ในตอนเช้าวันจันทร์ที่แสนสดใส ฉันลุกขึ้นมาพร้อมกับใส่ชุดนักศึกษาเตรียมตัวออกไปฝึกงานที่บริษัทแล้วยิ้มมองตัวเองที่หน้ากระจกด้วยความพอใจ
‘นมเป็นนม ก้นเป็นก้น อกเอวเว้าโค้งสวยแบบนี้พี่พีทถึงได้หลงสินะ’ ฉันชื่นชมรูปร่างของตัวเองแล้วยิ้มให้กับความวาบหวามและหฤหรรษ์ของเมื่อคืนนี้ที่เล่นเอาเกือบตื่นไม่ไหว
“ซอมากินข้าว จะสายแล้ว” เสียงสวรรค์ดังขึ้นมาเพื่อเร่งให้ฉันรีบลงไปกินข้าว
“จ้าแม่” ฉันร้องรับแล้วรีบคว้ากระเป๋าเตรียมตัวออกไปจากห้อง พอเดินไปถึงห้องโถงก็พบว่าพี่พีทก็นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย
“ยืนอึ้งเลย รีบมานั่งสิ” แม่เรียกฉันด้วยรอยยิ้มที่ดูมีความสุขแปลกๆ
“นี่พี่พีทเขาย้ายมาอยู่ข้างบ้านเรา ไหว้พี่เขาสิ” แม่บอกฉันแล้วคะยั้นคะยอให้ไหว้พี่พีท คงไม่รู้ว่าเราสองคนไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว
“สวัสดีค่ะพี่พีท” ฉันนั่งลงแล้วยกมือไหว้เขา ก่อนจะกินอาหารตรงหน้าแล้วลอบยิ้มให้แก่กัน
“ขอบคุณน้าส้มมากๆ เลยนะครับที่เชิญผมมากินข้าวเช้าด้วย” เขาพูดอย่างสุภาพแล้วหันมาสบตาให้ฉันมองหน้าอกที่ดันกระดุมเสื้อจนปริออกมาด้วยสายตาไม่ชอบใจนัก
“พี่ว่าน้องซอไปเปลี่ยนเสื้อดีไหมครับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงความห่วงใยแต่จริงๆ แล้วฉันรู้ว่าเขาหวงฉันอยู่
“ตายแล้วยัยซอ จนพี่เขาได้ท้วง ไปเปลี่ยนเสื้อเลยนะ” แม่ที่พึ่งสังเกตก็ดุฉันยกใหญ่ พี่พีทนะพี่พีท
ฉันรีบไปเปลี่ยนชุดนักศึกษาที่ดูสุภาพขึ้น จากนั้นก็ออกไปนั่งกินข้าวต่อแล้วแอบมองค้อนเขาที่แสดงความเป็นเจ้าของและหวงฉันจนออกนอกหน้า
แต่ในใจก็ดีใจที่มีคนปรามฉันอยู่ ผู้ชายแบบนี้แหละที่เหมาะกับคนร่านๆ อย่างฉัน
“ขอบใจพีทมากนะลูกที่ช่วยปรามน้อง พูดตรงๆ แบบนี้น้องจะได้รู้อะไรควรไม่ควร”
“ผมไม่อยากให้คนมองน้องไม่ดีครับ” เขารับความดีความชอบจากแม่ฉันเต็มๆ
“รุมซอใหญ่เลยนะคะ ใครๆ เขาก็แต่งแบบนี้กันทั้งนั้น”
“แล้วต้องทำตามคนอื่นทำไมล่ะครับ”
“น้าถูกชะตากับพีทมากเลย เย็นมากินข้าวที่บ้านน้านะ” แม่ฉันถูกใจสิ่งนี้
“ได้เลยครับ ผมต้องขอฝากท้องด้วยนะครับ” เขารับปากแม่เข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยทีเดียว
ถ้าแม่รู้ว่าเมื่อคืนพี่พีทแทบจะกลืนกินฉันไปทั้งตัว แม่จะยังถูกชะตากับเขาอยู่ไหมนะ
---------------------
