LOGINตอนที่ 4 ตอก ๆ ย้ำ ๆ ให้จำขึ้นใจ
แม้จะเป็นเพียงเช้าวันเสาร์ธรรมดา แต่บรรยากาศในบ้านของแคทกลับเต็มไปด้วยความอึดอัด เธอรับรู้ได้จากน้ำเสียงของแม่ที่เริ่มถามโน่นถามนี่มากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เธอแต่งตัวดีเกินไป หรือกลับบ้านช้ากว่าปกติ “แคท ช่วงนี้ลูกไปไหนบ่อยเหรอ” “ไปบ้านเพื่อนค่ะแม่” “เพื่อนชื่ออะไร อยู่แถวไหนเหรอ” แคทกลืนน้ำลายเล็กน้อย ใจเต้นแรง ไม่ใช่เพราะกลัวถูกจับได้เรื่องโกหก แต่เพราะเธอไม่พร้อมจะพูดความจริง เธอไม่พร้อมจะบอกว่าทุกคืนที่พ่อแม่หลับ เธอแอบมุดรั้วไปยังบ้านหลังข้าง ๆ เพื่อไปนอนกอดผู้ชายที่อ่อนกว่าพ่อเธอเล็กน้อย แต่กลับทำให้หัวใจเธอเต้นแรงทุกครั้งที่อยู่ใกล้ บ้านของอีธานเหมือนโลกอีกใบสำหรับแคท เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของกาแฟ กำแพงไม้สีเข้ม และแมวสายพันธุ์ต่างประเทศที่น่ารักเกินบรรยาย โดยเฉพาะเจ้าโซระ ที่ดูเหมือนจะติดเธอจนกระโดดขึ้นตักทุกครั้งที่เห็นหน้า เช้านั้นเธอแอบเดินเข้าบ้านอีธานตามปกติ แคทชอบเวลานั่งอยู่ในสวน เงียบๆ มีเสียงอ้อนและเดินไปมา แล้วมีอีธานนั่งอ่านหนังสือข้างๆ เธอ แต่แล้วจู่ ๆ เสียงเรียกจากหน้าบ้านก็ดังขึ้น “ขอโทษนะคะ...แมวของคุณหลงเข้ามาบ้านฉันค่ะ” เสียงที่เธอจำได้ดีว่าเป็น แม่ ของเธอ หัวใจแคทแทบหยุดเต้น เธอหันควับไปตรงทางเดินสวนและแน่นอน แม่ของเธอยืนอยู่ตรงนั้น พร้อมกับอุ้มเจ้าออสตินไว้ในอ้อมแขน แคททำอะไรไม่ถูก เธอลุกขึ้นทันที ถอยออกห่างจากอีธานที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ พยายามเก็บสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด “เอ่อ ขอบคุณมากครับ” อีธานลุกขึ้นรับแมวตัวสีขาวเสียงเรียบ “แคท ลูกมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” แม่ถามอย่างสงสัย “หนูแวะมาเล่นกับแมวค่ะ...แมวของคุณลุงน่านักขี้อ้อน หนูเลยมาดู” อีธานชะงัก หันมามองเธอทันที สีหน้าที่เมื่อครู่ยังเรียบนิ่งเริ่มเปลี่ยนเป็นแข็งขึ้นเล็กน้อย “ลุงเหรอ...” เขาพึมพำเบาๆ แคทเม้มริมฝีปากแน่น ไม่กล้าสบตาเขา “ขอบคุณนะคะที่ให้แคทแวะมาเล่นกับแมว เด็กคนนี้คลั่งแมวมาตั้งแต่เล็ก ๆ แล้ว” แม่ของเธอยังคงยิ้มสุภาพ ก่อนจะเอ่ย “ยินดีครับ” อีธานตอบเสียงเรียบ ไม่ได้หันมามองแคทอีกเลย หลังจากแม่กลับไป อีธานก็เดินเข้าไปในบ้านโดยไม่พูดอะไร แคทเดินตามเขาไปเงียบๆ แต่ก็รู้ดีว่าเขากำลังโกรธ หรืออย่างน้อย ก็เสียใจ “อีธาน หนู” “เมื่อกี้นี้เราดูห่างเหินกันมากเลยนะ” เขาพูดโดยไม่หันมา “หนู..