ตอนที่ 3 หยุดเรียกลุงได้แล้ว
เสียงนาฬิกาแขวนบนผนังยังเดินเป็นจังหวะช้า ๆ ขณะที่ภายในห้องครัวยังอบอวลสู้ความอบอุ่นจากอ้อมแขนของชายตรงหน้าได้เลย แคทยังคงนั่งซบอยู่ในอ้อมแขนของอีธาน กลิ่นผิวกายของเขาเองที่ทำให้เธออยากซุกตัวอยู่ตรงนี้นาน ๆ โดยไม่ต้องลุกไปไหน เขาขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะจับคางเธอให้เงยหน้าขึ้นสบตาเขา “ฉันไม่เคยรู้สึก มีชีวิตชีวาขนาดนี้มานานแล้วแคท” เธอยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร เขากลับเอานิ้วแตะริมฝีปากเธอเบา ๆ แล้วพูดต่อด้วยเสียงทุ้มจริงจัง “แต่ หยุดเรียกลุงได้แล้วนะ” “อ้าว ทำไมล่ะคะ หนูก็ชอบเรียกแบบนั้นนี่นา มันติดปากแล้ว” เธอขมวดคิ้วนิด ๆ “เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันแก่เกินไปสำหรับเธอ” เขาหัวเราะเบา ๆ แต่แฝงด้วยความจริงใจ “ตอนที่เธอคร่อมอยู่บนตัวฉัน เธอไม่ใช่เด็กคนนั้นที่แอบมาเล่นกับแมวอีกต่อไปแล้ว เธอเป็นผู้หญิงของฉันเต็มตัว และฉันก็ไม่อยากให้เราอยู่ในสถานะ คุณลุงกับเด็กข้างบ้านอีกต่อไป” แคทนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะยิ้มบาง ๆ “งั้น...ให้แคทเรียกชื่อคุณแทนได้มั้ยคะ” เธอถาม พลางใช้นิ้วไล้แผ่วเบาที่ต้นคอเขา “อีธาน” เขาตอบทันที “เรียกฉันว่าอีธานทุกครั้งที่เธออยากจะจูบ อยากจะกอดหรือแม้แต่เวลาที่เธออยากจะควบฉันอีก” เธอหัวเราะอย่างเขิน ๆ พลางซบหน้าลงกับอกเขา “อีธาน” เธอกระซิบเรียกเสียงเบา “แค่พูดชื่อคุณ หนูก็รู้สึกเหมือนได้ครอบครองคุณทั้งตัวแล้ว” เขาเงียบไปชั่วครู่ มือใหญ่ลูบแผ่นหลังเธอเบา ๆ ก่อนจะกระซิบใกล้หู “ฉันเป็นของเธออยู่แล้วแคท...ตั้งแต่วันแรกที่เธอเดินเข้ามาในบ้านหลังนี้พร้อมเสียงหัวเราะของเธอ และแมวพวกนั้นก็รักเธอก่อนฉันซะอีก” เธอยิ้มแล้วเชยคางเขาขึ้น “งั้นวันนี้ อีธานเป็นของหนูทั้งวันเลยนะคะ” ดวงตาของเขาฉายแววอ่อนโยนแต่แฝงด้วยไฟปรารถนา เขาโน้มตัวลงมาใกล้จนปลายจมูกชนกับเธอ “แล้วแคท อยากให้ฉันทำอะไรให้บ้างในฐานะของที่รัก ไม่ใช่คุณลุง” แคทตอบเขาด้วยรอยยิ้มและการประทับริมฝีปากลงไปอีกครั้ง จูบที่ไม่ร้อนแรงแบบเมื่อครู่ แต่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่อ่อนโยน ลึกซึ้งและซื่อตรงต่อความรู้สึกมากยิ่งกว่าใด ๆ หลังจากจูบจบลง เขาลูบผมเธอเบาๆ “อยากออกไปเดินเล่นมั้ย” “กับคุณ” “กับอีธานของแคท” เขายิ้ม เธอพยักหน้าช้าๆ แล้วกอดเขาแน่นอีกครั้ง ช่วงเย็นวันนั้น ทั้งคู่พากันออกไปเดินเล่นรอบหมู่บ้าน แคทใส่เสื้อยืดเอวลอยเข้ารูปกางเกงขาสั้นทำให้ขาเรียวของเธอโดดเด่นจนคนผ่านไปมาต้องเหลียวมอง “คนมองแคทกันเต็มเลย” เขาบ่นเสียงต่ำ “ก็หนูสวยนี่คะ” เธอตอบยิ้มๆ “แต่ก็มีแค่อีธานคนเดียวเท่านั้นที่ได้จับ” เธอเอ่ยบอกเขา เขากลืนน้ำลาย “ถ้าเธอพูดแบบนี้อีกครั้ง ฉันจะลากเธอกลับไปที่ห้อง และกดที่เตียงทันที” “ก็อยากให้ทำอยู่พอดีเลยค่ะ” เธอหัวเราะ เมื่อกลับถึงบ้าน อีธานทำอาหารง่ายๆ ให้เธอกิน สปาเก็ตตี้เนื้อที่เขาทำอย่างพิถีพิถัน แคทนั่งมองเขาขณะทำอาหารด้วยสายตาเปล่งประกาย “ไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้ชายที่ดูนิ่งๆ จริงจังแบบคุณ จะทำอาหารเก่งขนาดนี้” “เธอจะได้รู้มากกว่านี้อีก ถ้าอยู่กับฉันต่อไป” “แคทตั้งใจจะกินคุณทั้งตัวทุกมื้อเลย” เธอยิ้มหวาน เขาหัวเราะในลำคอ เดินเข้ามาหาแล้วกระซิบชิดใบหู “คืนนี้ฉันจะเป็นฝ่ายควบคุมเธอบ้างแล้วกันนะ ลูกแมวตัวร้ายของฉัน” เวลาล่วงเข้าสี่ทุ่มกว่าแล้ว… บ้านเงียบสนิท เหลือเพียงเสียงแอร์ที่ครางเบาๆ ในห้องนอนของแคท และแสงจากหน้าจอมือถือที่ยังสว่าง แคทลุกขึ้นจากเตียงอย่างเงียบเชียบ ก่อนจะหยิบเสื้อคลุมบางๆ มาสวมทับชุดนอนตัวสั้นที่แทบปิดไม่มิดต้นขา กลั้นหายใจเดินผ่านประตูห้อง เปิดแง้มบานหน้าต่างด้านข้างแล้วสอดตัวออกช้าๆ เหมือนเคย… เธอรู้ทาง รู้เวลาที่พ่อกับแม่หลับสนิทดีแล้ว ปลายเท้าเปล่าๆ เหยียบพื้นหญ้านิ่มๆ ในสวนกลางคืนก่อนจะเดินอ้อมไปยังแนวรั้วข้างบ้าน ที่มีช่องลับเล็กๆ อยู่ตรงพุ่มไม้ เธอก้มลง มุดตัวลอดผ่านด้วยหัวใจเต้นระส่ำ อีกไม่กี่ก้าว...เธอก็จะได้อยู่กับเขา แคทหยุดหน้าประตูบ้านหลังใหญ่สีขาว เปิดมันอย่างเบามือ และอย่างที่คาดไว้ ไฟตรงห้องนั่งเล่นยังเปิดอยู่รางๆ กลิ่นหอมประจำตัวของเขาอวลทันทีที่เธอก้าวเข้าไป อีธานกำลังนั่งเอนอยู่บนโซฟา หนังสือเล่มหนาในมือ เขาเงยหน้าขึ้นช้าๆ มองเธอที่ยืนอยู่ในชุดบางจนแทบเห็นทุกส่วนใต้ไฟสลัว “แคท...” เสียงเขาทุ้มต่ำเหมือนลมหายใจ “ยังไม่นอนเหรอคะ…” เธอยิ้มอย่างรู้ทัน “รอเธออยู่...” เขาวางหนังสือลง แล้วค่อยๆ ลุกขึ้นเต็มความสูง เธอก้าวเข้าไปใกล้ ลมหายใจอุ่นของเขาปะทะกับหน้าผากเธอ มือใหญ่ยกขึ้นจับแก้มเธอเบาๆ “มาคนเดียวแบบนี้...