ในตอนเย็นพี่พีทซื้อของมาให้แม่ฉันเพื่อเป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร “ผมจะมาฝากท้องก็เกรงใจ งั้นผมขออาสาซื้อของมาให้น้าส้มทำกับข้าวนะครับ”
“โอ๊ย ทำไมน่ารักแบบนี้ น้าอยากได้มาเป็นลูกเขยจะติดอะไรไหมนะ” แม่พูดอย่างชอบใจ เข้าทางเราสองคนพอดี
“ไปทำความสะอาดบ้านพี่พีทนะ วันเว้นวัน เริ่มวันนี้เลย”
“ทำความสะอาดเหรอคะ”
“ผมเกรงใจจังเลยครับ” เขาแกล้งพูดแล้วหันมายิ้มให้ฉันอย่างมีความหมาย
“ไม่ได้สิ พีทอยู่คนเดียวแบบนี้ต้องมีคนช่วย ไปเลยนะซอตามพี่เขาไปทำความสะอาดบ้าน พอดีแม่ทำกับข้าวเสร็จก็คงเสร็จพอดี” แม่บอกเขาแล้วหันมาสั่งงานฉัน
“ก็ได้ค่ะ” ฉันแกล้งรับปากอย่างไม่ค่อยเต็มใจ แต่ในใจยิ้มร่าที่จะได้ไปหาเขาในวันนี้
พอเราไปถึงที่บ้านของเขาพี่พีทก็ไม่รอช้าดันฉันไปที่ห้องนอนของเขาทันทีด้วยความกระหายใคร่ในตัวฉัน
“ไม่อาบน้ำก่อนเหรอคะ”
“ชุดนักศึกษาแบบนี้พี่ว่าดีกว่า” เขาพูดจบก็รั้งท้ายทอยฉันเข้าไปรับจูบจากเขา มือปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาแล้วล้วงปลดสายบราให้เต้าทั้งสองเป็นอิสระแล้วบีบเคล้นเต็มมือ
ฉันจะช่วยเขาถอดแต่ว่าพี่พีทก็ห้ามเอาไว้ก่อน “อย่าถอดนะ พี่อยากได้คาชุด” เขากระซิบเสียงพร่าแล้วถอดเสื้อผ้าตัวเองออกไปในขณะที่ฉันไปรอที่เตียงแล้วถอดแพนตี้ออกไป อ้าขารอเขาอย่างยั่วยวน
“ลงทุนเข้าทางแม่เลยนะคะ”
“ก็ติดใจหอยลูกสาวเขาก็ต้องเอาใจหน่อย” คำพูดที่หยาบโลนนั้นกระตุ้นให้ฉันเกิดอารมณ์มาก
พี่พีทยืนเปลือยข้างเตียงแล้วกำรูดท่อนเนื้อเรียกฉันให้เข้าไปหา
ฉันคลานไปหาช้อนตามองเขา อ้าปากอมท่อนเนื้อหัวบานแล้วโกยคอเข้าหาเบาๆ ในขณะที่พี่พีทซอยสะโพกเข้ามาให้ลึกขึ้นแล้วใช้มือข้างหนึ่งขยุ้มผมฉันไว้ให้อมขึ้น
“มาทำหน้าที่วันเว้นวันน้อยไปนะ วันเสาร์อาทิตย์หยุดมาให้พี่เอาทั้งวันนะ อ๊าส์” เขาพูดเสียงแหบพร่าแล้วซอยถี่ๆ เข้ามาจนฉันต้องรีบโก่งคอรับดุ้นหัวบานของเขาเอาไว้อย่างเอาใจ
สักพักฉันก็ดันตัวถอยออกไปแล้วขยับไปนอนที่เดิมให้เขารีบเข้ามาหาเพื่อทำเวลาก่อนที่แม่จะสงสัย
พี่พีทยิ้มกริ่มขยับมาคุกเข่าต่อหน้า ถลกกระโปรงฉันขึ้นไปกองที่เอวแล้วกดดุ้นเข้ามาอย่างเต็มแรง เริ่มเคลื่อนสะโพกเข้ามาอย่างเป็นจังหวะ ครางสูดปากด้วยความเสียว
ปลายนิ้วเขาบดคลึงที่เม็ดเสียวเพิ่มความหฤหรรษ์ให้แก่บทรักของเรา มืออีกข้าขยำหน้าอกแล้วบีบเคล้นอย่างเต็มแรงมือ