ขอโทษ ก็แม่อยู่ตรงนั้น หนูไม่รู้จะทำยังไง” “เธออายที่จะบอกว่าเราเป็นอะไรกันใช่ไหม” คำพูดนั้นเหมือนใบมีดกรีดใจเธอ เธอรีบเดินไปคว้ามือเขาไว้แน่น “ไม่ใช่นะ...หนูแค่ยังไม่พร้อมจะเจอกับคำถามของพ่อกับแม่” “แต่เธอพร้อมจะมุดรั้วมาเล่นกับฉันทุกคืน” “หนู...ไม่ได้คิดว่าเรื่องของเราจะต้องบอกใครตอนนี้” เธอพยายามอธิบาย น้ำเสียงเริ่มสั่น อีธานหลบตา แล้วเดินเลี่ยงไปทำอย่างอื่น แคททำตัวไม่ถูกจึงได้เดินกลับบ้านมาก่อน เสียงจักจั่นร้องระงมอยู่ในความเงียบของค่ำคืน แคทยืนลังเลอยู่หลังพุ่มไม้ข้างรั้วบ้านของอีธาน หัวใจเต้นแรงแทบทะลุอก เธอรู้ว่าเขาน้อยใจ เรื่องที่เธอเรียกเขาว่า “คุณลุง” ต่อหน้าแม่ ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่การแสดง แต่สายตาที่เขามองเธอก่อนจะเดินหนีไป มันเจ็บลึกจนเธอทนไม่ไหว เท้าเปล่าของเธอเหยียบลงบนพื้นหญ้าเย็นเฉียบ กลิ่นดินหลังฝนตกอ่อน ๆ ลอยคลุ้งอยู่ในอากาศ แคทย่องผ่านสนามหญ้าข้างบ้านตรงไปยังประตูหลังบ้านซึ่งรู้ดีว่าไม่ได้ล็อก แสงไฟสลัวจากห้องรับแขกสาดออกมา เธอผลักประตูเบา ๆ แล้วเดินเข้าไปช้า ๆ ชายหนุ่มวัยกลางคนในชุดนอนสีเทาและยืนอยู่หน้ากระจก กำลังจิบวิสกี้ช้า ๆ เขาหันมาเมื่อได้ยินเสียง แล้วสบตากับเธอ แววตาของเขาแข็งกระด้างนิ่ง เหมือนน้ำแข็งที่เกาะตัวแน่น “มาอีกแล้วเหรอ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกมาเรียบ ๆ “เธอเรียกฉันว่าลุงต่อหน้าแม่ของเธอได้ แต่พอค่ำคืนเงียบเหงาก็แอบมาหาแบบนี้เหรอ” แคทเม้มริมฝีปากแน่น เดินเข้าไปใกล้โดยไม่พูดอะไร เธอรู้ว่าเขากำลังน้อยใจ “วันนี้แม่หนูมา” เธอเริ่มพูดเบา ๆ แต่เขาตัดบท “ฉันเห็นแล้ว” เขาหัวเราะในลำคอ ดวงตาหยั่งลึกสะท้อนความผิดหวัง “เห็นเธอทำเป็นไม่รู้จักฉัน เหมือนฉันไม่ใช่คนสำคัญอะไรเลย” “ไม่จริง...” แคทพูดเสียงสั่น ก่อนจะก้าวเข้าไปหาเขา “อีธาน... หนูไม่ได้คิดแบบนั้นเลย หนูแค่ยังไม่กล้าบอกแม่ หนูกลัวว่าแม่จะไม่เข้าใจ” “แล้วเธอคิดว่าฉันไม่เจ็บเหรอ” เขาตอบกลับเสียงต่ำ “หนูขอโทษ” แคทเงยหน้าขึ้น ดวงตาใสแจ๋วสั่นระริก เธอยกมือแตะแผ่นอกเขาเบา ๆ แต่อีธานจับข้อมือเธอไว้แน่น “อย่ามาเล่น ๆ กับความรู้สึกของฉัน” เขาพูดชิดใบหู เสียงแหบพร่าทำให้หัวใจเธอสั่นสะท้าน “หนูไม่ได้เล่น... หนูมาง้อคุณจริง ๆ อีธาน หนูชอบคุณ” แคทพูดเสียงเบา คำพูดนั้นเหมือนทำให้อีธานชะงักเล็กน้อย ดวงตาของเขาหยั่งลึกเข้าไปในใจเธออย่างตั้งใจ ก่อนที่มือใหญ่จะยื่นมาโอบเอวเธอแล้วดึงเข้าไปแนบอก “ถ้างั้นก็พิสูจน์สิ” เขาพูดด้วยเสียงที่เคร่งขรึม “พิสูจน์ว่าเธอไม่ได้ล้อเล่นกับความรู้สึกของฉัน” แคทไม่พูดอะไร เธอจ้องตาเขา ขยับเข้าไปใกล้อีกนิด ก่อนจะเขย่งจูบริมฝีปากเขาเบา ๆ ไม่ใช่จูบหวาน ไม่ใช่จูบที่เรียบร้อย แต่มันเต็มไปด้วยความรู้สึกอัดแน่นในใจที่เธอเก็บมาตลอดทั้งวัน ริมฝีปากของเขาตอบกลับอย่างรุนแรง ราวกับต้องการลงโทษเธอในที แต่แคทก็ไม่ถอย เธอรู้ดีว่าคืนนี้ เธอจะต้องปลอบใจเขาให้ได้ไม่ใช่แค่ด้วยคำพูดแต่ต้องใช้หัวใจ เขาตอบจูบของเธออย่างกระหาย เหมือนรอเวลานี้มานานเกินอดกลั้น มือหนาข้างหนึ่งกระชากต้นแขนเธอแน่น ก่อนจะพลิกตัวเธอชนกับผนังเย็นเฉียบ ร่างของเขาประชิดติดเธอจนแทบไม่มีช่องว่าง “อยากให้ฉันเชื่อใช่ไหมว่าเธอไม่ได้เห็นฉันเป็นลุงข้างบ้านที่เธอจะแวะมาหาเวลาเหงา...” เสียงของเขาแหบต่ำ ตาแวววาวเหมือนสัตว์นักล่าที่ขังเหยื่อไว้ในมุมมืด ยังไม่ทันที่เธอจะตอบอะไร เสื้อยืดของเธอก็ถูกดึงขึ้นพรวดเดียวจนหลุดพ้นตัว ปลายนิ้วหยาบลากไล้ผิวเธออย่างไม่ปรานี ริมฝีปากร้อนจัดขบเม้มตรงเนินอกอย่างแรงจนเธอสะดุ้ง แต่กลับไม่ได้หลบหนี... มีเพียงเสียงหอบเบา ๆ ที่หลุดจากริมฝีปาก เขาผละหน้าออกเพียงเสี้ยววินาที ดึงผ้าห่มจากโซฟาโยนลงพื้นแล้วผลักร่างเธอลงไปตามแรง น้ำหนักของเขาทาบทับลงมาทั้งตัว มือข้างหนึ่งจับข้อเท้าเธอแล้วลากให้เขาอยู่ตรงกลางระหว่างขา ขณะที่อีกมือฉีกเสื้อชั้นในเธอออกจนเสียงดัง “คืนนี้ไม่มีคำว่าเบา ไม่มีคำว่าอ้อนวอน แค่อยู่เฉย ๆ แล้วปล่อยให้ฉันลงโทษเธอให้สาสมกับที่ทำให้ฉันต้องเจ็บใจ แล้วจำเอาไว้ว่าอย่างเรียกผัวว่าลุง!” เสียงเขาเข้มจัด ราวกับกำลังสั่งให้เธอยอมจำนน และแคทก็ยอมจำนน... ทั้งกายและใจ เขาลากลิ้นไปตามแนวท้องน้อยอย่างเชื่องช้าแต่เต็มไปด้วยเจตนา ทุกสัมผัสรุนแรงและจงใจจะทำให้เธอจำ ไม่ใช่แค่คืนนี้ แต่ให้ฝังอยู่ในตัวเธอไปตลอด เมื่อเขารั้งสะโพกเธอขึ้นจนเธอเผลอคราง มือหนาก็จัดการรูดกางเกงนอนของตัวเองลงอย่างรวดเร็ว ไม่ให้เวลาหายใจแม้แต่วินาทีเดียว ไม่มีการเตรียมตัว ไม่มีการไต่ระดับ เขากระแทกเข้ามาเต็มแรงจนเธอร้องเสียงหลง เสียงเนื้อกระทบกันดังสลับกับเสียงหอบหายใจหนักหน่วงของเขา มือของอีธานตะปบสะโพกเธอไว้แน่น บังคับจังหวะทุกจังหวะด้วยแรงดิบ บางครั้งก็เอียงสะโพกเธอขึ้น บางครั้งก็ยกขาเธอพาดไหล่ บังคับให้ลึกยิ่งขึ้น... แรงยิ่งขึ้น “ยังกล้าเรียกฉันว่าลุงอยู่อีกมั้ย...” เขาคำรามใส่ใบหูเธอ ขณะซอยไม่ยั้ง แคทส่ายหน้าพลางเสียงครางปนกันไปหมด “ม…ไม่แล้ว... อีธาน ได้โปรด” แต่เขาไม่ฟัง เขายังกระแทกเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง ดวงตาคมกริบจับจ้องแค่เธอเพียงคนเดียว “ฉันจะทำให้เธอจำไว้ ว่าคนที่อยู่บนตัวเธอ ไม่ใช่ลุง แต่เป็นผัว” เขากระแทกแรงขึ้น เร็วขึ้น จนร่างของเธอสั่นสะท้าน น้ำเสียงครางที่หลุดออกมาไม่มีแม้แต่จะกั้นไว้ได้อีก เธอจิกเล็บลงกับแขนเขาแน่นอย่างบ้าคลั่ง ร่างกายแทบแหลกคามือเขา แล้วในจังหวะที่เขากดตัวเข้ามาลึกสุดแรง ร่างของเธอก็เกร็งกระตุกสุดปลายปล่อย เธอครางชื่อเขาเสียงหลง ขณะเขาก้มลงขบซอกคอเธออย่างหิวกระหาย ก่อนจะปล่อยความร้อนจัดเข้าไปในตัวเธอในที่สุด อีธานถอนหายใจหนัก ๆ ก่อนจะทิ้งตัวทาบลงมา ใช้มือเกลี่ยเส้นผมที่ติดเหงื่อออกจากใบหน้าเธอ “เธอจะไม่เรียกฉันว่าลุงอีก... เข้าใจไหม” แคทหอบหายใจ หน้าแดงจัดเหมือนจะร้องไห้ แต่ก็พยักหน้าเบา ๆ “อือ... อีธาน...” เขาก้มลงจูบริมฝีปากเธออีกครั้ง คราวนี้อ่อนโยนลงกว่าเดิมเล็กน้อย ก่อนกระซิบชิดหูว่า... “คืนนี้ยังไม่จบหรอก... ฉันยังลงโทษเธอไม่พอเลย” ร่างกายของแคทยังไม่ทันได้พักหายใจดี อีธานก็พลิกตัวขึ้นนั่ง ดวงตาคมนั้นจ้องมองเธอราวกับเสือที่ยังไม่อิ่มเหยื่อ มือหนาเอื้อมมาโอบเอวเธอดึงให้ขึ้นคร่อมบนตัวเขา “คิดว่าจะจบแค่นั้นเหรอ” เสียงของเขาต่ำลึก มีทั้งแววท้าทายและความกระหายปะปนกันอยู่ “อ อีธาน...” เธอเรียกชื่อเขาเสียงแผ่ว หอบหายใจถี่ ร่างทั้งร่างยังสั่นจากรอบก่อน แต่ไม่มีเวลาคัดค้าน เขายกสะโพกเธอขึ้นแล้วกดลงทันทีโดยไม่ให้ตั้งตัว ความลึกที่พุ่งเข้ามาในช็อตเดียวทำเอาเธอกัดปากแน่น ร้องครางออกมาโดยไม่ทันได้กั้น อีธานแสยะยิ้มก่อนจะจับสะโพกเธอแน่น บังคับให้ขยับตามจังหวะของเขา มืออีกข้างเอื้อมขึ้นบีบหน้าอกเธออย่างดุดัน สัมผัสทุกจุดรุนแรงราวเยี่ยงการลงโทษ เสียงเนื้อกระทบกันดังลั่นไปทั่วห้อง แคทหมดแรงจะขยับเองแล้ว แต่เขายังไม่หยุด เธอได้แต่เกาะไหล่เขาแน่น ปล่อยให้เขาควบคุมทุกอย่างอีกครั้ง