LOGINพราวค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นจากห้วงนิทราที่แสนยาวนานและแสนสุขอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนสิ่งแรกที่เธอรู้สึกไม่ใช่ความว่างเปล่าข้างกาย แต่เป็นไออุ่นและน้ำหนักของแขนแกร่งที่โอบรอบเอวเธอไว้จากด้านหลัง ร่างสูงใหญ่ของคินนอนซ้อนอยู่ด้านหลังเธอ ลมหายใจอุ่นๆ ของเขาเป่ารดอยู่ที่ต้นคอ พราวขยับตัวเล็กน้อยเพื่อมองเขาให้ชัดขึ้น ในยามหลับ คินดูผ่อนคลายและไร้พิษสง แต่ถึงอย่างนั้นเค้าโครงใบหน้าที่คมคายและร่างกายที่กำยำใต้ผ้าห่มก็ยังคงฉายแววของความเป็นชายที่แข็งแกร่งและน่าหลงใหลความรู้สึกนี้...มันดีเหลือเกิน...ดีกว่าการตื่นขึ้นมาข้างๆ ธันมากมายนักกับธัน...ต่อให้คืนนั้นจะมีอะไรกันหรือไม่ก็ตาม...เช้ามาเธอก็มักจะตื่นขึ้นมาคนเดียวบนเตียงฝั่งของตัวเองเสมอ เขาคงตื่นไปทำงานหรือไปทำธุระของเขาโดยไม่เคยปลุก ไม่เคยบอกลา ไม่เคยมีแม้แต่สัมผัสเบาๆ เป็นการบอกว่าเขายังอยู่ตรงนั้นแต่กับคิน...เขากอดเธอไว้ตลอดทั้งคืน ราวกับว่าเธอคือสิ่งล้ำค่าที่เขาจะปล่อยให้ห่างกายไม่ได้เลยพราวนอนนิ่งๆ ซึมซับความรู้สึกดีๆ นี้อยู่นานหลายนาที ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงอย่างแผ่วเบาที่สุด เธอกล
จูบอันดูดดื่มนั้นเป็นเหมือนการปิดผนึกพันธะสัญญาบทใหม่ พราวถอนริมฝีปากออกมาอย่างเชื่องช้า แต่มือของเธอกลับเริ่มทำงาน เธอยันตัวขึ้น วางมือทั้งสองข้างลงบนแผงอกกำยำของคิน ก่อนจะเริ่มขยับสะโพกอีกครั้ง แต่ครั้งนี้จังหวะของเธอหนักหน่วงและรุนแรงขึ้นกว่าเดิม"อ๊ะ...อ๊ะ...อืมม์...คิน...มันลึก...ลึกมาก" พราวซี๊ดปากด้วยความเสียวซ่าน เธอกัดริมฝีปากล่างของตัวเองแน่น แอ่นกายรับแรงกระแทกจากด้านล่างที่เธอเป็นคนสร้างขึ้นเอง ทุกครั้งที่เธอกดสะโพกลงมา มันเหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นปราดจากปลายเท้าขึ้นมาถึงกลางกระหม่อมคินทำได้เพียงนอนนิ่งๆ ปล่อยให้เธอเป็นฝ่ายคุมเกมอย่างเต็มที่ สายตาของเขาจ้องมองทุกการเคลื่อนไหวของเธอไม่วางตา ภาพของผู้หญิงที่เขารักกำลังมอบความสุขให้เขาอย่างสุดฝีมือมันทั้งงดงามและกระตุ้นอารมณ์จนแทบบ้าแต่แล้ว...พราวก็ทำให้เขาต้องตกตะลึงอีกครั้งในจังหวะที่เธอยกตัวขึ้นจนเกือบสุด เธอกลับใช้ความแข็งแรงของแกนกลางลำตัวและกล้ามเนื้อต้นขา หมุนตัว 180 องศาอย่างชำนาญและลื่นไหล โดยที่แก่นกายของเขายังคงเชื่อมต่ออยู่ภายในร่างของเธอไม่หลุดออกไปแม้แต่นิดเดียว!"เชี่ย...พราว!" คินอุทานออกมาเสียงดัง เขารู้สึกได