“เสียวมากเลยพี่พีทขา กดนิ้วแรงๆ ซอยแรงๆ อ๊าส์”
“พี่ชอบเอาในชุดนี้มากเลย อื้ม จะแตกแล้ว” เขาเองก็ทนต่อความตื่นเต้นนี้ไม่ไหว ประกอบกับเร่งเวลาให้ตัวเองรีบถึงจุดหมายในเวลาที่จำกัดจึงใกล้จะเสร็จตามฉัน
สะโพกของเขาซอยเข้ามาถี่ๆ ปลายนิ้วก็เร่งบี้ที่เม็ดเสียวหนักมือขึ้น จนฉันทนไม่ไหว
“ซอจะแตกแล้ว อื้อ ซี๊ด”
ในจังหวะนั้นเองพี่พีทก็ถอนท่อนลำออกไปเหมือนจะแกล้งฉัน
ฉันดันเขานอนหงายลงไปแล้วเป็นฝ่ายขึ้นไปขย่มด้วยตนเอง บดร่อนส่ายสะโพกลงไปอย่างเน้นๆ กัดริมฝีปากล่างแล้วขยี้เม็ดเสียวลงไปหาท่อนเนื้อของเขา
พี่พีทยกคอขึ้นดูดที่จุกสีชมพูหวานของทั้งสองเต้า เอวกระเด้งขึ้นหาสะโพกฉันจนฉันต้องอยู่ในท่าคลานลอยสะโพกค้างนิ่งให้เขาเป็นฝ่ายกระเด้งขึ้นมาหา
ตับ ตับ ตับ! เขากระแทกขึ้นมาจากด้านล่าง เนื้อตีกันดังสยิวหูอย่างต่อเนื่อง
“ซี๊ด พี่จะแตกแล้ว อ๊าส์”
“ซอก็จะแตกแล้ว”
“แตกเลยซอ อ๊าส์ แตกแล้วอมให้พี่แตกตามเลย ซี๊ด” เขาพูดเสียงพร่า เด้งขึ้นมากระแทกอย่างดุดัน
“อ๊าส์ แตกแล้วค่ะ” ฉันร้องเสียงหลง โล่งเบาที่ท้องน้อยเมื่อถึงจุดหมาย แล้วรีบเลื่อนตัวลงไปอมดุ้นหัวบานที่พร้อมจะปล่อยน้ำออกมาทุกขณะ
ฉันรูดมือแล้วดูดหัวหยักนั้นไปด้วย จนในที่สุดพี่พีทก็ทนไม่ไหว ปลดปล่อยน้ำรักพวยพุ่งเข้าไปในปากของฉันให้ได้กลืนมันเข้าไป
“รีบทำรีบเสร็จแบบนี้ตื่นเต้นดีนะพี่ชอบ แต่เสียอย่างที่เวลาน้อยเกินไป”
“รอคืนวันเสาร์นะคะ แม่ซอไม่อยู่เราค่อยมาสนุกกันทั้งคืน” ฉันบอกเขาเสียงหวานแล้วหอมแก้มของหนุ่มข้างบ้านที่สถานะเรายังก้ำกึ่งอยู่
“พี่จะรอนะ” เขายิ้มพอใจ บีบก้อนฉันด้วยความมันเขี้ยวแล้วรีบใส่เสื้อผ้ากลับไปกินข้าวที่บ้านฉันตามที่นัดกับแม่ไว้
---------------------
เจ้าของร่างกำยำตอนนี้คลานอยู่กับพื้น รับบทหมีตัวใหญ่ที่กำลังโดนพรานสาวอย่างเพลินพราวกำลังไล่ล่าและควบคุมหลอดน้ำผึ้งที่เธอถืออยู่ใช้หลอกล่อเจ้าหมีตัวนั้นให้ทำตามคำสั่ง“หมีอยากกินน้ำผึ้งแล้ว” ธาดาผู้รับบทเจ้าหมีผู้อาภัพพูดแล้วเลียริมฝีปากไปรอบๆหญิงสาวเดินไปนั่งที่โซฟาตัวยาวในห้องโถงรับแขก อ้าขาออกกว้างแล้วเทน้ำผึ้งราดที่กลีบกุหลาบและเม็ดคริสตัลสีชมพูใสแววตาของเขามองลุกวาว ไม่อยากเชื่อว่าเธอจะร่วมสนุกไปกับเขาได้อย่างน่าตื่นเต้นแบบนี้“มาเลียน้ำผึ้งสิเจ้าหมี