ร่างทั้งร่างกระตุกถี่ขึ้นเรื่อย ๆ จนเธอทรุดตัวเข้ากับอกเขา เขาอุ้มเธอขึ้นทั้งอย่างนั้นแล้ววางลงกับเตียงอีกครั้ง ไม่พูดพร่ำเขาเริ่มรอบใหม่ทันที คราวนี้อีธานกดเธอกับเตียง ขาเธออ้าออกจนกว้างปลายเท้าชี้เพดาน มือทั้งสองข้างของเธอถูกตรึงไว้เหนือศีรษะ เสียงร้องของเธอเบาบางลงเรื่อย ๆ เหลือเพียงเสียงหอบถี่ ร่างเล็ก ๆ สั่นสะท้านใต้เขา มือบางกำผ้าปูแน่นจนข้อนิ้วซีด ขณะที่เขายังกระแทกไม่หยุดยั้ง และในจังหวะที่เธอปล่อยตัวหมดแรง หัวใจเต้นถี่เหมือนจะหลุดออกมา เขาก็กดตัวเข้ามาแน่นลึกสุด จิกสะโพกเธอไว้แน่นแล้วปลดปล่อยอารมณ์เฮือกสุดท้ายเข้าใส่เธออีกครั้ง “อ๊า…อีธาน” แคทร้องเสียงแผ่วก่อนสติจะดับวูบ หลับไปในสภาพหมดแรงทั้งตัว อีธานถอนหายใจแรง ๆ นอนลงข้างเธอ ดึงร่างเล็กมากอดไว้แน่น ผ้าห่มถูกดึงขึ้นคลุมพวกเขาทั้งคู่ ทิ้งไว้เพียงลมหายใจเนิบนาบและกลิ่นอายของค่ำคืนที่เร่าร้อน เช้าตรู่ แสงแดดอ่อนส่องผ่านผ้าม่านเบา ๆ แคทยังนอนนิ่งในอ้อมแขนเขา ขณะที่อีธานหลับสนิทเหมือนคนเพิ่งหมดแรงไปพร้อมกัน ทันใดนั้นประตูหน้าบ้านก็ดัง ก๊อกๆๆ “อีธาน! อยู่มั้ย” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งเรียกอย่างเร่งรีบ ก่อนจะลองหมุนลูกบิดเข้าไป แม่ของแคท หน้าตาเต็มไปด้วยความกังวล เธอไม่เห็นลูกสาวนอนอยู่ในห้อง ทั้งที่ล็อกบ้านอย่างดี แต่ก็ไม่มีร่องรอยแคทอยู่ในบ้าน เธอเอะใจจนเดินมาหาที่บ้านของอีธานในเช้าตรู่ เสียงฝีเท้าของเธอเดินขึ้นบันไดในบ้านหลังใหญ่ไปอย่างรวดเร็ว เปิดประตูห้องนอนเขาอย่างไม่ได้รับอนุญาต แล้วภาพที่เห็นก็ทำให้เธอแทบกรีดร้อง ทั้งอีธานและแคทนอนเปลือยเปล่ากอดกันอยู่บนเตียง ผ้าห่มร่นลงจนเห็นไหล่เปลือยของลูกสาวกับแผงอกของชายหนุ่มวัยเดียวกับเธอเอง แม่ของแคทยืนอึ้ง เหงื่อซึมเต็มหน้าผาก... ดวงตาเบิกกว้างกับสิ่งที่เห็น... เสียงหลุดจากริมฝีปากเบา ๆ อย่างตกตะลึง... “แคท!”ตอนที่ 5เชอรี่จ้องมองดวงตาที่เต็มไปด้วยความสับสนของจ่าสิงห์ รอยยิ้มเย้ายวนที่สุดผุดขึ้นบนใบหน้าเธอ เธอไม่ได้ต้องการคำตอบด้วยคำพูดอีกต่อไป“งั้นจ่าก็ช่วยให้เชอร์รี่สร่างเมาหน่อยนะคะ...” หญิงสาวพูดอย่างท้าทาย พร้อมทั้งผละออกจากเขาร่างบางหันหลังให้จ่าสิงห์ เปิดประตูรถสปอร์ตด้านหลังออกอย่างรวดเร็ว แล้วถอยหลังทิ้งตัวลงนั่งบนเบาะหนังเย็นเฉียบ เดรสสั้นรัดรูปถูกรั้งขึ้นมาอยู่เหนือสะโพกอยู่แล้ว