร์ด้วยนะครับ”นัฐธวีร์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า เต็มที
ไม่นานนักนรีกุลก็ลากกระเป๋าเดินทางใบโตสองใบออกมา หญิงสาวเอื้อมมือไปหยิบแม่กุญแจแล้วสอดลูกกุญแจเพื่อไขล็อคคอนโดมิเนียมที่ตนเป็นเจ้าของอย่างแน่นหนา
นัฐธวีร์รีบเร่งเดินลงมาจากบันไดของคอนโดมิเนียมของหญิงสาว ชายหนุ่มเดินตรงดิ่งไปยังรถยุโรปคันสวยของเขาของเขาที่ หญิงสาวซื้อให้ในวันเกิดของเขา
ประตูฝั่งคนขับเปิดขึ้นอย่างรวดเร็วตามด้วยร่างสูงโปร่งของ นัฐธวีร์ที่ก้าวขาขึ้นมาวางบนผ้ายางอย่างเร่งรีบ
รถยนต์ทรงสวยสไตล์ยุโรปคันหรูถอยหลังออกจากซองอย่างรวดเร็วแล้วทะยานออกสู่ถนนใหญ่ที่มีรถราแล่นกันขวักไขว่
นรีกุลหญิงสาวคนรักของนัฐธวีร์เอื้อมมือสวยไปดึงเข็มขัดนิรภัยพลางหยิบโทรศัพท์ไถดูอะไรไปเรื่อย ๆ
นัฐธวีร์ขับรถยนต์คันหรูไปตามทางที่เขาปักหมุดไว้ในแอป แผนที่ของเขา
ดวงตาคู่เรียวรีสีสนิมลอบมองใบหน้าหวานของนรีกุลที่กำลัง เพลิดเพลินกับการไถโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของหล่อนไปเรื่อย ๆ อย่างอับจนหนทาง
นรีกุลเป็นหญิงคนรักครั้งที่สองของเขา หากชายหนุ่มเชื่อว่าเขาไม่สามารถมีความลับกับหญิงคนรักได้อีกต่อ ไป
“เมื่อกี้คุณพ่อโทรมาบอกว่า ให้ผมรีบกลับบ้านด่วน” นัฐธวีร์เอ่ยอย่างกลั้นน้ำตาที่พานไหลออกจากดวงตาคู่คมของเขา
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะวีร์”นรีกุลเอ่ยพลางมองใบหน้าคม คายที่เวลานี้ชายชัดถึงความวิตกกังวลใจออกมา
“ผมคิดว่า คุณพ่อน่าจะคุยเรื่องมรดกคุณปู่ที่เพิ่งเสียไป” นัฐธวีร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ
ท้ายประโยคแววตาคู่คมฉายรอยหมองเศร้าจนนรีกุลอดสังเกตไม่ได้
“ค่ะ” นรีกุลเอ่ยรับคำสั้น ๆ
มือขวาของหญิงสาวเอื้อมมาจับมือซ้ายของชายหนุ่มที่เข้าเกียร์อย่างปลอบประโลมเพื่อคลายปมในใจของอีกฝ่าย เรียวปาก ของหญิงสาวขยับเปล่งเสียง
“เมื่อวานนุ่นคุยกับคุณแม่แล้วนะคะท่านบอกว่าท่านจะยกที่ ดินแปลงหนึ่งให้นุ่นแล้วสร้างเป็นเรือนหอของเรากันค่ะ” นรีกุลเอ่ยด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความสุข
นัฐธวีร์นั่งนิ่ง ชายหนุ่มยังไม่อยากบอกความลับบางอย่างกับหญิงสาวในตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่ปล่อยให้เธอเอื้อมมาจับมือของเขาอยู่เช่นนั้น
“วีร์ค่ะ นุ่นรักคุณนะคะ” นรีกุลกล่าวอีกครั้ง
“ครับ ผมก็รักนุ่น” นัฐธวีร์เอ่ยขึ้นพลางเอื้อมมือที่กุมมือของ หญิงสาวไปจับพวงมาลัยรถยนต์รถคันโก้คันใหญ่ของเขา
รถยนต์ราคาแพงหูฉี่คันเล็กเลี้ยวไปตามเส้นทางที่คุณพ่อ ของชายหนุ่มได้ส่งพิกัดมาให้ ในที่สุดรถก็ผ่านเข้าไปในดงป่าไม้อย่างรวดเร็วทางไป ยังวัดที่กรวีต้องไปนั้นจะต้องผ่านป่าไม้รกชัฎแถวบ้านของเขา
นัฐธวีร์เหลือบมองหญิงสาวนั่งข้างเขาเวลานี้นรีกุลหลับไป แล้วดวงหน้าหวานราวตุ๊กตากระเบื้องเคลือบของนรีกุลสวยสง่า แม้ยามหญิงสาวหลับใหล