"นี่ยังไม่ถึงครึ่งของที่ฉันต้องการเลยด้วยซ้ำ..."รอยยิ้มมุมปากของคินกว้างขึ้นเมื่อได้ยินคำประกาศิตที่แสนยั่วยวนนั้น แววตาของเขาที่มองมาไม่ได้มีเพียงความปรารถนาอีกต่อไป แต่ฉายแววของความท้าทายและความพึงพอใจอย่างที่สุด เขาชอบพราวในเวอร์ชั่นนี้...เวอร์ชั่นที่ไม่ต้องเสแสร้ง ไม่ต้องเก็บกด กล้าที่จะเรียกร้องในสิ่งที่ตัวเองต้องการ"งั้นก็ไปเอาต่อที่อื่นกัน" เขาพูดเสียงเรียบเด็ดขาด "ไปจากที่นี่"หัวใจของพราวกระตุกวูบ นั่นไม่ใช่แค่คำชวนไปมีเซ็กส์ต่อ แต่คือคำชวนให้เธอทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง...ทิ้งสามีที่นอนหลับอยู่ในบ้าน ทิ้งชีวิตเก่าๆ ที่จืดชืดและว่างเปล่าเธอไม่ต้องใช้เวลาคิดเลยสักวินาทีเดียว"รอแป๊บนึง" เธอพูดแล้วผละออกจากอ้อมแขนของเขา วิ่งขึ้นบันไดไปยังห้องนอนอย่างเงียบกริบ ปลายเท้าของเธอแทบไม่สัมผัสพื้นภาพของธันที่ยังคงนอนหลับอุตุอยู่บนเตียงไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกผิดอีกแล้ว มีแต่ความรู้สึกสมเพชและโล่งใจ พราวเปิดตู้เสื้อผ้า คว้าชุดชั้นในหลายๆ ตัว ชุดเดรสที่ชอบอีกสองสามชุด และของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นใส่ลงในกระเป๋าเดินทางใบเล็กอย่างลวกๆ เธอไม่ได้หันไปมองร่างบนเตียงอีกเลยขณะที่ปิดประตูห้องนอนตามหลั
แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงส่องสว่างเพียงพอให้พราวเห็นแผ่นหลังของธัน สามีของเธอ ที่หันให้กับเธออย่างไม่ไยดี เสียงกรนเบาๆ ที่เริ่มดังขึ้นเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า 'หน้าที่' ของเขาสำหรับคืนนี้ได้จบลงแล้วจบลง...ทั้งที่มันยังไม่ทันได้เริ่มสำหรับเธอด้วยซ้ำร่างกายของพราวยังคงร้อนรุ่ม ความต้องการที่ถูกจุดขึ้นมาอย่างลวกๆ แล้วดับไปดื้อๆ ทำให้เธอรู้สึกค้างเติ่งและหงุดหงิดจนแทบบ้า หยาดน้ำใสๆ ที่หลั่งออกมาจากกายเธอกลายเป็นเพียงเครื่องหมายของความผิดหวัง มันเหนียวเหนอะหนะและน่ารังเกียจเมื่อปราศจากความสุขสมที่ควรจะตามมา"เสร็จแล้วนะ" คือประโยคเดียวที่เขาพูดหลังจากขยับกายอยู่บนร่างเธอไม่ถึงห้านาที ไม่มีการเล้าโลม ไม่มีการโอบกอด ไม่มีแม้แต่จูบเดียว เขาแค่ทำมันให้จบๆ ไปเหมือนเป็นภารกิจที่น่าเบื่อหน่าย แล้วก็พลิกตัวหนีไปทันทีที่ปลดปล่อยความใคร่ของตัวเองเสร็จสิ้นมันเป็นแบบนี้...ทุกครั้งพราวนอนนิ่งๆ จ้องมองเพดานมืด น้ำตารื้นขึ้นมาอีกจนได้ ไม่ใช่ความเสียใจ แต่เป็นความโกรธ โกรธในความเย็นชาของเขา และโกรธตัวเองที่ต้องมาทนอยู่ในสภาพแบบนี้และในความมืดมิดนั้นเอง...ภาพของคินก็ฉายชัดขึ้นมาในหัวเธอจำได้ถึงสัมผัสของเขา