ไม่กลัวหรือไง” “กลัว...” แคทตอบเบาๆ “แต่ยิ่งกลัวก็ยิ่งอยากมา...” เขาก้มลงจูบเธอทันที ริมฝีปากนุ่มบดเบียดเข้าหาเธออย่างกระหาย แขนแข็งแรงรวบร่างเธอเข้ามาแนบอก ก่อนจะอุ้มขึ้นทั้งตัวโดยไม่รอฟังคำขอ เขาพาเธอเดินตรงไปยังห้องนอนที่อยู่ชั้นบน... คืนนี้เขาจะเป็นฝ่ายควบคุมทั้งหมด ประตูห้องนอนปิดลงตามหลังพวกเขา อีธานวางร่างบางของเธอลงกลางเตียงใหญ่อย่างนุ่มนวล แต่ดวงตาเขากลับไม่อ่อนโยนอย่างเคย สายตาคมเข้มนั่นจ้องลึกจนแคทรู้สึกเหมือนถูกกลืนกิน “คืนนี้...ฉันจะควงคุมเธอบ้าง” เขากระซิบชิดใบหู มือใหญ่เริ่มไล้จากต้นแขนลงสู่สะโพกเธออย่างแน่วแน่ แคทอมยิ้ม ลิ้นเล็กแตะริมฝีปากตัวเองเบาๆ ก่อนกระซิบตอบ “ค่ะ…อีธาน” คำพูดของเธอจุดไฟบางอย่างในดวงตาเขา เขาก้มลงจูบริมฝีปากของเธออีกครั้ง แต่ครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้งก่อน ลิ้นร้อนของเขาแทรกเข้าไปกวาดต้อนทุกความหวานในปากเธอ มือหนาลูบลงไปตามต้นขาเปลือยที่พ้นชายชุดนอนบางๆ อย่างจงใจ เสียงครางเบาๆ หลุดจากลำคอเธอเมื่อเขาใช้ปลายนิ้วลากขึ้นลงตามเรียวขาด้านใน ก่อนจะค่อยๆ แทรกเข้าไปใต้ผ้าบาง “รู้ใช่ไหม ว่าชุดนอนแบบนี้มันอันตรายสำหรับเธอมากเวลาอยู่กับฉัน…” เขาพึมพำ ขณะนิ้วแตะจุดกลางกายที่เปียกชื้นของเธออย่างแม่นยำ แคทสะดุ้งน้อยๆ มือข้างหนึ่งจิกลงบนอกแกร่งที่ยังใส่เสื้อยืดไว้ อีธานแทรกตัวขึ้นคร่อม ใช้เข่ากดต้นขาเธอออกจากกัน และเมื่อเธอเผยอเรียวขาอ้าออกโดยไม่ขัดขืน “อีธาน...” เธอเรียกเสียงพร่า “หืม” “ทำเลย หนูอยากให้คุณ...ทำทุกอย่างกับหนู บนร่างกายหนู” รอยยิ้มที่มุมปากเขาปรากฏ ก่อนจะจับมือเธอมาวางตรงเป้ากางเกงนอนของเขา และบีบมือเธอเบาๆ ให้รู้ว่าข้างในมันแข็งขนาดไหน แคทเบิกตากว้างน้อยๆ ก่อนจะยิ้มรับอย่างท้าทาย อีธานไม่พูดอะไรอีก เขาดึงเสื้อยืดตัวเองออก ขว้างทิ้งไปข้างเตียง กล้ามอกแน่นเป็นลอนภายใต้แสงสลัวช่างเย้ายวนจนเธออดไม่ได้จะยื่นมือไปสัมผัส แต่เขาจับข้อมือเธอไว้ แล้วกดเธอลงกับเตียงด้วยน้ำหนักตัวครึ่งหนึ่ง “คืนนี้…ฉันจะเป็นคนคุมเกม เข้าใจไหมแคท” เธอกัดริมฝีปากแล้วพยักหน้าช้าๆ ใบหน้าแดงระเรื่อเต็มไปด้วยความคาดหวัง แคทยังหายใจถี่ มือถูกตรึงเหนือศีรษะโดยมือใหญ่ของเขา ขณะที่อีกมือหนึ่งของ อีธานค่อยๆ เลื่อนลงมาใต้ชุดนอนบางอย่างเชื่องช้า สายตาคมของเขายังจ้องเธอไม่กะพริบ "เธอรู้ตัวใช่ไหม ว่ามาขนาดนี้แล้ว ไม่มีถอยแล้วนะ" เสียงเขาหนักแน่น ชวนสั่นสะท้านไปทั้งร่าง แคทพยักหน้าเบาๆ ริมฝีปากเผยอครางเมื่อปลายนิ้วอุ่นลากผ่านจุดอ่อนไหวใต้กางเกงชั้นในที่เปียกชื้นจนแนบสนิทไปกับผิว อีธานแหวกผ้าบางนั้นออก ดึงมันลงในคราวเดียว ชุดนอนบางหลุดพ้นตัวอย่างง่ายดาย เหลือเพียงความเปลือยเปล่าของเรือนร่างที่คืนนี้เขาจะได้ครอบครองทุกส่วน เขาเลื่อนตัวลง ลิ้นร้อนแตะสัมผัสที่ยอดอกสีสวยจนเธอแอ่นตัวตามอัตโนมัติ เสียงครางนุ่มเบาหลุดจากลำคอ ร่างกายเธอสั่นไปหมดโดยไม่ต้องให้เขาพูดอะไรอีก มือของเขาลูบไปตามสะโพกกลมกลึง ก่อนจะจับต้นขาแยกออกช้าๆ แล้วฝังหน้าลงไปตรงกลางกายเธอโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า "อี…อีธาน!" แคทร้องเสียงหลง ทั้งสะดุ้งทั้งเสียวจนขาแทบจะหนีบหัวเขาไว้ เขาไม่สนใจ เขายังใช้ปลายลิ้นกวาดเลียไปทั่วกลีบเนื้อชื้นเยิ้มสลับกับดูดดุนตรงจุดกระสันอย่างเชี่ยวชาญ "หวาน." เขาพึมพำเบาๆ ขณะเงยหน้าขึ้นมา ริมฝีปากเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำหวานจากตัวเธอ แคทแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเธอกำลังร้องครางเสียงหลง มือจิกผ้าปูที่นอนแน่น ร่างบิดเร่าด้วยความเสียวซ่านอย่างไม่อาจควบคุมได้ แล้วอีธานก็กดตัวขึ้นมาคร่อมอีกครั้ง เขาจูบริมฝีปากเธอแรงจนรู้สึกเหมือนจะกลืนลมหายใจ "พร้อมหรือยัง" เขาถามเสียงพร่า แคทไม่พูดอะไร แค่ยกขาข้างหนึ่งเกี่ยวสะโพกเขาไว้แน่น เขาก็กดแนบท่อนเนื้อใหญ่ชิดลงมาแนบกลางร่างเธอ มันแข็งขืนและอุ่นร้อนชัดเจนว่าเขาต้องการเธอแค่ไหน จากนั้นเขาก็จับแท่งร้อนแข็งของตัวเองจ่อเข้ากับปากทางของเธอ แล้วกดเข้าไปช้าๆ จนหมด เสียงครางยาวๆ หลุดจากปากเธออย่างห้ามไม่ได้ ความแน่นรัดของร่างบางที่ดูไร้เดียงสานั้นเกือบทำเขาควบคุมตัวเองไม่อยู่ เขาเริ่มขยับ สร้างจังหวะที่ลึกและหนักในทุกครั้งที่สอดใส่ ร่างเธอกระเพื่อมตามแรงกระแทกทุกครั้งจนเตียงสั่นคลอน เสียงเนื้อกระทบเนื้อ ดังก้องไปในห้องนอน "แคท...เธอทั้งแน่น ทั้งอุ่น...ทำเอาฉันแทบบ้า" เขาครางต่ำขณะเร่งจังหวะหนักขึ้นเรื่อยๆ แคทแทบตอบเขาไม่ได้แล้ว เธอแค่ร้องครางกับทุกครั้งที่เขากดลึก ใบหน้าหวานแดงจัด หายใจสะดุด ร่างกายเหมือนจะแตกสลายได้ทุกวินาที เสียงเตียงยังคงสั่นคลอนตามจังหวะของร่างใหญ่ที่บดขยี้ร่างเธออย่างไม่ปรานี อีธานจับสะโพกเธอไว้แน่น แล้วกระแทกเข้ามาลึกจนแคทร้องเสียงหลง มือเธอเกาะบ่ากว้างของเขาไว้แน่นเล็บจิกลงไปกับผิวร้อนๆ อย่างลืมตัว “อีธาน...