จึงไม่เป็นอุปสรรคใด ๆวินาทีต่อมาเชอรี่ก็ยกเรียวขาขึ้นทั้งสองข้าง พาดไว้กับขอบเบาะรถ เธอแหวกขาออกกว้างอย่างจงใจ เขาเห็นรอยแยกสีชมพูแดงที่บวมช้ำจากบทรักเมื่อครู่ มันฉ่ำน้ำและเป็นประกายภายใต้แสงไฟสลัว ๆ รูรักของเธอที่เพิ่งรับน้ำรักของเขาเข้าไป กำลังตอดตุบ ๆ ราวกับกำลังเชิญชวนให้เขารีบเข้ามาเติมเต็มอีกครั้ง!จ่าสิงห์มองภาพนั้นด้วยสายตาหยาดเยิ้มจนควบคุมไม่ได้ เขาไม่เหลือความเป็นตำรวจผู้รักษากฎหมายอีกต่อไป มีเพียงสัญชาตญาณดิบที่ตอบรับคำเชื้อเชิญนั้นเท่านั้น ท่อนเนื้อของเขาที่เพิ่งอ่อนตัวลงเล็กน้อย ก็ผงกขึ้นแข็งเป็นลำอีกครั้งอย่างรวดเร็ว 'จะปล่อยให้เธอขับรถไปทั้งที่ยังร่านแบบนี้ไม่ได้!' เสียงกระซิบในหัวของ
ตอนที่ 4แววตาของจ่าสิงห์เต็มไปด้วยความละอาย แต่ความใคร่ก็ฉายชัดไม่แพ้กันเชอรี่ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนอย่างสง่างาม แม้หัวเข่าจะแดงก่ำเพราะการคุกเข่าบนพื้นถนนที่หยาบกร้าน เธอกวาดสายตาไปรอบ ๆ เพื่อดูว่ามีรถผ่านมาหรือไม่หญิงสาวไม่รีบร้อนจัดชุดให้เข้าที่ แต่กลับเอื้อมมือเข้าไปในเดรสสั้นรัดรูป ถอดกางเกงจีสตริงลูกไม้สีดำของเธอออกมาอย่างรวดเร็วก่อนที่จ่าสิงห์จะได้ขยับตัว เชอรี่ก็ยัดจีสตริงชิ้นจิ๋วที่ชุ่มชื้นไปด้วยน้ำรักของเธอ ใส่เข้าไปในกระเป๋าเสื้อเครื่องแบบของเขาทันที“ที่ระลึกค่ะ...”เธอพูดด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยชัยชนะ น้ำเสียงของเธอไม่ได้มีการขอร้องหรืออ้อนวอนอีกต่อไปแล้วเชอรี่หันกลับไปหาท่อนเนื้อใหญ่ที่ยังคงแข็งโด่อยู่ เธอใช้มือเล็ก ๆ ของเธอโอบกอบมันไว้ แล้วจูงจ่าสิงห์ให้เดินตามเธอมาอีกด้านหนึ่งของรถที่อยู่ริมถนน เป็นมุมที่มืดสลัวและลับตาคนยิ่งกว่าเดิมเมื่อมาถึงจุดที่ต้องการ เชอรี่ก็ปล่อยมือจากท่อนเนื้อที่อุ่นชื้นจ่าสิงห์ยืนนิ่งมองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังและตื่นเต้น เขาไม่ได้พยายามรูดซิปกางเกงขึ้นอีกแล้วเชอรี่ไม่พูดอะไร แต่เธอใช้มือดึงชุดเดรสรัดรูปของเธอขึ้นมาจนกองอยู่เหนือ