เลียเสร็จแล้วฉันจะพาเล่นอะไรสนุกๆ” เธอรับบทบาทเป็นพรานสาวที่เจ้าเล่ห์และยั่วยวน และให้เขารับบทผู้ถูกกระทำอย่างที่เขาชอบธาดาค่อยๆ คลานเข้าไปหาแล้วแยกเข่าทั้งสองออกให้กว้างขึ้น จากนั้นก็มุดหน้าเลียกินน้ำผึ้งจากกลีบดอกไม้สีหวานอย่างตะกละตะกลามเพลินพราวรู้สึกเพลิดเพลินไปกับบทบาทสมมติเหล่านี้ มันทำให้เธอตื่นเต้นและชักจะติดใจกับการแสดงในบทบาทต่างๆ มันทำให้ชีวิตเซ็กส์ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป“เลียหนักๆ สิเจ้าหมี เลียหนักๆ ซี้ด อ๊าส์ เลียให้ฉันน้ำแตกไปเลย” เธอพูดหยาบโลนเพื่อกระตุ้นอารมณ์ปรารถนาปลายลิ้นสากละเลงเลียลงไปที่จุดเสียวอย่างบ้าคลั่
สัญญาซื้อขายถูกเซ็นครบพร้อมกับวางมัดจำในจำนวนที่ตกลงกันเอาไว้ ทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่นไม่มีอะไรต้องพูดคุยกันให้เสียเวลา“ต้องขอบคุณคุณธาดามากนะคะ ที่ไว้ใจให้พราวได้ดูแลบ้านหลังนี้ให้”“ครับ ถ้าผมได้ลูกค้าที่ต้องการบ้านอีก ผมก็จะแนะนำโครงการนี้ครับ ในตอนนั้นก็คงจะต้องรบกวนคุณพราวอีกอย่างแน่นอน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ดูเหมือนคนเจ้าชู้ใส่เธอ ทุกอย่างเป็นไปตามปกติดูไม่มีอะไรผิดสังเกต“ขอบคุณมากจริงๆ นะครับพี่วางใจให้เราดูแล” วาทิตพูดย้ำอีกครั้ง เขารู้สึกโล่งใจมากที่อีกฝ่ายไม่ได้มีท่าทีสนใจเพลินพราว ไม่อย่างนั้นเขาคงทนไม่ได้แน่เพราะรู้กิตติศัพท์ของเขาดี“ยินดีมากครับรับรองว่ามีหลังต่อๆ ไปแน่” เขาพูดแล้วยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู บ่งบอกเป็นนัยว่ามีเวลาไม่มาก“เดี๋ยวพราวเดินไปส่งที่รถนะคะ” พนักงานขายสาวพูดด้วยความยินดี เธอจะได้ค่าคอมมิชชั่นจากงานนี้ใหม่น้อยก็ต้องดูแลเขาให้ดีหน่อย“พราวไม่ต่อออกไปก็ได้ครับ ไม่สบายอยู่ไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวผมออกไปส่งคุณธาดาเอง” วาทิตรับอาสาที่จะเดินออกไปส่งลูกค้ารายใหญ่คนนี้แทนแต่หญิงสาวก็ไม่ได้ยินยอม “ไม่เป็นไรค่ะ ตอนออกไปดูบ้านพราวก็ยังออกไปได้ พราวไหวค่ะ” เธ