เร็วอีก...แรงอีก…” เสียงเธอสั่นพร่า ทั้งเรียกร้องทั้งวิงวอนในคราวเดียว เขาไม่รอให้เธอพูดซ้ำ จับเธอพลิกตัวขึ้นนั่งคร่อมบนเขาโดยที่ยังไม่หลุดออกจากกัน แคทเบิกตาเล็กน้อยกับจังหวะที่เขากดลึกจนถึงสุดปลาย แล้วแหงนหน้าครางอย่างลืมตัว “ขึ้นให้ฉัน แคท…” เขากระซิบเสียงแหบพร่า จับเอวเธอไว้แน่น แล้วปล่อยให้เธอเป็นฝ่ายขย่มเขาบ้าง เธอส่ายสะโพกอย่างไม่รีรอ ร่างเปลือยขยับขึ้นลงเป็นจังหวะสวยงาม เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังรัวเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนเหมือนทำนองของความลุ่มหลงที่ไม่มีใครอยากหยุด “คุณ...คุณใหญ่เกินไป” เธอพร่ำพึมพำ แต่กลับยังโยกตัวหนักขึ้นเรื่อยๆ จนเสียงครางจากปากเขาดังตามมา “ก็ยังขย่มไม่หยุดนี่…” เขากัดฟันพูด จับเอวเธอแน่นจนร่างเธอสั่น แล้วกดสะโพกขึ้นสวนกลับแรงๆ “อ๊ะ อีธาน…!” เธอกรีดร้องเสียงหลง เมื่อลำร้อนกระแทกเข้าใส่ตรงจุดลึกสุดซ้ำๆ จนเธอแทบจะระเบิดความรู้สึกในที่เสียวซ่าน เขารั้งเธอลงมาแนบอก แล้วพลิกเธอลงกับเตียงอีกครั้ง คราวนี้เขาโถมเข้าใส่เธอเต็มแรง ทั้งหนักทั้งลึกและไม่ปรานี เสียงเตียงกระทบกำแพงอย่างรุนแรง ยิ่งกระตุ้นให้ทั้งสองปลดปล่อยความต้องการกันอย่างไม่ยั้ง “เธอรู้ไหม ว่าเธอทำให้ฉันเสพติดขนาดไหน…” “รู้…รู้แล้ว…แต่…แต่หนูก็หยุดรักคุณไม่ได้เหมือนกัน…” เสียงครางกระซิบ ริมฝีปากร้อนจูบจุดอ่อนไหวสลับไปทั่ว จนกระทั่งถึงช่วงท้ายที่สุดที่ร่างกายทั้งสองใกล้จะถึงขีดสุด อีธานก้มลงมองเธอ มือจับคางเธอไว้ให้สบตากับเขา “มองฉันไว้ ตอนที่เธอเสร็จฉันอยากเห็นหน้าเธอชัดๆ” “อี อีธาน…” เขากระแทกสุดแรงอีกครั้ง และอีกครั้งแล้วทุกอย่างก็ระเบิด เสียงครางหลุดจากทั้งสองร่างในเวลาไล่เลี่ยกัน แคทร้องกรีดสุดเสียงเมื่อร่างกระตุกแรงไปทั้งตัว ขณะที่อีธานกัดฟันครางต่ำ ปลดปล่อยความร้อนเข้าไปในกายเธอจนล้นทะลัก เขาโน้มตัวลงแนบหน้าผากกับเธอ ทั้งสองหายใจถี่หนักบทที่ 2 “ทำเรื่องที่ผัวเมียเขาทำกันไงดาว” จ๊วบ ๆ จ๊วบ ๆปากสวยอ้าค้าง ใบหน้าของเธอเริ่มแดงก่ำ เมื่อถูกจู่โจมพร้อมทั้งบนและล่างอย่างนี้ใครมันจะไปทนไว้ ร่างบางถึงกับสั่นระริก