ตอนที่ 3ทันทีที่ท่อนเนื้อที่ร้อนผ่าวถูกเปิดเผยออกมาสู่สายตา เชอรี่ก็ตะลึงงันกับขนาดที่ใหญ่โตของมัน มันใหญ่กว่าที่เธอเคยจินตนาการไว้เสียอีกเธอได้แต่กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ความเมาและความปรารถนาเข้าผสมโรงกัน ความกลัวการถูกจับกุมหายไปสิ้นเชิง เหลือเพียงสัญชาตญาณความหิวกระหายเท่านั้นจ่าสิงห์ยืนตัวแข็งทื่อ ทำอะไรไม่ถูกเมื่อถูกจู่โจมด้วยความใกล้ชิดที่รวดเร็วขนาดนี้ เขารีบยันสองมือเข้ากับฝากระโปรงรถสปอร์ตของเธออย่างแรง เพื่อรักษาสมดุลไม่ให้ทรุดตัวลงไปเชอรี่ไม่ได้เริ่มจู่โจมด้วยปากทันที เธอใช้สองมือเล็ก ๆ ที่มีเล็บเคลือบสีแดงจัด กอบกุมท่อนเนื้อที่ร้อนระอุนั้นไว้แน่น ขนาดของมันใหญ่คับมือ เธอจนกองกำแทบไม่มิด เธอสูดหายใจเข้าลึกเต็มปอดรับรู้ถึงกลิ่นเฉพาะตัวของะชายชาตรีที่อบอวล กลิ่นนั้นกลับทำให้เธอรู้สึกกระสันและตื่นเต้นอย่างประหลาด“อ่าส์...!”จ่าสิงห์ครางเสียงต่ำ เมื่อมือเล็กของเธอเริ่มรูดรั้งลำเนื้อของเขาอย่างชำชองเชอรี่ฝ่ามทอนุ่มนิ่มถอกหนังหุ้มปลายลงช้า ๆ เผยให้เห็นส่วนหัวที่บวมแดงและชุ่มฉ่ำ เธอค่อย ๆ โน้มใบหน้าลงไป ใช้ปลายลิ้นเล็ก ๆ ของเธอเตะเบา ๆ ที่ส่วนปลายหัวถอกอย่างแผ่วเบาและหยอกเย้า
ตอนที่ 2เชอรี่ คุกเข่ากอดขาของจ่าสิงห์ไว้แน่น ใบหน้าแนบชิดติดอยู่กับบริเวณเป้ากางเกงที่ปูดนูน ความร้อนจากร่างกายของเธอส่งตรงไปสู่ความลับที่แข็งขืนภายใต้ผ้าเครื่องแบบ จ่าสิงห์เองก็รู้สึกเหมือนถูกไฟช็อต ความเย็นชาที่เคยมีมลายหายไปสิ้นเชิง แทนที่ด้วยความทรมานทางร่างกายที่ไม่อาจแสดงออกมาได้“จ่า! อย่าจับเชอรี่เลยนะคะ! ขอร้องล่ะค่ะ!”เชอรี่อ้อนวอนด้วยเสียงที่สั่นเครือ เธอกอดขาเขาไว้มั่นคง พร้อมกับส่ายหน้าเบา ๆ ไปมาบนความแข็งขืนนั้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่การกระทำนั้นกลับยิ่งกระตุ้นความรู้สึกของตำรวจหนุ่มให้พุ่งสูงขึ้นจ่าสิงห์พยายามที่จะแกะมือเธอออก แต่ร่างของเชอรี่กอดรัดกับขาเขาอย่างเหนียวแน่น เขาตัวงอพยายามหลบหลีกจากการสัมผัสที่จู่โจม เพื่อรักษาสมดุลและป้องกันไม่ให้ท่อนเนื้อของเขายื่นเข้าหาเธอมากเกินไป“ไม่... ไม่ได้ครับคุณเชอรี่ ปล่อยผม! ลุกขึ้น!” เสียงของจ่าสิงห์แหบพร่าและเครียดจัด แต่แรงของเขากลับไม่เด็ดขาดพอที่จะผลักร่างบางนี้ออกไปได้ “เท่าไหร่คะ! จ่าอยากได้เท่าไหร่ หนึ่งแสน หรือสองแสนคะ! เชอรี่ให้ได้หมด! แลกกับการไม่จับเชอร์รี่”เธอพูดรัวเร็ว รีบยื่นข้อเสนอทางการเงิน เธอรู้ดีว่าเงินค