วันต่อมาเพลินพราวมาทำงานตามปกติ และวันนี้เป็นวันที่ธาดานัดเอาไว้ว่าจะเข้ามาเดินดูบ้านพอเป็นพิธีและเซ็นสัญญาซื้อขายในวันนี้วาทิตเห็นว่าเธอมาถึงก็เดินเข้าไปทักทายด้วยความหวังดี “หายดีแล้วเหรอครับ”“ยังรู้สึกไม่สบายตัวนิดหน่อยค่ะ แต่วันนี้นัดคุณธาดาเอาไว้แล้วเลยมาเซ็นสัญญา พราวไม่อยากพลาดค่าคอมมิชชั่นน่ะค่ะ” หญิงสาวพูดด้วยรอยยิ้มที่สุภาพและเป็นมิตรเธอต้องออกตัวไว้ก่อน เพราะคืนนี้แน่นอนว่าธาดาจะต้องจัดหนักส่งท้ายก่อนจะยุติความสัมพันธ์ชั่วคราวในครั้งนี้ และพรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์จึงต้องมีข้ออ้างในการลาที่สมเหตุสมผล“งั้นวันนี้ถ้าคุณธาดาเขาเซ็นสัญญาซื้อขายเสร็จ พราวลาพักได้เลยนะ พรุ่งนี้ไม่ไหวก็ไม่ต้องมา”“ขอบคุณค่ะผู้จัดการ” เธอรับคำพูดนั้นแล้วแอบถอนหายใจเบาๆ อย่างโล่งอกเมื่อวานนี้เขาไปรับประทานอาหารค่ำตามคำเชิญของมารดา ด้วยความที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีเธอต้องต้อนรับเขาตามมารยาท และใช้ข้ออ้างในการป่วยขอตัวกลับเข้าไปพักผ่อนไม่ได้อยู่คุยกับเขาต่อ“ตอนเที่ยงพี่จะซื้ออาหารมาให้ พราวไม่ต้องออกไปนะ ออกจากห้องแอร์ไปเจออากาศข้างนอกร้อนๆ เดี๋ยวจะยิ่งแย่”“ค่ะ ผู้จัดการ” เธอยิ้มให้เขาบางๆ ที่ม
ในตอนเช้าสภาพของเพลินพราวดูอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัดเจน เธอนั่งกินอาหารเช้าฝีมือมารดาอย่างเงียบๆ เหมือนคนกำลังใช้ความคิด“มีอะไรเล่าให้แม่ฟังไหม” นภาถามด้วยน้ำเสียงที่ห่วงใย จะดีเลวอย่างไรคนตรงหน้าก็คือลูกที่คลอดมาเองกับมือ“เปล่าหรอกค่ะ แค่คิดว่าจะลางานดีไหม” เธอตอบตามตรง เพราะว่าสภาพที่ถูกเขาจัดหนักจัดเต็มมันทำให้เธอเดินแปลกๆ เพราะแสบขัดที่น้องสาว“แม่ว่าลาก็ดี ยังไม่ได้แต่งตัวนี่ พราวคงคิดจะลาอยู่แล้วใช่ไหม” นภาถามอย่างรู้ทัน เพลินพราวจึงพยักหน้ายอมรับออกมาตามตรง เพราะเธอเทใจไปทางอยากจะลามากกว่า “ค่ะ ก็คิดว่าจะลา แต่ปัญหามันอยู่ที่นี่ล่ะคะ” เธอถอนหายใจด้วยความหนักอก หากผู้จัดการหนุ่มรู้เข้า เขาจะต้องหาเรื่องมาเยี่ยมเยียนเธอถึงบ้านแน่“ทำงานหนักมาทั้งปีแล้ว ลาหยุดไม่กี่วันคงไม่เป็นไรหรอก”“ก็คงอย่างนั้นค่ะ ครั้งนี้พราวเพลียมากเลยจริงๆ ค่ะ” เธอพูดเสียงอ่อย รู้ว่ามารดาต้องเดาออกอยู่แล้วว่าเธอไปทำอะไรเมื่อคืนนี้ เพียงแต่เธอไม่พูดออกมาเท่านั้นและแล้วก็เป็นไปตามคาด เมื่อเธอโทรศัพท์ไปลางานในช่วงเช้า พอถึงเวลาพักกลางวันสิทธาก็มาเยี่ยมเธอถึงบ้าน และเป็นการมาเยี่ยมแบบเป็นส่วนตัวไม่ได้ชวนเพื