เพราะนิ้วหยาบกร้านของเขามันขยี้ติ่งเสียวของเธอไม่หยุด สัมผัสของเขามันทำให้เธอเคลิบเคลิ้มอยากจะร้องห้าม แต่เสียงที่เปล่งออกมากลับเป็นเสียงครวญครางไม่ได้ศัพท์ จนช่องทางรักของเธอฉ่ำแฉะ นับดาวเป็นผู้หญิงที่จุดติดง่าย แค่โดนสัมผัสวาบหวิวนิดหน่อยเธอก็มีอารมณ์ร่วมแล้ว แต่เพราะเธอไม่ค่อยมีเวลางานพริตตี้ของเธอกำลังรุ่ง เธอจึงไม่ค่อยได้ทำเรื่องอย่างว่ากับแฟน…“อ๊ะ…อ๊าาา” นับดาวเสียวกายสั่นสะท้าน เมื่อนิ้วใหญ่ของเขาค่อย ๆ สอดเขามาในรูรักของเธอ เสียงครางของนับดาวช่างหวานกระเส่า จนชายหนุ่มต้องผละหน้าออกจากเต้าสวย มองใบหน้าแดงก่ำทั้งสองสบตากันใต้แสงไฟสลัดสีส้มอ่อน แววตาหยาดเยิ้มเป็นประกายดึงคนทั้งสองจมดิ่งสู่ห้วงอารมณ์ปรารถนานับดาวยกแขนขึ้นไปคล้องต้นคอรั้งคนตัวใหญ่ให้ลงมาจูบ ลิ้นเล็กของเล็กจงใจสอดแทรกเข้าโพรงปากใหญ่ให้เขาดูดเลียความหวาน ส่วนนิ้วร้ายยังคงขยับเข้าออกแรงขึ้น ขาเรียวแยกออกจนกว้าง เนินสวาทฉ่ำแฉะติ่งเสียวของเธอ
บทที่ 1“นับดาว มึงรีบหนีไปก่อนเดี๋ยวกูรับหน้าเสี่ยเอง”“มึงจะให้กูหนีไปไหน กูไม่ผิดกูไม่ได้เป็นคนเอาเงินเสี่ยไป” นับดาว พริตตี้สาวสวยหุ่นดี กำลังเครียดอย่างหนัก เพราะแฟนหนุ่มของเธอรับเงินจากเสี่ยมาก้อนใหญ่ เพื่อทำงานบางอย่าง แต่มันกลับไม่ทำงานให้เสี่ย แล้วหอบเงินหนีหายไป และเธอก็ติดต่อไม่ได้มันทำให้เธอพลอยซ่วยไปด้วยเพราะเสี่ยกำลังส่งคนตามมาเล่นงานเธอ “แต่แฟนมึงเอาเงินเสี่ยแล้วหายไปแบบนี้ เสี่ยเขาต้องสงสัยมึงอยู่แล้ว มึงก็รู้ว่าเสี่ยโหดไหน” แก้วตาเพื่อนสนิทของเธอพูด นับดาวคิดไตร่ตรองดูถึงความโหดของเสี่ยที่เธอเคยเห็นไม่ว่าจะเป็นจับไปขังแล้วซ่อม หรือถ้าเป็นผู้หญิงคงโดนจับให้พวกลูกน้องรุมโทรมแน่ ๆ นับดาวยิ่งคิดก็เสียวสันหลังวาบทันที“แล้วกูจะหนีไปไหนรอด เสี่ยมีอิทธพลขนาดนี้”“เสี่ยมีพวกอยู่แค่ภาคกลางและใต้ มึงขึ้นเหนือไปหรือไม่ก็อีสาน หาที่หลบก่อน” “เออ ๆ” นับดาวเชื่อตามที่เพื่อนบอกเธอรีบเก็บเสื้อผ้าและของของที่จำเป็นยัดใส่รถแล้วขับออกไปทันที หลังจากเธอขับรถออกไปได้ไม่นาน เสี่ยและพวกก็ขับรถเข้ามา พร้อมกลับลากร่างของ กาย แฟนของนับดาวที่สภาพยับเยินมาด้วย แก้วตารีบปรี่เข้าไปประคองกายท