นัฐธวีร์เคยเจอนรีกุลในสมัยมัธยม
ในเวลานั้นทั้งสองได้รู้จักกันผ่านพี่ชายของนรีกุล เขาชื่อว่า โจนาธาน ดิเรกวิยะกุล นัฐธวีร์เป็นสายรหัสเดียวกันกับโจนาธานทำให้เขาได้พบกับนรีกุลในวันนั้น
ด้วยความน่ารักของนรีกุลทำให้นัฐธวีร์อดที่จะตกหลุมรักเธอไม่ได้ หลังจากเธอและเขาเรียนจบ นัฐธวีร์เลือกคบกับนรีกุลทันที
นัฐธวีร์ไม่เคยเห็นหญิงใดมีความงดงามและอ่อนโยนเท่านั้นที่คุณมาก่อนนั่นไม่แปลกเลยที่ทำให้เขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่สมัยเรียน มหาวิทยาลัย
นัฐธวีร์ดับเครื่องยนต์หลังจากที่รถยนต์ของเขาเล็กถอยเข้ามาจอดยังลานลานจอดรถที่วัดที่บำเพ็ญสวดอภิธรรมศพของปู่ของเขา
ชายหนุ่มดันร่างอรชรให้นอนราบไปกับพื้นเตียง เวลานี้นรีกุลรู้สึกปั่นป่วนอย่างบอกไม่ถูกมือเรียวของนัฐธวีร์ซอนไซ้ไปยังร่องสวรรค์ของหญิงสาว ลมหายใจของนรีกุลกระตุกขึ้นในทันทีเจ้าบ่าวสอดนื้วเข้าไปเพื่อสำรวจห้องแห่งความลับสวรรค์อย่างที่เขาต้องการมานานแสนนานไม่ว่าจะผ่านไปเนิ่นานเพียงใด นรีกุลก็เป็นสตรีที่เขาชอบอยู่เสมอไม่ว่าจะส่วนเว้าส่วนโค้งที่เห็นได้จนเด่นชัดหรือจะเป็นความเด็ดขาดจริงใจก็ตามเขาจุมพิตหล่อนอย่างดูดดื่ม จนนรีกุลรู้สึกราวกับว่าหล่อนกำลังฝันไปหญิงสาวอดรู้สึกไม่ได้ว่าอุณหภูมิในเรือนกายร้อนผะผ่าวกับเวลานี้อยู่ในห้องอบซาวน่าก็ไม่ปานดวงหน้าคมเข้มของนัฐธวีร์ก้มลงตักตวงความหอมหวานจากน้ำตกสวรรค์ของหล่อนอย่างรวดเร็วนรีกุลครวญเสียงหวานยามเมื่อเวลานี้ชายหนุ่มก้มลงสำรวจซอนไซ้ซุกซนอยู่ตรงปากทางเข้าหว่างขาของหล่อน“ซี้ดดด” นรีกุลร้องสุดเสียงยามเมื่อเวลานี้ชายหนุ่มลากลิ้นสากขึ้นลงราวกับจะมุดร่องสวรรค์ของหล่อนลิ้นเหนียวลากไล้ไปมาจนเจ้าหล่อนอดรู้สึกกำซาบซ่านไปทั่วกายาไม่ได้นรีกุลกำผ้าปูที่นอนแน่นบามเมื่อเวลานี้ชายคนรักกำลังดอมดมดแกกุหลาบสีหวานในถ้ำอย่างหลงใหลนัฐธวีร์ปลดชั้นในตัวจิ๋วของ
ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์ งานแต่งงานของนรีกุลและนัฐธวีร์จัดขึ้นอย่างใหญ่โตอีกครั้งกรพจน์บิดาของเขาเชิญแขกมาทั้งตำบลเพื่อมาเป็นสักขีพยานให้กับบ่าวสาวห้องแต่งตัวเจ้าสาวภาพที่ปรากฎตรงหน้ากระจกบานใหญ่เป็นภาพของสตรีสวมชุดวิวาห์ยาวกรอมเท้าดวงหน้าหวานรูปไข่ คิ้วเรียวเข้มโค้งดั่งคันศร จมูกของหล่อนโด่งรั้นเชิดขึ้นริมฝีปากสีแดงระเรื่อดูน่าสัมผัสเวลานี้นรีกุลไม่นึกฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับนัฐธวีร์ใหม่อีกครั้งท่ามกลางความเห็นดีเห็นงามจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นรีกุลและนัฐธวีร์ผ่านอะไรร้าย ๆ มาตั้งมากมายหากหล่อนไม่มีกรพจน์ได้ช่วยเหลือเธอในวันนั้นอาจจะไม่มีนรีกุลหลงเหลืออยู่เลยนรีกุลอดรู้สึกขึ้นมาไม่ได้ว่าเวลานี้หล่อนช่างเป็นหญิงที่โชคดีที่สุดในโลกที่จะได้เป็นสะใภ้ตระกูลจิระชาญและในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ เธอกำลังจะเข้าพิธีมงคลสมรสกับสามีที่รักเธอสุดดวงใจพิธีแต่งงานของนรีกุลเป็นไปอย่างราบรื่น วันนี้นรีกุลดูงดงามมากในสายตาของนัฐธวีร์“ขอเชิญบ่าวสาวมาตัดเค้กได้”สิ้นเสียงพิธีกรที่ ได้รับเชิญมา นรีกุลสาวเท้าเข้ามายืนใกล้ๆ กับนัฐธวีร์หล่อนมองดูเค้กแต่งงานของเธออย่างไม่น
“งั้นเราเข้าไปข้างในกันเถอะคุณพ่อกับคุณแม่ท่านรอนานแล้วล่ะ” นัฐธวีร์กล่าวด้วยเสียงนุ่มนรีกุลมองมือของนัฐธวีร์ที่ยื่นมาทางหล่อน หญิงสาวนิ่งไปชั่วอึดใจในวันนี้ตั้งแต่ที่หล่อนเข้ามาเป็นสะใภ้ในบ้านของนัฐธวีร์ ไม่มีวันไหนที่หล่อนไม่เลือกเขา นรีกุลและสามีผ่านอะไรด้วยกันมามากมายไม่ว่าเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตจะดีหรือร้ายก็ตามแต่นรีกุลได้เตรียมใจและได้เลือกเส้นทางนี้เอง นั้นคือการได้อยู่กับสามีของหล่อนยอ่างนัฐธวีร์ ผู้ชายเพียงคนเดียวที่ชาตินี้ทั้งชาตินรีกุลจะรักนัฐธวีร์ตลอดไปเวลานี้นรีกุลเลือกแล้วว่าจะซื่อสัตย์ต่อหัวใจของตนเอง“นุ่นคุณฟังผมอยู่ไหม” นัฐธวีร์ถามย้ำเมื่อหญิงสาวยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่อย่างใจลอย“ค่ะวีร์ เราเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ” นรีกุลกล่าวพลางยื่นมือออกไปกุมมือของชายคนรัก“ครับคุณภรรยา” นัฐธวีร์กล่าวพลางพานรีกุลเข้าไปด้านในบ้านหลังใหม่ของพวกเขา“หนูนุ่น แม่เตรียมอาหารไว้แล้วล่ะ หนูคงหิวแล้วใช่ไหมจ้ะ” มารดาของนัฐธวีร์กล่าวอย่างไม่ถือตัวเหมือนแต่ก่อนนรีกุลที่เห็นดังนั้นชะงักไปเพียงเล็กน้อย หล่อนพยักหน้ารับคำมารดาของเขาอย่างรวดเร็ว“ไปเจ้าวีร์พาหนูนุ่นไปกินข้าวเสียซิ” ก
ไม่กี่วันต่อมาหมอเจ้าของไข้ก็ให้นรีกุลกลับบ้านได้ นัฐธวีร์ได้พานรีกุลออกมาขึ้นรถกลับไปบ้าน“นุ่นคาดเข็มขัดดี ๆ นะ” ชายหนุ่มเอ่ยหยอกล้อกับคนรัก ทว่าเขากลับมีสีหน้าจริงจังนรีกุลอดสงสัยขึ้นมาไม่ได้ กระนั้นดวงหน้าหวานยังคงแต้มรอยยิ้มกว้างอย่างเดิมนรีกุลเอื้อมมือคาดเข็มขัดนริภัย ไม่กี่นาทีต่อมานัฐวีร์ก็ขับรถพุ่งทะยานออกไป“เราจะไปไหนกันคะวีร์” นรีกุลเอ่ยถามอย่างสงสัยในตัวของสามีไม่น้อย“ไปที่ที่เป็นของเรา” นัฐธวีร์กล่าวด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง“ที่ที่เป็นของเรา” นรีกุลทวนคำตอบของชายคนรัก“เดี๋ยวนุ่นก็รู้เองล่ะน่า” นัธธวีร์บอกปัด“ก็ได้ค่ะวีร์” นรีกุลตอบ หล่อนเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ข้างคนขับรถยนต์ของนัฐธวีร์แล่นไปตามถนนใหญ่เรื่อย ๆในที่สุดรถขอองชายหนุ่มก็ไปหยุดอยู่หน้าบ้านหลังโตสไตล์มินิมอลหลังหนึ่ง“นุ่นตื่นได้แล้วครับ” นัฐธวีร์กล่าวพลางเขย่าตัวของหญิงสาวให้ตื่นขึ้น“คะ วีร์” หญิงสาวงัวเงียตอบออกมาด้วยเสียงอู้อี้“ถึงแล้วค่ะ ที่นี่แหละที่ของเรา” นัฐธวีร์กล่าวพลางเอื้อมปลดสายเข็มขัดนริภัยให้เธอนรีกุลลงจากรถอย่างรวดเร็วตามหลังนัฐธวีร์ สามีไปติด ๆ…ดวงตาคู่สวยของนรีกุลเบิกกว้างกว่าเดิม หล่