ธาดายื่นกุญแจมือให้เธอจับเขาล็อกเอาไว้กับหัวเตียงทั้งสองข้าง จากนั้นก็รับบทเป็นทาสหนุ่มที่ร้องขอชีวิตจากเธอหญิงสาวกำลังขย่มเขาอย่างเมามันแล้วทิ้งตัวลงไปบดขยี้เต็มแรงสะโพก“นายหญิง อ๊าส์ อย่าทำผม ซี้ด ผมยอมแล้ว” เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะมีรสนิยมแปลกๆ รับบททาสหนุ่มที่อ่อนแอให้เธอจัดการเขา“หุบปาก นี่แน่ะ...อ๊าส์” เธอด่าเขาแล้วเร่งขย่มลงไปอย่างเต็มแรงใบหน้าหวานโน้มหน้าลงไปแล้วดูดเม้มที่เนินอกกำยำจนเกิดจ้ำสีแดงช้ำ ดูดขบไปตามเนื้อที่อยู่ในร่มผาตามที่เขาบอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้เขายิ่งร้องครางอย่างสะใจแล้วรับบทผู้ถูกกระทำได้อย่างสมบทบาท“นายหญิง อย่าทำรอย อ๊าส์ อย่าทำรอย ซี้ด...”ยิ่งเขาร้องครางเท่าไรเธอก็ยิ่งมีอารมณ์ร่วมกับเขาเท่านั้น“ไม่ไหวแล้ว ซี้ด” หญิงสาวทนต่อการกระตุ้นที่แปลกใหม่ไม่ไหว เอถึงจุดหมายไปแล้วขมิบรัดท่อนลำนั้นจนธาดาก็ปลดปล่อยออกมาแทบจะพร้อมกันเธอมองเขาที่ยิ้มอย่างพออกพอใจ จากนั้นก็ไขกุญแจมือให้พร้อมกับออกคำสั่ง“ฉันเหนื่อยแล้ว แกต้องทำให้ฉันมีความสุข” เธอรับบทบาทนายหญิงได้อย่างไม่มีที่ติ เป็นครั้งแรกที่ทำแบบนี้มันตื่นเต้นและเร้าใจดีเป็นอย่างมาก“แต่ว่าผมไม่อยากทำ” เขา
ธาดามีฉลาดพอที่จะยังไม่ตกลงซื้อบ้านในตอนนี้ เพราะตราบใดที่เขายังไม่ได้เชยชมเพลินพราวสมใจ ก็ยังไม่วางใจอะไรทั้งสิ้น“คุณธาดามีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ ติดขัดตรงไหนบอกผมได้นะครับ” ผู้จัดการโครงการถามอย่างร้อนใจ กลัวว่าจะเสียลูกค้ารายใหญ่ไปเพราะปกติหากเขาสนใจก็จะซื้อโดยไม่ต่อรอง“ผมลังเลใจระหว่างหลังแรกกับหลังที่สอง ขอกลับไปปรึกษาที่บ้านก่อนดีกว่าครับ” เขาบอกเหตุผลที่ทำให้ผู้จัดการหนุ่มโล่งใจธาดาเป็นนายหน้าซื้อขายบ้าน เขาหาบ้านที่เหมาะสมให้แก่ลูกค้าต่างชาติที่มีภรรยาคนไทยและต้องการที่พักภายในประเทศเป็นที่รู้กันดีว่าธาดามีหัวด้านธุรกิจอสังหาฯ และร่ำรวยขึ้นมาได้ด้วยตนเอง การตัดสินใจซื้อขายก็มีความเด็ดขาด เขาไปดูบ้านโครงการไหนอย่างน้อยก็มีสองถึงสามหลังที่เขาจะซื้อเพื่อนำไปปรับปรุงและขายต่อเอากำไรหลักล้าน“ผมคิดว่าคุณธาดาไม่พอใจพนักงานขายของเราเสียอีก” ผู้จัดการหนุ่มยังรู้มาอีกด้วยว่าเขาเป็นเสือผู้หญิง ชอบฉวยโอกาสสาวสวยรอบตัวอยู่เสมอ จึงคิดว่าถูกเพลินพราวปฏิเสธจึงยังไม่เซ็นสัญญา“ไม่เลยครับ คุณพราวเธอดูแลผมดีมาก อธิบายรายละเอียดได้ดีจนผมลังเลเลยว่าจะเลือกซื้อหลังไหน” เขาพูดชื่นชมเธอแล้วมองด้