เสียงคลื่นกระทบฝั่งเบาๆ เป็นเพลงกล่อมราตรีที่พูลวิลล่าสุดหรูในหัวหิน แต่สำหรับ ‘พราว’ แล้ว มันคือเสียงที่ตอกย้ำความเงียบเหงาในหัวใจ ‘ธัน’ สามีของเธอนอนหมดสภาพอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นตั้งแต่หัวค่ำ หลังจากดื่มหนักกับเพื่อนๆ ที่ตามมาสมทบและเพิ่งกลับไป ทิ้งให้เธออยู่ตามลำพังกับ ‘คิน’ เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของธันที่ค้างคืนด้วยกันที่นี่คินเดินออกมาจากห้องนอนของเขาในชุดเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นสบายๆ ในมือถือแก้ววิสกี้มาด้วย เขาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้หวายตรงข้ามเธอ แสงจันทร์สาดส่องลงบนร่างกำยำของเขา เผยให้เห็นมัดกล้ามเนื้อใต้ร่มผ้าที่ดูแตกต่างจากสามีของเธอโดยสิ้นเชิง"ไอ้ธันมันหลับยาวแน่คืนนี้" คินพูดขึ้น ทำลายความเงียบ "ปล่อยมันไปเถอะ คุณมานั่งตากยุงทำไมตรงนี้"สายตาของเขาที่มองมามันมีความหมายบางอย่างซ่อนอยู่...บางอย่างที่พราวคุ้นเคยดี มันเป็นสายตาที่เธอได้รับจากเขาเสมอเวลาที่ธันเผลอ...สายตาของนักล่าที่มองเหยื่อ"ก็แค่...ออกมานั่งรับลมน่ะ" พราวตอบเสียงเบา ก้มหน้าหลบสายตาคมกริบคู่นั้น"ลมมันแรงนะ...ข้างในอุ่นกว่า" เขายกแก้วขึ้นจิบ ดวงตายังไม่ละไปจากเธอ "หรือว่า...คุณไม่ได้หนาวกาย แต่หนาวใจ"คำพ
"อื้อ...พี่ขา..ทนไม่ไหวแล้วรีบเย็ดหนูเถอะ..อ๊าส์...."ส้มเริ่มทนไม่ไหว “เมื่อกี้ว่ายังไงนะ…”เสียงเขากดต่ำติดพร่า มือที่ลูบหน้าท้องเธอเปลี่ยนเป็นกดแน่นริมฝีปากเขาขยับกระซิบชิดแก้มเธอ จนลมหายใจอุ่น ๆ เป่าข้างหู“พูดอีกทีซิ ส้ม…พี่จะได้จัดให้สมใจ”เธอหลับตาแน่น รู้ทั้งรู้ว่ากำลังจะโดนกระแทกอีกรอบ แต่ใจดันเต้นเหมือนจะระเบิดออกจากอกซะงั้นพอเขาจับขาเธอแยกออก พร้อมยกขึ้นพาดบ่า ร่องที่เปียกชื้นเยิ้มอยู่ก่อนแล้วก็เปิดออกโชว์อย่างชัดเจนกลีบแดงอมชมพูฉ่ำร้อน ราวกับมันร้องเรียกเขาอยู่แล้ว…แท่งเนื้อแข็งร้อนที่เธอติดใจ ก็ถูกจับมาจ่อพรวดตรงปากร่องแบบไม่ให้ได้ตั้งตัวซวบ!!“อ๊าาาา!! พี่พล!!”เธอผวา แอ่นตัวแทบลอยจากเตียงทันทีที่ลำใหญ่ดันพรวดเข้ามาทีเดียวมิดสุดโคนเสียงเนื้อกระทบกันดัง ปั่ก หนัก ๆ แถมร่องยังตอดรัดแน่นเหมือนกลืนเขาเข้าไปทั้งลำ“เงี่ยนขนาดนี้ ยังจะบอกว่าไม่ควรอีกไหมหื้ม…”เขากัดฟัน แนบตัวลงมาแนบอก เธอเห็นเส้นเลือดตรงลำคอเขานูนเพราะแรงกลั้น“ของหนูนี่แม่ง…โคตรแน่น…จะบีบควยพี่จนแตกอยู่แล้ว…”เขาเริ่มซอย…ไม่เบาเลยด้วยแต่ละจังหวะกระแทกหนัก ลึก เสียงดัง ปั่กๆๆๆ จนผ้าปูเตียงยับยู่ยี่“อ๊