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณย่า นุ่นอภัยให้” นรีกุลตอบออกมาในที่สุด“แต่ผมว่าคุณอาควรมาขอโทษนุ่นด้วยตนเองนะครับ” นัฐธวีร์เอ่ยเสียงแข็งเขาจะไม่ยอมให้นรีกุลยอมอ่อนข้อให้คนในตระกูลของเขาอีกต่อไปแล้วอย่างไรเสียอัญมณีก็ควรมาขอโทษด้วยตนเองไม่ใช่หลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นมารดาปลอม ๆ เช่นนี้“หลานวีร์ อัญมณีเขา…” คุณย่าเอ่ยอย่างไม่ทันจบประโยคดี หยาดน้ำใสไหลคลอหน่วยตาของหญิงชรานัฐธวีร์และนรีกุลมองสบสายตากันอย่างรู้สึกสังหรณ์ในใจ“อัญมณี เขาเสียชีวิตแล้ว เมื่อเช้านี้” คุณย่าพูดเพียงเท่านั้นก็ปล่อยโฮออกมาทันทีจนผู้เป็นสะใภ้ต้องเข้ามาปลอบประโลม“พ่ออยากให้แกอภัยให้อาของแกสักครั้งนะวีร์” เสียงของกรพจน์อ่อนลงมากในเวลาเช่นนี้“แต่ที่คุณอาทำมันมากเกินการให้อภัย” นัฐธวีร์โต้เถียงกลับไปอย่างไม่ลดละ“พ่อเข้าใจ จริง ๆ พ่อก็ยังไม่ชอบใจกับการกระทำของเขาแต่อัญมณีถูกทำร้ายก่อนโดยบิดาของเขาเอง”“คุณพ่อหมายความว่ายังไงครับ” นัฐธวีร์ถามเสียงเข้มของนัฐธวีร์ทำให้ผู้เป็นบิดาเล่าความจริงบางอย่างออกมา“อัญมณีถูกคุณพ่อจับไปทดลอง ทำให้หล่อนกลายเป็นยักษ์ร้าย” กรพจน์เล่าเท้าความ“จับไปทดลอง” ชายหนุ่มทวนคำ“ใช่ ใช่พ่อของฉันรับอัญ
หยดน้ำใสไหลหยดออกมาจากดวงตาของนัฐธวีร์หล่นลงบนแขนขวาของนรีกุลแพขนตางอนยาวหนากระพือเปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า นรีกุลค่อย ๆ ลืมตาขึ้น“นุ่น คุณตื่นแล้วใช่ไหม”“นี่ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม” นัฐธวีร์ถามย้ำนรีกุลไม่ตอบอะไร หล่อนคลี่ระบายรอยยิ้มเล็กน้อยมือเรียวของนัฐธวรีร์กดออดเรียกพยาบาล เขากรอกเสียงลงไปตามสายอย่างรวดเร็ว“หมอครับ หมอครับ ภรรยาของผมฟื้นแล้วครับ” ชายหนุ่มกรอกเสียงลงไปฉับพลันพยาบาลสาวรีบเข้ามาตรวจดูคนไข้อย่างรวดเร็วนัฐธวีร์ถอยออกมาจากห้องพักพิเศษผู้ป่วยนอกให้แพทย์ได้เข้ามาตรวจนรีกุลได้อย่างเต็มที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้นัฐธวีร์ละสายตาจากหญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู“หนูนุ่นเป็นอย่างไรบ้างตาวีร์” ปลายสายเป็นมารดาของเขาโทรถามอาการของภรรยาสุดรัก“นุ่นปลอดภัยแล้วครับแม่” นัฐธวีร์กล่าวขึ้นแม่ดีใจด้วยนะตาวีร์ มารดาเขาตอบกลับมาด้วยความยินดี“ครับแม่” นัฐธวีร์น้ำตารื้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเขาอดรู้สึกดีใจขึ้นมาไม่ได้ว่าครอบครัวเขาเองก็เป็นห่วงภรรยาของเขาเหมือนกันชายหนุ่มสังเกตเห็นตอนที่กรพจน์ขับรถ เขามองแววตานั้นออกแววตานั้นคล้ายกับแววตาที่ผู้เป็นพ่อมองบุตรสาวความห่วงหา และห่วงใยที