บทที่ 4สองร่างนอนกอดก่ายกันเกือบจะฟ้าสาง ร่างบอกบางของกะรัตซุกเข้าหาไออุ่นจากร่างใหญ่ที่โอบกอดเธอไว้แนบอก“เธอจะกลับแล้วเหรอเขต”“ครับ ผมมีเรียนเช้า”“แล้วเธอจะหายไปอีกไหม” ใบหน้าสวยแหงนมองชายหนุ่ม จากนั้นร่างใหญ่จึงได้ก้มมาจุมพิตที่หน้าผากสวย “ถ้าพี่กะรัตเจอผมทุกวันจะเบื่อไหม” “ไม่ ทำไมเหรอ”“เปล่า ผมกลัวพี่จะเบื่อหมาเด็กอย่างผม”“พี่กลัวเธอจะเบื่อ ผู้หญิงที่อายุเยอะกว่าอย่างพี่มากกว่า”“ใครบอก ผมชอบพี่ขนาดนี้”ไม่นานชายหนุ่มร่ำลาหญิงสาวแล้วออกมาจากบ้านของเธอตอนใกล้รุ่งสาง พี่กะรัตวันนี้ดูสดใสอารมณ์ดีจังนะคะ สาว ๆ แผนกต้อนรับของบริษัทเอ่ยทักทายทันทีที่เธอเดินเข้าบริษัทมา “จริงเหรอ” กะรัตลูบที่แก้มตนเองอย่างเขินอาย “พี่กะรัตดูแลตัวเองยังไงคะ ถึงได้สวยเหมือนสาวยี่สิบต้น ๆ แบบนี้” หนึ่งในกลุ่มสาว ๆ ถามเธอกะรัตยิ้มก่อนจะโน้มตัวแล้วป้องปากพูด“กินเด็กนะ” จากนั้นเธอก็เดินจากไป สร้างเสียงหวีดร้องจากกลุ่มสาว ๆ พวกนั้นพากันอิจฉาและชื่นชมเธอเป็นไอดอลเลยก็ว่าได้ภายในห้องทำงานของceoสาว “คุณกะรัตคะ นี้แฟ้มประวัติเด็กฝึกงานที่จะมาเริ่มฝึกวันนี้” เจ้าหน้าที่แผนกบุคคลวางเอกสารไว้บนโต๊ะทำงาน
บทที่ 3หลังจากคืนนั้น ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว กะรัตเอาแต่คิดถึงเด็กหนุ่มขับแท็กซี่วันนั้น ที่อยู่ต่อกับเธอทั้งคืน เธอเอาแต่คิดถึงใบหน้าที่หล่อเหลา และลีลาที่ถึงอกถึงใจทำให้เธออดคิดถึงเขาไม่ได้เลย แต่ความสัมพันธ์คืนนั่น ต่างคนต่างเต็มใจทั้งสองฝ่าย จะผิดไหมถ้าเธอจะเรียกร้องหรือติดต่ออยากเจอชายหนุ่มอีก กะรัตคิดไม่ตก จนเวลาล่วงเลยไปเกือบจะสามทุ่มแล้ว เธอจึงได้เดินเตรียมตัวที่จะกลับบ้าน แต่ความคิดถึงทำให้เธอเหม่อลอย จากที่ตั้งใจจะไปที่จอดรถ เธอกลับเดินมาหน้าบริษัท จู่ ๆ ก็มีรถแท็กซี่มาจอดเทียบ ทำให้หญิงสาวหลุดออกจากภวังค์“ให้ผมไปส่งไหมครับ” กระจกรถถูกลดลงพร้อมกลับใบหน้าหล่อเหลาที่เธอคุ้นตา “เขต..” กะรัตมีท่าทีแปลกใจเล็กน้อย แต่เธอดีใจมากกว่า“คิดว่าจะจำผมไม่ได้แล้ว”“.......” กะรัตนิ่งเงียบไม่ได้ตอบอะไร แต่ก็เปิดประตูด้านหลังแล้วขึ้นรถแท็กซี่ตามที่หัวใจเธอสั่งเขตต์มองเธอผ่านกระจกหลัง จากนั้นก็ขับรถออกมา ชายหนุ่มยังคงมองเธอที่เอาแต่เฉยชา ทำให้รู้สึกน้อยใจขึ้นมา เพราะตลอดหลายวันมานี้ เขตต์รัฐขอพ่อออกมาขับแท็กซี่ทุกคืน และจะมาจอดรอที่หน้าบริษัทเวลานี้ทุกวัน จนในที่สุดวันนี้เขาก็ได้เจอเธอค