ตอนที่ 1ถนนสายเปลี่ยวช่วงยามวิกาล เชอรี่ หญิงสาวไฮโซที่สุดแสนเซ็กซี่ดั่งเป็นอาวุธคู่กาย เธอกำลังขับรถยนต์สปอร์ตหรูส่ายไปมาบนถนนเส้นหนึ่ง หลังจากเลิกงานปาร์ตี้สุดเหวี่ยงในย่านหรูหราสู่ความเป็นจริงอันตรายบนท้องถนน อาการมึนเมาทำให้สติของเธอไม่คงที่ มือเล็ก ๆ ที่ประดับด้วยแหวนเพชรราคาแพงกำพวงมาลัยอย่างไม่มั่นคง ดวงตาคมสวยฉ่ำเยิ้มจากฤทธิ์แอลกอฮอล์พยายามโฟกัสเส้นทางชุดราตรีสั้นรัดรูปที่ประดับเลื่อมวาววับของเธอ แทบจะปริแตกเพราะหน้าอกอวบอิ่มขนาดใหญ่เท่าหัวเด็ก นั้นแทบจะล้นทะลักออกมาจากขอบชุด เผยให้เห็นร่องลึกที่เย้ายวนและน่าค้นหาจ่าสิงห์ นายตำรวจร่างใหญ่ กำลังขับมอเตอร์ไซค์ลาดตระเวนผ่านเส้นทางนี้ เครื่องแบบสีกากีที่รัดแน่นบนร่างกายกำยำของเขาบ่งบอกถึงความเป็นระเบียบและวินัย แต่เมื่อดวงตาเขาจับจ้องไปยังรถสปอร์ตคันที่ขับขี่อย่างอันตรายนั้น สัญชาตญาณของการปฏิบัติหน้าที่ก็เข้าครอบงำทันทีเขาเร่งเครื่องมอเตอร์ไซค์ขึ้นแซง พร้อมเปิดไฟไซเรนสีฟ้าสลับแดงฉายเข้าใส่กระจกหลังของรถคันหน้าอย่างจงใจ เสียงหวอดังลั่นยามค่ำคืนเป็นสัญญาณเตือนที่เด็ดขาดเชอรี่เบรกอย่างกะทันหัน รถสปอร์ตเบนเข้าข้างทางอย่างหวุดหวิ
ตอนที่ 7หนูขาด...ของลุงไม่ได้วันศุกร์มาถึงอย่างรวดเร็ว รถยนต์ของพ่อกับแม่ เลี้ยวเข้ามาจอดหน้าบ้านในเวลาเย็น เจนนี่ที่นั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่บนโซฟาตามคำสั่งของลุงอัศวิน ลุกขึ้นยืนต้อนรับด้วยท่าทางที่ เรียบร้อยอย่างผิดปกติอัศวินที่สวมเสื้อโปโลเรียบร้อยก็เดินออกมาพร้อมรอยยิ้มที่เปี่ยมด้วยความ ภูมิใจ ราวกับเพิ่งสำเร็จภารกิจอันยิ่งใหญ่"เป็นไงบ้าง ไอ้อัศวิน" พ่อของเธอเอ่ยทักทาย "ยายเจนมันดื้อมากไหมวะ""ไม่เลย ไอ้เพื่อน" อัศวินตอบด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล "ยายเจนน่ะ... เป็นเด็กดีมาก ช่วงนี้ตั้งใจอ่านหนังสือมากเลย"พ่อกับแม่มองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ"จริงเหรอ ลูกเจนแม่เห็นชุดหนูเรียบร้อยผิดหูผิดตา ปกติจะโชว์เอวลอย" แม่ของเธอสังเกตเห็น ชุดอยู่บ้านที่เปลี่ยนไปจากเดิมเจนนี่ ก้มหน้าลงเล็กน้อย แต่ริมฝีปากเม้มแน่น ร่างกายของเธอยังคงรู้สึก บวมตึง และ เสียวซ่านจากบทเสียว ล่าสุดเมื่อเช้าที่ ลุงอัศวินแอบสอนเธอในห้องน้ำ เธอเงยหน้าขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงที่นอบน้อมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"หนูรู้แล้วค่ะแม่ ว่าอะไรควรไม่ควร""โอ้โห! สุดยอดว่ะไอ้อัศวิน!" พ่อของเธอตบไหล่เพื่อนเสียงดังลั่น "แกนี่สุ