บทที่ 2“แบบนี้พี่ชอบไหม”“อื้ออ..อ่าส์..ชะ ชอบ” เขตต์รัฐมองดูร่างที่เย้ายวนของหญิงสาวที่กำลังดิ้นเร่า ยิ่งเธอแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปาก เขายิ่งกลัดมันเร่งกระแทกข้อมือเข้าร่องของเธอรัว ๆ “ซี้ด…ดูร่านอะไรขนาดนี้” เขตต์รัฐสบถออกมาอย่างสุดกลั้น เมื่อเขามองท่าทียั่วยวนของเธอ“อ๊ะ…พี่จะถือว่าเป็นคำชมนะ” พูดจบมือเรียวก็กระชากชุดคลุมของชายหนุ่มเข้ามาจูบ เรียวลิ้นของทั้งสองเกี่ยวกระหวัดกันนัวเนีย ต่างฝ่ายต่างลูบไล้เรือนร่างของกันและกันอย่างลุ่มหลง “อืออ” เสียงจูบของทั้งสองดังจ๊วบ เมื่อเขตต์รัฐดูดปลายลิ้นเล็กของกะรัต จนร่างบางครางอืออ่าแทบขาดอากาศ“ยืนขึ้นหน่อย” กะรัตเอ่ยน้ำเสียงอ้อน ชายหนุ่มก็ทำตาม เขตต์รัฐยืนขึ้นเต็มความสูง พร้อมกับแอ่นดุ้นเอ็นแข็งจัด ที่กำลังชูชันดันชุดคลุมอยู่ กะรัตกระตุกปมที่มัดไว้ออกแหวกชุดคลุมไปด้านหลัง “อืม..ใหญ่จังเลยนะเขต” คำพูดที่แสดงถึงความร่าน ทำให้คนฟังหน้าแดงพร้อมเอ็นดุ้นใหญ่ก็ผงกหัวเชื้อเชิญ ให้เรียวปากสวยแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างทนไม่ไหว“ซี้ดด…” ใบหน้าหล่อเหลาเชิดขึ้นซี้ดปาก เมื่อมือเล็กของเธอจับลำโคนแล้วชักขึ้นลงจนหนังหุ้มปลายถอก หัวเอ็นสีชมพูอ่อนก็ปล่อย
บทที่ 1ในคืนที่ฟ้าฝนเม็ดใหญ่กระหน่ำตกแบบไม่ลืมหูลืมตา ณ บริษัทยักษ์ใหญ่ใจกลางเมือง “กะรัต” ซีอีโอสาวใหญ่วัยสามสิบเจ็ด เธอเลิกงานดึกกว่าพนักงานคนอื่น ๆ ในบริษัทเป็นประจำทุกวัน และวันนี้ก็เช่นกันเวลายี่สิบเอ็ดนาฬิกา กะรัตเตรียมตัวจะกลับบ้าน แต่ทว่าวันนี้รถยนต์ของเธอดันสตาร์ทไม่ติด “สงสัยแบตเตอรี่หมด” เธอพึมพำกับตนเอง และหยิบมือถือขึ้นมาเรียกแท็กซี่เพื่อจะได้กลับบ้าน หญิงสาวเดินลงมารอที่หน้าตึก ซึ่งตอนนี้ฝนก็กำลังกระหน่ำเทลงมาอย่างไม่ขาดสาย ละอองฝนสาดมาโดนเนื้อตัวจนเธอรู้สึกได้ถึงความชื้นไม่นานก็มีแท็กซี่คันหนึ่งมาจอดเทียบ คงเป็นคันที่เธอเรียกไว้ กะรัตขึ้นไปนั่งที่เบาะหลัง ก่อนจะยื่นหน้าไปแจ้งสถานที่ปลายทาง จึงได้สังเกตคนขับรถแท็กซี่คันนี้ เขายังดูอายุไม่เยอะเท่าไร แต่ป้ายประตัวที่ติดอยู่ที่รถกลับเป็นรูปชายสูงอายุซึ่งไม่ใช่ตัวเขา“ทำไมป้ายประจำตัวคันขับถึงไม่ใช่คุณคะ” กะรัตเอ่ยถามด้วยความสงสัย แท็กซี่หนุ่มมองเธอผ่านกระจกหลัง“นั่นพ่อผมเองครับ วันนี้แกไม่สบายผมเลยมาขับแทน” “อ๋อ..แล้วน้องมีใบขับขี่หรือเปล่าล่ะ”“มีสิครับ” ชายหนุ่มหยิบใบขับขี่หน้ารถส่งให้หญิงสาวดู “เขตต์รัฐ …” กะรัต